คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เมียรับจ้าง :: VI (rewrite)
“ม๊ากลับก่อนนะจ๊ะลูก” คุณนายอู๋เข้ามากอดลาลูกชายสุดที่รักและอี้ชิง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไป
“เดี๋ยวฉันล้างจานเสร็จเราออกไปซื้อของที่ห้างกันเถอะอี้ชิง” คริสเอ่ยชวนร่างบางที่เดินนำเข้าไปยังห้องครัว
“ไปทำไมครับ?”
“ก็ไปซื้อชุดผู้หญิงกับเครื่องสำอางให้นายไง” พูดพลางบีบน้ำยาล้างจานละเลงลงบนจานทุกใบจนทั่ว ทำให้คนที่เพิ่งเก็บกวาดเตาเสร็จต้องร้องเสียงหลงเมื่อหันมาเห็นภาพนั้น
“คุณคริสกำลังทำอะไรครับ?” ถามเสียงดุ
“ก็กำลังจะล้างจานไง” ร่างสูงตอบเสียงเรียบ มือก็ยังคงบีบน้ำยาล้างจานใส่ไม่ยั้ง
“พอๆ หยุดบีบใส่จานได้แล้ว ทำแบบนั้นมันเปลืองไม่รู้หรือไง” อี้ชิงทิ้งผ้าขี้ริ้วและรีบเข้ามายั้งมือของคริสไว้
“แบบนี้จานจะได้สะอาดไง ไม่ใช่เหรอ?” เอียงคอถามอย่างสงสัย ยิ่งใช้น้ำยาล้างจานเยอะๆจานยิ่งสะอาดไม่ใช่หรือไง?
“ใช้แค่พอประมาณจานก็สะอาดแล้ว แล้วมันต้องบีบใส่ฟองน้ำแบบนี้ ไม่ใช่บีบใส่จาน” อิ้ชิงหยิบฟองน้ำขึ้นมาแล้วบีบน้ำยาล้างจานเพียงไม่กี่หยดลงไป แต่ก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาถามคริสเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ “เอ๊ะ! หรือว่าคุณคริสล้างจานไม่เป็นครับ?”
“อืม นี่เป็นครั้งแรก” ร่างสูงตอบพลางพยักหน้ารับ แถมยังส่งยิ้มกว้างให้
“เดี๋ยวผมล้างเองดีกว่าครับ เชิญคุณคริสไปนั่งรอสบายๆที่โซฟาดีกว่า” ร่างบางพยายามเขยิบตัวเข้าใกล้ซิงค์น้ำเพื่อให้ทำงานได้สะดวกขึ้น แต่คนตัวโตก็ไม่มีท่าทีจะขยับตัวออกไปนั่งรอตามที่อี้ชิงบอกเลยสักนิด แถมยังหยิบฟองน้ำยึดมาไว้ที่ตัวเอง
“หยุดเลยอี้ชิง นี่มันหน้าที่ฉัน ฉันแพ้พนันฉันก็ต้องรับผิดชอบ” พูดจบก็เริ่มลงมือล้างจาน เขาหยิบจานหนึ่งใบในอ่างด้านขวาขึ้นมาถูกับฟองน้ำที่เต็มไปด้วยฟองน้ำยาล้างจาน แต่ยังไม่ทันจะวางลงที่อ่างอีกฝั่งก็ต้องหยุดชะงักมือ
เพี้ยะ!
