ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { sehun x luhan } .ผู้จัดการของผม

    ลำดับตอนที่ #12 : [ SEHUN x LUHAN ] CHAPTER TEN

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.44K
      47
      16 ต.ค. 56

    [ SEHUN x LUHAN ] CHAPTER TEN

     

     

     

     

     

                ดูเหมือนการง้อจะได้ผล . .

                เพราะหลังจากที่เรียนไปได้คาบสองคาบ ลู่หานก็คอยส่งช็อตโน้ตมาให้ผมอ่านระหว่างที่เรียนวิชาอื่น สงสัยเขาจะรู้ว่าชีวิตผมนั้นใกล้จะไม่รอดแล้ว การกระทำเหล่านั้นอยู่ในสายตาของไอ้มินจุน ที่พอผมมองมันกลับ มันก็กลัวจนหัวหดและก็หดหัวกลับกระดองของมันไป . .  ยังไม่ได้ชำระหนี้แค้นที่มันแอบถ่ายผมกับลู่หานเลยนี่หว่า แต่ช่างมันก่อนเถอะ เอาเทสต์ย่อยบ่ายนี้ให้มันรอดก่อน

                แต่ลู่หานจะเข้าใจมั้ย. . ว่าไอ้ที่ส่งมาให้ผมน่ะ ผมไม่เข้าใจเลยสักกะติ๊ด

                ผมเลยนั่งสัปหงกซะเลย เรื่องที่เรียนก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เรื่องที่จะต้องอ่านก็มึนงงไปหมด บอกได้คำเดียวว่าคงต้องปล่อยวางและไว้อาลัยให้ผมเพื่อรับฟังคำบ่นของพี่แจซอกลามไปถึงเจ๊ใหญ่ถ้าหากผมทำเกรดได้ไม่ดี ส่วนแม่น่ะเหรอ . . แม่ไม่ได้สนใจผมมาตั้งนานแล้วล่ะ

                “เซฮุน” ลู่หานได้จังหวะเลยหันกลับหลังมาคุยกับผม “หลับไม่ได้นะ นายต้องอ่านนะ เข้าใจรึเปล่า”

                ผมลืมตาปรือๆขึ้นมามองลู่หาน ที่กำลังจ้องมาที่ผมเขม็ง . .

                “อืออออ” บางทีก็สงสัยว่าทำไมผมต้องขี้เซาเหมือนไควงEXOด้วย

                “จะมาหลับอะไรตอนนี้เล่า อ่านสิ จะสอบอยู่แล้วนะ”

                “ปล่อยไปไม่ได้เหรอ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย”

                “แล้วที่ผ่านมานายทำอะไร นายไม่ตั้งใจเรียนบ้างเลยรึไง”

                ผมก้มหน้าลง . . ก็ฉันสนใจแต่นายไง เลยไม่เป็นอันเรียน

                “ให้ตายสิ” ลู่หานบ่นผมอีกครั้ง “ขอร้องละนะ อ่านไปก่อน เดี๋ยวตอนเที่ยงฉันจะอธิบายให้นายฟังอีกที”

                “มันจะทันเหรอ”

                “ถ้านายยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม นายก็โคตรจะเป็นไอ้ขี้แพ้เลยรู้ป่ะ”

                เว้ยยยยยยยยยย . . โดนพูดใส่แบบนี้แล้วมันปลุกใจชิบหาย ผมพยักหน้า ตั้งใจอ่านช็อตโน้ตของลู่หานอีกครั้งโดยพยายามทำความเข้าใจแม้ว่าเวลาที่เหลืออยู่มันจะน้อย อันที่จริง . . ลู่หานไม่ต้องลงทุนพูดขนาดนั้นผมก็จะอ่านอยู่ดีเพราะผมไม่อยากให้เขาผิดหวังในตัวผม

                เทสต์ย่อยบ่ายนี้ . . เอาเต็มเลยเป็นไง

              ตอนเที่ยงผมกับลู่หานเลยตัดสินใจไม่ทานข้าวกัน เพื่อที่จะได้มาถกเรื่องที่จะสอบกันอย่างเอาเป็นเอาตายจนถึงวินาทีสุดท้าย ลู่หานเก่งมาก ผมไม่รู้ว่าเขาเอาเวลาไหนไปอ่านหนังสือ บางทีอาจจะเป็นตอนที่เขาเข้าไปในห้องของเขาและก็ปิดประตูไม่ให้ผมรบกวนนั่นกระมัง แต่ก็ช่างมันก่อน ผมต้องตั้งใจฟังสิ่งที่ลู่หานพูดและพยายามจดจำให้ได้มากที่สุด โดยพยายามหักห้ามใจตัวเองไม่ให้มองปากเล็กๆที่กำลังเจื้อยแจ้วพ่นศัพท์ชีวะมาใส่ผม อา . . ปากสีชมพูสวยน่าจุ๊บชะมัด . .

