ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องจริงทะลุโลก (Of The World)

    ลำดับตอนที่ #46 : เซียรา ลีโอนี่ (Sierra Leone) บลัท เดมอน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.46K
      1
      5 ม.ค. 52

              ก่อนที่จะเข้าเรื่องผมขอเล่าเรื่องของหนังบลัท เดมอน(Blood Diamond)ก่อนละกันครับ มีใครได้ดูบ้างหรือเปล่าเอย..............

              ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายและสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในทศวรรษ 1990 ในเซียร์รา ลีโอเน

    แดนนี่ อาร์เชอร์ (ลีโอนาโด ดิคาปริโอ) ทหารรับจ้าง และ โซโลมอน แวนดี้ (ดจิมอน ฮาวน์ซู) ชาวประมงชาวมองเด ทั้งคู่เป็นชาวแอฟริกัน แต่ประวัติชีวิตและสถานภาพของพวกเขาต่างกันสุดขั้วจนกระทั่งชะตาของพวกเขาต้องมาร่วมกันในการออกเดินทางตามหาเพชรสีชมพูหายากที่อาจเปลี่ยนชีวิตของพวกเขา

    ในระหว่างที่ถูกคุมขังด้วยข้อหาค้าของเถื่อน อาร์เชอร์ได้เรียนรู้ว่าโซโลมอนซึ่งถูกพรากจากครอบครัวและถูกบังคับให้ทำงานในเหมืองเพชรและได้พบเพชรเม็ดพิเศษและแอบซุกซ่อนเอาไว้ ด้วยความช่วยเหลือของแมดดี้ โบเวน (เจนนิเพฟอร์ คอนเนลลี) นักข่าวสาวอเมริกันผู้ซึ่งอุดมการณ์ของเธอถูกสั่นคลอนโดยความรู้สึกลึกล้ำที่มีต่ออาเชอร์ สองชายออกเดินเท้าผ่านอาณาเขตของกบฏ การเดินทางนี้เป็นมากกว่าการค้นหาอัญมณีล้ำค่า มันอาจช่วยปกป้องครอบครัวของโซโลมอนและทำให้อาเชอร์มีโอกาสครั้งที่สอง จากที่เขาเคยคิดไว้ว่าไม่มีอีกแล้ว 
               กำกับการแสดงโดย เอ็ดเวิร์ด ซวิค ภาพยนตร์แอ็คชั่นดราม่าเรื่อง Blood Diamond นำแสดงโดยนักแสดงที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทอง ลีโอนาร์โด ดิคาปรีโอ (The Aviator), นักแสดงรางวัลตุ๊กตาทอง เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี (A Beautiful Mind) และนักแสดงที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทอง ดจิมอน ฮาวน์ซู (In America) เขียนบทภาพยนตร์โดย ชาร์ลส ลีวิทท์ (The Mighty) จากเนื้อเรื่องโดยลีวิทท์ และซี. เกบี้ มิทเชล

     

             

             เซียรา ลีโอนี่ (Sierra Leone)  บลัท เดมอน

     

              ทันทีที่ผมดูจบสิ่งแรกที่ผมคิดเลยตอนนั้นคือ..........

               "โชคดีที่เกิดเป็นคนไทย"

               โห.....ก็จริงนี้ ประเทศอะไรฟ่ะ สุดอันตราย และโหดจริงๆ ฆ่าแกงแม้กระทั้งเพื่อนร่วมชาติ ผมคิดว่า อิรัก อัฟกาฯ และ 3 จังหวัดภาคใต้ จะโหด อันตรายแล้วน่ะ มาดูหนังเรื่องนี้ ตัวอย่างที่ว่าข้างต้นชิดซ้ายไปเลย เมื่อมาเจอกับประเทศเซียรา ลีโอนี่

              ประเทศที่ว่าก็มีจริงๆ เสียด้วยสิ รู้สึกหนัง 007 ภาคล่าสุดจะกล่าวถึงด้วย(ใช่เปล่าหว่า)

              ว่าแล้ว เปิดหาเน็ตดู หาข้อมูลประเทศนี้ที่เป็นภาษาไทยดู ก็พบว่า.................

