ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

ลำดับตอนที่ #88 : Homosexuality in the Batman franchise แบทแมนเป็นเกย์จริงหรือ?

แบทแมนเกย์จริงหรือ? แน่นอนครับว่าความคิดนี้ไม่ใช่ผมคิดเองแน่นอนขอบอกไว้ก่อน แต่เป็นความคิดที่มีมานานแล้ว และเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของชาวอเมริกามากที่สุด

ความจริงเรื่องนี้มาเป็นประเด็นตั้งนานแล้ว แต่มาดังเป็นพุแตกในภาพยนตร์ Batman Forever (1995) ที่กำกับโดยโจล ชูมัก ผู้แสดงเป็นแบทแมน คือวัล คิลเมอร์ (Val Kilmer) คนแสดงเป็นโรบินก็คือคริส โอดอนเนลล์(Chris O'Donnell)   ตัวร้ายที่ปรากฏตัวได้แก่ เดอะริดเลอร์ (The Riddler รับบทโดยจิม แครีย์) และทูเฟซ (Two Face รับบทโดยทอมมี ลี โจนส์) ภาพยนตร์ภาคนี้ได้รับเสียงวิจารณ์รุนแรงมากเนื่องจากไม่มีความเป็นแบทแมนเลย ไม่ว่าจะเป็นฉากที่ดูสดใสเกินไป ใส่ความเป็นแฟนตาซีมากเกินไป แต่สิ่งที่โดนด่ามากที่สุดคือบทบาทของแบทแมนกับโรบินดูยังกับทั้งคู่เป็นเกย์!!(ความจริงภาคนี้ก็มีนางเอกนะครับ หากแต่บทบาทของเธอไม่เด่นเลย)

จากนั้น 2 ปีต่อมา ภาพยนต์ภาคต่อของแบทแมนก็ออกมาอีกครั้ง Batman and Robin (1997) กำกับโดยโจล ชูมักเกอร์ เปลี่ยนผู้แสดงเป็นจอร์จ คลูนีย์ ตัวร้ายได้แก่ มร.ฟรีซ (Mr. Freeze รับบทโดยอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์) และพอยซัน ไอวี่ (Poison Ivy รับบทโดยอูมา เทอร์แมน) นอกจากนี้ยังมีบทบาทของโรบินและแบทเกิร์ลด้วย แม้รายได้จะดี เปิดตัวทำเงินได้ แต่มันกลับถูกวิจารณ์ว่าเลวร้ายที่สุดในซีรีย์ของแบทแมน และถูกตำหนิจากสังคมอเมริกันมาก ไม่ว่าจะเป็นตัวหนังที่กลายเป็นแฟนตาซี ตัวละครเล่นค่อนข้างแย่ ได้รับการโหวตอย่างถล่มทลายให้เป็นภาพยนตร์ยอดแย่ตลอดกาลมากที่สุด และที่สุดในหัวข้อที่ตำหนิคือแบทแมนกับโรบินเป็นเกย์เหรอ?(บทแบทเกิร์ลจืดสนิท)

 

Homosexuality in the Batman franchise

(รูปบรูซ เวย์น กับโรบินรุ่นแรก(Dick Grayso) ภาพจากหนังสือ Batman 1954  # 84 หน้า 24 )

http://www.youtube.com/watch?v=MKIvJRR9bxo

http://www.youtube.com/watch?v=9CNQiy3M088&feature=related

http://www.youtube.com/watch?v=MuX5NSNglnA&feature=related

http://www.youtube.com/watch?v=y3izpB3jxMg&feature=related

คลิปที่ให้เป็นคลิปล้อเลียนแบทแมนเป็นเกย์ครับ แสดงให้เห็นว่าประเด็นนี้นิยมเล่นมาก ไม่ใช้แบทแมนกับโรบินเท่านั้น กระทั้งโจ๊กเกอร์ก็เอามาเล่นด้วย

สมัยก่อนนั้นการ์ตูนคอมมิคเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ทำกำไรให้กับผู้ผลิตจำนวนมาก ไม่ต้องอาศัยเทคนิคหรือการลงทุนที่สูง ผู้ผลิตมีเพียงศิลปินนักวาดการ์ตูนเท่านั้น ในด้านของผู้อ่าน การ์ตูนได้รับการยกย่องในฐานะเพื่อนของเด็กและผู้อ่านทุกเพศและทุกวัย ในบางครั้งการ์ตูนกลายเป็น สิ่งมีค่า ในชีวิต หากแต่สื่อราคาถูกนี้กำลังเปลี่ยนไปเมื่อเนื้อหาข้างในนั้นไม่เหมาะกับเด็กเยาวชน...

