ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #98 : Liar Game สังคมที่มีแต่หลอกลวง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.95K
      9
      6 ต.ค. 53

        

    วันนี้ผมได้ดูอนิเมชั่นในเดือนตุลาสามเรื่อง

    เรื่องแรก Sora No Otoshimono Forte อันนี้ก็คุ้มที่รอคอยครับ เพราะว่ามุกและการดำเนินเรื่องไม่ผิดหวัง แค่เพลงเปิดเรื่องก็ฮ่าแตกแล้วครับ แม้หลายคนไม่ชอบเสียงพากษ์พระเอกก็เถอะ แต่ผมชอบอ่ะมีอะไรหรือเปล่า?

    ส่วนเรื่องที่สอง MM! ที่ออกมาอืม....จะพูดไงดีละ อนิเมชั่นตัดฉากนิยายไลท์โนเวลเยอะเหมือนกันนะครับ อย่างฉากฮ่าๆ ระหว่างแม่กับพี่สาวของพระเอกนี้โดนตัด วันแม่ก็ไม่ได้กล่าวถึง การดำเนินเรื่องรวดเร็วมาก และบุคลิกและคนพากษ์ตัวละครในเรื่องไม่ตรงกับที่ผมคิดไว้ในนิยายไลท์เวลนิดหน่อย เช่นเสียงพระเอกไม่เหมือนอย่างที่ผมคิดไว้เพราะผมนึกว่าเสียงพระเอกน่าจะหล่อ บุคลิกน่าจะภูมิฐานหน่อย และเพื่อนพระเอกเสียงพากษ์เป็นสาวหล่อ กลายเป็นว่าเพื่อนของพระเอกนี้ผมนึกว่าผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเสียอีก(ฮ่า) แถมน่ารักกว่าตัวละครหญิงซะด้วย

    Ore no Imouto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai อันนี้คุ้มสุดๆ ไม่ผิดหวังเพราะว่าดำเนินเรื่องตรงกับไลท์โนเวลอย่างสมบูรณ์แบบ(พูดอย่างกับเอ็งได้ดูไลท์โนเวลงั้นแหละ) เอาเป็นว่าลองไปดูละกันนะครับว่าจะถูกอกถูกใจหรือเปล่า

     

                    จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อจู่ๆ คุณและกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งได้รับเลือกเข้าไปเล่นเกมหนึ่ง  ทั้งๆ ที่คุณไม่อยากจะเล่นเลยสักนิด แต่คุณจำเป็นต้องเล่น ซึ่งผู้ชนะจะได้เงินรางวัลมากมายชนิดใช้ไม่มีวันหมด หากแต่กระนั้นหากคุณเป็นผู้แพ้บทลงโทษยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็น และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเกมที่คุณเล่มเต็มไปด้วยกลโกงและการโกหกหลอกลวง  ใครที่คุณควรจะเชื่อ?  และใครที่คุณไม่ควรเชื่อ?”

     

      

    Liar Game

    ดราม่า, จิตวิทยา, ละครชีวิต, หักเหลี่ยมเฉือนคม

    ละครโทรทัศน์ http://www.doseries.com/serie314.html

     

                    วันนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศดูการ์ตูนน้ำดี ที่ไม่มีฉากหื่น ฉากเซอร์วิตดีกว่านะครับ เดี๋ยวหาว่าผมหื่นมากไป(ตอนหน้าขอหื่นอีกนะครับ)

                    การ์ตูนนี้ผมแนะนำเป็นอย่างยิ่งเพราะเนื้อหาสนุกมาก ชนิดที่คุณต้องอุทานว่า โอ้ พระเจ้า คนเขียนคิดได้ไงเนี้ยมันก็คือ Liar Game (ตอนแรกผมอ่านไลท์เกมล่ะ เพราะว่าพระเอกหน้าเหมือนไลท์ ณ โดธโน๊ต) ผลงานของ Shinobu Kaitani ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการประสบการณ์ไปผับเบียร์ในท้องถิ่นที่คากิมา โดยการ์ตูนนี้โด่งดังมากเพราะติดการ์ตูนฮิตอันดับแรก ในปี 2005 ในนิตยสาร และบ้านเราได้ลิขสิทธิ์เรียบร้อย โดยเป็นของสยาม ปัจจุบันออกมาแล้ว 10 เล่ม(ยังไม่จบ) ด้วยความดังส่งผลให้การ์ตูนเรื่องนี้ถูกดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์(คนแสดงจริง) ถึง 2 ภาค โดยภาคแรกมี 11 ตอน ออกอากาศเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2007 ในทีวีฟูจิ ฉากตอน 5 ทุ่ม ดึกกว่าละครไทยบ้านเรา แต่กระนั้น เรตติ้งพุ่งกระฉูด คนดูกว่า 11.4 ล้านคนในภูมิภาคคันโต(ภาค 2 มี 9 ตอน) 

                    

    Liar Game เป็นเรื่องราวในมุมมองของนางเอกชื่อ คันซากิ นาโอะ นักศึกษาวิทยาลัยที่แสนจะซื่อสัตย์ ไร้เดียงสา ที่จู่ๆ ก็ได้ข่าวร่วมเกม เธอก็ได้รับเธอก็ได้รับเดธโน็ต....เอ้ย...ไม่ใช่ เงิน 100,000,000 ล้านเยนต่างหาก(ประมาณหนึ่งล้านดอลลาร์)ส่งมาเป็นพัสดุ แถมได้รับบัตรเชิญเข้าร่วมเกม "Liar Game Tournament" ซึ่งนาโอะนั้นหวาดกลัวมากเพราะเธอไม่อยากเป็นหนี้ เธอเลยขอความช่วยเหลือจาก อาคิยาม่า ชินอิจิ นักต้มตุ๋นอัจฉริยะที่เพิ่งออกจากคุก ตอนแรกชินอิจิบ่ายเบี่ยงปฏิเสธในตอนแรก แต่เมื่อนาโอะอธิบายสถานการณ์และเสนอเงินรางวัลครึ่งหนึ่งเป็นรางวัลแก่เขา เขาก็ตกลง และแล้วชินอิจิก็ใช่กลเม็ดจิตวิทยาต้อนผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจนพ่ายแพ้สมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตามชัยชนะครั้งนี้กลับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้นาโอะและชินอิจิเข้ามาในเกม Liar Game แบบเต็มรูปแบบ แต่ละครั้งที่คนทั้งคู่เล่นเกม พวกเขาก็ได้พบบุคคลมากมาย ที่ส่วนมากจำเป็นต้องเล่นเกมแบบไม่เต็มใจ และทุกคนมีหนี้จากการเล่นเกมชนิดที่ว่าทั้งชาติไม่มีโอกาสใช้หนี้ได้หมด และแล้วนาโอะและชินอิจิก็มีความคิดจะช่วยเหลือบุคคลกลุ่มนี้ พร้อมกับค้นหาคำตอบว่าจุดประสงค์การจัด Liar Game คืออะไรกันแน่ ซึ่งเนื้อหาจะเป็นยังไงต่อไปนั้น ก็ลองติดตามต่อไปเลย

