คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Bad Thing No.3: สัญญาจ้างแรงงาน (100%)
"ฉันไม่ไปหาหมอเด็กนะทงเฮอ่าา!"
"นาาา...นิดหน่อยเอง บอกว่ามาขอคำปรึกษาให้ลูกสาวก็ได้นี่"
"ไม่เอาอ่าาา!!"
ยัยกระต่ายอ่วนร้องงอแงออกมาเสียงดังอย่างไม่อายสายตาเด็กๆที่มองมายังเขาเหมือนกำลังสงสัยว่าผู้ชายตัวใหญ่อย่างนี้จะมาอายุเท่าพวกแกได้ยังไงพร้อมกับออกแรงขืนตัวเอาไว้สุดชีวิต แต่เจ้ารองเท้าคอนเวิร์สคู่เก่งก็ดูเหมือนจะไม่ยอมเข้าข้างเขา เพราะพื้นยางของมันดูเหมือนจะไม่เกาะพื้นของโรงพยาบาลเอาเสียเลย
"แต่ฉันไม่มีลูกสาวนี่นา ฉันไม่ไปไข่ทิ้งไว้มั่วซั่วเหมือนทงเฮหรอกนะ ทงเฮอ่าาา!!"
ซองมินยิ่งร้องออกมาเสียงดังกว่าเดิมเสียอีกเมื่อยัยเพื่อนสนิทกล้ามโต(?)ของตนได้ฉุดกระชากลากถูเขาไปถึงเค้าน์เตอร์ติดต่อประจำแผนก พี่พยาบาลคนสวยมองหน้าพวกเขาทั้งสองคนแบบงงๆคล้ายจะสงสัยว่าผู้ชายวัยเบญจเพศหน้าเคะ(?)ทั้งสองคนนี้มาทำอะไรอยู่ที่แผนกกุมารเวชแบบนี้
"เงียบเหอะนา!"
ทงเฮหันไปดุเพื่อนที่ทำหน้าเบ้เหมือนจะร้องไห้อยู่ข้างๆก่อนจะรีบหันกลับมายิ้มหวานโปรยเสน่ห์ใส่พี่พยาบาลคนสวยตามเดิม เขาวางแขนทั้งสองข้างพาดลงไปบนเค้าน์เตอร์พลางเคาะนิ้วลงบนเนื้อไม้เบาๆเป็นจังหวะคล้ายกำลังเรียบเรียงคำพูดของตัวเองอยู่ และหลังจากนิ่งคิดไปได้สักพัก คนยิ้มสวยก็อ้าปากเอ่ยคำพูดบางอย่างออกมา
"สวัสดีครับ"
ลีทงเฮเริ่มต้นได้สวย(?)ทีเดียว
"ค่ะ...มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ"
พี่พยาบาลสาวขานรับคำสวัสดีนั้นออกมาเบาๆด้วยสีหน้าท่าทางงงๆแล้วจึงรีบไต่ถามเหตุผลที่พวกเขามาส่งเสียงดังโวยวายแข่งกับเด็กอยู่ที่ชั้นนี้ทันทีอย่างไม่มีอ้อมค้อม แต่ทงเฮก็ยังยิ้มสู้ได้อยู่ดีนั่นล่ะ
"คือเพื่อนผมเค้า...เอ่อ...อยากจะมาขอคำปรึกษาเรื่องลูกสาวน่ะครับ"
"ทงเฮคนตอแหล!"
แหม...กลางที่สาธารณะนี่ไม่มีเกรงใจกันเลยนะลีซองมิน!
"เงียบนะ!"
ทงเฮหันไปเอ็ดเพื่อนอีกรอบด้วยเสียงที่เบายิ่งกว่ายุงบินก่อนจะหันกลับไปฉีกยิ้มหวานให้กับพยาบาลนูน่า(ที่ทำหน้าตาไม่เชื่อหนักเข้าไปอีก)ตามเดิม คนตอแหล(?)เคาะนิ้วลงบนโต๊ะเค้าน์เตอร์แรงขึ้นจนได้ยินเสียงชัดเจน
"ปรึกษาเรื่องลูกสาว?"
