ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Break Down! ภารกิจพิชิตรักร้ายนายจอมหยิ่ง

    ลำดับตอนที่ #11 : Break 9: The Ending Part [Re]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 193
      0
      31 มี.ค. 56

     



     

    9

    The Ending Part

     

    “ลีน!” เสียงเรียกที่แสนคุ้นเคยดังขึ้น มือของใครบางคนจับหมับเข้าที่แขนฉัน ฉันสะดุ้งสุดตัวเพราะมัวแต่จมอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองแม้ว่ามือจะกำลังไขกุญแจบ้านอยู่ก็ตาม

    เฮนรี่ไล่สายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะถามด้วยความตกใจ

    “นี่ลีน...ไปทำอะไรมาเนี่ย?!

    “ก็อย่างที่เห็น” ฉันถอนหายใจยาว ไม่ใช่จะกวนประสาท ไม่มีอารมณ์ด้วย แต่ที่พูดออกไปแบบนั้นเพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไรจริงๆ “ว่าแต่นายมาทำอะไรที่นี่”

    ฉันถามกลับอย่างจงใจจะเปลี่ยนเรื่องประจวบเหมาะกับเปิดประตูบ้านได้พอดีก็เลยเดินนำเฮนรี่เข้าไปข้างใน อุตส่าห์นั่งแท็กซี่มาลงที่บ้านเพราะไม่อยากให้ใครเห็นตัวเองในสภาพนี้ก็ยังเจอหมอนี่อีกจนได้ เฮนรี่ไม่ตอบคำถามของฉันหากแต่ดึงแขนฉันให้หันหลังกลับไปหาเขาและถามคำถามเดิมอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าเดิม

    “บอกเรามาเดี๋ยวนี้นะลีน เธอไปทำอะไรมา!

    จะให้ตอบว่าอะไรดีล่ะ?! ลงมือทำเค้กเองแล้วก็เสร่อหิ้วไปให้เขาละเลงใส่หน้าถึงที่เองกับมืองั้นเหรอ

    “ลีน! เธอจะบอกฉันหรือต้องให้พี่มาการองเป็นคนถาม”

    “อย่านะ!! นายห้ามบอกพี่มาร์เด็ดขาดนะเฮนรี่!” ฉันลืมตัวตวาดเสียงดังทันทีที่ได้ยินไอ้เพื่อนตัวแสบแอบอ้างเอาพี่สาวทูนหัวของฉันมาขู่ แต่เฮนรี่ก็ยังคงจ้องหน้าฉันไม่ละสายตาไปไหน แถมแววตาที่ฉายชัดถึงความห่วงใยของเขายิ่งทำให้ฉันรู้สึกผิดจนต้องใจอ่อนยอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เขาฟัง เอาเถอะ ถ้าเป็นเฮนรี่ อย่างน้อยก็ยังพอมีหวังที่ฉันจะขอร้องให้เขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้แม้จะรู้ดีว่าตอนที่เฮนรี่สติแตกนั้นเป็นยังไง แต่ถ้าเรื่องนี้ถึงหูพี่มาร์เมื่อไหร่ล่ะก็...

    ไม่อยากจะคิด (.__.)

     

     

    สิบนาทีผ่านไป

    แล้วก็เป็นอย่างที่ฉันคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด

    “ปล่อยนะลีน!! เธอไปหาหมอนั่นแต่กลับโดนคนอื่นรังแกมาแบบนี้แล้วยังจะมาห้ามฉันไม่ให้ไปเอาเรื่องมันอีกเหรอ!!” เฮนรี่ตวาดลั่นหลังจากที่ฟังฉันเล่าเรื่องทั้งหมดจนจบและบอกว่าจะออกไปเอาเลือดหัวฮีวอนออกแต่ถูกฉันเกาะแข้งเกาะขาห้ามไว้ซะก่อน ตอนนี้สภาพเราสองคนเลยดูเหมือนฉันเป็นเมียเฮนรี่ที่ถูกสามีจับได้ว่ามีชู้และกำลังอ้อนวอนขอร้องไม่ให้สามีไปเอาเรื่องชู้ยังไงยังงั้น –_–;

