ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { sehun x luhan } .ผู้จัดการของผม

    ลำดับตอนที่ #8 : [ SEHUN x LUHAN ] CHAPTER SEVEN

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.91K
      39
      13 ต.ค. 56

    [ SEHUN x LUHAN ] CHAPTER SEVEN

     

     

     

     

    ขอบคุณพระเจ้าที่เขาจะถ่ายซีรีย์กันเดือนหน้า . .

    แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ เขาเริ่มมีประชุมเตรียมงานกันล่วงหน้าแล้ว ตอนนี้ผมกำลังประชุมอยู่กับพวกผู้จัด ผู้กำกับ สปอนเซอร์ นักแสดงอยู่ที่บริษัทต้นสังกัด เรียกได้ว่างานนี้เจ๊ใหญ่ทุ่มสุดตัวจริงๆ นักแสดงทั้งหมดมีแต่พวกที่กำลังอยู่ในกระแสและค่าตัวสูงลิบลิ่ว นอกจากผมจะถูกปลุกให้ลุกขึ้นมาจากเตียงตอนไก่ยังไม่โห่แล้ว ผมยังต้องมานั่งสบตากับไอ้อีวอนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นอะไรที่คลื่นไส้มากจริงๆถึงแม้ว่าจะยังไม่มีอะไรตกถึงท้องก็ตามทีเถอะ

    “ทำไมพี่แจซอกให้นายเข้ามา” ผมกระซิบถามลู่หานที่นั่งอยู่ข้างหลังผม ส่วนใหญ่นักแสดงทุกคนจะมีผู้จัดการไม่ก็สตาฟฟ์มาคอยฟังด้วยทั้งนั้น แต่ทำไมต้องให้ลู่หานผู้ยังอ่อนประสบการณ์เข้ามาในนี้ด้วยฟะ มาเป็นเหยื่อล่อเสือล่อตะเข้ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามรึไง ไอ้คู่ดูโอ้ป่วนวงการนั่น . .

    “เขาท้องเสีย” ลู่หานตอบซื่อๆ

    ข้ออ้างน่ะสิ . . ผมส่ายหน้าเบาๆขณะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกม

    “ทำอะไรของนาย เซฮุน” ลู่หานกระซิบแบบด่าๆ “เขากำลังประชุมกันอยู่นะ”

    “ก็แล้วยังไง ยังไงซะฉันก็ลงท้ายที่บทตัวเด่นอยู่ดี เชื่อดิ” ผมไม่ได้หลงตัวเองแต่อย่างใด แต่เจ๊ใหญ่รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ ช่วงนี้เธอกำลังดันผมเต็มที่ถึงขีดสุด

    “เอาเป็นว่า . . เรื่องนี้ฉันจะพลิกบท” เจ๊ใหญ่พูดขึ้นมากลางที่ประชุม ที่จริงเธอคือรองประธานลูกสาวของท่านประธานเจ้านายของผม เธอค่อนข้างเป็นคนสวยเปรี้ยวเฉี่ยวและ . . โหดสัด “โอเซฮุน . . นายอยากลองเล่นร้ายดูสักครั้งมั้ย”

    ทุกคนจ้องมองมาที่ผม ห้องที่ตกอยู่ในความเงียบเกิดเสียงขึ้นมา เป็นเสียงจากเกมในโทรศัพท์ของผมเอง เจ๊ใหญ่ส่ายหน้าให้ผมเบาๆ ส่วนลู่หานก็เอาแต่สะกิดผมอยู่นั่นแหละ ไม่รู้จะทำหน้าที่ดีไปถึงไหน

    “ว่าไงนะครับเจ๊ เอ๊ย ท่านรองประธาน”

    “อะแฮ่ม . . ตอนประชุมช่วยตั้งใจฟังฉันนิดนึง”

    “ก็เจ๊ไม่น่าสนใจพอ”

    “ว่าไงนะ เด็กนี่”

    “เปล่าครับ” เธอค่อนข้างสนิทกับผม เพราะเธอเป็นคนออกคำสั่งให้พี่แจซอกไปดึงตัวผมเข้ามาอยู่ในค่ายตั้งแต่ป.5

    “งั้นฉันสรุปเลย ฉันจะให้นายเล่นร้าย” เธอตัดบทเสร็จสรรพ ทำเอาทุกคนในห้องตกใจกันไปตามๆกัน เสียงทักท้วงดังขึ้นจากทั่วทุกสารทิศ

    “ท่านรองประธานคะ ตอนนี้คนดูติดภาพของโอเซฮุนแบบที่เป็นคนดีนะคะ”
              “เขาเป็นนักแสดงที่กำลังมาแรงนะครับ ตอนนี้คนดูกำลังติดภาพองค์ชายรัชทายาทจากเขาอยู่”

    “อีกอย่างหนึ่ง ในบทนี้โอเซฮุนจะร้ายมากเกินจนไป ดิฉันเกรงว่า . .

