Aspergillus fermigatus
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ (University of Manchester) ได้รับเงินการวิจัยจากสถาบันที่เกี่ยวข้องกับรา (Fungal Research Trust) ซึ่งพบว่ามีสปอร์ของรานับล้านอยู่ใกล้ๆ กับเรา ซึ่งก็คือหมอน
แอสเปอร์จิลลัส เฟอมิกาตัส (Aspergillus fermigatus) เป็นราชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ทั่วไปในหมอน ซึ่งส่วนใหญ่ก่อให้เกิดโรค และเกิดอาการแอสเพอร์โลเจอเนสิส (aspergillosis) ที่เป็นอาการการติดเชื้อและก่อให้เกิดความตายได้ในผู้ป่วยลิวคีเมีย (leukaemia) และผู้ทำการผ่ตัดเปลี่ยนกระดูกไขสันหลัง และรายังกระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืดในผู้ใหญ่อีกด้วย
นักวิจัยได้ทำการศึกษาโดยการตัดทั้งตัวอย่างที่แสดงถึงลักษณะและที่สร้างสปอร์ และยังทำการจำแนกสปอร์ของรานับพันที่อยู่ในหมอนที่ใช้แล้วในแต่ละกรัม
การปนเปื้อนของราบนเตียงถูกพบครั้งแรกเมื่อปี 1936 แต่ก็ไม่มีรายงานการค้นพบใน 70 ปีต่อมา สำหรับการศึกษาใหม่นี้ซึ่งถูกตีพิมพ์ในรายงานออนไลน์ เดอะ ไซแอนทิฟิก เจอร์เนอลล์ แอลเลอร์จี้ (The scientific journal Allergy) ทีมที่ทำการศึกษาได้ทำการศึกษาหมอน 10 ใบ ที่มีอายุการใช้งานปกติ 15 ถึง 20 ปี
หมอนแต่ละใบถูกพบว่ามีสปอร์ของรา 4 ถึง 16 สปีชีส์ และยังพบสอปร์จำนวนมากมายแม้จะเป็นหมอนสังเคราะห์ จากรูปราจากกล้องจุลทรรศน์นี้คือแอสเปอร์จิลลัส เฟอมิการตัส (Aspergillus fermigatus) ซึ่งสามารถพบได้ในหมอนสังเคราะห์ และยังพบได้ในขนมปัง ไวน์ ตามฝาผนังที่ชื้น และฝักบัว
ศาสตราจารย์แอชรีย์ วู้ดคอก์ค (Professor Ashley Woodcock) ผู้ที่ก่อให้เกิดการวิจัยนี้กล่าวว่า “พวกเรารู้ว่าหมอนเป็นที่อยู่อาศัยของไรฝุ่นซึ่งกินราเป็นอาหาร และอีกหนึ่งทฤษฎีคือ ราก็ใช้มูลของไรฝุ่นเป็นแหล่งของไนโตรเจนและสารอาหาร ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จึงเป็นเหมือนระบบนิเวศขนาดเล็กภายในหมอนของพวกเรา”
แอสเปอร์จิลลัส (Aspergillus) เป็นราที่พบได้ทั่วไป เช่น ในอากาศ กระถางปลูกต้นไม้ในบ้าน ปุ๋ยคอมพิวเตอร์ เป็นต้น การบุกรุกของแอสเปอร์จิลรัสพบได้ทั่วไปในปอดและไซนัส นอกจากนี้ยังพบว่ามันสามารถบุกรุกเข้ามาที่อวัยวะอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น สมอง และมันยังสามารถแพร่กระจายไปยังผู้ป่วยกลุ่มอื่นได้อีกด้วย การรักษานั้นเป็นเรื่องยาก โดยผู้ป่วย 1 ใน 25 คนทีตายในโรงพยาบาลที่ทันสมัยและใช้ในการสอนในยุโรป
ผู้ป่วยที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยโรคเอดส์ และผู้ที่ได้รับการรักษาโดยการใช้สารสเตียรอย์ด ซึ่งยังก่อให้เกิดอาการปอดบวมหรือไซนัสที่มีสาเหตุมาจากแอสเปอร์จิลลัสได้อีกด้วย โชคดีที่หมอนที่ใช้ในโรงพยาบาลนั้นจะถูกครอบด้วยพลาสติก ซึ่งไม่น่าจะเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรค แต่ผู้ป่วยจะถูกคุกคามจากโรคเมื่อกลับไปที่บ้านซึ่งเป็นที่ที่มีหมอนใบเก่าและมีราปนเปื้อนอยู่ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
แอสเปอร์จิลลัส (Aspergillus) ยังสามารถทำให้อาการหอบหืดแย่ลงไปได้อีกด้วย โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่มีอาการหอบหืดมาหลายปี และยังก่อให้เกิดอาการไซนัสควบคู่ไปกับอาการแพ้ที่รุนแรง การเกิดราบนเตียงยังคงเป็นเรื่องลึกลับ และมันยังสามารถเข้าไปยังช่องปอดของผู้ป่วยโรควัณโรคได้อีกด้วย ทำให้เกิดอาการเลือดออกในปอด และราชนิดนี้ยังก่อให้เกิดโรคในพืชและสัตว์ได้อีกด้วย
ด็อกเตอร์กรอล์ฟฟรี่ สก็อต ผู้เป็นคณะกรรมการของ Fungal Research Trust ซึ่งให้ทุนในการศึกษา กล่าวว่า “การค้นพบนี้จะส่งผลต่อผู้คนมากมายที่มีอาการของโรคภูมิแพ้หรือมีระบบภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง”
ศาสตราจารย์แอชรีย์ วู้ดคอก์ค (Professor Ashley Woodcock) กล่าวเสริมอีกว่า “เนื่องจากผู้ป่วยใช้เวลา 1 ใน 3 สำหรับการนอนซึ่งมีการหายใจเข้าออกที่ใกล้กับแหล่งของรา เพราะฉะนั้นการค้นพบนี้ส่งผลต่อผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยโรคหอบหืดและโรคไซนัส”
ข้อมูลจาก
www.vcharkarn.com
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น