ปี 1954 นักจิตวิทยา เฟรดริค เวอร์แธม ที่ถือเป็นนักวิชาการคนแรก ๆ ที่วิพากษ์วิจารณ์การ์ตูนในแง่ลบอย่างดุเด็ดเผ็ดมันในหนังสือ Seduction of the Innocent  เป็นหนังสือวิจารณ์ในแง่ลบ บิดเบือน เกี่ยวกับคอมมิคซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เยาวชนเหลวไหล ซึ่งหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือขายดีและเป็นต้นเหตุทำให้ผู้ปกครองออกมาให้สำนักพิมพ์มีการเซ็นเซอร์

ในเนื้อหาหนังสือบอกไว้ว่า การ์ตูนนั้นเปรียบเสมือนยาเสพย์ติดทำให้เยาวชนเลียนแบบ เช่น การ์ตูนอาชญากรรม การ์ตูนสยองขวัญ ที่มีภาพหน้ากลัว สิ่งที่ซ่อนเร้นลักษณะทางเพศ และในเนื้อหาของหนังสือได้กล่าวถึงแบทแมนกับโรบินเป็นเกย์ด้วย โดยเขาบอกว่าแบทแมนมีจิตใจรักร่วมเพศ กระตุ้นให้เด็กรักร่วมเพศ…..

 

แบทแมน(Batman) เป็นตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่จากการ์ตูน ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูนเรื่อง ดีเทคทีฟ คอมิคส์ (Detective Comics) ในวันที่ 27 พฤษภาคม 1939 วาดโดย บ๊อบ เคน (Bob Kane) และ บิล ฟิงเกอร์ (Bill Finger) เป็นผู้วาดและผู้แต่งเรื่องแบทแมนในยุคแรก(สมัยก่อนเวลาวาดการ์ตูนคอมมิคคนวาดมักประกอบด้วยสองคนเสมอครับ) แต่คนทั่วไปจะรู้จักแต่ บ๊อบ เคนเท่านั้น

กำเนิดแบทแมนหลายคนคงรู้แล้วว่า ตัวตนที่แท้จริงของแบทแมน ในเรื่องคือเศรษฐีนักธุรกิจเพลย์บอบเมืองก็อธแฮม (ออกแบบเหมือนมหานครนิวยอร์ก แต่สมัยก่อนผมนึกว่าเป็นเมืองลอนดอนเพราะกลางคืนเม่งช่างเงียบ) ชื่อ บรูซ เวย์น ที่มีอดีตฝังใจเมื่อสมัยเด็กเขาเห็นพ่อแม่ถูกคนร้ายฆ่าตาย(ตอนแรกคนร้ายที่ว่าคือโจ๊กเกอร์ หากแต่มีการเปลี่ยนเป็นคนฆ่าเป็นเพียงโจรกระจอกแทน) ทำให้เขามีความคิดอยากจะปกป้องเมืองนี้ด้วยมือของตนเอง โดยเขาได้ฝึกวรยุทธไปทั่วโลก(ในการ์ตูนก็มี จีน, ทิเบต, อินเดีย แต่ไม่ยักมีมวยไทย) แล้วใช้เงินมรดกของพ่อแม่มาสร้างฐานคือ ถ้ำค้างคาว ที่อยู่ใต้คฤหาสน์เวย์น และพัฒนาอุปกรณ์จับผู้ร้ายต่างๆ นาๆ เช่น ปืน,แส้, ชุดผ้าคลุมกันกระสุน, ดวงตามาเห็นที่มืด, รถค้างคาว โดยปกติเขามักออกปฏิบัติการในตอนกลางคืน โดยมีโดยมีสปอตไลท์ส่งสัญลักษณ์ค้างคาวขึ้นบนท้องฟ้าเป็นสัญญาณว่าขอความช่วยเหลือ โดยผู้ช่วยเหลือมักเป็นสารวัตรใหญ่แห่งเมืองก็อธแฮม  ตัวตัวละครของแบ็ทแมนส่วนใหญ่มักมีพลังวิเศษต่างๆ นาๆ แต่ก็มีบางเหมือนกันที่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา(แต่เป็นโรคจิตรุนแรง) เช่น โจ๊กเกอร์, ทูเฟค, มนุษย์เพนกิล, มร.ฟรีซ ฯลฯ แน่นอนแบทแมนจะออกมาสู้คนเดียวไม่ได้แน่ๆ ดังนั้นช่วงหลังๆ เขาเริ่มมีผู้ช่วย อย่าง โรบิน และ แบทเกิร์ล และนอกจากนั้นบางตอนยังมี ซุปเปอร์แมน ของค่ายดีซี คอมิคส์มาเล่นด้วยก็มี เช่น ซุปเปอร์แมน เป็นต้น

