ลำดับตอนที่ #28
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : วิชาต้องห้าม
Kinjutsu วิชานินจาต้องห้าม
เมื่อกล่าวถึงวิชานินจา วิชานินจานั้นมีมากมายหลายหลาก ตั้งแต่ระดับพื้นฐานทั่วไป จนถึงระดับสูงหรือระดับพิเศษ หากจะนับกันจริงๆก็มากมายยิ่งนัก ดังนั้นจึงมีการแยกเป็นสายของวิชานินจา แยกชนิด แยกประเภท ออกมาเป็นส่วนย่อยๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิชาสายกระบวนท่า วิชาสายคาถาลวงตา เป็นต้น
ซึ่งวิชาต้องห้ามก็ถูกแยกออกมาเป็นอีกประเภทเช่นกัน วิชาต้องห้ามนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นท่าไม้ตายก้นหีบหรือไม้ตายสุดท ้ายของผู้ใช้ เหตุผลที่วิชาต้องห้าม เป็นไม้ตายก้นหีบและเป็นวิชาสุดท้ายที่ผู้ใช้เลือกที ่จะใช้ เพราะ วิชาต้องห้ามถึงแม้จะให้ผลลัพธ์ทางการต่อกับศัตรูอย่ างเด็ดขาด แต่สิ่งที่ต้องแลกมาหรือผลข้างเคียงนั้นค่อนข้างจะร้ ายแรงมากเช่นกัน
************************************************** **********
************************************************** **********
วิชานินจา คาถาแยกเงาพันร่าง
ผู้ใช้ : อุซึมากิ นารุโตะ
ระดับ : -
ระยะโจมตี : -
เมื่อครั้งที่นารุโตะทำการสอบไล่ก่อนจบจากโรงเรียนนิ นจา เขานั้นสอบไม่ผ่าน ซึ่งหัวข้อในการสอบก็คือคาถาแยกร่าง ซึ่งมีเขาคนเดียวที่สอบไม่ผ่าน ตอนนั้นเองที่มิซึกิจูนินซึ่งเป็นครูสอนที่โรงเรียนน ิ นจาเช่นเดียวกับอิรุกะ ฉวยโอกาสนี้หลอกให้นารุโตะไปขโมยม้วนคัมภีร์สะกดปีศา จที่เก็บอยู่ที่บ้านโฮคาเงะรุ่นที่3 คัมภีร์สะกดปีศาจเป็นคัมภีร์ที่บันทึกคาถาต้องห้ามต่ างๆไว้มากมาย เป็นคัมภีร์อันตราย ที่โฮคาเงะรุ่นที่1 เป็นผู้สะกดไว้
ตอนที่นารุโตะขโมยม้วนคัมภีร์มาเขาก็ได้เปิดมันเพื่อ ทำการฝึกวิชาทันที ซึ่งวิชาแรกที่เขาเปิดเจอและฝึกมันก็คือ วิชาแยกเงาพันร่าง และเขาก็ได้ใช้วิชานี้จัดการกับมิซึกิ ต่อมาก็ยังใช้ขับไล่นินจาลูกน้องของกาโต้ แล้วยังมีตอนที่ใช้สู้กับกาอาระ ใช้สู้กับคิมิมาโร่ตอนไปตามตัวซาสึเกะ และใช้ตอนฝึกแปลงคุณสมบัติจักระ
คาถาแยกเงาพันร่าง คือ การแยกร่างเงาออกมาแล้วแบ่งจักระไปสู่ร่างเงาเท่าๆกั น แยกเงาพันร่างการแยกเงาไม่ใช่การแยกร่าง ดังนั้นร่างเงาทุกตัวจะมีจักระเท่ากับร่างต้น จึงทำให้ศัตรูไม่สามารถแยกแยะได้ว่าร่างไหนคือร่างต้ น แม้แต่ผู้ที่มีเนตรสีขาวหรือเนตรวงแหวนก็ตาม และจากการแบ่งจักระไปสู่ร่างแยกเงาเท่าๆกันนั้น จึงทำให้การแยกเงาพันร่างต้องใช้ปริมาณจักระมหาศาลมา ก หากเป็นคนธรรมดา การใช้วิชานี้อาจทำให้จักระเป็นศูนย์และตายได้ในที่ส ุด ดังนั้นคาถาแยกเงาพันร่าง จึงได้ถูกจัดไว้ว่าเป็นวิชาต้องห้าม
อย่างไรก็ตามผู้ที่สามารถใช้คาถาแยกเงาพันร่างได้ ก็จะต้องเป็นระดับโจนินขึ้นไป แต่ปริมาณร่างแยกเงาอาจจะไม่เท่าของนารุโตะ เนื่องจากนารุโตะมีพลังสถิตร่างของจิ้งจอกเก้าหางอยู ่ จึงทำให้นารุโตะมีพลังจักระในการใช้วิชานินจาและพลัง ในการฟื้นฟูร่างกายมากและเร็วกว่าคนปกติหลายเท่า
************************************************** **********
วิชานินจา คาถางูแฝดแลกชีวิต
ผู้ใช้ : มิตาราชิ อังโกะ
ระดับ : -
ระยะโจมตี : ประชิด
ในช่วงระหว่างการสอบจูนินรอบสอง นั้น โอโรจิมารุ ได้ใช้วิชาอะไรซักอย่างลอกหน้าของนินจาหมู่บ้านอื่นท ี่ลงแข่ง ใส่ในหน้าของตัวเอง แล้วก็เข้าป่ามรณะตามหาซาสึเกะ เพื่อที่จะนำร่างซาสึเกะไปเป็นภาชนะใส่วิญญาณของตัวเ อง โดยได้ทำการประทับตราผนึกอักขระสาปไว้ที่คอของซาสึเก ะ
