คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : เมียรับจ้าง :: XIII (rewrite)
“โดบี้อ่า น่าเบื่อจังไม่มีอะไรทำเลย” คนตัวเล็กที่นอนซบอยู่บนอกกว้างบ่นงุ้งงิ้งด้วยสีหน้าสุดเซ็ง ก็วันนี้เป็นวันหยุดของแฟนหนุ่ม เจ้าตัวเลยมานอนเล่นที่นี่ตั้งแต่ช่วงบ่าย แต่ก็ไม่มีอะไรทำนอกจากนอนกอดก่ายดูหนังด้วยกันจนตอนนี้ผ่านมาสามเรื่องแล้ว
“น่าเบื่อตรงไหนหนังกำลังสนุกเลยนะ ดูสิกำลังยิงกันมันส์เลย” พูดโดยที่ไม่ได้ก้มหน้าลงมามองคนฟัง ดวงตาสีดำสนิทฉายแววตื่นเต้นลุ้นระทึกกับฉากที่พระเอกและตัวร้ายกำลังปะทะกันก่อนจะเริ่มสาดกระสุนใส่กันไม่ยั้ง
“ก็น้องแพคเบื่ออ่ะ โดบี้ดูหนังมาทั้งวันแล้วนะ เรามาทำอย่างอื่นกันบ้างเถอะ” คนตัวเล็กขยับตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรง หยิบรีโมทที่อยู่ในมือหนามาไว้ที่ตัวเองก่อนจะกดพอสหยุดหนังในทีวีแล้วหันมาทำหน้าออดอ้อนกับชานยอล
“อืม...ทำอย่างอื่นเหรอ” ทำเป็นครุ่นคิด แต่มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุข ดึงรั้งคนตัวเล็กเข้ากอดก่อนจะมือปลาหมึกจะเริ่มล้วงเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวบาง “อย่างอื่นที่ว่า ทำแบบนี้ดีมั้ย” พูดจบก็ประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากสีสด ดูดดึงริมฝีปากล่าง แลกลิ้นกันเสียงดัง
“อื้อ” คนตัวเล็กร้องประท้วง คนตัวสูงเลยยอมถอนออกริมฝีปากออกแต่ก็พรมจูบทั่วใบหน้าใสแทน
“แบบนี้ไม่เอา มีแต่โดบี้คนเดียวที่หายเบื่อ แต่มันทำให้น้องแพคเจ็บ” มือเล็กยกขึ้นมากุมใบหน้าหล่อแล้วจับให้ออกห่างจากการใบหน้าของตน
“เจ็บแต่ไม่มีความสุขเหรอน้องแพค” ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มที่ปนไปด้วยความน้อยใจ จนทำให้คนมองรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ๆ มีสิ มีความสุขมากที่สุดเลย”
“งั้นอย่ามัวรีรอ มามีความสุขกันดีกว่านะจ๊ะที่รัก” พลิกกายให้คนตัวเล็กลงไปอยู่ด้านล่างของตนอย่างรวดเร็ว แล้วขึ้นคร่อมก่อนจะถอดเสื้อยืดทิ้งอย่างไม่รีรอ และเริ่มซุกไซ้ต้นคอขาว
“โดบี้หยุด บอกว่าไม่เอาแบบนี้ไง” ดิ้นหนีไปมาอย่างไม่ยอมด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจัด ไม่ใช่ว่าแพคฮยอนไม่อยากมีความสุขร่วมกับชานยอล แต่ตอนนี้มีเรื่องที่เจ้าตัวอยากทำมากกว่าเรื่องบนเตียง
“ปาร์คชานยอล!!” คนตัวเล็กตวาดแหวขึ้น เจ้าของชื่อหยุดชะงักเงยหน้าขึ้นมามองคนรักอย่างเซ็งๆ พอถูกเรียกชื่อจริงทีไร ปาร์คชานยอลคนนี้ต้องยอมทุกที ยอมรับก็ได้ว่าโดบี้กลัวเมีย
“แล้วน้องแพคจะทำอะไรล่ะครับ” เอ่ยถามด้วยหน้าบูดบึ้งไม่พอใจอย่างยิ่ง โดบี้น้อยกำลังถูกปลุกให้ตื่นอยู่แล้วเชียว ดันมาตัดอารมณ์กันเพราะความเอาแต่ใจอย่างนี้ (อันนี้ชานยอลคิดในใจ ถ้าคิดดังคงโดนเมียตบคว่ำ)
“น้องแพคอยากไปเที่ยวสวนสนุกอ่ะโดบี้”
“สวนสนุก?”
