ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หอสมุดต้องห้ามแห่งดาร์คแลนด์

    ลำดับตอนที่ #31 : 10 อันดับสถานที่สยดสยองที่สุดในโลก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.66K
      1
      1 ก.ค. 59

    10 อันดับสถานที่สยดสยองที่สุดในโลก

     
                       สวัสดีค่ะ วันนี้ ห้องสมุดขอนำเสนอข้อมูลดีๆ [ หรือร้ายๆหว่า ] เกี่ยวกับสถานที่ที่โหดร้าย และสยดสยองที่สุดในโลกค่ะ แต่ละที่เรียกได้ว่า ประวัติงดงามกันมากเลยทีเดียว ! จะน่ากลัวขนาดไหน ไปดูกันเลยค่ะ หีๆๆๆๆ


    10. สุสานมัมมี่ ปานาโม : อิตาลี 


     
                       สถานที่แห่งนี้เป็นสุสานเก่า ตั้งอยู่ในเขตปกครองของเหล่านักบวชคาปูชิน [ ไม่ใช่คาปูชิโน่ น่ะค่ะ == ] ณ โบสต์ฟรานซิสกัน เมืองปานาโม เกาะซิซิลี โดยโบสต์แห่งนี้เป็นโบสต์ของศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิค ที่นี้ตามชื่อค่ะ มีซากศพที่กลายเป็นมัมมี่เต็มไปหมด เรียกได้ว่าเยอะเเยะเสียจนไม่มีที่ยืน ! จากรูปจะเห็นร่างของคนใช่ไหมค่ะ นั่นแหละค่ะ คือซากมัมมี่ของปานาโม แต่ศพที่เห็นไม่ได้วางบนพื้นน่ะค่ะ เพราะบนพื้นไม่มีที่วางแล้วจึงต้องนำศพมาแขวนไว้ค่ะ ! เมื่อเราเข้าไปน่ะค่ะ ก็จะเห็นศพในอริยาบถมากมาย ตั้งแต่นั่งบ้าง นอนบ้าง ยืนบ้าง ซ้อนกันบ้าง แขวนกันบ้าง แต่สิ่งที่ทำให้สถานที่นี่ ป๋อปปูล่าก็คงหนีไม่พ้นมัมมี่เด็กค่ะ ทุกๆคนลองสังเกตภาพน่ะค่ะ จะเห็นรูปเด็กนอนหลับอยู่ทางมุมซ้ายค่ะ นั่นคือมัมมี่ที่ดองไว้ 80 ปีแล้วค่ะ ! หนูน้อยคนนี้ชื่อ โรซาเลีย ลอมบาร์โด เสียชีวิตตอน 8 ขวบค่ะ เคยมีคนกล่าวว่า ตอที่เขาเข้าไปดูหนูน้อยโรซาเลีย เขาเห็นหนูโรซาเลียกระพริบตา พร้อมยิ้มให้ค่ะ ! บรื๋อ ~ น่ากลัวน่ะค่ะ !
     

    9. อุโมงค์ปารีส : ฝรั่งเศส


     
                       ที่นี่คือสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเกิดที่นี้ เหตุการณ์นั้นคือ เหตุสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่าค่ะ.... จากรูปทุกๆคนคงเห็นพ้องว่าบรรยากาศนั้นทั้งมืดสลัว น่ากลัวเป็นที่สุด จะเรียกได้ว่าเป็นอุโมงค์ที่คนไม่ชอบใช้ตั้งแต่เริ่มสร้างกันแล้วค่ะ แต่ที่น่าแปลกคือก่อนที่เจ้าหญิงไดอาน่าจะสิ้นพระชนม์ ณ ที่แห่งนี้ วิทยุสื่อสารก็ติดต่อไม่ได้ การสื่อสารทุกอย่างถูกตัดขาด เหมือนมี " บางสิ่งบางอย่าง " รบกวนอยู่ค่ะ


