คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #457 : Sound Horizon: Asa to Yoru no Roman (ตำนานแห่งทิวาและราตรี)
Sound Horizon: Asa to Yoru no Roman (Monogatari) <The Story of Morning and Evening>
Album / Collection: Roman
Track # 1
生まれてくる朝と 死んで行く夜の物語...
嗚呼...僕達のこの寂しさは よく似た色をした《宝石》
生まれて来る意味 死んで行く意味 君が生きている現在
11文字の《伝言》 幻想物語 『第五の地平線』
泣きながら僕達は来る 同じ苦しみを抱きしめて
笑いながら僕達は行く 遥か地平線の向こうへ
廻り合う君の唇に嗚呼
僕の詩を灯そう...
いつの日か繋がる《物語》――
泣きながら僕達は来る 同じ哀しみを抱きしめて
笑いながら僕達は行く 遥か地平線の向こうへ
廻り逢う君の唇に嗚呼
僕の詩を灯そう...
僕達が繋がる《物語》――
生まれてくる朝と 死んで行く夜の物語...
嗚呼...僕達のこの刹那さは 良く似た色をした《美花》
太陽の風車 月の揺り籠 彷徨える《焔》の物語
壊れた人形 骸の男 時を騙る《幻想》の物語
右腕には菫の姫君...
そして...
左腕には紫陽花の姫君...
嗚呼...僕の代わりに廻っておくれ...其の世界には――
僕が生まれてくるに至る物語はあるのだろうか?
我等は彷徨える 追憶に揺れる《風車》
巡り往く何の地平にも 詩を灯すでしょう
此れは――
生まれて来る前に 死んで行く僕の物語...
嗚呼...僕達はもう逢えなくても 現在を生きて往く《憧憬》
――詠い続けよう → 君が迷わぬように
************************************************
umarete kuru asa to shinde yuku yoru no Roman (Laurant)
aa...bokutachi no kono sabishisa wa yoku nita iro shi ta pierre
umarete kuru imi shinde yuku imi kimi ga ikite iru ima
juuichi-moji no message gensou Roman daigo no chihensen
("aa...soko ni Roman wa aru no darou ka?")
nakinagara bokutachi wa kuru onaji kurushimi o dakishimete
warainagara bokutachi wa yuku haruka chiheisen no mukou e
meguriau kimi no kuchibiru ni aa...boku no uta o tomosou...
(la vie) itsu no hi ka tsunagaru Roman
nakinagara bokutachi wa kuru onaji kanashimi o dakishimete
warainagara bokutachi wa yuku haruka chiheisen no mukou e
meguriau kimi no kuchibiru ni aa...boku no uta o tomosou...
(la vie) bokutachi ga tsunagaru Roman
umarete kuru asa to shinde yuku yoru no Roman (Laurant)
aa...bokutachi no kono setsunasa wa yoku nita iro shi ta fleur
taiyou no fuusha tsuki no yurikago samayoeru hikari no Roman
kowareta ningyou mukuro no otoko toki o kataru yami no Roman
C'est Mademoiselle Violette qui est dans le bras droit...
et
C'est Mademoiselle Hortensia qui est dans le bras gauche...
aa...boku no kawari ni megutte o-kure...sono sekai ni wa
boku ga umarete kuru ni itaru Roman wa aru no darou ka?
("saa...itte oide...")
("Oui, monsieur...")
(megurikuru sei no zawameki...taiyou no fuusha...)
(meguriyuku shi no yasuragi...tsuki no yurikago...)
warera wa samayoeru tsuioku ni yureru moulin a vent
meguriyuku nan no chihei ni mo uta o tomosu deshou...
kore wa--
umarete kuru mae ni shinde yuku boku no Roman (Laurant)
aa...bokutachi wa mou aenakute mo ima o ikite yuku Roman
utaitsuzukeyou/sagashi tsuzukeyou -> kimi ga mayowanu you ni...
