ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ:KIHAE] :: The One I Love ลิขิตหัวใจนายมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #17 : The Goddess of Fate

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.19K
      3
      29 ส.ค. 52

     

                "คุณริวยะทิ้งนี่ไว้ครับ"

    คิบอมพยักเพยิดไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เล่นซีดีแผ่นหนึ่งค้างไว้...เป็นซีดีที่ได้มาจากกล้องที่คนเจ้าเล่ห์อย่างคาเงโยชิ ริวยะซ่อนเอาไว้ที่มุมหนึ่งของชั้นหนังสือจนไม่เป็นที่สังเกตแม้เพียงนิด นายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้หน้าจอก่อนจะลงมือเลื่อนเมาส์ไปกดฝห้ซีดีเริ่มเดินด้วยตัวเอง ภาพที่ปรากฏมีอะไรไม่มาก อีกทั้งมุมที่ซ่อนกล้องนั้นเป็นอุบอับ ภาพจึงค่อนข้างที่จะพร่ามัว

     

    ซีวอนเฝ้ามองคาเงโยชิ ริวยะนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะตัวใหญ่....เฝ้ามองชายชาวญี่ปุ่นตกใจจากปืนที่จ่อเข้าที่ข้างขมับ ทุกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังจอมอนิเตอร์ต่างหรี่ตามองเจ้าของปืนผู้ซึ่งยืนหันหลังให้กับกล้องจนไม่สามารถบอกได้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร แต่สำหรับคิบอม...ผมสีทองซีดกับท่ายืนจับปืนแบบนั้นช่างสะกิดความทรงจำของเขานัก ซีวอนทำท่าจะหมุนตัวเดินออกมาเพราะเห็นว่าซีดีแผ่นนี้คงไม่สามมารถให้อะไรกับเขาได้มากนัก แต่ทันทีที่คาเงโยชิ ริวยะที่อยู่ในภาพหมุนตัวออกมาเผชิญหน้ากับมือปืน ชายหนุ่มก็เหยียดยิ้มพร้อมกับก้มลงไปหยุดซีดี

     

    "คิบอม..."

     

    "ครับ"

     

    "ฉันว่าเราเคยเห็นหมอนี่มาก่อนนะ"

    นิ้วเรียวชี้เข้าที่มุมหนึ่งของจออันเป็นตำแหน่งของกรพจกบานใหญ่ที่กำลังสะท้อนภาพใบหน้าของเทวทูตแห่งความตายให้ทุกคนในห้องได้ประจักษ์ ถึงแม้จะได้สบตาเพียงไม่กี่วินาที แต่ซีวอนก็จำชายหนุ่มที่มีร่างอาบเลือดของใครบางคนอยู่ในอ้อมแขนได้ เขาเหยียดยิ้มกว้างขึ้นพร้อมกับหมุนตัวเดินออกมาจากห้อง ตรงไปยังรถของตนที่จอดทิ้งไว้ด้านนอกโดยมีชางมินและคิบอมเดินตามมาติดๆ

     

    "จะไปไหนหรอครับคุณซีวอน"

     

    "ไปหาคนพิเศษของฉันน่ะ"

     

    "คนพิเศษ?"

     

    "ใช่...อีตัวคนพิเศษของฉันเอง"

     

    ......................................................................

     

    ร่างสูงเฝ้ามองโลงศพสีดำสนิทที่วางแน่นิ่งอยู่ในหลุมลึกซึ่งกำลังรอการกลบฝั่งในเย็นวันนี้ด้วยสายตาว่างเปล่า ดอกกุหลาบสีแดงมากมายถูกโยนลงไปบนโลงราวกับเป็นคำบอกลาครั้งสุดท้านจากญาติมิตรที่มาร่วมงาน  แต่ในมือของเขากลับมีดอกกุกลาบสีขาวบริสุทธิ์...สีที่นางฟ้าของเขาชอบมอบให้เขาเสมอ ริมฝีปากหยักกดจูบลงบนกลีบดอกไม้แสนบอบบางแผ่วเบาราวกับกำลังสัมผัสแก้มเนียนใสของคนที่เขารักมาเหลือเกินก่อนจะปล่อยมันลงไปวางอยู่ท่ามกลางดอกอื่นๆบนฝาโลงที่ปิดสนิท

     