                     

                    คันซากิ นาโอะ(Kanzaki Nao) เป็นนิสิตนักศึกษา ที่ฉลาดน้อย อ่อนแอ ไร้เดียงสา ซื่อสัตย์ และสุจริต ที่มักมองโลกในแง่ดีเสมอ โดยเธอเชื่อว่าทุกคนที่เธอพบนั้นเป็นคนดีมีความซื่อสัตย์เหมือนกับเธอ ยกตัวอย่างเช่นตอนเธอพบชินอิจิตอนแรก ชินอิจิรำคาญเธอและบอกเธอไปว่าให้เธอคอยอยู่ตรงนี้เดี๋ยวเขาจะมา ซึ่งชินอิจิโกหกเธอ แต่กลายเป็นว่าด้วยความไร้เดียงสาและความซื่อสัตย์นาโอะรอชินอิจิในที่ตรงนั้นเป็นว่าหลายชั่วโมง(12 ชั่วโมง)โดยไม่ยอมกลับ ทำให้ชินอิจิตะลึงว่ายัยนี้รอดจากสังคมภายนอกได้ไงว่ะเนี้ย!? ทำให้ชินอิจิยอมช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามด้วยบุคลิกอ่อนโยนและเอียงอาย ทำให้เธอเข้ากับคนอื่นได้ง่าย (ชินอิจิให้นิยามว่า บุคลิกของเธอทำให้คนอื่นมองเธอแบบมีภัยคุกคามน้อย”) ทำให้ชินอิจิมักใช้เธอไปสืบข้อมูลผู้เล่นในเกมบ่อยๆ อีกทั้งผู้เล่นเกมบางคนยังเผลอบอกความลับที่ส่งผลต่อเกมแก่เธอด้วย นอกจากนี้เธอยังมีความสามารถในการเรียนรู้ที่สามารถพัฒนาปรับตัวในเล่นเกมในแต่ละครั้ง โดยเฉพาะการอ่านใจคน(ธรรมชาติของมนุษย์) ความไว้ใจในเพื่อนมนุษย์ และเธอมักให้ข้อมูลและข้อคิดกับชินอิจิเสมอ ซึ่งมีหลายครั้งที่ชินอิจิต้องชูฮกให้กับเธอ ทางด้านครอบครัวพ่อของนาโอะอยู่โรงพยาบาลด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ส่วนแม่เสียชีวิตหลังจากเธอเกิด ทำให้เธอเข้าใจความทุกข์ของผู้อื่นเป็นอย่างดี ส่งผลให้เธอมีความคิดที่เล่นเกมนี้เพื่อช่วยเหลือผู้เล่นอื่นๆ ในเกมไม่ให้ตกเป็นหนี้(ในละครโทรทัศน์ นางเอกที่แสดงคือ โทดะ เอริกะ หรือก็คือมิสะ จากโดธน็ตภาคคนแสดงนั่นเอง)

                   

    อาคิยาม่า ชินอิจิ(Akiyama Shinichi) (ไลท์ ณ โดธเน็ต ภาคกลับใจเป็นคนดี) นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา วิชาเอกจิตวิทยา  เขาเป็น นักต้มตุ๋นอัจฉริยะ ที่สามารถทำให้บริษัทขายตรงยักษ์ใหญ่ล้มละลายได้ แต่ทั้งหมดที่ทำนั้นคือการแก้แค้นให้กับแม่ของเขาที่โดนบริษัทนี้หลอกเอาเงินจนหมดตัว ซึ่งความจริงแล้วเขาไม่เกี่ยวข้องกับ Liar Game เลยสักนิด แต่เขากลับต้องเข้าร่วมเพราะนาโอะมาขอความช่วยเหลือ และเขาได้เห็นธรรมชาติของความซื่อสัตย์ของนาโอะทำให้เขาจำเป็นต้องช่วยเธอ แม้ว่าเขาไม่ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการในเกมนี้ก็ตาม(โดยเขามาเล่นแทนผู้เล่นอีกคนในรอบสอง) แม้เขาเป็นจะเป็นอัจฉริยะแต่กระนั้นบทบาทการเล่นเกมแต่ละเกมของเขานั้นเหมือนกับผู้ดูเสียมากกว่าผู้นำ เขาจะคิดแบบเชิงตรรกะ มองพฤติกรรมของผู้เล่นคนอื่นอยู่เงียบๆ ก่อนที่จะแฉกลโกงหรือปล่อยหมัดเด็ดในครั้งเดียว จนผู้เล่นบางคนถึงกลับกระอัก จุดประสงค์ที่เขาเล่นเกมนี้ก็คือต้องการรู้จุดประสงค์ของการแข่งขันเกมนี้ว่าต้องการอะไรกันแน่

      

    นอกจากนี้ก็ยังมี Liar Game - Roots of A ซึ่งเป็นภาคที่พระเอกสมัยยังเป็นนักศึกษาในคณะจิตวิทยาที่มหาลัย ซึ่งเล่มนี้เป็นเครื่องพิสูจน์เป็นอย่างดีถึงความเป็นอัจฉริยะของพระเอก(แต่ดูเหมือนเม้นในเว็บวิจารณ์จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่)

