ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #277 : ความผิดพลาดของยางามิ ไลท์!? ที่ถึงขั้นหายนะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.38K
      9
      8 เม.ย. 57

                   

                    สำหรับบทความนี้ขอพูดการ์ตูนดังๆ ที่หลายคนรู้จักกันอยู่แล้ว อย่างเดธโน้ต (Death Note) แม้ว่าจะเป็นการ์ตูนที่จบไปนานแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงเป็นการ์ตูนดังที่หลายคนรู้จัก และทุกวันนี้การ์ตูนหลายเรื่องก็ยังเอาเอาเรื่องเดธโน้ตไปล้อเลียนอย่างสนุกสนานไม่รู้เบื่อเช่นเดิม

                    เดธโน้ต เป๊นการ์ตูนมังงะ เนื้อเรื่องโดยสึงุมิ โอบะ และวาดภาพโดยทาเคชิ โอบาตะ (คนวาดคนนี้วาดหลายแนวก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นแนวเล่นโกะ, แอ็คชั่น, ตลก สืบสวนก็เคยทำมาแล้ว) ลงตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ของสำนักพิมพ์ชูเอชะระหว่างปี 2003-2006  และตีพิมพ์รวมเล่มออกจำหน่ายทั้งหมด 12 เล่ม ส่วนในประเทศไทยผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในการตีพิมพ์คือ เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ โดยลงตีพิมพ์เป็นรายสัปดาห์ในนิตยสารบูม

                    หลายคนคงรู้ดีว่าจัมป์เป็นการ์ตูนรายเดือนที่เน้นกลุ่มเด็กเยาวชนที่เป็นผู้ชายเป็นหลัก ดังนั้นการ์ตูนส่วนใหญ่จะออกไปทางแอ็คชั่น ผจญภัย ตลก มิตรภาพ กีฬา เป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตามเดธโน้ตกลับตรงกันข้าม เมื่อเนื้อหาของการ์ตูนเป็นแนวดาร์ก สืบสวน, จิตวิทยา และเหนือธรรมชาติ ทั้งเรื่องมีแต่บทสนทนา  และเป็นการ์ตูนไม่กี่เรื่องที่พระเอกเป็นคนชั่วร้าย

                    ไม่นานหลังจากที่เดธโน้ตลงรายสัปดาห์จัมป์ การ์ตูนเรื่องนี้ก็กลายเป็นที่รู้จักของใครหลายคน เนื่องด้วยเนื้อหามีความน่าติดตาม ตัวละครที่โดดเด่นไม่ว่าจะเป็นยางามิ ไลท์และ L สุดหล่อของใครหลายคน โดยเฉพาะเหล่าสาวๆ ต่างเอาสองหนุ่มนี้ไปจิ้นวาย ทำให้จัมป์ได้ใจกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นผู้หญิงด้วย อีกทั้งแนวคิดประเด็นของเรื่องค่อนข้างแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เล่นกับความรู้สึกของคนในสังคม และนั้นเองทำให้การ์ตูนมีชื่อเสียงในที่สุด

                    เนื้อเรื่อง Death Note แบ่งเป็นสองภาค หากพูดภาษาปากก็คือ ภาค L” และ ภาคเนียร์ และเมลโล ซึ่งเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเด็กมัธยมปลายที่กำลังสอบเข้ามหาลัยคนหนึ่งชื่อ ยางามิ ไลท์เขาเป็นเด็กหัวดีสอบติดอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ได้พบ สมุดบันทึกมรณะ  (เดธโน้ต) เล่มหนึ่ง ซึ่งเมื่อเขาอ่านข้อความสมุดเล่นๆ ก็พบว่ามันเป็นข้อความอธิบายคุณสมบัติของหนังสือว่า หากสมุดเล่มนี้สามารถฆ่าคนได้ โดยการเขียนชื่อคนที่ต้องการฆ่าลงในสมุด ที่ถูกเขียนชื่อจะเกิดอาการหัวใจวาย เสียชีวิตภายใน 40 วินาที แต่ทั้งนี้คนเขียนต้องรู้จักหน้าของคนผู้นั้นและต้องเป็นชื่อจริงเท่านั้นจึงจะเกิดผล และนอกจากนี้ยังมีกฎยิบย่อยอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสามารถเขียนการตายแบบต่างๆ ได้ไม่เพียงแค่หัวใจวายเท่านั้น  และสามารถกำหนดวันเวลาตายได้อีกด้วย              

                    แน่นอนว่าตอนแรกไลท์อ่านคุณสมบัติของสมุดก็นึกว่าเป็นเรื่องอำ เล่นมุก แต่ก็อดไม่ได้อย่างทดลองดู พอดีในเวลานั้นเขาเห็นคนร้ายคนหนึ่งปรากฏในข่าวโทรทัศน์ กำลังก่อคดีจี้ตัวประกัน เขาเลยเขียนชื่อของคนร้ายลงไปในสมุด และปรากฏว่าคนร้ายได้ตายจริงตามที่สมุดบอกเอาไว้

    แต่ไลท์ยังไม่เชื่อสนิทใจ ต่อมาเขาทดลองอีก คราวนี้เขาเขียนชื่ออันธพาลคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ ลงในสมุดโน้ต และปรากฏว่าอันธพาลคนนั้นได้ตายจริงต่อหน้าต่อตาเขา และนั้นเองทำให้เขาเชื่อว่านี้คือสมุดของจริง

    หลังจากนั้นไลท์ก็จิตตกไปหลายวัน เพราะเขาทำให้คนตายสองราย หากแต่เมื่อทำใจได้ เขาก็เริ่มมีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงโลก โดยเริ่มใช้สมุดโน๊ตฆ่าอาชญากรและคนชั่วให้หัวใจวายตาย

    ต่อมาไลท์ก็ได้พบเจ้าของสมุดโน้ต แน่นอนว่าเจ้าของไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นยมทูตที่ชื่อ ลุค ซึ่งยมทูตคนนี้เกิดความเบื่อหน่ายที่ยมโลกไม่มีอะไรน่าสนุกให้ทำเลย จึงคิดสนุกเอาสมุดโน้ตน่ากลัวนี้ทิ้งไว้บนโลกเพื่อหวังว่าจะมีใครก็ได้มาเก็บ แล้วทำให้เกิดเรื่องสนุกเท่านั้น ซึ่งไลท์เห็นด้วยกับลุค เพราะชีวิตของเขาก็น่าเบื่อเหมือนกัน เพราะเหตุนี้เองเขาจึงใช้สมุดโน๊ตเพื่อเปลี่ยนโลกขึ้น

    ไลค์ยังคงปฏิบัติการเขียนชื่ออาชญากรลงในสมุดโน๊ต จนอาชญากรหัวใจวายล้มตายเป็นจำนวนมาก ต่อมาก็บานปลายเพราะไลค์เขียนชื่ออาชญากรทั่วโลก รวมไปถึงอาชญากรที่จำคุกเพื่อรอการตัดสินอยู่ลงในสมุดโน๊ตด้วย  จนผู้คนในอินเทอร์เน็ตขนามการกระทำนี้ว่า คิระ เป็นเหตุทำให้องค์กรตำรวจโลก (ICPO) ไม่อยู่เฉยจึงทำการจัดประชุมใหญ่ขึ้นเพื่อไล่ล่าคิระให้ได้ และนั้นเองนักสืบลึกลับระดับโลกคนหนึ่งชื่อ “L” ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น และประกาศว่าจะสอบสวนคดีนี้ เพื่อตามล่าคิระมาลงโทษให้ได้

    ไลค์ยังได้ใจจัดการเขียนชื่ออาชญากรอย่างต่อเนื่อง แต่ทันใดนั้นโทรทัศน์ก็มีรายการพิเศษขั้นรายการ เป็นรายการถ่ายสดที่ปรากฏชายคนหนึ่งที่อ้างว่าคือ  L” นักสืบระดับโลกที่สัญญาว่าจะสอบสวนตามล่าคิระมาลงโทษให้ได้ และประณามว่าสิ่งที่คิระทำอยู่เป็นสิ่งชั่วช้า

    นั้นเองทำให้ไลท์โกรธมากจึงเขียนชื่อชายคนนี้ลงไปจนตายคารายการโทรทัศน์ แต่กลายเป็นว่าคนที่ตายเป็นเพียงอาชญากรนักโทษประหาร ที่แอลเอามาหลอกล่อให้คิระฆ่าเท่านั้น และนั้นเองทำให้ไลท์ผูกใจเป็นอันมาก (เพราะโดนหลอก)  และแล้วทั้ง ไลท์ และ “L” ก็ต่างกล่าวออกมาพร้อมกันว่า "ฉันจะต้องหาตัวนาย และจัดการนายให้ได้ เพราะฉันนี่แหละ คือฝ่ายที่ถูกต้อง และนี่คือจุดเริ่มต้นการต่อสู้หักเหลี่ยมเฉือนคมในประวัติศาสตร์การ์ตูนญี่ปุ่น (ปานนั้น?)