    “แต่มันไม่ใช่ความผิดของเขาเลยนะ อีกอย่าง เขาก็ไม่ได้ชวนฉันด้วย ฉันเองต่างหากที่เสร่อไปเอง” 

    ฉันรั้งแขนเฮนรี่ที่กำลังจะเดินไปขึ้นรถเอาไว้และพยายามหาเหตุผลมาโน้มน้าวให้เขาใจเย็นลง แต่กลับกลายเป็นว่ามันยิ่งทำให้เฮนรี่อารมณ์เสียเข้าไปใหญ่ที่ฉันพยายามจะปกป้องฮีวอนแต่สุดท้ายก็ยอมนั่งลงบนโซฟาตามเดิมแต่โดยดี ฉันทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เฮนรี่ บรรยากาศกลับคืนสู่ความเงียบอีกครั้ง ฉันรู้สึกเหนียวเหนอะหนะไปทั้งตัวมากและอยากอาบน้ำเต็มทนแต่ก็กลัวว่าถ้าปล่อยเฮนรี่เอาไว้คนเดียว เขาจะอาศัยโอกาสนั้นหุนหันพลันแล่นออกไปเอาเรื่องฮีวอนอีก

    “นายห้ามบอกพี่มาร์เด็ดขาดเลยนะ ฉันขอร้อง” ฉันเอ่ยขึ้นมาเพื่อทำลายความความเงียบและเพื่อย้ำให้แน่ใจอีกครั้งว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นความลับระหว่างฉันกับเขา

    “เราถามจริงๆ เถอะ ลีนรักหมอนั่นหรือเปล่า” เฮนรี่หันมามองหน้าฉันทำเอาฉันที่ไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจและเตรียมคำตอบของคำถามนี้เอาไว้ล่วงหน้าต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาและเสมองไปทางอื่นแทน

    รัก...หรือเปล่า

    งั้นเหรอ...

    “เปล่า” ฉันตอบออกไปตามสิ่งที่ตัวเองคิด ใช่...ฉันตอบออกไปตามสิ่งที่สมองสั่งการ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโกหกอยู่

    โกหกทั้งเฮนรี่...

    โกหกทั้งตัวเอง...

    “ลีนไปอาบน้ำเถอะ” อยู่ดีๆ เฮนรี่ก็เปลี่ยนเรื่อง

    “นาย...จะไม่ออกไปเอาเรื่องฮีวอนใช่ไหม” ฉันถามด้วยสายตาวิงวอน ถึงตอนนี้หมอนี่จะดูเหมือนอารมณ์เย็นลงบ้างแล้วแต่ก็ใช่ว่าจะประมาทได้ซะที่ไหน

    “ถ้าเราบอกว่าจะไป ลีนจะนั่งเฝ้าเราทั้งวันทั้งคืนเลยเหรอไง ไปอาบน้ำเถอะ พี่มาร์ให้เรามาเอาของ เดี๋ยวเราต้องกลับไปที่ร้านอีก”

    “ห้ามบอกพี่มาร์ด้วยนะ”

    “รู้แล้วน่า ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ สกปรกจะตายอยู่แล้ว”

    “สัญญานะ?”

    เฮนรี่เงียบไป

    “อืม สัญญา” แต่สุดท้ายก็ยอมจำใจสัญญาออกมาแต่โดยดี

     

     

    ~

    เสียงโทรศัพท์ที่นอนแอ้งแม้งอยู่ตรงไหนสักแห่งบนเตียงดังขึ้นปลุกฉันให้ตื่นจากห้วงนิทรา ฉันขยี้ตาด้วยความงัวเงียก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟที่วางอยู่ข้างเตียง จำไม่ได้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหน แต่ตอนนี้นาฬิกาวงกลมที่แขวนอยู่บนผนังกำลังบอกเวลาเที่ยงคืนสี่สิบนาที

    ฉันเลิกผ้าห่มออกแล้วพยายามมองหาแสงไฟจากหน้าจอและก็พบว่ามันกำลังส่องสว่างและสั่นดุ๊กดิ๊กอยู่ปลายเตียง ชื่อที่ปรากฎบนหน้าจอทำเอาฉันใจกระตุกวูบไปเล็กน้อย ความคิดที่จะไม่รับสายแว่บเข้ามาในหัวในขณะที่มือเจ้ากรรมดัน Slide รับสายไปก่อนเรียบร้อยแล้ว