“ช่ายๆ พาไปหน่อยน้าาา” พูดเสร็จก็จบลงด้วยสเต็ปการอ้อนที่แพคฮยอนแสนถนัดเหมือนเดิม
“อืมๆ ไปก็ได้” ตอบรับแล้วหยิบเสื้อที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นมา ตั้งท่าเตรียมจะลุกไปตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อตัวอื่นมาเปลี่ยนก็ต้องกลับมานั่งลงที่เดิมเพราะประโยคที่ออกมาจากปากคนตัวเล็ก
“เราชวนพี่คริสกับพี่อี้ชิงไปด้วยนะ”
“ชวนไปทำไม?” มองหน้าคนรักอย่างสงสัย
“เดทคู่ไง” คนตัวเล็กยิ้มกว้างจนตาแทบปิด ความจริงอยากเจอพี่คริสสุดหล่อมากกว่า แอบดีใจจะได้ไปเที่ยวสวนสนุกกับพี่คริส คิดดูสิได้เดินอยู่ข้างๆหนุ่มหล่อที่เป็นที่หมายปองของสาวๆ แค่คิดแพคฮยอนก็ฟินแล้ว
“ก็เป็นความคิดที่ดีนะ” ชานยอลพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดสร้างสรรค์ของแพคฮยอน เดทคู่ก็ไม่เลว แต่ก็ต้องขมวดคิ้วอย่างฉับพลัน เพราะเพิ่งนึกเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นได้ “แต่แบบนี้นักข่าวคนนั้นจะไม่ตามไปเหรอ”
“จากที่น้องแพคดู น้องแพคคิดว่านักข่าวแอลเอชน่าจะยังไม่เห็นหน้าพี่อี้ชิง เพราะฉะนั้นถึงวันนี้จะไปด้วยกันก็คงไม่สงสัยหรอก ก็ผู้ชายไปเที่ยวกัน4คน ใครจะไปคิดจริงมั้ย?”
“ก็จริงนะ ถ้างั้นโทรชวนพี่คริสดีกว่า”
“น้องแพคว่าไปชวนพี่อี้ชิง แล้วให้พี่อี้ชิงเป็นคนชวนพี่คริสเองดีกว่านะโดบี้ บางทีถ้าเราชวนพี่คริสคงไม่อยากไป แต่ถ้าพี่อี้ชิงชวนเอง เขาอาจจะคิดว่าพี่อี้ชิงอยากไปจริงๆ แบบนี้ไม่มีปฏิเสธแน่นอน”
“แบบนี้เข้าท่า ถ้างั้นเราเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปหาพี่อี้ชิงที่คอนโดกันเถอะ”
“วิค ไม่มีแฟ้มเอกสารหรืองานด่วนอะไรแล้วใช่มั้ย” คริสกำลังต่อสายคุยกับเลขาสาวที่นั่งอยู่ด้านหน้าของตน
[ไม่มีแล้วค่ะ คุณคริสมีอะไรเหรอคะ]
“คือฉันจะกลับก่อน พอดีมีธุระสำคัญ” ธุระสำคัญที่ว่ากำลังทำสปาเก็ตตี้รอเขาอยู่ที่คอนโดหรือเปล่าน้า
“ตามสบายเลยค่ะ เดี๋ยวถ้ามีเรื่องด่วนฉันจะติดต่อไป”