    สุสานในวันต้นฤดูหนาวช่างเงียบกริบและหนาวยะเยือก แต่มันอาจะเป็นเพราะหนึ่งในคนที่นอนอยู่เบื้องใต้คือนางฟ้าของเขาก็ได้ที่ทำให้ทุกอย่างแลดูหนาวเย็นแบบนี้ ดวงตาคมหลังแว่นดำทอดมองหัวใจของตนที่นอนแน่นิ่งอยู่ในโลงอันแข็งกระด้างเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจึงหมุนตัวเดินจากมา ชายเสื้อโค้ทยาวถึงเข่าโบกสะบัดเบาๆตามแรงลมหนาวที่พัดผ่านเช่นเดียวกับชายผ้าพันคอสีเข้ม ทุกอย่างว่างเปล่าเพราะงานพิธีได้จบลงไปนานแล้ว เขาเพียงแค่กลัวจะร้องไห้ออกมาถ้าได้ฟังบทสวดอันน่าเศร้าที่บอกว่าปาร์คจองซูจะไม่มีวันกลับมาอีกแล้วจึงได้เข้ามาตอนงานเลิก...ปาร์คจองซูนางฟ้าผู้แสนสดใสของเขา

     

    "พี่ฮัน..."

    เสียงหวานของเด็กหญิงตัวเล็กทำให้ขาที่กำลังจะยกคร่อมรถมอเตอร์ไซต์ตวัดกลับลงมาตามเดิม ฮันคยองเดินกลับไปหาเด็กหญิงตัวน้อยก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนเข่าข้างหนึ่งเพื่อให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกัน ดวงตากลมๆของเธอนั้นแดงก่ำและช้ำไปด้วยน้ำตาจนเขาอดไม่ได้ที่จะใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเช็ดมันเบาๆอย่างปลอบโยน

     

    "ยังไม่กลับอีกหรอครับยุนฮา"

    ชายหนุ่มเอ่ยถามพลางกระชับเสื้อกันหนาวสีกรมท่าเข้ากับตัวเล็กๆของคนใส่มากขึ้นเพื่อไม่ให้ลมหนาวทำร้ายคนสำคัญของนางฟ้ามากไปกว่านี้

     

    "แม่บอกว่า...ฮึก...พี่จองซูจะไม่มาเล่นกับยุนฮาอีกแล้ว...ฮึก...จริงหรอคะพี่ฮัน"

    ฮันคยองใช้ชายผ้าพันคอของตนเช็ดหยดน้ำตาที่ข้างแก้มใสเบาๆ...ไม่รู้จะตอบสิ่งใด เขาจึงเลือกที่จะกดจุมพิตเข้าที่หน้าผากเนียนเบาๆเหมือนอยากจะให้คำถามเมื่อครู่ถูกลืมไปเสีย

     

    "พี่จองซูแค่กลับสวรรค์น่ะ...นางฟ้าต้องอยู่บนสวรรค์ไม่ใช่หรอครับ"

     

    "ใช่...แต่ว่า..."

     

    "ยุนฮา!...กลับบ้านได้แล้วลูก!"

    เสียงตะโกนร้องเรียกของมารดาทำให้ยุนฮาชะงักคำแย้งของตน...เริ่มมีท่าทีลังเลว่าควรจะอยู่กับพี่ชายคนดีต่อหรือว่าวิ่งกลับไปหาแม่ดี ชายหนุ่มชาวจีนคลี่ยิ้มออกมานิดก่อนจะจูบเบาๆลงบนริมฝีปากเล็กของเด็กหญิงตรงหน้าเป็นการบอกลา

     

    "แม่เรียกแล้วครับยุนฮา"

     

    "ยุนฮาจะได้เจอกับพี่ฮันอีกใช่มั้ยคะ"

     

    "พี่จะหมั่นไปเยี่ยมบ่อยๆก็แล้วกัน"

    ยุนฮาแย้มรอยยิ้มออกเป็นครั้งแรกของการสนทนา เธอเข้าไปหอมแก้มชายหนุ่มตรงหน้าฟอดใหญ่แล้วจึงวิ่งกลับไปหามารดาของตนที่ยืนรอคอยอยู่ที่รถ ฮันคยองมองร่างเล็กๆนั่นอยู่ชั่วครู่ก่อนจะยืดตัวยืนขึ้น แว่นดำถูกเกี่ยวออกจากใบหน้า แทนที่ด้วยหมวกกันน๊อคสีดำสนิทเช่นเดียวกับตัวเครื่องก่อนขายาวจะเหวี่ยงขึ้นคร่อมตัวถัง แล้วจึงพายานพาหนะของตนแล่นออกไป

     

    .............................................................