                พอตอนสอบ เรียกได้ว่าแทบกระอักเลือด ผมงี้คิดอะไรไม่ค่อยจะออกเพราะข้าวก็ไม่ได้กิน ต้องเข็นเอาความรู้จากบางส่วนของสมองออกมาให้ได้มากที่สุดตอนตอบข้อสอบ ดีนะที่ข้อสอบเป็นปรนัย ยังพอที่จะตัดช้อยส์ได้บ้าง ไม่อย่างนั้นล่ะก็ผมคงได้คะแนนเทสต์ย่อยครั้งนี้ไม่ศูนย์ก็เกือบศูนย์แน่ๆ

                สอบเสร็จ . . บอกได้คำเดียวว่า . . สลบ

                ผมเอาหน้าฟุบโต๊ะตอนรออาจารย์ตรวจข้อสอบ . . หลับมันซะเลยเพื่อที่จะได้ลืมความหิวและก็ความเหนื่อยล้า . .

                “ลู่หาน ได้ 20 เต็ม เก่งมาก นี่ท็อปห้องเลยนะ” อาจารย์พูดยิ้มๆ ลู่หานคงเคยชินกับคะแนนพวกนี้แล้วมั้ง เขาเม้มปาก ไม่ได้ยิ้มอะไรมาก ในขณะที่คนอื่นๆปรบมือให้และก็ส่งเสียงแซวด้วยความอิจฉา

                “โอเซฮุน . .” ทั้งห้องกลับมาเงียบกริบอีกครั้งเพื่อลุ้นคะแนนผม บางคนหยิบโทรศัพท์มารออัพเดท พวกไอ้มินจุนที่ได้สิบหกอัพกันทุกคนเตรียมสมน้ำหน้าผม ให้ตายสิ มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว นี่มันหมายถึงความอับอายขายขี้หน้าที่อาจมีขึ้นมาในอนาคต “ได้ . .

                ผมมองไปที่ลู่หาน แปลกที่เห็นเขาหลับตาปี๋กำมือแน่นราวกับว่าลุ้นนักหนา นี่เขาลุ้นมากกว่าคะแนนของเขาเองอีกนะ . . ผมอดยิ้มกับภาพนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาคนนี้จะน่ารักไปถึงไหน

                “. . 18 คะแนน โอเซฮุนได้ 18 คะแนน โห ความสามารถก็มีหน้าตาก็ดี ถือว่าเจ๋ง” อาจารย์ชมผมแล้วยิ้ม ผมอ้าปากค้างด้วยความอึ้ง 18 . . 18 เนี่ยนะ ตอนตรวจอาจารย์ไว้หน้าผมหรือเปล่าเนี่ย

                “เห้ยยยยย โคตรเจ๋งอ่ะ” ลู่หานยิ้มจนเห็นตีนกา จับมือผมเขย่าด้วยความดีใจ “เก่งมากเลยเซฮุน! นายเก่งมาก!

                รอยยิ้มของลู่หานถือว่าเป็นรางวัลที่ดีที่สุดสำหรับผม . . นึกว่าจะได้สิบต้นๆซะอีก ผมนี่ก็ . . อัจฉริยะเหมือนกันนะ

                “มันเป็นเพราะนาย” ทุกๆอย่างมันก็เป็นเพราะนาย . .

                “ตอนเย็นอยากกินอะไร บอกมาเลย จะทำให้กินทุกอย่าง!

                กินคนพูดได้มั้ย!!!!!!!!!!!! . . ได้แต่คิดในใจ “ไว้เดี๋ยวค่อยบอกนะ”

                “ได้เลย!