     


               มีประเทศนี้อยู่จริงๆ ในโลกครับ นั้นคือประเทศเซียรา ลีโอนี่(ในหนังเรียกประเทศนี้ว่าอะไรหว่า เออ....เซียร์รา ลีโอเน...เหรอ) ชื่อประเทศ เซียร์ร่า ลีโอนี่ (Sierra Leone) หรือหากจะเรียกกันเต็มยศก็ต้อง สาธารณรัฐเซียร์ร่า ลีโอนี่ (Republic of Sierra Leone) นั้นมี รากคำศัพท์มาจากภาษาโปรตุเกส ครับแปลว่า "ภูผาแห่งราชสีห์" (Lion Mountain) ซึ่งประเทศนี้ละม้ายคล้ายคลึงกับ สิงโตที่กำลังนอนหลับอยู่ เมื่อเปิดหรือกลางแผนที่โลกดูก็พบว่ามันเป็นประเทศเล็กๆ ในทวีปอาฟริกา อยู่ทางเหนือของประเทศไลบีเรีย เคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษ แต่ต่อมาก็ได้รับเอกราช ค.ศ. 1961 และสถาปนาเป็นสาธารณรัฐในปี ค.ศ. 1971

               แต่แทนที่ประเทศนี้จะสามัคคีกัน กับทะเลาะกัน จนเกิดสงครามกลางเมืองฆ่าล้างเพื่อนร่วมชาติซะงั้นนี้(เหมือนประเทศไหนก็ไม่รู้)

               สาเหตุเหรอมันเริ่มมาจากทรัพยากรล้ำค่า นั้นคือมีเพชรครับ มีจำนวนมากด้วย (ประมาณ 15% ของจำนวนเพชรจากทั่วโลก รู้จากหนังนะ) ทำให้ชาวตะวันตก พวกผิวขาวที่แสนกระหายแห่กันเข้ามาลงทุน ทำเหมืองเพชร กันอย่างมโหฬาร สร้างความร่ำรวยให้กับพวกผิวขาวกันอย่างถ้วนหน้า แต่จ่ายค่าตอบแทนเพียงน้อยนิดเจ้าของประเทศ

              ความไม่พอใจ ความโกรธแค้น ต่อคนผิวขาวที่กอบโกยผลประโยชน์ดังกล่าว ประจวบกับประชาชนเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลแบบทรราชย์แบบเบ็ดเสร็จที่ปกครองประเทศแบบฉกฉวย ทำให้เกิดการแตกแยกเป็นหลายฝักหลายฝ่ายทำให้เกิดการต่อตั้งกองกำลังปฏิวัติที่ชื่อว่า "อาร์ยูเอฟ (RUF Revolutionary United Fronts) ก่อตั้งโดยโฟเดย์ แซนโกห์ เป็นนักรบเก่าในกองทัพโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะแย่งชิงความมั่งคั่งคืนจากชาวยุโรปที่เข้ามากอบโกย(แต่อาวุธซื้อมาจากพวกยุโรป ต้าย.........) และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นการเกิดสงครามการเมืองสุดมหาโหดขึ้น นับตั้งแต่ปีค.ศ. 1991 จนถึงปัจจุบัน และมีสถิตคนตายถึง 200,000 คนพร้อมกับอีกหลายหมื่นคนที่ต้องพิการไปตลอดชีวิต(และยังตามมาอีกในอนาคต)


              มหาโหดไงเหรอ ใครดูหนังคงรู้แล้ว ส่วนคนไม่ได้ดูก็เล่าหน่อยละกัน กลุ่มอาร์ยูเอฟนี้น่ะครับ ไม่ใช้กลุ่มที่ทำเพื่อประชาชน โดยประชาชนเหมือนสโลแกนพรรคการเมืองไหนหรอกครับ แต่เป็นกลุ่มรวมพวกสัตว์ผีนรกโดยแท้ วิธีการของพวกมันที่ใช้ต่อต้านรัฐบาลคือ การใช้ลูกปืนแทนการพูด ก็ฆ่ากันนั้นแหละครับ เจอใครแม่ยิงหมด ขนาดเอกอัครราชทูตของสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ ถึงกลับเอ่ยปากว่าสงครามกลางเมืองครั้งนี้เป็น "หนึ่งในความน่าสะพรึงกลัวที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์โลก (one of the world's most repugnant insurgencies)" แล้วละก็ แสดงว่ามันไม่ธรรมดาจริงๆแล้วล่ะครับ

