ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #262 : มหาเทพริโตะ ราชันย์ฮาเร็มผู้ไร้มงกุฏ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.13K
      3
      3 ม.ค. 57

                    Top 10 Harem Anime หรือ 10 สุดยอดเจ้าพ่อฮาเร็ม เป็นการจัดอันดับอนิเมะที่เรามักพบเห็นบ่อยมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอดีตจนถึงปัจจุบัน อันดับก็มีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ  ซึ่งส่วนมากการจัดอันดับนั้นเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัว การโหวตในสังคมแคบๆ  และส่วนมากจะเป็นอนิเมะที่ฮิตในช่วงนั้นๆ  (บางเรื่องก็ไม่ใช่แนวฮาเร็มก็ยังอุตส่าห์ติดมาด้วย) ซึ่งน้อยมากที่จะมีอนิเมะเก่าๆ ติดมาด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่อันดับที่จัดมาไม่ตรงใจเรามากนัก

    การจะทำให้อันดับอนิเมะแนวฮาเร็มจัดได้ถูกใจเรานั้น จะต้องคำนึงถึงความโด่งดัง, การดำเนินเรื่อง, คุณภาพของฮาเร็ม (หมายถึงสาวๆ ในเรื่องมีมีบทบาทยังไงกับเนื้อเรื่อง สามารถทำให้โลกเป็นสีชมพูได้หรือไม่ อย่างไร) ไปจนถึงคุ้นค่าและอิทธิพลต่อวงการแนวฮาเร็มว่ามีหลายคนจดจำได้เพียงใด (ไม่ต้องเป็นตำนานก็ได้ แบบว่ายกชื่อเรื่องขึ้นมาหลายคนจำได้ทันที)

    โดยส่วนตัวแล้ว สิ่งสำคัญของแนวฮาเร็มก็คือ ตัวของพระเอกซึ่งถือว่าเป็นแกนกลางของเรื่อง ว่าพระเอกจะโดดเด่นเพียงไร สามารถทำให้คนดูน่าอิจฉา หรือแสดงออกต่อฮาเร็มของเขายังไง (หากโง่เกินไปก็ไม่ไหว) ทุ่มเททำอะไรให้เราเกิดความรู้สึกว่า “เอ็งสมควรฮาเร็มแล้วล่ะ” เพื่อนำไปสู่ตอนจบที่เรียกว่า “พวกเธอคือปีกของฉัน”หรือตอนจบฮาเร็มนั้นเอง (จบวินหรือหรือสาวคนใดคนหนึ่งนั้น ผมไม่นับเป็นเจ้าพ่อฮาเร็มด้วยซ้ำ เพราะไม่ได้แสดงถึงความเป็นเทพฮาเร็มแต่อย่างใด)

    ที่น่าแปลก ส่วนเรื่องที่จบๆ ไปไม่สามารถพูดเต็มปากว่าพระเอกคนนั้นสมควรได้รับฉายา “เทพฮาเร็ม” หรือ “เจ้าพ่อฮาเร็มได้หรือไม่” บางคนก็ตกม้าตายในตอนจบ  แถมที่ตลกคือพระเอกล้มเหลวในฮาเร็มกับเป็นที่น่าจดจำมากกว่า อย่าง มาโคโตะ (School Day) ยังกลายเป็นตัวเฮงซวยจนถึงบัดนี้

    ผมก็ไม่สามารถตอบได้ว่าอนิเมะเรื่องไหนที่มีอิทธิพลต่อแนวฮาเร็ม (และยิ่งหากเอาอนิเมะมารวมกับมังงะยิ่งยากไปใหญ่) เพราะพึ่งชอบแนวฮาเร็มไม่กี่ปีนี้เอง (ศึกษาก็งูๆ ปลาๆ) แต่เท่าที่จำความได้ ซีรีย์ Tenchi Muyo! เกนจิกับเพื่อนต่างดาวถือว่าเป็นฮาเร็มเรื่องแรกๆ ที่ผมได้เห็นและโด่งดังพอสมควร (ไม่งั้นคงไม่มีหลายซีรีย์หลายภาคหรอก) รองลงมาที่ Love Hina ซึ่งผมพูดเต็มปากว่าเป็นฮาเร็มซีรีย์ที่มีอิทธิพลต่ออนิเมะแนวฮาเร็มในปัจจุบัน (ก่อให้เกิดแนวฮาเร็มหอพักหญิงมากในเวลานั้น ไปจนถึงคาแร็คเตอร์ตัวละครที่เด่นชัด มุกตลกเอจจิฮาเร็ม รวมไปถึงการสร้างพระเอกไม่ได้ความและอ่อนแอด้วย)