                “พอเถอะ” เจ๊ใหญ่ยกมือขึ้นมาห้ามปราม ทุกคนเงียบกริบทันทีราวกับมีคนมากดปุ่มสวิตช์ “เอาเป็นว่าเรื่องนี้ฉันตามใจนักแสดงที่ทำให้เรตติ้งของค่ายเราพุ่งกระฉูดเป็นครั้งที่ยี่สิบสองละกัน ถือซะว่าเป็นรางวัล” ผมก้มหน้าก้มตาเล่นเกมต่อไป “นายจะว่ายังไง โอเซฮุน”

                เฟี้ยว ตู้ม ตู้ม ตู้ม

              “โอ เซ ฮุน” เจ๊ใหญ่พยายามสะกดความโกรธของตัวเองเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

                “อ๋อ ผมน่ะเหรอ” ผมยิ้มหล่อส่งไปทั่วห้อง ที่จริงมันคงดูเป็นยิ้มที่เย็นชาและน่าหมั่นไส้มากมาย “ผมตามใจผู้จัดการของผมน่ะ”

    คำตอบกึ่งทะเล้นของผมทำเอาทั้งห้องเงียบกริบกันอีกครั้ง ทุกคนพร้อมใจโฟกัสมาที่ลู่หานที่แน่นอนว่าเขาตัวแข็งทำหน้าเอ๋อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมเลยถามเขาอีกครั้งเพื่อเป็นการย้ำ “ว่าไงล่ะลู่หาน”

                เขาทำปากขมุบขมิบด่าผม . . ตอนนี้ชีวิตของผมขึ้นอยู่กับลู่หานแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

                “เอ่อ . . เล่นร้ายก็ดีนะครับ” ลู่หานพูดอย่างไม่เต็มเสียง

                “เซฮุน นายเอาเพื่อนมาเข้าประชุมได้ด้วยเหรอ แจซอกไปไหน” เจ๊ใหญ่ถามขึ้นอย่างสงสัย

                “เขาปวดไมเกรนน่ะครับ” ผมนึกอะไรได้ก็พูดออกไป “นี่ผู้ช่วยพี่แจซอก ถือว่าเป็นผู้จัดการของผมอีกคน”

                เจ๊ใหญ่ขยับแว่นทรงเปรี้ยว หรี่ตามองมาที่ลู่หานอย่างสำรวจ “ไม่สนใจจะเดบิวต์เป็นนักแสดงหน่อยเหรอ”

                “ไม่สนครับ” ผมตอบแทนลู่หาน “เท่านี้ใช่มั้ยครับ เจ๊เห็นผมใส่ชุดนักเรียนมั้ย นี่ผมกำลังจะไปเรียนสายนะ ไหนบอกจะให้ผมเป็นไอดอลตัวอย่างไง”

                “เอาเถอะ ทุกคนเห็นด้วยใช่มั้ยเรื่องโอเซฮุนจะเล่นร้าย” เจ๊ใหญ่ถามเสียงข้างมากในห้องประชุม ท่าทางทุกคนจะตามใจเจ๊ . . “ตกลงตามนี้ อีวอนจะขึ้นแท่นเป็นพระเอกซีรี่ย์ครั้งแรก ยินดีด้วยนะ” ทุกคนปรบมือให้อีวอน ที่ยิ้มๆงงๆ เหอะ ทำเป็นถ่อมตัว ที่แท้ก็ส้มหล่นล่ะว้า . . “อย่าลืมไปทำการบ้านและหน้าที่ของตัวเองมา และเจอกันต้นเดือนหน้านะ หวังว่าจะพร้อม”

                ทุกคนแยกย้ายกันออกจากห้อง . . เลขาของเจ๊ใหญ่วิ่งมาบอกให้ผมรอก่อนเพราะเจ๊ใหญ่จะคุยด้วย ผมเลยหยุดรอ . . ผมดึงลู่หานให้ออกห่างมาจากทางเดินตรงที่อีวอนมันกำลังจะเดินออกไปด้วย ไอ้บ้านี่เผลอเป็นไม่ได้ ชอบมองเหมือนลู่หานเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเซ็กซี่ๆไปได้ . .

                “โอเซฮุน” เจ๊ใหญ่ทักผม หันมาหาลู่หาน “แล้วนี่ก็ . .

                “ลู่หานครับ” ลู่หานโค้งยิ่งกว่าเก้าสิบองศาอีก

                “ลู่หาน? กวางน้อยแห่งรุ่งอรุณ?”

                “อ่า ใช่ครับ”

                สองคนนี้คุยอะไรกัน . . ผมนี่งงเป็นไก่ตาแตก

                “ความหมายของชื่อเขาย่ะ . . นี่น่ะเหรอไอดอลตัวอย่าง ภาษาจีนยังไม่รู้เรื่อง” เจ๊ใหญ่แว๊ดใส่ผม

                “เจ๊ ผมสายวิทย์”

                “ยังไงก็เถอะ ฉันว่าจะมาถามนาย เรื่องนางเอกซีรีย์เรื่องนี้ ฉันคิดว่านายเคยเจอ”

                “อ้าว นี่ยังไม่ได้นางเอกเหรอ เมื่อกี้เห็นนั่งๆอยู่ก็นึกว่ามีนางเอกซะแล้ว” ฝั่งนักแสดงหญิงผมเห็นคนสวยๆนั่งกันให้รึ่มตอนที่ประชุม

                “เป็นเกิร์ลกรุ๊ปจะเดบิวต์สิ้นปีนี้น่ะ เลยต้องมีผลงานมาโปรโมทตัวเองและก็วงก่อน อีกอย่างพ่อเขาเส้นใหญ่ด้วย ก็เลย . .