     

     

    "อ่า...อืม"

    เสียงครางดังกระหึ่มอยู่ในห้องเล็กๆด้านบนของผับแห่งหนึ่้งจนแทบจะทะลุลงไปชั้นล่าง ร่างอวบท้วนของชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่มีเทพธิดาเริงระบำด้วยร่างกายเปลือยเปล่าอยู่บนส่วนอ่อนไหวยกมือขึ้นจับเอวคอดเล็กของคนด้านบนเพื่อบังคับให้กระแทกกายลงมาแรงกว่านี้...ไม่คิดถนอมร่างบอบบางแต่ก็แสนสกปรกไปด้วราคีแม้เพียงนิด แต่ยังไม่ทันทีาจะถึงจุดหมายตามร่างบางที่เสร็จไปก่อนแล้ว ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดเข้ามาอย่างเสียมารยาทเป็นที่สุด

     

    "เฮ้ย!"

    ชายร่างท้วมร้องลั่นเมื่อปรากฏร่างของชายแปลกหน้าพร้อมลูกน้องเป็นฝูงเดินเข้ามาประชิดเตียงของเขา ต่างจากเทพธิดาแห่งผับคนสวยที่เพียงแค่ปรายตามองแขกผู้มาเยือน

     

    "ให้ตายสิซีวอน....ไม่เห็นรึไงว่าผมกำลังยุ่งอยู่"

     

    ปัง!

     

    "ตอนนี้ไม่แล้ว"

    ร่างของลูกค้าคนล่าสุดสิ้นใจตายคาเตียงทันทีที่ถูกปืนยิงเข้าให้ที่กลางหน้าผาก คนที่บัดนี้ว่างเสียแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆให้กับอารมณ์ร้อนๆของลูกค้าขาประจำของตนพลางก้าวออกมาจากร่างอันไร้ชีวิตลงมานั่งบนขอบเตียงโดยไม่ลืมที่จะเอื้อมไปหยิบผ้าห่มอันยับย่นมาปกคลุมช่วงล่างของตน

     

    "มีอะไรก็ว่ามา...ผมไม่มีเวลาว่างทั้งวันหรอกนะ"

    คนตัวเล็กว่าพลางก้มลงไปหยิบซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงของตนที่ถูกถอดวางทิ้งไว้อยู่ใกล้ๆ เขาเคาะมันออกมาหนึ่งมวนก่องจะคาบมันไว้ที่ริมฝีปาก เอื้อมมือไปหยิบไปแช๊คบนโต๊ะแล้วจึงจุดไป สร้างควันพิษให้อบอวลไปทั่วห้องอย่างไม่คิดเกรงใจว่าใครจะไม่ชอบ ดวงตากลมช้อนขึ้นมองคนที่ยืนค้ำหัวของตนอยู่พลางเลิกคิ้้วขึ้นคล้ายจะขอคำตอบของคำถามของตน ซีวอนแย้มรอยยิ้มออกมาจนปรากฏลักยิ้มบุ๋มลงไปที่ข้างแก้ม...คงจะดูน่าเอ็นดูกว่านี้แน่ถ้าแววตาสีกาแฟคู่นั้นไม่ได้ทอแววมากเล่ห์ร้ายกาจขนาดนี้

     

    "ตั้งหลายปีแล้ว ยังไม่เลิกสูบอีกหรอ...ไม่กลัวโดนปลดออกจากตำแหน่งเทพธิดาของร้านรึไง"

     

    "ผมชอบของผม...คุณไม่เกี่ยวคุณซีวอน"

    คนไม่เกี่ยวหัวเราะขำในชำคอพลางยกมือขึ้นลูบผมสีดำสนิทของร่างบางตรงหน้าให้เข้าที่เข้าทางเรียบร้อยก่อนจะก้มลงไปจุมพิตที่ข้างแก้มใส และเล็มไปตามแนวกรามได้รูป ไปจบท้ายที่ใบหูเล็ก

     

    "อยากให้ช่วยหน่อยได้มั้ย"

    เสียงทุ้มกระซิบบอกเบาๆอยู่ริมหู...สั่นพร่าอย่างยั่วยวนพลางขบเม้มไปตามใบหูอย่างหยอกล้อ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะชินชาเสียแล้ว เพราะแก้มเนียนไม่แม้แต่จะขึ้นสี...ยังคงสูดควักพิษเข้าปอดอย่างไม่ยี่หระ

     

    "ผมมีงานต้องทำ"

     

    "ถ้าแลกกับการที่ทำให้นายหลุดไปจากนรกนี่ล่ะเทพธิดา...ตกลงรึเปล่า"

     

    ............................................................

