ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #377 : (ดูนิยายแบบแมวๆ) Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo ยัยเทพธิดาไม่ได้เรื่อง!?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.15K
      3
      20 ก.พ. 59

    คำว่านิยายแหวกแนว (แปลกประหลาด) ไม่เหมือนใครนั้น ผมเชื่อว่ามันไม่มีอยู่จริง เพราะตลอดที่ผ่านมามีนิยาย วรรณกรรมออกมามากมายหลายพันล้านเรื่อง ไม่ว่าคุณจะแต่งนิยายแนวอะไร วางพล็อตยังไง มันก็ต้องเหมือนนิยายสักเรื่องบ้างไม่มากก็ไม่น้อย

    ดังนั้นนิยายแหวกแนวไม่มีอยู่จริง ปัญหาคือเราจะแต่งนิยายยังไงให้โดดเด่นกว่านิยายอื่นๆ มากกว่า และในขณะเดียวกันเราก็ต้องไม่ทำให้นิยายหักหลังคนอ่าน และนำจุดแข็ง จุดสนุกของนิยายแนวนั้นมาให้คนอ่านรู้สึกสนุกไปกับมันด้วย (อย่างบางเรื่อง ตอนจบ นางเอกแต่งงานกับตัวประกอบ มันไม่ได้ล้ำแล้ว เขาเรียกว่าจบแบบขัดใจคนดู)

    การแต่งนิยายให้โดดเด่นแม้จะเป็นนิยายตามกระแสก็ตาม นั้นเป็นเรื่องยาก สมัยก่อนนิยายเว็บเด็กดีหมวดแฟนตาซี ที่ฮิตๆ ก็แนวโรงเรียนแฟนตาซีสไตล์แฮรี่ พอตเตอร์ ต่อมาก็แนวเกมออนไลน์ จนมาถึงตอนนี้คือแนวหลงไปต่างโลก เกิดใหม่ในต่างโลก แน่นอนเมื่อมันฮิต ก็ต้องมีนิยายจำนวนมากมายออกมา แต่ถ้าถามว่ามีนิยายเรื่องไหนที่โดดเด่นในจำนวนมากมายเหล่านี้บ้าง คำตอบคือเงียบ....

    แน่นอนว่าการแต่งนิยายตามกระแส ตามสูตรสำเร็จก็เป็นเรื่องดี มีคนอ่านจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ขาดการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง ไม่สร้างความโดดเด่นของตนเอง ไม่สามารถขายความเป็นตัวเองได้ สุดท้ายนิยายของคุณก็เป็นนิยายที่พบเห็นทั่วไป ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยแม้แต่น้อย

    แม้บางคนพยายามจะทำให้มันโดดเด่น อย่างมุกล่าสุด คือ พระเอกไปฆ่าเทพธิดาที่จะส่งพระเอกไปต่างโลก (เชื่อเถอะว่ามีนิยายที่ว่าจริง) แม้มันแปลก โดดเด่น แต่ในขณะเดียวกันมันเป็นมุกที่ไม่สามารถไปต่อไปได้ (คิดดูเถอะถ้าพระเอกฆ่าเทพธิดา ก็อดไปต่างโลก แล้วจะให้พระเอกไปทำอะไรต่อละ อยู่บนสวรรค์ โดนไล่ล่าเทพธิดาคนอื่น ฐานฆ่าเทพธิดาเรอะ แบบนี้ไม่ใช่แนวต่างโลกแล้วละ เอาเป็นแนวเทพมารดีไหม!?)