                ถ้าจะตามใจผมขนาดนี้ ผมสอบให้ได้คะแนนเยอะๆตลอดดีมั้ยเนี่ย . . ที่จริงผมก็ไม่ได้ถือว่าอัจฉริยะอะไรมากมาย แต่ลู่หานที่เก็งข้อสอบให้ผมน่ะเก็งตรงชนิดที่ว่าที่เขาพูดน่ะมีแทบทุกข้อ และผมเป็นคนที่จำเก่ง(ยืมทักษะจำบทละครมาใช้) ยิ่งลู่หานเป็นคนพูดด้วยแล้ว ผมยิ่งจำได้เข้าไปใหญ่เลยทำให้ผมได้คะแนนออกมาไม่ค่อยเลวร้ายเท่าไหร่

                แต่อยากจะเตือนคนอ่านไว้เหมือนกันนะว่าอย่าทำแบบผม . . ข้อสอบอาจารย์น่ะพลิกแพลงไม่ก็ออกแบบครอบจักรวาลได้เสมอ ที่ผมทำได้ในวันนี้น่ะคือโชคช่วยล้วนๆ . .

     

     

     

     

     

                ตอนเย็น . . มีงานถ่ายซ่อมรายการตลาดสดยามเช้า

                ผมกับลู่หานได้รอพี่แจซอกเป็นครั้งแรกที่หน้าโรงเรียน ผมต้องโค้งและทักทายเด็กนักเรียนหญิงที่เดินสวนผมไปมาอย่างช่วยไม่ได้เพราะพี่แจซอกยังไม่มา ลู่หานกระโดดเหยงๆไปมาด้วยความหนาว ส่วนผมก็ได้แต่เก๊กท่ามองดูเขาเดินจากซ้ายไปขวา ที่ต้องเก๊กเพราะคนมองเยอะ ได้โปรดอย่าหมั่นไส้ผมเลย

                “เฮ้ . . หนาวขนาดนั้นเลยรึไง” ผมส่งเสียงถามลู่หาน

                ปากลู่หานเริ่มเป็นสีม่วง . . ดูแล้วน่าสงสารเป็นอย่างมาก “นายก็ถามได้ดิ เพราะนายใส่เสื้อมาตั้งหลายชั้น”

                “นี่ไม่รู้เลยรึไงว่าต้องเปลี่ยนเป็นยูนิฟอร์มหน้าหนาวแล้วน่ะ”

                “ยูนิฟอ์มหน้าหนาวมันอยู่ที่บ้านนาย เมื่อเช้าฉันมาจากบ้านของฉัน ลืมไปแล้วเหรอ” พูดไปเสียงสั่นไป ผมเลยส่ายหน้าเบาๆ ก่อนที่จะถอดผ้าพันคอไปพันให้เขา

                ลู่หานนิ่งไปแทบจะในทันที

                “หายหนาวเลยล่ะสิ”

                เขาไม่ตอบ . . หันหน้าหนีผมไปซะอย่างนั้น . .

                ผมเลยกะจะถอดเสื้อโค้ทให้ด้วย แต่ตอนนั้นโทรศัพท์ของลู่หานเข้าพอดี ผมเลยต้องชะงักรอไปก่อน

                “ครับ พี่แจซอก ผมกับเซฮุนรอพี่อยู่หน้าโรงเรียน . .ฮะ รถยางแตก? พี่ไปทำอะไรมา เวรกรรม . . โอเค . . ผมจะรีบพาเซฮุนไปให้เร็วที่สุด” ลู่หานกดวางโทรศัพท์แล้วหันมามองผม “ต้องไปเองแล้วล่ะ พี่แจซอกรถยางแตก”

                ผมกลอกตา . .

                “อย่าทำหน้าแบบนั้น แป๊บเดียวเองเดี๋ยวก็ถึง”

                ลู่หานคว้าแขนผมแล้วเราสองคนก็พากันเดินไปรถรถเมล์ที่ป้าย . .

                “เดี๋ยวนะ แท็กซี่ไม่ได้เหรอ” ผมโอดครวญ

                “รถเมล์ก็เร็วเหมือนกัน”

                “แต่ . .

                “นั่นไง มาแล้ว!

