ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตำนานเมือง เครสเซนต์คาสเตล
ตำนานของเมือง
สัญลักษณ์ อินทรีย์มัจฉา
ตำนานเล่าว่ากาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพญาอินทรีย์ได้อพยพมาอาศัยอยู่ในทะเลทรายอันแห้งแล้ง พญาอินทรีย์ที่ได้เห็นพื้นทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตาก็เกิดความเวทนาต่อพื้นธรณี หลังจากนั้นจึงเริ่มบินขึ้นไปบนสวรรค์ เพื่อไปขอร้องเหล่าเทพยดาให้ช่วยประทานสายน้ำให้กับพื้นทรายอันแห้งแล้งผืนนั้น เหล่าเทพที่ได้ฟังคำวอนจึงประทานทะเลสาบเล็กๆให้เพื่อใช้ประทังชีวิต พญาอินทรีย์กลับมาและได้ใช้ดื่มน้ำจากทะเลสาบนั้นเรื่อยๆมา
แต่นานวันเข้าน้ำนั้นก็เหือดแห้งหายไปทิ้งเอาไว้เป็นแอ่งทรายขนาดใหญ่ พญาอินทรีย์จึงโผบินขึ้นสู่ท้องฟ้ามองหาแหล่งน้ำด้วยหวังจะใช้ในการประทังชีวิตต่อไป จนกระทั่งได้ไปเจอกับขอบทะเลที่กว้างใหญ่ พญาอินทรีย์รีบโผบินเข้าไปหวังจะไปดื่มน้ำที่นั่น แต่กลับถูกเทพแห่งท้องทะเลสั่งห้าม พญาอินทรีย์วิงวอนขอแบ่งน้ำเพื่อประทังชีวิตและหวังจะนำน้ำกลับไปยังผืนดินของตนเอง
เทพแห่งท้องทะเลจึงยื่นเงื่อนไขเพราะความสงสารว่า จะยอมยื่นขอบทะเลออกไปยังผืนทะเลทรายแห่งนั้น หากแต่ตัวพญาอินทรีย์นั้นจะต้องมีรูปร่างกึ่งมัจฉา พญาอินทรีย์ยินดียอมตกลง หลังจากนั้นไม่นานขอบทะเลก็ถาโถมเข้าสู่ผืนทรายเติมเต็มแอ่งทะเลสาบจนกลายเป็นอ่าวพระจันทร์เสี้ยว
แต่เพราะรูปร่างของพญาอินทรีย์ที่มีเกล็ดปลาตั้งแต่สันหลังเรื่อยไปจนจรดปลายหางเป็นครีบปลาดูผิดรูปร่างวิหค ทำให้อินทรีย์ตัวอื่นๆขับไสไล่ส่ง พญาอินทรีย์เหลือตนอยู่เพียงลำพังจึงอาศัยอยู่ที่ทะเลทรายแห่งนั้น และพยายามใช้น้ำรดลงบนผืนทรายให้ทั่วหวังจะให้ผืนทรายอันแห้งแล้งชุ่มฉ่ำจนปลูกพืชได้
ทว่าวันแล้ววันเล่าผืนทรายยังคงสูบน้ำให้เหือดแห้งลงไปเช่นเดิม แต่พญาอินทรีย์ก็ยังคงนำน้ำรดบนผืนทรายอยู่เช่นนั้นอย่างไม่ย่อท้อจิตใจ จนกระทั่งเทพยดาเห็นใจประทานพรให้ขนปลายปีกของพญาอินทรีย์นั้นให้มีสีเขียวอ่อนดั่งยอดใบไม้ผลิ และเมื่อโบกสะบัดสายลมจากปีกคู่นั้นก็ยเกิดต้นปลามและพืชพันธุ์ไม้พุ่มขึ้น พญาอินทรีย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งจากนั้นจึงเริ่มโผบินไปทั่วผืนทรายพัดพาให้พืชผลนั้นงอกเงยขึ้นมาสู่แสงตะวัน
