ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าสาวบ้านไร่

    ลำดับตอนที่ #2 : เดินทางสู่บ้านไร่

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 395
      2
      1 เม.ย. 54

     

    อนยูกลับเข้าบ้านในเวลาเกือบเที่ยงเมื่อจอดรถแล้วก็แปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นมีรถยนต์ที่ไม่คุ้นตาจอดอยู่แต่ก็ไม่ได้ใส่อะไรนักเพราะตอนนี้เขากำลังเซ็งสุดๆ หลังจากเมื่อเช้าไปยื่นใบลาออกจากบริษัทแล้วก็แวะไปหาปาร์คแจบอมกับฮวางชานซองเพื่อนสนิทแต่ทั้งสองคนก็ไม่อยู่บ้าน แต่คิดอีกทีก็ดีเหมือนกันถ้าสองคนนั่น รู้ว่าลีจินกิต้องแต่งงานกับผู้ชายก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

    “เฮ้ออ”

    ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วเปิดประตูก้าวลงจากรถเดินตรงเข้าบ้าน เมื่อผ่านห้องรับแขกคิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันทันที เมื่อพบแขกของแม่ที่คาดว่าจะเป็นเจ้าของรถคันที่จอดอยู่หน้าบ้าน ชายหนุ่มร่างอวบกำลังคุยอย่างออกรสกับคุณนายลี

    “อ้าว อนยูกลับมาแล้วเหรอลูก”

    เสียงใสๆของคุณนายลีทักชายร่างอวบจึงหันมองตาม อนยูโค้งให้เขาตามมารยาท

    “คนนี้แหละค่ะลีจินกิลูกชายคนโตของฉัน เรียกอนยูก็ได้ ส่วนนี่คือคุณชินดงเป็นของคุณมินโฮจะมารับลูกไปบ้านไร่จ๊ะ”

    คุณนายลีแนะนำอนยูได้ยินประโยคหลังแล้วหน้าเหวอทันที

    “มารับผม?

    “ใช่ครับ คุณมินโฮสั่งให้ผมมารับคุณ” ชินดงตอบ

    “แต่

    “แต่อะไรจ๊ะ อย่าบอกนะว่าลืมก็เมื่อวานแม่บอกลูกแล้วว่าคนของคุณมินโฮจะมารับลูกวันนี้”

    ลีจินกิไม่ลืมหรอกครับแต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมยังไม่ทันเตรียมใจเลย

    “คือผมยังไม่เก็บของเลยฮะ”

    “อ๋อเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกจ๊ะ แม่เก็บให้เรียบร้อยแล้วตอนนี้ข้าวของของลูกก็เก็บขึ้นรถแล้ว จะเหลือก็แต่ตัวลูกนั่นแหละ”

    คุณนายลีดาเฮช่างเป็นคุณแม่ที่แสนดีอะไรเช่นนี้ คุณเธอจัดการแทนลูกชายเสร็จสรรพเรียบร้อยเลย

    “แต่แม่ฮะ ผมไปแล้วใครจะดูแลแม่” ยังพยายามหาข้ออ้าง

    “ไม่ต้องห่วงแม่หรอก แม่ดูแลตัวเองได้แล้วก็ยังมีคีย์กับแทมินอีกทั้งสองดูแลแม่แทนลูกได้”

    “แต่

    “ไม่มีแต่ ลูกรับปากแม่แล้วนะ และเราผิดสัญญาไม่ได้แล้วลูกก็รู้นิ”

    หมดหนทางแล้วยังไงก็ต้องไปสินะ  อนยูก้มหน้านิ่งลีดาเฮลุกจากโซฟาเดินไปดึงมือลูกชาย

    “คุณชินดงรอสักครู่นะคะ”

    บอกอีกฝ่ายแล้วกึ่งลากกึ่งจูงอนยูขึ้นบันไดตรงไปที่ห้องนอนของเธอ

    เมื่อไปถึงก็ดึงตู้เซฟตัวเดิมที่ใส่เอกสารสัญญาการหมั้นออกมาจากใต้เตียงอีกครั้ง เมื่อไขกุญแจตู้ได้เธอก็หยิบของในนั้นออกมาเป็นกล่องกำมะหยี่สีแดงกล่องเล็ก

    “อะไรครับแม่”

    แทนคำตอบคุณนายลีเปิดกล่องกำมะหยี่นั้นออกแล้วหยิบของในนั้นออกมาชูตรงหน้า

    “แหวนเหรอ”
    "ใช่จ้ะ แหวนหมั้นที่ระบุในสัญญา"

    อนยูมองแหวนที่คุณนายลีชูให้ดูตรงหน้า ตัวแหวนทำจากทองคำขาววาววับที่หัวแหวนเป็นเพชรเม็ดเล็กๆหนึ่งเม็ดส่องประกายวิบวับๆ จริงๆมันก็สวยดีนะ