นอกเหนือคอมมิค แบทแมนยังโลดแล่นทั้งในภาพยนตร์ทั้งทีวีจอแก้วและจอเงิน นอกจากนั้นยังมีอนิเมชั่น แต่น่าเสียดายอนิเมชั่นนั้นตัดความรุนแรงออกไป เนื่องจากกลุ่มผู้ดูเน้นเยาวชนเป็นหลัก

ในสมัยก่อนอเมริกาไม่ค่อยยอมรับพวกเกย์และเลสเบียนมากนัก ทำให้แบทแมนโดนจวกเป็นอย่างมาก ทั้งในคอมมิคและภาพยนตร์ โดยเฉพาะในหนังสือ หนังสือ Seduction of the Innocent   แบทแมนเป็นเกย์กลายเป็นประเด็นที่ถูกกล่าวขานอย่างมาก โดยข้อสังเกตที่แสนจะ เออ.........

-เนื่องจากสมัยนั้นภาพลักษณ์ของแบทแมนนั้นแต่งตัวส่ออย่างมากในด้านความเป็นเกย์ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบชุดแบทแมน เน้นย้ำสัดส่วนเพศชายเป็นพิเศษ พร้อมด้วยหัวนมยาง บั้นท้ายกลมกลึง และกระจับนูนตรงส่วนสำคัญ

-แบทแมนเลี้ยงต๋อย(โรบิน)

-แบทแมน(บรูซ เวย์น)กับโรบินชีวิตร่วมกันในคฤหาสน์สุดหรู ประดับตกแต่งด้วยแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ พร้อมสรรพด้วยพ่อบ้านมันเหมือนความฝันของการอยู่ร่วมกันระหว่างชายรักร่วมเพศสองคน

-บางครั้งโรบินจะถูกจับขังในกรง ถูกมัด หรือติดกับดักของผู้ร้าย และต้องรอคอยให้แบทแมนมาช่วยเหลือเหมือนพวกนางเอกในนิยายอาชญากรรมอื่นๆ

-โรบินรักแบทแมนชนิดว่าชีวิตนี้อุทิศเพื่อแบทแมนมากกว่าใครบนโลก

-ชีวิตของแบทแมนปราศจากผู้หญิง โรบินก็ไม่มีแฟน(??)

-ในการ์ตูนใช้ว่าแบทแมนไม่มีแฟนที่เป็นผู้หญิง หากแต่เวลาเข้าได้เข้าเข็นก็มักจะมีเหตุอะไรสักอย่างต้องพรากจากกัน

-ปกการ์ตูนมันส่อ

-บรูซ เวย์น ชอบสวมชุดนอนและชุดผ้าคลุมยาวในบ้าน แล้วนั่งแนบชิดบนโซฟาเดียวกันกับเด็กหนุ่มในการดูแลของเขา มองดูแล้วเหมือนเกย์ไฮโซ

-บรูซ เวย์น มีอาการป่วยทางจิต แต่งชุดแปลกประหลาด(ค้างคาว

-บุคลิกของแบทแมนที่ใช้ชีวิตแบบสองหน้า เสมือนเกย์ที่ต้องปกปิดตัวตนในชีวิตจริง การต่อสู้กับผู้ร้ายยามราตรีก็เสมือนกับการการเปิดเผยตัวจริงของเกย์เมื่อถึงตอนกลางคืน

-โรบินรุ่นแรก(Dick Grayso) คำว่า Dick แปลว่า กระเจี๊ยว ในภาษาอังกฤษ

 