“อืม” ตอบรับคำแล้วกดตัดสายไป บิดขี้เกียจสองสามทีแล้วลุกขึ้นหยิบเสื้อสูทขึ้นมาสวม ใบหน้าหล่อแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม แค่คิดถึงอี้ชิงที่กำลังรออยู่ที่คอนโดหัวใจก็เกิดเต้นแรง รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ตั้งแต่ชั้นสูงสุดของโรงแรมซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องผู้บริหารจนถึงล็อบบี้ชั้นหนึ่ง คนร่างสูงก็โปรยยิ้มให้กับพนักงานทั้งหญิงและชาย รวมทั้งแขกผู้ที่มาเข้าพักไม่หุบ พนักงานสาวหลายคนที่เห็นท่านประธานสุดหล่อยิ้มให้ก็แทบจะละลายลงไปกองกับพื้นเสียซะตรงนั้น นอกจากรอยยิ้มหวานแล้วที่แปลกกว่าวันอื่นๆก็คือคำทักทาย หรือคำพูดที่บอกว่า’ขอบคุณที่ทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อยนะครับ’ ทุกคนต่างพากันแปลกใจไปกับท่าทางแบบนั้นของคริสอู๋แห่งอู๋กรุ๊ป
คริสใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะขับรถมาถึงคอนโด ถึงแม้ระหว่างทางรถจะติดมากขนาดไหน แต่ก็ไม่สามารถทำให้คนที่กำลังอารมณ์ดีจัดจนเกือบจะถูกมองว่าบ้าเสียอารมณ์แต่อย่างใด เมื่อจอดรถเข้าที่ก็แทบจะพุ่งตัวออกจากรถ ตรงดิ่งไปหาความสุขที่รออยู่ที่ชั้น21ห้อง217อย่างรีบร้อน
“อี้ชิงฉันกลับมาแล้ว” หลังจากเปิดประตูเข้าห้องมาก็แกล้งเก๊กเสียงให้เป็นปกติรวมทั้งสีหน้า
“…”
“อี้ชิง” ลองเรียกหาอีกครั้งแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงหวานตอบกลับมา คริสเลยวางกระเป๋าไว้ที่โซฟาและเดินตรงไปยังห้องครัว แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าก็ทำให้เลือดขึ้นหน้า รีบพุ่งตัวเข้าไปดึงชายตัวสูงที่ยืนอยู่ซ้อนข้างหลังคร่อมร่างของเมียรับจ้างของเขา
“ไอ้เวร แกจะทำอะไรอี้ชิง!!!” เงื้อหมัดเตรียมชกคนตรงหน้าแต่ก็ต้องชะงักเพราะคนร่างบางเข้ามาห้าม แถมเมื่อได้เห็นหน้าตาคนตรงหน้าอย่างชัดเจนก็ถึงกับร้องออกมา
“ไอ้ยอล!!!”
“ก็ใช่นะสิ ผมเองชานยอล พี่คริสจะต่อยผมทำไมเนี่ย!” ชานยอลรีบถอยห่างออกมายืนอยู่ด้านหลังของอี้ชิง มองพี่ชายอย่างกลัวๆ
“ก็ฉันไม่รู้ว่าเป็นแก” ร่างสูงยืนมองหน้าคนทั้งสองสลับกันไปมาก่อนจะเอ่ยถามสิ่งที่คาใจอยู่ “แล้วแกมาที่ห้องฉันทำไมชานยอล แล้วท่าที่แกยืนซ้อนหลังอี้ชิงอยู่มันคืออะไร”
“คือ...” อี้ชิงกำลังจะพูดอธิบายแต่ก็ถูกชานยอลพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“ไม่ต้องครับพี่อี้ชิง เดี๋ยวผมอธิบายเอง พี่คริสผมขอโทษนะที่ทำกับพี่แบบนี้ แต่พี่อี้ชิงสวยมากจนผมทนไม่ไหว เลยมาที่ห้องพี่เพื่อตีท้ายครัวพี่ แถมเมื่อกี้กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลยพี่ไม่น่าเข้ามาขะ...”
