คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : { SEHUN x LUHAN } CHAPTER TWENTY THREE
{ SEHUN x LUHAN } CHAPTER TWENTY THREE
“อีวอน นี่อะไรอะ”
“อย่าจับนะ . . เยอึน ถ้าหล่นหายทำไง”
“คุ้นๆว่าเหมือนเป็นแหวนของเซฮุน . .”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“นี่นายขโมยแหวนของเซฮุนมางั้นเหรอ!”
“ขอโทษที่จะทำให้เธอช็อคนะ แต่ว่า . . นี่มาจากนิ้วมือของลู่หาน”
“…”
“กำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงกับมัน”
“โยนทิ้งไปเลยสิ!”
“เยอึน ใจเย็นๆสิ”
“ไม่เย็นแล้ว!”
ผมหาวเป็นครั้งที่เจ็ด ขณะที่พยายามงีบบนรถตู้อีกครั้งและอีกครั้ง และมันก็ไม่สำเร็จสักที ง่วงมากแต่พี่แจซอกขับรถตู้ได้กระตุกมากเลยวันนี้ผมเลยนอนไม่ค่อยจะหลับ ลู่หานที่นั่งอยู่ข้างๆก็นอนไม่หลับเหมือนกัน พวกเราเลยลืมตาปรือๆมองไปข้างหน้าอย่างเดียวด้วยความง่วงงุน
วันนี้ต้องไปถ่ายซีรี่ส์แต่เช้า ผมถูกปลุกตั้งแต่ยังไม่ตีห้า และเป็นอีกครั้งที่พี่แจซอกเข้ามาปลุกถึงหน้าห้อง เพราะผู้จัดการอีกคนของผมก็หมดสภาพนอนหลับลึกไม่แพ้กัน
ก็หลังจากที่พวกเราเอ่อ . . อย่างว่ากันนั่นแหละ
แหมะ . . แค่ออรัลอย่างเดียวได้ไง . .
ขอโทษอีกครั้งนะที่นี้ครับ เสี่ยวลู่ T^T
โชคดีหน่อยที่คนสวยของผมไม่มีแรงด่า นั่งนิ่งเป็นแมวง่วงอยู่ข้างๆผม ไม่พูดอะไรเลยมีแต่เก็บของให้และก็ตามลงมาขึ้นรถแบบเงียบๆ ทั้งง่วงทั้งเพลีย น่ารักไปอีกแบบ
อันที่จริง . . ผมก็มองเขาน่ารักตลอดเวลานั่นแหละ . .
“เมื่อคืนเมาเหรอ ทำไมขับรถแบบนี้เนี่ย หัวผมหมุนแล้วนะพี่” ขอบ่นหน่อยเหอะ . .
“เออ นิดหน่อย”
“ขี้เมา”
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย เซฮุน”
“ซีเรียสแต่เช้าเลย ไว้ก่อนได้ป่ะ” ผมหาวอีกครั้ง . . เอื้อมมือไปหาลู่หานที่นั่งอยู่ข้างๆ . . คว้ามือมากุมหมับ ลู่หานมองมาที่มือ และก็มองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่พูดอะไรเลย
แต่ปากยิ้มแฮะ . .
พี่แจซอกไม่พูดอะไรต่อ เร่งเสียงเพลงเกิร์ลกรุ๊ปให้ดังขึ้น และก็ตั้งใจขับรถ
กองถ่ายซีรี่ส์
เป็นอีกครั้งที่ต้องถูกจับแต่งตัวในชุดนักเรียน ผมนั่งพลิกบทไปมา ขณะรอเข้าฉากในอีกไม่กี่นาทีที่จะมาถึง ลู่หานอยู่ไม่ห่างจากผม เขาปล่อยให้ผมท่องบทไปโดยไม่เข้ามากวน ทั้งๆที่ผมอยากให้เขากวนใจแทบขาด . .
