ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตามรอยเรื่องลึกลับ

    ลำดับตอนที่ #27 : อัลทามาฮ่า ฮ่า (Altamaha-ha)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.15K
      2
      25 พ.ค. 51



    อัลทามาฮ่า ฮ่า

     

                    มีอะไรบางอย่างผลุบๆ โผล่ๆ อยู่เหนือผิวน้ำตามชายฝั่งทางตอนใต้ของรัฐจอร์เจียนับตั้งแต่ปี 1960 เรื่อยมา คนจำนวนไม่น้อยเห็นมัน มันมีรูปร่างใหญ่โตและสุดแสนพิสดาร เชื่อกันว่านี้แหละเนสสีของอเมริกา ทุกวันนี้ยังไม่มีใครล่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้เลยสักคน.....

                    ผมเชื่อว่ามีหลายคนไม่รู้จัก งูยักษ์อัลทาน่าฮ่า ฮ่า

    ชาวบ้านเรียกจากสัตว์ลึกลับนี้อย่างน่าขันว่า อัลทาน่าฮ่า ฮ่า ซึ่งมาจากชื่อแม่น้ำอัลทามาฮ่า ซึ่งเป็นจุดที่พบเห็นตัวมันบ่อยที่สุด ชายฝั่งทางใต้ของจอร์เจียไม่ได้ติดต่อกับมหาสมุทรโดยตรง แต่ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยรวมทั้งหนองน้ำขึ้นแฉะซึ่งเป็นแม่น้ำลำธารหลากหลายสายไหลผ่าน ซึ่งเหมาะมากถ้าจะมีสัตว์จากยุคโบราณอาศัยหลบซ่อนอยู่โดยที่มนุษย์ไม่มารบกวน

                    งูยักษ์อัลทาน่าฮ่า ฮ่า ปรากฏตามเมืองต่างๆ ในแถบแม็คอินทอซเคาน์ตี รัฐจอร์เจีย คนที่เคยเห็นเจ้างูนี้ต่างบอกเสียงเดียวว่า คล้ายงูยักษ์ นิสัยความผลุบๆโผล่ๆ อยู่เหนือน้ำอัลทามาฮ่า รูปร่างมีหลายขนาด บางครั้งก็มีคนอื่นเห็นหลายตัวในคราวเดียวกัน

                    สาเหตุหนึ่งที่งูยักษ์อัลฮ่า ฮ่า ไม่ดังนักเพราะคนที่พบเห็นมันส่วนใหญ่มักถูกล้อว่าหลอกลวง กุเรื่องเพราะอยากดัง เนื่องจากช่วงนั้นเนสสีในสก็อตแลนดืกำลังโด่งดังไปทั่วโลก

                    แม้ชาวบ้านจะไม่ค่อยพูดเกี่ยวกับตัวมันมากนัก แต่คนทั่วไปสามารถรู้เรื่องราวของมันได้จากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ดาเรียน นิวส์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวความเคลื่อนไหวของเจ้างูนี้ตั้งแต่ช่วงปี 1980

                    Rock Eagle 4-H Center in Eatonton, GA

                    นี้คือรายงานบางส่วนของผู้พบเห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้

                    แคธี โฮเวิร์ด สตริคแลนด์ ตอนนั้นฉันกำลังขับรถไปที่แม่น้ำแชมพ์นีย์ เมืองดาเรียน ฉันเห็นตัวมันทางซ้ายมือ เป็นสัตว์ขนาดใหญ่ ลำตัว 4 ฟุต ยาว 20 ฟุต โผล่ออกมาเหนือน้ำ มันว่ายเอื่อยๆ หัวเล็กๆ ของมันอย่บนคอที่สูงยาวประมาณ 6 ฟุต บนหลังมีโหนกสองโหนก ผิวของมันเรียบลื่น สีออกน้ำตาลดำปนเขียวเหมือนปลาไหล