    8. เทือกเขาร้อกกี้ : โคโรนาโด


     
                       ความจริงที่น่ากลัวไม่ใช่สถานที่หรอกค่ะ แต่เป็น " เหตุการณ์ " ที่เกิดขึ้นในสถานที่นี้ต่างหาก เพราะสถานที่นี้เป็นที่ที่เกิดเหตุฆาตรกรรม โดยอัลเบิร์ด แพกเกอร์ คนที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆน่ะแหละค่ะ เขาถูกกล่าวหาว่ากินเพื่อนของเขาไปหลังจากที่เกิดหิมะถล่มจนอาหารหมดค่ะ ล้ายๆซีอุย ของบ้านเราน่ะค่ะ 


    7. หมู่เกาะปาปัวนิวกีนี


     
                       เป็นสถานที่ต้นกำเนิดและรุ่งเรืองของเผ่ากินคนค่ะ ในหมูเกาะเหล่านี้ประกอบด้วยหลายเชื้อชาติซึ่งเป่ากินคนก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยเผ่ากินคนเขาจะกิน " ทั้งตัว " เลยค่ะ เริ่มเเรกก็ฆ่าให้ตายแล้วตัดแบ่งให้ได้ขนาดที่ลงหม้อในภาพได้ ใส่ผักปรุงรสเข้าไป อร่อยเหาะค่ะ เอ้ย ! ไม่ใช่ ส่วนข้าวของเครื่องใช้เขาก็ไม่ทิ้งน่ะค่ะ เช่นนาฬิกาโรเล็กซ์ กระเป๋าหลุยส์วิทตอง เสื้อโปโล และอื่นๆ เผ่านี้เขาก็เอามาต้มและกินค่ะ ! พระเจ้า ! กินลงไปได้ยังไงนี้....
     

    6. ค่ายเอาซวิตว์ : โปแลนด์


     
                       เป็นสถานที่ที่โด่งดังโดดเด่นที่สุดในบรรดาแหล่งบรรเทิงของนาซีเค้าน่ะค่ะ เพราะสถานที่นี้เป็นค่ายกักกันที่ฆ่าคนเยอะที่สุดในบรรดาค่ายกักกันทั้งหมด สถานที่นี้มีการฆ่าแกงทุกวิธีค่ะ เพื่อบางคนยังไม่รู้พิธีกรรมของนาซีเขาน่ะค่ะ ผู้คุมก็จะฆ่าชาวยิวและผู้ต่อต้านฮิตเลอร์ได้ตามสบายค่ะ มีตั้งแต่เบสิคคือ ยิงเป้า กดน้ำ อดอาหาร รัดคอ ปาดส่วนต่างๆ พวกนี้คือวิธีสำหรับนักโทษ 1 ต่อ ผู้คุม 1 ค่ะ แต่ถ้าอยากจะฆ่าทีละมากๆ ก็นู้นค่ะ ห้องรมควันเปิดรออยู่ค่ะ แต่ถ้ายุ่งยากน่ะค่ะพวกเขาก็จับโยนลงเตาเผาเป็นการ ฌาปนกิจ ไปในตัว หนูน้อยชาวยิวชื่อดัง แอนน์ แฟร้งค์ก็อยู่ในค่ายนี้ค่ะ เธอบอกผ่านไดอารี่ว่า เส้นผมของชาวยิวผู้หญิงจะถูกกอนออกจนหมดเพื่อถักเป็นงานฝีมือ ทุกๆวันเธอจะต้องโกยขี้เถ้าที่เกิดจากการเผาศพซึ่งบางวันสูงกว่าเมตรกว่าๆ คนที่มีแรงก็จะถูกใช้งานเกือบตาย ส่วนพวกที่ใกล้จะตาย หรือ เป็น " เด็ก " หรือเป็นคนชรา จะถูกส่งตัวเข้าห้องรมควันเพื่อฆ่าทิ้ง นี้คือส่วนหนึ่งของความเหี้ยมของนาซีน่ะค่ะ.....
    \
    5. เมืองร้างปอมเปอี : อิตาลี