ผมเหลือบมองผู้จัดการคนสวย แล้วยิ้ม
ลู่หานขมวดคิ้ว “ท่องบทสิ”
“ไม่เอาแล้ว ท่องได้แล้ว” ผมวางบททิ้งลงบนโต๊ะอย่างใส่อารมณ์
“ไม่จริง”
“ไม่เชื่อก็ลองมาซ้อมบทให้สิ เสี่ยวสู่เป็นดารึมให้ด้วยนะ” ผมหมายถึงบทนางเอกของเยอึนที่มีชื่อว่าดารึม เพราะฉากที่ผมต้องเข้าต่อไปต้องเล่นกับนางเอก
“อือก็ได้” ลู่หานเริ่มอ่านบท “ไอ้บ้า! นายเป็นพวกโรคจิตชอบแต๊ะอั๋งผู้หญิงรึไง!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” ผมขำอย่างหยุดไม่อยู่
“อะไร ฉันอ่านผิดเหรอ”
“ทำไมเล่นดีกว่านางเอกแบบนี้เนี่ย” แถมยังสวยกว่า . . ความเห็นส่วนตัวนะครับ . . เอาลู่หานไปแคสต์บทนางเอกดีมั้ย . .
“ฉันก็แค่อ่านตามบท” ลู่หานพูดอุบอิบ “ตั้งใจหน่อยสิเซฮุน”
“อ่าๆ จ้าๆ ตั้งใจแล้ว” ผมยังคงยิ้มอยู่ “เปล่าสักหน่อย แต่ถ้าฉันโรคจิต . . ฉันก็โรคจิตแค่กับเธอนะดารึม”
ผมพูดจบผมก็รอให้ลู่หานพูดบทต่อ ลู่หานจ้องกระดาษปึกนั้นเขม็ง . .
“เป็นไรไป อ่านต่อสิ”
“. . อิจฉานางเอกแฮะ”
“ว่าไงนะ”
“เปล่า” ลู่หานกระแอม “อยู่ให้ห่างจากฉัน”
“ทำไมเธอถึงชอบไล่ฉัน ทีกับไอ้มินฮยอกเธอไม่เคยไล่มันเลยสักครั้ง เธอชอบมันรึไง” มินฮยอกคือบทของอีวอนครับ บทพระเอก
“ฉันเปล่าสักหน่อย”
“เธอเกลียดฉันเหรอดารึม”
“หลีกไปนะ”
“แต่ฉันรักนายนะ ลู่หาน”
“ฉันบอกให้หลีกไปไง!” ลู่หานเงยหน้าขึ้นมาจากบท “เมื่อกี้ว่าไงนะ เหมือนนายจะพูดผิด”
“ฉันรักนายนะ ลู่หาน” ผมพูดอย่างจริงจังและตั้งใจสบตาเขา . . แบบยิ้มๆ
และแล้ว . .
โป๊ก!
ผมโดนบทละครของผมฟาดหัวเข้าอย่างจังจนหัวผมหงายเงิบ โคตรเจ็บ!
“จริงจังน่ะเป็นมั้ย จริงจังน่ะ”
“ก็นี่ไง ก็จริงจังเนี่ย” ผมบ่นทำเสียงโอดโอย “พูดความจริงนะ จริงจังนะ จริงใจด้วย เจ็บนะTT”
“เล่นอะไรของนายไม่รู้เซฮุน” ลู่หานบ่น . .