    ด้วยความสัตย์จริง ไม่มีโกหก ผมขอบอกว่าการ์ตูน Liar Game เรื่องนี้มีเนื้อหาสุดยอดมาก  เต็มไปด้วยไอเดียและการหักมุมที่ยากจะคาดเดา  แม้การ์ตูนในช่วงแรกจะลายเส้นแปลกๆ ตัวละครออกมาแข็งๆ แต่เมื่อหลายเล่มต่อเนื่องเข้า ลายเส้นก็เริ่มดีขึ้น และตัวละครอย่างพระเอก นางเอกน่ารักขึ้นเป็นกอง พร้อมกับเนื้อเรื่องที่หนักขึ้นหนักขึ้นและน่ากลัวยิ่งขึ้น เพราะว่าพระเอกและนางเอกไม่สามารถแพ้ตกรอบได้อีกแล้ว ซึ่งหลายคนอาจรู้จักการ์ตูนเรื่องนี้จากภาพยนตร์ทางโทรทัศน์(ผมยังไม่ได้ดู) มาอ่านการ์ตูนเรื่องนี้แล้วก็หักเหลี่ยมไม่แพ้กันแม้เนื้อหาต่างๆ อาจไม่เหมือนกันก็ตาม(เนื่องจากมังงะยังวาดไม่จบ) จึงไม่แปลกอะไรที่การ์ตูนได้รับแปลเป็นภาษาจีนอย่างเป็นทางการ และประเทศยุโรปอย่างอิตาลีด้วย

    ผมไม่ได้มีโอกาสดูละครโทรทัศน์ที่ดัดแปลงมากนัก  แต่จากการไปอ่านความคิดเห็นกูเกิ้ลแล้วพบว่า ละครโทรทัศน์ดัดแปลงจากการ์ตูนเรื่องนี้เป็นบวก ซึ่งผมแปลกใจมากเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วละครหรือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากการ์ตูนมักมีแต่เสียงติจมหู แต่ไม่ใช้กรณีของ Liar Game แน่นอน สันนิษฐานได้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมีความโมเอะ ทำให้เหมาะแก่การนำมาดัดแปลงเป็นละครที่ใช้ตัวแสดงเป็นคนจริงๆ เป็นอย่างยิ่ง(ฮ่า) อีกทั้งว่าคนรับบทนางเอกคันซากิ นาโอะเป็นคนเคยแสดงเป็นมิสะได้โดธน็ตที่หลายคนทราบกันดีในความน่ารักและความไร้เดียงสาอยู่แล้ว ส่วนทางด้านพระเอกอาคิยาม่าแม้ว่าบุคลิกไม่หล่อเหลา(ซึ่งความจริงแล้ว พระเอกการ์ตูนเรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะหล่อมากมาย) แต่การแสดงทำให้ผู้ดูรู้สึกอินมาก และการเขียนบทต่างๆ ก็สื่อจุดประสงค์ของการ์ตูนเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ทำให้ละครดัดแปลงจากการ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความนิยมสูง ไม่เหมือนกรณี คินดะอิจิ, โคนัน หรือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากการ์ตูนทุกเรื่องที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า

    ผู้เขียนการ์ตูนเรื่องนี้คือ Shinobu Kaitani เป็นนักเขียนการ์ตูนมังงะจากคาโกชิมา เคยได้รับรางวัล Tezuka Award ในปี 1991 ผลงานส่วนใหญ่ของเขาเน้นจิตวิทยาเป็นส่วนใหญ่ เช่นSuizan Police Gang(1994), Fantasy, Romance, Shounen(1994), Tougenkyou(1995),Sommelier(1996),  One Outs(1998), Taihei Tengoku Engi(2000) Reinouryokusha Odagiri Kyouko no Uso(2007), One Outs: Miwaku no All-Stars-hen(2008) แน่นอนว่าผมไม่ได้อ่านการ์ตูนเล่มอื่นๆ ของนักเขียนคนนี้ แต่ผมเชื่อว่าไอเดียแต่ล่ะเรื่องน่าจะแปลกไม่แพ้กันแน่นอน

    ผมยอมรับว่าการ์ตูนนี้เป็นการ์ตูนนอกสายตาอีกเรื่องที่เป็นการ์ตูนหักเหลี่ยมเฉือนคมที่ฉลาดที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่าน แม้กระทั้งการ์ตูนเทพอย่างโดธเน็ตก็เทียบไม่ได้ อีกทั้งยังผสมเรื่องจิตวิทยาและปรัชญาต่างๆ มากมาย

    แม้ว่า Liar Game  การ์ตูนเรื่องนี้จะไม่มีใครตาย  ไม่มีห้องปิดตาย ไม่มีการวางแผนอาชญากรรมก่อการร้ายแบบบ้าพลัง แต่ผมยอมรับว่า  Liar Game เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่มีสถานการณ์ที่ทำให้สมองเราคิดหนักมากที่สุด ยิ่งกว่าไขคดีฆาตกรรมคินดะอิจิและโคนันเสียอีก ไม่ว่าจะเป็นการจับผิดทริคกลโกงของผู้แข่งขันฝ่ายตรงข้าม, วิธีที่จะเอาตัวรอดในเกมแต่ละรอบได้, หรือการเดาว่าพระเอกกำลังคิดอะไรอยู่, จุดบอดของเกมที่สามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย ฯลฯ 

    เราคงเห็นการ์ตูนประเภทเซอร์ไวเวอร์มาก็มาก ประเภทแพ้แล้วคัดออก แต่นี้เป็นครั้งแรกที่ผมอ่านการ์ตูนเรื่องนี้แล้ว ผมกลับยินดีกับผู้แพ้ ส่วนผู้ชนะกลับไม่น่ายินดีเสียเลยซ้ำยังโชคร้ายอีกต่างหาก

     