    ที่แปลกคือการจัดอันดับอนิเมะแนวฮาเร็มในปัจจุบันไม่มีสองเรื่องที่ผมยกมา ปรากฏอยู่ในอันดับเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย (และสองเรื่องที่ว่าก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมชอบด้วย)

    อย่างไรก็ตาม ยังมีฮาเร็มอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งผมก็พูดได้เต็มปากอีกว่าเป็นฮาเร็มที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อแนวนี้ปัจจุบัน อนิเมะอาจไม่เท่าไหร่ แต่มังงะนั้นมีแน่ ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย การมีภาคเกมเป็นของตนเอง และอย่างเห็นตอนนี้มีการ์ตูนหลายเรื่องปรากฏเรื่องนี้บ้างแล้ว ที่ชัดๆ คือ กินทะมะตอนที่ 455 (จอมกัดการ์ตูนค่ายของตนเอง) ก็เอาเรื่องนี้มาแซว (จนผมแอบโมโหนิดหน่อย)

    การ์ตูนที่ผมกำลังจะพูดถึงก็คือซีรีย์ To Love Ru นั้นเอง ไม่ว่าการจัดอันดับแนวฮาเร็มที่ไหน (อนิเมะ) ก็ต้องมีเรื่องนี้อยู่ด้วย หากอันดับไหนไม่มีเรื่องนี้ แสดงว่าคนจัดไม่ได้เป็นคอฮาเร็มแต่อย่างใด (เหรอ?)

    To Love Ru ก็เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่ม ม.ปลายธรรมดา ยูกิ ริโตะ (ที่แอบหลงรัก ไซเร็นจิ ฮารูนะ”  ที่อยู่โรงเรียนเดียวกัน ห้องเดียวกัน แต่ก็ไม่กล้าบอก จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งเขาได้รู้จัก ลาล่าเจ้าหญิงจากดาวเดวิลลูค ดาวมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่จากจักรวาล ที่ต่อมาริโตะก็ได้กลายเป็นคู่หมั่นของลาล่าทั้งๆ ที่ไม่ได้รักลาล่าเลย จนกลายเป็นรักสามเศร้าที่วุ่นวาย และต่อมามีหลายรักหลายเศร้าไปด้วย เพราะมีสาวๆ เข้ามาในชีวิตริโตะหลายคนและเกือบทุกคนชอบริโตะ จนตอนท้ายลาล่าได้บอกว่าริโตะหากริโตะเป็นผู้ปกครองดาวเดวิดลูคก็จะสามารถสร้างฮาเร็มได้

    รายละเอียดตัวละครอยู่  http://writer.dek-d.com/cammy/story/viewlongc.php?id=125456&chapter=137

    ที่แปลกคือการ์ตูน To Love Ru ลงในการ์ตูนจัมป์ นิตยสารที่ผู้ติดตามส่วนใหญ่เป็นเด็กประถมและวัยรุ่นที่ชอบแนวแอ็คชั่นและผจญภัยส่วนใหญ่ หากแต่ To Love Ru กับเป็นแนวการ์ตูนฮาเร็มเอจจิซึ่งไม่ปรากฏในจัมป์มากนัก อีกทั้งผลงานที่ผ่านมาของคนเขียนก็ไม่ได้ว่าแนวฮาเร็ม แต่เป็นแนวแอ็คชั่นผจญภัย จึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่ทำให้ช่วงแรกนั้นการ์ตูนเรื่องนี้เริ่มต้นไม่ค่อยสวยมากนัก ซึ่งกว่าที่จะทำให้หลายคนยอมรับนั้นก็นานพอดู