              สงครามกลางเมืองครั้งนี้มันดูจะเหี้ยมเกรียมและอำมหิตกว่าครั้งใดๆในหน้าประวัติศาสตร์สงครามการเมืองใน SSA ก็เพราะว่าคราวนี้พลเมืองตาดำๆกลับเป็นผู้รับชะตากรรมอันโหดร้ายโดยตรงแทนที่จะเป็นคนถูกลูกหลงเหมือนก่อน เพราะงานนี้ RUF ประกาศอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า "เป้าหมายการโจมตีหลักคือประชาชน!" พร้อมกันนี้ยังประกาศที่จะทำลายบ้านเมือง ตึกรามบ้านช่องให้พังพินาศเป็นหน้ากลองอีกด้วย

               RUF พูดจริงทำจริงครับ อาคารสถานที่ต่างๆทั้งในเมืองหลวง Freetown และตามหมู่บ้านนี่ถูกลูกกระสุนซัดซะพรุนแถมดำเป็นตอตะโกเลย


               พร้อมกันนี้ RUFได้สร้างโรงละครแห่งโศกนาฏกรรมโลกขึ้นมาอีกแห่งด้วยปฏิบัติการ "ตัดข้อต่อ" (crude amputation of limbs) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแขนและมือของประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เพื่อเป็นการกระพือสถานการณ์ให้เลวร้ายยิ่งขึ้น

                RUF มีศัพท์แห่งความตายของตัวเองด้วยกัน 2 คำครับ

                ถ้ามีคำสั่งแห่งมัจจุราชว่า "Shirt Sleeve" คนๆนั้นจะถูกตัดแขนตรงบริเวณหัวไหล่

                 แต่ถ้ามีคำสั่งว่า "Long Sleeve" คนๆนั้นจะถูกตัดแขนตรงบริเวณข้อมือ

                 วันดีคือดีพวกมันจะรบแบบกองโจร บุกเข้ามาในเมือง หรือไม่ก็หมู่บ้านคนธรรมดา แล้วให้เด็กใช้ปืนยิงชาวบ้าน แบบปูพรม.....เพื่อสังหารทหารรัฐบาลดะ ทำลาย ฆ่าชาวบ้าน ปล้น จี้ ข่มขืน ฆ่าผู้ใหญ่ต่อหน้าเด็ก รวมทั้งเอาเด็กอายุ 6 ขวบ (ขึ้นไป) เอาไปเป็นกองทัพสัตว์นรก นอกจากนี้ยังมีการกินเนื้อคนในหมู่บ้านอีก.... ส่วนผู้หญิงจะนำไปเป็นบำเรอกามเพื่อการข่มขื่นซ้ำซ้อนอย่างทารุณ(ผู้หญิง 75 เปอร์เซ็นต์ในประเทศ มีประวัติถูกข่มขื่น) จับตัวประกัน มีหลายรูปแบบครับ แต่เด่นๆ ที่สุดคือดึงเอาพวกวัยรุ่นเข้ามาเป็นพวก.......รวมทั้งเด็ก......หากใครไม่เข้าพวกยิงทิ้งทันที หรือไม่ก็ตัดแขนตัดมือ ส่วนคนที่เข้าพวก คนที่แข็งแรงหน่อยก็เอาไปเป็นแรงงานในเหมืองเพชร(เถื่อน) ส่วนพวกเด็ก วัยรุ่น พี่ท่านจะให้พี้ยาเสพย์ติด แล้วให้ติดอาวุธเป็นหน่วยล่าสังหารในดินแดนแห่งนี้แบบไม่จบจักสิ้น

               อ่านถูกแล้วครับ เด็กนี้แหละ.......... ใครดูหนังเรื่องนี้ที่มีฉากเด็กถือปืนไล่ฆ่าชาวบ้าน ผู้หญิง ผู้ใหญ่ เด็ก อดสลดใจไม่ได้