"ครับ ลูกสาวชื่อเรนา น่ารักมากเลยนะครับ"
"เพื่อนคนนี้น่ะหรอคะ"
เธอพยักเพยิกไปยังซองมินที่ยืนเกาะขอบเค้าน์เตอร์พร้อมกับทำตาปริบๆแบบขอความช่วยเหลือสุดๆ...เหมือนเธอจะไม่เชื่องั้นล่ะว่าผู้ชายหน้าเคะแบบนี้ก็ทำผู้หญิงท้องได้น่ะ! คนที่มีลูกสาวชื่อเรนาตั้งท่าจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง หากแต่ปากยังไม่ทันอ้าออกจากกันด้วยซ้ำ เขาก็โดนคนพามาอุดปากเอาไว้เสียก่อน
"ครับ คนนี้ล่ะ หมอนี่มันก็เอาผู้หญิงไปทั่วล่ะครับ"
ทงเฮยังคงตอบพี่พยาบาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและท่าทางร่าเริง(ที่ดูเฟคชะมัดในสายตาของซองมิน!) แต่ดูเหมือนว่ายิ่งเขายิ้ม พี่พยาบาลก็จะเริ่มเชื่อถือเขาน้อยลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายแล้ว เขาก็ตัดสินใจหุบยิ้มฉับลงมาพร้อมกับตบโต๊ะเข้าให้โครมเบ้อเริ่ม ทำเอาพี่พยาบาลคนนั้นผงะตกใจไปเลยล่ะ
ปัง!
"จะถามอีกเยอะมั้ยครับ ถ้าเยอะผมจะได้พาเพื่อนไปหาหมอที่อื่น เรนาเธอต้องการคำแนะนำนะครับ"
"ค่ะๆ....เดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ ให้เพื่อนของคุณหรอกฟอร์มนี้ก่อนนะคะ"
การวีนแตกมักจะได้ผลดีเสมอกับบริการสาธารณะ เพราะทันทีที่ทงเฮแสร้งทำตัวเหวี่ยงออกไป พี่พยาบาลคนนั้นก็รีบจัดการหาฟอร์มมายื่นให้ซองมินทันที ปลาทองจอมเฟครีบยื้อมันมาเขียนเองเสียก่อนที่ยัยกระต่ายอ้วนจะทำแผนของเขาพังไปเพียงเพราะการกรอกข้อมูลผิดเล็กๆน้อยๆ เขาเงยหน้าขึ้นไปคลี่ยิ้มให้พี่พยาบาลคนสวยอีกครั้งราวกับก่อนหน้านี้เขาไม่ได้หงุดหงิดอะไรเธอพลางเคาะปากกาลงบนกระดาษเบาๆเป็นจังหวะ
"ผมขอระบุคุณหรอได้มั้ยครับ"
"เอ๋?"
"ผมขอเป็นคุณหมอคิมคิบอมได้มั้นครับ"
"คิมคิบอม?"
"ครับ คุณหมอคิมคิบอม"
"คุณหมอที่น่ารักๆน่ะหรอคะ"
"อ่า...ครับ คนนั้นล่ะครับ"
"คุณหมอคิมประจำอยู่ที่แผนกสูตินารีเวชนะคะ"
............................................................
"ทงเฮอ่าาาา อย่าทำกับฉันแบบนี้น้าาา!...ฮึก....ไม่เอาอ่าาา!!"
ซองมินไม่สนใจเสียหรอกว่าท่าทางของเขาตอนนี้จะทุเรศทุรังและน่าหัวเราะมากขนาดไหน แต่ตราบใดถ้ามันช่วยให้เขารอดพ้นจากการถูกลากไปแผนกคนท้องได้ล่ะก็ เขายอมโดนคนทั้งโรงพยาบาลหัวเราะเยาะก็ได้! กระต่ายตาใสตัวน้อยขืนตัวเอาไว้สุดแรงพร้อมกับร้องงอแงออกมาอย่างไม่อายสายตาผู้หญิงท้องแก่ที่นั่งคอยเรียกตรวจเลยสักนิด แต่ก็อย่างว่า...ยัยคนกล้ามโตก็ยังใช้ประโยชน์จากแขนใหญ่ๆนั่นลากเขาไปถึงโต๊ะเค้าน์เตอร์หน้าแผนกจนได้
"ไม่เป็นไรหรอกนาซองมิน ก็แค่มาฝากท้องให้เมียเอง ไม่เห็นจะต้องอายเลย"
ทงเฮแกล้งพูดขึ้นมาเสียงดังเพื่อไม่ให้คนที่จ้องมองพวกเขาอยู่สงสัยอะไรมากไปกว่านี้ เขาหันมาหัวเราะแห้งๆให้กับพยาบาลสาวที่กำลังส่งสายตาสงสัยข้ามเค้าน์เตอร์มาให้เขาพลางรีบดึงร่างของเพื่อนเข้ามาประชิดขอบเค้าน์เตอร์
"เพื่อนผมอยากได้คำปรึกษาน่ะครับ"
"เอ๋??"