หลังจากเจ้าหน้าที่คุมสอบได้พบศพของผู้เข้าแข่งขันสา มคนที่โดนโอโรจิมารุฆ่า อังโกะก็ได้เข้าป่ามรณะตามหาตัวโอโรจิมารุทันที จนพบกับโอโรจิมารุและได้ต่อสู้กัน อังโกะนั้นเป็นศิษย์ของโอโรจิมารุและก็เป็นอดีตร่างท ดลอง ซึ่งอังโกะก็รู้ดีว่าฝีมือระดับตนเองไม่สามารถที่จะเ อาชนะโอโรจิมารุได้ จึงตัดสินใจที่จะใช้วิชาต้องห้ามที่โอโรจิมารุเคยสอน ไว้ หมายที่จะเผด็จศึกโอโรจิมารุให้ได้โดยเร็ว นั้นก็คือ วิชานินจางูแฝดแลกชีวิต แต่ก็ไม่สำเร็จเนื่องจากร่างที่อังโกะจับไว้ตอนนั้นเ ป็นร่างแยก ซึ่งจะว่าไปอังโกะยังไม่ทันได้ใช้คาถานั้นซะด้วยซ้ำเ พียงแค่เริ่มประสานอิน เพราะรู้ตัวก่อนว่านั้นคือร่างแยก อย่างไรก็ตามจากคำพูดของโอโรจิมารุที่ว่า “คิดจะฆ่าตัวตายหรือไง” คาดว่าเมื่อใช้วิชานี้แล้ว ทั้งผู้ใช้และผู้ถูกโจมตีจะต้องถึงแก่ความตายทั้งคู่ อย่างแน่นอน
************************************************** **********
วิชานินจา เปิด 8 ประตู ด่านพลัง
ผู้ใช้ : ร็อค ลี,ไมโตะไก
ระดับ : -
ระยะโจมตี : ประชิด
บนเส้นวิถีพลังที่มีจักระไหลเวียนอยู่ เรียงตั้งแต่หัวลงมาตามลำดับของร่างกาย มีตำแหน่ง 8 ตำแหน่ง ที่ช่องของจักระไปกระจุกตัวอยู่เรียกว่า ประตู ไคมง คิวมง เซย์มง โชมง โทะมง เคย์มง เคียวมง และชิมง รวมทั้งหมดเรียกว่า “8 ประตู” 8 ประตูนี้จะจำกัดปริมาณของจักระที่ไหลเวียนในร่างกาย สภาพที่ประตูทั้ง 8 เปิดออกจะเรียกว่า “ฐานประตูด่านพลังทั้ง 8” แม้ชั่วขณะหนึ่งผู้ใช้จะมีพลังมหาศาลที่เหนือกว่าระด ับโฮคาเงะ แต่สิ่งที่ผู้ใช้ต้องแลกเปลี่ยนก็ คือ ชีวิต
และท่าดอกบัวที่ลีใช้จะฝืนดึงจักระจากขอบเขตจำกัดนั้ น เพื่อกระชากพลังจักระมากกว่าที่มีอยู่เดิมหลายสิบเท่ าออกมา การใช้กระบวนท่าดอกบัวภายในนั้น จะต้องเตรียมพร้อมด้วยการทำการ “ปลดขีดจำกัด” เสียก่อน โดยปลดไคมง ที่ควบคุมสมองอยู่ แล้วใช้คิวมงฝืนเพิ่มพลังกาย และก็เข้าสู่ท่าดอกบัวภายในจากประตูที่ 3 เซย์มง แต่ในกรณีของลีนั้นเปิดใช้ถึงโทะมง ประตูที่ 5 ถึงจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ทำให้ได้รับบาทเจ็บสาหัสเอาการ
************************************************** **********
วิชานินจา คาถาอันเชิญสัมภเวสีคืนชีพ
ผู้ใช้ : โอโรจิมารุ
ระดับ : -
ระยะโจมตี : -
คาถาอันเชิญสัมภเวสีคืนชีพ เป็นคาถาที่ใช้อันเชิญวิญญาณคนตาย ต่างจากคาถาอันเชิญปกติ คาถาอันเชิญปกติจะต้องใช้เลือดของผู้อันเชิญเป็นสิ่ง แลกเปลี่ยน แต่คาถาอันเชิญสัมภเวสีคืนชีพจะต้องสังเวยด้วยร่างคน เป็น โดยมีร่างสังเวยเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้วิญญาณมาสิงสู่ร่างนั้น แล้วร่างนั้นจะมีสภาพเหมือนร่างเดิมของวิญญาณนั้นทุก ประการ และยันต์ที่ฝั่งอยู่ในหัวจะทำลายบุคลิกของวิญญาณนั้น ให้กลายเป็นแค่หุ่นเชิดสังหารเท่านั้น
ในการต่อสู้ระหว่างโอโรจิมารุกับโฮคาเงะรุ่นที่3(ซาร ุโทบิ) โอโรจิมารุได้ใช้คาถานี้อันเชิญวิญญาณโฮคาเงะทั้ง3ที ่ได้เสียชีวิตไปแล้ว คือ โฮคาเงะรุ่นที่1,โฮคาเงะรุ่นที่2,โฮคาเงะรุ่นที่4(นา มิคาเสะ มินาโตะ) แต่โฮคาเงะรุ่นที่3(ซารุโทบิ)สามารถสกัดคนที่3(โฮคาเ งะรุ่นที่4)เอาไว้ได้ แต่โอโรจิมารุก็สามารถอันเชิญโฮคาเงะรุ่นที่1และโฮคา เงะรุ่นที่2ได้สำเร็จ
ในการต่อสู้ครั้งนั้น โฮคาเงะรุ่นที่3(ซารุโทบิ)ตระหนักดีว่า ตนเองไม่สามารถจะรับมือโฮคาเงะรุ่นที่1 โฮคาเงะรุ่นที่2 และโอโรจิมารุ พร้อมกันได้ในคราเดียวกัน จึงได้ตัดสินใจใช้วิชาสะกดปิดผนึกซากอสูร โดยการแยกเงาเพิ่มมาอีกสองร่าง เพื่อใช้ร่างแยกเงาสองร่างนั้นจัดการผนึกโฮคาเงะทั้ง สอง และร่างต้นก็ไว้จัดการกับโอโรจิมารุ
************************************************** **********
วิชานินจา คาถาสะกดปิดผนึกซากอสูร
ผู้ใช้ : โฮคาเงะรุ่นที่3(ซารุโทบิ),นามิคาเสะ มินาโตะ(โฮคาเงะรุ่นที่4)
ระดับ : -
ระยะโจมตี : ประชิด