“ทำไมไม่ใส่ถุงมือ เดี๋ยวโดนน้ำยากัด มือเปื่อยจะว่ายังไงครับ” อี้ชิงตีเข้าที่มือหนาแล้วรีบหยิบฟองน้ำออกมาก่อนจะรวบมือของคริสไปล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วเช็ดจนแห้งหลังจากนั้นจึงสวมถุงมือยางให้ การกระทำนั้นเช่นนั้นทำให้ริมฝีปากหยักระบายยิ้มกว้าง
“นายกำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่หรือเปล่าอี้ชิง ฉันจ้างให้นายมาเป็นเมียนะ ไม่ได้ให้เป็นแม่ บ่นอยู่นั่นแหละ” ปากก็พูดคล้ายต่อว่า แต่ใบหน้าคมยังคงแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม มองใบหน้าหวานอย่างเอ็นดู
“ถึงคุณคริสจ้างผมเป็นคนรับใช้ ผมก็ต้องบ่นแบบนี้แหละครับ คนอะไรไม่เคยล้างจาน” พึมพำเบาๆแต่คนหูดีก็ได้ยินอย่างชัดเจน
“ก็ฉันเป็นคุณชายแห่งตระกูลอู๋ หล่อ รวย เพอร์เฟค ไม่ต้องทำอะไรก็อยู่อย่างสบายได้ ฮ่าๆๆ” หัวเราะร่าอย่างอวดเบ่ง ทำเอาคนฟังถึงกับส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างหมั่นไส้
“รีบล้างเถอะครับ เราจะได้รีบไปกันสักที” อี้ชิงตัดบทก่อนจะหันไปจัดการผ้าขี้ริ้วที่ทิ้งไว้หน้าเตาตั้งแต่ตอนแรกต่อ
“เสร็จเรียบร้อย ไม่มีตกแตกสักใบ” ผ่านไปเพียง 5 นาที คริสก็พูดขึ้นและยืนกอดอกมองผลงานการล้างจานครั้ง
แรกอย่างภาคภูมิ ร่างบางที่เดินออกมาจากห้องซักผ้าก็เผลอยิ้มให้กับท่าทางแบบนั้นของร่างสูง แต่ก็ต้องหุบยิ้มอย่างฉับพลันแล้วเดินตรงเข้าไปหาคนตัวโต
“คุณคริสล้างจานยังไงครับเนี่ย ฟองเต็มหน้าเลย” อี้ชิงใช้บริเวณปลายแขนเสื้อของตนเช็ดฟองสีขาวออกจากใบหน้าหล่อเหลาของคริสอย่างเบามือ โดยไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่านัยน์ตาคู่คมกำลังจ้องมองใบหน้าสวยอยู่ เขาระบายยิ้มทั่วใบหน้าให้กับการกระทำอันแสนอ่อนโยนของอี้ชิง เมื่อร่างบางเช็ดฟองออกจนหมดดวงตาคู่สวยก็เผลอสบตากับร่างสูงอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้อี้ชิงไม่อาจละจากสายตาคมนั้นได้ คริสเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ร่างบางที่เหมือนกำลังติดอยู่ในวังวนประหลาด จากนั้นค่อยๆเคลื่อนริมฝีปากหมายจะจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่ม
“ยะ...หยุดเลยครับคุณคริส คดีเก่ายังไม่ได้เคลียร์จะก่อคดีใหม่อีกแล้วหรือไง” ยังไม่ทันที่ปากจะได้สัมผัสกันอี้ชิงก็ยกมือขึ้นมาปิดปากและดันหน้าคริสออกไปก่อนเสียแล้ว แต่น้ำเสียงคนห้ามก็ดูจะสั่นเครือด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย
“โธ่~~” ร่างสูงงึมงำในลำคออย่างเสียดาย
“ไม่ต้องมาบ่นครับ ผมคิดค่าจูบหมื่นวอน ค่าข้าวผัดเมื่อเช้าห้าพันวอน และค่าสปาเก็ตตี้ตอนเย็นอีกเจ็ดพันวอน รวมทั้งสิ้นสองหมื่นสองพันวอนครับ” ยิ้มให้ร่างสูงอย่างกวนประสาท คุณชายแห่งตระกูลอู๋รวยนักใช่ไหม คนอย่างอี้ชิงจะเรียกร้องให้หมดตัวเลยคอยดู
“ได้ไงอี้ชิง! ทำอาหารเป็นหน้าที่ที่นายต้องทำให้ฉันในฐานะเมียนะ มันนอกเหนือจากสัญญาเพราะฉะนั้นฉันไม่จ่าย”
“นี่ก็ไม่ได้ระบุไว้ในสัญญาเหมือนกันนะครับ ถ้าคุณจำที่ตัวเองเขียนไม่ได้ก็เชิญไปดูที่ห้องได้เลย” อี้ชิงเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ก็การทำอาหารให้กินไม่มีในสัญญาจริงๆนี่นา คริสเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าหน้าทีเมียรับจ้างของคริสก็แค่แต่งตัวเป็นผู้หญิงเวลาเจอคนในครอบครัว ย้ายเข้ามาอยู่ในคอนโด และห้ามถามไถ่เวลาร่างสูงไปไหนเท่านั้นเอง
“ก็ได้ ฉันจะยอมจ่ายให้นายแค่ครั้งนี้เท่านั้นนะคนเห็นแก่เงิน” ร่างสูงกัดฟันกรอดอย่างโกรธเคือง โมโหตัวเองไม่น้อยที่ครั้งนี้กลายเป็นเขาที่พ่ายแพ้ยอมจำนนให้กับอี้ชิง แล้วรีบสะบัดหน้าหนีเดินตรงเข้าห้องนอนไป เขาจะไปเขียนข้อตกลงนี้ใหม่บนสัญญาอีกครั้ง
“คิคิ” ร่างบางหัวเราะอย่างชอบใจ คนอะไรตัวโตเป็นควายแต่งอนเหมือนเด็ก
“คุณคริสเราจะซื้อเสื้อผ้าร้านไหนดีครับ?”