ผมยังคงจับหน้าผากของตัวเองอยู่ จะแดงมั้ยนะ เมื่อกี้ลู่หานฟาดมาแบบไม่ยั้งมือจริงๆครับ ไม่น่าหยอดตอนที่เขามีของหนักใกล้มือเลย ให้ตาย
ผมก้มหน้าก้มตา . . จนมองเห็นขาของคนที่เพิ่งขยับเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้ๆ
“เป็นไรมั้ยอ่ะ” ลู่หานเงยหน้าขึ้นมาส่องหน้าผม
ผมแกล้งทำหน้าบูด “ไม่เจ็บเลย สบายมาก”
“ประชดเหรอ”
“TT”
“ขอโทษนะ” ลู่หานจับมือผมที่แตะหน้าผากของผมเองอยู่เขย่าเบาๆ “ขอโทษนะ ขอโทษน้า”
ผมยิ้มออกโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที . . “ไม่เคยโกรธหรอกค้าบบบบ”
ผมเข้าฉากจนถึงเวลาพักกอง . . เหนื่อยแบบหาที่ใดเปรียบ นอกจากจะถ่ายฉากที่ซ้อมกับลู่หานแล้ว ยังมีฉากนั้นฉากนี้กับอีวอนเยอะแยะมากมายก่ายกอง โคตรเบื่อหน้ามันอ่ะ ยิ่งเวลาที่ลู่หานเอาน้ำเปล่ามาให้ผมดูดนะ แม่งโคตรมองแฟนผมเลยให้ตาย . . นี่ถ้าไม่เกรงใจผู้กำกับกับเมคอัพสไตล์ลิสต์ที่จะต้องแต่งหน้ามันใหม่ล่ะก็ ผมเอาน้ำสาดหน้ามันไปแล้ว
“เซฮุน . . ไหวป่าว” ลู่หานผู้ยังคงรู้สึกผิดกับการเอาบทฟาดหน้าผากผมเทคแคร์ผมไม่ห่าง เอาเสื้อกันหนาวมาให้ พร้อมกับน้ำดื่มตอนที่ผมกำลังจะเดินเข้าไปในห้องพัก
“เสี่ยวลู่ บอกให้นั่งเฉยๆไง” ผมดึงตัวเขามาใกล้ กระซิบย้ำเป็นครั้งที่ห้าแล้วมั้ง “ . . เจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ”
ลู่หานถลึงตามองผม “ไอ้นี่ . . พูดถึงมันทำไมวะ”
“ก็บอกให้อยู่เฉยๆไงเล่า”
“ไม่เป็นไร ฉันแมน”
. . ผมไม่รู้จะพูดว่าไง . .
“นายล่ะ ดูเหมือนหัวนายจะเป็นรอยเลยนะ”
“เพราะนายไง”
ลู่หานหน้าหงิกเมื่อได้ยิน
“เห้ย อย่าซีเรียสสิ ฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง “ก็บอกแล้วไงว่าไม่เคยโกรธอ่ะ บอกให้อยู่เฉยๆ ไปนั่งในห้องรอ ไม่ต้องออกไปข้างนอกล่อเสือล่อตะเข้” ผมหมายถึงใครพวกคุณก็น่าจะรู้ใช่มั้ยครับ “ว่าแต่ . . พี่แจซอกไปไหน ทำไมวันนี้ทำตัวแปลกๆ”
“ขับรถออกไปไหนไม่รู้ เขาฝากฉันไว้กับนายน่ะ”
ผมพยักหน้าเบาๆ เดินเข้าไปในห้องพักสำหรับผมที่มีของกินวางกองอยู่เต็มไปหมด “ทานด้วยกันนะเสี่ยวลู่”
“ฉันก็อยู่ด้วยนะ เห็นหัวฉันบ้างสิเซฮุนน่า”
เยอึน . . อยู่ในห้องนี้ด้วยเหรอ . . ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ
ผมหยิบข้าวขึ้นมาสองกล่อง “งั้นลู่หาน เราออกไปทานข้างนอกกันเถอะ”
“เซฮุน!!!!!!” เยอึนแทบจะกรีดร้องออกมาอย่างไม่ห่วงภาพลักษณ์ “นายจะทำเกินไปแล้วนะ!”
“ฉันทำเกินไปตรงไหน”
“มารยาทน่ะ!”