คาถาสะกดปิดผนึกซากอสูร เป็นวิชาต้องห้าม เพราะการจะสะกดนั้นต้องเชิญมรณะเทพออกมาและในขณะทำกา รสะกด มือของมรณะเทพก็จะทะลวงผ่านร่างของผู้ใช้คาถาไปยังผู ้ที่จะถูกสะกด และเพื่อจะให้คาถานี้ได้ผล ผู้ใช้จะต้องมอบวิญญาณตัวเองให้แก่มรณะเทพเป็นเครื่อ งแลกเปลี่ยน เป็นคาถาสะกดที่ต้องใช้วิญญาณเป็นเครื่องสังเวย เมื่อการสะกดสำเร็จสิ้นสุดลงวิญญาณของผู้ใช้ก็จะถูกก ลืนกิน และวิญญาณของผู้ใช้คาถานี้กับวิญญาณของผู้ถูกสะกดจะไ ม่มีวันได้ไปผุดไปเกิดชั่วกัลปาวสานต้องอยู่ในท้องขอ งมรณะเทพตลอดไป
เมื่อครั้งที่โอโรจิมารุบุกหมู่บ้านโคโนฮะงาคุเระ และได้ต่อสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่3 เขาได้ใช้คาถาอันเชิญสัมภเวสีคืนชีพ อันเชิญโฮคาเงะรุ่นที่1กับโฮคาเงะรุ่นที่2มา จึงทำให้โฮคาเงะรุ่นที่3 จำเป็นต้องใช้คาถาสะกดปิดผนึกซากอสูร โดยใช้ร่างแยกเงาสองร่างทำการปิดผนึกโฮคาเงะทั้งสองแ ละใช้ร่างต้นทำการปิดผนึกโอโรจิมารุ
แต่คาถานี้จะสำเร็จโดยสมบูรณ์หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพล ังหรือจักระของผู้ใช้ ในตอนนั้นที่โฮคาเงะรุ่นที่3 ใช้คาถานี้ พลังมีไม่มากพอที่จะดึงเอาวิญญาณของโอโรจิมารุมาปิดผ นึก ทำได้เพียงแค่ทำลายมือทั้งสองข้างของโอโรจิมารุ จึงทำให้โอโรจิมารุไม่สามารถใช้มือเพื่อประสานอินหรื อใช้คาถาได้
คาถานี้เป็นคาถาเดียวกับคาถาที่โฮคาเงะรุ่นที่4(นามิ คาเสะ มินาโตะ) เคยใช้สะกดจิ้งจอกเก้าหางไว้ในร่างของ อุซึมากิ นารุโตะ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อครั้งที่มีจิ้งจอกเก้าหางบุกมาอาลวาด จิ้งจอกเก้าหางเป็นสัตว์หางที่มีพลังจักระแข็งแกร่งท ี่สุด หางของมันนั้นเพียงแค่พลิกไหวหนึ่งครั้งก็ทำให้ขุนเข าสั่นไหว ท้องน้ำคะนองคลื่น แม้เหล่านินจาทั้งหลายจะรวมพลังแค่ไหนก็มิอาจต่อกรได ้ แต่ก็ยังมีนินจาผู้กล้าคนหนึงที่อาจหาญจะต่อสู้เสี่ย งชีวิตกับจิ้งจอกเก้า ด้วยวิชาสะกดปิดผนึกซากอสูร นามของนินจาผู้นั้นคือ โฮคาเงะรุ่นที่4(นามิคาเสะ มินาโตะ) เขาได้ใช้วิชานี้ปิดผนึกพลังจิ้งจอกเก้าหางไว้ในร่าง เด็กทารกแรกเกิดที่เพิ่งตัดสายสะดือใหม่ๆ เด็กคนนั้นคือ อุซึมากิ นารูโตะนั่นเอง ในการปิดผนึกนั้นโฮคาเงะรุ่นที่4ได้แยกจักระของจิ้งจ อกเก้าหางออกเป็นสองส่วน คือ ด้านมืด และด้านสว่าง โดยผนึกพลังจักระด้านมืดด้วยผนึกชิจิ และผนึกพลังจักระด้านสว่างไว้ในร่างนารุโตะ
อย่างไรก็ตามถึงวิชาที่โฮคาเงะรุ่นที่3 และ โฮคาเงะรุ่นที่4ใช้จะเป็นวิชาสะกดปิดผนึกซากอสูรเหมื อนกัน แต่ก็อาจมีเงื่อนไขในการปิดผนึกหรือการใช้ที่แตกต่าง กัน อาจขึ้นอยู่กับลักษณะวิธีการใช้หรือสถานะการณ์ ณ ตอนนั้นก็เป็นได้
************************************************** **********
วิชานินจา คาถาสร้างร่างคืนชีพ
ผู้ใช้ : ซึนาเดะ(โฮคาเงะรุ่นที่5)
ระดับ : -
ระยะโจมตี : -
คาถาสร้างร่างคืนชีพ เป็นคาถาที่ผู้ใช้นั้นจะสะสมจักระไว้ที่หน้าผาก โดยจะมีผนึกเงา คอยผนึกจักระเอาไว้ เมื่อผู้ใช้ทำการปล่อยผนึกเงาออก ก็จะสามารถใช้จักระมหาศาลนั้นกระตุ้นโปรตีนหลายๆชนิด เพื่อเพิ่มอัตราการแบ่งตัวและการสร้างเซลล์ใหม่ แล้วสามารถคืนชีพให้กับอวัยวะหรือระบบประสาทได้ ไม่ใช่แค่พลังในการฟื้นฟูเป็นการคืนชีพใหม่ ตราบใดที่ผู้ยังมีชีวิตอยู่ ในระหว่างต่อสู้ถึงแม้จะบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน ก็จะสามารถคืนชีพใหม่ได้ แต่วิชานี้ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่ การแบ่งตัวของเซลล์ในชีวิตคนเรามันจะมีขีดจำกัด นั่นก็คือการแบ่งตัวของเซลล์จะทำให้อายุสั้นลง นอกจากนี้แล้วคาถายังจะส่งผลข้างเคียงต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายนั้นอยู่สภาพผิวหนังแห้งหย่อนเหมือนคนชร าชั่วขณะหนึ่ง
************************************************** **********
วิชานินจา คาถาย้ายชีพเปลี่ยนวิญญาณ
