ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เนื้อเพลง Anime

    ลำดับตอนที่ #448 : Zoku Natsume Yuujinchou: Ano Hi Time Machine (ไทม์แมชชีนสู่วันนั้น)

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 55


    Zoku Natsume Yuujinchou: Ano Hi Time Machine <Time Machine to That Day>

     

    Description: Opening
    Artist: Long Shot Party

     

     

    走り出せ前向いて
    かじかむ手で空に描いた
    君の未来に祝福の灯りともす
    切り開け その手で
    聞こえてるかい? この声が
    素直に笑える事 抱きしめ
    今 走り出せ

    少しだけ大人の色に染まる指先
    照れくさそうに そっと隠して
    頬杖ついた君 見つめてる視線の先に
    小さな蕾が ゆらゆら

    ねぇ
    僕なんて ずっと「迷い」ばかりで
    あの日贈った言葉 今さら思い出す

    走り出せ前向いて
    かじかむ手で空に描いた
    君の未来に祝福の灯りともす
    切り開け その手で
    聞こえてるかい? この声が
    素直に笑える事 抱きしめ
    今 走り出せ

    「昔は良かった」なんて 言いたくはないんだけれど
    取り返したい想いもあるんだ
    僕の背中を押す みなぎる視線の
    芽吹いた蕾に重ねて

    時を越えて またいつか
    「あの日」を誇れるように
    左回りの時計も一つ持って行くよ
    切り開け その手で
    笑えてるかい? 自分らしく
    譲れない想い 握りしめて
    今 走り出せ

    ねぇ
    僕なんて今も「迷い」ばかりで
    あの日贈った言葉 今さら思い出す

    「君色に未来染めて

    走り出せ前向いて
    かじかむ手で空に描いた
    君の未来に祝福の灯りともす
    切り開け その手で
    聞こえてるかい? この声が
    素直に笑える事 抱きしめ
    今 走り出せ

    時を越えて またいつか
    「あの日」を誇れるように
    左回りの時計も一つ持って行くよ
    切り開け その手で
    笑えてるかい? 自分らしく
    譲れない想い 握りしめて
    今 走り出

     

    ************************************************

     

    hashiridase mae muite
    kajikamu te de sora ni kaita
    kimi no mirai ni shukufuku no akari tomosu
    kirihirake sono te de
    kikoeteru kai kono koe ga
    sunao ni waraeru koto dakishime
    ima hashiridase

    sukoshi dake otona no iro ni somaru yubisaki
    terakusa sou ni sotto kakushi te
    hoozuetsuita kimi mitsumeteru shisen no saki ni
    chiisana tsubomi ga yurayura

    nee
    boku nante zutto mayoi bakari de
    ano hi okutta kotoba imasara omoidasu

    hashiridase mae muite
    kajikamu te de sora ni kaita
    kimi no mirai ni shukufuku no akari tomosu
    kirihirake sono te de
    kikoeteru kai kono koe ga
    sunao ni waraeru koto dakishime
    ima hashiridase

    mukashi wa yokatta nante iitaku wa nai nda keredo
    torikaeshi tai omoi mo aru nda
    boku no senaka wo osu minagiru shisen no boku wo
    mebuita tsubomi ni kasanete

    toki wo koete mata itsuka
    ano hi wo hokoreru you ni
    hidari mawari no tokei mo hitotsu motte iku yo
    kirihirake sono te de
    waraeteru kai jibun rashiku
    yuzurenai omoi nigirishimete
    ima hashiridase

    nee
    boku nante ima mo mayoi bakari de
    ano hi okutta kotoba imasara omoidasu

    kimi iro ni mirai somete

    hashiridase mae muite
    kajikamu te de sora ni kaita
    kimi no mirai ni shukufuku no akari tomosu
    kirihirake sono te de
    kikoeteru kai kono koe ga
    sunao ni waraeru koto dakishime
    ima hashiridase

    toki wo koete mata itsuka
    ano hi wo hokoreru you ni
    hidari mawari no tokei mo hitotsu motte iku yo
    kirihirake sono te de
    waraeteru kai jibun rashiku
    yuzurenai omoi nigirishimete
    ima hashiridase

     

    ************************************************

     