“สำหรับเธอ ไม่ต้องก็ได้มั้ง . .” ลู่หานกระตุกแขนเสื้อผมอย่างเตือนๆ
“งั้นนายก็อยู่ที่นี่แหละ ฉันจะไปเอง” เยอึนกอดอก มีสีหน้าท่าทางเย่อหยิ่ง “แต่จะบอกอะไรให้อย่าง . . นายอาจจะรับศึกหนักหน่อยนะช่วงนี้”
ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกับคำพูดของเธอ “ใครจะมาทำสงครามแถวนี้เหรอ”
“คอยดูก็แล้วกัน ฉันแค่มาเตือน ” เยอึนหันขวับมาหาลู่หาน ไม่พูดอะไร และก็เดินหนีออกจากห้องไป
“อะไรของหล่อน” ผมพูดอย่างไม่ใส่ใจ ในขณะที่คนของผมตัวแข็งทื่อ “ลู่หาน เป็นอะไร มานั่งทานด้วยกันสิ”
“เยอึนหมายความว่าไง”
“ไม่ต้องไปสนใจ”
“ไม่ได้ ฉันต้องสนใจสิ” เขาเอามือกัดเล็บตัวเองอย่างเครียดๆ
ผมมองเขาอย่างฉงนสนเท่ห์ . .
“เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวกับท่าทีที่แปลกๆไปของพี่แจซอก”
“อย่าคิดมากสิ” ผมพยายามเชิญชวนเขาให้นั่งลง แต่เขาก็ไม่ยอมนั่งสักที
“เกิดอะไรขึ้นนะ”
“มันไม่มีอะไรหรอกน่า”
“มันต้องมีอะไรสักอย่างสิ . .”
ด้วยความที่ผมหิวข้าวบวกกับไม่อยากให้เขาคิดมาก . . ผมจึงเดินเข้าไปหาเขาพร้อมกับสวมกอดจากทางด้านหลัง และก็ลากเขาไปนั่งด้วยท่าทางอย่างนั้นจนเท้าเขาลอย
“เซฮุน!”
“หิวข้าวจะแย่”
“ไอ้บ้านี่”
“โอเซฮุน”
เสียงหนึ่งทำให้ผมลู่หานชะงักค้าง . . หันไปมองที่ประตูพร้อมกัน . . เสียงนั้นทำให้ลู่หานแกะมือผมออกจากตัวเขาอย่างบ้าคลั่ง และเมื่อรู้ว่าเป็นใครเขาก็ยิ่งแกะมือผมออกใหญ่เลย
“เจ๊ใหญ่”
ท่านรองประธานค่ายต้นสังกัดของผม และที่อยู่ข้างหลังนั่น . . คือพี่แจซอก . . ที่ดูอิดโรยและเคร่งเครียดมากจนผิดปกติ
“ทำไมมาถึงนี่ได้อ่ะ” ผมถามอย่างเป็นกันเอง ในขณะที่นางพญาอย่างเจ๊ใหญ่ทำคนอื่นโค้งจนหน้าจะติดพื้นอยู่แล้ว รวมทั้งลู่หานด้วย
“เลิกกอง” เธอหันไปสั่งผู้กำกับที่วิ่งหน้าตื่นมารับเธอ “แจซอก ปิดประตู”
พี่แจซอกพยักหน้า . . และก็ปิดประตู
ในห้องจึงแต่ผม ลู่หาน เจ๊ใหญ่ และก็พี่แจซอกเท่านั้น . .