ผู้ใช้ : โอโรจิมารุ
ระดับ : -
ระยะโจมตี :-
โอโรจิมารุผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในสามนินจาในตำนาน โอโรจิมารุเป็นนินจาที่มีพรสวรรค์และพยายามที่จะเรีย นรู้วิชานินจาทุกชนิดที่มีอยู่บนโลกให้หมดทุกวิชา ในอดีตเขาได้ทำการทดลองวิชาต่างๆ กับร่างกายของนินจาคนอื่น รวมทั้งการผ่าตัดศพ เพื่อคิดค้นวิชาอย่างหนึ่งขึ้นมานั่นก็คือ วิชาชีพอมตะ ด้วยสาเหตุนี้เองที่ทำให้นินจาในหมู่บ้านหลายคนที่หา ยสาบสูญไป จนวันหนึ่งโฮคาเงะรุ่นที่3 พร้อมหน่วยลับ ก็มาพบเข้าแล้วจะทำการจับกุม แต่โอโรจิมารุต่อสู้ขัดขืน และได้หลบหนีไป ซึ่งจริงๆแล้วตอนนั้นโฮคาเงะรุ่นที่3 จะจับกุมหรือสังหารก็ทำได้ไม่อยาก
หลังจากนั้นโอโรจิมารุก็คิดค้นวิชาชีพอมตะหรือย้ายชี พเปลี่ยนวิญญาณสำเร็จจนได้ โดยวิชานี้โอโรจิมารุจะสร้างมิติของตัวเองขึ้นมา เพื่อย้ายจิตเข้าครอบงำจิตของเหยื่อ วิชานี้โอโรจิมารุได้ใช้เปลี่ยนวิญญาณมาแล้วสี่คร ั้ง แต่ครั้งล่าสุดที่ใช้กับซาสึเกะนั้นกลับไม่ได้ผล เนื่องจากโดนซาสึเกะใช้เนตรวงแหวนสะท้อนคาถา และประกอบกับโอโรจิมารุอยู่ในสภาพที่อ่อนแอยังไม่พร้ อมเท่าไหร่
วิชาชีพอมตะเมื่อทำการย้ายชีพเปลี่ยนวิญญาณเสร็จแล้ว ต้องเว้นระยะเวลาออกไปอีก 3 ปี จึงจะสามารถย้ายร่างได้อีกครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้นเงื่อนไขระยะเวลาก็ขึ้นอยู่ว่าร่างภา ชนะที่ใช้มีคุณภาพแค่ไหนด้วย
************************************************** **********
วิชานินจา คาถาย้ายชีวิต
ผู้ใช้ : ย่าโจ
ระดับ : -
ระยะโจมตี/หวังผล : ประชิด
ครั้งหนึ่งหน่วยเชิดหุ่นของซึนะงาคุเระ ได้ค้นคว้าเทคนิคการใส่ชีวิตเข้าไปในหุ่นเชิด โดยมีย่าโจ เป็นผู้นำในการค้นคว้า และสามารถคิดค้นทฤษฎีได้ แต่ระหว่างค้นคว้าก็เกิดความเสี่ยงขึ้นมากมาย เลยถูกสั่งห้ามก่อนที่จะมีการทดลองกับคนจริงๆ จึงได้กลายเป็นวิชาต้องห้าม ซึ่งเดิมทีวิชานี้ก็เป็นวิชาส่วนตัวของย่าโจ เป็นการแบ่งพลังชีวิตสอดใส่เข้าไปสู่คนตายและจะสามาร ถชุบชีวิตได้แม้แต่คนตาย โดยแลกกับชีวิตของผู้ใช้วิชา ซึ่งจริงๆแล้ววิชานี้ที่ย่าโจคิดค้นขึ้นมาก็เพื่อซาโ ซริ เพื่อที่จะใช้ชุบชีวิตพ่อแม่ของซาโซรินั่นเอง
แต่ในกรณีที่ย่าโจใช้วิชานี้ช่วยชีวิตซากุระ เนื่องจากซากุระบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ไม่ถึงกับตาย พลังชีวิตที่เสียไปจึงไม่ทำให้ย่าโจ ถึงแก่ความตาย และหลังจากนั้นย่าโจก็ได้ใช้วิชานี้อีกครั้งในการชุบ ชีวิตกาอาระ จึงเป็นสาเหตุให้ย่าโจเสียชีวิตนั่นเอง
************************************************** **********
วิชานินจา คาถาลม กระสุนวงจักรดาวกระจายวายุ
ผู้ใช้ : อุซึมากิ นารุโตะ
ระดับ : s
ระยะโจมตี : ประชิด
วิชากระสุนวงจักรดาวกระจายวายุ เป็นวิชาที่พัฒนาต่อจากวิชาเดิม คือ กระสุนวงจักร ซึ่งเน้นการแปลงรูปลักษณ์อย่างเดียว แต่กระสุนวงจักรดาวกระจายวายุนั้น เป็นการแปลงคุณสมบัติจักระธาตุลมประสานเข้ากับการแปล งรูปลักษณ์(กระสุนวงจักร) ผลจากการโจมตีของวิชานี้จักระลมจะเปลี่ยนรูปลักษณ์เป ็นดาบขนาดเล็กจู่โจมใส่เซลล์ทั่วร่างโดยตรงทำลายเส้น ปราณแต่ละเส้นที่เชื่อมโยงเซลล์ เป็นการโจมตีขนาดจิ๋วที่สร้างความเสียหายในระดับเซลล์ และเป็นวิชาที่ไม่เน้นจำนวนการโจมตี แต่เป็นการเน้นความเข้มข้นของการโจมตีแทน
การใช้วิชานี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้เช่นเดียวกันกับผ ู้ที่โดนโจมตี ถึงจะไม่อยู่ในระดับเดียวกันก็ตาม หากยังใช้อย่างต่อเนื่องไปอีก จะทำให้เส้นปราณถูกทำลายขาดจากเซลล์ ด้วยเหตุนี้ กระสุนวงจักรดาวกระจายวายุ จึงเป็นวิชาต้องห้าม