"คือ...เมียมันท้องได้ห้าเดือนแล้ว มันอยากมาคุยกับหมอน่ะครับ"
"แล้ว...เอ่อ...คุณผู้หญิงไม่ได้มาด้วยหรอครับ"
พี่พยาบาลคนดีหันไปถามคนที่มีเมียท้องได้ห้าเดือนแล้วซึ่งกำลังทำตาปริบๆแบบร้องขอความช่วยเหลือสุดๆ ซองมินตั้งทาจะขยับปาก แต่ก็อีกนั่นล่ะ...เขาก็โดนยัยคนช่างตอแหลชิงพูดตอบไปเสียก่อน
"วันนี้เรนาต้องทำงานน่ะครับ เธออยากให้ผมพาเขามาคุยกับหมอก่อนที่เธอจะมาวันมะรืนน่ะครับ"
ช่างสร้างเรื่องได้เป็นเรื่องเป็นราวจนน่าจะได้รับรางวัลนักตอแหลหญิง(?)ยอดเยี่ยมแห่งปีจริงๆ
ทงเฮฉีกยิ้มกว้างให้พี่พยาบาล ซึ่งเธอก็เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆนั่นล่ะ...แพ้ไอ้รอยยิ้มน่ารักๆนั่นจนหมดท่า(แล้วทำไมคนที่แล้วถึงไม่ได้ผลนะ เขาล่ะข้องใจจริงๆ) เธอรีบก้มหน้างุด ลงมือขุดคุ้ยหาแบบฟอร์มมาให้เขากรอกอย่างว่องไวโดยไม่ยอมเงยหน้ากลับขึ้นมาสบตากับเขาอีกเลย
"หมอคิมคิบอมว่างอยู่มั้ยครับ"
"ใครนะคะ"
"คุณหมอคิมคิบอมน่ะครับ ผม...เอ่อ...หมายถึงเรนาเธออยากได้หมอคิมคิบอมน่ะครับ"
พี่พยาบาลเลิกคิ้วขึ้นนิดก่อนเธอจะพึมพำบอกขอเวลาสักครู่และลุกไปหยิบแฟ้มเวลานัดออกมากางเปิดให้เขาดู และรูปของนายแพทย์คิมคิบอมที่แปะอยู่ที่หัวมุมกระดาษก็ทำให้เขาต้องมุ่นหัวคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ
ไอ้เด็กหน้าเคะนั่นมันบอมของเขาที่ไหนล่ะ!
"เอ่อ...นี่คือคุณหมอคิมหรอครับ"
"ค่ะ วันนี้คุณหมอเข้าตอนบ่ายสองโมงนะคะ คงต้องนั่งรอกันแป๊บนึง"
ทงเฮไม่สนใจสิ่งที่พยาบาลสาวคนนั้นพูดเลยสักนิด เขาพยายามที่จะไม่อาละวาดออกมา เพราะมันเป็นการทำลายภาพพจน์หนุ่มยิ้มสวยแสนดีของตัวเอง แต่ซองมินที่ยืนอยู่ข้างๆ(และสนิทกับไอ้หนุ่มยิ้มสวยแสนดีนี่มาเกือบจะสิบปีแล้วเนี่ย)รู้สึกได้ดีเลยล่ะ คนสร้างภาพ(?)คลี่ยิ้มไปให้พี่พยาบาลอีกครั้งด้วยท่าทางที่ยังคงดูใจเย็นพร้อมกับเคาะนิ้วลงบนเค้าน์เตอร์เบาๆ
"แล้วที่นี่มีหมอที่ชื่อคล้ายๆแบบนี้อีกมั้ยครับ"
"เอ๋?...มีนะคะ มีคุณหมอคิมที่ยิ้มสวยๆอยู่อีกคนนึงค่ะ ชื่อคล้ายๆแบบนี้เลย"
"งั้นหรอครับ"
"ค่ะ...อยู่ที่แผนกจิตเวชน่ะค่ะ"
..............................................................
"ทำไมทงเฮทำกับฉันแบบนี้อ่าาา!!....นายให้ฉันบ้าไม่ได้น้าาา!!!"