“ไอ้ยอลลลล” ยังไม่ทันจะได้ฟังจบความอดทนก็หมดลงเสียก่อน หมัดหนักเกือบจะพุ่งไปซัดใบหน้าหล่อแต่ก็เป็นอีกครั้งที่คนร่างบางเข้ามาห้ามไว้ได้ทัน
“คุณคริสอย่า คุณชานยอลแค่พูดเล่นเฉยๆ ความจริงเขามาชวนไปเที่ยวสวนสนุก ผมเลยชวนทานข้าวเย็นและรอคุณด้วย” อี้ชิงรีบอธิบายทันทีก่อนที่เขาจะไม่สามารถห้ามคนตัวโตคนนี้ได้ เมื่อได้ยินอย่างนั้นคริสก็ยอมทิ้งแขนลงข้างตัวเหมือนเดิม แต่ยังคงไว้ด้วยสีหน้าที่แสดงอารมณ์โกรธ
“นายพูดความจริงใช่มั้ย?” หันมาถามคนร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆ
“จริงครับ”
“แล้วเมื่อกี้ทำอะไรกัน”
“คุณชานยอลแค่ช่วยหยิบของให้เท่านั้นเองครับ ก็มันสูงผมหยิบไม่ถึง” ก็เมื่อกี้อี้ชิงเอื้อมจะหยิบชามก้นลึกที่คริสล้างเมื่อไม่กี่วันก่อนก่อนจะเก็บไว้บนชั้นบนสุด ซึ่งมันสูงเกินกว่าอี้ชิงจะเอื้อมถึง ชานยอลที่เดินเข้ามาเห็นพอดีจึงเข้ามาช่วยหยิบให้แต่ไม่ทันจะได้ของ คริสก็เข้ามากระชากตัวออกไปซะก่อน
“ไม่ต้องมายิ้มเลยนะไอ้ยอล” ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่สักพัก สายตาก็ดันเหลือบเห็นไอ้น้องชายต่างพ่อต่างแม่ตัวแสบยืนยิ้มกว้างจนเห็นฟังครบ32ซี่อยู่ เห็นแบบนี้แล้วอยากจะตั๊นหน้ากวนประสาทจริงๆ
“โหหห พี่คริสก็รู้จักกันมาตั้งนาน พี่ก็รู้ว่าผมไม่แย่งเมียพี่หรอก เมียผมก็มีนะ” เมื่อเห็นสถานการณ์กลับมาเข้าที่เข้าทาง ชานยอลก็ย้ายตัวที่เคยยืนหลบอยู่หลังพี่สะใภ้คนสวยมายืนข้างๆแทน
“ใครจะไปรู้ก็เมียฉันสวยขนาดนี้” พูดอย่างอวดๆพร้อมกับโอบเอวรั้งคนตรงหน้าเข้ามาหาตัว โหนกแก้มขาวๆเจ้าของเอวบางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เขินอายจนแทบจะหายตัวไปจากตรงนี้
“แหมๆ เดี๋ยวนี้เรียกเมียได้เต็มปากเลยนะครับ” ชานยอลเอ่ยแซวด้วยความหมั่นไส้ ที่เมื่อก่อนทำเป็นขนลุกแต่พอได้เขาแล้วหวงยิ่งกว่างูจงอางหวงไข่
“ว่าแต่แกมาคนเดียวเหรอ แพคฮยอนล่ะ”
“ผมอยู่นี่ครับพี่คริส” เสียงสดใสดังขึ้นด้านหลัง คนทั้งสามหันไปมองพร้อมกันแต่ก็ต้องตกใจเพราะจู่ๆแพคฮยอนก็เดินเข้ามากอดแขนคริส
“แพคฮยอน!!” ชานยอลขึ้นเสียงเรียกคนรัก ก่อนจะเข้ามากระชากคนตัวเล็กออกจากแขนของคริส
“โหโดบี้ น้องแพคแค่ทักทายพี่คริสนิดหน่อยเท่านั้นเอง อย่าโกรธนะๆ” คนตัวสูงสะบัดหน้าหนีไม่สนใจจนมือเล็กต้องประคองใบหน้าหล่อให้หันกลับมาก่อนจะเขย่งตัวขึ้นจุ๊บบนริมฝีปากหยัก
“หายโกรธหายงอนน้าโดบี้”
“ก็ได้”
“เย้ๆ” สิ้นเสียงดีใจของแพคฮยอน ชานยอลก็ประทับจูบบนริมฝีปากอิ่มสีสดอีกครั้ง
“อะแฮ่มๆ จะหวานกันก็ช่วยเกรงใจเจ้าของบ้านเขาหน่อยนะ” เสียงทุ้มของร่างสูงพูดขัดขึ้นอย่างหมั่นไส้