“…”
“คุณคริสเราจะซื้อเครื่องสำอางยี่ห้ออะไรดีครับ?”
“...”
“คุณคริส คริส คนเห็นแก่ตัว” อี้ชิงพยายามเปลี่ยนสรรพนามให้คริสเพื่อเรียกร้องความสนใจจากห้องคนตัวสูงที่เดินหน้าเชิดอยู่ข้างๆ
“...” ยังคงไร้เสียงตอบรับเช่นเคย
“คนอะไรตัวก็โต แต่ก็ยังทำเป็นงอนเหมือนเด็ก” ทำเหมือนพึมพำกับตัวเองแต่เสียงที่เอ่ยออกไปไม่ได้เบาเลยสักนิด ทำให้คนที่กำลังก้าวเท้าเดินต้องหยุดชะงักและหันมาค้อนใส่
“ใครงอน และนายว่าใครเด็กห๊ะ?!!” ตวาดใส่จนอี้ชิงสะดุ้ง เรียกสายตาของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาให้หันมามองเป็นตาเดียว
“เบาๆสิครับคุณคริส คนมองกันหมดแล้ว” อี้ชิงเอ่ยเสียงอ่อน มองซ้ายมองขวาดูคนที่กำลังยืนดูเขาสองคนอยู่
“มองแล้วไง?” ตอบอย่างไม่สนใจ แถมยังทำหน้ายักษ์ใส่ร่างบางไม่เลิก
“ลืมว่าตัวเองเป็นใครแล้วหรือไงครับ เดี๋ยวก็เป็นข่าวดังหรอก นักธุรกิจดังโวยวายเสียงดังกลางห้างดัง” ถ้าเป็นข่าวขึ้นมาจริงคงมีแต่คำว่า’ดัง’แน่ๆ
“จะเป็นข่าวก็ช่างมันสิ ฉันไม่แคร์อยู่แล้ว” ตอบเสียงเรียบแล้วก็หันหน้ากลับไปก้าวเท้าเดินต่อ เพราะความสูงที่มากเกือบถึงสองเมตร ทำให้คริสมีช่วงขาที่ยาว ก้าวหนึ่งก้าวเกือบเป็นสองเท่าของอี้ชิง แล้วยิ่งเดินเร็วแบบนี้ ทำให้ร่างบางถึงขั้นต้องวิ่งตาม
“สวัสดีค่ะคุณคริส วันนี้หล่อเชียวนะคะ” เสียงหญิงแก่ที่เป็นผู้จัดการร้านทักขึ้นทันทีเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาในร้าน ชุดที่คริสใส่มาไม่ได้ดูเรียบหรูอะไรมากมายเป็นเพียงแค่เสื้อยืดสีขาวที่คลุมทับด้วยเสื้อคลุมสีเทากับกางเกงผ้าสีดำใส่สบายเหมาะสำหรับการอยู่บ้านด้วยซ้ำไป แต่พอมาอยู่บนเรือนร่างของคริสกลับดูดีอย่างหาที่ติไม่ได้
“หล่อที่ไหนกันครับ ใส่ชุดอยู่บ้านมาเลยนะเนี่ย”
“ค่ะๆ” เธอพยักหน้ารับคำด้วยรอยยิ้ม” ว่าแต่วันนี้มีอะไรให้ช่วยคะ?” ไม่แปลกที่คนตำแหน่งสูงอย่างเธอจะเป็นผู้ดูแลเองเพราะคริสเป็นถึงลูกค้าระดับวีไอพีของร้าน
“ผมอยากได้ชุดผู้หญิงสัก 10 ชุดครับ” ถึงแม้จะเป็นลูกค้าระดับสูงแต่คริสก็นอบน้อมให้กับผู้ที่อาวุโสกว่าเสมอ
“ตั้ง 10 ชุดเอาไปทำอะไรคะเนี่ย แจกสาวเหรอคะ?” เป็นเพราะรู้จักมักคุ้นกันมานาน เธอจึงสามารถที่จะพูดล้อเล่นแซวร่างสูงได้
“ก็ไม่เชิงครับ” คริสเลือกตอบคำถามอย่างบ่ายเบี่ยง เพราะการที่เขาจ้าง อี้ชิงมาเป็นเมียจำเป็นต้องเป็นเรื่องลับสุดยอด
“แล้วคุณคริสรู้ไซส์มั้ยคะ?”