                ลู่หานดูจะรีบเกินไปเลยไม่สนใจผม ผมกลืนน้ำลายขณะขึ้นรถเมล์ตามหลังลู่หาน พวกเราเลือกที่จะนั่งหลังสุดของรถเมล์ . . ในความวุ่นวายก็กำลังจะบังเกิด เมื่อรถเมล์แล่นไปข้างหน้าเพื่อไปยังโรงเรียนสตรีไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรงเรียนผม

                ผมต้องถูกคนจำได้แน่ๆ . .

              “โหยยยย แก EXO มางานแฟนไซน์แถวนี้ฉันไม่ได้ไปหาเลยอ่ะแก!!!!

              “เฮียคริสของฉันนะ!!!

              “ฉันอยากจับกดคยองซูอปป้า!!!!

              นักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งส่งเสียงดังตอนที่แห่กันขึ้นมาบนรถ ใครคนหนึ่งในนั้นกำลังมองมาที่ข้างหลัง ผมหลบหน้าเธออย่างรวดเร็ว

                “เป็นอะไรไป โอเซฮุน” ลู่หานที่นั่งใกล้ๆหันมาถาม

                “คือ . . ฉัน . .” ผมไม่รู้จะตอบว่าอะไร ได้แต่ก้มหน้าก้มตาจนมิดคอหลบสายตานักเรียนหญิงพวกนั้น

                ลู่หานกระพริบตาปริบๆไม่เข้าใจ . .

              “แก นั่นใช่โอเซฮุนรึเปล่าอ่ะแก?”

              “ไหนๆๆ เขาเรียนอยู่แถวนี้นี่!!!

              ทีนี้เข้าใจหรือยังลู่หาน TT บอกแล้วให้ขึ้นแท็กซี่ . . ลู่หานมองซ้ายมองขวาพยายามแก้ไขสถานการณ์ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเอาผ้าพันคอที่ผมพันให้มาพันปิดหน้าผมเอาไว้และจับผมซบไหล่

                ดวงตาของผมเบิกโพลงทันที . . ไหล่ลู่หาน!!! กลิ่นลู่หาน!!!

              “ฉันว่าแกมองผิดมั้ง . .

              “โอเซฮุนจะเป็นแฟนผู้ชายคนนี้ได้ยังไงกันล่ะแก??”

              “น่ารักดีเนอะ เหมาะสมกันจัง”

              ผมรอด ในขณะที่ผมเองก็ฟินไปในคราวเดียวกัน นอกจากจะฟินว่าได้ใกล้ชิดกับลู่หานแล้ว ผมยังฟินที่โดนคนอื่นมองว่าผมกับเขานั้นเป็นแฟนกันอีกด้วย . .

                “อยู่นิ่งๆอย่าเงยหน้านะ” ลู่หานกระซิบ

                แหม่ . . เรื่องนี้ไม่บอกก็ทำ ขอฉวยโอกาสสักหน่อยเหอะ . .

                ตลอดทางผมเอาแต่ซบไหล่ลู่หานอยู่อย่างนั้น แม้ว่ากลุ่มเด็กผู้หญิงเหล่านั้นจะลงจากรถเมล์ไปแล้วก็ตามแต่ผมก็ยังซบไหล่อยู่แบบนั้น ก็บอกแล้วว่าผมฉวยโอกาส มันไม่ได้มีมาง่ายๆนะโอกาสแบบนี้น่ะ

               

     

     

     

                “ตื่นได้แล้ว โอเซฮุน”

                “หืมมมมม”

                “มันถึงป้ายที่เราควรลงได้แล้ว”

                ความสุขของคนเรามักจะสั้นเสมอ เรื่องนี้ผมเห็นด้วยที่สุด ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามาถ่ายซ่อมรายการตลาดสดยามเช้า แต่ทำไมต้องมาถ่ายกันตอนเย็นด้วยฟะ ผมคิดตามประสาคนง่วงงัวเงียขณะเดินตามลู่หานและก็ลงจากรถเมล์ ผมไม่ลืมที่จะพันผ้าพันคอให้เขาคืนตามเดิมด้วย

                “พรุ่งนี้ใส่เสื้อโค๊ทมาด้วยล่ะ เข้าใจรึเปล่า” ผมพูดไปขยี้ตาไป

                “อื้อ” ลู่หานทำหน้าเหมือนแมวง่วง . . และก็บิดไหล่ไปมาด้วย ท่าทางเขาจะปวดไหล่เพราะหัวผมค่อนข้างหนักเหมือนกัน

                “อ่า คุณเซฮุนมาแล้ว เชิญไปเปลี่ยนชุดก่อนเลยนะครับ วันนี้เราจะรีบถ่ายรีบเสร็จนะครับ” ผู้กำกับรีบมาเรียกผมไป คล้ายๆกับใครคนใดคนหนึ่งที่มาเรียกลู่หานไปเหมือนกัน

                ลืมไปว่ารายการนี้มีไอ้อีวอนเป็นแขกรับเชิญ . .