    จงออกวิ่งไปสิ มุ่งไปเบื้องหน้า

    จุดดวงไฟอำนวยพรให้กับอนาคตของเธอ

    ที่วาดลงบนฟากฟ้านั้นด้วยมือที่หนาวสั่นนั้น

    จงถางเส้นทางออกสิ ด้วยมือคู่นั้น

    ได้ยินอยู่ไหม? ถึงเสียงนี้

    จงโอบกอดเรื่องที่ทำให้สามารถหัวเราะได้อย่างซื่อตรงไว้

    ตอนนี้  จงออกวิ่งไปสิ

     

    เธอที่ซ่อนปลายนิ้วที่ย้อมด้วยสีสันของผู้ใหญ่นิดๆไว้

    อย่างเงียบๆด้วยความเขินอายที่มี

    ปลายสุดสายตาที่เธอผู้นั่งเท้าคางจ้องมองอยู่

    คือดอกตูมเล็กๆที่สั่นไหวโอนเอน

     

    นี่

    ผมน่ะเอาแต่ลังเลมาตลอด

    มาป่านนี้ถึงเพิ่งจดจำได้ถึงคำพูดที่ถูกส่งมาในวันนั้น

     

    จงออกวิ่งไปสิ มุ่งไปเบื้องหน้า

    จุดดวงไฟอำนวยพรให้กับอนาคตของเธอ

    ที่วาดลงบนฟากฟ้านั้นด้วยมือที่หนาวสั่นนั้น

    จงถางเส้นทางออกสิ ด้วยมือคู่นั้น

    ได้ยินอยู่ไหม? ถึงเสียงนี้

    จงโอบกอดเรื่องที่ทำให้สามารถหัวเราะได้อย่างซื่อตรงไว้

    ตอนนี้  จงออกวิ่งไปสิ

     

    “สมัยก่อนนี่ดีจัง” อะไรนั่น ไม่ได้อยากพูดสักหน่อย

    แต่ว่า

    ผมเองก็มี“ความรู้สึก”ที่อยากเก็บคืนมาอยู่เหมือนกัน

    “ตัวผม”ที่มีแววตาที่เปี่ยมล้นซึ่งคอยผลักดันหลังผมให้ก้าวไปนั้น

    ดูซ้อนทับกับดอกตูมดอกนั้นที่กำลังแตกหน่อเบ่งบาน

     

    ข้ามกาลเวลาไป เพื่อให้สักวันหนึ่ง

    สามารถภาคภูมิใจใน “วันนั้น” ได้อีกครั้ง

    ฉันเองก็จะนำนาฬิกาที่เข็มวิ่งทวนทิศทางไปด้วย

    จงถางเส้นทางออกสิ ด้วยมือคู่นั้น

    ตอนนี้เธอหัวเราะอย่างที่สมกับเป็นเธอได้อยู่ไหม?

    ยึดเหนี่ยวความรู้สึกที่ไม่คลอนแคลนเอาไว้

    ตอนนี้  จงออกวิ่งไปสิ

     

    นี่

    ผมน่ะเอาแต่ลังเลมาตลอด

    มาป่านนี้ถึงเพิ่งจดจำได้ถึงคำพูดที่ถูกส่งมาในวันนั้น

     

    “ช่วยย้อมสีสันของเธอให้กับอนาคตที...”

     

    จงออกวิ่งไปสิ มุ่งไปเบื้องหน้า

    จุดดวงไฟอำนวยพรให้กับอนาคตของเธอ

    ที่วาดลงบนฟากฟ้านั้นด้วยมือที่หนาวสั่นนั้น

    จงถางเส้นทางออกสิ ด้วยมือคู่นั้น

    ได้ยินอยู่ไหม? ถึงเสียงนี้

    จงโอบกอดเรื่องที่ทำให้สามารถหัวเราะได้อย่างซื่อตรงไว้

    ตอนนี้  จงออกวิ่งไปสิ

     

    ข้ามกาลเวลาไป เพื่อให้สักวันหนึ่ง

    สามารถภาคภูมิใจใน “วันนั้น” ได้อีกครั้ง

    ฉันเองก็จะนำนาฬิกาที่เข็มวิ่งทวนทิศทางไปด้วย

    จงถางเส้นทางออกสิ ด้วยมือคู่นั้น

    ตอนนี้เธอหัวเราะอย่างที่สมกับเป็นเธอได้อยู่ไหม?

    ยึดเหนี่ยวความรู้สึกที่ไม่คลอนแคลนเอาไว้

    ตอนนี้  จงออกวิ่งไปสิ

     

    ************************************************

    Download:

    http://www.mediafire.com/?fixtwvdqcru5unu

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×