                    นอกจากนั้นงูยักษ์ก็ไปปรากฏที่อื่น นอกเหนือจากแม่น้ำอัลทามาฮ่า ฮ่า อีก

                    ปีค.ศ. 1980 ฮาร์รีย์ แบลคแมน กำลังตกปลาที่ทูเวย์ ฟิชแคมพ์ อันเป็นบริเวณต้นน้ำห่างจากเมืองดาเรียน 30 กม. ตรงจุดนี้น้ำจืดและน้ำเค็มไหลมาบรรจบกัน จู่ๆ โป๊ะที่เขายืนอยู่ก็ส่ายไปมาอย่างรุงแรงเพราะถูกคลื่นยักษ์กระแทกใส่ แบลคแมนมองไปรอบๆ และก็ได้เห็น มันเป็นสัตว์ประหลาดขนาด 15-20 ฟุต ลำตัวมันอ้วนกลมเหมือนร่างคน มีโหนกสีน้ำตาลสองโหนกอยู่ห่างราว 5 ฟุต จากนั้นหัวที่ดูคล้ายงู จากนั้นมันก็ดำดิ่งลงทิ้งให้น้ำแตกฟองฟ่องราวกับเรือแข่งที่แล่นผ่านมา

                    แล้วงูยักษ์ก็ปรากฏตัวให้ผู้พบเห็นอีก เช่นกลินน์ เคาน์ตี รัฐจอร์เจีย เมืองแจ๊คสันวิลล์และเซ็นต์ออกัสทีน รัฐฟลอริดา ปรากฏทั้งในน้ำจืดน้ำเค็ม

                    หนังสือพิมพ์ ฉบับวันที่ 19 กุมภาพันธุ์ 1989 ได้รายงานข่าวการพบเห็นสัตว์ลึกลับนี้ ในวันที่ 15 ธันวาคม 1975 จอห์น บอมการ์ดเมอร์ หัวหน้าลูกเรือในหน่วยงานสาธารณะ เมืองแจ๊คสันวิลล์ เขาเห็นสัตว์นี้ไกลราว 50 ฟุต มีลักษณะเป็นงูคอใหญ่มาก หนาประมาณหนึ่งฟุต ผลุบๆ โผล่ๆ

                    มันพ่นหายใจแรงมากครัย มากเลย จนเห็นน้ำพุ่มออกจมูกมันเลยแหละ

                    หัวของมันคล้ายลูกบอล มีสีคล้ำมากจนผมมองไม่เห็นลูกตามันเลย

                    แล้วมันก็ดำลงไปในน้ำอีก ผมเห็นหางแบนๆ ของมันด้วย มันมีลักษณะคล้ายเครื่องบิน

                    ในเดือนเมษายน 1978 เคลลี พาร์ริช เจ้าหน้าที่ป่าไม้ของบริษัทโอเวนส์อิลลินอยส์ เห็นงูยักษ์ตัวนั้น อยู่ทางเหนือของสะพานหาดเครสเซนท์ เขาบรรยาว่า เราอยู่บนเรือห่างจากประมาณ 70 เมตร

                    พระอาทิตย์ส่องแสงจ้า เจ้าสัตว์ตัวนี้โผล่ออกมาหาอาหารเหนือผิวน้ำ มันลงดำดิ่งและโผล่ออกขึ้นมาพร้อมอะไรสักอย่างที่ดูเหมือนหญ้าหรือสาหร่ายทะเล

                    มันดูเหมือนงูยกเว็นตรงส่วนบน ลำตัวคล้ายหางจระเข้ ตัวของมันยาว 30 ฟุต เขากับเพื่อนได้เห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำอย่างน้อย 5 ครั้ง ที่แรกผมคิดว่าเป็นเตาเลยไม่สนใจ แต่เพราะผมได้ยินเสียงพ่นหายใจของผม ผมก็ว่ามันนี้แหละคือตัวอัลมาทาฮ่า ฮ่า จากนั้นผมก็กลับมาบริเวณที่พบมันเป็นร้อยๆ ครั้ง พร้อมกล้อง แต่ไม่เคยพบมันอีกเลย