     


    ไลท์กับลุค

     

    แม้ว่าเดธโน้ตจะไม่ได้ใช่การ์ตูนที่ดีเลิศ ชนิดว่าไม่มีจุดบกพร่อง แต่กระนั้นก็เป็นการ์ตูนที่หลายคนชอบ และยังพูดถึงอย่างไม่มีเสื่อมคลาย แน่นอนว่าสาเหตุส่วนใหญ่คือตัวละครในเรื่องค่อนข้างมีมิติ  มีความแปลกใหม่ แน่นอนว่าตัวละครที่ขาดไม่ได้คือ ยางามิ ไลท์ ซึ่งถือว่าเป็นตัวละครที่หลายคนเอาวิเคราะห์ ถกกันอย่างสนุกสนาน

    และที่น่าสนใจคือ ตัวละครหลักในเรื่องนี้ ไม่มีตัวละครไหนเลยที่มีสีขาว คือไม่มีตัวละครใดที่เป็นคนดีแบบสุดซึ้ง ไลท์ออกไปทั้งสีดำ(ตอนแรกออกไปทางเทาๆ) ส่วน “L” เองใช่ว่าจะเป็นคนดี (การสืบสวนค่อนข้างขาดมนุษย์ธรรม ใช้วิธีทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ในการไล่ล่าตัวคิระ ไม่ว่าจะเป็นละเมิดความเป็นส่วนตัว, กักขัง, เหยื่อล่อ, มนุษย์ทดลอง ฯลฯ)  หากมีก็คือพ่อของไลท์นี้แหละที่ดีกว่าใครเขาเพื่อน ซึ่งถือว่าแปลกดีสำหรับจัมป์เพราะการ์ตูนจัมป์นั้นมักนำเสนอความดีและความชั่วแบบชัดเจน แบ่งฝ่ายชัดเจนกว่า และหลายคนเรียกแนวการ์ตูนแบบเดธโน้ตนี้ว่า แนวดาร์ก

    เดธโน้ตเกือบทั้งเรื่อง ดำเนินเรื่องโดยผ่านมุมมองของยามางิ ไลท์ ที่พยายามใช้เดธโน้ตเปลี่ยนโลก แต่ต้องถูกขัดขวางจาก “L”, “เมลโลและ เนียร์ไลท์จึงต้องหาวิธีต่างๆ นาๆ เพื่อกำจัดคนที่ขัดขวางของตนเหล่านี้ให้สิ้นซาก

    แน่นอนว่าเราได้เห็นการหักเหลี่ยมเฉือนคนของตัวละครในเรื่อง โดยเฉพาะไลท์ที่วางแผนการอย่างชาญฉลาด ซับซ้อน จนสามารถเอาชนะ “L” ลงได้ จนหลายคนยกย่องถึงความเก่ง (ว่ามันวางแผนได้ไง)  แต่อย่างไรก็ตาม ผลสุดท้ายไลท์จะเสียท่าให้กับ เนียร์ไปในที่สุด

    คำถามตามมาคือไลท์พลาดตรงไหนถึงเสียท่าให้แก่เนียร์ได้?

    แน่นอนว่าสาเหตุที่ไลท์แพ้เนียร์ เพราะเนียร์เก่งกว่า แต่อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปในช่วงไลท์ยังไม่ได้รู้จักกับเนียร์นั้น เราจะพบอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับยามางิ ไลท์มากมายว่า มีหลายครั้งที่พระเอกที่ได้ทำผิดพลาดลงไปอย่างไม่รู้ และความผิดพลาดนั้นนำมาซึ่งหายนะในตอนท้าย นอกจากนี้มีหลายครั้งที่สามารถอธิบายได้ภายใต้ภาพลักษณ์ที่ดูอัจฉริยะนี้ไลท์ไม่ได้เป็นอัจฉริยะอะไรเลย เขาเป็นเพียงมนุษย์ที่มีความคิดอ่านแบบเราๆ  เข้าทำนองผลิตผลจากการเรียนที่สอนเด็กมีแต่ไอคิว แต่ไม่มีอีคิว

     

     

    ไลท์ตอนปรากฏตัวครั้งแรกน่ารักมากๆ

     

    จากเด็กเรียนธรรมดาสู่ด้านมืดเพราะอำนาจที่ยิ่งใหญ่ แน่นอนว่าก่อนจะพูดว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้ไลท์ผิดพลาด เราต้องมาดูสภาพชีวิตของไลท์ก่อนว่าเขาเป็นอย่างไง

    ยางามิ ไลท์เกิดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 1986 (ในอนิเมะเป็น 1989) เติบโตมาครอบครัวที่พบเห็นในญี่ปุ่น ที่ประกอบด้วย พ่อ, แม่ และน้องสาว สภาพครอบครัวอบอุ่น ปกติสุข แม้ว่าพ่อของเขาจะเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เคร่งครัดต่อหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้เอาความเคร่งครัดนี้ไปใช่กับครอบครัว

    ในด้านการศึกษานั้น ไลท์เป็นเด็กฉลาด จากการสอบวัดระดับทั่วไปประเทศพบว่าไลท์ติดอันดับ 1 ในช่วงไลท์ได้เดธโน้ตนั้นไลท์เรียนเอกชนมัธยมปลายสุดท้าย และใกล้สอบเข้าเรียนมหาลัยโตโฮ และยังเรียนพิเศษเสริมอีก

    นิสัยของไลท์ค่อนข้างเป็นคนเรียบร้อย เห็นได้จากการแต่งกายที่มีความเป็นระเบียบ  หน้าตาดีมีสาวหลายคนแอบชอบ และเขาก็มีแฟน (คู่หมั้น) แม้ไม่ได้ร่ำรวยอะไรอีก แต่ก็ไม่ขัดสน ชีวิตเรียกว่าสมบูรณ์แบบ

    แต่ภายใต้เด็กเรียบร้อยนั้น ไลท์กลับมีอะไรบางอย่างก่อตัวขึ้นช้าๆ นั้นคือ เขาเบื่อ และมีความคิดไม่พอใจสังคม เขาเกลียดสิ่งชั่วร้าย ไม่พอใจระบบความยุติธรรมของญี่ปุ่น แน่นอนว่าความคิดของไลท์นั้นมันช่างโดนใจใครหลายคน ทุกวันนี้เราเปิดมาดูข่าวโทรทัศน์ เราก็เห็นข่าวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองขี้ฉ้อ, ฆาตกรต่อเนื่อง, ผู้นำเผด็จการผู้ชั่วร้าย ไปจนถึงเกรียนเน็ต คนเหล่านี้เอารัดเอาเปรียบคนอื่น มีชีวิตสุขสบายกว่าคนอื่น แต่ไม่เคยรับผลกรรมอะไร  แม้จะมีกฎหมาย แต่กฎหมายไม่สามารถเอาผิดกับคนชั่วเหล่านี้เลย   แน่นอนหลายคนเห็นข่าวเหล่านี้ก็เกิดความคิดว่าจะมีใครสักคนที่จะพิพากษาพวกเลวๆ แบบนี้บ้าง ให้โลกมันสูงขึ้น