     

    ฮันคยองโยนจดหมายโฆษณาไร้สาระที่เสียบทิ้งไว้อยู่ในตู้จดหมายของเขาลงถังขยะที่ตั้งอยู่ใกล้ๆลิฟต์ทันทีที่ก้าวเท้าออกมา ร่างสูงเดินไปปลดล๊อคประตูห้องของตน แต่ยังไม่ทันที่จะได้หันหลังไปกดล๊อค ร่างโปร่งของใครคนหนึ่งที่ก้าวออกมาจากในครัวของเขาก็ทำให้เขาต้องรีบยกปืนขึ้นจ่ออย่างรวดเร็ว ดวงตาสีดำแข็งกระด้างจ้องมองแผ่นหลังบอบบางของผู้บุกรุกอย่างดุดัน

     

    "เข้ามาได้ยังไง!"

     

    "ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ในซ่อง นายต้องรู้อะไรนิดหน่อย"

    คนแปลกหน้าไหวไหล่เหมือนมันไม่สำคัญอะไรนักหนาที่จะบอกให้คนอื่นรู้ว่าสองในสามของชีวิตของเขานั้นเติบโตขึ้นมาจากในซ่องเล็กๆแห่งหนึ่งที่สามารถพัฒนามาเป็นผับชั้นสูงได้ภายในเวลาไม่ถึงสิบปี ก่อนจะหันมาสบตากับเจ้าของห้องที่แทบจะทำปืนหลุดมือทันทีที่ได้เห็นใบหน้าหวานของผู้บุกรุกได้ชัดตา ดวงตาคมขยับเบิกกว้างพร้อมด้วยหัวใจที่เริ่มสั่นระรัว...บางทีเขาอาจจะแค่ฝันร้ายจริงๆก็ได้

     

    "ปาร์คจองซู..."

     

    "นั่นอาจจะเคยเป็นชื่อของผม...ไม่รู้สินะ ผมจำชื่อของตัวเองไม่ได้แล้ว ที่นั่น...พวกเขาเรียกผมว่าอีทึก"

    คนสวยตาหวานยังคังเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย...น้ำเสียงที่เหมือนไม่แคร์อะไร ซึ่งมันก็ทำลายความฝันเล็กๆของฮันคยองลงแทบจะในพริบตา...เหมือนมาก แต่ก็ไม่คล้ายเอาเสียเลย...ไม่มีทางใช่นางฟ้าของเขา! เจ้าของห้องกระชับปืนในมือให้แน่นมากขึ้นด้วยแววตาที่ยิ่งทวีความแข็งกร้าว

     

    "มีธุระอะไร"

     

    "ผมถูกส่งมาเป็น...ของขวัญแสดงความเสียใจ"

     

    "ให้ใคร"

     

    "คุณ"

    ดวงตาแสนหวานที่แลดูแห้งแล้งและแข็งกระด้างจ้องมองตรงมาที่เขาราวกับจะยืนยันในคำสั่งนั้น แต่คนที่ได้รับของกำนัลดูท่าจะไม่ได้ยินดีรับเท่าไรนัก เขาสับรังเพลิง...พร้อมที่จะปลิดชีพอีกฝ่ายได้ทุกวินาที

     

    "กลับไปบอกว่าเจ้านายของนายว่าฉันไม่ต้องการ"

     

    "เขาบอกว่ามอบตัวผลให้...เพื่อคุณจะได้เอาไปแทนที่คนรักของคุณ"

    คำว่าคนรักทำให้ฮันคยองเลือดขึ้นหน้า เขาตรงเข้าไปใช้มือเกร็งจับลำคอผอมบางของคนตัวเล็กพร้อมกับผลักไปจนชนของโต๊ะตัวหนึ่งเข้า อาวุธสังหารถูกยกขึ้นมาเล็งที่ข้างขมับ...ไม่มีท่าทีลังเลที่จะไม่ยิงถ้าคนสวยยังคงพูดไม่ระวังปาก ดวงตาสีดำของเทวทูตแห่งความตายนั้นวาวโรจน์...ดูเหี้ยมเกรียมจนร่างกายหนาวสั่น แต่เทพธิดาคนสวยกลับยังคงนิ่งเฉย...ดวงตาว่างเปล่าไร้ร่องรอยแห่งความหวาดกลัวราวกับไม่มีสิ่งใดสามารถทำให้เขากลัวได้อีกต่อไป...เหมือนตุ๊กตานัยน์ตาลูกปัดกระนั้น