“หุ่นประมาณคนนี้ครับ” ร่างสูงหันไปดึงมือคนตัวเล็กที่ยืนหลบอยู่ข้างหลังขึ้นมาเพื่อโชว์ตัวให้ผู้จัดการได้เห็น
“โอ๊ะ!! วันนี้พาใครมาด้วยคะเนี่ย?” เมื่อเธอเห็นชายหนุ่มร่างบางแปลกหน้าจึงเอ่ยปากถาม
“เพื่อนผมครับ ไม่วัดไซส์เหรอครับคุณคิม” คริสพยักพเยิดหน้าไปทางอี้ชิงเพื่อให้หญิงแก่ขี้สงสัยหันไปสนใจอย่างอื่นแทนคำตอบของเขา
“เพื่อนคุณคริสนี่คล้ายผู้หญิงเลยนะคะ ไหล่ก็ไม่ค่อยกว้าง เอวก็ไม่ค่อยใหญ่ ต้นแขนถึงจะมีกล้ามเนื้อนิดหน่อยแต่ก็ยังเล็กกว่าผู้ชายปกติอยู่ดี แถมผิวพรรณยังขาวเนียนสวยซะอีก” เธอกล่าวชื่มชมอี้ชิงหลังจากที่วัดสัดส่วนทั้งหมดเสร็จเตรียมจะหมุนตัวเดินกลับไปยังราวแขวนชุดสวยแต่ก็ต้องหันกลับมาถามอะไรบางอย่างกับคริสอีกครั้ง
“แล้วขนาดหน้าอกเท่าไหร่ค่ะ คะ...คือเพื่อนคุณคริสเป็นผู้ชายฉันเลยไม่...”
“ซีครับ” ยังไม่ทันที่ผู้จัดการจะพูดจบ คริสก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“อ๋อค่ะ ว่าแต่คุณคริสอยากได้แบบไหนคะ? น่ารัก เรียบร้อย หรือเซ็กซี่”
“เซ็กซี่/เรียบร้อยครับ” ทั้งสองเสียงตอบขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนจะหันมามองหน้ากัน เล่นเอาคนที่สามยืนงงไม่รู้จะเชื่อคำตอบของใครดี
“เป็นผู้หญิงก็ต้องเซ็กซี่สิถึงจะน่ามองจริงมั้ยครับคุณคิม” คริสเห็นความกังวลเล็กๆในดวงตาคู่สวยของอี้ชิง เขาจึงคิดแผนจะเอาคืนให้อี้ชิงต้องยอมแพ้เขาบ้าง
“แต่เป็นหญิงเป็นนางต้องแต่งตัวเรียบร้อยจะได้ดูสมเป็นกุลสตรีจริงมั้ยครับ?”
“ที่คุณทั้งสองพูดก็ถูกนะคะ แต่เราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าคนใส่จะชอบแบบไหน? เพราะฉะนั้นฉันคิดว่า...”