     
                       เป็นสถานที่ที่แต่ก่อนไม่น่ากลัวค่ะ จนถึงเกิดการระเบิดของภูเขาไฟ โดยที่ใครๆไม่คาดคิดค่ะ น่ากลัวน่ะค่ะ กำลังเรียนหนังสืออยู่ดีๆ หรือกำลังกอดลาพ่อแม่อยู่ ลาวาความเร็วสูงก็ถล่มทั้งเมืองค่ะ เรียกได้ว่าคนตายยังไม่รู้ตัวเลยค่ะ ! สภาพในเมืองนั้นจึงมีศพ ! ที่อยู่ในท่าต่างๆ บางคนรู้ตัวพยายามหนีก็ตายในท่าหนี บางคนยืนอยู่ก็ตายในท่ายืน บางคนนอนก็ตายทั้งๆที่นอนอยู่ ที่น่ากลัวคือบางคนกรีดร้องศพก็ยังอยู่ในท่ากรีดร้องจนถึงทุกวันนี้ บางศพอยู่ในท่าปืนกำแพงหลบหนี บางทีก็มีท่าทางที่แสดงถึงความเจ็บปวดสำหรับบางคนที่ตายอย่างช้าๆ เมืองปอมเปอีจึงได้ฉายาว่า " ซากเมืองเเห่งความตาย " ปัจจุบัน ยูเนสโก้ได้บูรณะใหม่และตั้งเป็นมรดกของโลกค่ะ


    4. คุกและหอคอยลอนดอน : อังกฤษ


     
                       เป็นต้นแบบของปราสาทผีสิงในแต่ละเรื่องเลยค่ะ เพราะที่นี้คือพระราชวัง คุก ลานประหาร ที่เรียกได้ว่า 3 in 1 เป็นที่ที่ประหารนักโทศคนสำคัญเช่น พระสนมของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 แอนน์ โบลีน ซึ่งเป็นหญิงคนหนึ่งที่ทำให้เกิดการแบ่งพรรคพวกระหว่าง คนของราชา และ คนของราชินี ตราบถึงทุกวันนี้ ยังมีคนภพเห็นศพของแอนน์ โบลีน ยืนถือหัวของตนกรีดร้องอยู่ กล่าวกันว่าบนหอคอยลอนดอน แห่งนี้ มีอีกาดำมาเกาะอยู่ตลอดเวลา....
     

    3. ปราสาทของ วลาด ดราคูล ณ ทรานซิลเวเนีย : โรมาเนีย

                       มาแล้วค่ะ คอแฟนทไวไลท์ทั้งหลาย ที่นี้คือต้นกำเนิดของตำนานผีดูดเลือดค่ะ ! ปราสาทดูเก่าไปหน่อยเพราะการเวลาน่ะค่ะ แต่โลเกชั่น ที่อยู่บนผาสูง สร้างด้วยอิฐ แถมยังมีเรื่องราว "เลือดๆ " อีกต่างหาก น่าจะพอเพียงน่ะค่ะ เรื่องของเรื่องก็คือเจ้าชายเจ้าของปราสาท วลาด ดราคูล [ป.ล. ดราคูล จากชื่อความจริงแปลว่า มังกร แต่บางที ย้ำน่ะค่ะว่า บางที มันอาจจะเป็นที่มาของ แดร็คคูลล่าก็ได้ หึๆๆ ] โดยเจ้าชายคนนี้ถือคติปกครอง เหี้ยม โหด และซาดิสต์ เข้าไว้ค่ะประมาณว่าใครขโมยของโดน ! ที่ว่าโดนเนี่ยไม่ใช่โดนอะไรน่ะค่ะ โดนเสียบไม้ประจารค่ะ ^^ คุณวลาด เขามีรสนิยมที่ไม่ค่อยเหมือนคนอื่นเขาสักหน่อยน่ะค่ะ นั้นคือชอบดูการ " ถูก " เสียบเป็นชีวิตจิตใจค่ะ พวกเชลยศึกสมัยนั้นต้องภาวนาเลยน่ะค่ะว่า เป็นเชลยประเทศไหนก็ได้ ยกเว้น เชลยของวลาดเท่านั้น เพราะถ้าเป็นแล้ว รอดยาก ! ค่ะ ทั้งทหารที่ขี้เกียจ หญิงแก่ที่ขี้โกง หรือแม้แต่ หญิงสาวที่ล่อลวงผูชายก็ไม่เว้นค่ะ ! ต้องพาลโดนลากมาเสียบเป็นประจำ จึงมีบางตำนานว่า ท่านวลาดชอบเอาแก้วไวน์ไปรินเลือดจากไม้เสียบมาดื่ม จนเป็นที่มาของแดร็กคิวล่า ยังไงล่ะค่ะ บรึ่ย~
     