“เจ้าของบ้านหวานสู้ไม่ได้ล่ะสิ เลยอิจฉา”
“ชานยอล คืนนี้แกอยากจะนอนที่บ้านหรือโรงพยาบาลเลือกมาเลย” ร่างสูงมองหน้าน้องชายอย่างหาเรื่อง วันนี้ปากชานยอลมันชวนหาเรื่องจริงๆ
“พอครับพอ เลิกทะเลาะกันแล้วทานข้าวกันดีกว่า คุณชานยอลกับคุณแพคฮยอนไปนั่งรอที่โต๊ะแปปนึงนะครับ เดี๋ยวผมทำสปาเก็ตตี้ไปเสิร์ฟให้”
“ให้ผมช่วยมั้ยครับพี่อี้ชิง” แพคฮยอนเสนอตัวแต่อี้ชิงส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ต้องหรอกครับพวกคุณเป็นแขก เดี๋ยวผมจะทำให้เอง”
“มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ยอี้ชิง” คราวนี้คริสเป็นฝ่ายเสนอตัวขึ้นมาบ้าง
“ถึงมีคุณคริสจะช่วยผมได้เหรอครับ ก็คุณชายคริสแห่งตระกูลอู๋ล้างจานเป็นแค่อย่างเดียว” ร่างบางขำให้กับท่าทางกระฟัดกระเฟียดของคนตัวโตหลังจากได้คำตอบจากเขา ทำตัวอย่างกับเด็ก
“คุณคริสไปเปลี่ยนชุดเถอะครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง” ผลักร่างสูงให้เดินออกจากห้องครัวไป แล้วคู่รักชานแพคก็เดินไปรอที่โต๊ะตามที่อี้ชิงบอก
“จะชวนไปสวนสนุกเหรอ?” คริสถามขึ้นหลังจากที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จและมานั่งที่โต๊ะฟังคำชักชวนของแพคฮยอน
“ใช่ครับ พี่คริสไปมั้ย? ล็อตเต้เวิลด์ใกล้ๆนี่เองครับ”
“นี่มันก็เกือบหกโมงแล้วนะ ไปจะได้เล่นอะไรกัน รอหยุดเสาร์-อาทิตย์ดีมั้ย?”
“แต่สวนสนุกเปิดถึงสี่ทุ่มนะครับ แล้วไปเย็นๆแบบนี้แหละดี จะมีขบวนพาเหรดเดินโชว์ด้วย” แพคฮยอนพยายามโน้มน้าวคริสด้วยขบวนพาเหรดแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล
“แต่...”
“ไปกันเถอะครับ ผมอยากไป ถ้าไปวันนี้คนจะน้อยกว่าวันหยุดนะครับ” อี้ชิงที่เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับจานสปาเก็ตตี้ไวท์ซอสเส้นแบน2จานในมือพูดขึ้น เขาก็คิดไว้อยู่แล้วว่าคริสอาจจะปฏิเสธถ้าชานยอลหรือแพคฮยอนเป็นคนชวน แต่เพื่อไม่ให้คนชวนต้องเสียน้ำใจ เขาเลยช่วยพูดกึ่งบังคับให้คริสยอมไป และมันก็ได้ผล
“อืม ก็ได้ ถ้านายอยากไปเราก็จะไปกัน งั้นรีบกินรีบไปกันเถอะ” เมื่อคริสตอบตกลงทุกคนจึงเริ่มลงมือทานอาหารเย็นฝีมือเมียรับจ้างของคริสทันที
“จะว่าไปคนเยอะเหมือนกันนะเนี่ย” ชานยอลยืนมองผู้คนที่เข้าออกตรงทางเข้าสวนสนุกล็อตเต้เวิลด์จำนวนมาก ใครว่าวันธรรมดาคนน้อย ชานยอลขอเถียงขาดใจ
“พี่คริสใส่หมวกแบบนี้แล้วเท่ดีนะครับ” ในขณะที่คนรักบ่นเรื่องจำนวนคนที่มาสวนสนุกอยู่ ตัวแพคฮยอนกลับเคลิบเคลิ้มไปกับลุคใหม่ที่แฟนคลับอันดับหนึ่งอย่างเขาไม่เคยเห็น คริสอยู่ในชุดสุดแสนสบายสเวตเตอร์แขนยาวสีดำ เข้าชุดกันได้ดีกับกางเกงผ้าสีแดงสด บนหัวยังมีหมวกแก๊ปสีดำสวมอยู่ด้วย