    เรื่องแบบนี้ต้องคิดยาวๆ ครับ อย่าคิดวันต่อวัน แหวกแนวไม่ใช่ทำสิ่งที่เกินขอบเขตสามัญสำนึกของคนอ่าน แต่มันจะทำยังไงให้น่าสนใจ สามารถต่อยอดต่อไปได้เรื่อยๆ ต่างหาก

    อย่างที่บอกไปว่าช่วงนี้นิยายแนวหลงไปต่างโลก เกิดใหม่ต่างโลกเริ่มโดดเด่น และในขณะเดียวกันก็มีนิยายแนวนี้ออกมามากมายเหมือนกัน ซึ่งเราก็ได้เห็นบ้างในเว็บเด็กดี หรือบางเว็บที่หยิบนิยายเหล่านี้มาแปล รวมไปถึงบางคนที่แต่ง (แล้วดอง) มากมาย เช่นกัน และที่แปลกคือในจำนวนนิยายพล็อตแนวๆ นี้มีเรื่องหนรึ่งโดดเด่นขึ้นมา จนถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมะฉายเมื่อต้นปี 2016 ที่ผ่านมา นั้นคือ Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo

     

                   

     

    Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo

     

    ผมมีความเชื่อว่าอีกไม่นานอาจจะถึงยุคสมัยนิยายเน็ต และต้องเป็นแนวหลงต่างโลก ฮาเร็ม (อย่าวินละ โครตน่าเบื่อเลยแหละ) เห็นได้จากซีซั่นที่แล้วโอเวอร์ลอร์ดที่หลายคนชื่นชอบ  ยอดขายแผ่นก็ไม่เบา เชื่อว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่นิยายเน็ตเรื่องอื่นๆ จะตามมาในไม่ช้า

    Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo เป็นเรื่องราวของฮิคิโคโมริคนหนึ่งชื่อ ซาโต้ คาซึมะ เป็นเด็กติดเกมที่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน และอยู่ชนบท วันหนึ่งเขาได้ตัดสินใจช่วยเด็กสาวคนหนึ่งจากรถที่กำลังพุ่งเข้ามาชน จนทำให้เขาตายลงอย่างกะทันหัน

    อย่างไรก็ตาม เมื่อซาโต้ตื่นขึ้นมาเขาก็พบผู้หญิงสวยคนหนึ่งชื่อ “อควา” เธอบอกว่าเป็นเทพธิดาที่ทำหน้าที่ชี้นำซาโต้ว่าจะไปไหน ซึ่งอควาแนะนำว่าอย่าไปสวรรค์เพื่อมันน่าเบิ่อ แล้วบอกให้ซาโต้ไปโลกเริ่มต้นชีวิตใหม่ (ที่อายุและความทรงจำเหมือนตอนที่เสียชีวิต) ในโลกแฟนตาซี เนื่องจากเห็นว่าเขาชอบเล่นเกมผจญภัย ซึ่งที่นั้นเต็มไปด้วยผจญภัยในโลกยุคกลาง (ที่โลกนี้รู้จักศัพท์ “โลลิคอน” และ “จูนิเบียว”)  และมีจอมมารกำลังรุกรานมนุษย์ หากซาโต้ยอมรับเงื่อนเขา เทพธิดาก็จะมอบพลังโกงหรืออาวุธสุดเทพไปใช้ติดตัว เพื่อให้ไปเทพในโลกนั้น

    แม้ว่าจะ งง อยู่แต่ซาโต้ก็ตั้งใจที่จะไปโลกแฟนตาซีตามคำแนะนำของเทพธิดา หากแต่ระหว่างที่เขากำลังเลือกของเทพๆ อยู่นั้น เทพธิดาก็พูดกวนเขาตลอด (เลือกเร็วๆ ตรูจะได้รีบไปเล่นดอตทู) แถมทำเหมือนไม่ค่อยสนใจเขาด้วย (อารมณ์เหมือนข้าราชการประเทศหนึ่งที่ทำขอไปที) ซาโต้จึงเกิดความหงุดหงิด และเขาก็คิดไอเดียบรรเจิดด้วยการเลือกเทพธิดา แทนที่จะเลือกของเทพๆ แทน (แหมเป็นถึงเทพ ก็น่าจะเก่งสิ) แถมปรากฏว่าเบื้องบนโอเคอีกต่างหาก ทำให้ซาโต้ได้เทพธิดาไปยังโลกแฟนตาซี และเทพธิดาจะไม่สามารถกลับสวรรค์ได้ หากจอมมารในโลกแฟนตาซีไม่ถูกโค่นลง