              ใครว่าเด็กไทยคุณภาพแย่ แต่เมื่อมาเจอเด็กเซียรา ลีโอ ต้องซิดซ้าย

              อันเนื่องจาก สงครามกลางเมืองเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน ความพยายาม(หรือเปล่า) ของพวกอาร์ยูเอฟที่กดดันให้รัฐบาลลงจากอำนาจ(เรื่องอะไรล่ะ) การต่อสู้นั้นยืดเยื้อ ทำให้เด็กๆ ในประเทศกลายเป็นเด็กกำพร้าอย่างรวดเร็ว

              และพวกอาร์ยูเอฟเกิดไอเดียกระฉูด(ใช้สมองส่วนไหนคิด) จึงจับเอาเด็กพวกนี้เป็นกองหน้ากล้าตายเสียเลย

              เด็กที่ว่านั้น แค่ 3 ขวบ ขึ้นไปก็จับปืนเป็นสมาชิกกองทัพสัตว์นรกได้แล้วครับ มีหน้าที่คือไปกับกองกำลังพวกผู้ใหญ่ ไปบุกจู่โจม ปล้มสดมภ์หมู่บ้านต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังช่วยงานเล็กๆ น้อย เช่นดูต้นทาง เฝ้าเส้นทาง ที่มากที่สุดก็คงการช่วยตอบสนองทางเพศของพวกปฏิวัติทั้งหลายได้ลงแขกกันทั่วหน้า

               "เสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดของชายคนที่ผมตัดแขนยังคงก้องในหัวของผม" เด็กหนุ่มวัยฉกรรจ์สมาชิก RUF กล่าวอย่างละห้อย

               ทั้งทหารเด็กและทหารผู้ใหญ่ใน RUF จะถูกกรีดลึกด้วยคมมีดตามร่างกายจากนั้นบาดแผลจะถูกป้ายด้วยโคเคนเพื่อเร้าความรู้สึกบ้าดีเดือดแห่งการต่อสู้และการฆ่าฟัน บางครั้งคนที่ถูกตัดแขนตัดข้อมือก็เป็นพี่น้องหรือเพื่อนบ้านของพวกเขาเอง เมื่ออารมณ์ถูกกระตุ้นจนถึงที่สุดแล้ว มันก็กลับกลายมาเป็นความสนุกเร้าใจเกินกว่าที่สติจะควบคุมได้แล้วจน Saidu ถึงกลับเปรียบเปรยว่า สงครามครั้งนี้เหมือนกับเกมส์บอยขนาดมหึมา ยังไงยังงั้นเลยครับ

              "ผมถูกทำให้รู้สึกบ้าคลั่ง พวกเราสนุกกับการสูบบุหรี่ การดื่มเหล้า การกราดยิงและการสับแขนผู้คน" เด็กหนุ่มวัยฉกรรจ์สมาชิกพูดเหมือนตัวเองไร้ความรู้สึกแห่งชาติพันธุ์มนุษย์


            ไม่แปลกเลยสักนิด ที่จะบอกว่า ประเทศนี้ติดอันดับเกณฑ์อายุเฉลี่ยติดชาร์ต "ประเทศที่มีผู้คน "มีอายุสั้นที่สุดในโลก" ไปอย่างฉียบพลัน ถ้าคนในประเทศมีอายุมากกว่า 45 ปี ถือว่าคนนั้นโชคดีที่สุดแล้ว เพราะคนในประเทศนี้อายุไม่ถึง 20 ปี ก็ตายแล้วครับ เพราะไข้โป๊ง(ลูกปืน)

             ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะครับว่า ปัจจุบันนี้มีจำนวนประชากรในประเทศเพียงแค่ 3% เท่านั้นที่บริโภคน้ำสะอาดแถมอัตราเด็กที่เสียชีวิตแรกเกิดสูงถึง 170 คน/1000 คนและในจำนวนเด็กแรกเกิด 1,000 คนนี้มีถึง 286 คนที่มาเสียชีวิตขณะที่ยังไม่ถึง 5 ขวบ

                นี้ยังไม่พูดถึงโรคน่ะครับ เพราะประเทศนี้โรคเพียบ เพราะสุขอนามัยแย่สุดๆ หมอก็ไม่มี ทำให้ประชาชน โดยเฉพาะเด็กทารกมักตายจากโรคร้ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มาเลเรีย ไข้ รากสาดใหญ่ พยาธิอหิวาตกโรค ตับเอกเสบ เอดส์ รวมไปถึงโรคท้องถิ่นที่มากมายมหาศาล