“ว่าแต่คุณจะใส่หมวกทำไมครับ” อี้ชิงเอ่ยถาม
“ก็ใส่ไว้ไม่ให้คนจำได้ไง”
“คุณคิดว่ามันช่วยได้เหรอครับ” ถึงมันจะพอปิดผมที่เป็นสีบลอนด์ทองเด่นชัดนั้นได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ปิดบังใบหน้าอันหล่อเหลาของคนร่างสูงได้เลย มิหนำซ้ำยังทำให้ดูลึกลับน่าค้นหามากกว่าเดิมซะอีก แล้วส่วนสูงที่เกือบถึง200เซนติเมตรนี่อีก
“ก็ยังดีกว่าไม่ใส่อะไรเลยแล้วกัน และเราก็ไม่รู้ด้วยว่าไอ้นักข่าวคนนั้นมันจะตามมามั้ย” คนที่เขาต้องการซ่อนตัวมากที่สุดไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนักข่าวที่ตามทำข่าวฉาวของเขาไม่เลิก
“โดบี้ๆ พาเหรดมาแล้ว” เสียงร่าเริงของแพคฮยอนทำให้ทุกคนหันไปมองตามขบวนพาเหรดที่เต็มไปด้วยตัวมาสคอตของสัตว์มากมายและเจ้าชายเจ้าหญิงจากเทพนิยายหลายเรื่อง ถือเป็นโชคดีที่พวกเขามาถึงทันเวลาเดินขบวน
เด็กๆและผู้ใหญ่หลายคนต่างหยุดดูขบวนพาเหรดที่ค่อยๆเคลื่อนผ่านไปช้าๆ โบกมือโบกมือให้เจ้าหญิงเจ้าชายและตัวการ์ตูนกันอย่างสนุกสนาน แพคฮยอนไม่พลาดที่จะเก็บภาพประทับใจด้วยกล้องความละเอียดสูงจากสมาร์ทโฟน แต่คนที่ถ่ายไม่ใช่ตัวเขาเองกลับเป็นคนรักที่ยืนเมื่อยแขนอยู่
เมื่อขบวนพาเหรดเคลื่อนผ่านหน้าไปผู้คนก็เริ่มขยับเดินกันอีกครั้ง ทั้งสี่คนเดินตรงไปยังเครื่องเล่นหวาดเสียวอย่างแรก นั่นก็คือ ไวกิ้ง ทุกคนนั่งอยู่แถวเดียวกันส่วนท้ายเรือ เมื่อเครื่องเล่นขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดอี้ชิงก็เผลอจับมือกับคริสอย่างลืมตัว เจ้าของมือหนามองคนที่กำมือเขาไว้แน่น ดวงหน้าหวานเริ่มขาวซีดเพราะความกลัว ร่างสูงจึงกระชับมือให้แน่นขึ้นก่อนที่ทั้งคู่จะตะโกนออกมาเสียงดังเมื่อไวกิ้งปล่อยตัวลงมาด้วยความเร็ว
หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็พากันไปเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวอีกหลายอย่าง ทั้งรถไฟเหาะตีรังกา ล่องแก่ง และอย่างอื่นอีกมากมาย เล่นเอาชานยอลถึงกับอ้วกออกมาเมื่อเล่นเครื่องเล่นสุดท้ายจบ
“คุณชานยอลไปนั่งพักก่อนเถอะครับ” อี้ชิงยื่นขวดน้ำให้ชานยอลดื่มหลังจากที่ได้สำรอกเส้นสปาเก็ตตี้อาหารมื้อเย็นที่ยังย่อยไม่หมดออกมา คริสเข้ามาช่วยพยุงน้องชายไปยังที่นั่งและตัวเองก็นั่งข้างๆ
“โดบี้ยังไหวมั้ย” คนตัวเล็กถามอย่างเป็นห่วงพลางลูบหลังให้อย่างอ่อนโยน
“นั่งพักสักหน่อยคงหาย”