                “ง่ายเนอะ ไอ้เราก็ฝึกแทบตายกว่าจะได้แสดงแต่ละเรื่อง” ผมทำเป็นพูดลอยๆ

                “น้อยๆหน่อยเหอะโอเซฮุน”

                “แล้วผมจะรู้จักเขาได้ยังไง”

                “เขาเรียนอยู่โรงเรียนด้วยกันกับนายนี่ . . คุ้นๆว่าปาร์คเยอึน”

                “ปาร์คเยอึน??” ชื่อนี้อีกแล้วเหรอ ใครกันล่ะ . .ทำไมผมคุ้น แต่ผมนึกไม่ออก

                “ก็ยัยคนสวยที่ชอบมองนายไง นั่งแถวสองโต๊ะตัวที่สาม” ลู่หานช่วยกระซิบเตือนความจำให้

                “อ๋อออออออออออออออ” เธอคือคนทำให้ผมโดนต่อยตั้งแต่ไปเรียนวันแรกไง . . แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องของผมนี่นา “ผมไปนะเจ๊ . . ไว้เจอกัน” ผมโค้งคอเบาๆให้เจ๊ใหญ่ที่กอดอกหมั่นไส้ผมอยู่เบื้องหลัง

     

     

     

     

                โรงเรียน . .

                ผมหลับและก็ตื่นในห้องเป็นครั้งที่เจ็ด . . เสียงอาจารย์ผู้คร่ำหวอดในรายวิชาดังหึ่งๆเข้าหูซ้ายและทะลุออกหูขวา ได้ยินแว่วๆว่าใกล้จะสอบแล้ว ทุกคนในห้องเลยเรียนกันอย่างคร่ำเคร่ง . . ยกเว้นผม . . แม้ว่าผมจะรู้ว่าถ้าผมทำคะแนนได้ไม่ดีผมจะถูกเตะไปอยู่ห้องอื่นก็ตามที แต่เชื่อเถอะว่าลู่หานไม่ยอมให้ผมมีผลการเรียนตกต่ำแน่ๆ เพราะการรักษาผลการเรียนของผมคือหน้าที่ของเขาเหมือนกัน

                นี่ผู้จัดการหรือเมีย ???

                คิดแล้วก็เขิน หัวเราะคิกๆกับตัวเองถึงแม้ว่าเพื่อนรอบข้างจะซีเรียสกันชิบหาย รู้ตัวอีกทีเพื่อนในห้องก็เขยิบเก้าอี้เตรียมตัวจะไปกินข้าวกันแล้ว ลู่หานก็เลื่อนเก้าอี้เช่นกัน เขายืนขึ้นแล้วหันมามองผม ผมที่นั่งทำหน้าเอ๋อ

                “ไม่ไปกินข้าวเหรอ” ลู่หานถามผม

                ผมพยักเพยิดไปที่ของกินจากแฟนคลับที่วางกองอยู่ข้างๆ แฟนคลับจากทั้งในโรงเรียนและก็นอกโรงเรียน พวกเธอเอามาวางที่โต๊ะของผมทุกวัน ผมหยิบขึ้นมากะจะแบ่งให้ลู่หานทานด้วย แต่ผมโดนตีมือ

                เพี๊ยะ . .

                มือเล็กๆแต่ทำไมตีเจ็บนักวะ TT

                “ยังไม่เข็ดอีกรึไง หรืออยากจะโดนล้างท้องอีกรอบ” ท่าทางเขาเอ็ดเหมือนเขาเป็นแฟนผมแน่ะ นั่นทำให้ผมอดยิ้มกับตัวเองไม่ได้ . . แต่ผมไม่แสดงออกออกไปหรอก ผมฟอร์มจัด

                “ก็เขาอุตส่าห์ให้มา จะให้ทำยังไงล่ะ”

                ลู่หานมองภูเขาของกินและของขวัญที่กองพะเนินเทินทึกอยู่ข้างโต๊ะผมอย่างใช้ความคิด “ถ้าจะทิ้ง ก็เสียดาย” เขารำพึงกับตัวเอง อ้าว ซะงั้น . . “เอางี้ถ้านายจะกิน ฉันก็จะกินกับนายด้วยละกัน”

                “หา”

                “ถ้าจะโดนล้างท้อง ก็โดนกันทั้งสองคนนี่แหละ” ลู่หานเลือกหยิบเฉพาะถุงของกินขึ้นมา และก็หันมามองผม “ตามมาสิ เวลาพักเที่ยงไม่ได้มีเยอะนะ”

                จ้า ไปเดี๋ยวนี้จ้า ผมอยากจะช่วยลู่หานถือของชะมัด แต่พอยื่นมือไปคว้าถุงเหล่านั้นเท่านั้นแหละ ผมก็โดนตีมืออีกครั้ง ฮ่วยยยย . . ไม่เข้าใจรึไงว่าคนมันอยากดูแลผู้จัดการ มิใช่ให้ผู้จัดการมาดูแลแบบนี้ โถ่ววววว

                ลู่หานพาผมขึ้นมายังบนดาดฟ้าตึกเรียนที่มีลมพัดจนกระโปรงปลิวหวือ(ใครใส่กระโปรง?) เขาวางถุงทั้งหมดลงบนพื้น และก็นั่งพิงกำแพงที่มีประตูพาพวกผมขึ้นมา ลู่หานเลือกของกินในถุง ส่วนผมก็นั่งลงข้างๆเขาช้าๆและก็มองดูเขา

                เดทในเวลาพักกลางวันเหรอเนี่ย . .