     

    "อีตัวชั้นต่ำอย่างนาย...แทนที่ใครไม่ได้หรอกรู้เอาไว้ด้วย"

    มันก็นานแล้วที่ใครต่อใครต่างเรียกเขาแบบนี้ แต่ไม่ว่าจะอีกสักสิบปีหรือยี่สิบปี อีทึกก็ไม่เคยชินกับสรรพนามนี้เสียที...ต้องเจ็บปวดเพราะคำๆนี้ทุกทีไป แต่เขาก็ไม่ได้แสดงมันออกมาทางสีหน้าหรือแม้กระทั่งแววตา เขายังคงจ้องใบหน้าคมที่อยู่ห่างเพียงคืบแน่นิ่งเหมือนอยากจะให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่เคยคิดแคร์กับคำหยามเหยียดใดๆ ถึงแม้ปอดจะเริ่มแสบร้อนเพราะมือที่บีบเกร็งลำคอของเขาแน่นขึ้น แต่อีทึกก็ยังคงไว้ซึ่งความเย็นชา...ไร้ความรู้สึกใดๆโดยสิ้นเชิง

     

    "แต่ดูเหมือนว่าผมจะถูกส่งมาให้ทำแบบนั้นกับคุณนะ"

    ร่างสูงกดคนปากดีลงกระแทกโต๊ะอย่างรุนแรงจนข้าวของมากมายพากันกลิ้งหล่นลงพื้นเสียงดัง มือใหญ่กดแนบลำคอขาวมากขึ้นจนรู้สึกเหมือนว่ามันกำลังจะหักลงมาคามือของเขาด้วยมือเพียงข้างเดียว...ผอมจนแทบจะไร้น้ำหนักอยู่แล้ว แต่อีทึกยังคงนิ่งเฉย...ไม่มีท่าทีทุรนทุรายอย่างที่ควรจะเป็น มันยิ่งทำให้อารมณ์ของฮันคยองปะทุเดือดยิ่งกว่าเก่า...ภาพรอยยิ้มแสนสดใสของนางฟ้าเจ้ามาซ้อนทับภาพของชายหนุ่มตรงหน้า...รอยยิ้มของคนที่เขารักมาก...คนที่ถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น! เรียวปากหยักเหยียดยิ้มเหี้ยมด้วยหวังจะให้อีกฝ่ายหวาดกลัว แต่มันกลับได้ผลไปในทางตรงหันข้าม...อีทึกไม่ได้หวาดกลัว เขาเคยเห็นรอยยิ้มแบบนั้นมาจนชินตา...รอยยิ้มที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาดื้อดึง...และเขาก็รู้ดีว่าจะมีสิ่งใดตามมา

     

    "อยากเป็นตัวแทนก็ตามใจ...เป็นอีตัวคงรู้หน้าที่นะ"

    เทวทูตหนุ่มทิ้งปืนในมือก่อนจะจับร่างบอบบางให้พลิกคว่ำหน้าลงกับโต๊ะ กระชากดึงกางเกงของอีกฝ่ายลงไปกองกับพื้นแล้วจึงปลดกางเกงของตัวเองออกอย่างรีบร้อนจนมันออกไปได้เพียงหมิ่นเหม่สะโพกเท่านั้น เขาขยับกายแทรกเข้าไปในช่องทางร้อนด้านหลังทีเดียวจนสุดอย่างไม่คิดจะเอ่ยอะไรให้เสียเวลาอีกต่อไป...ก็แค่อีตัวข้างถนน ไม่จำเป็นสำหรับความอ่อนโยนหรอก!