    แน่นอนว่าเราเป็นคนธรรมดา แม้มีความคิดอยากกำจัดคนชั่ว แต่เราไม่สามารถฆ่าคนชั่วเหล่านี้ได้ เพราะเราถูกกดด้วยกฎหมาย สถานะ หน้าที่ ความผิดชอบ ศาสนาสอนไม่ให้ฆ่าคน ความรู้สึกผิดบาป การไม่มีความกล้าฆ่าคน (มันโหดร้ายสิ้นดี) ความเสี่ยงอะไรมากมาย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราได้แต่คิดเท่านั้น ไม่สามารถฆ่าคนชั่วโดยมือตนเองได้

     หากแต่ไลท์นั้นแตกต่างกันคนอื่นเพราะเขามีเดธโน้ต ซึ่งถือว่าเป็นอาวุธฆ่าคน ที่สะดวกสบายที่สุดในสามโลก  ไม่จำเป็นต้องวางแผนยุ่งยาก ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องมีคนร่วมมือ ไร้ร่องรอย  ไม่ต้องกลัวความผิดพลาด (หากรู้หน้าและชื่อจริงของผู้ต้องการฆ่าได้) เพียงแค่เขียนชื่อคนที่ต้องการฆ่าเท่านั้น อีกทั้งผู้ใช้ก็ไม่รู้สึกผิดบาปอะไรมากมายอีกด้วย

    ในช่วงแรกไลท์เขียนชื่อคนไม่ดีสองคนลงในสมุดโน๊ต ก็มีอาการจิตตกไปพักใหญ่ อย่างไรก็ตามหลังจากตั้งสติได้ ไลท์เริ่มพิพากษาคนชั่ว เพราะเชื่อว่าโลกนี้ เน่า เขาอยากเปลี่ยนโลกใหม่ โลกใหม่ที่ว่าคือการสร้างโลกที่มีแต่ความยุติธรรม ประชากรมีแต่ความซื่อสัตย์ มีแต่ความดี ไม่มีความชั่ว และตัวเขาจะกลายเป็น พระเจ้าของโลกใหม่ 

    ไลท์จัดการเล่นบทพระเจ้าโลกใหม่ด้วยการแสดงให้โลกเห็นว่าตอนนี้มีคนที่สามารถกำจัดคนชั่วได้อย่างง่ายดาย แสดงให้คนทั้งโลกเห็นว่าตอนนี้โลกมัน เน่าสมควรชะล้างใหม่ และคนที่ว่าสามารถแบกรับภาระในการปรับปรุงโลก ซึ่งต่อมาหลายคนเรียกเขาว่า คิระ สังคมอินเทอร์เน็ตต่างอวยผิดกับผู้มีอำนาจและตำรวจต่างประณาม

                    หากใครดูตอนแรก เราจะเห็นไลท์น่ารักมาก (คล้ายๆ ฮิคารุเซียนโกะตอนเป็นเด็กอย่างงั้นแหละ) มีแววตาที่สดใส ยิ้มแย้ม เป็นพี่ที่ดีต่อน้อง และเป็นที่ภูมิใจของครอบครัว หากแต่วินาทีที่ไลท์ได้รู้จักเดธโน้ต ไลท์ได้เปลี่ยนไป.... ไลท์เข้าสู่ด้านมืดของพลัง และนี่คือความผิดพลาดครั้งแรกของไลท์

                    เดธโน้ตนั้นเปรียบเหมือนพลังที่ยิ่งใหญ่ แน่นอนว่าว่าพลังที่ยิ่งใหญ่ ผู้ใช้ต้องมีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ด้วย และพลังที่ว่านั้นมันจะเป็นด้านสว่างหรือด้านมืดขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ว่าผู้ใช้จะใช้พลังนี้ทำอะไร จะใช้เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง หรือประโยชน์ส่วนรวม หรือไม่ใช่มันเลย

                    แต่ไลท์เลือกที่จะใช้เพื่อประโยชน์ส่วนรวม คือตั้งใจเปลี่ยนโลกจริงๆ จากตอนแรกที่ไลท์คิดเพียงญี่ปุ่นเท่านั้น แต่เดธโน้ตมันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่เกินไป ทำให้ไลท์คิดถึงระดับโลกเพื่อเหมาะสมกับพลัง

                    แน่นอนตอนแรกหลายคนเอาใจช่วยไลท์ เราเห็นไลท์คนธรรมดาคนหนึ่ง ใช้เดธโน้ตกำจัดคนชั่วมากมายบนโลก ตอนนั้นหลายคนมองว่าไลท์มองเป็นผู้เสียสละ ยอมเป็นคนชั่วเพื่อให้สังคมดีขึ้นจริงๆ

                     แต่อย่างไรก็ตาม นานไป เราก็ได้เห็นว่าไลท์ได้เปลี่ยนไป เราจะพบว่าภายใต้คนดี ที่ยอมเป็นคนชั่วเพื่อผู้อื่น ธาตุจริงแล้วก็ไม่แตกต่างอะไรกับคนชั่วที่ไลท์ฆ่าแม้แต่น้อย

                    การเปลี่ยนไปของไลท์นั้นเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ตอนแรกไลท์มีแววตาสดใสและมีความมุ่นมั่นที่จะกำจัดคนชั่ว  หากแต่นานวันเราก็พบวาไลท์หน้าตาเปลี่ยนไป จากแววตาที่สดใสตอนแรก ก็เริ่มมีแววตาที่ชั่วร้าย หน้าตาเงียบขรึม ดูแล้วไม่แตกต่างอะไรไปจากตัวโกงในการ์ตูนทั่วไปมากนัก

                                   ความจริงแล้วไลท์ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย หากแต่เมื่อการ์ตูนดำเนินเรื่อง เราก็พบนิสัย ข้อบกพร่องของไลท์มากมายเต็มไปหมด ที่ไลท์เผยแต่ละอย่างดูแล้วไม่เหมือนเป็นคนฉลาดหรืออัจฉริยะอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็น คนที่มีอีโก้คิดว่าตนเองเป็นผู้ถูกเลือก เป็นศูนย์กลางจักรวาล ตนคิดอะไรก็ต้องถูกหมด ความคิดของตนไม่ผิด  หากมีความคิดต่างจากตนถือว่าผิด อีกทั้งยังมีความทะเยอทะยาน ตีสองหน้า (ต่อหน้าทำเป็นสุภาพ แต่ลับหลังเถื่อน) ไม่ค่อยมีความละเอียดอ่อน ไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลัง เหยียดหยามผู้อื่น หากน็อตหลุดจะวู่วาม (เห็นได้จากเสียท่าให้  L” ตอนแรก) เก่งแต่หลอกใช้คนโง่และผู้หญิง เป็นผู้แพ้ไม่เป็น ต้องการเอาชนะ และจะต้องเอาชนะให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม นิสัยแบบนี้ไม่แปลกใจอะไรเลยที่ช่วงหลังคนอ่านหมดสิ้นศรัทธาที่มีต่อไลท์  ไม่เอาใจช่วยไลท์ อละอยากเห็นไลท์ตายในที่สุด

                                   แน่นอนว่าส่วนหนึ่งที่ไลท์เป็นแบบนี้เพราะถูกอำนาจมืดเข้าครอบงำด้วย เพียงแต่ว่าอำนาจมีหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเท่านั้น ด้านมืดของไลท์นั้นมันมีแต่ต้นอยู่แล้ว เพียงแค่ได้รับการกระตุ้นนิดหน่อย ด้านมืดของไลท์ก็เผยออกมาเอง