“พี่คริสกับพี่อี้ชิงจะไปเล่นอย่างอื่นก่อนก็ได้นะครับ” แพคฮยอนพูดขึ้นหลังจากที่หันไปเห็นหน้าของพี่ทั้งสอง อี้ชิงนั่งมองดูอาการชานยอลอย่างเป็นห่วง แต่พี่คริสสุดหล่อของเขาสิกำลังมองไปทางอื่นด้วยท่าทางเบื่อหน่าย เห็นแบบนั้นเลยตัดสินใจพูดออกไป
“งั้นเราไปกันเถอะอี้ชิง” คริสลุกขึ้นเต็มความสูงเดินนำหน้าไปทางเครื่องเล่นบอลลูนลอยฟ้า แต่ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินตามตนมาจึงหันกลับมาดูและก็ไม่พบร่างบางอย่างที่คิดไว้ เขาจึงเดินกลับมายังที่เดิม
“ทำไมไม่ไปล่ะอี้ชิง”
“ชานยอลยังไปไม่ไหว รอไปพร้อมกันดีกว่าครับ”
“แต่แพคฮยอนบอกให้เราไปก่อนได้”
“แต่ผมจะรอไปพร้อมกัน”
“แต่ฉันจะไปตอนนี้”
“ถ้าอยากไปมากก็เชิญไปคนเดียวเลยครับ” คนร่างบางลุกขึ้นมาประจันหน้ากับร่างสูง ต่างมองหน้ากันอย่างไม่ยอมใคร จนคริสตั้งท่าจะเถียงอีกครั้งชานยอลจึงพูดขัดขึ้นก่อน
“พี่อี้ชิงไปกับพี่คริสเถอะครับ ตอนนี้ผมรู้สึกดีขึ้นแล้ว และผมก็อยากไปเดทกับแพคฮยอนสองต่อสองด้วย”
“เห็นมั้ยบอกให้ไปแต่แรกก็หมดเรื่อง” มือหนาคว้าจับแขนเล็กกึ่งลากกึ่งจูงคนตัวเล็กให้เดินตาม
“ผมขอโทษนะครับพี่อี้ชิง” ชานยอลตะโกนไล่หลังมา การที่บอกว่าอยากไปเดทกันสองต่อสองคงแรงไปหน่อย ดังนั้นเขารู้สึกว่าควรขอโทษ
“จางอี้ชิงโกรธหรือไง?” ร่างสูงหยุดเดินแล้วหันหน้ามาถามคนที่ยืนอยู่ด้านหลังตน
“เปล่าครับ”
“แล้วสะบัดมือออกทำไม” ก็พอเดินแยกออกจากกลุ่มชานแบคมาไม่ไกล คนตัวเล็กก็สะบัดมือออกจากการเกาะกุมของเขา
“ก็ผู้ชายมาเดินจูงมือกันในที่แบบนี้ไม่แปลกเหรอครับ” คำตอบของคนร่างบางทำให้คริสเพิ่งคิดขึ้นได้จึงไม่ได้พูดอะไรออกไปและออกเดินต่อ
“ขึ้นบอลลูนกันเถอะ” คริสเอ่ยชวนร่างบางเมื่อเดินมาถึงหน้าทางเข้าเครื่องเล่นบอลลูนลอยฟ้า อี้ชิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย และพวกเขาทั้งสองคนก็ต่อแถวยืนรอ
เวลาตอนนี้เกือบจะสี่ทุ่มแล้วทำให้ผู้คนที่มาเที่ยวในสวนสนุกแห่งนี้เริ่มบางตา ทั้งคู่ยืนต่อแถวเพียง5นาทีก็ได้ขึ้นมานั่งบนบอลลูนกันแค่สองคน ระยะห่างกับบอลลูนลูกก่อนค่อนข้างมากเพราะลูกที่พวกเขาจะขึ้นต้องรอลูกอื่นวนครบรอบ คิวหลังต่อจากพวกเขาก็ไม่มีอีกแล้ว เพราะพนักงานเสียบป้ายปิดทำการไปเป็นที่เรียบร้อย
“วิวตอนกลางคืนสวยกว่าตอนกลางวันอีกเนอะคุณคริส” ทันทีที่บอลลูนลอยฟ้าเริ่มเคลื่อนที่คนร่างบางก็กวาดสายตามองดูบรรยากาศยามค่ำคืนของสวนสนุกแห่งนี้อย่างตื่นตาตื่นใจ เครื่องเล่นต่างๆประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีสัน เห็นผู้คนที่กรีดร้องกับเครื่องเล่นหวาดเสียวพวกนั้นอย่างสนุกสนาน ก็ทำให้อี้ชิงขำออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“เคยมาเที่ยวที่นี่มั้ย?”