ไม่รู้ว่ามันเป็นข้อดีหรือข้อเสียของแผนกจิตเวชกันแน่ที่ทำให้ไม่มีใครหันมาสนใจคนที่กำลังโวยวายเสียงดังลั่นมาตลอดทางอย่างลีซองมินคนนี้เลยสักคน...แถมยังมองด้วยสายตาเฉยชาเหมือนเห็นมันเป็นเรื่องปกติอีกต่างหากอ่ะ! ซองมินเบะปาก ออกแรงยึดเก้าอี้เหล็กที่ไว้ใช้นั่งรอตรวจเอาไว้สุดแรงจนเจ้าเก้าอี้เหล็กตัวยาวนั่นขยับเลื่อนออกมาจากที่ตั้งของมันนิดๆ แต่ยัยหมวยกล้ามโตก็ไม่มีทางยอมแพ้กับอิแค่เก้าอี้เหล็ก(?)เสียหรอก
"ซองมินอ่าา!!"
เมื่อใช้แรงสู้ไม่ได้ ทงเฮก็เริ่มใช้เสียงดังเข้าข่มตามนิสัย เจัาตัวออกแรงกระตุกร่างของเพื่อนซี้สุดแรงหลายต่อหลายครั้ง จนในที่สุดร่างของยัยกระต่ายอ้วนก็ลอยหวือติดมือเขาออกมา
"ฉันจะตีนายลีทงเฮ! ฉันจะไม่สนใจด้วยว่านายจะร้องไห้จนตาปูดมากขนาดไหน!!"
ลีซองมินเริ่มใช้ความรุนแรง(?)เข้าข่มเสียแล้วล่ะ
"ดี!...ฉันก็จะกัดนายเหมือนกัน! ถึงนายจะร้องให้ฉันกอด ฉันก็จะไม่กอดนายแล้วด้วย!!"
บทสนทนา(ที่ฟังดูรุนแรงยังไงพิกล)ของผู้ชายหน้าเคะทั้งสองคนที่กำลังตะโกนแว้ดๆใส่กันอย่างไม่เกรงใจสถานที่เริ่มจะทำให้พี่พยาบาลตั้งท่าจะเข้ามาแยกพวกเขาเสียแล้ว แต่ก็คงโชคดีที่ทงเฮสามารถพาทั้งตัวเองและเพื่อนสนิทไปถึงเค้าน์เตอร์ประจำแผนกได้เสียก่อน
"เพื่อนผมมันบ้าครับนูน่า! มีอาการว่าจะใช้ความรุนแรงด้วย...โอ๊ย!...เห็นมั้ยครับนูน่า!!"
ทงเฮร้องออกมาเสียงหลงเมื่อโดนยัยกระต่ายฟันคมงับเข้าให้ที่ต้นแขนในระหว่างที่กำลังพูด เขาผลักหัวของคนที่มีอาการว่าจะใช้ความรุนแรง(?)ให้ออกห่างก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้กับพี่พยาบาลคนสวยที่กำลังมองพวกเขาด้วยสายตาอึ้งๆ
"คือ...เรนาเมียมันเพิ่งทิ้งมันไปหาผัวใหม่น่ะครับ แล้ว..."
"อ่อ ค่ะๆ...กรอกนี่ก่อนนะคะ"
คนชอบปั้นเรื่องยังเล่าเรื่องไม่ทันจบ พี่พยาบาลคนสวยก็รีบกุลีกุจรหยิบเอกสารมาให้เขากรอกเสียแล้ว...ราวกับกลัวว่าคนที่โดนเมียทิ้งจะอาละวาดใช้ความรุนแรงออกมาตอนนี้งั้นล่ะ! ทงเฮหันไปยักคิ้วให้เพื่อนข้างกายนิดเหมือนจะเยาะว่าเห็นมั้ย นายเหมือนคนบ้ามากขนาดไหนก่อนจะก้มหน้ากลับลงมาสนใจกรอกเอกสาร
"จะเป็นไปได้มั้ยครับ ถ้าผมจะขอเลือกหมอน่ะ"
"ขึ้นอยู่กับตารางเวลาของคุณหมอค่ะ"
"แล้วคุณหมอคิมคิบอมล่ะครับ ว่างเวลาไหน"
"ใครนะคะ"
สีหน้าแบบนี้ทงเฮชักเริ่มจะชินเสียแล้วสิ พยาบาลสาวเงยหน้าขึ้นมาเลิกคิ้วให้เขาพร้อมกับทำหน้าสงสัยเสียเต็มประดา จนเขาเริ่มจะนึกสงสัยขึ้นมาตะหงิดๆว่าพยาบาลที่นี่รู้จักหมอประจำแผนกของตัวเองรึเปล่า หรือแค่มีหน้าที่ดูแลตรงหน้าโต๊ะเค้าน์เตอร์นี่อย่างเดียว
"คุณหมอคิมคิบอมน่ะครับ"
"เอ๋?...แผนกนี้มีแต่คุณหมอที่ชื่อคิมบอมนะคะ นั่นไงเดินมาพอดีเลย"
ถึงแม้คุณหมอคิมบอมคนนั้นจะหล่อและยิ้มสวยมาก
แต่นั่นไม่ใช่คิมคิบอมของเขานี่!!