                    เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 1969 ดอนนี แมนนิ่ง และน้องชายกำลังตกปลาอยู่แม่น้ำอัลทามาฮ่า ตอนกลางคืน แสงจากบ้านได้ส่องลงแม่น้ำสว่างจ้า พวกเขาเห็นอะไรบางอย่างงับเหยื่อ แต่แทนที่มันจะวิ่งวนและดิ้นเหมือนปลาทั่วไป มันกลับลากเหยื่อไกลออกไปทุกขณะ จากนั้นก็โผล่พรวดขึ้น ลำต้นของมันเผยยาว 10-12 ฟุต หัวยื่นออกมาคล้ายจระเข้ หางยาวขนานไปกับลำตัวต่างจากหางปลาซึ่งมีลักษณะตรงดิ่ง ตลอดลำตัวช่วงบนเรียงรายไปด้วยครีบบางๆ รูปสามเหลี่ยม ท่ามกลางแสงไฟตอนกลางคืน ฟันของมันแหลมคมส่องประกายแวววาว

                    ปี ค.ศ.1980 แบร์รี เพรสก็อตต์และเอนดี้ กรีน กำลังขับรถผ่านลำธารแค็ทเฮด สังเกตเห็นสัตว์ประหลาดตัวสีดำหรือไม่ก็สีน้ำตาล กำลังดิ้นพล่านอยู่กลางโคลนตมบนริมฝั่ง ลำต้นช่วงล่างของมันอยู่ในน้ำ มีเพียงส่วนหัวและคอที่โผล่พ้นดินขึ้นมา มันสะบัดตัวและตีหางพัลวันจนเกิดเสียงดังสนั่น พวกเขาเฝ้าดูมันนาน 10 นาที จนกระทั้งมันดิ้นหลุดและมุดลงน้ำพาลำตัวหนาราว 4 ฟุต และยาว 30-40 ฟุตหายไปกับสายน้ำ

                    สำหรับการวิเคราะห์ เนื่องจากตัวทะเลสาบกว้างมากๆ และมีผู้พบเห็นสัตว์นี้น้อย จึงไม่ค่อยมีใครใส่ใจที่จะค้นหาตัวมันมากนัก

                    แม้สัตว์ตัวนี้จะกลายเป็นปริศนาที่ต้องตามล่าหาความจริง และน่าเสียดายจนบัดนี้ก็ไม่มีใครเคยถ่ายรูปมันเอาไว้ แต่มักถูกนำมาล้อเลียนเป็นเรื่องสนุกสนานในบางโอกาส มีอยู่ปีหนึ่งที่เมืองดาเรียนได้จับขบวนพาเหรดตัวอัลทามาฮ่า ฮ่า

                    นอกจากนี้งูยักษ์อัลทามาฮ่า ฮ่า ก็กลายเป็นสัตว์พื้นเมืองที่ต้องอนุรักษ์เป็นที่เรียบร้อย โดยอาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยจอร์เจียร่วมกันตั้งสมาคมพิทักษ์สัตว์ประหลาดอัลทามาฮ่า ฮ่า ในชื่อย่อว่า SPASM โดยพวกเขามักส่งจดหมายขอร้องชาวบ้านว่าอย่าทำร้ายมัน

                    ทุกวันนี้ยังมีการตามล่างูยักษ์อัลทามาฮ่า ฮ่า และยังเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเมืองดาเรียนในหลายปีที่ผ่านมา บางทีเรื่องราวของมันอาจไม่เงียบหายเหมือนสัตว์ประหลาดในทะเลสาบสก็อตแลนด์ก็เป็นไปได้

     

    จากหนังสือต่วยตูน ฉบับพิเศษ 337 มีนาคม 2546+ +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×