“แบบเรียบร้อยครับ ผมรู้” เป็นอีกครั้งที่เธอยังไม่ทันจะพูดจบก็ถูกแทรกขึ้นมาอีกแต่ครั้งนี้เป็นเสียงของอี้ชิง
“ถึงนายจะรู้ แต่ฉันเป็นคนจ่าย เพราะฉะนั้นต้องตามใจฉัน”
“แต่ผมเป็นคนใส่ ถ้าคุณไม่ซื้อให้ผมก็ไม่มีชุดใส่นะ แถมถ้าเซ็กซี่โชว์นู่นโชว์นี่คนอื่นก็จับได้หมดว่าผมเป็นผู้ชาย แถมถ้าเปิดโชว์ไหล่ก็เห็นขนรักแร้ของผม ถ้าใส่สั้นๆก็เห็นขนขาดกดำของผมนะคุณคริส” อี้ชิงก้มลงกระซิบบอกเหตุผลโน้มน้าวให้ร่างสูงเห็นด้วย
“นายก็โกน ก็แว๊กซ์ซะสิ” ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ แล้วก็เผยยิ้มร้ายที่มุมปาก
“ได้ไงครับคุณคริส”
“ไม่งั้นก็หาอะไรมาปิดซะ ถ้าโชว์ไหล่ก็ซื้อเสื้อหรือผ้าคลุมไป ถ้าชุดมันสั้นนายก็แค่ใส่ถุงน่องไม่เห็นจะต้องทำให้มันเป็นเรื่องยาก” เมื่อเห็นว่าร่างบางยังคัดค้านเขาจึงเอ่ยเสนอทางแก้ไขอีกทางออกไป ไม่ว่าอย่างไรครั้งนี้คริสต้องไม่แพ้
“ถ้ายังไงเอาทุกแบบรวมกันดีมั้ยคะ เซ็กซี่บ้าง เรียบร้อยบ้าง น่ารักบ้าง” เมื่อเห็นทั้งสองยังกระซิบกระซาบหาข้อสรุปยังไม่ได้ ผู้จัดการร้านจึงเสนอทางออกที่ดีที่สุดให้
“แบบนั้นก็ดีครับ แต่จะรังเกียจมั้ยถ้าผมอยากจะช่วยเลือกด้วยอีกแรง ผมรู้จักเธอดีครับเลยรู้ว่าแบบไหนที่พอจะใส่ได้” อี้ชิงตอบรับอย่างเห็นด้วย และรีบอ้อนขอหญิงแก่ผู้จัดการร้านให้เขามีสิทธิ์ในการเลือกชุดเอง ถึงแม้จะเลี่ยงชุดแบบเซ็กซี่ไม่ได้ก็ตาม เธอไม่ตอบคำถามแต่หันหน้าไปหาคริสแทน
“ให้เขาช่วยเลือกเถอะครับคุณคิม” คริสพยักหน้าให้เชิงอนุญาต เขาจะยอมอ่อนข้อให้เพื่อผลดีต่อความลับครั้งนี้
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงชุดเกือบสิบชุดก็มาวางกองอยู่บนโต๊ะตรงหน้าร่างสูง เขาหยิบแต่ละชุดขึ้นมาพิจารณาดูแล้วก็ต้องยิ้มอย่างพอใจ เพราะชุดพวกนี้ถือว่าอยู่ในระดับโอเค บางชุดก็น่ารักมากจนเขาเผลอจินตนาการว่าถ้ามันไปอยู่บนตัวของร่างบางจะเป็นอย่างไร... มันก็คงน่ารักน่าดู
“ทำไมได้มาแค่เก้าชุดล่ะ?” เมื่อลองนับดูแล้วก็ยังได้ไม่ครบตามที่เขาต้องการอยู่ดีจึงเงยหน้าถามกับหญิงแก่ผู้จัดการร้าน
“คุณอี้ชิงบอกว่าชุดสุดท้ายอยากให้คนจ่ายมาเลือกเองบ้างน่ะค่ะ” เมื่อได้ฟังประโยคนั้นจบคริสก็ยกยิ้มและลุกขึ้นเดินไปยังราวแขวนเสื้อ ก่อนจะหยิบชุดเดรสยาวสีชมพู เป็นผ้าชีฟองพิมพ์ลายจุด แต่งระบายที่เสื้อ ซิปหลัง มีซับใน และมีผ้าผูกเอวยื่นส่งให้อี้ชิง
“ไปลองใส่ชุดนี้ให้ดูหน่อยสิ พอดีมั้ย?” คนรับรับมาอย่างงงๆแต่ก็ยอมเดินตามผู้จัดการร้านเข้าไปยังห้องลองชุด
“ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วยเรียกได้นะคะคุณอี้ชิง” เธอเพียงแค่ไปส่งอี้ชิงหน้าห้องลองเท่านั้นก่อนจะเดินกลับไปหาคริสเหมือนเดิม
