คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #60 : แมนแดรก (Mandrake) พืชคล้ายคน
แมนแดรก (Mandrake) ต้นคล้ายคน
Kingdom: Plantae
Division: Magnoliophyta
Class: Magnoliopsida
Order: Solanales
Family: Solanaceae
Genus: Mandragora L.
เรื่องราวของพืชชนิดนี้ปรากฏในนวนิยายเกี่ยวกับเวทมนต์ ที่ดังกระฉ่อนไปทั่วโลกทั้งยอดพิมพ์หนังสือที่มีคนจองอย่างล้นหลามแม้นำมาสร้างภาพยนต์ ทำรายได้อย่างถล่มทลาย ท่านที่เป็นแฟนนวนิยายเรื่องนี้คงจะรู้จักเจ้าพืชประหลาดชนิดหนึ่งที่ส่งเสียงร้องอย่างน่ากลัว ที่เหล่าพ่อมดน้อยใหญ่อยากได้มาทำเครื่องปรุงทางมายิก ( ไสยศาสตร์ )
แมนดราโกร่าหรือแมนเดรค เป็นพืชที่มีอยู่จริง เป็นพืชในตระกูล nightshades หรือ Solanaceae (ตระกูลเดียวกับมะเขือม่วงและมันฝรั่ง) รูปร่างเหมือนผักชีฝรั่ง มีรากแตกแยกสาขาย่อยๆ ลักษณะ เป็นพืชที่มีใบเป็นกระจุกสีม่วงอมเขียวคล้ายใบพืชยาสูบ รูปร่างของลำต้นเหมือนกับมนุษย์ มีดอกสีม่วง ดอกมีสีเขียวค่อนข้างขาว ยาวเกือบ2นิ้วกว้าง ผลมีรูปทรงกลม, ฉ่ำ, สีส้มให้ลูกเล็กๆสีแดง, การคล้ายผลมะเขือเทศเล็ก และ ส่วนทั้งหมดของพืชแมนเดรกเป็นพิษ, รวมทั้งบนCorsica ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติตั้งแต่เขตทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมา ใต้ และยุโรปกลาง จนถึงประเทศจีน โดยเห็นได้จากพระคัมภีร์ไบเบิลชาวอิสราเอลได้กล่าวถึงมันไว้ ที่รู้จักกันในฐานะสมุนไพรนั้นประกอบด้วย 3 ชนิดอัน ได้แก่ officinarun L., M. autumnalis Spreng. และ M. caulescens Clarke เป็นพืชที่มีสารอัลคาลอยด์อยู่ในรากเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับพืชอื่นๆในตระกูลเดียวกัน มีฤทธิ์เป็นสารหลอนประสาทและฤทธิ์สารเสพติดในอดีตเคยใช้เป็นยาแก้ปวดพืช
คนอาหรับ จะเรียกแมนเดรก (Mandragora officinarum) อีกชื่อหนึ่งว่า luffâh หรือ beid el-jinn ว่ากันว่าผลนี้จะช่วยให้แม่ที่มีบุตรยากกำเนิดเด็กทารกได้
แมนเดรกในชาวอิสราเอลคือ דודאים (dûdã'im) โดยมันปรากฏโดยพระคัมภีร์ 30:14 ("ความรักปลูก") และเพลงแมนเดรกที่ 7:13 ซึ่งพืชอื่นๆ จำนวนมากมายก็ถูกกล่าวถึงเช่นเดียวกับมันเช่นกัน ดอกบัว, กล้วย, ลิลลี่
ส่วนในตำนานมักจะกล่าวว่าแมนเดรคมีรากแยกเป็นสองแฉกดูเหมือนรูปร่างมนุษย์ ซึ่งมักมีการวาดรูปเป็นมนุษย์ที่มีรากงอกออกมาที่ปลายมือเท้า และมีดอกไม้งอกอยู่บนศีรษะ ซึ่งภาพดังกล่าวนี้ได้รับอิทธิพลจากศาสนายิวอันกล่าวว่า แมนเดรคเป็นต้นแบบที่พระเจ้าทำขึ้นก่อนการสร้างมนุษย์ นอกจากนี้ คริสเตียน โรเซนครอยส์ซึ่งเป็นผู้นำของRosenkreuzer (กลุ่มกางเขนกุหลาบในศตวรรษที่ 17) ยังได้กล่าวในบันทึกว่า มนุษย์นี่แหละคือแมนเดรคที่เกิดมาจากพื้นดิน
บางตำราจะแบ่งแมนเดรคออกเป็นเพศชายและเพศหญิง โดยแมนเดรคซึ่งบานในฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกสีขาวและเป็นเพศชาย ส่วนแมนเดรคที่บานในฤดูใบไม้ร่วงจะมีดอกสีดำและเป็นเพศหญิง ยิ่งเป็นแมนเดรคที่มีอายุมาก รากก็จะกลายเป็นสองแฉกและออกจากพื้นดินมาเดินเพ่นพ่านไปมาได้