    อย่างไรก็ตาม เรื่องราวไม่จบเพียงเท่านั้นต่อมาก็มีภาคใหม่คือ To Love-Ru Darkness ในนิตยสารโชเน็ต SQ(Jump Square) เมื่อ 4 ตุลาคม 2010 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งริโตะยังต้องผจญกับปัญหาความรักต่อไป เพียงแต่คราวนี้นางเอกไม่ได้เป็นลาล่าเหมือนภาคก่อน เพราะภาคนี้เน้นตัวละครหลักอยู่ 4 คน คือ โมโม, นานะ ซึ่งเป็นน้องสาวของลาล่า และยามิ พร้อมตัวละครใหม่ เมอา (ตัวละครหญิงคนอื่นก็เป็นนางเอกในตอนนั้นๆ ด้วย) โดยจุดเด่นภาคนี้เอจจิค่อนข้างแรงยิ่งกว่าภาคแรกมาก และภาพนั้นยังสองแง่งามงามอย่างมีศิลป์ (เหมือนเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่มันลามกแบบจงใจ)

    ซึ่งภาคนี้แหละที่ทำให้ริโตะกลายเป็นพระเอกที่หลายคนเรียกว่า “มหาเทพริโตะ” ได้เต็มปาก และกลายเป็นหนึ่งในสุดยอดเทพเจ้าฮาเร็มแห่งยุคไปแล้ว

     

    ยูกิ ริโตะ (Yuuki Rito)

     

    ตอนที่เขียนบทความพูดถึงริโตะ อนิเมะ To Love Ru ก็มีการประกาศลิขสิทธิ์หมดทุกภาคแล้ว (อนิเมะ To Love-Ru ประกอบด้วย ภาคแรก 26 ตอน, OVA 6 ตอน, ภาค Motto 12 ตอน, ภาค Darkness OVA  3 ตอน  และ Darkness 12 ตอน) โดยบริษัทไทก้า ส่วนลิขสิทธิ์มังงะนั้นก็ยังคงตีพุงรอต่อไป

    ส่วนคนที่กังวลบอกว่ากลัวการ์ตูนเรื่องนี้ไดโนเสาร์จะมาจับผิด เพราะเต็มไปด้วยฉากเซอร์วิสที่น่าหวาดเสียว ขายหนุ่มกลัดมันนั้น ผมก็ตอบว่าตัวใครตัวมัน เพราะพวกเราเป็นคนเสนอชื่ออนิเมะเรื่องนี้เอง จะเซ็นเซอร์โอเวอร์ หรือจะถูกนำมาออกอากาศหรือไม่นั้นก็ค่อยว่ากันอีกที

    To Love-Ru ผมเขียนถึงหลายครั้ง อวยหลายครั้ง ซึ่งก็แปลกดีคือการ์ตูนที่เนื้อหาแทบไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย  กลับเป็นการ์ตูนฮาเร็มที่หลายคนรู้จักมากที่สุด  หากพูดถึงฮาเร็ม จะเกลียดหรือชอบยังไง หลายคนต้องนึกถึง To Love-Ru และพระเอกริโตะ ยูกิ เป็นอันดับแรก

    และแปลกอีกคือ To Love-Ru ไม่ได้เริ่มต้นเป็นแนวฮาเร็มจ๋า เหมือนการ์ตูนฮาเร็มเรื่องอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย  หลายคนคงทราบว่า To Love-Ru เริ่มตีพิมพ์ในจัมป์ ฉบับวันที่ 24 เมษายน 2006 และหลายคนคงทราบคือจัมป์ไม่ต้องการฮาเร็ม ดังนั้นตอนแรกๆ To Love-Ru ไม่ได้เริ่มต้นฮาเร็ม หากแต่เป็นแนวรักสามเศร้า (ริโตะ+ลาล่า+ฮารุนะ) ซึ่งเป็นอีกแนวที่จัมป์นิยมรองจากแนวต่อสู้มิตรภาพ ก่อนที่จะกลายเป็นฮาเร็มในช่วงหลังไป

    และเป็นฮาเร็มอีกเรื่องที่ผมพูดเต็มปากต้องจบฮาเร็มสถานเดียว และทำจะเคืองมากว่าใครเรื่องนี้จบวิน!!