.................................................
ปึง!!
"นี่เจ๊!...เจ๊เห็นพวกผมเป็นพวกว่างงานมากนักรึไงห๊า!!"
คนขี้วีนใช้สองมือตบโต๊ะเค้าน์เตอร์ประจำแผนกกุมารเวชเข้าให้โครมเบ้อเริ่มอย่างไม่เกรงใจพร้อมกับกระแทกแผนผังของนายแพทย์ประจำแผนกกุมารเวช(ที่อุตส่าห์ไปอ้อนขอมาแทบตายจากประชาสัมพันธ์)ลงไปตรงหน้าพยาบาลสาว(คนเดิม)ด้วยกริยาที่ไม่น่ารักเท่าไรนัก ทงเฮเลื่อนมันเข้าไปหาพี่พยาบาลสาวที่มีสีหน้าอึ้งสนิทก่อนจะใช้นิ้วจิ้มจึ๊กลงไปที่ภาพของนายแพทย์หนุ่มแก้มบบวมที่มีชื่อพิมพ์กำกับอยู่ด้านล่างว่าคุณหมอคิมคิบอม
"ไอ้หมอนี่มันชื่อคิมคิบวมหรือไง เจ๊ถึงไล่ผมให้ไปหาไอ้เด็กหน้าเคะที่แผนกสูติน่ะห๊า!!"
ยิ่งเห็นพี่พยาบาลทำหน้าฝ่อ ทงเฮก็ยิ่งเสียงดังจนซองมินต้องทำคอย่นและไม่กล้าเอ่ยแย้งอะไรออกมาสักคำ...ก็ตอนยัยกล้ามปูวีนน่ะน่ากลัวจะตายไป! พยาบาลสาวคนสวยก้มหน้าลงไปหาอะไรเลิกลั่กโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาโต้เทียงคนที่มาโวยวายเลยสักคำก่อนจะเงยหน้ากลับขึ้นมาพร้อมกับกางแฟ้มเอกสารเล่มหนึ่งลงตรงหน้าคุณเพื่อนผู้ป่วย(?)จอมเหวี่ยงด้วยท่าทางร้อนรน
"คุณหมอคิมคิบอมใช่มั้ยคะ"
เสียงของเธอสั่นได้อย่างน่าขำ แต่ในสถานการณ์มาคุแบบนี้ ขนาดซองมินยังไม่กล้าหัวเราะเลย กระต่ายตากลมเดินตัวลีบออกไปนั่งอยู่เสียห่าง เขาแอบเหลือบสายตามองเพื่อนรักเล็กน้อยก่อนจะรีบเบือนสายตาหนีออกมาและหันไปแหยเด็กตัวน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆเขาแทน
"เออ!...ไอ้คิมคิบอมที่แม่งแก้มบวมๆคนนั้นน่ะ!"
"วันนี้คุณหมอคิม...เอ่อ...เป็นเวรแผนกฉุกเฉินค่ะ จะเข้างานตอนห้าทุ่มน่ะค่ะ"
................................................................