(asa to yoru no hazama honoo wa yurameki
houseki o tsukamou to ude o nobashi
fuusha ga mawareba hoshikuzu wa kirameite
tenshi ga warai shi utsukushiki gensou no
budoushu no yume ni kenja mo kihi suru
dengon no shin'i o chiheisen wa shiru)
(migite ni shi o...hidarite ni sei o...
katamukazaru...fuyu no tenbin...)
("Hiver-sama...")
("doke...")
("megurikuru sei no zawameki...taiyou ni fuusha...")
("asa to yoru no hazama...")
("souretsu ni sanka suru mono wa minna...")
("...kirisaki...mata yatsu ga arawareru...")
("oi, matte kure yo!")
("meguriyuku shi no yasuragi...tsuki no yurikago...")
("Bonsoir...")
("ame ni nurenagara ayumitsuzukeru yori...")
("hema sun ja nee zo, Laurencin...")
("watashi wa sekai de ichiban utsukushii hikari o mita...")
("Au revoir...")
("higaisha wa dare ka...")
("sagashi ta zo...Christophe...")
("shayou no kage ni yaiba wa akaguroku kirameite...")
("zankoku na unmei nara...")
("Loraine de...")
("koroshi te kureru...")
("nee...Savant?")
("sayounara...")
("...Roman")
("arigatou...")
("soko ni Roman wa aru no kashira?")
("soko ni Roman wa aru no darou ka?")
("uso o tsuite iru no wa dare ka?")
************************************************
ตำนานแห่งทิวาซึ่งถือกำเนิดมาและราตรีที่สิ้นชีวาไป...
อา...ความอ้างว้างนี้ของพวกเรานั้นช่างเป็น “อัญมณี” ที่มีสีสันอันคล้ายคลึงกันเหลือเกิน
ความหมายของการเกิดมา ความหมายของการสิ้นชีวาไป และปัจจุบันที่เธอดำรงอยู่
“ข้อความ” 11ตัวอักษร ตำนานมายา และ[เส้นขอบฟ้าลำดับที่5]
(“อา...ณ ที่แห่งนั้นจะมีตำนานอยู่ไหมนะ?”)
พวกเรามาพลางร้องไห้ไปพลาง โอบกอดความทุกข์เช่นเดียวกันเอาไว้
พวกเราไปพลางยิ้มไปพลาง สู่อีกฟากฝั่งของเส้นขอบฟ้าแสนไกล
จุดเสียงบทเพลงของฉัน อา...ลงบนริมฝีปากของเธอที่หมุนเวียนมาพบกัน...
เป็น “ตำนาน” ที่จะร้อยโยงเข้าหากันในสักวัน---
พวกเรามาพลางร้องไห้ไปพลาง โอบกอดความเศร้าเช่นเดียวกันเอาไว้
พวกเราไปพลางยิ้มไปพลาง สู่อีกฟากฝั่งของเส้นขอบฟ้าแสนไกล
จุดเสียงบทเพลงของฉัน อา...ลงบนริมฝีปากของเธอที่หมุนเวียนมาพบกัน...
เป็น “ตำนาน” ที่เราจะได้ร้อยโยงเข้าหากัน---
ตำนานแห่งทิวาซึ่งถือกำเนิดมาและราตรีที่สิ้นชีวาไป...
อา...ช่วงเวลาชั่วเสี้ยวพริบตานี้ของพวกเรานั้นเป็นดั่ง “ดอกไม้งาม” ที่มีสีสันอันคล้ายคลึงกันเหลือเกิน
กังหันลมแห่งดวงตะวัน เปลกล่อมแห่งจันทรา คือตำนานแห่ง “เปลวไฟ” ที่เล่าขานไปทั่วถิ่น
ตุ๊กตาที่พังภินท์ ชายที่เหมือนดั่งซากร่าง คือตำนาน “มายา” ที่ลวงหลอกกาลเวลา
เจ้าหญิงดอกไวโอเล็ตนั้นอยู่ในมือขวา...
และ...
เจ้าหญิงดอกไฮด์เดรนเจียนั้นอยู่ในมือซ้าย...
อา...ช่วยท่องไปให้ทั่วแทนฉันทีเถอะ...ภายในโลกแห่งนั้น---
จะมีตำนานใดไหมนะที่จะกล่าวถึงเรื่องที่ฉันถือกำเนิดมา?