    [ฮัลโหล]

    ฉันทำอะไรลงไป อาร๊ายยยยยยยยย!! TT^TT

    [ฮัลโหล]

    กรี๊ดดดด ฉันไม่รู้จะคุยอะไรนะ ไม่เอาไม่พูด TT^TT

    [นี่เธอ! บ้านฉันไม่ใช่องค์การโทรศัพท์นะที่จะได้โทรฟรีตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง รับแล้วก็ช่วยตอบอะไรหน่อยสิ อยู่ดีๆ ก็เป็นใบ้ขึ้นมากะทันหันหรือไง]

    –O–

    “มีอะไร โทรมาซะดึกเชียว” ฉันกรอกเสียงแข็งๆ ตอบกลับไปอย่างจงใจ แต่ด้วยความที่เพิ่งตื่น มันเลยฟังดูงัวเงียเหมือนคนกำลังหงุดหงิดเพราะง่วงนอนซะมากกว่า ช่างเถอะ จะหงุดหงิดหรือเย็นชา มันก็ความหมายเดียวกันคือฉันไม่อยากคุยนั่นแหละ

    [วันคริสมาสต์แล้ว...]

    “แล้วไง?”

    [จะแล้วไงล่ะ ก็เมอรี่คริสมาสต์ไง ถามมาได้]

    ถึงน้ำเสียงของเขาจะฟังดูเรียบๆ ออกแนวเหวี่ยงๆ ด้วยซ้ำและถึงมันจะไม่ใช่คำพูดที่พิเศษอะไรแถมยังเป็นเหมือนธรรมเนียมที่ใครๆ ก็พูดกันในวันนี้ แหงล่ะ ก็วันคริสมาสต์นี่น่า จะให้โทรมาถาม Trick or Treat มันก็ไม่ใช่ แต่ไม่รู้ทำไม...บนหน้าฉันถึงมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาได้นะ...

    “เมอ..” ฉันกำลังจะอ้าปากบอกเมอรี่คริสมาสต์เขากลับ แต่ก็ถูก อะไรบางอย่างที่เพิ่งแล่นเข้ามาในหัวอย่างกะทันหันหยุดเอาไว้ซะก่อน

    [ฮะ?]

    “มีอะไรอีกไหม”

    […]

    “ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็แค่นี้นะ ฉันจะนอน”

    ฉันกดตัดสายทิ้งแล้วปิดเครื่องก่อนจะโยนโทรศัพท์เข้าไปหมกในกองผ้าห่ม อะไรบางอย่างที่ว่าก็คือภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้

    สิ่งที่ทำให้ฉันคิดว่าตัวเองควรจะหยุดซะทีไงล่ะ!

    ก๊อกๆๆ

    เสียงเคาะประตูหนักๆ ดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงเรียกของพี่มาร์

    “ลีน เปิดประตูให้พี่หน่อย”

    ฉันลุกขึ้นจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้พี่สาวบังเกิดเกล้าที่เพิ่งกลับมาจากร้าน เออ! จริงด้วย ลืมไปซะสนิทเลยว่าวันนี้...หรือเมื่อวาน...เออนั่นแหละ ลืมสนิทเลยว่าร้านจะปิดเที่ยงคืนเพราะเป็นวันคริสมาสตร์อีฟที่ลูกค้าเยอะมากกกกกกกกกกกกก ลากกอไก่ยาวไปได้ถึงเชียงใหม่

    วันนี้มันวันซวยอะไรของฉันเนี่ย โดนสวดหูชาแน่ยัยมาเดอลีน บอกว่าจะออกมาแค่แป๊บเดียวแต่กลับหายต๋อมมาทั้งวันแบบนี้ T^T

    “นอนอยู่เหรอ” พี่มาร์เอ่ยถามหลังจากที่มองเข้ามาในห้องแล้วพบเพียงแค่แสงจากโคมไฟหัวเตียงเท่านั้นที่ส่องสว่างอยู่ “ขอพี่คุยด้วยหน่อยสิ”

    น้ำเสียงจริงจังของพี่มาร์ทำเอาฉันใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม จากที่คิดว่าพี่มาร์จะบ่นเรื่องที่ไม่ได้กลับไปช่วยงานที่ร้านในหัวดันพาลไปนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ไหนเฮนรี่สัญญาว่าจะไม่บอกใครแล้วไง ถ้าเรื่องที่พี่มาร์จะคุยด้วยเป็นเรื่องนี้ล่ะก็ สาบานว่าฉันจะไม่ปล่อยอีตานั่นเอาไว้แน่ กล้าดียังไงมาผิดคำพูดกับฉัน!