     

    เขาถอนกายออกแล้วจึงกระแทกกลับเข้าไปหาความอ่อนนุ่มอันตอดรัดอีกครั้งจนเลือดเริ่มไหลรินลงมาตามปลีน่องขาว แต่ใบหน้าหวานที่แนบอยู่กับเนื้อไม้หยาบก็หาได้แสดงความเจ็บปวดออกมาไม่ อีทึกทำเพียงแค่เอื้อมมือข้างหนึ่งขึ้นไปจับขอบโต๊ะเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองขยับไหวไปตามแรงกระแทกอันหนักหน่วงและไม่คิดปราณีมากเกินไปนัก ฮันคยองยึดจับสะโพกมนเอาไว้เพื่อจะได้แทรกตัวได้ลึกขึ้น...กระแทกตัวเข้าไปได้แรงขึ้น...ขยับบีบคลึงเนื้อนวลจนขึ้นสีก่ำไปหมด ใบหน้าคมแหงนหงาย ดวงตาปิดสนิท...เสพสุขอยู่กับภาพรอยยิ้มอันสดใสของปาร์คจองซูในความทรงจำและระบายมันออกมากับร่างกายอันแสนบอบบางของอีทึก

     

    "อ่า...จองซู...อืม...จองซู"

    เขาครางออกมาเบาๆก่อนจะปลดปล่อยทุกหยาดหยดออกมาจนมันไหลย้อนออกมาตามเรียวขาปนกับเลือดเมื่อเขาถอนร่างของตนให้ถอยห่าง ชายหนุ่มดึงกางเกงของตนกลับขึ้นมาตามเดิมพลางเฝ้ามองร่างของของกำนัลของเขาค่อยๆชันตัวขึ้นยืนและก้มลงสวมกางเกงตามเดิม...ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ราวกับไม่ได้เจ็บปวด

     

    "ห้องน้ำอยู่ไหน" เสียงหวานเอ่ยถามพลางติดกระดุมกางเกงของตน

     

    "ทางนั้น"

     

    "สูบบุหรี่ได้มั้ย"

     

    "ตามใจ"

    อีทึกพยักหน้ารับเงียบๆก่อนจะเดินไปหากระเป๋าใบเล็กของตนที่วางทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์ในห้องครัว หยิบมวนบุหรี่และไฟแช๊คออกมาแล้วจึงเดินออกไปนอกระเบียง ซึ่งจากที่ฮันคยองเห็น...คนตัวเล็กจุดบุหรี่ขึ้นสูบด้วยท่าทางที่เหมือนเพิ่งจะกลับถึงบ้าน แววตาว่างเปล่าจนน่ากลัวว่าจะเป็นตุ๊กตาจริงๆ...เป็นเทพธิดาแห่งโชคชะตาที่ถูกฟ้ากำหนดให้ชีวิตตกอยู่ภายใต้น้ำตามาตั้งแต่จำความได้ และตอนนี้ก็ถูกส่งลงมาเพื่อเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้เต็มไปด้วยน้ำตา

     



    ........................................................................








    เป็นตอนสั้นๆที่มีความหมายมากมายมหาศาลทีเดียวสำหรับตอนนี้ ไรเตอร์ก็ยังคงขนมุกเดิมกลับมาเล่นใหม่อีกรอบ(หวงว่คงจะยังไม่เบื่อกัน- -") นั่นคือ มุกเทพธิดากับนางฟ้านั่นเอ เป็นคำสองคำที่มีความหมายเหมือนกันเปี๊ยบ แต่สำหรับไรเตอร์....มันให้ความรู้สึกต่างกันค่ะ ใคเดาได้ว่ามันต่างกันยังไง ไรเตอร์จะสปอยเรื่องใหม่ให้ฟัง(หาเรื่องอีกแล้วมัยล่ะกู- -")



    ฟิคนางฟ้าตกสวรรค์กับคนจีนจบแล้วนะจ้ะ ว่างๆก็ไปอ่านกันได้ ใครร้องไห้ไรเตอร์ให้โล่ห์ เพราะในความคิดไรเตอร์ มันไม่ได้เศร้าเอาซะเลย ข้อผิดพลาดประการแรกคือการปรากฏตัวบ่อยเกินไปของไอ้ปลาปากรั่วลีทงเฮนั่นเองแล- -"(ใครอ่านแล้วจะเข้าใจค่ะว่าทำไมถึงเปนแบบนั้น)



    อนหน้า ขอไปดูพ่อหนุ่มมิคกี้ยุชอนบ้างละกันว่าเ
    ปนยังไงบ้าง จะเดาได้กันรึเปล่าหว่าาาา




    ไปแล้วค่ะ รักทุกคนเลยนะ ถึงจะมีคนเกลียดเรา+สาปแช่งเราตอนเว้นตอนก็ตามที- -"





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×