                “โห นี่มันกี่ตังค์กันล่ะเนี่ย” ลู่หานหยิบช็อคโกแลตยี่ห้อแพงหูฉี่ที่เก็บความเย็นได้ขึ้นมาดู “ถ้าจะโดนล้างท้องก็คุ้มวะ”

                “ชอบของแบบนี้เหรอ” ผมถาม มองดูเขาทุกอิริยาบถ

                “ก็ . . ไม่ได้ชอบ แต่มันไม่เคยได้กินน่ะ” ลู่หานพูดออกมา “ถ้าลู่ถิงได้กิน เธอคงจะมีความสุขน่าดู”

                ลู่ถิง . . ยัยลูกหมูตัวน้อย . . บางทีผมก็คิดถึงแฟนคลับคนนี้เหมือนกัน คิดถึงคุณยายของลู่หานด้วย

                “นายไม่ได้ไปเยี่ยมครอบครัวนายเลยใช่มั้ย ตั้งแต่ที่มาเป็นผู้จัดการให้ฉัน”

                ลู่หานนิ่งคิด ท่าทางเขาจะคิดถึงบ้านน่าดู “อืม”

                ได้ยินเสียงของเขาเศร้าผมถึงกับสะเทือนไปถึงตับไตไส้พุง . . ผมนี่มันเป็นตัวต้นเหตุให้เขาพรากจากครอบครัวของเขาแท้ๆ . . ไอ้บ้าโอเซฮุน

                “งั้นไว้ถ้าตารางฉันว่าง . . เราจะไปบ้านนายกัน” ผมพูดน้ำเสียงอ่อนโยน แต่เขาคงสัมผัสไม่ได้หรอก เพราะตอนนี้ดวงตาเขากำลังเบิกกว้างอย่างดีอกดีใจสุดๆ

                “จริงนะ!!!!!!” ร้องดังจากดาดฟ้าไปจนถึงชั้นหนึ่งเลยนะคนสวย “นายไม่โกหกฉันนะ!!!!

                “อื้อ” ผมยิ้มเบาๆ

                ลู่หานดูจะอึ้งๆไป . . เขาเงียบกริบลงไปถนัดตา       

                “อ้าว เป็นไรไปล่ะ”

                “ฉันคิดว่า . . ฉันเพิ่งจะเห็นนายยิ้มนะ”

                เวรกรรม!!!! นี่ผมเพิ่งยิ้มออกไปเหรอ โอ้วม่ายยยยยย . . หมดกัน ภาพลักษณ์เท่ๆของโอเซฮุน หมดกันTT (ความคิดของโอเซฮุนคือถ้าเก๊กขรึมมากเท่าไหร่ลู่หานอาจจะชอบเขาเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น โถ โอเซฮุน)

                “เวลายิ้มตาของนายเป็นสระอิ” ลู่หานพูดและก็หัวเราะขำ “ตลกดีนะ”

                ให้ตาย . .เขาไม่ได้ชมผม แต่เขาทำให้ผมเขิน . .

                “กินเข้าไป” ผมดันช็อคโกแลตในมือลู่หานใส่ตัวเขา . . แก้เขิน

                “เวลานายยิ้มก็ออกจะดูดี ทำไมนายไม่ยิ้มบ่อยๆล่ะ”

                พอเสียทีเถอะ . . เค้าเขินนะตัวเองงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง “เรื่องของฉันน่า”

                “ฮ่าๆๆๆ เขินอ่ะดิ๊” ยังจะมาล้ออีก . .

                “เอามานี่” ผมแย่งช็อคโกแลตในมือของเขามา . . แก้เขิน . . อีกละ

                “เห้ย ไม่ให้ ฉันกำลังจะกินนะ!

                “ฉันก็จะกินเหมือนกัน เอามานี่!

                “ไม่”

                ยื้อแย่งฉุดกระชากกันไปมาในที่สุดช็อคโกแลตกล่องนั้นก็หล่นกระจาย ผมกับลู่หานเลยมองหน้ากัน และนั่นทำให้ผมพบว่าใบหน้าของผมอยู่ห่างจากหน้าเขาไม่ถึงห้าเซนต์

                อา ให้ตาย ดวงตากลมแป๋วนั่น ทำให้แทบคลั่ง

                ดวงตาที่เคยหลับตาปี๋ตอนที่แอบจูบผมเมื่อตอนป.5 บัดนี้ได้มาอยู่ใกล้ผมอีกครั้ง . .

                “ทำอะไรกัน” เสียงหนึ่งดังขึ้น นั่นทำให้ผมกับลู่หานหันหน้าหนีไปคนละทางทันที

                มินจุนกับพรรคพวกห้องบีของมัน กลุ่มเพื่อนใหม่ของลู่หานที่ลู่หานไม่มีแม้แต่เวลาที่จะไปข้องเกี่ยวด้วย เพราะต้องตัวติดกับผม . .

                มันแพ้แล้ว แต่ท่าทางของมันจะยังไม่จบ . .