     

     

    To Love-Ru Darkness ตอน 35

     

    ความจริงแล้วได้เขียน To Love-Ru ก่อนหน้าไปนานแล้ว แต่ที่มาเขียนอีกคือ เมื่อหลายเดือนก่อน ได้ไปอ่านความคิดเห็น To Love-Ru Darkness ตอนที่ 34-35 ซึ่งถือว่าเป็นตอนสำคัญของซีรีย์นี้ เพราะถือว่าเป็นตอนที่ริโตะให้คำตอบกับลาล่าในช่วงจบภาคแรก คือสรุปแล้วริโตะชอบลาล่าจริงหรือไม่ และริโตะต้องการฮาเร็ม (ลาล่ากับฮารุนะ) หรือไม่  ใจความตอนนี้คือริโตะพูดกับลาล่าว่าเขารักลาล่าแต่เขาไม่สามารถจูบเธอได้  เพราะเขาไม่สามารถจูบด้วยความรู้จักครึ่งกลางๆ เขาชอบลาล่า แต่ในขณะเดียวกันก็ชอบฮารุนะ แล้วคำถามว่าจะเอาฮาเร็มระหว่างเขากับลาล่าและฮารุนะหรือเปล่า ริโตะก็ตอบอีกว่า  “ฮาเร็ม”  ไม่ใช่คำตอบ เหมือนที่ลาล่าพูดเอาไว้ (หากสรุปก็คือ ริโตะไม่ได้บอกว่าไม่เอาฮาเร็ม แต่เขายังลังเลอยู่)

    เท่านั้นแหละครับหลายคนด่าว่าริโตะกันยกใหญ่ “เอ็งจะเอาอะไรกันแน่ว่ะ เจ้าริโตะ!!

    คุณรู้ไหมว่าทำไมริโตะถึงพูดแบบนี้?

    คุณรู้จักยูกิ ริโตะมากน้อยขนาดไหน?

    ไม่ว่าริโตะจะดีหรือแย่ แต่หลายคนก็ยอมรับว่าหากพูดถึงแนวฮาเร็ม หลายคนต้องรู้จักพระเอกคนนี้เป็นอันดับแรกๆ

                    ทำไมหลายคนรู้จักริโตะเหรอ?  คุณอาจรู้จักยูกิ ริโตะในฐานะจากคนธรรมดาที่ถูกเรียกขานว่าเป็น “มหาเทพ” จอมสะดุ้นลื่นล้ม ล้มธรรมดาไม่ได้ เพราะจะต้องลื่นล้มไปโดนสาวๆ (ต้องเป็นสาวที่ริโตะรู้จักเท่านั้น คนอื่น คนไม่รู้จัก ริโตะจะไม่ล้มเด็ดขาด) โดนสาวๆ ไม่พอ จะต้องหื่น ออกมาในท่าทางที่เป็นไปไม่ได้ เช่น ชนนม เอาหน้าซุกนม เอามือจับนม ลูบนม  ซุกกางเกงในสาวๆ  ฯลฯ

    หรือหลายคนรู้จักริโตะว่าเป็นพระเอกอ่อนแอ ปวกเปียก หลายคนไม่ชอบฮาเร็มเพราะพระเอกคนนี้ อีกทั้งยังเป็นพระเอกที่จิตใจโลเล ไม่สามารถเลือกใครคนใดคนหนึ่งได้ แถมมีสกิลสาวหลง ทั้งๆ ที่แทบไม่ได้ทำอะไรนิด ริโตะมันดีตรงไหน ทำไมหลายคนถึงอยากได้ริโตะเป็นคู่ครองนัก

                    และที่น่าแปลกอีก คือพระเอกฮาเร็มคนนี้ ทั้งๆ ที่โด่งดัง มีอิทธิพลต่อการ์ตูนแนวฮาเร็มปัจจุบัน เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่เขาไม่เคยมีชื่อเป็นเจ้าพ่อฮาเร็มอันดับหนึ่งแม้แต่น้อย ส่วนคนที่ติดอันดับหนึ่งก็ไม่ได้เป็นเทพหรือเจ้าพ่อฮาเร็มเลยตามความรู้สึกผม

                    ริโตะยังขาดอะไร? ทั้งๆ ที่ยกย่องเป็นมหาเทพ แต่ริโตะไม่เคยติดอันดับหนึ่งแม้แต่น้อย เป็นได้แค่ราชันย์ที่ไร้มงกุฎเหรอ?