               อ้าว...........แล้วประเทศอื่นไม่ช่วยเหลือประเทศเซียรา ลีโอ บ้างเหรอ ตอบเลย ทำครับ แต่ช่วยอะไรไม่ได้มาก ขนาดอเมริกายังไม่อยากยุ่งเลย อย่างมากกองกำลังรักษาสันติภาพ(ยูเอ็ม) ที่เข้ามาช่วยเหลือประเทศนี้ แต่ก็เข็ดขยาดเหมือนกัน เพราะแต่ละวันก็โดนสังหารกันร่วงใบไม้อยู่แล้ว จะยกมือยอมแพ้ก็โดนปืนจ่อยิงศีรษะเลย คิดดู

               คาดว่าเวลานี้มีกองกำลังรักษาสันติภาพราว 500 คนที่โดนพวกนี้จับเป็นตัวประกันและเชื่อขนมกินเลยว่าพวกอาร์ยูเอฟน่ะจะใช้ตัวประกันนี้เป็นเป้าฝึกยิงปืน..... ไม่เว้นแม้แต่นักข่าว


               ส่วนหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าช่วยเหลือเหรอ.......................จากรายงานระบุว่า มีหน่วยงานและองค์กรช่วยเหลือราว 40 หน่วยงานที่เกี่ยวพันกับ การขายค้ามนุษย์ในดินแดนแห่งนี้ครับ.....เอ้า...เอ้าเข้าไป (นี้ยังไม่รวมการค้าขายอาวุธเถื่อน ยาเสพย์ติด การเงิน เพชรเถื่อน)

               ส่วนไทยเหรอ อย่าพูดถึงเลย เอาเวลาไปแก้ปัญหาภาคใต้ดีกว่า (แต่มีสถานทูตไทยในเมืองหลวงของประเทศนี้ด้วยนะครับ)

                ผมอยากให้ใครคนหนึ่งที่ใส่ชุดเหลื่องแล้วทะเลาะกันมาดูหนังเรื่องนี้จริงๆ เลยให้ตายสิ

               ครั้งหนึ่ง เซียร์ร่า ลีโอนี่ เคยได้ชื่อว่าเป็น "Athens of Africa" เนื่องจากเป็นเสมือนศูนย์กลางแห่งศิลปะและวิทยาการของภูมิภาค SSA

    แต่วันนี้ความเจริญรุ่งเรืองเมื่อครั้งอดีตกลับกลายเป็นเรื่องเล่าขานในตำนานไปเสียแล้ว

    ผู้คนที่นี่ไม่เว้นแม้แต่สุนัขริมถนนก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวงเหมือนกับในวันวาน ผู้เฒ่าผู้แก่มัก จะบอกกับอาคันตุกะจากต่างเมืองอย่างหดหู่ในช่วงตะวันลับฟ้าว่า "Those dogs are not sleeping, they just have their eyes closed."

                 เมื่ออาร์ยูเอฟอาละวาดหนัก รัฐบาลก็หวังพึ่งไม่ได้ ทำให้เซียรา ลีโอนี่ พากันไปตั้งกองกำลังต่างๆ เพื่อเอาไว้ต่อต้าน อาร์ยูเอฟ กันทั่วประเทศ

                 ก็เลยกลายเป็นกลุ่มกองกำลังสารพัดทีอัดอยู่ตามที่ต่างๆ กันทั่วประเทศ ทำให้ประเทศที่ครั้งหนึ่งจะรวยที่สุดในทวีปอาฟริกากลายเป็นดินแดนแห่งความตายในพริบตา

                  ยกตัวอย่าง

                  กลุ่มเวสต์ ไซด์ บอยส์ (West Side Boys)

                  กลุ่มนี้อดีตเคยเป็นพันธมิตรกับกองทัพของรัฐบาลมาก่อน แต่ต่อมาเมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัว ก็เลยขัดแย้งกัน แต่ก็เป็นศัตรูกับอาร์ยูเอฟอยู่ดี

                  ด้านความโหดกลุ่มเวสต์ ไซต์ บอยส์ ก็โหดไม่แพ้กับอาร์ยูเอฟ

                  พวกนี้จะดื่มเหล้า เสพยาเสพติดโคเคน ถืออาวุธดินกร่างและพร้อมที่จะยิงใครก็ได้ที่เฉียดย่านที่กลุ่มนี้ยึดครองอยู่ และถ้าเป็น กลุ่มอาร์ยูเอฟ ก็จะยิงสู้ สู้จนสนั่นเมือง ต่อมากลุ่มนี้ถูกต่อต้านอย่างหนักจากกองทัพของรัฐบาลและกลุ่มเอสแอลเอ


              กลุ่ม ลาเมเจอร์ (Ramajors)

              กลุ่มนี้ปรากฏในหนังด้วยนะ รู้เปล่าอยู่ตอนไหนของหนังเอย..............