    เกมหลอกเกมลวง เกมที่ 1 การ์ตูนเปิดฉากด้วยนางเอกนาโอะที่ทำหน้าเอ๋อเหรอ ซื่อ(บื่อ)ได้อย่างน่าชัง เมื่อนางเอกเงินเก็บได้ 100 เยน(บ้านเราก็ถือว่ามากน่า) แล้วนำเงินจำนวนนั้นมาให้ป้อมตำรวจ ทำให้ตำรวจที่อยู่ที่นั้นสุดอึ้งว่าบนโลกยังมีคนแบบนี้หลงเหลืออยู่นึกว่าสูญพันธ์สมัยโบราณกาลแล้ว(ปานนั้น)

    แน่นอนหลายคนเห็นการ์ตูนหน้านี้หน้าแรกคุณแทบเก็บหนังสือวางบนชั้นแล้วไม่กลับมาอ่านอีกเลย ขอบอกว่าคุณไม่ใช้นักอ่านการ์ตูนที่ดี การ์ตูนดีหรือไม่ดีไม่ได้อยู่ที่ลายเส้น มันอยู่ที่เนื้อหา บางครั้งการ์ตูนลายเส้นอลังการพระเอกหล่อนางเอกสวยใช้ว่าเนื้อหาจะสนุกมากมาย การ์ตูนเรื่องนี้สนุกต้องที่การดำเนินเรื่องและการวางปมชนิดยิ่งอ่านยิ่งวางไม่ลง

    จากนั้นก็เป็นธรรมดาธรรมเนียม(ของนิยายและการ์ตูนที่เนื้อหาแบบมุมมองที่หนึ่ง)เมื่อนางเอกได้โปรยเรื่องราวชีวิตของเธอ ว่าเธอไม่สนว่าคนอื่นจะมองเธอยังไง เพราะเธอเชื่อมั่นตนเองว่าความซื่อสัตย์ไม่เคยทำให้คนเดือดร้อนและเธอก็เชื่อใจมนุษย์ทุกคนว่าจะมีความซื่อสัตย์เหมือนกับเธอ(มองโลกแง่ดีจริงๆ แม่คุณ)

    แต่แล้วเกมแรกและฉากจิตวิทยาก็เริ่มขึ้น เมื่อวันหนึ่งนางเอก ก็ได้รับเดธโน็ต....เอ้ย...ไม่ใช่ เงิน 100,000,000 ล้านเยนต่างหาก(ประมาณหนึ่งล้านดอลลาร์)ส่งมาเป็นพัสดุ แถมได้รับบัตรเชิญเข้าร่วมเกม "Liar Game Tournament" โดยบัตรเชิญได้บอกกติกาเป้าหมายของเกมไปว่า ให้หลอกลวง(หรือใช้วิธีใดๆ ก็ได้)เอาเงินจากผู้เล่นคนอื่นที่เป็นฝ่ายตรงข้ามซึ่งมีเงินจำนวนเท่ากับเรา มาให้มากที่สุดตามเวลาที่กำหนด (30 วัน) โดยผู้ชนะจะได้เงินร้อยล้านเยน ส่วนผู้แพ้จะได้หนี้ร้อยล้านเยนแทน

    หากเป็นคนปกตินี้เห็นเงินขนาดนี้ตาลุกวาว ดีใจโลดเต้นแน่แท้ แต่ว่านางเอกกลับตรงกันข้าม เธอกังวลและหวาดกลัวต่อเงินจำนวนนั้น ซึ่งตามหลักจิตวิทยาแล้วจู่ๆ เราก็ได้รับของมาด้วยผู้ให้ไม่บอกจุดประสงค์แม้แต่น้อยว่าให้เพราะอะไร ยิ่งเป็นของมีค่าเรายิ่งกังวลว่ามันจะมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า บวกกับมีไปรษณีย์บัตรสนเท่ห์แนบมากับเงินจำนวนด้วย อารมณ์อย่างกับ คุณเป็นผู้โชคดีหนึ่งใน XXX โดยการรับรางวัลจะต้องซื้อของจำนวนXXX เพื่อแลกรางวัลดังกล่าวไม่มีผิด เป็นใครก็ไม่เชื่อว่าอะไรมันจะง่ายขนาดนั้น

    นาโอะหวาดกลัวเงินจำนวนดังกล่าวมาก เพราะคิดว่าเธอคงโดนหลอกอะไรบางอย่าง เธอไม่เคยทำอะไรผิดหรือเรื่องผิดศีลธรรมแท้ๆ ทำไมเธอต้องเจอเรื่องพวกนี้ด้วย แถมเธอก็มารู้ตัวว่าคนรอบตัวนั้นไม่มีใครเป็นที่พึ่งได้เลย เพื่อนประถมก็ห่างเหิน เพื่อนปัจจุบันก็ไม่สนิท พ่อก็ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายขืนเล่ามีหวังอกแตกตายชัวร์ ไปปรึกษาทนายที่เจอในสมุดหน้าเหลืองก็โดนหลอกเอาเงินอีก(เก็บเงินแพงชิบ) ยิ่งหาวิธีแก้ยิ่งเครียด จนเธอเริ่มจิตตก อดหลับอดนอนเฝ้าเงินแบบแนบแน่นแบบว่ากลัวเงินหายเมื่อเธอตื่นขึ้น

    และแล้วแสงสว่าง(ที่เธอคิดว่ามันจะใช่)ก็เริ่มขึ้น เมื่อไปรษณียบัตรแจ้งชื่อฝ่ายตรงข้ามให้เธอได้รับรู้ ซึ่งเธอก็แปลกใจมากเพราะฝ่ายตรงข้ามเป็นอดีตอาจารย์ชั้นประถมที่เธอเคยเรียนอยู่และเธอก็เคารพรักอาจารย์คนนี้มากๆ แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน แสดงให้เห็นว่าคนจัดเกมจงใจเลือกฝ่ายตรงข้ามนี้ให้เธอ อีกทั้งคนจัดเกมคงศึกษาข้อมูลประวัติชีวิตของเธอไม่มากก็ไม่น้อย