                “ลู่หาน นายจะออกจากกลุ่มพวกเราไปจริงๆเหรอ นายจะคบกับไอ้ดาราไร้มนุษยสัมพันธ์คนนี้จริงๆน่ะเหรอ” มินจุนเอ่ยตัดพ้อราวกับลู่หานทิ้งเขาไป . . อะไรของมัน

                และที่จริงตรูไม่ได้ไร้มนุษยสัมพันธ์เว้ย แค่เริ่มสายสัมพันธ์กับใครก่อนไม่เป็น!

                ลู่หานไม่ตอบ เขาก้มหน้าก้มตากินช็อคโกแลตเงียบๆ

                “ลู่หาน ฉันพูดกับนายอยู่นะ” มันลงทุนนั่งลงและก็คว้ามือลู่หานเพื่อให้ลู่หานสนใจมัน นั่นทำให้ช็อคโกแลตที่เขากำลังจะกิน หล่นลงไปที่พื้นเกือบจะทั้งกล่อง

                หล่นไปสองกล่องแล้ว . . ลู่หานอ้าปากค้าง และท่าทางเขากำลังโกรธ

                “นายทำอะไรของนายมินจุน”

                ผมปัดมือไอ้มินจุนออกจากมือคนสวยของผม . .

                “อย่ามายุ่ง” มันหัดมาเอ็ด

                ไอ้สร๊าดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด . . วอนเกิบตรูเหรอ!!!!!!

                ผมจะเอามือของผมไปยุ่งอีกครั้ง แต่มันก็ดันลากลู่หานให้ลุกขึ้นยืนพร้อมมันและก็เดินหนีจากผมไปเลย เห้ยยยย ไอ้มินจุน นั่นผู้จัดการกูนะ!!!!!

                “ล็อคประตูไว้ อย่าให้มันลงมา”

                มินจุนสั่งเพื่อนของมัน ซึ่งพวกนั้นก็ทำตามแต่โดยดี ผมโดนพวกมันจับตัวเอาไว้ และพวกมันก็เดินลงไปจากชั้นดาดฟ้า ล็อคประตูจากข้างในเสร็จสรรพไม่ให้ผมได้ออกไปสู่ชั้นเบื้องล่าง

                แมร่งงงงงงงงงงง เล่นเป็นเด็กๆ!

                หลังจากที่ผมกระทืบประตูอยู่นานสองนาน ผมก็ได้ฤกษ์หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา ผมโทรหาลู่หานก่อน ซึ่งติดแต่สักพักก็มีคนตัดสาย โทรไปอีกรอบคราวนี้ถึงกับปิดเครื่องหนีผมไปเลย ไอ้มินจุน! ทำแบบนี้อย่าได้หวังเลยว่ามรึงจะตายดี!

                ผมกดเบอร์โทรหาอาจารย์ยูให้เธอช่วยบอกภารโรงให้มาเปิดประตูให้ รออยู่นานกว่าภารโรงจะมาเปิดประตูให้ผม เขาค่อนข้างตกใจที่เห็นผมติดอยู่บนดาดฟ้า

                “องค์รัชทายาท . .” และเขาก็คงตกใจที่เห็นผมตัวเป็นๆ

                “ขอบคุณนะครับลุง” ผมโค้งหัวให้ลุงเล็กน้อยก่อนที่จะรีบวิ่งลงไปชั้นล่าง ตอนนี้ต้องตามหาตัวลู่หานให้เจอก่อน และหลังจากที่ลู่หานปลอดภัยแล้ว ผมจะสั่งสอนไอ้มินจุนทีหลัง สั่งสอนลูกน้องมันด้วย เอาให้เข็ดหลาบไม่กล้ายุ่งกับผมและลู่หานอีก . . คอยดู

                แต่ผมไม่รู้ว่ามันลากลู่หานไปไหน ผมเลยวิ่งไล่ตั้งแต่ชั้นห้าลงมายังชั้นสี่ และชั้นสามตามลำดับ ด้วยความโง่และการที่ไม่คิดอะไรให้รอบคอบ ทำให้ผมเหมือนกำลังถ่ายโฆษณาวิ่งไล่ตามขวดน้ำส้ม นักเรียนหญิงแตกตื่นเมื่อเห็นผมวิ่ง และความวุ่นวายก็ได้บังเกิดขึ้น เมื่อพวกเธอพากันกรี๊ดและก็พยายามออกจากห้องเพื่อวิ่งตามผม

                ขอบคุณพระเจ้าที่อาจารย์ทุกท่านไม่ปล่อยให้เด็กออกมาจากห้อง . .

                ว่าแต่ตอนนี้ลู่หานอยู่ที่ไหน . . ผมกลัวว่าไอ้มินจุนมันจะทำอันตรายกับลู่หานจริงๆ กลัวจนแทบจะเป็นบ้า . .