                                   อย่างไรก็ตาม แม้คนอ่านได้เห็นไลท์เปลี่ยนไปตลอดทั้งเรื่อง ภาพของคิระไม่ได้สวยหรูอย่างที่เราเห็นเหมือนภาพนอก แต่ประชาชนในเรื่องยังคงเทิดทูนบูชาคิระ เพราะพวกเขาไม่รู้ตัวตนจริงๆ ของคิระว่าเป็นอย่างไร ถ้าคนทั่วโลกรู้ว่าแท้จริงแล้วคิระเป็นเพียงแค่มนุษย์เดินธรรมดาไม่แตกต่างอะไรไปจากคนเราเลย สไปจนถึงวิธีฆ่าผู้ร้าย ใครๆ ก็สามารถทำได้ บางทีคนทั่วโลกคงเลิกศรัทธาคิระไปแล้ว

                                   สิ่งที่หลายคนศรัทธาคิระ ก็คือภาพลักษณ์ที่เปรียบเสมือนเทพเจ้า ผู้พิพากษาคนชั่ว ไลท์ก็คล้ายๆ พวกหัวหน้าก่อการร้าย  ที่เอาเรื่องศาสนา ความเชื่อมาตีความใหม่ (ไลท์พูดเรื่องโลกใหม่ และประชาชนก็โยงความเชื่อมาเป็นคิระด้วย) การใช้พลังเหนือธรรมชาติมาใช้ประโยชน์เพื่อสร้างตนเองให้ดูขาวสะอาด เป็นผู้ถูกเลือก การชี้เป็นชี้ตาย การใช้ความกลัวปกครองมนุษย์ รวมไปถึงการใช้โลกใหม่ ไปจนสงครามศักดิ์สิทธิ์ สิ่งเหล่านี้แหละที่พวกกลุ่มก่อการร้ายมาใช้ล้างสมองอยู่บ่อยๆ

                                   และส่วนมากผู้ก่อการร้ายใช้วิธีแบบนี้มักมีจุดจบไม่ค่อยสวยเสียด้วย      

                                  

                     

                    ภาพเจ้าพ่อเรียกวิญญาณไลท์มาประทับทรง

                    (จากมังงะ ท่านยมทูตกับแฟนสาวทั้ง4)

     

    โลกใหม่ของไลท์? และสิ่งที่ขัดแย้ง ถ้าผมเจอไลท์ เด็กฉลาดที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ผมก็อยากจะถามไลท์ว่า หากเป้าหมายของไลท์คือต้องการให้โลกนี้ปราศจากคนชั่วจริง เปลี่ยนแปลงโลก จนกลายเป็นโลกใหม่จริง แล้วเมื่อไหร่โลกใหม่ที่ว่าจะเกิดขึ้น?

    หากไลท์ฉลาดจริงว่าน่าจะรู้ว่าต่อให้มีพลังวิเศษวิโสยังไง เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจของมนุษย์ได้ โลกใหม่ที่ไลท์ว่าจะกำจัดคนชั่วหมดไปจากโลกนั้นไม่มีทางมาถึงแน่นอน ตราบใดที่มีมนุษย์ ความชั่วก็ยังมีอยู่ดี

                    สิ่งที่ไลท์ทำอาจเปลี่ยนสังคม แต่มันก็เป็นแค่เปลือก เป็นแค่ชั่วคราว เพราะภายในยังคงเต็มไปด้วยคนชั่ว ฆาตกรต่อเนื่อง ผู้ก่อการร้ายที่ไม่เห็นหน้า ไปจนถึงคนร้ายที่รอให้เรื่องเงียบ (คิระหายไป) ค่อยก่ออาชญากรรมชั่ว จึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่เมื่อคิระตายแล้วอาชญากรรมก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ

    จุดประสงค์ของกฎหมายนั้นนอกจากพิพากษาคนร้ายอย่างยุติธรรมแล้ว มันก็มีหน้าที่กดความชั่วของมนษย์ คิระก็เช่นกันที่ทำหน้าที่เหมือนกฎหมายในการกดคนชั่ว เพียงแต่กรณีของคิระขาดยุติธรรม แความกลัวใช้ปกครองคน แต่ได้แค่คนธรรมดา เพราะคนร้ายที่มีจิตใจชั่วร้ายไม่ได้ถูกปกครอง กลับกันพวกเขา ก็มีวิธีรับมือได้เช่นกัน (คนร้ายใช่ว่าจะโง่ทุกคน) พวกเขาเพียงแค่ปรับเปลี่ยนวิธีเพื่อรับมือสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปเท่านั้น

    สิ่งที่ไลท์ ทำอยู่นั้นมีเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน เมื่อไหร่จะสิ้นสุด เมื่อไหร่จะสำเร็จ เป็นแผนการที่ไม่มีวันเป็นไปได้  นอกจากไลท์จะฆ่าคนให้หมดโลกเท่านั้น

     

     

    ไลท์ระเบิดเสียงหัวเราะลั่นบ้าน

     

                    ความยุติธรรมของไลท์ และนอกจากนี้การพิพากษาคนชั่วของไลท์มีปัญหา หากเราพิจารณา จะพบว่าไลท์จัดการฆ่าคนชั่วหมด ไม่ว่าคนชั่วจะมีโทษหนักหรือโทษเบาก็ตาม หากผิดกฎหมาย ไลท์จัดการหมด เพราะคิดว่าหากคนไม่ดีตายไป สังคมต้องสงบสุขแน่นอน

    โดยส่วนมากแล้วไลท์รู้จักคนชั่วเหล่านี้จากสื่อโทรทัศน์ แล้วพยายามจำหน้าและเขียนชื่อคนชั่ว อาชญากรลงในสมุดโน๊ตมากที่สุดเท่าที่ทำได้ แน่นอนไลท์คิดว่าสิ่งที่ถูกต้อง ตนเองได้ฆ่าคนชั่วเหล่านี้

    แต่วินาทีนี้แหละที่ไลท์ผิดพลาด

    ในเมื่อไลท์ เก่งเรื่องกฎหมาย รู้เรื่องความยุติธรรม แต่วินาทีที่ไลท์ตัดสินใจพิพากษาคนชั่ว ไลท์ก็กลายเป็นคนไม่ยุติธรรมแล้ว

    แน่นอนการเป็นศาลเตี้ยย่อมไม่ดีแน่ แต่เกณฑ์จำกัดคนชั่วของไลท์นั้นมีปัญหามาก มีอยู่ฉากหนึ่งที่ไลท์พิพากษาคนชั่วคนหนึ่ง ดยข่าวได้ประกาศว่าเป็นผู้ต้องสงสัยยักยอกเงินธนาคาร ไลท์พิพากษาทันที โดยหารู้ไม่ว่าคำว่า ผู้ต้องสงสัย คือบุคคลที่ถูกสงสัย หรือถูกสันนิษฐานไว้เบื้องต้นว่าอาจจะได้กระทำความผิด แต่ไม่ได้ชี้ชีดว่าทำหรือไม่ทำกันแน่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลักฐานและพยาน ดังนั้นจำเป็นต้องการตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งอาจเป็นพยานสำคัญ หรือเบาะแสเชื่อมโยงแก่คดี หากแต่เมื่อไลท์สังหารผู้ต้องสงสัย เท่ากับว่าตำรวจไม่สามารถปิดคดีนี้ได้เพราะผู้ต้องสงสัยที่ว่าตายแล้ว

    ไลท์น่าจะรู้ว่า หนึ่งคดีใช่ว่าจะมีผู้ก่อคดีเดียว ยังมีผู้จ้างวาน หรือคนบงการที่จับตัว ที่ยังสืบอยู่ เบาะแสก็คือคนร้ายที่เป็นลูกน้องที่จับได้ แต่ไลท์กลับพิพากษา เท่ากับฆ่าปิดปาก หรือตัดเบาะแสไปอย่างง่ายดาย กลายเป็นว่าแทนที่คนชั่วจะลดลง แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงปลาซิว ปลาสร้อย ปลาใหญ่ยังลอยนวล อย่างสุขอุรา อย่างที่เห็นในภาคเนียร์และเมลโล