คำถามแรกในหัวผม . . เกิดอะไรขึ้น . . เจ๊ใหญ่มาถึงกองถ่ายเองขนาดนี้ทั้งๆที่เป็นผู้อำนวยการผลิตละครเรื่องนี้แสดงว่าไม่ธรรมดาแน่ๆ
เธอหันไปมองหน้าลู่หาน . . มองอยู่นาน . . และเธอก็ถอนหายใจ
“ฉันคิดสงสัยมาตลอดว่าโตขึ้นนายจะได้เป็นแฟนกับใคร”
“…”
“คนนี้เองเหรอคือเจ้าของหัวใจนาย”
น้ำเสียงของเธอเหมือนพี่สาวกำลังพูดกับน้องชาย . . ผมกลืนน้ำลาย . . ความรู้สึกหลากหลายประเดประดังเข้ามาราวกับห่าคลื่นขนาดใหญ่
เธอรู้แล้ว . .
ผมไม่รู้ว่าเธอรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ และแน่นอนมันต้องกระทบกับหน้าที่การงานของผมไม่ทางบวกก็ทางลบ
ผมมีแฟน . . และแฟนคนนั้นก็เป็นผู้ชาย . .
คิดดูอีกที . . ผลที่ตามมาอาจจะมีแต่แง่ลบก็ได้
ผมหันไปมองลู่หานที่หน้าเสียและก็หลุบสายตาลงต่ำ เครียดยิ่งกว่าเอาบทละครมาตีหัวผมเป็นร้อยแผล . .
สักวันวันนี้ก็ต้องมาถึง . . วันที่ทุกคนต้องรับรู้ความจริงทั้งหมด . .
“ครับเจ๊” ผมพูดอย่างหนักแน่น “ผมคบกับผู้จัดการของผม”
เจ๊ใหญ่ถอนหายใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ผมพูด . . ลู่หานโค้งให้เจ๊ใหญ่และบอกว่าจะขอตัวออกไปข้างนอก แต่โดนพี่แจซอกรั้งเอาไว้ . .
“เจ๊จะว่าอะไรมั้ย” ผมถามเหมือนเด็กเพิ่งขอบุพการีซื้อของเล่นราคาแพงให้ ดวงตาของผมลุ้นมากมายกับปฏิกิริยาของเจ๊ใหญ่
เธอถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ . . “ฉันจะว่าอะไรได้”
“หมายความว่า . . เจ๊ไฟเขียวใช่มั้ย!!!!” ผมดวงตาเบิกโพลงอย่างกระตือรือร้น “แถลงข่าวเลยสิ พรุ่งนี้น่ะ แถลงไปเลย!”
“เซฮุน . . มันไม่เคยมีอะไรง่าย นายอยู่วงการมานานนายก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเครียด “แจซอก . .” เธอพยักหน้าให้พี่หมีที่กลายเป็นผู้ช่วยเฉพาะกิจของเธอ
พี่แจซอกมองผมอย่างเศร้าสร้อย และเขาก็ส่งไอแพดมาให้ผม
“อะไรเหรอ . .”
“เปิดดูสิ”
ผมมองหน้าลู่หานที่สบตาผม . . ก่อนที่จะกดเปิดดู . .
รูปผมกับลู่หาน . .
มีแทบจะทุกอิริยาบถด้วยซ้ำ . . .ใครกันที่มันมาถ่าย . .
เยอะแยะจนผมทนดูไม่ไหว . .
การเป็นห่วงความเป็นส่วนตัวของลู่หานทำให้สติผมขาดผึง “นี่มันอะไรกัน”
“ฉันกับบริษัทปิดข่าวได้ไม่หมดหรอกนะเซฮุน”
“…”
“กระแสวิพากษ์วิจารณ์มันเริ่มเกิดจากคนกลุ่มเล็กๆ จนตอนนี้ . . มันขยายไปจนเกินกว่าที่ฉันจะควบคุมไหว”
“...”
“ไม่นาน . . เราอาจจะต้องจัดงานแถลงข่าว”
“ก็ดีครับ!” ผมพูดขึ้นมาทันที “ผมจะได้ประกาศไปเลยว่าผมคบกับลู่หานอยู่ ผมรอโอกาสนี้มานานแล้ว!”
ทุกคนในห้องนั้นกลั้นหายใจ . .