แต่วันเวลาผ่านไปเมื่อมนุษย์ได้พบเห็นและย่างกรายรุกล้ำเข้ามา พวกมันถางต้นไม้จนกลายเป็นเส้นทางและเริ่มสร้างบ้านเรือนอยู่ริมขอบทะเล พญาอินทรีย์เห็นทีแรกก็ยินดีให้อยู่อาศัย แต่ต่อมาเมื่อมนุษย์เห็นอำนาจวิเศษของพญาอินทรีย์ พวกมันจึงจับตัวและมัดร่างของพญาอินทรีย์เอาไว้และบังคับให้เสกพืชเฉพาะในหมู่บ้านของตน
แต่วันเวลาผ่านไปเมื่อมนุษย์ได้พบเห็นและย่างกรายรุกล้ำเข้ามา พวกมันถางต้นไม้จนกลายเป็นเส้นทางและเริ่มสร้างบ้านเรือนอยู่ริมขอบทะเล พญาอินทรีย์เห็นทีแรกก็ยินดีให้อยู่อาศัย แต่ต่อมาเมื่อมนุษย์เห็นอำนาจวิเศษของพญาอินทรีย์ พวกมันจึงจับตัวและมัดร่างของพญาอินทรีย์เอาไว้และบังคับให้เสกพืชเฉพาะในหมู่บ้านของตน
เมื่อนานวันเข้าหัวใจที่ปรารถนาท้องฟ้าก็บังคับให้พญาอินทรีย์หนีไป เหล่ามนุษย์ที่ไร้ผู้เสกสรรธรรมชาติจึงต้องประทังชีวิตด้วยพืชผลที่แห้งตาย พญาอินทรีย์สัญญากับตัวเองตั้งแต่นั้นมาว่าจะเสกสรรพืชผลบนทะเลทรายนี้ให้กับผู้ที่คู่ควรเท่านั้น จนกระทั่งผ่านไปห้าร้อยปีพญาอินทรีย์ได้พบกับมนุษย์ผู้ใกล้ตาย เขาได้ขอข้อแลกเปลี่ยนกับพญาอินทรีย์ทันทีว่า "จงช่วยเราและลูกหลานของเราแลกกันนั้น เราจะดูแลพืชของท่านให้เติบโตตราบจนสิ้นตระกูลของเรา"
และด้วยคำสัญญานั้นพญาอินทรีย์จึงได้ช่วยเหลือจนมนุษย์ผู้นั้นกับครอบครัวได้อาศัยผืนทรายแห่งนั้นจนกลายเป็นเมืองใหญ่ที่อุดมด้วยพืชผลมากคุณค่าไม่ทอดทิ้งดั่งเช่นมนุษย์ที่เคยเจอะเจอมา พญาอินทรีย์จึงบอกกับเจ้าเมืองผู้นั้นว่าจะกลับมาเสกสรรค์พืชไร่ให้ทุกคืนจันทร์เพ็ญต้นฤดูหนาวตราบเท่าที่เจ้ายังไม่ทอดทิ้งผืนแผ่นดินนี้ไป
และด้วยคำสัญญานั้นพญาอินทรีย์จึงได้ช่วยเหลือจนมนุษย์ผู้นั้นกับครอบครัวได้อาศัยผืนทรายแห่งนั้นจนกลายเป็นเมืองใหญ่ที่อุดมด้วยพืชผลมากคุณค่าไม่ทอดทิ้งดั่งเช่นมนุษย์ที่เคยเจอะเจอมา พญาอินทรีย์จึงบอกกับเจ้าเมืองผู้นั้นว่าจะกลับมาเสกสรรค์พืชไร่ให้ทุกคืนจันทร์เพ็ญต้นฤดูหนาวตราบเท่าที่เจ้ายังไม่ทอดทิ้งผืนแผ่นดินนี้ไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น