จริงอยู่งานเขียนของเฟรดริค เวอร์แธมจะโดนด่า ว่ามองในด้านเดียว(หรือเกรียมบอกว่า ไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่าน) หากแต่เขาได้หว่านเมล็ดแห่งความสงสัยแก่คนทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อย จนสำนักพิมพ์ดีซี คอมมิกส์จำต้องเพิ่มตัวละครผู้หญิงเข้าไป ให้แก่ตัวละครชายทั้งหลายมีความปรารถนาทางเพศผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นแบทแมน(แคทวูแมน), โจ๊กเกอร์(ควีน) เข้ามาในชีวิต แต่ดูเหมือนกับดาบสองคม เมื่อแคทวูแมนเข้าในชีวิตของแบทแมนเสมือนกับทำให้โรบินอกหักไปด้วย โรบินกลายเป็นส่วนเกินของชีวิตแบทแมน

แน่นอนครับประเด็นนี้ค่อนข้างจะดราม่ามากในต่างประเทศ มีหลายความเห็นออกมาเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยความคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วยมีมากที่สุด  โดยประเด็นที่ไม่เห็นด้วยบอกว่าแบทแมนนั่นไม่ใช้เกย์แน่นอน เนื่องจากมีหลายตอนจะเห็นว่าแบทแมนเป็นคนเคร่งศาสนาเป็นคาทอลิก บางคนบอกว่าการที่สื่อให้แบทแมนเป็นแบบนี้ก็เพื่อเพิ่มยอดขายให้ดีขึ้น

แม้แบทแมนไม่มีตัวตนอยู่จริง แต่ไม่มีการ์ตูนที่ไหนแล้วที่สามารถลากชีวิตให้ยุ่งเหยิงที่อิรุงตุนังเท่าแบทแมน จนทำให้แบทแมนนั้นเป็นมากกว่าการ์ตูน มันไม่ใช้สื่อของเด็ก ๆ อีกต่อไป หากแต่มันเทพนิยายที่มีความเป็นดราม่าที่ยาวนานที่สุดของโลก เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คน เขาอาจเป็นฮีโร่ด้านมืดและสว่าง ที่สมจริงที่สุดรองจากสไปเดอร์แมน

         

ทางด้านคนเขียนแบทแมน ปรากฏว่าตั้งแต่ บ็อบ เคน (ผู้ให้กำเนิดแบทแมน) ไปจนถึงนักเขียนคนอื่นปัจจุบันนั้น ไม่มีใครสักคนที่คาดคิดว่าหรือตั้งใจเลยว่าพวกเขาเขียนแบทแมนให้เป็นเกย์ พวกเขาตั้งใจให้แบทแมนกับโรบินแสดงออกถึงเพื่อนรัก, มิตรภาพ, คู่หู, ศิษย์และอาจารย์มากกว่า หากสังคมมองพวกเขาเป็นเกย์ก็คือ สังคมพัฒนาขึ้นมีความซับซ้อนมากขึ้น มนุษย์ทุกคนเริ่มถูกตีตราว่าสิ่งเป็นโน่นสิ่งนี้ เป็นอย่างงั้น ฃเช่น ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 การสัมผัสเนื้อตัวระหว่างผู้ชายสองคนถือเป็นเรื่องปกติ เป็นการแสดงออกถึงความอบอุ่น ความใกล้ชิดระหว่างมนุษย์สองคน  แต่เมื่อหากพฤติกรรมดังกล่าวแสดงออกมาในยุคนี้หมายความว่าผู้ชายสองคนเป็น “โฮโมเซ็กช่วล” พฤติกรรมรักร่วมเพศไป

 

อย่างไรก็ตามภาพยนตร์ของโจล ชูมักเกอร์ 2 เรื่อง คือ Batman Forever (1995) และ Batman and Robin (1997)   นั้นได้สร้างภาพให้แบทแมนเป็นเกย์เป็นที่เรียบร้อย แม้ว่าเขาพยายามสร้างแบทแมนให้เป็นภาพยนต์สำหรับครอบครัวหากแต่สิ่งที่สื่อออกมานั้นปรากฏว่ามันเป็นวายชัดๆ ไม่ว่าจะเป็นชุดของแบทแมนที่ดูยังก็เกย์ ไม่ว่าจะเป็นการติดหัวนมให้กับชุดแบทแมน (ชูมัคเกอร์บอกว่าเขาได้แรงบันดาลใจจากรูปปั้นเทพเจ้ากรีก) ฉากที่บรูซ เวย์นชอบเปลือยตัวสวมผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเหมือนกับเกย์คิงไฮโซ ไปจนถึงประโยคส่อๆ ของ ดิ๊ก เกรย์สัน อย่างเช่น “เราไม่ใช่แค่เพื่อน แต่เราเป็นคู่หูกัน” (คำว่า partner ในภาษาอังกฤษมีความหมายถึงคู่ชีวิตได้ด้วย และกลุ่มเกย์กับเลสเบี้ยนก็นิยมใช้คำนี้เทียบเท่ากับคำว่า สามีภรรยาสำหรับกลุ่มรักต่างเพศนั่นเอง) นอกจากนี้การแต่งตัวของโรบินก็ยังเหมือนเกย์ไม่ว่าจะเป็นแจ๊กเก็ตหนัง, เสื้อยืดรัดรูป,เจาะหู ฯลฯ