                และในที่สุดผมก็เห็นพรรคพวกของไอ้มินจุนอยู่ในห้องน้ำชั้นเรียนของผมนี่เอง . . ผมโผล่พรวดเข้าไปเลยพร้อมกับหอบแฮ่กๆ . . และสิ่งที่ผมเห็น มันทำให้ผมเป็นบ้าหนักขึ้นไปกว่าเดิม

                ไอ้มินจุนมันจับลู่หานเปลือยท่อนบน . .เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวในของลู่หานถูกกระชากจนขาดวิ่น และไอ้มินจุนมันก็สาดน้ำใส่ลู่หานต่อหน้าต่อตาผม

                “เผื่อนายจะมีสติขึ้นมานะลู่หาน!” มินจุนร้องอย่างเหลืออด และมันก็หันมาเห็นผม ไม่รู้แมร่งเป็นไร สาดน้ำใส่ผมเช่นกัน นี่เกาหลีไม่ใช่ประเทศไทยนะว้อยยยย มันไม่มีสงกรานต์! (ยังจะเล่น)

                ผมกำหมัดแน่น ในที่สุดผมก็หมดความอดทนกับไอ้มินจุนที่โตแต่ตัวแต่ความคิดก็ยังเป็นแค่เด็กประถม

                มันกำลังจะเดินชนไหล่ของผมและเดินหนีไป แต่ทว่า . . ผมไม่ปล่อยมันไปแค่นั้นหรอก

                “อยากจบมั้ย” ผมหันไปถามน้ำเสียงเรียบ ใช้หางตามองมัน

                “อะไร” มันกระชากเสียงถาม

                “ให้มันจบวันนี้ และตรงนี้”

                “ฉัน . .” ผมไม่ปล่อยให้มันพูดต่อ ผมอัดมันให้น่วมลงไปกองกับพื้นอย่างเหลืออด

                หนึ่งคือเพราะมันจับผู้จัดการผมที่ผมหวงนักหนาเปลือยท่อนบ่นต่อหน้าไอ้พวกเด็กไอคิวสูงแต่อีคิวต่ำ และสองคือผมเซ็งและก็เบื่อเต็มทีกับนิสัยเด็กๆของไอ้มินจุน

                ผมกระทืบมันซ้ำสองสามครั้งเพื่อให้มันหลาบจำ . . แน่นอนว่ามินจุนมันเก่งแต่ปาก และมีดีก็แค่ที่รูปร่าง ฝีมือของมันอยู่ระดับติดลบและสู้ผมไม่ได้ ผมเงยหน้ามองลูกน้องมัน ที่พากันหนีกระเจิงเมื่อเห็นผมในมุมที่น่ากลัวเช่นนี้ . .

                พอกันที . .

                “ถ้ามายุ่งกับลู่หานอีก นายรู้ใช่มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ผมพูดทิ้งท้าย กระทืบมินจุนซ้ำอีกครั้งอย่างไม่ใยดี

                ผมถอดเสื้อนอกมาคลุมให้ลู่หาน เขาหนาวจนตัวสั่น ภาพนั้นทำให้ผมอยากจะจับไอ้มินจุนให้ลุกขึ้นมาและก็กระทืบมันซ้ำให้ล้มลงไปอีกครั้ง

                “มันทำอะไรนายมั้ย” ผมถามอย่างเป็นห่วง ทั้งสองมือของผมกำลังจับแก้มของลู่หานและก้มมองดูว่าลู่หานได้รับอันตรายอะไรหรือไม่ . . ให้ตายเถอะ เห็นใบหน้าสวยๆเศร้าแบบนี้แล้วผมจะขาดใจ

                ลู่หานส่ายหน้า “ฉัน . .ไม่เป็นไร” แต่เขาหนาวจนตัวสั่นงันงก

                ผมอยากกอดเขา . . แต่การที่มีไอ้มินจุนอยู่ในห้องนี้มันไม่ใช่อะไรที่โรแมนติก

                “ไปกันเถอะ” ผมโอบไหล่ลู่หานให้เดินไปข้างหน้า . . ทิ้งไอ้มินจุนที่หมดสภาพไว้เบื้องหลัง

                หวังว่ามันจะไม่กล้าทำอะไรผมกับลู่หานอีก . .

     

     

     


     

     

                แต่ความหวังของผมพังทลายมลายสิ้นไป . . เพราะตอนนี้ผมกับลู่หานกลับมาอยู่ที่บริษัทต้นสังกัดของผมอีกครั้ง

                ผมจะบ้าตาย . .

                “กรี๊ดดดดดดดด โอเซฮุน นายจะทำฉันเป็นบ้า!!!!” เจ๊ใหญ่กำลังลงระเบิดอย่างหนัก “มีข่าวกับสาวๆรุ่นพี่ไม่พอใช่มั้ย ก็เลยต้องมีข่าวกับผู้จัดการตัวเองด้วยใช่มั้ย ตอบมาซิ โอเซฮุน!!!!

                ผมจะตอบอะไรได้ . . ก็ในเมื่อไอ้มินจุนมันถ่ายช็อตที่ผมจับแก้มก้มดูลู่หานอย่างเป็นห่วงเอาไว้และก็แพร่กระจายไปทั่วอินเตอร์เน็ต สภาพผมกับผู้จัดการชวนจิ้นเป็นอื่นไกลมากมาย ผมเหงื่อท่วมตัว และลู่หานก็เปลือยท่อนบน . .

                ตอนนี้ผมไม่แคร์อะไรทั้งนั้นนอกจากลู่หาน เขานั่งหน้าซีดเผือดและก็ตัวเล็กลีบอยู่บนโซฟาริมห้อง

                “ตอบฉันสิโอเซฮุน มัวแต่มองผู้จัดการของนายอยู่ได้!!!