    ไลท์คิดหรือไม่ว่าหนึ่งในจำนวนที่ไลท์ฆ่าเหล่านี้ยังมีผู้บริสุทธิ์อยู่มากที่ถูกคุมขัง และบางคนทำความผิดเพราะการป้องกันตัว หรือจำใจทำ (โดนบังคับ, ถูกใส่ร้าย) ยังรอการตัดสินของศาล แต่ไลท์ยังคงกระทำสิ่งที่เรียกว่าศาลเตี้ย ฆ่าคนเหล่านั้น แทนที่จะเข้ากระบวนการยุติธรรม แน่นอนคนที่ถูกไลท์พิพากษายังมีครอบครัวหรือคนรักที่ยังรอพวกเขาอยู่ แต่ไลท์ไม่ได้คิดเรื่องเหล่านี้เลย พิพากษาเพราะเห็นว่าพวกเขาติดคุก นั้นคือคนชั่ว และเมื่อเป็นแบบนี้ย่อมมีคนไม่พอใจคิระแน่นอน บางทีอาจมากด้วยซ้ำ เพราะสังคมย่อมรังเกียจศาลเตี้ย ความไม่ยุติธรรมอยู่แล้ว แต่น่าเสียดายที่ในเรื่อง เราไม่ได้เห็นคนกลุ่มนี้มากนัก จะมีแต่ตำรวจเท่านั้น ทั้งๆ ที่คิระฆ่าผู้บริสุทธิ์มากมาย น่าจะมีกลุ่มที่ต่อต้านการกระทำของคิระบ้าง

    นอกจากนั้น หลัง “L” ตาย หลายประเทศยกเลิกการเอารูปและชื่อคนร้ายออกโทรทัศน์ แต่กระนั้นก็มีบางส่วนเอาภาพคนร้ายที่อ้างว่าเป็นคนชั่วโพสลงอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ไลท์พิพากษา ตรงจุดนี้ ไลท์ก็น่าจะรู้ว่าข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตนั้นอาจไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจเป็นเพียงแค่ข่าวลื่อ บางกรณีคนโพสต้องการหวังประโยชน์ ไลท์ก็พิพากษาโดยไม่ตรวจสอบอะไรเลยแม้แต่น้อย กลายเป็นว่าคนฉลาดได้กลายเป็นเครื่องมือของคนอื่นโดยไม่รู้ตัว คิระไม่แตกต่างอะไรไปจากตัวตลกในสังคมแม้แต่น้อย

    ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าไลท์เป็นคนฉลาดก็จริง มีความตั้งใจ แต่ขาดความละเอียดอ่อนตั้งแต่แรก ไม่ค่อยพิจารณาอะไรมากนัก  คิดแบบเด็กๆ ว่าความกลัวจะสามารถปกครองคนได้ ไปจนการสร้างตัวตนของคิระจะสามารถทำให้ทุกคนนับถือได้ แต่กลายเป็นว่าพระเจ้าของไลท์กลายเป็นตัวตลกสำหรับใครหลายคน ผลสุดท้ายทั้งหมดก็ล้มเหลว

                   

                   

                    ไลท์กับเอฟบีไอ


                    ความบกพร่องแผนของไลท์หากมองแบบผิวเผินจะพบไลท์เป็นยอดนักวางแผน เก่งเรื่องการวางแผนล่วงหน้า สามารถคาดการณ์สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอนาคตอย่างแม่นยำ และสามารถคิดแผนได้อย่างรวดเร็วแม้จะอยู่ในสถานการณ์กะทันหันก็ตาม

                    แต่..... ภายใต้ความฉลาดในการวางแผนนั้น พบว่าแผนของไลท์มีจุดบกพร่องเต็มไปหมด

                    อย่างที่รู้กันว่าไลท์เป็นคนที่นิสัยดื้อ ไม่ยอมแพ้ ต้องการเอาชนะ และคิดว่าตนเองถูกต้อง นิสัยเหล่านี้ ทำให้แผนของไลท์ไม่ได้สมบูรณ์แบบ  เห็นได้จากหลายครั้งที่ไลท์ใช้แผนไม่เข้าท่ามากนัก

                    หนึ่งในตอนที่น่าจดจำ คือไลท์ถูกเอฟบีไอสะกดรอย ไลท์ต้องการที่จะกำจัดเอฟบีไอ แต่หากกำจัดเขาจะต้องรู้ชื่อเอฟบีไอ และต้องทำให้เอฟบีไอตายโดยไม่มีใครสงสัยเขา ไลท์จึงจัดการสร้างสถานการณ์ขึ้นมาโดยการควบคุมพฤติกรรมคนชั่ว บีบให้เอฟบีไอบอกชื่อจริง และต่อมาไลท์ก็บีบให้เอฟบีไอคนนั้นลากเพื่อนเอฟบีไอคนอื่นๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในคดีคิระตายด้วย 

                    ดูเผินๆ เหมือนไลท์ฉลาดที่วางแผนซับซ้อนสมบูรณ์แบบ ในขณะเดียวกันก็แสดงให้ว่าไลท์เป็นคนโหดเหี้ยมเลือดเย็น แต่อนิจจาแผนการของไลท์มีจุดผิดพลาดอยู่

                    ย้อนกลับไปเรื่อง “L” อีกครั้ง ตอนนั้นเรื่องของคิระ  ทุกฝ่ายน่าจะรู้แล้วว่าคิระสามารถฆ่าคนได้โดยต้องรู้ชื่อและหน้าตา “L” น่าจะเตือนเอฟบีไอที่สืบคดีนี้แล้วว่า อย่าเปิดเผยตัว และอย่าใช้ชื่อจริงกับใครเด็ดขาด

                    แต่เอฟบีไอผู้มีประสบการณ์สูงและรับมือทุกสถานการณ์คนนั้นกลับเสียท่าไลท์ง่ายๆ ด้วยการยื่นบัตรเอฟบีไอที่มีชื่อจริงๆ ให้ ทำไมเอฟบีไอไม่เอาชื่อปลอมให้ไลท์ รู้ทั้งรู้ว่าตนมาสืบคดีคิระ มีหน้าที่สะกดรอยตามไลท์ และควรตั้งสมมุติฐานก่อนว่าไลท์อาจเป็นคิระตัวจริง ดังนั้นเขาควรระมัดระวังตัว ไม่ใช่เสียท่าง่ายๆ แบบนี้ ต่อให้สถานการณ์ล่อแหลมยังไง หรือเร่งด่วนยังไง เอฟบีไอก็มีหลายร้อยวิธีในการแก้ไขสถานการณ์ (หากใครดูหนังสายลับ จะพบว่าเวลาพวกเขาปลอมตัวสืบคดี เขาจะใช้เอกสาร บัตรประจำตัว ด้วยชื่อปลอม ประวัติปลอมหมด)

                    ถ้าเอฟบีไอไม่หลงกล เอาชื่อปลอมมาให้ไลท์ ไลท์คงไม่สามารถฆ่าพวกเอฟบีไอได้เลย แน่นอนว่าแผนการณ์ของไลท์ครั้งนี้บกพร่อง ไม่ได้มีความสมบูรณ์แบบอะไรเลย แต่ไลท์สามารถประสบความสำเร็จได้เพราะเอฟบีไอคนนั้นไม่ฉลาด และไลท์ดวงดีเท่านั้นเอง

                    ยังมีอีกหนึ่งสถานการณ์ที่ไลท์เกือบทำพลาด

                    ต่อมาไลท์ได้พบผู้หญิงคนหนึ่งอดีตเอฟบีไอชื่อ นาโอมิ และเธอก็พูดเกี่ยวกับข้อสันนิษฐานของเธอเกี่ยวกับคิระต่อหน้าไลท์ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ จนไลท์คิดว่าควรกำจัดเธอตั้งแต่ตอนนี้เพื่อไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามในอนาคต โดยไลท์พยายามหลอกล่อให้เธอบอกชื่อจริงของเธอเพื่อให้เขาจะได้ฆ่าเธอได้ (โดยเขาจะเขียนให้เธอฆ่าตัวตาย เพื่อไม่ให้เชื่อมโยงคดีคิระ) และตอนนั้นเองนาโอมิได้บอกชื่อปลอมให้