                   

     

    ฮาเร็มของริโตะ (แม้ว่าบางคนไม่ได้ปักธงก็ตาม)

     

    ถ้าพูดหลักของพระเอกฮาเร็มแล้ว ริโตะถือว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนของพระเอกฮาเร็ม ไม่ว่าจะเป็น ต้องซื่อบื้อเรื่องความรัก, ต้องเป็นสุภาพบุรุษ ไม่หื่น ไม่เสื่อม (หากเสื่อมก็จะจบแบบเรือสวย) แต่น้อยนักที่หลายคนจะสังเกตว่าทำไมพระเอกเหล่านี้ซื้อบื้อเรื่องความรัก และทำไมถึงสุภาพบุรุษไม่หื่น ไม่เสื่อม (มีแต่หื่นไม่ตั้งใจ สะดุดล้มเทพ) ริโตะถือว่าเป็นพระเอกฮาเร็มคนหนึ่งที่มีเหตุผลเหล่านี้

    ในกฎเหล็กของฮาเร็ม  พระเอกต้องอยู่คนเดียว (หรือไม่ก็อยู่กับน้องสาว) ส่วนพ่อแม่คนในครอบครัวต่างทำงานต่างประเทศ (ไม่ก็ต่างจังหวัด) ไม่อยู่กับครอบครัวมากนัก ริโตะเองก็ไม่เว้น

    ชีวิตของริโตะแทบไม่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป ไม่ได้เป็นคนถูกเลือก ไม่ได้เป็นคนอัจฉริยะ ไม่ได้เป็นลูกจอมมารหรือแม่เป็นผู้กล้า เป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุ 15 ปี ม.4  (ปัจจุบันอายุ 16)เป็นนักเรียนม.ปลาย เกิดวันที่ 16 ตุลาคม XXXX (จะมีใครสักกี่คนจัดงานให้มหาเทพคนนี้) สูง 164 เซนติเมตร หนัก 62 กิโล มาตรฐานทั่วๆ ไป  

    ครอบครัวของริโตะอาจแปลกๆ หน่อย ริโตะมีพ่อเป็นนักเขียนการ์ตูน ชื่อ “ไซไบ” อายุ 37 ที่มีชื่อเสียงพอสมควร (เห็นได้จากวาดให้หลายสำนักพิมพ์)  ที่มั่งมั่นกับการทำงานทำให้ไม่มีเวลาให้กับครอบครัวมากนัก (แม้จะอยู่อพาร์ทเมนต์ใกล้ๆ ก็ตาม ซึ่งน้อยมากที่จะกลับมาบ้านตนเอง) และแม่ชื่อ “ริงโกะ”  (อายุ 34 ปี) เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อที่ทำงานในต่างประเทศ และนั้นเองทำให้ริโตะใช้ชีวีตอยู่คนเดียวในบ้านพร้อมดูแล “มิคัง” น้องสาวด้วย (ยังไม่ได้รับยืนยันว่าเป็นน้องสาวแท้หรือบุญธรรม)

    บางทีเพราะพ่อแม่ไม่ค่อยอยู่บ้าน และต้องเลี้ยงดูน้องสาว ทำให้ริโตะรู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบตั้งแต่เด็ก หากตัดเรื่องหื่นๆ ออก จะพบว่าริโตะเป็นคนดีน่ายกย่องเป็นแบบอย่าง แม้จะใช้ชีวิตที่ไม่มีพ่อแม่ได้อย่างดีเยี่ยม ริโตะไม่เคยบ่นอะไรเลย ซ้ำยังช่วยเหลืองานบ้าน บางครั้งก็ช่วยเหลืองานพ่อเป็นผู้ช่วยหรือซื้ออุปกรณ์งานเขียนให้พ่อ  เสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อคนอื่น (เห็นได้จากริโตะเลิกเล่นฟุตบอลเพื่อมีเวลาช่วยเหลือมิคังทำงานบ้าน 