                “มันไม่มีอะไรจริงๆนะครับ” ผมพูดเป็นครั้งที่ล้าน “มีคนแกล้งผมกับลู่หาน และภาพมันก็เลยออกมาเป็นแบบนั้น”

                “มันไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ เดือนหน้าซีรี่ย์ใหม่ก็จะเริ่มถ่ายกันแล้ว นายรู้มั้ยว่าฉันหมดไปกับเรื่องนี้เท่าไหร่!!!

                “ถอดผมออกก็ได้ ผมไม่ว่า” ผมพูดเสียงเฉยชา แต่ที่จริง . . ผมกำลังเป็นกังวลมากทีเดียว

                “อย่ามาพูดอะไรง่ายๆแบบนั้น ชีวิตไม่เคยมีอะไรที่ง่าย” เจ๊ใหญ่ถอนหายใจ “มาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะแก้ไขข่าวนี้ยังไง”

                “ลู่หาน เป็นอะไรรึเปล่า” ผมอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้ ลู่หานสะดุ้งเมื่อได้ยินชื่อตัวเอง และเขาก็ส่ายหน้าอย่างเศร้าๆ

                “ให้ตายสิ! อย่ามัวแต่ห่วงผู้จัดการ ห่วงอนาคตของตัวเองบ้าง!” เจ๊ใหญ่ระเบิดเสียงลั่น “จะแก้ข่าวยังไง จะพูดยังไง ตอนนี้นักข่าวก็พากันประโคมข่าวกันคึกโครมว่านายมีรสนิยมนิยมเพศเดียวกัน”

                “ไม่จริง” ผมเถียง . . ถ้าไม่ใช่ลู่หาน หน้าไหนผมก็ไม่ชอบทั้งนั้นอ่ะ

                “จ้า!! ฉันรู้ว่ามันไม่จริง แต่คนอื่นข้างนอกนั่นไม่รู้นี่!” เจ๊ใหญ่หันไปหาพี่แจซอก “แจซอก! ไม่ช่วยฉันคิดหน่อยเหรอ ว่าไง!

                “จริงๆแล้วภาพมันก็ออกจะล่อแหลม แต่ว่า . . เด็กมัธยมเขาก็เล่นกันอย่างนี้ไม่ใช่เหรอครับ” พี่แจซอกออกความเห็น “ความจริงก็คือเซฮุนไปช่วยลู่หานที่โดนแกล้ง ทำไมเราไม่เอาความจริงข้อนี้ไปบอกสื่อล่ะ”

                เจ๊ใหญ่ดูอึ้งไป . . ส่วนผมนั้นหันไปมองที่ลู่หานอย่างเดียว แม้ภาพที่ออกมามันจะเห็นหน้าลู่หานไม่ชัด แต่ถ้าให้ผมเดาเขาคงจะรู้สึกผิดที่ทำให้ผมและบริษัทลำบาก

                ที่จริงมันไม่ใช่ความผิดของเขาเลย . .

                “งั้นฉันจะประกาศแบบนี้ออกไป และโอเซฮุน . .” เจ๊ใหญ่หันมาทิ้งท้าย “อย่าได้มีรูปหลุดอะไรแบบนี้ออกมาอีก . . เข้าใจมั้ย”

                ผมไม่ตอบอะไร เดินไปหาลู่หานหวังจะพาเขาออกไปจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ด้วยกัน . . แต่ลู่หานไม่มองมือผม เขาเดินผ่านมือผมไปและก็ออกจากห้องไปเลย

                ผมหันไปหาพี่แจซอก ที่ยักไหล่ใส่ผมและก็ทำปากขมุบขมิบใส่ผมว่า “นายงานเข้าแล้ว”

              ซึ่งวันนั้นงานผมก็เข้าจริงๆ . .

     

     

     

     

                “ฉันลาออก” ลู่หานบอก สะพายกระเป๋าเป้ของตัวเองและกำลังจะเดินออกไปจากอพาร์ทเมนต์ของผม

                “เดี๋ยวสิ” ผมรีบคว้าเอาไว้เกือบจะไม่ทัน “นายจะลาออกไม่ได้นะ”

                “ฉันสร้างปัญหาให้นาย แต่ถ้ามีรูปหลุดออกไปอีก คนที่ซวยคือนาย”

                “ฉันไม่ห่วงตัวเองหรอก” ฉันห่วงนาย . .

                “อย่าพูดแบบนี้โอเซฮุน นายก็รู้ว่าชีวิตนายกว่าจะมาถึงจุดนี้นายผ่านอะไรมาบ้าง . . อย่ามาดับเพราะฉันเลย”

                “อย่าเหลวไหลไปหน่อยเลยน่า คนมันไม่รู้มันก็พูดเป็นอย่างอื่นได้ทั้งๆที่มันไม่ใช่ความจริง” ให้ตายสิลู่หาน ไม่เห็นหรือไงว่าดวงตาของผมกำลังอ้อนวอน “อย่าไป . .

                ลู่หานชั่งใจ . . ดูเหมือนเขากำลังลังเล ผมเข้าใจเขาและค่อนข้างรู้ดีว่าเขาเป็นคนยังไง เขาจริงจังกับสิ่งที่เขารับผิดชอบ และเมื่อเขาทำสิ่งนั้นพังหรือมีปัญหา เขาก็พร้อมที่จะรับผิดชอบเช่นกัน

                แต่อย่าถึงกับลาออกเลย . . รู้มั้ยว่ามีคนใจจะขาด

                “นายยังซ่อมกันดั้มฉันไม่เสร็จเลยนะ” ผมพยายามโน้มน้าว

                ลู่หานนิ่ง . .