    “แหวนหมั้น วงนี้เป็นของลูก”
    คุณนายลีบอกและก็ไม่พูดเปล่าเธอดึงมือซ้ายของลูกชายมาแล้วจัดการสวม ไม่สิยัดแหวนหมั้นใส่ที่นิ้วนางทันทีและช่างบังเอิญหรือเปล่าก็ไม่รู้แหวนหมั้นเพชรวงงามพอดีกับนิ้วเรียวของอนยูเป๊ะเลย

    “ไม่นะผมไม่ใส่”

    ชักมือกลับทำท่าจะดึงแหวนออกจากนิ้วเรียวแต่คุณนายลีจ้องด้วยสายตาดุ

    “ห้ามถอด ”

    “แต่

    “ไม่มีแต่ ไปได้แล้วคุณชินดงมารอลูกนานแล้วให้ผู้ใหญ่รอนานไม่ดีนะ แม่ไปส่งที่รถนะจ๊ะ”

    เปลี่ยนเป็นเสียงสดใสแล้วโอบไหล่พาอนยูลงมาข้างล่างที่มีชินดงชายร่างอวบนั่งรออยู่

    “คุณชินดงคะ ลูกชายฉันพร้อมแล้วค่ะ”
    "แม่อ่ะ..แต่คีย์กับแทมิน...ผมอยากรอน้องๆก่อน" บอกเสียงเศร้า
    "ไปถึงแล้วค่อยโทรมาหาน้องก็ได้นี่จ๊ะ"
    "..." ก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเอง...T T อนอยากร้องให้
    "อนยูลูกรัก แม่รักลูกนะคนดีของแม่"
    บอกพร้อมดึงตัวลูกชายให้โน้มลงมาแล้วจุมพิตที่หน้าผากเบาๆในใจจริงๆก็เห็นใจลูกแต่ทางโน้นก็ทวงสัญญาและความจริงอีกอย่างที่เธอไม่ได้บอกอนยูก็คือชเวมินโฮเป็นคนเลือกเอง ว่าที่เจ้าสาวหรือคู่หมั้นของเขาต้องเป็น "ลีจินกิ"เท่านั้น
    "เดินทางได้แล้ว คุณชินดงคะ" แล้วก็หันไปเรียกและพยักหน้าคนร่างอวบอีกครั้ง

    “ครับ เชิญที่รถเลยครับคุณอนยู เชิญครับ”
    อนยูยังอิดออดไม่ยอมขึ้นรถง่ายลีดาเฮต้องทั้งปลอบทั้งขู่จนสุดท้ายก็ยัดลีจินกิใส่รถได้สำเร็จ

    เมื่อบังคับยัดลูกชายขึ้นรถสำเร็จแล้วคุณนายลีก็ยืนโบกมือลาอยู่หน้าบ้าน

    “โชคดีนะลูก ขอให้มีความสุขกับว่าที่เจ้าบ่าวน้า”

     คุณนายลีตะโกนอวยพรเสียงใสตามหลังรถที่เคลื่อนตัวออกจากบ้านและยืนมองจนลับตา

                ตลอดการเดินทางอนยูนั่งเงียบเหม่อมองออกหน้าต่างและไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มือหนาของชินดง เขย่าตัวเบาๆ

    “คุณอนยูครับ ตื่นเถอะครับ ถึงแล้ว”

    “อือ”

    ครางเบาๆลืมตาแล้วลุกพรวดขึ้น หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยแล้วหลับได้ยังไงขนาดเบาะที่นั่งถูกปรับเอนตอนไหนยังไม่รู้ตัวเลย สถานการณ์แบบนี้ยังหลับได้นะลีจินกิ

                เมื่อลงจากรถได้สายตาก็มองสำรวจไปรอบๆทันทีตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้ม เบื้องหน้าเป็นบ้านสองชั้นธรรมดาแบบที่เคยเห็นทั่วไปด้านขวามีโรงจอดรถส่วนฝั่งมีระเบียงยื่นออกมาจากตัวบ้าน และที่ระเบียงนั่นก็มีโต๊ะกลมพร้อมเก้าอี้ที่เข้าชุดกันตั้งอยู่สี่ตัว มีสนามหญ้ากว้าง  แล้วรั้วบ้านก็เป็นรั้วไม้เตี้ยๆสีขาว

    “ดูๆแล้วบ้านหลังเล็กกว่าบ้านเราอีกแฮะ  ไหนเขาว่าชเวมินโฮเป็นเศรษฐี  แต่ว่าบ้านที่เราอยู่ก็เป็นของเขานี่นา เฮ้อ!เศร้าว่ะ แล้วนี่ทำไมไม่เห็นมีใครเลย ชเวมินโฮอยู่ไหนคู่หมั้นนายมาแล้วทำไมไม่มาต้อนรับวะ”

    “เชิญเข้าไปนั่งรอที่ห้องรับแขกดีกว่าครับ อีกเดี๋ยวคุณมินโฮก็กลับจากไร่แล้ว ส่วนข้าวของของคุณเดี๋ยวผมจะยกไปเก็บให้ครับ”