แมนเดรคถูกกล่าวว่ามีคุณสมบัติมากมายหลายประการ ตั้งแต่เป็นยาพิษ ยาอายุวัฒนะ ยาชา ยาเสน่ห์ ยาหลอนประสาท และมีสรรพคุณสามารถรักษาโรคได้หลายอย่าง ตามความเชื่อทางเวทมนตร์เชื่อว่าเป็นส่วนผสมของยาแก้คำสาปที่ทรงอนุภาพ ทำให้คนที่ถูกสาปหรือแปลงร่างกลับสู่สภาพเดิม
วิธีการนำมาใช้คือต้องปอกเปลือกของหัวแมนเดรคออก จากนั้นก็ผูกเชือกแขวนไว้จนแห้ง หรือนำไปต้มกับไวน์ ยาที่สำเร็จออกมาจะสามารถใช้รักษาโรคนอนไม่หลับ ช่วยขับพิษ แก้ปวด หรือใช้ประกอบในการสะกดจิต
แต่ที่ทำให้แมนเดรคมีชื่อเสียงที่สุดนั้นคงได้แก่วิธีการเก็บมันขึ้นมาจากพื้นดินนี่เอง เนื่องจากเชื่อกันว่าเมื่อถอนแมนเดรคขึ้นมาจากพื้น มันจะส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน และใครก็ตามที่ได้ยินเสียงนั้นก็จะขาดใจตาย ว่ากันว่าที่เป็นเช้นนี้เพราะมันมีวิญญาณสิ่งอยู่ โดยบันทึกแล้วมีอยู่ 3 วิธีในการถอนแมนเดรค
1. ให้คนอื่นมาถอนแทน
2. ขุดหลุมรอบๆแมนเดรคแต่อย่าเพิ่งถอนออกมา แล้วเอาสุนัขมาผูกไว้ จากนั้นก็ถอยไปให้ได้ระยะไกลพอแล้วใช้เหยื่อล่อให้สุนัขวิ่งถอนแมนเดรคขึ้นมา สุนัขที่ได้ยินเสียงแมนเดรคก็จะตายแทนเรา เป็นวิธีที่คงได้ยินกันบ่อยที่สุด ว่ากันว่าในกรณีนี้ จะมีการขายแมนเดรคทั้งๆที่ผูกติดกับศพสุนัขนั่นแหละ
3. ใช้ดาบขีดวงกลมรอบแมนเดรค 3 ชั้น จากนั้นก็ถอนแมนเดรคขึ้นมาโดยมองไปทางทิศตะวันตก กล่าวกันว่าเป็นวิธีที่จะได้แมนเดรคมาในสภาพสมบูรณ์ที่สุด
นอกจากนี้ ในเยอรมันยังมีตำนานกล่าวถึงอัลราวเน่(Alraune) ซึ่งเป็นพืชในตระกูลเดียวกับแมนเดรคเช่นกัน กล่าวกันว่าอัลราวเน่จะงอกใกล้กับลานประหารที่มีการประหารหรือทรมานนักโทษที่ไม่ได้มีความผิดจริง วิธีการถอนอัลราวเน่ก็ใช้วิธีเดียวกับแมนเดรคนั่นเอง อัลราวเน่ที่ถอนขึ้นมาจะถูกนำไปล้างให้สะอาดด้วยไวน์แดง จากนั้นก็ห่อด้วยผ้าลายขาวแดงแล้วเก็บใส่กล่องไว้ ทุกๆวันศุกร์จะต้องนำมาล้างน้ำร้อนให้สะอาด และทุกๆคืนเดือนมืดจะต้องเปลี่ยนผ้าห่อผืนใหม่ เมื่อตั้งคำถาม อัลราวเน่ก็จะตอบคำทำนายในอนาคตหรือความลับต่างๆ และนำโชคลาภมาให้ผู้เป็นเจ้าของ แต่หากเรียกร้องมากจนเกินไป อัลราวเน่ก็จะเฉาตายไปได้
เมื่อเจ้าของตาย กรรมสิทธิ์จะตกเป็นของลูกชายคนเล็ก ซึ่งผู้สืบทอดจะต้องเอาชิ้นขนมปังกับเหรียญเงินใส่ลงในโลงของพ่อ และหากลูกคนเล็กเสียชีวิตไปก่อนที่พ่อจะตาย กรรมสิทธิ์ก็จะตกเป็นของลูกชายคนโต ซึ่งลูกชายคนโตก็ต้องนำชิ้นขนมปังกับเหรียญเงินใส่ในโลงของน้องเช่นกัน
เล็กน้อยๆ ก่อนจบ
แมนแดรกมีหลายพันธุ์นะครับ เช่น Mandragora autumnalis, Mandragora officinarum, Mandragora turcomanica, Mandragora caulescens
Mandrake ในอเมริกาและแคนาดา จะหมายถึง May Apple ซึ่งเป็นพืชคนละชนิดกันโดยสิ้นเชิง
www.geocities.com/ounamilit_net/b26_magic.htm
ความคิดเห็น