    ครั้งหนึ่งริโตะเคยพูดถึงพ่อแม่ว่า “แม้ตัวจะอยู่ห่างไกล แต่ใจ แต่สายใยยังคงผูกพัน” แม้พ่อแม่ยังไม่อยู่ ริโตะยังเข้าใจพ่อแม่ แม้จะแยกห่างกัน ก็ยังคงรักพ่อแม่ไม่เสื่อมคลาย

    ริโตะค่อนข้างเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนและสุภาพบุรุษ ยินดีที่ช่วยเหลือทุกคนที่เดือดร้อน บางครั้งก็ช่วยทั้งที่ไม่ร้องขอ ซึ่งเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็ก (ที่ผ่านมาก็เช่น ริโตะเป็นคนใช้บ้านซากิ, ริโตะเป็นนางพยาบาลให้อาจารย์, ริโตะช่วยขนของให้เพื่อนร่วมชั้น, ตอนเด็กก็ปีนต้นไม้เพื่อช่วยเหลือแมวที่ติดอยู่บนต้นไม้ สิ่งเหล่านี้ริโตะทำมาหมด ไม่เคยบ่นเลยแม้แต่น้อย)

    นอกจากนี้ริโตะยังเป็นคนกล้าหาญ บางครั้งก็เสี่ยงชีวิตจนเองเพื่อปกป้องทุกคน แม้บางครั้งยังไม่รู้จักดีก็ตาม อย่างตอนแรกริโตะพยายามปกป้องลาล่าที่พยายามหนีบอดี้การ์ด (ตอนแรกริโตะคิดว่านักฆ่า) หรือบางคนที่ไม่ชอบขี้หน้าเขาอย่าง “ยามิ” เมื่อตอนเธอป่วย ริโตะยังพายามิไปรักษาที่คลินิก  และริโตะยังเป็นคนขี้สงสาร เห็นอกเห็นใจคนอื่นเห็นได้ชัดอย่างตอนที่ริโตะรู้อดีตอันดำมืดของยามิก็แสดงอาการโกรธที่ต่อองค์กรที่สร้างและให้ยามิเป็นอาวุธ

    นอกจากนี้หากอ่านดีๆ จะพบว่าริโตะไม่เคยทำให้สาวคนใดเสียใจหรือร้องไห้แม้แต่น้อย  ริโตะไม่เคยปฏิเสธความรักใครเลย อย่าง “รุน” ที่บอกรักกับริโตะ แต่ริโตะก็ไม่ได้บอกปฏิเสธ หรือโมโมะที่เสนอแผนการฮาเร็มริโตะก็ไม่ปฏิเสธเลย และริโตะไม่เคยด่าว่าผู้หญิงเลย เพราะหากริโตะด่าว่าผู้หญิง ริโตะจะรู้สึกแย่มาก ซึ่งมีครั้งหนึ่งริโตะเคยด่าว่าลาล่า จนลาล่าเสียใจแล้วหนีบ้าน ริโตะรู้สึกใจไม่ดีและรู้สึกแย่มาก หลังจากนั้นเป็นต้นมาริโตะก็ไม่เคยด่าว่าสาวคนไหน หรือว่าใครรำคาญอีกเลย 

    เรียกได้ว่าริโตะคนนี้ไม่แทบไม่มีด้านมืดในจิตใจเลย จะมีใครบ้างที่เหมือนริโตะ และเพราะความใจดีช่วยเหลือคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นคน, พืช หรือสัตว์นั้นเอง มีส่วนทำให้ริโตะปักธงผู้หญิงนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นลาล่าที่ยกให้ริโตะเป็นคนที่รักมากที่สุดในจักรวาล, ยุยที่ไม่เคยพบชายคนไหนที่เหมือนริโตะเลย (ผู้ชายน่ะมีแต่ตัวผู้ แต่ริโตะน่ะลูกผู้ชาย) หรือจะเป็นฮารุนะที่มองเห็นด้านดีของริโตะตั้งแต่ช่วงมัธยมต้น

     

               ริโตะเองก็เป็นเพียงคนธรรมดา แต่มีสิ่งหนึ่งที่หาได้ยากของสังคม นั้นคือการเป็นคนดี มีวาสนามีดวงผู้หญิงจนเน่าเหลือเชื่อ พร้อมกับการเกิดอีเวนท์ที่น่าอิจฉาไม่มีทางที่เกิดในชีวิตจริงๆ ของเราได้เลย