“คุณคิมเข้ามาช่วยผมหน่อยครับ” ผ่านไปไม่ถึงสามนาที ร่างบางก็ตะโกนเรียกชื่อผู้จัดการร้าน เธอตั้งท่าจะเดินไปหาอี้ชิงแต่ก็ถูกคริสดึงแขนไว้ก่อน
“เดี๋ยวผมเข้าไปช่วยเองครับ เขาเป็นผู้ชายคุณเข้าไปมันจะดูน่าเกลียด” ร่างสูงเดินตรงไปยังห้องลองชุดเคาะประตูอยู่สองครั้งก็ได้ยินเสียงอนุญาตจากคนข้างในจึงเปิดประตูเดินเข้าไป
“ช่วยรูดซิปให้ผมทีครับ ผมรูดไม่ถนัด” ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย เพราะตอนที่คริสก้าวเข้ามาในห้องอี้ชิงกำลังยืนก้มหน้าหันหลังให้เขาอยู่ จึงไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นเขา คริสมองร่างบางผ่านกระจกแล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาบางๆ สีชมพูของชุดตัดกับผิวสีขาวทำให้อี้ชิงดูน่ารักอย่างมากเมื่อสวมชุดนี้ เขามองอี้ชิงในกระจกอยู่สักพักก็ต้องละสายตากลับมาที่ซิปด้านหลัง แต่แผ่นหลังขาวเนียนของร่างบางก็ทำให้ลมหายใจของเขาถึงกับต้องสะดุด ร่างสูงขยับตัวเข้าใกล้มือหนาจับที่ซิปอย่างสั่นๆ ถึงจะเป็นครั้งที่สามแล้วที่เห็นแผ่นหลังนี้ แต่ก็ไม่สามารถห้ามอาการใจสั่นของเขาได้เลย คริสกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ก่อนจะเริ่มเคลื่อนใบหน้าหล่อเหลาไปใกล้แผ่นหลังตรงช่วงต้นคอของอี้ชิงอย่างลืมตัว ยิ่งเข้าใกล้จมูกของเขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นกายหอมคล้ายกลิ่นน้ำนม ผิวกายที่ขาวสะอาดก็ยิ่งชวนให้เขาอยากจะประทับรอยตรงนี้สักรอยสองรอย เมื่อความคิดเตลิดไปไกล ริมฝีปากหยักก็ประทับจูบอย่างแผ่วเบาลงบนต้นคอก่อนจะพรมจูบไล่ลงมาเรื่อยถึงแผ่นหลังบางจนทำให้อี้ชิงถึงกับสะดุ้งโหยง พยายามจะพลิกตัวกลับมาห้ามผู้บุกรุกแผ่นหลังของเขา แต่มือใหญ่ของร่างสูงก็มาจับยึดที่ไหล่เล็กออกแรงให้ร่างบางยืนนิ่งและขบเม้มแผ่นหลังขาวจนเกิดรอยหลายรอยต่อไปอย่างไม่สนใจ
“คุณคริสหยุดครับ!!!” เพราะตัวที่ถูกยึดไว้ทำให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อี้ชิงจึงเลือกมองผู้กระทำร่างบางเขาผ่านกระจกแล้วก็พบว่าคนที่กำลังจูบแผ่นหลังของเขาอย่างหลงใหลอยู่คือคริส จึงตะโกนร้องห้ามเสียงดัง และดูเหมือนจะได้ผลเมื่อคริสหยุดค้างการกระทำและเริ่มตั้งสติอีกครั้ง พอสมองได้รับการประมวลเขาก็รีบผละริมฝีปากออกอย่างไว คริสต้องกลืนน้ำลายลงคออีกครั้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้าของอี้ชิงที่กำลังแดงก่ำผ่านกระจก ไม่รู้ว่ากำลังอายหรือกำลังโกรธจัดกันแน่ แต่ตอนนี้เขาควรจะรีบหนีออกไปจากสถานการณ์นี้ก่อน เมื่อคิดได้ก็รีบรูดซิปเสื้อขึ้นให้และเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
*ชุดที่คุณคริสเลือกให้อี้ชิง คิดว่าเป็นหน้าอี้ชิงกันเองนะทุกคน
ความคิดเห็น