(“เอาล่ะ...จงไปเถิด...”)
(“ค่ะ นายท่าน...”)
(ความครึกครื้นแห่งชีวิตที่หมุนเวียนมาพบเจอ...กังหันลมแห่งดวงตะวัน...)
(ความสงบแห่งมรณาที่หมุนเวียนมาพบพาน...เปลกล่อมแห่งจันทรา...)
พวกเรานั้นสามารถท่องไปทั่วถิ่น ผ่าน “กังหันลม” ที่โอนไหวไปกับความทรงจำ
จะจุดเสียงบทเพลงให้ทั่วทุกเส้นขอบฟ้าที่จะเดินทางไปถึง......
นั่นเป็น
ตำนานของฉันที่สิ้นชีวาไปก่อนจะได้ถือกำเนิดมา
อา...พวกฉันนั้นแม้ไม่อาจพบเจอกันได้แต่ก็เป็นตำนานที่ดำรงอยู่ในบัดนี้
ขับขานเรื่อยไป (เสาะหาเรื่อยไป) เหมือนดั่งว่าเธอไม่มีวันจะสับสน...
(“เปลวเพลิง” ระริกไหวอยู่ระหว่างทิวาและราตรี
หวังคว้าจับ “อัญมณี” จึงยื่น “แขน” ออกไขว่คว้า
หาก “กังหันลม” หมุนวนไป “สะเก็ดดารา” ก็ส่องแสงอยู่วิบวับ
“เทพธิดา” ได้พรากจาก มายาอัน “งดงาม”
แม้นักปราชญ์ก็ยังต้องหลบหนีกับความฝันแห่ง “เหล้าองุ่น”
เส้นขอบฟ้านั้นรู้ดีถึงความหมายที่แท้จริงของ “ข้อความ”)
(ในมือขวานั้นคือความตาย...ในมือซ้ายนั้นคือชีวิต...
ตราชั่งแห่งสวรรค์...ได้เอียงเอน...)
(“ท่านHiver...”)
(“หลีกไปซะ...”)
(“ความครึกครื้นแห่งชีวิตที่หมุนเวียนมาพบเจอ...กังหันลมแห่งดวงตะวัน...”)
(“ระหว่างทิวาและราตรี...”)
(“เหล่าผู้คนที่เดินไปตามแถวงานพิธีศพ ทุกคนต่างก็...”)
(“....ทุกครั้งที่ฟาดฟันลง...หมอนั่นก็ยังคงปรากฏตัวขึ้นอีก...”)
(“เฮ้ รอด้วย!”)
(“ความสงบแห่งมรณาที่หมุนเวียนมาพบพาน...เปลกล่อมแห่งจันทรา...”)
(“สายัณห์สวัสดิ์...”)
(“มีแต่จะก้าวเดินไปเรื่อยๆทั้งที่ร่างเปียกปอนด้วยหยาดน้ำฝน...”)
(“อย่ามางี่เง่าน่า ลอเรนแซงก์...”)
(“ฉันได้เห็นแล้วล่ะ แสงที่งดงามที่สุดในโลกนี้...”)
(“แล้วพบกันใหม่...”)
(“ผู้เสียหายคือใครกัน...”)
(“หาตั้งนานแน่ะ...คริส...”)
(“ดาบส่องประกายสีแดงคล้ำยามต้องแสงอาทิตย์อัสดง...”)
(“เพราะโชคชะตานั้นโหดร้าย...”)
(“ที่ลอร์แรน...”)
(“ฆ่าที...”)
(“นี่...ซาวองส์?”)
(“ลาก่อน...”)
(“...ตำนาน”)
(“ขอบคุณ...”)
(“ณ ที่แห่งนั้นก็คงจะมีตำนานอยู่สินะ?”)
(“ณ ที่แห่งนั้นจะมีตำนานอยู่ไหมนะ?”)
(“ใครกันที่โกหกอยู่?”)
************************************************
Download:
http://www.mediafire.com/?meno4s1po7ab77c
ความคิดเห็น