    จากนั้นนาโอะก็วิ่งแจ้งไปหาฝ่ายตรงข้ามหรือก็คืออาจารย์เก่า แรกๆ อาจารย์คนนั้นทำท่าทำทางอย่างน่าเคารพ ปั้นสีหน้าน่านับถือ จากนั้นเธอก็พูดปลอบให้นาโอะสบายใจว่ามันเป็นกลโกงของผู้จัดเกม จนกระทั้งอาจารย์ได้เสนอให้เอาเงิน 100,000,000 เยน มาให้อาจารย์จัดการดีกว่า เธอจะได้สบายใจ ด้วยสถานการณ์แบบนั้นนาโอะไม่คิดเลยว่าเธอกำลังโดนอาจารย์หรอก ก็นั้นแหละเรื่องจิตวิทยาล้วนๆ คนมันจนตอกพอเป่าหูอะไรนิดหน่อยก็เชื่อ ยิ่งคนที่มาเป่าหูนี้ดูน่าเชื่อถือก็ยิ่งเชื่อเป็นทวีคูณอีก

    กว่าที่นาโอะจะรู้ตัวว่าตกหลุมพราง ก็ปาไปหลายวัน เมื่อเธอได้รับไปรษณียบัตรสนเท่ห์อีกฉบับแจ้งว่าเธอกำลังเป็นฝ่ายแพ้และเธอต้องมีหนี้ 100,000,000 เยน นางเอกเริ่มชักใจไม่ดี เธอพยายามขอเงินคืนกับอาจารย์ แต่โดนอาจารย์ปฏิเสธ แถมยังหลอกด่าเธออีก

    นางเอกก็เริ่มจิตหลุด เมื่อเธอได้รับไปรษณียบัตรสนเท่ห์นรกอีกฉบับ คราวนี้นางเอกทำหน้าเหวอๆ ปากกว้างได้ใจมาก จนทำให้คนอ่านไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเราเป็นนางเอกแล้วมาอยู่ในสถานการณ์นั้นเราจะอ้าปากกว้างเหมือนนางเอกหรือเปล่า?

                    ในขณะที่จนหนทางนั้นเธอก็ได้พบแสงสว่างแว่บมาที่หัวว่า นักต้มตุ๋นต้องเจอนักต้มตุ๋น เธอเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับทนาย(คนเดิมกับหลอกเอาตังค์) ทนายได้แนะนำเธอให้ไปขอความช่วยเหลือกับนักต้มตุ๋นมืออาชีพคนหนึ่งชื่อ ไลท์กลับใจ...เอ้ย........เขียนผิด เขาชื่ออาคิยาม่า ชินอิจิ นักต้มตุ๋นอัจฉริยะที่เพิ่งออกจากคุก  ที่หน้าตาออกมาตอนแรก ขอบตาคล้ำ ผมยุ่งอยากกลับโดนลมโกรก หน้าตาไม่ไว้ใจอย่างยิ่ง แต่เธอจำเป็นต้องฝากชะตากรรมให้กับชายคนนี้

                    และแล้วนาโอะก็ได้เจอกับชินอิจิโดยบังเอิญ เธอร้องห่มร้องไห้ แหกปาก(ชนิดเรียกว่าหมดราศีนางเอก)ขอให้ชินอิจิช่วยเหลือ ตอนแรกชินอิจิปฏิเสธ(อะไรว่ะ พบครั้งแรก โยนขี้ใส่ตรูซะงั้น) นาโอะยังไม่ยอมแพ้ เธอตามชินอิจิชนิดเกาะติดไม่เลิก

                    ต่อจากนั้นก็ถึงฉากที่ผมชอบเป็นอย่างมาก เมื่อชินอิจิโกหกเพื่อสลัดนาโอะ บอกให้นาโอะรออยู่ที่ตรงนี้(ข้างถนนด้วยอ่ะ) นางเอกก็ยื่นอยู่ตรงนั้นอย่างซื่อสัตย์ (ในขณะที่ชินอิจิไปนอนตีพุงเรียบร้อย) เธอรออยู่จุดที่ชินอิจิบอก จนกระทั้งหนึ่งชั่วโมงผ่านไป แต่เธอไม่เลิกเลยรออีก จนสองชั่วโมงผ่านไป เธอก็ไม่เลิกแล้วก็รออีกจนกระทั้งห้าชั่วโมงผ่านไป เธอก็ไม่เลิกพร้อมปลอบใจตนเองว่า คุณชินอิจิคงเหนื่อยจนหลับเพลินล่ะมั้งและเมื่อครบ 12 ชั่วโมงชินอิจิได้ออกมาเดินเล่ก็ต้องใจว่า เอ้ย ยายนี้มันคนหรือเปล่าฟ่ะ รออยู่ที่เดิม 12 ชั่วโมงยังไม่เลิก อะไรมันจะซื่อ(บื่อ)ขนาดนี้ จากนั้นชินอิจิก็ปล่อยให้นาโอะรออีก จนกระทั้งครบ 22 ชั่วโมง ชินอิจิถึงยอมช่วยเหลือนาโอะ

                    ผมชอบประโยคนี้ครับ เมื่อชินอิจิดุนาโอะว่าเพราะซื่อทิ่มแบบนี้ไงถึงได้โดนหลอก นาโอะเลยตอบกลับด้วยสีหน้าซื่อๆ ว่า เป็นคนซื่อทึ่มไม่ได้เหรอคะ?