              กลุ่ม ลาเมเจอร์ เป็นกลุ่มของชนพื้นเมือง พื้นบ้านที่ต้องป้องกันตัวเองไม่ต่างจากกลุ่มอื่นๆ เช่นกัน เพราะไม่รู้ว่าพวกเขาจะโดน อาร์ยูเอฟ สังหารหรือเปล่า จึงได้รวมตัวกันไว้ แบบสองหัวดีกว่าหัวเดียว

               จุดเด่นของกลุ่มนี้คือ นับถือพ่อมด หมอผี ไม่เสื่อมคลาย ทำให้พวกนี้มีความเชื่อในการใช้มนต์ดำร่วมกันต่อสู้ทุกครั้งเมื่อออกรบจนชาวโลกเห็นว่าแปลก นั้นคือ...พวกนี้เชื่อว่าถ้าติดกระจกเล็กๆ บนหน้าผาก หรือทำจี้ห้อยคอไว้ จะทำให้กระสุนสะท้อนออกไปห่างๆ ตัวพวกเขา

               จุดอ่อนของกลุ่มนี้ คงจะเป็น อาวุธหลายชิ้นของพวกเขา เห็นได้ว่าบางชิ้นทำงานไม่ได้แล้ว ควรทิ้งได้แล้ว แต่พวกเขาก็ยังถืออยู่อย่างนั้น

               เชื่อเลย ถ้าปะทะกับอาร์ยูเอฟจังๆ นับลองตายยกแก๊ง


                กลุ่ม ซีดีเอฟ หรือ กลุ่ม พลังต่อต้านแห่งพลเรือน (Civil Defence Force CDF)

                กลุ่มนี้มีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นชาวไร่ ชาวนา รวมทั้งสมาชิกยุคก่อนของเอสแอลเอ รวมตัวกันและจัดตั้งรัฐบาลกันขอบๆ เมืองหลวง "ฟรีทาวน์" ของเซียรา ลี่โอนี่

                แรกสุด กลุ่มนี้เป็นกลุ่มกลางๆ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่เมื่ออาร์ยูเอฟ บุกเข้าไร่นาและยึดเอาวัว ควาย ชาวบ้าน ตลอดจนสังหารและตัดมือตัดเท้าพวกเขาอย่างหนักจนไม่ไหว ต้องรวมตัวกันเพื่อต่อต้านอาร์ยูเอฟ โดยร่วมมือกับพันธมิตร เอสแอลเอ พร้อมต่อสู้ร่วมกัน

                กลุ่มนี้บอกว่าปั้นปลายถ้าเอแอลเอได้รับชัยชนะและกวาดล้างอาร์ซีเอฟสิ้นซากเมื่อไหร่ พวกเขาก็พร้อมที่จะสลายตัว

                แต่จุดอ่อนกลุ่มนี้ คือไม่มีระบบกลุ่มแน่ชัด ขาดแคลนผู้ฝึกสอน ทำให้มีกองกำลังไม่แข็งแกร่งมากนัก


                 กลุ่ม เอสแอลเอ หรือ กลุ่มเซียรา ลีโอนี่ (Sierra Leone Army)

                 กลุ่ม เอสแอลเอ อยู่ใต้อาณัติของ ผู้พันอาบู (ชื่อคุ้นๆ กับผู้พันที่พระเอกในเรื่องบลัทเดมอนไปหาเพื่อขายอาวุธตอนต้นเรื่องจัง)มีกองกำลังกว่า 1,100 นาย โดยซุ่มกำลังพลในแถบมาซิอาก้าและจุดเชื่อมต่อร็อกเบอรี่