"ทงเฮอ่าา"
"อย่าเพิ่งงอแงนักสิซองมิน"
"ก็ฉันง่วงแล้วนี่นา"
คนง่วง(ที่โดนปลุกออกมาจากเตียงเมื่อกี้แบบสดๆร้อนๆ)ตอบออกมาอย่างงัวเงียพลางใช้มือทั้งสองข้างขยี้ตาด้วยท่าทางเซื่องซึมจนทงเฮต้องกระชากมือข้างหนึ่งออกมา และเอามันมาเกาะกุมเอาไว้ก่อนที่ยัยคนซุ่มซ่ามจะเดินชนเสาหัวโนเอา
"นายไปขอพบเขาดีๆก็ได้นี่"
"ถ้าไอ้หมอบ้านั่นมันรับโทรศัพท์ฉันก็ดีน่ะสิ"
ทงเฮพึมพำออกมาพลางลากเพื่อนเข้าไปในโรงพยาบาลที่ปิดไฟไว้เกือบจะมืดสนิท...น่าขนลุกชะมัด และก็คงเป็นข้อดีของการมาหาหมอตอนตีหนึ่งกว่านี่กระมัง เพราะทันทีที่เขา(โกหก)บอกไปว่าเพื่อนของเขารู้สึกไม่ดี คลื่นไส้มาทั้งคืนจนนอนไม่ได้ พยาบาลสองสามคนที่เป็นเวรประจำอยู่ก็พาคนป่วย(?)ขึ้นรถเข็นไปและพาเข้าไปนอนบนเตียงในแผนกฉุกเฉินแทบจะในทันที
"ทงเฮอ่าา"
"วัดความดันนิดเดียวนะคะ ไม่เจ็บหรอกนะ"
พี่พยาบาลหน้าตาใจดีเอ่ยบอกคนที่นอนงงอยู่บนเตียงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับจับแขนของเขายกขึ้นมาอย่างแผ่วเบา...มือนิ่มยังกับนางฟ้าแน่ะ ซองมินก็พยายามที่จะตามเรื่องให้ทันอ่านะ แต่เขาก็ง่วงงุนเกินกว่าที่จะเข้าใจอะไรได้ง่ายๆจนทำได้แต่ร้องเรียกหาเพื่อนเพื่อให้มาช่วยอธิบายให้ฟัง
"ทงเฮอ่า"
"ฉันอยู่นี่ จับมือนายอยู่"
ทงเฮถอนหายใจออกมาเบาๆให้กับความซื่อบื้อ(?)ของเพื่อนของตนพลางสอดมือเข้าไปเกาะกุมมืออุ่นๆข้างหนึ่งของซองมินเอาไว้ บีบกระชับมันเบาๆเพื่อบอกว่าเขาควบคุมทุกอย่างได้ก่อนจะหันไปหาพี่พยาบาลอีกคนที่กำลังจะหนีบเครื่องวัดหัวใจเข้าที่ปลายนิ้วของคนบนเตียง
"วันนี้มีหมอมั้ยครับ"
"คุณหมอกำลังลงมาค่ะ คอยสักครู่นะคะ ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยค่ะ"
สงสัยว่าสีหน้าของเขานั้นคงดูเป็นกังวล(ที่จะไม่ได้เจอคิมคิบอม)เอาเสียมากๆ พี่พยาบาลอีกคนถึงได้เดินเข้ามาลูบหัวลูบไหล่เขาเหมือนอยากจะปลอบโยนให้เขาใจเย็นลงเป็นการใหญ่ ทงเฮยิ้มให้พวกเธอเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาหาซองมิน(ที่ดูเหมือนจะผล็อยหลับสนิทไปเสียแล้ว)เพื่อดูว่าหมอนั่นจะปากโป้งอะไรออกมารึเปล่า(ซึ่งตอนนี้มันก็คงไม่มีทางเกิดขึ้นแล้วล่ะนะ)
"คนไข้เป็นอะไรมาหรอครับ"
"คิมคิบอมมม!!"
...........................................................
"ไม่เจอกันนานเลยนะครับทงเฮ"
"อื้อ"
ทงเฮครางตอบกลับไปเบาๆพลางจับประคองแก้วกระดาษที่บรรจุเต็มไปด้วยกาแฟดำให้มั่นคงมากขึ้น ความเงียบงันของโรงพยาบาลทำให้ทุกอย่างดูอึดอัดได้อย่างไม่น่าเชื่อเชียวล่ะ เพราะเอาเข้าจริงๆ เขากลับนึกเรื่องที่จะพูดกับคิมคิบอมคนนั้นไม่ออกเลยสักอย่าง แค่คิดจะขุดเอาเรื่องเก่าๆขึ้นมารื้อฟื้น เขาก็กลับจำไม่ได้แม้สักเรื่อง...เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าทำไมถึงได้เลิกกับผู้ชายที่แลดูแสนเพอร์เฟ็คมีชาติตระกูลรุนช่องแบบนี้น่ะ!