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะประสบความสำเร็จโดยสามารถทำรายได้ไปประมาณร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็นำมาซึ่งคำพูดที่ว่า เป็นภาพยนตร์ที่สร้างได้แย่มาก คนด่าระนาว ทำให้ผู้กำกับต้องออกมาแถลงข่าวเสียใจที่ทำผิดพลาดในที่สุด หากแต่มันสายไปแล้วเพราะภาพยนตร์เรื่อง Batman and Robin(1997) ที่แม้แต่คลูนีย์ที่แสดงเป็นแบทแมนเอง ก็ยังออกปากเองว่าห่วย ได้กลายเป็นหนังครองแชมป์ยอดแย่ตลอดกาล  ที่ทำให้ตระกูลหนังแบทแมน ต้องมัวหมอง

 

ในปี 2005 มีการฟ้องเกิดขึ้น โดยดีซี คอมิกส์ข่มขู่ว่าจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับศิลปิน มาร์ค แชมเบอร์เลน  ในงานเขียนของเขาคือ All in the Family: Homophobia and Batman Comics in the 1950s ซึ่งเขาได้จัดการแสดงคอลเล็กชั่นภาพวาดสีน้ำ เป็นรูปแบทแมนกับโรบินที่แสดงพฤติกรรมรักร่วมเพศที่มีทั้งในแบบ “ส่อนัยยะ” และแบบ “โจ่งครึ่ม”

 

ในปี 2006 มีการสร้างแบทวูแมน(ตัวจริงคือ Kate Kane )ในลักษณะเลสเบี้ยนอย่างโจงแจ้ง โดยคู่ขาของเธอคือ Renee Montoya ที่สื่อทั้งในนัยยะและโจ่งครึ่ม ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูออกมา ดูหรูหรา ไฮโซ แต่งตัวด้วยชุดแนบเนื้อและสวมรองเท้าบู้ทสีแดง มีบุคลิกเป็นสาวเลสเบี้ยนสังคมจ๋า ส่วนตอนกลางคืนจะกลายตัวเป็นผู้ต่อต้านอาชญากรรมตัวจริง และมีโครงการจะสร้างเป็น “แนวเลสเบี้ยนซุปเปอร์ฮีโร่”ในเร็วๆ นี้ โดยเกร็ก รุคก้า นักเขียนการ์ตูน กล่าวว่า "เรารอมานานที่จะปล่อยแบทวูแมนออกมา เพราะเธอออกมาช้ากว่ากำหนด ใช่แล้ว แบทวูแมนเป็นเลสเบี้ยน มีผมสีแดง หากใครจะมีปัญหากับเรื่องนี้ ก็ถือเป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่ของผม เพราะหน้าที่ของผมคือเขียนหนังสือออกมาให้ดีที่สุด และตัวละครนี้มันเจ๋งมาก บอกตามตรงเลยนะว่า แบทวูแมนควรถูกตัดสินโดยจริยธรรม ที่มีอยู่ในตัวเธอเอง"

เรื่องราวของแบทแมนเป็นเกย์จริงหรือก็จบลงเพียงเท่านี้ครับ เนื้อหาส่วนใหญ่เอามาจากเว็บ

http://riverdale-dreams.blogspot.com/2008/06/blog-post.html

มีการเขียนเพิ่มและดัดแปลงเล็กน้อยเพื่อให้อ่านเข้าใจง่าย ก็ขอขอบพระคุณมาใน ณ ที่นี้ด้วยครับ(อยากอ่านแบบเต็มๆ ก็ไปดูเว็บที่ขึ้นด้านบนได้เลย)

(จบตอนนี้ขอไปเขียนบทความการ์ตูนที่ดองไว้เสร็จนะครับ วันจันทร์สัปดาห์ มาเจอกันใหม่กับการ์ตูนอะไรสักอย่างที่ผมไม่รู้จะเขียนอะไรดีเหมือนกัน)

 + +