                    แม้นางเอกเป็นคนซื่อบื่อแบบได้โล่ แต่ต้องก็นับถือพยายามรับความพยายามของเธอจริงๆ


                จากนั้นก็เห็นฉากฮ่ารอบสอง(จริงๆ) เมื่อชินอิจิบอกให้นาโอะไปหาอาจารย์คนนั้นเพื่อขอเงินคืนแบบตรงๆ เมื่ออาจารย์ที่หลอกเงินนาโอะได้ฟังนาโอะมาขอร้อง จากชายที่ทำหน้าตาน่าเชื่อถือ ก็เผยธาตุแท้ ทำหน้าทะเล้น เจ้าเล่ห์ขี้โกงได้ใจมากๆ แถมพูดคำหยาบใส่อีก โดยบอกว่า “มนุษย์น่ะเชื่อได้ที่ไหน”ชนิดที่ชินอิจิอึ้งเหลือเชื่อว่าชายคนนี้เป็นอาจารย์หรือนี้ มาถึงตอนนี้ก็น่าคิดว่าเงินนั้นเปลี่ยนคนได้ขนาดนี้เลยเหรอ สังคมญี่ปุ่นนั้นเป็นสังคมแบบทุนนิยมที่เงินกลายเป็นปัจจัยที่ห้าในการดำรงมีชีวิตอยู่ ยิ่งปัจจุบันค่าเงินของญี่ปุ่นสูงขึ้น ทำให้หลายคนเริ่มคิดหนักในการใช้เงินแต่ละครั้ง ถ้าเงินขาดมือก็ทำอะไรไม่ได้ และในขณะเดียวกันเมื่อเงินขาดมือมนุษย์ก็ไม่เลือกวิธีที่จะหาเงินมาไว้ครอบครอง แม้วิธีทำมันจะผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม หักหลังเพื่อนมนุษย์ก็ตาม และนี้คือคอนเซ็ปต์หลักของเกมนี้เพื่อนาโอะและชินอิจิต้องต้องเจอคนแบบนี้มากมายในเกมในรอบต่อๆ ไป

                    จากนั้นเราก็เห็นการต่อสู้จิตวิทยาล้วนๆ ของชินอิจิที่ไม่เคยหวั่นไหวต่อสถานการณ์ที่จนตรอก แผนของเขาเหมือนจะดูเสี่ยงแต่กระนั้นเขาได้สร้างเส้นทางที่ทำให้มันสามารถประสบผลสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ ชนิดคนดูคิดว่า “เม่งมันวางแผนนี้ได้ไงเนี้ย” โดยชินอิจิใช้แผนจิตวิทยาที่ทำให้มนุษย์หวาดระแวงถึงขีดสุดจนสามารถต้อนอดีตคุณครูนาโอะจนพ่ายแพ้สมบูรณ์แบบ

                    จากนั้นฉากประทับใจก็มาถึงเมื่อเราได้เห็นนาโอะสวมบทนางเอ๊กนางเอกยกเงินรางวัลให้อาจารย์ที่เป็นผู้พ่ายแพ้ทั้งหมดให้ แถมเธอยังร้องไห้ร่วมกับอาจารย์อีก แม้อาจารย์จะทำเรื่องไม่ดีอะไรกับเธอไว้ก็ตาม เท่านี้ยังไม่ชินอิจิก็ไม่เอาเงินรางวัลไปให้นาโอะอีก แสดงให้เห็นว่าพระเอกนั้นไม่ใช้เป็นคนเห็นแก่ได้สักนิด ซึ่งนาโอะประทับใจในตัวเขามากจนอยากจะรู้จักเขาให้มากขึ้น........

                    ผมตกหลุมรักชินอิจิพอๆ กับนางเอกเลยอ่ะ

     

    เกมหลอกเกมลวง เกมที่ 2 อย่างไรก็ตามชัยชนะครั้งนี้กลับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้นาโอะและชินอิจิเข้ามาในเกม Liar Game แบบเต็มรูปแบบ เมื่อนาโอะที่กำลังสบายใจปลอบโปร่งอยู่ดีๆ เธอกลับมาบ้านก็พบว่า  "Liar Game Tournament" นั้นดันมีรอบสองซะงั้น หากไม่เข้าร่วมเธอต้องคืนเงินรางวัลจากรอบแรกให้หมด ต้ายแล้วตรูเงินนั้นดันไปให้อาจารย์  แค่รอบแรกยังลุ้นแทบหัวใจหยุดเต้น รอบสองมันจะทวีความหฤโหดขนาดไหน ระหว่างที่นาโอะคิดไม่ตกนั้น ชินอิจิบอกว่าไม่ต้องไปเชื่อ ตามหลักกฎหมายแล้วมันไม่สามารถเรียกเงินที่อ้างได้(อ้าวงั้นอาจารย์นั้นที่ตกเป็นหนี้ร้อยล้านเยนก็หนี้ลมสิ แถมได้เงินร้อยล้านเยนฟรีอีก)

    ได้ด้วยความสัตย์ซื่อ(บื่อ)ของนาโอะแบบว่าเธอมันช่างเมตตากรุณาเสียจริง แบบว่ากลัวผู้จัดเกมไม่สบายใจและเธอก็อยากจะไปบอกฝ่ายนั้นถึงที่ แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุเธอกลับพบว่าเธอได้กลายสู่ผู้แข่งขัน Liar Game รอบ 2 อย่างสมบูรณ์

    ในระหว่างที่กำลังหวาดวิตกที่อยู่ท่ามกลางผู้แข่งขันนั่นเอง เธอก็พบกับชินอิจิอีกครั้ง คราวนี้เขามาแข่งขันครั้งนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้นาโอะรู้สึกใจชื่นขึ้นมาเป็นกอง

    หลังจากที่เจ้าภาพเกมได้อธิบายกฎกติกา “สิทธิเสียค่อนข้างน้อย” จบ สิ่งแรกที่ชินอิจิทำก็คือ เขาสวมบทเป็นโทมะจาก Q.E.D. คือทำตัวไม่คล้อยตามตามสถานการณ์(ซึ่งคนอื่นๆ ยืนขาแข็งเรียบร้อยแล้ว) เขาพยายามคิดและกินอาหารเพื่อจะมีแรง(ส่วนคนอื่นจิตตกไม่กิน) จากนั้นก็สวมบทโทมะอีกคือให้นางเอกเป็นคนสืบข่าวในหัวข้อ “รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” นาโอะต้องคุยกับผู้แข่งขันทั้งหมดในเกม(มี 22 คน) และสังเกตพฤติกรรมและหาสาเหตุที่ผู้แข่งขันมาแข่งขันเกมนี้ให้มากที่สุด และหลังจากที่นาโอะพูดคุยกับผู้แข่งขันเหล่านั้นก็พบว่า ผู้แข่งขันแต่ละคนมีนิสัยแตกต่างกันออกไป บางคนไม่ยอมคุย บางคนพูดแบบน้ำไหลไฟดับ