"คิบอมเพิ่งจบหรอ"
"ครับ เพิ่งได้งานที่โรงพยาบาลนี้เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเอง ผมยังรู้สึกเหมือนเด็กอยู่เลยนะ"
คนเพิ่งจบหัวเราะออกมาแผ่วเบาให้กับถ้อยคำของตัวเองพลางยกแก้วกาแฟกระดาษในมือขึ้นจรดเรียวปากที่ทาทาบไปด้วยรอยยิ้มเจือจาง
"ทงเฮทำงานนานแล้วสินะครับ ดีจังนะ...คุณดูโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นตั้งเยอะ ไม่เหมือนที่ผมจำได้เลย"
"แต่นายเหมือนเดิมเลยนะ"
ร่างสูงในชุดเสื้อกราวด์สีขาวสะอาดที่นั่งด้วยท่าทางแสนสบายอยู่บนเก้าอี้ข้างๆเขาแลดูไม่เปลี่ยนไปจากความทรงจำของเขาเลยสักนิด...คิมคิบอมที่ทงเฮจำได้คนนั้นมักจะมีรอยยิ้มจางๆที่แลดูอบอุ่นอ่อนโยนแบบนี้เสมอ มีกริยาที่ดูนุ่มนวลเหมือยการเคลื่อนไหวของรูปสลักมีชีวิตตลอด...และจนตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นไม่ได้เปลี่ยนเลย
"ก็ผมยังเป็นนักศึกษาจบใหม่อยู่นี่นา"
คิบอมหัวเราะออกมาอีกพร้อมกับยกมือขึ้นมาเกาท้ายทอยด้วยท่าทางเขินๆ...ยังขี้อายเหมือนเดิมไม่มีผิด ทงเฮส่ายหน้านิดๆให้กับความคิดของตัวเองพลางยกกาแฟขึ้นจิบเล็กน้อย
ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆนั่นล่ะ
"ผมไม่นึกว่าคุณจะยังสนิทกับซองมินอยู่นะครับ ตั้งแต่จบมาผมยังไม่ได้เจอเพื่อนสักคนเลย"
ทงเฮไหวไหล่นิดเหมือนอยากจะให้อีกฝ่ายทำใจให้ชินกับความห่างเหินนั่นเสียพร้อมกับเอนหลังพิงพนักเก้าอี้และยืดขาเหยียดยาวออกไปจนแทบจะไหลลงไปกองอยู่บนพื้นรอมร่อ
"ฉันกับซองมินเป็นช่างภาพอิสระเหมือนกันน่ะ เราเลยได้ไปถ่ายรูปด้วยกันบ่อยๆ อีกอย่าง นายก็รู้นี่ว่ายัยกระต่ายอ้วนมันประสาทนิดๆน่ะ ใครจะกล้าอยู่กับมันนอกจากฉันล่ะ"
ทงเฮทำท่าประกอบคำว่าประสาทนิดๆได้อย่างน่ารักจนคนที่นั่งฟังอยู่ถึงกับหลุดหัวเราะขำออกมา คิบอมถอนหายใจออกมาเบาๆเหมือนการหัวเราะเมื่อครู่นั้นทำให้เขาเหนื่อยมากเกินไปพลางเหลือบสายตามายังคนร่างบางที่นั่งยิ้มเล็กยิ้มน้อยอยู่กับตัวเอง และเขาก็พบว่าลีทงเฮยังคงน่ารักไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด(ถึงจะดูบึ้กขึ้นนิดหน่อยก็เหอะ!)...ยังคงแลดูเหมือนเด็กตัวน้อบๆที่มีแววตาแสนซุกซนและรอยยิ้มแสนสดใสซึ่งเขาตกหลุมรักไม่เมื่อสี่ปีก่อนไม่มีผิด
แล้วตอนนี้เขายังตกอยู่ในหลุมลึกนั่นมั้ยนะ?
ตอบไม่ได้จริงๆแฮะ
"นี่คิบอม..."
"ครับ"
"ช่อยอะไรฉันหน่อยสิ"
"ครับ?"
"แกล้งเป็นแฟนฉันไปเจอแม่ฉันหน่อยนะ"
"หาา?!!"
