คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #64 : เรื่องเล่าอาถรรพ์ในโรงเรียน : ดอกคาเมลเลียสีเลือด
เรื่องเล่าอาถรรพ์ในโรงเรียน
กลับมาอีกครั้งหลังจากหายไปนาน คราวนี้กลับมาพร้อมกับเรื่องราวตำนานภูติผีปีศาจญี่ปุ่น โดยหยิบยกประเด็นตำนานเล่าขานที่เป็นที่รู้จักและน่ากลัวสยดสยอง คือ เรื่องเล่าอาถรรพ์ในโรงเรียน ซึ่งเป็นเรื่องเล่าที่เล่าขานกันต่อมาอย่างไม่ขาดสาย และเด็กญี่ปุ่นทุกรุ่นย่อมรู้จักตำนานเรื่องเล่าพวกนี้ดี เพราะมันมีแฝงอยู่ในโรงเรียนของพวกเขานั้นเองและเกือบทุกโรงเรียนมีเด็กนักเรียนที่ทราบและรู้ถึงตำนานเล่านี้ตรงกัน เราลองมาพบกับเรื่องสยองขวัญเรื่องแรกกันเลยดีกว่า
ต้นคาเมลเลียสีเลือด
โดยทั่วไปแล้วเราจะพบเจอกับดอกของต้นคาเมลเลียเป็นดอกสีขาว สีชมพู แต่ตำนานอาถรรพ์บทนี้ กล่าวถึงดอกคาเมลเลียสีเลือด ! โดยต้นคาเมลเลียเองเป็นที่นิยมปลูกไว้เป็นต้นไม้ประดับตามโรงเรียนส่วยมากในญี่ปุ่น เมื่อตำนานต้นคาเมลเลียสีเลือดมาก็ชวนสยองมิใช่น้อย แต่เดิมทีต้นคาเมลเลียนั้นจะออกดอกเป็นสีขาว สีชมพูอย่างที่บอกอาจจะมีบ้างเป็นสีแดง แต่สีเลือดนั้นเป็นความหมายของความเศร้าอันสลด ตำนานอาถรรพ์นั้นเล่าถึง ในสมัยญี่ปุ่นโบราณที่ยังคงมีจารีตศักดินา เจ้าหญิงพระองคืหนึ่งหนีสงครามทางการเมืองถูกฝ่ายศัตรูจับได้ เจ้าหญิงตกเป็นเชลยสงครามถูกจับมัดกับต้นคาเมลเลีย และทำการทรมานเจ้าหญิงต่างๆนานา เพื่อจะให้เจ้าหญิงเปิดเผยความลับของราชสำนัก เจ้าหญิงมีความจงรักภักดีต่อราชวงศ์จึงมิปิปากบอกความลับอันใดเลยจนเจ้าหญิงสิ้นพระชนม์จากการถูกทรมาน ร่างของเจ้าหญิงถูกฝังไว้ใต้ต้นคาเมลเลียต้นนั้นนั่นเอง ต้นคาเมลเลียสูบเลือดของเจ้าหญิงกินแทนน้ำ วิญญาณแค้นของเจ้าหญิงผู้น่าสงสารจึงทำให้ดอกคาเมลเลียนั้นเป็นสีเลือด
เรื่องเล่านี้กล่าวเป็นตำนานเล่าขานอันน่าเศร้า แต่ก็มิอาจจะมีใครทราบว่าต้นคาเมลเลียต้นใดเป็นต้นที่ฝังพระศพของเจ้าหญิงผู้น่าสงสาร เด็กๆจึงรอคอยและเชื่อว่าต้นคาเมลเลียในโรงเรียนนั้นเป็นต้นที่สูบดูดเลือดของเจ้าหญิงผู้น่าสงสาร จึงเป็นต้นที่มีอายุมากกว่า 100 ปีนี้จึงเชื่อกันใหญ่ว่า ต้นคาเมลเลียจะออกดอกกลายเป็นดอกสีเลือดทุกวันที่ 15 มิถุนายน ของทุกปี เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์โสกนาฎกรรมบทหนึ่งในอดีต
แต่ตำนานอาถรรพ์เรื่องนี้ก็ยังมิอาจเชื่อได้เพราะไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าวถึงเจ้าหญิงพระองค์นี้ และแถมยังว่าเป็นเรื่องเล่าที่สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขความสงสัยถึงการเกิดดอกคาเมลเลียสีเลือดก็ได้ เพราะดอกคาเมลเลียสีเลือดก็คือดอกคาเมลเลียสีดอกนั้นเอง ตำนานต้นไม้ที่ดูดเลือดคนกินเป็นน้ำเลี้ยงก็มีอยู่หลายตำนาน อย่างที่เคยกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว เรื่องราวของจุโบตโกะ ปีศาจต้นไม้ดูดเลือดคน นั้นเอง
ความคิดเห็น