เมื่อกล่าวถึงวิชานินจา วิชานินจานั้นมีมากมายหลายหลาก ตั้งแต่ระดับพื้นฐานทั่วไป จนถึงระดับสูงหรือระดับพิเศษ หากจะนับกันจริงๆก็มากมายยิ่งนัก ดังนั้นจึงมีการแยกเป็นสายของวิชานินจา แยกชนิด แยกประเภท ออกมาเป็นส่วนย่อยๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิชาสายกระบวนท่า วิชาสายคาถาลวงตา เป็นต้น
ซึ่งวิชาต้องห้ามก็ถูกแยกออกมาเป็นอีกประเภทเช่นกัน วิชาต้องห้ามนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นท่าไม้ตายก้นหีบหรือไม้ตายสุดท ้ายของผู้ใช้ เหตุผลที่วิชาต้องห้าม เป็นไม้ตายก้นหีบและเป็นวิชาสุดท้ายที่ผู้ใช้เลือกที ่จะใช้ เพราะ วิชาต้องห้ามถึงแม้จะให้ผลลัพธ์ทางการต่อกับศัตรูอย่ างเด็ดขาด แต่สิ่งที่ต้องแลกมาหรือผลข้างเคียงนั้นค่อนข้างจะร้ ายแรงมากเช่นกัน
************************************************** **********
************************************************** **********
วิชานินจา คาถาแยกเงาพันร่าง
ผู้ใช้ : อุซึมากิ นารุโตะ
ระดับ : -
ระยะโจมตี : -
เมื่อครั้งที่นารุโตะทำการสอบไล่ก่อนจบจากโรงเรียนนิ นจา เขานั้นสอบไม่ผ่าน ซึ่งหัวข้อในการสอบก็คือคาถาแยกร่าง ซึ่งมีเขาคนเดียวที่สอบไม่ผ่าน ตอนนั้นเองที่มิซึกิจูนินซึ่งเป็นครูสอนที่โรงเรียนน ิ นจาเช่นเดียวกับอิรุกะ ฉวยโอกาสนี้หลอกให้นารุโตะไปขโมยม้วนคัมภีร์สะกดปีศา จที่เก็บอยู่ที่บ้านโฮคาเงะรุ่นที่3 คัมภีร์สะกดปีศาจเป็นคัมภีร์ที่บันทึกคาถาต้องห้ามต่ างๆไว้มากมาย เป็นคัมภีร์อันตราย ที่โฮคาเงะรุ่นที่1 เป็นผู้สะกดไว้
ตอนที่นารุโตะขโมยม้วนคัมภีร์มาเขาก็ได้เปิดมันเพื่อ ทำการฝึกวิชาทันที ซึ่งวิชาแรกที่เขาเปิดเจอและฝึกมันก็คือ วิชาแยกเงาพันร่าง และเขาก็ได้ใช้วิชานี้จัดการกับมิซึกิ ต่อมาก็ยังใช้ขับไล่นินจาลูกน้องของกาโต้ แล้วยังมีตอนที่ใช้สู้กับกาอาระ ใช้สู้กับคิมิมาโร่ตอนไปตามตัวซาสึเกะ และใช้ตอนฝึกแปลงคุณสมบัติจักระ
คาถาแยกเงาพันร่าง คือ การแยกร่างเงาออกมาแล้วแบ่งจักระไปสู่ร่างเงาเท่าๆกั น แยกเงาพันร่างการแยกเงาไม่ใช่การแยกร่าง ดังนั้นร่างเงาทุกตัวจะมีจักระเท่ากับร่างต้น จึงทำให้ศัตรูไม่สามารถแยกแยะได้ว่าร่างไหนคือร่างต้ น แม้แต่ผู้ที่มีเนตรสีขาวหรือเนตรวงแหวนก็ตาม และจากการแบ่งจักระไปสู่ร่างแยกเงาเท่าๆกันนั้น จึงทำให้การแยกเงาพันร่างต้องใช้ปริมาณจักระมหาศาลมา ก หากเป็นคนธรรมดา การใช้วิชานี้อาจทำให้จักระเป็นศูนย์และตายได้ในที่ส ุด ดังนั้นคาถาแยกเงาพันร่าง จึงได้ถูกจัดไว้ว่าเป็นวิชาต้องห้าม
อย่างไรก็ตามผู้ที่สามารถใช้คาถาแยกเงาพันร่างได้ ก็จะต้องเป็นระดับโจนินขึ้นไป แต่ปริมาณร่างแยกเงาอาจจะไม่เท่าของนารุโตะ เนื่องจากนารุโตะมีพลังสถิตร่างของจิ้งจอกเก้าหางอยู ่ จึงทำให้นารุโตะมีพลังจักระในการใช้วิชานินจาและพลัง ในการฟื้นฟูร่างกายมากและเร็วกว่าคนปกติหลายเท่า
************************************************** **********
วิชานินจา คาถางูแฝดแลกชีวิต
ผู้ใช้ : มิตาราชิ อังโกะ
ระดับ : -
ระยะโจมตี : ประชิด
ในช่วงระหว่างการสอบจูนินรอบสอง นั้น โอโรจิมารุ ได้ใช้วิชาอะไรซักอย่างลอกหน้าของนินจาหมู่บ้านอื่นท ี่ลงแข่ง ใส่ในหน้าของตัวเอง แล้วก็เข้าป่ามรณะตามหาซาสึเกะ เพื่อที่จะนำร่างซาสึเกะไปเป็นภาชนะใส่วิญญาณของตัวเ อง โดยได้ทำการประทับตราผนึกอักขระสาปไว้ที่คอของซาสึเก ะ
หลังจากเจ้าหน้าที่คุมสอบได้พบศพของผู้เข้าแข่งขันสา มคนที่โดนโอโรจิมารุฆ่า อังโกะก็ได้เข้าป่ามรณะตามหาตัวโอโรจิมารุทันที จนพบกับโอโรจิมารุและได้ต่อสู้กัน อังโกะนั้นเป็นศิษย์ของโอโรจิมารุและก็เป็นอดีตร่างท ดลอง ซึ่งอังโกะก็รู้ดีว่าฝีมือระดับตนเองไม่สามารถที่จะเ อาชนะโอโรจิมารุได้ จึงตัดสินใจที่จะใช้วิชาต้องห้ามที่โอโรจิมารุเคยสอน ไว้ หมายที่จะเผด็จศึกโอโรจิมารุให้ได้โดยเร็ว นั้นก็คือ วิชานินจางูแฝดแลกชีวิต แต่ก็ไม่สำเร็จเนื่องจากร่างที่อังโกะจับไว้ตอนนั้นเ ป็นร่างแยก ซึ่งจะว่าไปอังโกะยังไม่ทันได้ใช้คาถานั้นซะด้วยซ้ำเ พียงแค่เริ่มประสานอิน เพราะรู้ตัวก่อนว่านั้นคือร่างแยก อย่างไรก็ตามจากคำพูดของโอโรจิมารุที่ว่า “คิดจะฆ่าตัวตายหรือไง” คาดว่าเมื่อใช้วิชานี้แล้ว ทั้งผู้ใช้และผู้ถูกโจมตีจะต้องถึงแก่ความตายทั้งคู่ อย่างแน่นอน