                “ไม่มีงานที่อื่นรึไง” ผมรู้ทันไอ้อีวอนโดยที่ผมเดินกลับหลังไปชนมันให้มันเด้งกระเด็นไปไกลๆไม่ให้เข้าไปอยู่ใกล้ๆลู่หาน

                “ไม่มี”

                “ไม่มีใครจ้างล่ะสิ” ผมแอบเหน็บ

                “เปล่า ฉันแคนเซิลงานนั้นเพื่อมาเจอ . .” มันส่งสายตามาที่ลู่หานอย่างมีความหมาย . .

                ความหมายว่าอีวอนใกล้จะตายคาเท้าผมใช่มั้ย . .

                “ไปกันเถอะ ตรงนี้มันหนาว” ผมรีบลากแขนลู่หานให้เข้าไปในกองถ่าย โดยที่มีอีวอนเดินตามมา มันดูยิ้มๆยังไงชอบกล แต่หน้ามันก็กวนส้นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรผมเลยไม่อยากใส่ใจอะไรมันมาก แค่อยากกันลู่หานให้อยู่ห่างจากมันให้มากก็พอ

                ตอนที่ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเดียวกับเหมือนวานเด๊ะ ผมเลยพูดกับลู่หานด้วยน้ำเสียงจริงจัง

                “นายอยู่ตรงนี้นะ”

                “นายย้ำเป็นครั้งที่ 5 แล้วนะ”

                “ฉันกลัวนายหาย”

                “นายจะบ้าเหรอ ฉันเป็นผู้จัดการของนาย ฉันจะหายไปได้ยังไง”

                “แน่นะ” ผมยังจำตอนที่ไปถ่ายรายการลุยป่าได้ แค่เขาหายไปยี่สิบนาทีก็ทำให้ผมเป็นบ้าไปเกือบสองชั่วโมง . . “และทำอะไรอยู่” ผมกำลังดูลู่หานเช็คอะไรอยู่ก็ไม่รู้ในไอแพด

                “เกี่ยวกับนายนั่นแหละ ไม่เป็นไร ทำงานไปเถอะ”

                “มีปัญหาอะไรรึเปล่า”

                “เปล่าหรอก”

                ทำไมลู่หานต้องแปลกๆไปด้วยฟะ หรือผมคิดมากไปเอง ยังไงก็ช่างเถอะ ตอนนี้ผมต้องไปหาหอยนางรมในตลาดก่อนเพราะงานจะต้องเดินไปให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุดเพราะเสียเวลากันมามากแล้ว ผมเลยรีบไปถ่าย ทั้งๆที่ไม่มีลู่หานคอยเดินตามเหมือนเมื่อวานและก็มีอีวอนคอยมาทำหน้าทำตากวนประสาทใส่ มันช่างไม่ฟินเอาเสียเลย แต่ยังไงซะทำให้มันจบๆไปนั่นแหละ

                “อา เซฮุนน่า ฉันจะตายอยู่แล้ว” พี่แจซอกโผล่เข้ามาระหว่างพัก ซึ่งอีกนิดก็จะถ่ายกันเสร็จแล้ว ผมเลยเดินท่อมๆออกมาจากหน้ากล้องเพื่อที่จะไปหาลู่หาน แต่เจอพี่แจซอกพอดี “กว่ารถจะซ่อมเสร็จ และนี่งานเป็นไงบ้าง โอเคใช่มั้ย ฉันขอโทษนะ”

                “ไม่เป็นไรครับพี่ ลู่หานดูแลผมดี ผมมาตรงเวลา” ผมยืดคอยาวมองผ่านไหล่พี่แจซอกไป “ลู่หานอยู่ไหน ทำไมผมไม่เห็นเขา”

                “อ้อ ฉันเห็นเขาออกไปซื้อกาแฟโน่นแน่ะ สงสัยจะซื้อมาให้นาย”

                “จริงเหรอ! ซื้อให้ผมเหรอ” ผมอดดีใจไม่ได้ “แต่ผมไม่กินกาแฟนี่”

                “อา . . ใช่ ลืมไป ชานมไข่มุก เขาไปซื้อชานมไข่มุกให้นาย”

                “จริงเหรอครับ!!!!!!!!!!!” ผมร้องอย่างดีใจ “จริงนะพี่ อย่าโกหกผมนะ!