    แต่อนิจจา โลกแฟนตาซีในฝันของซาโต้นั้นไม่ได้เหมือนที่เขาจินตนาการเอาไว้  เมื่อเขาพบว่าอาชีพนักผจญภัยมันก็งานพาร์ทไทน์ที่โครตเสี่ยงอันตรายดีๆ นี้เอง  ทำให้ซาโต้เลือกที่จะทำงานปลอดภัยไว้ก่อน ด้วยการเป็นช่างกำแพงเมือง ทั้งวันซาโหมดไปกับการทำงานหนักทั้งวัน เพื่อแลกกับเงินจำนวนน้อยนิด ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง แถมเทพธิดาที่เก่งนักเก่งหนา เอาเข้าจริง มันยันบื้อ ไม่ได้เรื่องชัดๆ

    พอซาโต้มาคิดได้ว่าเขามาโลกแฟนตาซีเพราะจะมาผจญภัย ไม่ใช่มาทำงานจับกัง เขาก็มาเป็นนักผจญภัยอีกครั้ง หากแต่ด้วยความสามารถเขาตอนนี้แทบจะเป็นไปได้เลยที่จะสู้มอนสเตอร์ได้ ขากับอวาจึงเปิดรับสมัครหาลูกทีมฝีมือดี หากแต่สิ่งที่ได้กับได้ จอมเวทย์จูนิเบียวที่ใช้เวทย์ระเบิดวันละครั้ง กับอัศวินสาวที่ฟันดาบวืดไม่เคยโดน กลายเป็นภาระให้กับซาโต้มากขึ้นไปอีก

    Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo เป็นนิยายตลกแฟนตาซี ผลงานของ Natsume Akatsuki และวาดภาพประกอบโดย Kurone Mishima  ตอนแรกๆ เป็นนิยายเน็ต (ไม่แน่ใจผมขอไปค้นข้อมูลอีกที) จนกำลังสำนักพิมพ์ Kadokawa Shoten  และได้ตีพิมพ์เป็นรูปเล่มไลท์โนเวล ปัจจุบัน (ตอนที่เขียนบทความ) นิยายเรื่องนี้ออกมาแล้ว 8 เล่ม และมีภาคแยกคือ Kono Subarashii Sekai ni Bakuen o! ปัจจุบันออกมาแล้ว 3 เล่ม

                    สำหรับประเทศไทย Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo ได้รับลิขสิทธิ์โดย เอ พลัส บุ๊คส์ ซึ่งพึ่งวางขายเล่มหนึ่งเมื่อหลายเดือนก่อน และเล่มสองเริ่มตามมาในเดือนนี้ (กุมภาพันธ์ 2016)

                    อย่างที่บอกไป Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo เริ่มต้นจากนิยายเน็ต ในเว็บ “มาเป็นนักเขียนกันเถอะ” (เนื่องด้วยไม่ได้เป็นคนญี่ปุ่น ไม่รู้ว่าเว็บมีชื่อเสียงมากขนาดไหน แต่ให้เดาก็คงเป็นเว็บเดียวกับที่หลายคนนิยายเอานิยายที่นั้นมาแปลไทยๆ บ่อยๆ ในเวลานี้ละมั้ง) ก่อนที่จะมีสำนักพิมพ์มาติดต่อแล้วตีพิมพ์เป็นไลท์โนเวล