“ผมไม่ได้เชยขนาดนั้นนะครับคุณคริส เคยมากับเพื่อน2-3ครั้งได้ แต่มาตอนกลางวัน” นั่งนึกย้อนความทรงจำถึงตอนที่มาเล่นเครื่องเล่นที่นี่กันอย่างสนุกสนานกับเพื่อนแล้วก็มีความสุข ถึงแม้ในความทรงจำนั้นจะมีจงอินอยู่ด้วยก็ตาม
“ถ้างั้นแสดงว่าฉันเชยนะสิที่ไม่เคยมา”
“ไม่เคยมาจริงเหรอครับ” ร่างบางเบิกตาโพลงถามอย่างตกใจ ก็ล็อตเต้เวิลด์เป็นสถานที่เที่ยวในเกาหลีที่ไม่ควรพลาดนี่ แถมคริสก็น่าจะอยู่เกาหลีมานานแล้ว จะมาบอกว่าไม่เคยมาก็ไม่เชื่อหรอก
“จะว่าไม่เคยมาก็ไม่ใช่ เพราะฉันเคยมาเที่ยวกับครอบครัว”
“แล้วทำไมต้องโกหกบอกว่าไม่เคยมาด้วยล่ะครับ” กะแล้วว่าไม่มีใครไม่เคยมาหรอก โกหกทำไมก็ไม่รู้
“ไม่ได้โกหก เคยมาเที่ยวกับครอบครัวก็จริง แต่ยังไม่เคยมาเดทกับคนที่ชอบต่างหาก” จบประโยคดวงตาคมสีดำขลับก็จ้องมองเข้าไปในหน่วยตาคู่สวยอย่างสื่อความหมาย คริสเห็นดวงหน้าหวานเริ่มแดงขึ้นเป็นริ้วๆ จึงยกยิ้มที่มุมปากอย่างชอบใจ
“นะ นี่มันคำสารภาพรักหรือเปล่าครับ” อี้ชิงถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มือเริ่มเปียกชื้นกับการรอคำตอบอย่างตื่นเต้น
“ไม่รู้สิ แล้วแต่นายจะคิด” ตอบด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท ทำเอาคนที่เขินอายใจเต้นรัวเมื่อกี้หน้าง้ำหน้างอทันที
“ถ้าอย่างนั้นผมคงคิดผิดไป” สะบัดหน้าหนีออกไปมองทางอื่น ร่างสูงเห็นแล้วก็หลุดขำให้กับกับท่าทางแสนงอนที่น่ารัก ก่อนจะยกมือหนาขึ้นประคองใบหน้าเรียวให้หันกลับมาหาตนแล้วประทับฝีปากหยักสัมผัสลงบนกลีบปากอิ่มแดงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะบดเบียดริมฝีปากให้หนักหน่วงยิ่งขึ้นแล้วสอดลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหวานในโพรงปาก เรียวลิ้นเล็กก็หยอกเย้าตอบรับจุมพิตที่หวานซึ้งอย่างดี เมื่อรู้สึกว่าคนร่างบางเริ่มหายใจติดขัด คริสจึงถอนริมฝีปากออกแล้วจ้องมองใบหน้าแดงก่ำอย่างเอ็นดู
“ฉันทำแบบนี้แล้วนายคิดว่ายังไง?”
“คิดว่าเงินในบัญชีผมจะมีเงินเพิ่มขึ้นอีกสามแสนวอนแล้วล่ะ”
ความคิดเห็น