                “อะไรของเอ็งเนี่ย ชานมไข่มุกนะ ไม่ใช่บ้านและที่ดิน จะดีใจอะไรขนาดนั้นเล่า”

                “พี่ไม่เข้าใจผมหรอกน่า” ผมพูด หันไปมองด้านหลัง “เขาเรียกผมแล้ว ถ่ายซีนสุดท้ายละ ฝากดูแลลู่หานด้วยนะ”

                “เออๆ”

                ผมเดินผละออกจากพี่แจซอกเพื่อไปถ่ายซีนสุดท้าย หลังจากงานนี้แล้วผมจะศึกษาและบอกให้พี่แจซอกดูรายละเอียดดีๆก่อนรับงาน ขอรายการที่ไม่มีไอ้อีวอนมาเป็นแขกรับเชิญจะดีมาก เพราะตอนถ่ายผมน่ะกังวลชิบหายกลัวว่าลับหลังผมไอ้อีวอนมันจะมาซิวเอาลู่หานของผมไปไว้ที่อื่นรึเปล่า อาจจะหาว่าผมเวอร์แต่การที่อีวอนมันมาถึงจุดนี้ได้ก็ใช่ว่ามันจะทำงานอย่างใสสะอาด

                ผมเลยกลัว และก็กังวลมากเป็นพิเศษ . .

                “เหนื่อยหน่อยนะครับ ขอบคุณมากๆครับ” ผมโค้งให้ทีมงานตอนที่ถ่ายเสร็จแล้ว ก้าวดุ่มๆไปหาพี่แจซอกและก็ลู่หานแทบจะในทันที แต่ว่ากลับเห็นแต่พี่แจซอกแฮะ “ลู่หานล่ะครับ”

                พี่แจซอกทำหน้าเครียด นั่นทำให้ผมมีใบหน้าเครียดเช่นกัน

                “ยังไม่กลับมาเลย”

                “อะไรนะ”

                ผมไม่ถามให้มากความ รีบเดินไปยังร้านชานมไข่มุกที่ลู่หานน่าจะไปซื้อทันที พี่แจซอกตามมาแทบจะไม่ทัน “โอเซฮุน คนเยอะนะ”

                “ผมไม่สน” ผมพูดออกมาทันที ผมไม่ชอบให้ลู่หานไปไหนมาไหนคนเดียวจริงๆ ยิ่งเวลาแบบที่ผมกำลังถูกจับตามองโดยพวกปาปารัซซี่แบบนี้ด้วยแล้ว ผมกลัวเขาจะเป็นอันตราย

                ที่ร้านชานมไข่มุก . . ผมเปิดประตูเข้าไป พนักงานหลุดกรี๊ดเสียงดัง มองซ้าย . . และมองขวา

                ไม่มี . .’

                “พี่แจซอก!

                “เอ่อ อาจเดินสวนกัน อาจกลับไปแล้วก็ได้” พี่แจซอกออกความเห็น

                หายไปไหนอีกแล้วนะ . . ผมเดินไปข้างหน้าอย่างรีบเร่งและก็มองซ้ายมองขวาตามหาลู่หาน จนกระทั่งผมไปหยุดอยู่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง และผมก็เห็นลู่หานนั่งอยู่ตรงนั้น . . กับผู้จัดการของอีวอน ที่หล่อเหลาอย่างกับบอยแบนด์

                แต่นั่นยังไม่ใช่ประเด็นหลัก . .