                    ความจริงแล้วมีนิยายเน็ตหลายเรื่องที่ตีพิมพ์เป็นไลท์โนเวล และบางเรื่องก็ดัดแปลงเป็นมังงะอยู่บ้าง แต่ Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo เริ่มมีชื่อเสียงจากการเปิดตัวอนิเมะในปี 2016 หลังจากที่อนิเมะโอเวอร์ลอร์ดที่เป็นนิยายเน็ตเหมือนกัน (แต่ไม่ได้เป็นไลท์โนเวลแบบอ่านง่าย) ที่พึ่งฉายจบในปี 2015 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นนิยายเน็ตเหมือนกัน หากแต่ทั้งสองเรื่องแตกต่างกันมาก ชนะหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะโอเวอร์ลอร์ดใช้ความเป็นดาร์คแฟนตาซีและพระเอกสายจอมมารดำเนินเนื้อเรื่อง ส่วนเรื่องหลังนั้นตรงข้ามเพราะใช้นิยายหลงต่างโลกสูตรสำเร็จมาเป็นธีมของเรื่อง และทำให้เรื่องตรงกันข้าม

                    และเพราะการทำให้ตรงกันข้าม นั้นเอง ทำให้นิยาย Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo โดดเด่นกว่านิยายแนวต่างโลกอื่นๆ ในเวลาเดียวกัน และมันก็มากพอที่ทำให้หลายคนสนใจ และมากพอที่จะทำเป็นอนิเมะ

                    ถ้าถามต่อว่า มันตรงกันข้ามยังไง ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจสูตรสำเร็จนิยายเน็ตแนวหลงไปต่างโลกและเกิดใหม่ต่างโลกเสียก่อน ซึ่งความจริงผมได้เขียนไปละเอียดพอสมควรในบทความก่อนหน้านี้แล้ว (อ่านที่ลิงค์บรรทัดล่างได้เลยครับ)

                    http://writer.dek-d.com/cammy/writer/viewlongc.php?id=125456&chapter=330

    คร่าวๆ สูตรสำเร็จของนิยายหลงต่างโลกในนิยายเน็ตปัจจุบัน จะมีทิศทางการดำเนินเรื่องเหมือนกัน กล่าวคือตัวเอกดำเนินเรื่องเป็นเด็กเนิร์ดไม่ก็พวกเก็บตัวในประเทศญี่ปุ่น แล้วก็หลงไปต่างโลกโดยเหตุการณ์หนึ่ง (ส่วนมากโดนรถบรรทุกชน, หัวใจวาย และโดนคนร้ายแทงแบบไม่มีสาเหตุ) หลังจากนั้นโลกก็เป็นสีดำ

    พอพระเอกตื่นขึ้นมาอีกที ก็เจอเทพธิดา (ไม่ก็เทพเจ้า, ไม่ก็พระราชาอัญเชิญมา) แล้วขอร้องให้พระเอกไปปราบจอมมาร (ซึ้งมันก็ไม่ใช่เรื่องของเราสักนิด) หรือไม่ก็ทำภาคกิจอะไรบางอย่าง (หรือใช้ชีวิตต่างโลกไปเลย)

    พระเอกตอบตกลงอย่างง่ายดาย เพราะเห็นว่าสนุก จากนั้นพระเอกก็ได้รับสกิลโกง อาวุธโกง ไปต่างโลก จากนั้นก็เพิ่มพลังความแข็งแกร่งเรื่อย ด้วยการปราบลูกกระจอก  แล้วจากนั้นก็ปักธงสาวๆ ที่พบระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็น จอมเวทย์, ทาสสาว, เอลฟ์, หูแมว ฯลฯ

    เนื้อหานิยายส่วนใหญ่ ส่วนมากไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องหลักๆ แบบดราม่ามากนัก หรือไม่เป็นเรื่องเป็นราวซับซ้อนมากนัก ออกไปทางใช้ชีวิตต่างโลกมากกว่า ที่พระเอกสวมบทเป็นนักผจญภัย เข้ากิลด์ ทำเควส ชีวิตโครตมีความสุข

    แม้ว่านิยายต่างโลกจะมี การเพิ่มความแปลกใหม่บ้ส เช่น พระเอกเป็นนักปกครอง พระเอกเป็นก็อบลิน นางเอกเป็นแมงมุม แต่ส่วนมากเนื้อหาก็ยังคงวนๆ เวียนๆ  อยู่ชีวิตประจำวันที่เพิ่มความแข็งแกร่งแก่ตนเองเหมือนข้างต้น จนกลายเป็นสูตรสำเร็จ ทิศทางที่คนอ่านคาดเดาได้

     



                    แล้ว Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo มันแตกต่างยังไงกับแนวหลงต่างโลกข้างต้น?