     

     

     มิคังในช่วงแรก มาอย่างกับตัวประกอบ 

      

                    บทบาทฮาเร็มของริโตะ  สิ่งหนึ่งที่ทำให้ To Love-Ru เป็นที่รู้จักคอฮาเร็ม แม้เนื้อหาการดำเนินเนื้อเรื่องเป็นชิ้นเป็นอันก็ตาม ก็คือคาแร็คเตอร์ฮาเร็มของริโตะ ที่เต็มไปด้วยปริมาณและคุณภาพมีสเน่ห์ ซึ่งน่าอิจฉาริโตะที่มีสาวหลายคนมาชอบ

                       แต่อนิจจาริโตะไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่ารอบตัวของเขามีผู้หญิงหลายคนแอบชอบเขาอยู่ และตั้งแต่ตอนแรกจนถึงบัดนี้ริโตะรู้เพียงแค่มีผู้หญิงที่ชอบเขาคือลาล่าและรุนที่บอกความในใจของตนแก่ริโตะเท่านั้น

                       แม้ว่าเกิดอีเวนท์สาวทอดสะพานมาให้ริโตะก็ไม่ตอบรับและล้มเหลวทุกคน หลายคนจึงมักมองริโตะว่าเป็นคนที่สุดซื่อบื้อจนขัดใจใครหลายคน และมองริโตะว่าเป็นเกย์

                       หลายคนอาจลืมไปว่าก่อนที่ริโตะจะพบลาล่านั้นริโตะเป็นคนประหม่าเมื่ออยู่กับสาวๆมีปัญหาด้านการพูดคุยสื่อสารกับเพศตรงข้าม ขาดความเชื่อมั่น อีกทั้งยังซุ่มซ่ามเพื่อนสนิทก็มีผู้ชายคนเดียว (ซารุยาม่า) ผู้หญิงที่คุยได้ปกติก็มีแต่น้องสาวดังนั้นการพบกับลาล่านั้นเป็นจุดเริ่มต้นของฮาเร็มริโตะ

                       ริโตะรู้จักบรรดาสาวๆ ก็เพราะมีลาล่าเป็นสื่อ ลาล่าเป็นเพื่อนกับฮารุนะริโตะก็รู้จักฮารุนะด้วย พูดง่ายๆสาวรอบตัวที่เขามาในชีวิตริโตะนั้นลาล่าเป็นคนชักนำพามานั้นเอง

                       แต่อย่างไรก็ตามนิสัยประหม่าของริโตะก็ยังคงอยู่ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง(ริโตะเคยพูดว่าเวลาจะคุยกับผู้หญิงจะไม่ค่อยมองหน้าแบบตรงๆ)ริโตะเป็นประเภทที่เห็นผู้หญิงเปลือยแล้วจะเป็นลมล้มพับ เพราะอายหน้าแดงจัด(คนแบบนี้มีจริงครับ แถมอย่าลืมว่าเด็กอายุ 15-16 ยังไม่ค่อยมีอารมณ์ทางเพศมากนักด้วย) และนั้นเองทำให้ริโตะไม่เคยหื่นกับสาวๆเลยแม้จะแก้ผ้าทอดสะพานแล้วก็ตาม

                       อีกอย่างสาเหตุที่ริโตะไม่หื่นกับสาวๆเพราะริโตะคิดคำนึงจิตใจของผู้หญิงเป็นอันดับแรก คิดถึงผลที่ตามมาหากเขาทำอีกทั้งจิตใจของริโตะนั้นยังคงสับสนกับความรักของเขา เขาจะไม่มีทางทั้งๆที่ยังสับสนอยู่ ริโตะเป็นลูกผู้ชายส่วนคนที่หื่นก็เป็นเพียงแค่ตัวผู้เท่านั้น