    มาถึงตอนนี้ทำให้เราเปรียบ Liar Game เสมือนกับสังคมหนึ่งที่มีคนอาศัยอยู่หลากหลาย คนดีคนชั่ว อ้วนผอม แก่หนุ่ม หญิงชาย ฉลาดโง่ ปะปมกันนำมาซึ่งความดำมืดจิตใจของมนุษย์ คือ โลภ ริษยา หลักหลัง อวดเก่ง  และที่น่าสนใจคือพวกเขาเหล่านั้นบางคนก็มีบุคลิกพฤติกรรมและการแต่งตัวแบบแปลกๆ บางคนแต่งตัวและท่าทางอย่างกับโจรแต่กลับมีจิตใจที่ดีงาม(เช่น หนุ่มพังค์ที่ตอนแรกมาอย่างน่ากลัวแต่หลังๆ มาจิตใจดีงามซะงั้น) ดังนั้นเราซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่อยู่ในสังคมแห่งนั้นต้องเลือกว่าเราควรจะคบกับใคร เพื่อให้เหมาะสมแก่ตัวเรา

    จากนั้นชินอิจิก็เสนอแผนสุดวิเศษ(ที่มันง่ายและคิดไม่ถึงเพราะว่าผมคิดแต่จะทำยังไงให้รอดตัวคนเดียวมากกว่าคิดจะช่วยเหลือคนอื่น)แก่นาโอะที่สามารถเอาชนะเกมนี้ได้  โดยนาโอะต้องสร้างทีมเพื่อเอาชนะเกมนี้ โดยให้นาโอะเลือกหากลุ่มคนในสังคมเล็กแห่งนี้เพื่อสร้างทีม โดยเลือกคนที่ความคิดที่จะหักหลังเราให้ได้ แต่กลายเป็นว่านาโอะกลับใช้วิธีง่ายๆ เลือกกลุ่มคนเหล่านี้ โดยเธอไม่รู้เลยว่าในกลุ่มคนที่เธอเลือกเหล่านั้นมีคนหนึ่งที่มีความคิดที่จะหักหลังทีมอยู่ด้วย!?

    สิ่งที่ผมสังเกตและก็อึ้งอยู่ตรงหน้าที่นาโอะสร้างทีมครับ แบบว่าคนที่นาโอะพาตัวมามานั้นมีประวัติใช้เงินยังไงถึงต้องมาเล่นเกมนี้ แต่ละคนมีเหตุผลที่น่าทึ่งมาก เช่น ผู้หญิงใช้เงินที่ได้รับเป็นรางวัลมากเกินไปเพราะเพราะเอาเงินไปบำเรอผู้ชายในโฮสต์คลับมากเกินไป ผู้หญิงอีกคนโดนหลอกซื้อสินค้าขายตรง บางคนใช้เงินเป็นล้านเพื่อซื้อของเบรนด์เนมเป็นล้าน บางคนติดปาจิโกะ แสดงให้เห็นว่าเงินที่ได้มาอย่างง่ายๆ มักถูกนำมาใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย  ความมั่งคั่งไม่ได้ทำให้พัฒนาทางจิตใจ กลับทำให้คนกลายเป็นทาสของเงิน การใช้เงินโดยไม่รู้ค่าก็กลายเป็นหายนะในอนาคตฉันนั้น

    และแล้วสิ่งที่คนดูต่างต้องอึ้งก็เริ่มขึ้น เมื่อแผนที่ชินอิจิเสนอเริ่มมีจุดบกพร่อง มีใครบางคนกำลังหักหลังพวกเขาอยู่ ในขณะที่นาโอะกระวนกระวาย แต่พระเอกใจเย็นสุด ด้วยการสังเกตพฤติกรรมของผู้แข่งขันทั้งหมด ก่อนที่จะโต้กลับชนิดอย่างอึ้งขนาดคนอ่านหน้าหงายว่ามันมีวิธีนี้แบบด้วย และความจริงการ์ตูนก็มีการเผยไปแล้ว แต่คนดูไม่สังเกตอะไรเลย เป็นอันจบเล่มที่ 2 อย่างดุเดือด

                   

    ก็จบสปอยแบบอมภูมิเอาไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอบอกว่าช่วงหลังๆ เนื้อหาจะแตกต่างจากละครโทรทัศน์ครับ  ดังนั้นก็ถือได้ว่าได้ดู  Liar Game อีกเวอร์ชั่นหนึ่งเลยส่วนรายละเอียดปลีกย่อยลองไปอ่านรายละเอียดเอาเองดูนะครับ สิ่งที่ผมชอบการ์ตูนเรื่องนี้มีหลายเรื่องครับ

    ผมชอบคาแร็คเตอร์ อาคิยาม่า ชินอิจิ พระเอกเรื่องนี้มาก ตอนแรกผมก็นึกว่านิสัยเขาจะเหมือนไลท์ ณ เดธน็ต เสียอีก แบบว่าหน้าตาไม่น่าไว้ใจ กลัวว่านางเอกจะถูกพระเอกหลอกอะไรสักอย่าง แต่ปรากฏว่าเขาเป็นชายนิสัยดีๆ ผิดหน้าตาจริงๆ แถมจิตใจยังอ่อนโยนและอบอุ่นแบบลึกๆ ขี้เป็นห่วงนางเอกอีก ช่วงหลังๆ นี้แม้ว่าเกมจะโหดขึ้นน่ากลัวขึ้นแต่ขอให้มีพระเอกติดตัวนี้ใจชื่นขึ้นเป็นกอง เพราะไม่ต้องกลัวอะไรเลย แม้ว่าจะตกเป็นฝ่ายใกล้แพ้ก็ตามแต่พระเอกกลับมีแผนฟื้นคืนชีพกลับมาเหนือทุกครั้ง โดยฉากที่ผมชอบและสะใจก็คือฉากที่ชินอิจิตอกกลับผู้แข่งขันฝ่ายตรงข้ามที่เฉยทริคโกงของฝ่ายตรงข้าม ที่ตอนแรกมาอย่างเทพแต่พอชินอิจิมาเฉลยหน้าหงาย คนอ่านคิดเลยว่าฝ่ายตรงข้ามช่างอ่อนจริงๆ