                    มองเผินๆ นิยายเรื่องนี้ดำเนินเรื่องเหมือนนิยายต่างโลกที่เราคุ้นเคยกัน ประมาณว่าพระเอกตายไปเจอเทพธิดาแล้วขอให้ไปปราบจอมมาร

                    แต่อย่างไรก็ตาม ตั้งแต้ต้น นิยาย Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo ได้นำสูตรสำเร็จแนวต่างโลกเอามาทำให้ตลก

                    เริ่มจาก พระเอกแนวต่างโลก เวลาไปต่างโลกคือมักจะโดนรถบรรทุกชนก่อน  หากแต่พระเอกซาโต้เรื่องนี้ แทนที่จะโดนรถบรรทุกชน กลับกลายเป็นช็อกตายเพราะเข้าใจผิดว่ารถแทรกเตอร์เป็นรถบรรทุกซะงั้น แถมการทำความดีของพระเอกที่ช่วยเหลือคนกลับกลายเป็นเรื่องตลกไป

                    แทนที่พระเอกจะเลือกสกิลเทพ อาวุธเทพ กลับเลือกเทพธิดา เป็นการสร้างความโดนใจแก่ผู้อ่านไม่มากก็ไม่น้อย เพราะทำไมเราต้องไปปราบจอมมารทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องขอเรา  โลกนี้จะเป็นยังไงก็ช่าง ทำไมเทพธิดาเก่งแต่สั่งอย่างเดียว ทำไมเทพธิดาไม่ไปเอง งั้นลองเลือกเทพธิดาดีไหม ถือว่าเป็นการตอกกลับนิยายต่างโลกแบบเจ็บแสบ

                    ทางด้านพระเอกซาโต้นั้น แทนที่จะกลายเป็นพระเอกสกิลเทพ สกิลโกง กลับกลายเป็นพระเอกกากธรรมดา แต่นั้นเราก็ได้เห็นพระเอกความเป็นนีทแท้ๆ เพราะถ้าหากเราอ่านนิยายต่างโลกหลายเรื่องๆ  เราจะเห็นพระเอกที่นิสัยดี เก่งเทพ จนลืมไปว่าพระเอกนั้นเคยเป็นนีทมาก่อน ทำให้หลายคนบอกว่านิยายเน็ตนั้นแต่งเพื่อสนองความเป็นนีทเท่านั้น แต่นิยายเรื่องนี้เราได้เห็นซาโต้ที่มีนิสัยเป็นนีทอยู่บ้าง เป็นต้นว่า  เช่นมีบางฉากที่บรรยายว่าซาโต้มีความบกพร่องการสื่อสารกับคนอายุมากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กนีท และเด็กเก็บตัว เราก็ต้องนึกถึงเด็กที่ไม่ค่อยเข้าสังคม การเข้าหาคน

                    ซาโต้แม้จะมีคนดี แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็มีความคิดอ่านแบบคนธรรมดาทั่วไป เมื่อเขามองว่าการเป็นนักผจญภัย เป็นผู้กล้ามันไม่ง่าย แถม “มันไม่คุ้มที่จะเสี่ยง” ได้เงินไม่คุ้มกับเรื่องอันตรายที่ต้องเจอ ดังนั้นแทนที่จะพัฒนาฝีมือตนเอง เพิ่มเลเวล ซาโต้กลับพยายามเลี่ยงเรื่องเหล่านี้ และใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในต่างโลกมากกว่า ส่วนปราบจอมมารนั้นพระเอกไม่คิดเลย เพราะพระเอกคิดว่า “ยังไงก็ต้องมีคนปราบจอมมารเข้าสักวัน แทนที่จะเสี่ยงอันตราย สู้ที่นั่งรอสบายจนวันเวลานั้นดีกว่า” ก็นับว่าเป็นพระเอกที่มีนิสัยเจ้าเล่ห์หน่อยๆ และใช้การชีวิต (แต่สาวๆ ปาร์ตี้ก็ลากซาโต้จนได้ ซึ่งหากอ่านนานๆ จะพบว่ามีเพียงซาโต้เท่านั้นที่จะเอาปาร์ตี้เทพธิดานี้อยู่)