                 หน่วยหลักๆ ของกลุ่มนี้เป็นชายหนุ่มถึงวัยกลางคนและได้รับการฝึกฝนคลอดจนมีความฟิตพร้อมทำการรบอย่างสบายๆ มีความหลากหลาย และมีประสบการณ์ ถือได้ว่าน่ากลัวมากในด้านกำลังรบ

                 กลุ่มนี้ถือได้ว่าเป็นมิตรที่สุดในประเทศนี้แล้ว(มั้ง) นอกจากนี้ยังรับจ๊อบเป็นบอดี้การ์ดให้นักข่าวต่างประเทศมาทำสารคดี หรือทำข่าวในประเทศนี้อีกด้วย

                 
                 เออ...............แต่ละกลุ่ม

                 ประเทศเซียรา ลีโอนี่ จึงเป็นแดนมิคสัญญีที่มีทุ่มสังหารกระจัดกระจายเกลื่อนทั่วประเทศ นอกจากอันตรายจากอาร์ยูเอฟแล้วยังมีกลุ่มอีกเพียบที่พร้อมที่ฆ่าทุกคนที่ย่านกายมาในประเทศนี้เช่นกัน

                  ปัจจุบันแม้ประเทศนี้ เริ่มสงบลงแล้ว หลังจากที่การเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลกับ RUF ที่จบลงด้วยการสนธิสัญญาสงบศึกของทุกๆฝ่ายในเดือนกรกฎาคม 1999 ดูเหมือนจะไร้ซึ่งสัจจะแห่งชายชาติทหาร ทางสหประชาชาติก็ได้ลงมาจัดการปราบ RUF ซะเองด้วยการจัดตั้งกองกำลังทหารเพื่อเข้ายุติสงครามกลางเมืองนองเลือดเสียเองภายใต้ชื่อรหัสว่า UNAMSIL (United Nations Mission in Sierra Leone) ในเดือนตุลาคมปีเดียวกันด้วยนายทหารจำนวนเริ่มต้นที่ 6,000 คน ก่อนที่จะขยายจำนวนขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งมาอยู่ที่ 17,500 คนภายในปีครึ่งจนในที่สุดก็นำสันติภาพกลับคืนสู่อ้อมกอดของชาวเซียร์ร่า ลีโอนอีกครั้ง

                  แต่การแก้ปัญหา การพัฒนาประเทศนี้ยังไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่ เพราะเพชรยังเป็นที่หมายตาของกลุ่มที่ต้องการงาบเพื่อผลประโยชน์ยังมีอยู่

                  เพชรที่เสมือนเป็นเชื้อไฟให้กับการทำรัฐประหารทางสหประชาชาติก็ได้หาทางออกแก้ปัญหาความขัดแย้งครั้งประวัติศาสตร์ภายในประเทศเซียร์ร่า ลีโอนี่นี้ด้วยการออกคำสั่งให้มีการแบนการนำเข้าเพชรจากประเทศไลบีเรียเพื่อกดดันให้ไลบีเรียยุติการสนับสนุน RUF เสียที

                   แต่พวกค้าเพชรเถื่อนก็หาออกนอกประเทศจนได้นา

                   ผมมี ตลกร้ายในหมู่นายทหารของ UNAMSIL อยู่ตอนหนึ่งครับว่า

                   "ถ้าเรา (UNAMSIL) ช่วยมาทำให้กองทัพของเซียร์ร่า ลีโอนฉลาดและมีวินัยมากขึ้นแล้ว อย่างน้อยเวลาที่พวกทหารไม่พอใจรัฐบาลเรื่องเงินเดือนอันน้อยนิดหรือถูกแบ่งเค้กผลประโยชน์ใต้โต๊ะให้น้อยเกินไป การทำรัฐประหารครั้งต่อไปก็คงจะไม่นองเลือดเหมือนครั้งที่ผ่านๆมา"

                    ตอนนี้หายนะมายืนรอตรงหน้าชาวเซียร์ร่า ลีโอนี่ไม่ใกล้ไม่ไกลแล้วครับ รอเพียงแต่ว่าระเบิดเวลาลูกนี้จะระเบิดเมื่อไหร่เท่านั้นเอง

     

     

    ดัดแปลงจากหนังสือโหดเหลือเชื่อ+ +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×