                เพราะข้างหน้าลู่หานคือขวดโซจูประมาณสามขวด . .ผมรีบดึงเสื้อไอ้ผู้จัดการของอีวอนทันที

                “ไม่เห็นหรือไงว่าเขาใส่ชุดนักเรียนน่ะหา!!!!!” ผมง้างหมัดเตรียมต่อย พี่แจซอกรีบจับแขนผมไว้อย่างรวดเร็ว

                “เซฮุน ใจเย็นๆน่า”

                “เขาดื่มเอง จะให้ฉันทำยังไง” กวนส้นตรีนเหมือนอีวอนไม่มีผิด ผมสะบัดคอเสื้อของไอ้ผู้จัดการคนนั้นทิ้งและก็พยุงลู่หานให้ลุกขึ้นยืน . . เขาเมาแอ๋เลย . .

                แถมในมือยังมีชานมไข่มุกด้วยนะ . .

                “กลับกันเถอะพี่แจซอก”

     

     

     

     

                ตอนนี้ผมกำลังนั่งจ้องลู่หานอยู่บนโซฟาในอพาร์ทเมนต์ของผม . .

                ลู่หานอยู่ในสภาพเมาแอ๋ แต่มองดูยังไงก็เหมือนแมวง่วง ผมเดินไปเดินมาในขณะที่ลู่หานนั่งมึนตาจะหลับแหล่มิหลับแหล่ หนึ่งคือผมพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองไม่ให้ตะโกนใส่ลู่หาน และสองคือผมไม่รู้ว่าผมจะจัดการกับคนเมายังไง

                เพราะพี่แจซอกเวลาเมาไม่เคยเมาต่อหน้าผมเลย . .

                “อือออออ ง่วงนอน” ตาปรือๆของลู่หานจะปิดอยู่แล้ว

                เขากำลังจะทิ้งตัวนอนบนโซฟา ผมไปรับไว้ได้ทัน . . หัวของลู่หานซบเข้าที่อกผมได้พอดีและเขาก็กำลังจะหลับ . .

                แบบนี้ผมจะโกรธเขาลงได้ยังไง . .

                “เฮ้ออออออ” ผมถอนหายใจ “เป็นเด็กเป็นเล็กหัดกินเหล้าเมายา”

                “. .

                เขาเงียบไม่ตอบ การที่เขาหมดฤทธิ์และกำลังหลับนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าเหมือนมีแมวกำลังอยู่ในกำมือของผม ผมลอบมองใบหน้าของลู่หานยามหลับที่อยู่ใกล้เพียงแค่ปลายนิ้วมือสัมผัส ขนตายาวของเขากางเป็นแพเห็นได้อย่างชัดเจน จมูกรั้นนั่น และปากเล็กๆนั่น . .

                โอย ตายยยยยยยยยย . . สติกระเจิดกระเจิง . .

                จะหอมก็ได้ จะจูบก็ได้ . . จะ . . ปล้ำก็ได้ แต่ผมยังกลัวตายอยู่นะครับ TT

                แต่ปากเล็กที่เผยอออกมานิดๆนั่น . . ทำให้ผมเผลอคิดในใจว่า . .

                แค่จูบคงไม่เป็นไรมั้ง . .

              ผมค่อยๆจับคอของลู่หาน ทำให้ใบหน้าของเขาประจันเข้ากับใบหน้าของผมเต็มๆ . . สะดวกชนิดที่ว่าจะทำยิ่งกว่าจูบก็ยังทำได้ . . แต่วันนี้ . . ผมขอแค่ . .

                ผมขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ลู่หานมากเรื่อยๆ . . ตั้งใจจะประทับริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของลู่หานอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้ . .

                ถ้าลู่หานรู้ . . ผมยอม

                ผมเพียงแค่อยากทำตามหัวใจตัวเอง . .

                ริมฝีปากของผมประกบกับริมฝีปากของลู่หานอย่างแผ่วเบาในแบบที่ผมต้องการจะเป็น กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆลอยมาติดจมูกของผมทันที แต่ทว่ากลิ่นนั้นมันทำให้ดู . . เซ็กซี่ และยั่วยวนผมอย่างบอกไม่ถูก ผมจูบเขา จูบในแบบที่ตัวเองต้องการทะนุถนอมริมฝีปากนี้เอาไว้ให้ได้นานที่สุด ผมไม่รู้ว่าเขารู้ตัวรึเปล่า แต่ตอนนี้ความหวานที่ผมโหยหามานานกำลังถูกส่งมาทางริมฝีปากที่แสนจะอ่อนนุ่ม . .

                อ่า เซฮุน . . พอได้แล้วมั้ง . .

                ผมถอนริมฝีปากออก . .