     

     

     

     

    อีกหนึ่งจุดเด่นของนิยาย คือสมาชิกปาร์ตี้ของซาโต้ นอกเหนือจากเทพธิดาไม่เอาไหน (ไม่ดูบรรยากาศ, ดวงซวย, พลังโจมตีศูนย์) แล้ว ก็ยังมีอีกสองคนที่มีบทเด่นๆ ไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น เมกุมินจอมเวทย์โลลิ (ที่จริงอายุน้อยกว่าซาโต้นิดเดียว) ที่เป็นจูนิเบียวที่บ้าเวทย์ระเบิดขั้นสุดยอดใช้ได้แค่วันละครั้ง (เวทย์อื่นไม่มี) แถมพอพลังหมดก็ร่างกายหมดแรงต้องลำบากให้เพื่อนแบก แม้จะไร้ประโยชน์ แต่ด้วยความน่ารัก (และดูน่าแกล้ง) ก็ทำให้เธอกลายเป็นตัวละครยอดนิยมของเรื่องนี้จนมีนิยายภาคแยกต่างหาก (เป็นช่วงที่เมกุมินยังไม่ได้พบซาโต้ และเผยเผ่าเมกุมินที่จูนิเบียวทั้งเผ่า)

                    ส่วนอีกคนก็ ดัคเนส(เป็นชื่อฉายา) ครูเซเดอร์มาโซ ที่มีสกิลปป้องกันสุดยอด แต่ฝีมือดาบไม่เอาอ่าว ตีวืดตลอดหากศัตรูเคลื่อนไหว ที่เลือกอาชีพนี้ก็เพื่อสนองความเป็นมาโซของเธอ แม้ว่าจะเพี้ยน แต่บทดราม่าของเธอก็มีพอสมควร (แต่เทพธิดาทำอารมณ์ดราม่าพังหมด)  แถมมีอีเวนส์ที่ซาโต้ต้องปักธง (?) ด้วย (อย่างน้อยก็เล่มหน้าโน้นแหละ)

                    แม้ปาร์ตี้เหมือนเทพเหมือนนิยายแนวต่างโลกเรื่องอื่นๆ (ที่ปาร์ตี้จะต้องมีจอมเวทย์โลลิ กับอัศวินสาวเ)  แต่เอาเข้าจริงแล้ว มันกลายเป็นปาร์ตี้ที่ไม่สมบูรณ์แบบด้วยประการทั้งปวง และเพราะความไม่สมบูรณ์แบบนี้เองทำให้ตัวละครเกิดความโดดเด่น เป็นตัวของตัวเอง สามารถไปกันได้อย่างได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีความซ้ำซาก  เพียงแค่ลักษณะนิสัยของตัวละครเอามาเล่นนิดหน่อย ก็เพลินแล้ว

                    ที่แปลกคือหากเป็นนิยายแนวต่างโลกเรื่องอื่นๆ ปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยสาวๆ แบบนี้ พระเอกคงปักธงไม่เกินสอง-สามบทหลังปรากฏตัวออกมาครั้งแรก แต่นิยายเรื่องนี้เลือกที่จะเน้นความสัมพันธ์ระหว่างซาโต้กับเหล่าสาวๆ แบบปาร์ตี้ทำภารกิจในแต่ละวัน มากกว่าจะมีฉากปักธง แม้ว่าเล่มแรกจะไม่มีฉากปักธง  แต่เท่าที่อ่านสปอยมาเขาบอกว่าเรื่องนี้ฮาเร็มแน่นอน ซึ่งมันจะอยู่ในเล่มหลังๆ (และฮาเร็มของซาโต้นั้นคิดว่าไม่ได้มีเพียงเท่าที่หลายคนเห็นแน่นอน)