    ส่วนที่ชอบต่อมาก็คือเหล่าผู้แข่งขันในเกม Liar Game ครับ ปกตินี้ถ้าเป็นการ์ตูนเซอร์ไวเวอร์หรือการ์ตูนแนวแข่งขันทั่วๆ ไปยิ่งเข้าไปรอบลึกๆ ผู้แข่งขันจะเทพและเก่งขึ้น แต่ไม่ใช้กับ Liar Game แน่นอน เพราะว่าผู้แข่งขันส่วนใหญ่มักเป็นคนโง่ เพราะคนฉลาดคงไม่หลงกลมาแข่งขันเกมแบบนี้หรอก(ส่วนใหญ่คนฉลาดมักมาเปลี่ยนผู้แข่งขันคนอื่น) แต่คนโง่นี้กลับกลายผู้แข่งขันที่รับมือยากที่สุด เมื่อพวกเขาเหล่านั้นเป็นคนขี้หวาดระแวงแบบสุดๆ เนื่องจากพวกเขาผ่านกลโกงสารพัดจากรอบที่ผ่านมา

    และส่วนที่ชอบไม่แพ้กันคือไอเดียแต่ล่ะเกมนี้สุดๆ เลย แม้ตอนแรกจะดูซับซ้อน หากแต่พอมาคิดอีกทีก็พบว่า เออ.....ที่จริงมันเล่นง่ายสุดๆ เลยน่าเสมือนเด็กเล็กๆ เล่นกัน ถ้าทุกคนพร้อมใจซูฮกร่วมกันเกมก็ชนะโดยไม่ยาก แต่กลายเป็นว่าเกมเหล่านี้กลับเครียดบัดดล เพราะผู้แข่งขันทั้งหลายไม่มีน้ำใจนักกีฬาทำให้เกมเล่านี้ยากขึ้นเป็นทวีคูณ

    สิ่งที่การ์ตูนเรื่องนี้พยายามบอกก็คือความสำคัญของเงิน แม้ว่าบางเกมเหมือนเอาเงินมาเล่นเหมือนของเล่น หรือผู้แข่งขันใช้เงินในแผนชั่วร้ายหรือเป็นบ่วงมัดจิตใจของผู้เล่นคนอื่นก็เถอะ แต่กระนั้นก็เหมือนมันได้สอนว่า

    -แม้ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประชากรในชาติมีความรู้ มีความเป็นอยู่ที่อุดมสมบูรณ์ เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ชีวิตเพียบพร้อมด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกสบายที่ แต่ในความเป็นจริงแล้วประชาชนเหล่านี้หาได้มีความสุขไม่ เพราะสังคมประเทศเหล่านั้นมุ่งแต่หาเงิน เห็นเงินเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต บูชาเงินเป็นพระเจ้า หายใจ เข้า-ออก เป็นเงิน ทำทุกอย่างเพื่อเงิน ใช้เงินมีอำนาจเหนือชีวิตจิตใจของเรา  บางคนใช้เงินเป็นเครื่องมือในการสร้างอิทธิพลและอำนาจของมนุษย์ 

    -เงินสามารถทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลแปรเปลี่ยนไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ จากมิตรหรือเพื่อนฝูง สามารถทำให้ความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันมายาวนานขาดสะบั้นลงเพราะเงิน เงินสามารถเปลี่ยนสภาพเป็นความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน กลายมาเป็น เจ้าหนี้ กับ ลูกหนี้และกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตในที่สุด

    -เงินไม่ใช่ตัวสร้างความสุข แต่เงินเป็นสะพานหรือตัวนำพาชีวิตให้ไปสู่ความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น ให้กับคนที่รู้จักใช้เงินเป็นเท่านั้น

    -อย่าประมาทในการใช้เงิน ต้องเรียนรู้คุณค่าของเงิน รู้จักวางแผนอนาคตให้ดี เพราะพลาดในการใช้เงินขึ้นมามันอาจมีผลต่อสุขภาพจิตโดยตรง

    -เงินทองเป็นของนอกกายมีอยู่ทั่วไป แต่ความรู้นั้นมีอยู่เพียงหยิบมือ หากใช้ปัญญา ความอดทน เงินทองก็มาหาเราเองทีใครทีมัน วาสนาใครวาสนามัน

    สรุปคือ Liar Game  เป็นมากกว่าการ์ตูนที่ดี ฝึกการสังเกต บางบทสนทนาอาจยืดยาวแต่ดูเหมือนไร้สาระ แต่กลายเป็นว่ามันดันเป็นส่วนสำคัญการดำเนินในเรื่องต่อมา การ์ตูนเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ผมแนะนำอย่างยิ่ง ใครที่เบื่อการ์ตูนประเภทแอ็คชั่นไร้สมอง ใช้กำลังแก้ปัญหา ก็ลองมาอ่านการ์ตูนแล้วจะมีมุมมองมังงะญี่ปุ่นบวกยิ่งขึ้น เพราะอย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าท่ามกลางการ์ตูนมังงะเหล่านั้น ก็มีการ์ตูนน้ำดีที่น่าสนับสนุนปะปมอยู่ แม้มันเป็นจำนวนน้อย แต่คุณภาพนั้นคับแก้วจริงๆ เสมือนกับหงส์ในหมู่อีกายังไงอย่างงั้น(ปานนั้นเชียว)

                    สุดท้ายของลาด้วยพุทธสุภาษิตที่ว่า “ความไม่มีโรค ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ: จงให้เงินเป็นทาสของเรา แต่เราอย่าเป็นทาสของเงิน: จงเป็นผู้ใช้เงิน ไม่ใช่ให้เงินเป็นผู้ใช้เรา”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×