                    ตอนแรกไลท์ไม่ได้เอะใจเรื่องชื่อปลอม จนกระทั่งผิดสังเกตเห็นลุคหัวเราะแปลกๆ ข้างหลัง และเมื่อเขาเขียนชื่อเอลงในสมุดโน้ตก็พบว่านาโอมิไม่ได้ตายอย่างที่เขาคาดเอาไว้ ทำให้ไลท์รู้แล้วว่านาโอมิเอาชื่อปลอมให้เขา     

                    แน่นอนว่าไลท์ต้องคิดอย่างหนักในการให้นาโอมิบอกชื่อจริง เพราะหากเขาทำอะไรไม่เข้าท่าเธอจะสงสัยว่าเขาเป็นคิระทันที และแล้วไลท์ก็คิดแผนอย่างหนึ่งออกนั้นคือหลอกนนาโอมิว่าเขาอยู่แผนกสืบสวนคิระ และอยากให้เธอมาสืบสวนคดีคิระด้วยกัน จนทำให้นาโอมิหลงเชื่อจนต้องยื่นใบขับขี่ที่มีชื่อจริงๆ ของตนเองให้ไลท์ไป และเมื่อได้ชื่อจริงมาไลท์จัดการเขียนชื่อลงไป แล้วประกาศตัวเองต่อหน้านาโอมิว่าตนเองคือคิระ

                    มาจุดนี้ มีคำถามหนึ่งคือ หากนาโอมิยื่นบัตรประจำตัวปลอมให้ เหตุการณ์มันจะเป็นยังไง ไลท์คงจนมุมแบบโง่ๆ แน่นอน (เพราะไลท์ประกาศตนเอง ในช่วงเดธโน้ตยังไม่ออกฤทธิ์เลยด้วยซ้ำ

                    อะไรที่ทำให้ไลท์มั่นใจว่าชื่อที่สองเป็นชื่อจริง เขาเขียนทันที ประกาศตนว่าเป็นคิระ โดยไม่สนว่าไลท์มีปฏิกิริยายังไงด้วยซ้ำ

                    เพราะไลท์ดวงดี.......

                    จุดนี้น่าคิดว่า ทำไมนาโอมิเสียท่าไลท์ง่ายขนาดนั้น ในเมื่อเธอรู้เรื่องชื่อปลอม ระมัดระวังตัวมาโดยตลอด เธอน่าจะเอะใจการโกหกของไลท์ อย่างน้อยเธอน่าจะดูหลักฐานก่อนว่าไลท์อยู่หน่วยสอบสวนจริง ไม่ควรให้ชื่อจริงง่ายๆ แบบนี้  แม้ในเรื่องจะให้เหตุผลว่าเพราะนาโอมิสูญเสียคนรักจากคดีคิระ ทำให้อารมณ์ของเธอไม่อยู่ร่องกับรอย ได้ฟังคำโกหกของไลท์ เลยหลงเชื่ออย่างง่ายดาย ตรงจุดนี้ค่อนข้างขัดแย้งเพราะนาโอมิเป็นอดีตเอฟบีไอที่มีประสบการณ์โชกโชน ไม่ใช่เสียง่ายๆ

                    ถ้าสมมุติว่านาโอมิให้ชื่อปลอมสองครั้ง และไลท์ประกาศว่าเป็นคิระต่อหน้านาโอมิทั้งๆ ที่เดธโน้ตไม่มีผลกับเธอ ตรงจุดนี้ไลท์ก็อาจโกหกแบบเนียนๆ เพื่อรอดตัว และอาจจะต้องยอมแลกตัวตายมทูตเพื่อแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าว (วินาทีที่นาโอมิสันนิษฐานเกี่ยวกับคิระกับคนแปลกหน้าก็กำหนดชะตาชีวิตของเธอแล้วครับ)

                    ทั้งเรื่องFBIและนาโอมิ ก็แสดงให้เห็นตัวตนความบกพร่องการวางแผนของไลท์แล้วว่าเนื่องด้วยไลท์เป็นคนที่มั่นใจตนเองมากเกินไป จึงมักคิดแผนที่ไม่ค่อยมีแผนหนึ่งแผนสองตามมา หากเกิดกรณีแผนแรกผิดพลาด ทั้งๆที่แผนแรกนั้นเต็มไปด้วยช่องโหว่ที่อาจเกิดความผิดพลาดทุกเวลาดังนั้นส่วนใหญ่แผนของไลท์มักพึ่งโชคเป็นหลัก และส่วนใหญ่โชคมักเข้าไลท์มาโดยตลอดจนกระทั่งโชคมาหมดไปในท้ายเรื่องนั้น (แน่นอนว่าหากมองอีกแง่หนึ่งคือคนแต่งไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดจุดนี้มากนักทำให้เกิดเรื่องไม่สมเหตุผลแบบนี้ แต่อย่างไรก็ตาม คนดูไม่ได้สนในจุดนี้มากนัก เลือกที่จะสนุกไปกลับมันมากกว่า)

                   

                   

                    หมดกัน ความหล่อและเยือกเย็นหายหมด

                   

                    หายนะที่ผ่านมาแผนการของไลท์ ประสบความสำเร็จได้ เพราะโชคช่วยเป็นส่วนใหญ่และนอกจากนั้นสิ่งที่ไลท์สามารถยังคงลอยนวลมาได้เพราะว่าโลกยังไม่รู้ตัวตนการมีอยู่ของเดธโน้ต

                    ในช่วงที่โลกยังไม่รู้การมีตัวตนอยู่ของเดธโน้ตนั้นหลายฝ่ายพยายามคาดเดาต่างๆ นาๆ ว่าคิระนั้นคืออะไรกันแน่ ทำไมถึงสามารถฆ่าคนได้แน่นอนว่า “L” สันนิษฐานเท่าที่รู้คือ คิระเป็นคนธรรมดา มีพลังจิตสามารถฆ่าคนได้เพียงแค่เห็นชื่อจริง และหน้า (แน่นอนว่าว่า “L”ไม่รู้ว่าคนธรรมดาที่ว่าฆ่าคนโดยใช้วิธีแบบไหน) และเหยื่อจะตายเพราะหัวใจวายได้แน่นอนตอนนั้น “L” ไม่รู้ว่าเดธโน้ตยังมีความสามารถมากมายไม่ว่าจะเป็นสามารถเขียนสาเหตุหัวใจวายตาย และยังมียมทูตอยู่ใกล้ๆเจ้าของเดธโน้ตอีก

                    แน่นอนว่าช่วงแรกๆไลท์พยายามเล่นกับ “L” ตลอด พูดง่ายๆ คือปล่อยไก่ แต่ไม่ได้ปล่อยหมดเล้า เป็นต้นว่า ตอนแรก“L” สันนิษฐานว่าคิระน่าจะเป็นเด็กในพื้นที่นั้นและน่าจะเป็นเด็กมัธยมปลายเพราะว่าเลือกฆ่าเหยื่อในช่วงเย็น ซึ่งเป็นช่วงกลับบ้านเมื่อไลท์รู้เรื่อง (จากการแฮ็คคอมพ่อ)ไลท์เลยจัดการให้เห็นว่าพลังจิตสามารถฆ่าคนได้ทุกเวลานอกจากนี้ไลท์ยังปล่อยไก่อีกว่าสามารถควบคุมพฤติกรรมคนก่อนที่จะหัวใจวายตายได้อีกแต่นั้นทำให้ “L”ได้ข้อสันนิษฐานแคบลงคือคิระน่าจะเป็นคนใกล้ชิดกับตำรวสืบสวนคดีนี้