    2. อัลคาแทรซ : ซานฟรานซิสโก


     
                       หากโลกเวทมนตร์มีคุกอัซคาบันเป็นคุกที่โหดเหี้ยม โลกมักเกิ้ลก็นี่แหละค่ะ อัลคาแทรซ... ด้วยความเหมือนกันอย่างน่าประหลาดคือ 1.เป็นเกาะ 2. เป็นคุก 3. โหดร้ายทารุณ 4. คลื่นลมทะเลรอบคุกปั่นป่วนเสมอๆ 5. ส่วนใหญ่คุมขังแต่เฉพาะตัวบิ๊กๆ หรือเรียกได้ว่าโหดมากๆ 6. ชื่อคล้ายกัน และ 7. ไม่มีใครเคยรอดไปได้ ! [ ยกเว้นคุณเบลล่าทริกและพรรคพวกที่เก่งกาจไว้นี้ดนึง ] ด้วยเหตุนี้อัลคาแทรซ จึงเป็นคุกที่สยองขวัญไม่น้อย มีนักโทษตายอยู่ในนี้เป็นเบือ แน่นอนบางส่วนก็ตายเพราะความโหดร้าย จนถึงทุกวันนี้ยังได้ยินเสียงประตูกรงขังปเดปิดเองได้ ได้ยินเสียงกรีดร้อง และเหมือนมีคนเฝ้ามองอยู่ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของซานฟรานซิสโก แถมยังเปิดให้พักได้ด้วย บางทีอาจจะได้บรรยากาศอัซคาบันไปอีกแบบ... สนใจไหมค่ะ ^^~


    1. คิลลิ่ง ฟิลด์ : กัมพูชา


     
                       ในภาพจะเห็นหัวกะโหลกมากมาย แต่นี้เป็นส่วนหนึ่งในหลายๆล้านโครงเท่านั้นต่ะค่ะ ! ศพเหล่านี้ถูกฆ่าในที่แห่งนี้ในสงครามเขมรแดง สงครามที่โหดร้ายทารุณที่สุดเพราะเชื่อไหมว่า ? ชาวเขมรแดงได้ฝึกเด็กชาวเขมรธรรมดาไปฝึกฆ่าคนให้กลายเป็นหุ่นไร้ความสำนึก แล้วจากนั้นเขาทำอะไรรู้ไหมค่ะ ?......เขาสั่งให้เด็กๆกลับบ้านและเชือดฆ่าคนในครอบครัวทั้งหมดทิ้งซะภายในคืนนั้น ศพแล้วศพเหล่าทั้งพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ทั้งพี่น้อง รวมถึงเด็กทารก ถูกนำมากองเรียงรายเป็น่สวนหนึ่งของการฆ่าที่เหี้ยมโหด จนหลังจากสงครามครั้งนั้นมีคนตายเป็นชาวเขมรกว่าหลายล้านคน นับว่าเป็นการฆ่าที่โหดร้ายที่สุดในฝั่งเอเชีย [ ฝั่งยุโรปคือนาซีนั่นเอง ] แต่ทางนาซีเขายังเผาให้ [ ความจริงคือไม่มีที่เก็บ ] แต่ของเขมรนี้ปล่อยทิ้งไว้บ้าง ฝังชุ่ยๆบ้าง จนภายหลังทางการจึงมาบูรณะและจัดเก็บให้เรียบร้อย เชื่อหรือไม่ว่าบางคืนจะได้ยินเสียงกะโหลกร้องกันระงมถึงความเจ็บปวด และ ความเศร้าสลด ที่ถูกคนในครอบครัวฆ่า น่ากลัวไหมค่ะ ! .........


     
     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×