                โป๊ก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

                และผมก็โดนลู่หานเคาะหัวผมทันที

                “เห้ย นี่เมาป่ะเนี่ย!!!!!!!!!!!!!!!” ขอโวยวายหน่อยเหอะ มือก็ไม่ใช่เบาๆ

                ลู่หานหลับตาพริ้ม สรุปเมาหรือไม่เมาไม่รู้แต่ผมขอหยุดการกระทำของตัวเองไว้แต่เพียงเท่านี้ . .

                ผมยกตัวคนเมาขึ้นมาในท่าเจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาว พาเขาไปที่ห้องนอนของเขาเอง ห้องที่ถ้าเขารู้ว่าผมแอบย่องเข้ามา เขาคงทั้งบ่นทั้งด่าทั้งถีบผมแบบไม่ไว้หน้าแน่ๆ

                ผมค่อยๆบรรจงวางเขาลงบนเตียง ถอดรองเท้าถุงเท้า และก็ห่มผ้าให้ ลูบผมเขานิดหน่อย ก่อนที่จะผละไปดูห้องนอนของเขาที่เขาหวงนักหวงหนา

                ไม่เห็นจะมีอะไรที่เหมือนเป็นความลับเลยสักนิด . . ก็ห้องนอนธรรมดาๆทั่วไปนี่นา

                อาจจะไม่ธรรมดาก็ตรงที่บนโต๊ะเขียนหนังสือของเขามีโมเดลกั้นดั้มของผมที่เขาทำพังครืนและยังต่อไม่เสร็จสักที ฮ่าๆๆๆๆๆ นี่ยังไม่เลิกล้มความพยายามอีกเหรอ

                “อืออออออ” ลู่หานละเมอ

                ผมหันกลับไปมองลู่หาน เขากำลังจะละเมออะไรของเขาน่ะ

              “นายหลับอยู่ใช่มั้ย . .

    อะไรกัน ผมไม่ได้หลับซะหน่อย เขาต่างหากที่หลับ . .

    “ที่จริง . . ฉันไม่ได้อยากจะทำอะไรแบบนี้เลยนะ . . ก็เพราะฉันแพ้เกมน่ะ”

    ประโยคเหล่านั้นผมคุ้นชิบหาย . .และผมเชื่อว่าผมเองก็ไม่มีทางลืมด้วย

    ต่อไปเขาจะต้องพูดว่า . . ขอโทษนะ และหลังจากนั้นเขาก็ขโมยจูบแรกของผม

    “ขอโทษนะ”

    ผมขำนิดๆพลางคิดเล่นๆว่าลู่หานจะละเมอออกมาแล้วจูบอากาศรึเปล่า ถ้าไม่ผมก็คงไม่เสียใจเพราะผมกำลังมีความสุขมากที่เหตุการณ์ระหว่างเราลู่หานยังจำได้ดีภายในจิตใต้สำนึกลึกๆของเขาเอง

    ผมลูบผมลู่หานอีกครั้งแล้วลุกขึ้นยืน เตรียมที่จะออกไปจากห้องนอนสุดรักสุดหวงของเขา

    “มินซอก . .

    ใครคือมินซอก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ผมหันขวับกลับไปทันทีเมื่อได้ยินลู่หานเอ่ยถึงชื่อนี้ . . ใครกันช่างบังอาจเข้ามาอยู่ภายใต้จิตสำนึกของลู่หาน ต้องมีผมคนเดียวสิ!

    ให้ตาย . . เหมือนโดนทำลายของฝันเลย

    . . นายรู้จักเด็กผู้ชายคนที่ฉันจูบมั้ย”      

     

    ผม . .

     

     

    ผมเหรอ . .

     

     

     

    . . เขาหล่อมากเลย”

     

     

     

                ถ้าผมปล้ำลู่หานตอนนี้ . . ผมจะผิดมากมั้ยอ่ะครับ ???















     chiffon_cake say hi :


    คนอ่านน่ารัก คนเขียนก็น่ารัก

    ขอบคุณที่ร่วมโหวตโพลสำรวจนะ

    โหวตได้เรื่อยๆนะคะ ตามความต้องการ

    ยิ่งเม้น ยิ่งแท็ค ตอนใหม่ก็จะยิ่งมาเร็วนะเออ : )

     













    :) Shalunla



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×