                “พรุ่งนี้ฉันมีงานตอนตีห้า ไม่มีใครปลุกฉันได้ดีกว่านาย”

                “

                “ฉันลืมวิธีทาบีบีไปแล้ว” อันนี้ผมตอแหล

                ลู่หานคงรู้ว่าผมตอแหล . . เขาพ่นลมออกมาเหมือนอยากจะขำ “อืมๆ ก็ได้”

                เยสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส!!!!!! “เอากระเป๋ามานี่เลย” ผมจะวิ่งเข้าไปแย่งกระเป๋าลู่หานมาถือเอาไว้ เพราะกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ แต่ . . เพี๊ยะ

                ผมโดนตีมือ . . เพราะลืมไปว่าห้ามแตะต้องของของลู่หาน . .

                “อย่ามายุ่งกับของของคนอื่น” ลู่หานพูด และก็เดินสะบัดตูดเข้าห้องของตัวเอง ปิดประตูดังปัง เป็นเชิงบอกว่าห้ามเข้าใกล้ห้องของเขาเกินสองเมตรเป็นอันขาด

                ผมหลุดยิ้ม . . ในที่สุดผู้จัดการของผมก็อยู่กับผมต่อ . .

                ผมหัวเราะอย่างมีความสุขราวกับว่าวันนี้ไม่ได้รับข่าวฉาว . . หยิบรีโมทขึ้นมาเปิดทีวีอย่างอารมณ์ดี แต่ให้ตายเถอะ นั่นรูปผมกับลู่หาน! ยังไม่จบไม่สิ้นอีกเหรอเนี่ย ผมปิดทีวีทันที . .

                เช็คดูดีกว่าว่าแฟนๆจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ายังไงบ้าง . . ผมหยิบไอแพดส่วนตัวของผมขึ้นมาเช็คข่าวดู


                กรี๊ดดดดดดดดด ไม่จริงใช่มั้ย เซฮุนอปป้าไม่ได้เป็นเกย์ใช่ม้ายยยยยยยยยย TT

                ตัดต่อรึเปล่า! #ร้องไห้แป๊บ

                มีคนบอกว่านั่นเพื่อนของเซฮุนอปป้านะ เพื่อนเพียงคนเดียวซะด้วย อะไรยังไงเนี่ยยยยย . .

              อยากสิงร่างเพื่อนน้องโอเซ T___________T

              กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เซฮุนอปป้ามีเพื่อนเคะจุงเบย กรี๊ดดดดดดด >////<

     

              อะไรคือเคะวะ ???

     

              หุ่นเพื่อนพี่เค้าดี๊ดีอ่ะ TT

              ความเห็นส่วนตัวเรานะ . . เราว่าเขาสองคนดูเหมาะกันยังไงก็ไม่รู้

     

              นานาจิตตัง . . ผมเกาหัวเบาๆกับความคิดเห็นของแฟนๆ แปลกที่มีคนชอบด้วยแฮะ อันนี้แหละที่ทำให้ผมขำ แต่ยังไงซะเจ๊ใหญ่ก็ประกาศออกสื่อแก้ข่าวให้ผมแล้ว หวังว่าแฟนๆจะไม่ผิดหวังในตัวผม . .

                “ครับพี่แจซอก . .” ลู่หานออกมาจากห้องพร้อมๆกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย ภาพที่ผมเห็นอยู่ทุกวันจนชินตาคือลู่หานคุยโทรศัพท์กับพี่แจซอกนี่แหละ ขอบคุณที่ภาพนี้ยังไม่หายไป “มีอะไรเหรอครับ”

                ผมมองตามลู่หานที่เดินไปกินน้ำที่ห้องครัว . .

                “หืมมมม??? เธอจะมาเหรอครับ ตอนนี้เนี่ยนะ สี่ทุ่มกว่าแล้วนะครับ”

              ออด ออด . .

              เสียงออดดังขึ้นที่หน้าประตูตอนที่ลู่หานยังคุยไม่เสร็จ . .

                “ผมคิดว่าเธอมาถึงหน้าห้องแล้วล่ะครับ”

                ใครมา ????? เป็นคำถามที่ผมอยากรู้ และดูเหมือนว่าลู่หานจะรู้ว่าผมอยากรู้

     

     

     

     

                “ปาร์คเยอึนมาหานายน่ะ”

     

     

     

     

     






     


    chiffon_cake say hi : แฟนพันธุ์แท้ 200 คนแล้ว #ร้องไห้แป๊บ
    เค้าสอบเสร็จแล้วล่ะตัวเทิวววววววววววววววววววววว
    เตรียมพร้อมรับการอัพฟิคแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์
    มาเป็นกำลังใจให้เน่ฮุนพิชิตลูลู่กวางน้อยแห่งปักกิ่งกัน >///< 
    เม้นวันละนิดจิตแจ่มใส แอดเฟพคือดีเลิศประเสริฐศรี 
    เลิฟ เลิฟ นะก๊ะ <3

     

    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×