                    เป็นนิยาย แนวแฟนตาซี ตลก ที่นำเรื่องหลงไปต่างโลกเอามาทำให้ตรงกันข้ามกัน การสร้างพระเอกธรรมดา ที่นิสัยค่อนข้างฉลาด กับความคิดความอ่าน ผมเชื่อว่ามันโดนใจใครหลายคนกว่า พระเอกสกิลเทพบางคนด้วยซ้ำ รวมไปถึงมุกต่างๆ ของแนวต่างโลกก็มีทั้งเห็นในนิยายเรื่องนี้ที่ทำออกมาได้

                   


    อย่างไรก็ตาม มุกตลกในนิยาย ก็ไม่ได้เป็นตลกบ้าบอคอแตก หรือตลกเหนือตรรกะอะไรมากมาย แต่มันเป็นตลกเรื่อยๆ พออมยิ้ม ที่เล่นกับตัวละครที่ไม่สมบูรณ์แบบน่ารัก (ส่วนมาก มุกตลก จะเป็นเหล่า ตัวละครหญิงที่มีชะตากรรมแบบโชคร้ายแบบน่ารัก ไม่ก็อารมณ์แบบชมรมเพื่อนบ้าน แบบ ทำกิจกรรมแบบอนาถอะไรมากกว่า แต่เรื่องนี้ไม่อนาถรันทดมากขนาดนั้น)  และแม้เนื้อหาการดำเนินเรื่องก็ยังคงอยู่ในทิศทางของหลงต่างโลกเรื่องอื่นๆ คือการรับเควสเก็บเลเวล เพียงแต่เควสที่พระเอกทำนั้นบางอย่างเหมือนธรรมดา แต่ผลลัพท์ออกมาก็ชวนหัวได้ อย่างเควสแรกที่พระเอกทำคือ ไปฆ่ากบยักษ์ หากเรื่องอื่นๆ พระเอกใช้สกิลโกงหน่อยกบนักษ์ก็ตายอนาถแล้ว แต่เรื่องนี้ตรงกันข้ามเพราะกบกินเทพธิดาซะงั้น หรือไม่ก็เควสสู้กะหล่ำปลี่ก็ทำออกได้น่าสนใจ (เพราะเห็นแต่พระเอกสู้กับมอนอย่าง หมาป่า ก็อบลิน มาเจอกะหล่ำปลีอย่างกับประชดอย่างบอกไม่ถูก)

                    ที่นี้มาดูข้อเสียของนิยายบ้าง เนื่องด้วยนิยายเรื่องนี้มาจากนิยายเน็ต ดังนั้นการรูปประโยคก็ง่ายๆ ไปบ้าง (หากคุณว่าไลท์โนเวลใช้ภาษา การบรรยายเข้าใจง่าย เพราะใช้ประโยคไม่ซับซ้อนแล้วละก็ นิยายเน็ตใช้ภาษาง่ายกว่านี้อีก)ที่เห็นชัดคือ ฉากบรรยายความสวยของตัวละคร ขนาดฉากการบรรยายของดัดเนส พระเอกบรรยายเพียงว่า พี่สาวอายุมากกว่า สวย มาดอัศวิน เกราะหนัก เท่านั้น แต่ไลท์โนเวลเรื่องอื่นนั้นบรรยายตัวละครหญิงหลักได้ละเอียดกว่านี้อีก อย่างนิยายรักของนายคุราตะ ลองไปอ่านฉากบรรยายตัวละครหญิงตัวหลักดูสิ บรรยายได้อย่างน่ากิน การเปรียบเทียบ

                    ดังนั้นใครที่ชื่นชอบเสพความงดงามของภาษาก็ขอให้หลีกเลี่ยงเรื่องนี้โดยด่วน

     

     

     