    ชินดงกล่าวพลางเดินนำชายหนุ่มร่างบางไปที่ห้องรับแขก จากนั้นก็เดินออกไป  อนยูนั่งรอที่โซฟาไม่นานนักก็มีหญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาพร้อมน้ำเย็นๆอีกแก้ววางตรงหน้า

    “สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นแม่บ้านชื่อจางจีฮาค่ะ ต้องการอะไรเพิ่มบอกได้นะคะ”

    “ขอบคุณครับ ผมลีจินกิเรียกว่าอนยูก็ได้ครับ”

    แนะนำตัวกันเสร็จแล้วแม่บ้านจางก็ขอตัวไปทำงานต่อ อนยูเลยต้องนั่งรออยู่อย่างนั้น เงียบชะมัดไม่เห็นมีใครเลยนอกจากชินดงที่เดินขนกระเป๋าขึ้นชั้นบนแล้วเดินกลับลงมา แล้วก็แม่บ้านจาง บ้านนี้มีกันกี่คนละเนี่ย แล้วชเวมินโฮจะเป็นคนยังไงนะจะมาเป็นเจ้าสาวเขา(มั้ง)แต่ก็ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับว่าที่เจ้าบ่าวเลย แม้แต่หน้าก็ยังไม่เคยเห็น แล้วลีจินกิก็ลองนึกวาดภาพไอ้หนุ่มบ้านไร่ชเวมินโฮ   อืมถ้าเป็นไอ้หนุ่มบ้านไร่ก็ต้องแนวนี้ตัวผอมๆดำๆผมฟูๆหน้าโหดๆหื่นๆละมั้ง โอ้ไม่นะคิดเว่อร์ไปแล้ว แต่ป่านนี้แล้วยังไม่เห็นหน้าไปมุดหัวอยู่ไหนคู่หมั้นนายมาแล้วนะ

    “คุณอนยูครับ”ชินดงเรียก

    ”เงียบครับ

    “คุณอนยู”

    ” ก็ยังเงียบ

    “คุณอนยูครับ!” เรียกเสียงดังและได้ผลร่างบางสะดุ้งวิญญาณกลับเข้าร่างแล้ว

    “อะเอ่อว่า ว่าอะไรนะครับ”

    “เป็นอะไรรึเปล่าครับหรือว่าไม่สบาย”

    ชายร่างอวบถามด้วยความเป็นห่วง อนยูส่ายหน้าตอบว่าไม่ได้เป็นอะไร

    “ผมขนของเสร็จแล้วขอตัวก่อนนะครับ”

    “ขอบคุณมากครับคุณชินดงครับคือว่า” รีบเรียกไว้ก่อนอีกฝ่ายจะออกไปก่อน

    “มีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ”

    “เปล่า คือผมแค่จะถามว่านอกจากเจ้านายคุณแล้วบ้านหลังนี้มีใครอยู่บ้าง”

    “อ๋อไม่มีครับ ส่วนพวกแม่บ้านก็อยู่เรือนเล็กด้านหลัง ส่วนผมอยู่บ้านตัวเองในหมู่บ้านครับ”

    “มีหมู่บ้านแถวนี้ด้วยเหรอครับ”

    “ครับจากที่นี่ไปทางนั้นก็ประมาณเกือบสองกิโลได้ถ้าเป็นทางโน้นก็ไกลหน่อยเกือบสิบกิโลได้”

    ชินดงตอบพลางชี้มือประกอบอนยูพยักหน้าหงึกๆเข้าใจ

    “เสียงรถ คุณมินโฮคงกลับมาแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”

    ชินดงเดินออกไปทางหน้าบ้านได้ยินเสียงเขาคุยกับคนที่เพิ่งกลับมาแว่วๆลอดเข้ามาทางประตูห้องรับแขกที่เปิดค้างครึ่งบานแต่ก็จับใจความไม่ได้ อนยูยันตัวเองลุกขึ้นจากโซฟาทันที




    2BCON...

    เฮ้อ รู้สึกไม่ค่อยได้ดั่งใจเลยแฮะ
    อิตอนนั่งคิดเรื่องเล่นๆรู้สึกว่าไหลลื่นมาก
    แต่พอตอนเอามาเรียงเป็นตัวหนังสือนี่
    กลับไม่เป็นดังที่คิด ยากกว่าที่คิด
    แต่อิชั้นก็ไม่เจียมค่ะ ยังอยากแต่ง
    และอยากแต่ง ฟิค SHINee อีก
    แล้วก็คิดไว้หลายเรื่องด้วยนะ
    ก็คนมันเลิฟ SHINee นี่นา
    (แต่เรื่องนี้จะรอดมั้ย น่านดิ
    รีดเดอร์หลายท่านคงจะบอกว่า
    เอาเรื่องนี้ให้รอดก่อนเถอะหล่อน)
    ยังไงก็ช่วยเมนต์บ้าง
    วิจารณ์บ้างเผื่อมันไม่รู้ตัวว่า

    =========>>>จังออน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×