                    พูดง่ายๆไลท์ทำตัวเองชัดๆ ปล่อยไก่ซะขนาดนี้ เพราะไลท์ฆ่าคนแบบไม่สนใจ “L” ก็คงไม่มีใครตามถูก แต่ไลท์มีนิสัยไม่อยากแพ้ อยากฆ่า “L” จนตัวสั่น จึงบีบ จึงเล่นกับ “L”เพื่อให้ได้เข้าใกล้มากขึ้น

                    เมื่อบีบแคบลง “L” ก็ใช้วิธีในการแอบติดกล้องวงจรปิด(แถมวางทุกจุดในบ้าน ชนิดโอเวอร์สุดๆ) จับตาดูครอบครัวผู้ต้องสงสัย แต่ไลท์วางแผนให้ตนเองหลุดพ้นต้องสงสัยวันแรกแต่กลายเป็นว่าไลท์ได้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยที่ “L” สนใจสุดๆแทน (เพราะมันสมบูรณ์แบบมากเกินไป และนิสัยของเขาตรงกับคิระมากที่สุด) จนในที่สุด “L”ก็ได้เข้ามาใกล้ไลท์แบบชิดแนบสนิทเลยทีเดียว

                    แน่นอนตอนที่“L” ปรากฏตัวครั้งแรกต่อหน้าไลท์ ไลท์แทบเก็บอารมณ์ไม่อยู่พอกลับมาบ้านก็ระเบิดอารมณ์ บัดซบเพราะถึงฆ่า “L” ตรงนี้คนอื่นก็รู้หมดแน่นอนว่าตนเป็นคิระ อันนี้โทษใครไม่ได้ โทษตนเองเถอะ เอ็งเป็นคนพา“L” มาเองเรื่องนี้แสดงให้เห็นแบบอย่างดีว่าไลท์เป็นคนวางแผนไม่คิดหน้าคิดหลังอะไรมากนักคงรู้สึกประมาณว่าตนเองมีพลังที่ใครบนโลกไม่สามารถมีได้ ก็อยากโชว์พลังให้โลกรู้ว่าข้ามันเจ๋งขนาดไหน พวกเอ็งไม่สามารถรับมือได้หรอก ไลท์เล่นกับพวกคนอื่นโดยไลท์แทบไม่รู้เลยว่าสาเหตุที่หลายคนยังงมโขอยู่ก็คือพวกเขายังไม่รู้ตัวตนของเดธโน้ต

                   

    จนกระทั่งมาถึงช่วงที่ไลท์วางแผนครั้งใหญ่ แผนกำจัด “L” โดยเกิดขึ้นหลังจาก “มิสะ” ถูก “L” จับตัวไปเพราะสงสัยว่ามิสะคือคิระ

    มิสะเป็นหนึ่งในสาวน้อยน่ารักที่บูชาคิระอย่างสุดซึ้ง และเป็นดารารุ่นใหม่กำลังมาแรง และนอกจากนี้เป็นคนที่สองในโลกที่มีเดธโน้ต อีกทั้งยังมียมทูตชื่อ “เรน” ติดตามด้วย ซึ่งต่อมามิสะได้กลายเป็น “คิระหมายเลขสอง”  มิสะนั้นมีพลังอำนาจเหนือกว่าไลท์ แน่นอนว่าไลท์ต้องการพลังของมิสะเป็นอย่างยิ่ง และทั้งคู่ก็ร่วมมือกันเพื่อพิพากษาคนชั่ว

    แต่อนิจจามิสะนั้นไม่ได้ฉลาดเหมือนไลท์มากนัก เธอเลยถูก “L” จับตัวได้อย่างง่ายดาย (บางทีอาจเป็นหนึ่งหายนะของไลท์ด้วยซ้ำ) ส่วนไลท์เองก็โดน “เรน” บีบให้ช่วยมิสะให้ได้ และสั่งให้ไลท์ห้ามฆ่ามิสะปิดปากเด็ดขาด หากไลท์ทำดังกล่าว เราจะฆ่าไลท์ทันที

    แม้ว่าไลท์จะถูกบีบ อีกทั้งเวลายังไม่อำนวย แต่กระนั้นไลท์ก็สามารถคิดแผนอย่างหนึ่ง ที่เขาคิดว่ามันสมบูรณ์แบบได้แผนของไลท์นั้น หากจะว่าไปแผนที่ก็ซับซ้อนไม่เบา โดยแผนการในครั้งนี้ ทำให้ไลท์ต้องเสียสิทธิ์ในการครอบครองเดธโน้ต ต้องกลับมาเป็นคนธรรมดา เพื่อช่วย “L” หาตัวคิระ โดยให้เรมนำโน้ตของตน (ที่เขียนกฎต่างๆ เอาไว้) ไปให้หนึ่งในผู้บริหาร 8 คนของบริษัทยักษ์ใหญ่ “โยทสึบะ” เพื่อเป็นคิระคนใหม่  โดยเป็นตัวร่วม (หมาก) ในแผนการของไลท์เองในครั้งนี้

                    ในที่สุดไลท์ได้ร่วมมือกับ “L” สามารถตามจับตัวคิระะหนึ่งในผู้บริหารบริษัทโยทสึบะ และยึดโน้ตมาได้สำเร็จ จากนั้นไลท์ก็ได้ความทรงจำกลับคือ จากนั้นเขาก็แอบเขียนชื่อคิระหนึ่งในผู้บริหารบริษัทโยทสึบะเพื่อปิดปาก แม้ว่าคิระจะตายแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่นานคิระก็กลับมาพิพากษาคนชั่วอีกครั้ง ทำให้ “L” ทันมาสนใจ ไลท์ คือคิระ และมิสะ คือคิระหมายเลขสองอีกครั้ง และนั้นเองทำให้เรมซึ่งกลัวว่ามิสะจะต้องถูกจับในฐานะคิระหมายเลขสองต้องทำอะไรบางอย่างในที่สุด ผลคือเรมได้เขียนชื่อของ “วาตาริ” (ผู้ช่วยของ “L”) และ “L” ลงไปในเดธโน้ตทำให้ทั้งสองคนตายในที่สุด ส่วนเรนเองก็ตายกลายเป็นทรายหลังจากนั้น เพราะสิ่งที่ทำถือว่าผิดกฎยมทูต เพราะใช้ยมทูตใช้เดธโน้ตฆ่าคนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวไม่ได้

    แน่นอนว่าหากแผนการของไลท์สำเร็จ ไลท์จะได้ผลประโยชน์หลาอน่างยคือ ทำให้ตัวเองหลุดพ้นข้อกล่าวหาว่าเป็นคิระ, สามารถช่วยมิสะ,  และที่สำคัญสามารถฆ่าคนที่เป็นหนามยอดอกได้อย่าง “L” และ “เรน” และนั้นเองทำให้ “L” ยังคงลอยนวลสามารถสวมบทเป็นคิระได้ต่อไป

    และเป็นอย่างที่คิดไว้ แผนการของไลท์ประสบความสำเร็จลุล่วงดี นอกจากนี้ยังมีเรื่องดีๆ ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นไลท์มีอำนาจในกรมตำรวจ  แถมยังสามารถสวมรอยเป็น “L” คนใหม่ได้อีก เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว มแผนการนี้แสนคุ้มค่า แม้จะเสี่ยงนิดหน่อยก็ตาม

    แต่อนิจจา สิ่งที่ไลท์คิดไม่ถึงคือ ผลที่ตามมาจากแผนนี้ มันหายนะยิ่งกว่า

    หากไม่นับแผนการของไลท์มีช่องโหว่ที่อาจผิดพลาดได้ทุกเมื่อละก็ แต่สิ่งที่ไลท์พลาดสุดๆ แบบไม่ให้อภัยคือการปล่อยไก่หมดเล้าที่ทำให้ “L” และทุกคนรู้ว่าคิระใช้เครื่องมืออะไรฆ่าคน