                    สุดท้ายก่อนที่จะจบขอเขียนเรื่องซาโต้อีกนิด น่าเสียดายที่เนื้อเรื่องไม่ได้ขยายความว่าทำไมซาโต้ถึงต้องมาเป็นนีท ทั้งๆ ที่เขาฉลาด และการพูดจาก็มีชั้นเชิงพอสมควร จนดูแล้วไม่น่าจะเป็นนีทธรรมดา (ไม่เหมือนสองพี่น้องติดเกมเรื่องหนึ่งที่บอกว่าสาเหตุที่เป็นนีทก็เพราะพบว่าโลกนี้ไม่มีที่สำหรับเราสองคน)

                    ดังนั้นสิ่งที่คาดเดาคือซาโต้นั้นเป็นคนชอบ “เอาสบาย” เข้าว่า ไม่ชอบความลำบาก ไม่ชอบความเสี่ยงที่จะขาดทุน เมื่อเขาฉลาดก็ต้องเกิดความคิดว่าไปทำไมต้องไปโรงเรียน  ทำไมต้องเรียน ทำไมต้องเจอเพื่อนๆ ในเมื่อโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า “วีดีโอเกม” อยู่ และนั้นทำให้ซาโต้ไม่ไปโรงเรียน เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน เล่นเกมไปวันๆ ใช้ชีวิตแบบไร้ค่า

                    และเมื่อตามสูตร ซาโต้เสียชีวิต ได้ไปต่างโลก แน่นอนว่าถ้าเราเป็นซาโต้คิดว่าโลกแฟนตาซีเป็นสิ่งที่สนุก อยากจะผจญภัย หากแต่สิ่งที่ซาโต้เห็นกลับไม่ใช่ เมื่อพบว่าเป็นนักผจญภัยมันเหนื่อย และไม่คุ้มค่าอย่างที่เขาคิด แต่จะเอาสบายก็ไม่ได้ เพราะไม่มีพ่อแม่มาให้เงิน เทพธิดาก็ไม่ได้เรื่อง ทำให้ซาโต้ต้องมาเป็นทำงาน และนั้นเองช่วงหลังๆ เราจะเห็นซาโต้ชอบหาที่สบายกว่าใครเพื่อน และเกิดความคิดไม่อยากจะฆ่าจอมมาร รอคนอื่นมาปราบดีกว่า (เพราะซาโต้ไม่ได้เป็นคนเดียวที่มาโลกนี้เพราะเทพธิดาสักหน่อย)

                    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าซาโต้จะไม่ได้เก่งอะไร สกิลที่ใช้ก็ไม่ค่อยมีใครใช้กัน (เพราะมันไม่ใช่สกิลสายทำลาย) แต่พวกสาวๆ ต่างหวังพึ่งซาโต้ ส่วนหนึ่งเพราะซาโต้มีคือความฉลาด ไหวพริบ เหมือนเป็นการตอกกลับพวกผู้กล้าแนวต่างโลกที่ส่วนใหญ่สมองกล้าม ไม่ก็ใช้แต่พลังโกงจนเคยชิน จนแทบไม่ต้องทำอะไรมากมาย อะไรก็สวยงาม ปูด้วยคอนกรีตหมด


     

     

                    ซึ่งก็น่าติดตามว่าทิศทางของซาโต้จะเป็นเช่นใดต่อไปในอนาคต

     

    สรุปคือ แม้ว่าจะมีอะไรหลายอย่างที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่นิยายยัยเทพธิดาไม่ได้เรื่องก็นำหลัก “Deconstructive Parody” (ล้อเลียน) เอามาใช้กับแนวหลงไปต่างโลก จนทำให้โดดเด่นขึ้นมา ไม่แปลกแต่อย่างใดที่ทำให้ถูกหยิบมาสร้างเป็นอนิเมะ และผลตอบรับค่อนข้างดีมาก ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่นิยายเน็ตเรื่องอื่นๆ (และเนื้อหาน่าสนใจ) จะเป็นอนิเมะตามมาในอนาคต

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×