คิบอมร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับทำตาโต เขาตั้งท่าจะผละหนี แต่ดูเหมือนอดีตแฟนของเขาจะรู้ทัน ถึงได้ถลาเข้ามากอดแขนของเขาเอาไว้หมับพร้อมกับทำตาปริบๆเหมือนลูกแมวอ้อนขอนมใส่เขาในระยะปลายจมูกห่างกันไม่ถึงสิบเซนติเมตรดี...ท่านี้ก็ไม่เปลี่ยนเหมือนกัน และคาดว่าคงจะมีผลลัพธ์ที่เหมือนเดิมเสียด้วย
"นะๆๆๆๆๆ...แป๊บเดียวเอง แม่ฉันยังคิดว่าฉันคบกับนายอยู่เลยอ่าาา"
"แต่ระ...เราเลิกกันแล้วนี่ครับ ผมคิดว่าถ้าบอกความจริงไปท่านน่าจะ...อ๋าาา...เข้าใจนะครับ"
คุณหมอคิมร้องออกมาเสียงหลงพร้อมกับรีบเอนหลังถอยหนีเมื่อทงเฮยื่นหน้าเขาไปใกล้มากกว่าเดิม คนช่างอ้อนยู่ปาก ทำสีหน้าขัดเคืองได้อย่างน่าเอ็นดู ซึ่งแน่ล่ะ...นั่นอันตรายสำหรับคิบอม
"ก็ฉันบอกแม่ไปแล้วนี่...นะๆๆๆๆคิบอมน้าาา แค่ไม่กี่วันเอง แล้วฉันจะยอมใให้นายทุกอย่างเลยนะ"
"ครับ?"
"จริงๆนะ อะไรก็ได้ที่นายอยากได้ ฉันจะหามาให้นายหมดเลย ช่วยฉันนิดเดียวเองนะ"
"แต่ว่า..."
คิมคิบอมใกล้แล้วล่ะ
"แค่ช่วยแฟนเก่าคนนี้อีกแค่ครั้งเดียวนะคิบอม แล้วฉันจะหายไปจากชีวิตนายตลอดไปเลย ฉันสัญญาเลยอ่ะ นะคิบอมน้าาาา...คิบอมสุดหล่อช่วยทงเฮคนดีหน่อยน้าาา"
คิมคิบอมจอดดีบสนิท(เหมือนเดิมอีก)แล้วล่ะ
"ครับๆ...ก็ได้ครับ แต่ขอผมทำเรื่องลางานก่อนนะครับ"
"คิๆๆ...คิบอมน่ารักจริงๆเลยน้าา!"
ทงเฮยิ้มกว้างให้คนน่ารักก่อนจะกดจูบลงไปบนเรียวปากหยักเร็วๆหนึ่งทีเหมือนจะให้มันเป็นรางวัลสำหรับคนที่ยังคงตามใจเขาอยู่เสมอ ไอ้คนทำน่ะไม่รู้สึกอะไรหรอก แต่ไอ้คนโดนจูบนี่สิ ทำตาโตหน้าตื่นไปเสียแล้ว...คิมคิบอมนี่ช่างเป็นคนขี้อายเสียจริง
"ถือเป็นมัดจำสำหรับของที่คิบอมอยากได้ก็แล้วกันนะ"
..........................................................
สรุปแล้วคุนหมอคนดีของเราก้อยุ่แผนกเด็กนั่นล่ะเนอะ คนอย่างลีทงเฮซะอย่าง ข่าวจะผิดได้ยังไง พี่พยาบาลสับสน แทนที่ยัยหมวยจะเดือดร้อน ซองมินของเรากับเดือดร้อนแทนตลอด...น่าสงสารจังน้า เรื่องนี้นังหมวยเร็ว แรง แหล แรด(?) อย่าบอกใครเลย ผิดหูผิดตาจากเรื่องอื่นที่เคยแต่งมาแบบสุดๆ แถมพ่อพระเอกของเราก็ดูหงอๆไม่ทันมารยาแปดล้าน(?)เล่มเกวียนของยัยหมวยเอาซะเลย ซึ่งก็เป็นอะไรที่ผิดหูผิดตาจากเรื่องอื่นๆที่เคยแต่งมาอีกนั่นล่ะ= = แต่ที่น่ารักสุดๆ(และไรเตอร์ปลื้มส่วนตัวมากๆ)ก้คือฉากด๊องมินอีกแล้ววว>< ซองมินนี่ง้องแง้งงอแงน่ารักมากอ่า
สำหรับตอนหน้า(ซึ่งเปลี่ยนเพลงรอไว้แล้วเรียบร้อย...เพลงฟังดูเหงามากๆเลยเนอะ ว่ามั้ย) ตัดฉากไปที่อีกคู่หนึ่งค่ะ ธีมของกลุ่ม(?)นี้อาจจะไม่ใช่แนวเพื่อนสนิทเหมือนในเพลง แต่ว่าความรุ้สึกนี้เลยค่ะ ประเดิมคู่แรกของหกพีของเรา วอนฮันฮยอก ค่ะ^^
เจอกันน้า ใครใกล้สอบแล้ว ตั้งใจอ่านหนังสือกันนะคะ^^
ความคิดเห็น