ทำไม . . ทำไมต้องคิดว่ามันเป็นเรื่องยากด้วย
“ลู่หาน . . นายไม่เห็นด้วยกับฉันเหรอ” ผมพูดกับลู่หาน . . เมื่อไม่มีใครอยู่ข้างผมตอนนี้ผมก็เริ่มรู้สึกเครียดขึ้นมาบ้างแล้ว . . “แต่นาย . .”
“สักวันวันนี้มันก็ต้องมาถึงเซฮุน . .” ลู่หานพูดอย่างเครียดๆ
“แล้วนาย . . ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้น . . ทำไมต้องทำเสียงแบบนั้นด้วย . .”
“. . เรื่องนี้มันอยู่ในใจของฉันมานานแล้ว”
“เดี๋ยว . . นี่มันอะไรกัน . .” สติผมเริ่มจะหลุด . . ความกลัวเริ่มเกาะกินหัวใจผมทีละนิดๆ ผมมองหน้าเจ๊ใหญ่ที่หลุบตาลงต่ำ พี่แจซอกหันไปมองอย่างอื่น และลู่หาน . . เขาไม่กล้าสบตากับผม
ทำไมทุกคนต้องเป็นแบบนี้กันไปหมด . . มันไม่ใช่เรื่องยากเลยไม่ใช่หรือยังไง . .
“นาย . . ไว้ใจฉันใช่มั้ย เซฮุน”
“ทำไมถามแบบนี้” ผมเริ่มน้อยใจลู่หานขึ้นมาเรื่อยๆ ทำไมต้องทำเสียงแบบนั้น ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้น . .
ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ . .
“นายรู้ใช่มั้ย เวลาที่นายคิดถึงฉัน . . ฉันจะคิดถึงนาย”
“เดี๋ยว เสี่ยวลู่ นี่มัน . .”
“แจซอก . . ตอนนี้เลย” เจ๊ใหญ่สั่งพี่แจซอก ที่ทำหน้าเหมือนไม่อยากทำตามคำสั่ง
พี่แจซอกเดินมาจับตัวลู่หาน และก็พาเดินออกไปช้าๆ
“จะพาเขาไปไหน”
ลู่หานยังคงมองผม . . ทำหน้าเศร้าสร้อย . .
“อะไรกัน นี่มันอะไร! พี่แจซอก เจ๊ใหญ่!” ผมเริ่มเอะอะโวยวาย “มันกะทันหันไปนะ อะไรน่ะ ผมไม่เข้าใจ!”
“จากนี้ไปนายต้องถูกจับแยกกับผู้จัดการของนาย ถูกยึดโทรศัพท์ ถูกกักบริเวณ จนกว่ากระแสข่าวเรื่องนายคบกับผู้จัดการจะซาลง . .”
คำพูดของเจ๊ใหญ่เป็นคำประกาศิตที่เหมือนมีดกรีดหัวใจผม . .
“ว่าไงนะ”
“ฉันเสียใจเซฮุน ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากทำแบบนี้”
“ไม่นะ ไม่เอา . . ไม่เอาแบบนี้!” ผมโวยวายไม่เป็นภาษา มองดูลู่หานที่กำลังจะออกไปจากห้อง “ลู่หาน นายอย่าเพิ่งไปนะ! ฉันจะขอเจ๊ใหญ่เอง แป๊บเดียวรับรองได้ ฉันสัญญา”
“นี่มันเรื่องใหญ่นะเซฮุน”
“ใช่สิครับ มันเป็นเรื่องใหญ่!”
“นายถึงจะทำตามใจนายไม่ได้”
“เจ๊ใหญ่ . .”
“ฉันขอโทษ”
เหมือนผมโดนขโมยหัวใจอย่างกะทันหัน ผมอ้าปากค้าง มองดูลู่หานถูกลากออกไปจากห้องโดยพี่แจซอก . . โดยมีเจ๊ใหญ่เดินตามออกไป
ทิ้งให้ผมอยู่ในห้องคนเดียว . .