                    มันก็เหมือนกับ นักมายากล ที่เล่นกลต่อหน้าผู้ชม กลของนักมายากลเต็มไปด้วยความพิศวง สิ่งที่ทำไม่ได้แต่นักมายากลสามารถทำได้ แน่นอนตราบใดที่หลายคนไม่สามารถไขได้ว่ากลแต่ละอย่างทำได้อย่างไร ผู้ชมก็เกิดความสนใจ คิดว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ เป็นพลังจิต มองนักมายากลเป็นผู้วิเศษ  หากแต่ถ้านักมายากลเปิดเผยกลของตนเองแล้ว เท่ากับว่าหมดความน่าสนใจไปโดยสิ้นเชิง  และมองนักมายากลเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น

                    นักมายากลหากเปิดเผยกลก็ไม่ใช่นักมายากล คิระหากเปิดเผยกลก็ไม่ใช่คิระ  

                    แผนการของไลท์ ถือว่าเป็นข้อผิดพลาดที่เรียกหาหายนะจริงๆ  การเปิดเผยการมีอยู่ของเดธโน้ต เท่ากับปล่อยไก่หมดเล้า  อย่างที่เห็น เมื่อ “L” รู้แล้วว่าคิระฆ่าคนโดยวิธีใด ไลท์ก็จับทางได้หมด และเริ่มสงสัยไลท์อีกครั้ง  โชคดีที่ไลท์กำจัด “L” ได้เสียก่อน หากให้เวลา “L” สักนิด นับลองว่าไลท์คงจนมุมไปนานแล้ว

                    พูดง่ายๆ ไลท์ทำตัวเองทั้งหมด ไลท์อยากกำจัด “L” ยอมเปิดเผยกล ยอมเสียชื่อคิระ จนลืมสิ่งที่ตามมา ไลท์คงคิดว่า “L” เท่านั้นเป็นคู่ปรับตน ถ้า “L” ตายก็ไม่มีใครหยุดตนได้ โดยไม่รู้ว่า “L” มีผู้สืบทอด  ไม่รู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า คิระอยู่ไม่ยั่งยืนสักวันก็ถูกโค่น แม้ว่า “L” จะตาย ไลท์ได้รับชัยชนะะ แต่ชัยชนะมันไม่ได้หอมหวานไปเสียหมด เพราะโลกรู้จักเดธโน้ตแล้ว ความวุ่นวายจึงตามมา  และผู้สืบทอดได้รู้เรื่องของเดธโน้ตไว้หมดแล้ว พวกเขาก็หาทางรับมือได้ระดับหนึ่ง   ไลท์ก็ไม่มีอะไรสามารถสู้ได้อีก แผนการที่พึ่งโชคอย่างเดียวได้กลายเป็นจุดจบของไลท์ในที่สุด

                    จากเหตุผลดังกล่าว แสดงให้เห็นชัดเลยว่าไลท์ไม่ได้เป็นอัจฉริยะแต่อย่างใด คนอัจฉริยะของจริงต้องรู้จักการสร้างสรรค์  รู้จักตนเอง  แต่ไลท์แทบไม่มีคุณสมบัติแบบนี้เลย

                    หากวิเคราะห์ไลท์แล้ว ไลท์ก็เป็นผลิตผลการเรียนที่ท่องแต่ตำรา มีแต่ไอคิว แต่อีคิวไม่มีเลย ใช้ชีวิตที่ถูกขีดเอาไว้ ความจริงแล้วหากไลท์ไม่เจอเดธโน๊ตก็คงประสบความสำเร็จในชีวิตไปแล้ว แต่จะไม่ได้ถึงขั้นระดับโลกอะไร แต่ก็คงได้เป็นพนักงานบริษัทสูงๆ หรืออยู่หน่วยสอบสวนกับพ่อ แต่พอเจอเดธโน้ต มีอำนาจมากเกินไป (พลังที่ยิ่งใหญ่ ไม่จำเป็นต้องทำการใหญ่ให้สมกับพลังเสมอไป)  มองโลกมีแต่ดำและขาว ไม่มีสีเทา เห็นชัดว่าเป็นคนมีอีโก้สูง ต้องการเอาชนะเป็นหลัก คิดว่าตนเหนือกว่า ตนคุมเกมได้ แต่กลายเป็นว่าตนโดนคนอื่นคุมเสียเอง วางแผนไม่มีแผน 1 และแผน 2 ไม่คิดผลที่ตามมา

                    หากสมมุติเดธโน้ตดำเนินเนื้อเรื่อง โดยใช้คนธรรมดา ไม่ได้ฉลาดอะไรเลยดำเนินเรื่องราว ไปเจอเดธโน้ต และเก็บมาใช้แบบไลท์จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเจอเดธโน้ต เราอาจจะฆ่าคนชั่วอย่างที่ไลท์ทำ และเมื่อถึงจุดหนึ่งเมื่อเราฆ่าคนชั่ว สัก 2-3 คน เราก็เริ่มคิดได้ว่าทำแล้วใช่ว่าโลกจะสูงขึ้น แต่ถ้าจะให้เลิกไหม คำตอบคือไม่ เพียงแต่คราวนี้เรามาเดธโน้ตเพื่อประโยชน์ส่วนตัว (เช่น ฆ่าคนที่เราอยากฆ่า คนที่ขัดขวางการดำเนินชีวิต และคนไม่ชอบหน้า) และทำแบบไม่มีทางจับได้มากกว่า หากมีใครสงสัยเราก็หยุดสักระยะ แค่นี้ก็ไม่มีใครจับได้  แน่นอนมันขาดสีสันสิ้นดี

    ดังนั้นตัวตนของไลท์จึงสร้างขึ้นมา แน่นอนว่าคนธรรมดาจำนวนมากก็คิดแบบไลท์เหมือนกัน หากสิ่งน่าสนใจคือการสร้างไลท์ให้เป็นคนฉลาด  (ซึ่งเรียกความสนใจจากคนอ่านด้วย) เพราะความฉลาดนั้นเองทำให้หลายคนมองไลท์เป็นคนละโลกกับเรา ทั้งๆ ที่การ์ตูนก็ไม่ได้ทำให้ไลท์ฉลาดเหนือมนุษย์มากนัก อย่างที่เห็นว่าไลท์ไม่แตกต่างอะไรจากคนธรรมดาอย่างเรา คิดแบบเด็กๆ (ตั้งแต่ความคิดสร้างโลกใหม่ การสร้างตัวตนคิระ การฆ่าคนโดยใช้เดธโน้ต มีข้อบกพร่องเต็มไปหมด) ไลท์ฝันใหญ่เกินไป คิดอะไรเกินตัว ไม่รู้จักพอ ไม่รู้สถานการณ์ใดควรหยุด ไม่ควรหยุด ผลคือผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่แปลกหรอกที่ไลท์เสียท่าแบบอนาถแบบนี้ ไม่ต้องโทษคนอื่นหรอก โทษตนเองก่อนเลย

                    ในแง่การหักเหลี่ยมเฉือนคน Death Note อาจไม่ใช่คำตอบสำหรับคนที่ชอบแนวนี้มากนัก (เพราะเต็มไปด้วยข้อบกพร่องเท่าที่เห็น)  แต่กระนั้นการ์ตูนได้นำเสนอสิ่งที่แปลกใหม่  การตอบโจทย์ความรู้สึกด้านมืดของเรา    ไม่แปลกแต่อย่างใดที่หลายคนลืมข้อบกพร่อง และสนใจการดำเนินเรื่องการ์ตูนเรื่องนี้มากกว่า

                    นอกจากนี้ Death Note ยังมีตอนพิเศษสองตอนที่ผมไม่ได้พูดถึง คือตอน Zero ซึ่งเรื่องสั้นก่อนที่จะมีเดธโน๊ตเรื่องยาว และตอนหลังช่วงไลท์ตาย ที่ปรากฏคิระคนใหม่ ซึ่งยังมีประเด็นที่น่าสนใจให้เขียนถึง ก็ขอยกยอดเขียนคราวหน้าล่ะกัน สำหรับบทความนี้ขอจบเพียงเท่านี้ครับ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×