************************************************** **********
วิชานินจา เปิด 8 ประตู ด่านพลัง
ผู้ใช้ : ร็อค ลี,ไมโตะไก
ระดับ : -
ระยะโจมตี : ประชิด
บนเส้นวิถีพลังที่มีจักระไหลเวียนอยู่ เรียงตั้งแต่หัวลงมาตามลำดับของร่างกาย มีตำแหน่ง 8 ตำแหน่ง ที่ช่องของจักระไปกระจุกตัวอยู่เรียกว่า ประตู ไคมง คิวมง เซย์มง โชมง โทะมง เคย์มง เคียวมง และชิมง รวมทั้งหมดเรียกว่า “8 ประตู” 8 ประตูนี้จะจำกัดปริมาณของจักระที่ไหลเวียนในร่างกาย สภาพที่ประตูทั้ง 8 เปิดออกจะเรียกว่า “ฐานประตูด่านพลังทั้ง 8” แม้ชั่วขณะหนึ่งผู้ใช้จะมีพลังมหาศาลที่เหนือกว่าระด ับโฮคาเงะ แต่สิ่งที่ผู้ใช้ต้องแลกเปลี่ยนก็ คือ ชีวิต
และท่าดอกบัวที่ลีใช้จะฝืนดึงจักระจากขอบเขตจำกัดนั้ น เพื่อกระชากพลังจักระมากกว่าที่มีอยู่เดิมหลายสิบเท่ าออกมา การใช้กระบวนท่าดอกบัวภายในนั้น จะต้องเตรียมพร้อมด้วยการทำการ “ปลดขีดจำกัด” เสียก่อน โดยปลดไคมง ที่ควบคุมสมองอยู่ แล้วใช้คิวมงฝืนเพิ่มพลังกาย และก็เข้าสู่ท่าดอกบัวภายในจากประตูที่ 3 เซย์มง แต่ในกรณีของลีนั้นเปิดใช้ถึงโทะมง ประตูที่ 5 ถึงจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ทำให้ได้รับบาทเจ็บสาหัสเอาการ
************************************************** **********
วิชานินจา คาถาอันเชิญสัมภเวสีคืนชีพ
ผู้ใช้ : โอโรจิมารุ
ระดับ : -
ระยะโจมตี : -
คาถาอันเชิญสัมภเวสีคืนชีพ เป็นคาถาที่ใช้อันเชิญวิญญาณคนตาย ต่างจากคาถาอันเชิญปกติ คาถาอันเชิญปกติจะต้องใช้เลือดของผู้อันเชิญเป็นสิ่ง แลกเปลี่ยน แต่คาถาอันเชิญสัมภเวสีคืนชีพจะต้องสังเวยด้วยร่างคน เป็น โดยมีร่างสังเวยเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้วิญญาณมาสิงสู่ร่างนั้น แล้วร่างนั้นจะมีสภาพเหมือนร่างเดิมของวิญญาณนั้นทุก ประการ และยันต์ที่ฝั่งอยู่ในหัวจะทำลายบุคลิกของวิญญาณนั้น ให้กลายเป็นแค่หุ่นเชิดสังหารเท่านั้น
ในการต่อสู้ระหว่างโอโรจิมารุกับโฮคาเงะรุ่นที่3(ซาร ุโทบิ) โอโรจิมารุได้ใช้คาถานี้อันเชิญวิญญาณโฮคาเงะทั้ง3ที ่ได้เสียชีวิตไปแล้ว คือ โฮคาเงะรุ่นที่1,โฮคาเงะรุ่นที่2,โฮคาเงะรุ่นที่4(นา มิคาเสะ มินาโตะ) แต่โฮคาเงะรุ่นที่3(ซารุโทบิ)สามารถสกัดคนที่3(โฮคาเ งะรุ่นที่4)เอาไว้ได้ แต่โอโรจิมารุก็สามารถอันเชิญโฮคาเงะรุ่นที่1และโฮคา เงะรุ่นที่2ได้สำเร็จ
ในการต่อสู้ครั้งนั้น โฮคาเงะรุ่นที่3(ซารุโทบิ)ตระหนักดีว่า ตนเองไม่สามารถจะรับมือโฮคาเงะรุ่นที่1 โฮคาเงะรุ่นที่2 และโอโรจิมารุ พร้อมกันได้ในคราเดียวกัน จึงได้ตัดสินใจใช้วิชาสะกดปิดผนึกซากอสูร โดยการแยกเงาเพิ่มมาอีกสองร่าง เพื่อใช้ร่างแยกเงาสองร่างนั้นจัดการผนึกโฮคาเงะทั้ง สอง และร่างต้นก็ไว้จัดการกับโอโรจิมารุ
************************************************** **********
วิชานินจา คาถาสะกดปิดผนึกซากอสูร
ผู้ใช้ : โฮคาเงะรุ่นที่3(ซารุโทบิ),นามิคาเสะ มินาโตะ(โฮคาเงะรุ่นที่4)
ระดับ : -
ระยะโจมตี : ประชิด
คาถาสะกดปิดผนึกซากอสูร เป็นวิชาต้องห้าม เพราะการจะสะกดนั้นต้องเชิญมรณะเทพออกมาและในขณะทำกา รสะกด มือของมรณะเทพก็จะทะลวงผ่านร่างของผู้ใช้คาถาไปยังผู ้ที่จะถูกสะกด และเพื่อจะให้คาถานี้ได้ผล ผู้ใช้จะต้องมอบวิญญาณตัวเองให้แก่มรณะเทพเป็นเครื่อ งแลกเปลี่ยน เป็นคาถาสะกดที่ต้องใช้วิญญาณเป็นเครื่องสังเวย เมื่อการสะกดสำเร็จสิ้นสุดลงวิญญาณของผู้ใช้ก็จะถูกก ลืนกิน และวิญญาณของผู้ใช้คาถานี้กับวิญญาณของผู้ถูกสะกดจะไ ม่มีวันได้ไปผุดไปเกิดชั่วกัลปาวสานต้องอยู่ในท้องขอ งมรณะเทพตลอดไป