ผมไม่รอช้า . . รีบเดินตามออกไปแต่ . . ประตูโดนปิดแถมยังล็อคออกมาจากข้างนอก
“นี่!” ถ้าไม่โวยวายก็ไม่ใช่ผมแล้ว ผมทุบประตูเสียงดัง “ปล่อยผมนะ! ทำไมทำแบบนี้ ทำไมเร็วขนาดนี้ ทำไมปุบปับแบบนี้ ทำไมอ่ะ!”
ไม่มีใครตอบผมเลย . .
“ลู่หาน! อย่าไปนะ อย่าไปยอมพวกเขา ฉันสู้ไหวนะ เชื่อใจฉันสิ!”
. . .
“ทำไมยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้ล่ะเสี่ยวลู่”
. . เสียงทุบประตูของผมเบาลง . . และเสียงของผมก็เบาลงเช่นเดียวกัน
ผมหลับตาลงและร่างของผมก็อ่อนปวกเปียกนั่งลงหันหลังพิงประตูอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง
ผมรู้ . . ว่าสักวันมันจะต้องเป็นแบบนี้
ไม่ว่าผมจะได้รับสิทธิพิเศษจากต้นสังกัดมากสักแค่ไหน . . สักวันมันก็ต้องเป็นแบบนี้
แต่มันหักดิบ มันรวดเร็ว มันตั้งตัวไม่ทัน . .
เร็วจนเกินไป
เมื่อเช้าเรายังหวานกันอยู่เลย TT
“ถ้าไม่มีนายอยู่ข้างๆ ฉันจะสู้ไหวได้ยังไง . . เสี่ยวลู่”
ผมพูดออกมาอย่างหมดหวัง . .
“พี่แจซอก . . คือว่า . .”
“ว่าไงลู่หาน หน้าตาสดใสนะเรา แต่ทำไมดูกังวลแปลกๆ”
“พี่รู้มั้ย . . ว่าผมน่ะ . .”
“อะไร . . เรื่องที่นายคบกับเซฮุนเหรอ”
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย พี่รู้เหรอ!!!!!!!!!”
“ฮ่าๆๆๆ เซฮุนมันเป็นดาราของฉัน ทำไมฉันจะไม่รู้”
“…”
“ไม่ต้องเขินหรอกน่า พวกนายเหมาะสมกันดีออก”
“พี่แจซอกครับ . .”
“ว่าไง”
“อนาคตผมกับเซฮุน . . จะไปได้สวยมั้ยครับ”
“ไปได้สวยสิ . . ขึ้นอยู่กับนายสองคน”
“และถ้าวันหนึ่ง . . ผมเป็นต้นเหตุให้เซฮุนต้องมีอุปสรรคเรื่องงานของเขา”
“…”
“พี่ช่วย . . จับผมแยกกับเซฮุนทีนะครับ”
“เดี๋ยวนะ แล้วไอ้บ้านั่นมันจะไม่ขาดใจตายก่อนเหรอ!!!!!!!!!!!!!”
“ผมเข้าใจดีครับ”
“…”
“ผมก็คงไม่แตกต่างกัน”
โทรศัพท์โดนยึด
อินเตอร์เน็ตถูกตัด
ถูกกักบริเวณอยู่แต่ในอพาร์ตเม้น ข้างนอกมีคนของบริษัทเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง
ผมนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา รู้สึกช็อคเกินกว่าจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้ ข้าวของของลู่หานถูกเก็บออกไปก่อนที่ผมจะกลับมาถึง . . เหลือเพียงแต่ตุ๊กตาหมีสองตัวเท่านั้นที่ยังอยู่และเป็นความทรงจำระหว่างสองเรา
มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ . .
สิ่งเดียวที่เจ๊ใหญ่เหลือไว้ให้คือทีวี . . ทีวีที่ผมไม่มีอารมณ์จะเปิดเลยแม้แต่นิดเดียว ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ และมืดลงไปมากทั้งๆที่มันก็ไม่ได้มืดขนาดนั้น
ผมกำลังจะเป็นบ้า . .
“เซฮุนน่า” พี่แจซอกเดินเข้ามาในห้องพร้อมๆกับของกิน
“พี่แจซอก” ผมเดินเข้าไปหาเขา เขย่าคอเสื้อเขา “ทำไมทำกับผมแบบนี้ ทำไมๆๆๆ”
“…”
“ผมไม่ยอม ไปเอาลู่หานกลับมา ไปเอาลู่หานกลับมา!!!!!!!”
“เซฮุน”
“ผม . . ผม . .” ผมทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง “. . ผมรู้นะ . . แต่ผม . . ไม่ทันได้ตั้งตัว ผมขอร้อง . . อย่างน้อยก็น่าจะให้ผมได้ใช้โทรศัพท์บ้างสิ”
“ไม่ได้ เซฮุน”
“…”
“นี่เป็นคำสั่งของต้นสังกัด”
“แล้วผมต้องทนอยู่ในสภาพนี้อีกนานเท่าไหร่”
“อาจจะซักเดือนสองเดือน” พี่แจซอกพูดอย่างไม่แน่ใจและเศร้าสร้อย ผมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่ไม่ร้อง “หรือไม่ก็ . .”
“ก็อะไร”
“โธ่เซฮุน อย่าให้ฉันพูดเลย”
“พูดมาสิ!”
“จนกว่านายจะเลิกกับลู่หาน”
“ไม่มีทาง” ผมพูดออกมาทันที “ไม่มีทาง!!!!!!!!!!!”
“ฉันรู้เซฮุน ฉันรู้” พี่แจซอกกล้ำกลืนฝืนพูดกับผม “แต่ฉันทำอะไรไม่ได้ ฉันทำอะไรไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ชีวิตฉันก็ถูกควบคุมไม่แพ้กับนาย เพราะฉันเป็นผู้จัดการของนาย”
“ให้ตายสิ” ผมเอามือแตะหน้าผากตัวเองอย่างปวดหัว
“ครั้งนี้ต้นสังกัดเอาจริง . . “
“…”
“นายตามใจตัวเองเรื่องนี้ไม่ได้ . . เซฮุน”
ผมนั่งนิ่งเงียบบนพื้น . . พี่แจซอกทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ๆกับผม . .
“หิวมั้ย” เขาถามผม
“ผมจะกินลงได้ยังไง”
“ฉันเอากิมจิฝีมือยายของลู่หานมานะ”
ผมเริ่มมีความสนอกสนใจมากขึ้น “พี่ไปส่งเขามาเหรอ!”
“แหงสิ”
“เขาเป็นไง เขาว่าไง เขาคิดถึงผมมั้ย”
“ฉันไม่รู้”
“…”
“เขาซึม และไม่พูดอะไรเลย”
“…”
“ฉันไม่อยากแยกพวกนายสองคนออกจากกันจริงๆ เซฮุน ฉันขอโทษ”
ผมเอาหน้าตัวเองลงไปซุกกับเข่าของตัวเองที่ชันขึ้น . .
นี่เรื่องจริงเหรอ . . นี่เรื่องจริงแน่เหรอ . .
ผมไม่คิดว่าผมสามารถรับมันได้ไหว . .
“นาย . . ไว้ใจฉันใช่มั้ย เซฮุน”
“นายรู้ใช่มั้ย เวลาที่นายคิดถึงฉัน . . ฉันจะคิดถึงนาย”
นายต้องคิดถึงฉันมากแน่ๆ
เพราะตอนนี้ฉันคิดถึงนายจนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว . .
ความคิดเห็น