    ฉันปิดประตูห้องแล้วเดินตามพี่มาร์เข้าไปนั่งลงบนเตียง

    “ลีน มีอะไรจะบอกพี่หรือเปล่า” พี่มาร์เอื้อมมือมาจับมือฉัน สีหน้าที่แสดงถึงความเป็นห่วงทำให้ฉันรู้สึกผิดที่คิดจะเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นไว้เป็นความลับแต่ก็ยังแกล้งทำเป็นตีหน้าซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรต่อไปเพราะถึงจะรู้สึกผิด แต่ยังไงฉันก็ไม่อยากให้พี่มาร์ต้องมาเป็นห่วงกับความสิ้นคิดของฉันอยู่ดีนี่น่า

    “หมายถึงเรื่องอะไรเหรอคะ” ฉันถามหยั่งเชิง พี่มาร์ถอนหายใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจิ้มๆ กดๆ แล้วส่งให้ฉัน ภาพที่ปรากฎบนหน้าจอทำเอาฉันแทบอยากเป็นลมล้มตึงไปซะให้มันรู้แล้วรู้รอดเดี๋ยวนี้เลย

    เพราะสิ่งที่ฉันกลัวพี่มาร์รู้มันไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้...

    แต่เป็นรูป!

    ...รูปนี้มาอยู่กับพี่มาร์ได้ยังไง!!

    ...รูปที่วิสกี้ขู่จะใช้แบล็คเมล์ฉัน!!!

    “มีอะไรจะอธิบายให้พี่ฟังไหม”

    “มัน...มันไม่ใช่อย่างที่พี่มาร์คิดนะ อย่าไปเชื่อยัยนั่นนะคะ” ฉันรีบปฏิเสธ

    “พี่ไม่ได้เชื่อใครทั้งนั้น คนเดียวที่พี่จะเชื่อคือลีน แต่ลีนกลับเลือกที่จะปิดบังพี่ เพราะฉะนั้นสิ่งที่พี่จะเชื่อก็คือสิ่งที่พี่เห็น”

    “แต่ว่า...”

    “ไม่ว่าลีนจะทำลงไปเพื่ออะไร แต่นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พี่ขอสั่งไม่ให้เราไปพบไปเจอผู้ชายคนนี้อีกเด็ดขาด!! แค่ร้านเค้กร้านเดียว พี่ดูแลเองได้!

    พี่มาร์คว้าโทรศัพท์จากมือฉันคืนแล้วเดินออกจากห้องไปทันที ถึงฉันจะผิดหวังที่แม้แต่พี่สาวคนเดียวก็ยังไม่เชื่อใจฉัน แต่ฉันก็เข้าใจดีในเมื่อคนที่ไม่คิดจะพูดความจริงกับพี่มาร์ก่อนคือฉันเอง ฉันล้มตัวลงบนเตียงพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลออกมาอย่างไม่มีเหตุผล

    เรื่องราวตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันจนกระทั่งวันนี้ฉายซ้ำอีกครั้งในห้วงความคิดของฉัน

     

    แต่ถ้าเมื่อใดที่เธอเป็นฝ่ายหลงรักฉัน เธอจะต้องออกไปจากชีวิตฉันแล้วอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก...ตลอดไป!

     

    “ไม่ว่าลีนจะทำลงไปเพื่ออะไร แต่นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พี่ขอสั่งไม่ให้เราไปพบไปเจอผู้ชายคนนี้อีกเด็ดขาด!! แค่ร้านเค้กร้านเดียว พี่ดูแลเองได้!

     

    จบแล้วสินะ...

    นี่เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วจริงๆ งั้นเหรอ ฮีวอน...


     






    To be continued…



    ติดตามเรื่องนี้ Click!

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×