เมื่อครั้งที่โอโรจิมารุบุกหมู่บ้านโคโนฮะงาคุเระ และได้ต่อสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่3 เขาได้ใช้คาถาอันเชิญสัมภเวสีคืนชีพ อันเชิญโฮคาเงะรุ่นที่1กับโฮคาเงะรุ่นที่2มา จึงทำให้โฮคาเงะรุ่นที่3 จำเป็นต้องใช้คาถาสะกดปิดผนึกซากอสูร โดยใช้ร่างแยกเงาสองร่างทำการปิดผนึกโฮคาเงะทั้งสองแ ละใช้ร่างต้นทำการปิดผนึกโอโรจิมารุ
แต่คาถานี้จะสำเร็จโดยสมบูรณ์หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพล ังหรือจักระของผู้ใช้ ในตอนนั้นที่โฮคาเงะรุ่นที่3 ใช้คาถานี้ พลังมีไม่มากพอที่จะดึงเอาวิญญาณของโอโรจิมารุมาปิดผ นึก ทำได้เพียงแค่ทำลายมือทั้งสองข้างของโอโรจิมารุ จึงทำให้โอโรจิมารุไม่สามารถใช้มือเพื่อประสานอินหรื อใช้คาถาได้
คาถานี้เป็นคาถาเดียวกับคาถาที่โฮคาเงะรุ่นที่4(นามิ คาเสะ มินาโตะ) เคยใช้สะกดจิ้งจอกเก้าหางไว้ในร่างของ อุซึมากิ นารุโตะ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อครั้งที่มีจิ้งจอกเก้าหางบุกมาอาลวาด จิ้งจอกเก้าหางเป็นสัตว์หางที่มีพลังจักระแข็งแกร่งท ี่สุด หางของมันนั้นเพียงแค่พลิกไหวหนึ่งครั้งก็ทำให้ขุนเข าสั่นไหว ท้องน้ำคะนองคลื่น แม้เหล่านินจาทั้งหลายจะรวมพลังแค่ไหนก็มิอาจต่อกรได ้ แต่ก็ยังมีนินจาผู้กล้าคนหนึงที่อาจหาญจะต่อสู้เสี่ย งชีวิตกับจิ้งจอกเก้า ด้วยวิชาสะกดปิดผนึกซากอสูร นามของนินจาผู้นั้นคือ โฮคาเงะรุ่นที่4(นามิคาเสะ มินาโตะ) เขาได้ใช้วิชานี้ปิดผนึกพลังจิ้งจอกเก้าหางไว้ในร่าง เด็กทารกแรกเกิดที่เพิ่งตัดสายสะดือใหม่ๆ เด็กคนนั้นคือ อุซึมากิ นารูโตะนั่นเอง ในการปิดผนึกนั้นโฮคาเงะรุ่นที่4ได้แยกจักระของจิ้งจ อกเก้าหางออกเป็นสองส่วน คือ ด้านมืด และด้านสว่าง โดยผนึกพลังจักระด้านมืดด้วยผนึกชิจิ และผนึกพลังจักระด้านสว่างไว้ในร่างนารุโตะ
อย่างไรก็ตามถึงวิชาที่โฮคาเงะรุ่นที่3 และ โฮคาเงะรุ่นที่4ใช้จะเป็นวิชาสะกดปิดผนึกซากอสูรเหมื อนกัน แต่ก็อาจมีเงื่อนไขในการปิดผนึกหรือการใช้ที่แตกต่าง กัน อาจขึ้นอยู่กับลักษณะวิธีการใช้หรือสถานะการณ์ ณ ตอนนั้นก็เป็นได้
************************************************** **********
วิชานินจา คาถาสร้างร่างคืนชีพ
ผู้ใช้ : ซึนาเดะ(โฮคาเงะรุ่นที่5)
ระดับ : -
ระยะโจมตี : -
คาถาสร้างร่างคืนชีพ เป็นคาถาที่ผู้ใช้นั้นจะสะสมจักระไว้ที่หน้าผาก โดยจะมีผนึกเงา คอยผนึกจักระเอาไว้ เมื่อผู้ใช้ทำการปล่อยผนึกเงาออก ก็จะสามารถใช้จักระมหาศาลนั้นกระตุ้นโปรตีนหลายๆชนิด เพื่อเพิ่มอัตราการแบ่งตัวและการสร้างเซลล์ใหม่ แล้วสามารถคืนชีพให้กับอวัยวะหรือระบบประสาทได้ ไม่ใช่แค่พลังในการฟื้นฟูเป็นการคืนชีพใหม่ ตราบใดที่ผู้ยังมีชีวิตอยู่ ในระหว่างต่อสู้ถึงแม้จะบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน ก็จะสามารถคืนชีพใหม่ได้ แต่วิชานี้ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่ การแบ่งตัวของเซลล์ในชีวิตคนเรามันจะมีขีดจำกัด นั่นก็คือการแบ่งตัวของเซลล์จะทำให้อายุสั้นลง นอกจากนี้แล้วคาถายังจะส่งผลข้างเคียงต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายนั้นอยู่สภาพผิวหนังแห้งหย่อนเหมือนคนชร าชั่วขณะหนึ่ง
************************************************** **********
วิชานินจา คาถาย้ายชีพเปลี่ยนวิญญาณ
ผู้ใช้ : โอโรจิมารุ
ระดับ : -
ระยะโจมตี :-
โอโรจิมารุผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในสามนินจาในตำนาน โอโรจิมารุเป็นนินจาที่มีพรสวรรค์และพยายามที่จะเรีย นรู้วิชานินจาทุกชนิดที่มีอยู่บนโลกให้หมดทุกวิชา ในอดีตเขาได้ทำการทดลองวิชาต่างๆ กับร่างกายของนินจาคนอื่น รวมทั้งการผ่าตัดศพ เพื่อคิดค้นวิชาอย่างหนึ่งขึ้นมานั่นก็คือ วิชาชีพอมตะ ด้วยสาเหตุนี้เองที่ทำให้นินจาในหมู่บ้านหลายคนที่หา ยสาบสูญไป จนวันหนึ่งโฮคาเงะรุ่นที่3 พร้อมหน่วยลับ ก็มาพบเข้าแล้วจะทำการจับกุม แต่โอโรจิมารุต่อสู้ขัดขืน และได้หลบหนีไป ซึ่งจริงๆแล้วตอนนั้นโฮคาเงะรุ่นที่3 จะจับกุมหรือสังหารก็ทำได้ไม่อยาก
หลังจากนั้นโอโรจิมารุก็คิดค้นวิชาชีพอมตะหรือย้ายชี พเปลี่ยนวิญญาณสำเร็จจนได้ โดยวิชานี้โอโรจิมารุจะสร้างมิติของตัวเองขึ้นมา เพื่อย้ายจิตเข้าครอบงำจิตของเหยื่อ วิชานี้โอโรจิมารุได้ใช้เปลี่ยนวิญญาณมาแล้วสี่คร ั้ง แต่ครั้งล่าสุดที่ใช้กับซาสึเกะนั้นกลับไม่ได้ผล เนื่องจากโดนซาสึเกะใช้เนตรวงแหวนสะท้อนคาถา และประกอบกับโอโรจิมารุอยู่ในสภาพที่อ่อนแอยังไม่พร้ อมเท่าไหร่
วิชาชีพอมตะเมื่อทำการย้ายชีพเปลี่ยนวิญญาณเสร็จแล้ว ต้องเว้นระยะเวลาออกไปอีก 3 ปี จึงจะสามารถย้ายร่างได้อีกครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้นเงื่อนไขระยะเวลาก็ขึ้นอยู่ว่าร่างภา ชนะที่ใช้มีคุณภาพแค่ไหนด้วย
************************************************** **********
วิชานินจา คาถาย้ายชีวิต
ผู้ใช้ : ย่าโจ
ระดับ : -
ระยะโจมตี/หวังผล : ประชิด
ครั้งหนึ่งหน่วยเชิดหุ่นของซึนะงาคุเระ ได้ค้นคว้าเทคนิคการใส่ชีวิตเข้าไปในหุ่นเชิด โดยมีย่าโจ เป็นผู้นำในการค้นคว้า และสามารถคิดค้นทฤษฎีได้ แต่ระหว่างค้นคว้าก็เกิดความเสี่ยงขึ้นมากมาย เลยถูกสั่งห้ามก่อนที่จะมีการทดลองกับคนจริงๆ จึงได้กลายเป็นวิชาต้องห้าม ซึ่งเดิมทีวิชานี้ก็เป็นวิชาส่วนตัวของย่าโจ เป็นการแบ่งพลังชีวิตสอดใส่เข้าไปสู่คนตายและจะสามาร ถชุบชีวิตได้แม้แต่คนตาย โดยแลกกับชีวิตของผู้ใช้วิชา ซึ่งจริงๆแล้ววิชานี้ที่ย่าโจคิดค้นขึ้นมาก็เพื่อซาโ ซริ เพื่อที่จะใช้ชุบชีวิตพ่อแม่ของซาโซรินั่นเอง
แต่ในกรณีที่ย่าโจใช้วิชานี้ช่วยชีวิตซากุระ เนื่องจากซากุระบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ไม่ถึงกับตาย พลังชีวิตที่เสียไปจึงไม่ทำให้ย่าโจ ถึงแก่ความตาย และหลังจากนั้นย่าโจก็ได้ใช้วิชานี้อีกครั้งในการชุบ ชีวิตกาอาระ จึงเป็นสาเหตุให้ย่าโจเสียชีวิตนั่นเอง
************************************************** **********
วิชานินจา คาถาลม กระสุนวงจักรดาวกระจายวายุ
ผู้ใช้ : อุซึมากิ นารุโตะ
ระดับ : s
ระยะโจมตี : ประชิด
วิชากระสุนวงจักรดาวกระจายวายุ เป็นวิชาที่พัฒนาต่อจากวิชาเดิม คือ กระสุนวงจักร ซึ่งเน้นการแปลงรูปลักษณ์อย่างเดียว แต่กระสุนวงจักรดาวกระจายวายุนั้น เป็นการแปลงคุณสมบัติจักระธาตุลมประสานเข้ากับการแปล งรูปลักษณ์(กระสุนวงจักร) ผลจากการโจมตีของวิชานี้จักระลมจะเปลี่ยนรูปลักษณ์เป ็นดาบขนาดเล็กจู่โจมใส่เซลล์ทั่วร่างโดยตรงทำลายเส้น ปราณแต่ละเส้นที่เชื่อมโยงเซลล์ เป็นการโจมตีขนาดจิ๋วที่สร้างความเสียหายในระดับเซลล์ และเป็นวิชาที่ไม่เน้นจำนวนการโจมตี แต่เป็นการเน้นความเข้มข้นของการโจมตีแทน
การใช้วิชานี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้เช่นเดียวกันกับผ ู้ที่โดนโจมตี ถึงจะไม่อยู่ในระดับเดียวกันก็ตาม หากยังใช้อย่างต่อเนื่องไปอีก จะทำให้เส้นปราณถูกทำลายขาดจากเซลล์ ด้วยเหตุนี้ กระสุนวงจักรดาวกระจายวายุ จึงเป็นวิชาต้องห้าม
ถ้าอยากดูของจริงก็ไปตามลิ๊งนี้เลยจ้า(แต่ไม่รุ้ว่าถ้าไม่ใช่สมาชิกเข้าได้เปล่านะลองดู)
http://www.naruto-ct.com/forums/viewtopic.php?f=12&t=90&sid=b88e8e0bc2f15d432b63045253e43b79
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น