                       คำถามต่อมาทำไมสาวๆ เหล่านั้นถึงหลงรักริโตะ

                       หลายคนมักมองสาวที่ชอบริโตะว่า หลายคนมักมองว่าสาวในฮาเร็มหลงริโตะง่ายๆเพียงแค่ริโตะทำดีเข้าหน่อยนั้น ตรงจุดนี้ผมมีความคิดเห็นแตกต่างกันปกติแล้วผู้หญิงเวลาจะชอบชายสักคนมักมองที่จิตใจมองว่าผู้ชายคนนั้นมีอะไรแตกต่างจากคนอื่นบ้างแน่นอนว่าฮาเร็มของริโตะนั้นก็มีรักแรกพบ รักแบบแอบมองมานาน หรือนานวันก็เริ่มรัก แต่ทั้งหมดนั้นสาวทุกคนนั้นเห็นอะไรบางอย่างในตัวของริโตะที่คนอื่นไม่มี  อย่างฮารุนะซึ่งมองริโตะมานานแล้วตั้งแต่มัธยมต้นในตอนที่ริโตะเปลี่ยนน้ำแจกันดอกไม้ ทั้งๆที่คนในห้องต่างไม่สนใจที่จะทำเรื่องนี้แม้แต่น้อย เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ หลังจากนั้นฮารุนะก็มองริโตะเรื่อยมาจนเกิดความรู้สึกชอบ

                       หรือเป็นยุยที่ไม่ได้รักริโตะแบบแรกเห็น แต่เริ่มชอบริโตะมากขึ้นเรื่อยๆ มีอยู่ฉากหนึ่งที่ยุยโดนพวกนักเลงรุมรังแกต่อหน้าคนผ่านมาไปผ่านมาหลายคน ซึ่งคนผ่านมาเหล่านี้ต่างไม่สนใจหรือพยายามไม่ไปยุ่ง  มีแต่เพียงริโตะเท่านั้นที่เข้าไปช่วยเหลือ ทั้งๆ ที่ผ่านยุยมักด่าริโตะ และชอบมองเขาไม่ดีตลอด ด้วยเหตุผลเพียงเท่านี้ไม่พอเหรอที่จะให้ผู้หญิงคนหนึ่งรู้สึกชอบคนดีแบบนี้ 

                       ส่วนลาล่ากับรุนที่รักริโตะแบบแรกเห็นนั้น คุณมองพวกเธอร่านต้องการเรื่องเพศเหรอ ก็คงไม่ใช่ ลาล่านั้นชอบริโตะเพราะความไร้เดียงสาในตอนแรกก่อนที่จะชอบริโตะในตอนหลัง แต่ความรักของลาล่ายังคงอ่อนต่อโลกเหมือนที่เจอมา ซึ่งริโตะก็ไม่ได้ทำลายความไร้เดียงสานั้น  แบบนี้ยังเรียกว่าริโตะเป็นเกย์อีกเหรอ

                       ที่มาของมหาเทพ คราวนี้มาพูดความสามารถของริโตะบ้าง เพราะมีอะไรให้พูดถึงเยอะ แน่นอนว่าสิ่งที่น่าจดจำฮาเร็ม ก็คือความสามารถของพระเอกฮาเร็ม แม้ริโตะจะเป็นคนธรรมดา แต่ด้วยเนื้อหาก็เริ่มเห็นว่าเจ้าพระเอกคนนี้ไม่น่าจะใช้คนธรรมดา น่าจะเรียกมหาเทพฮาเร็มเสียมากกว่า  เพราะความสามารถของริโตะนั้นมันน่าอิจฉาจริงๆ  เริ่มจากริโตะนั้นเป็นคนที่จริงใจมักพูดประโยคถูกที่ถูกเวลา โดยเฉพาะประโยคปักธงสาว แม้จะเป็นเรียบง่ายหากแต่เมื่อริโตะพูดแล้วกลับมีพลังปักธงสาวได้อย่างง่ายดาย 

                       ริโตะสุดยอดเจ้าพระยาเทครัว ในสำนวนไทยมีสำนวนหนึ่งที่ว่า “พระยาครัว” คือการรวบทั้งหมดทั้งพี่สาวและน้องสาวมาเป็นภรรยา   ซึ่งเปรียบผู้ชายที่นิสัยเจ้าชู้แบบเชิงลบ  (คำว่า “เทครัว” นั้นมีที่มาจากการกวาดต้อนผู้คนในเมืองที่ตีมาเป็นเชลยทั้งครอบครัว”

                       ในเรื่อง To Love-Ru ริโตะนั้นปักธงได้ทั้งพี่สาว และสองน้องสาวฝาแฝด นั้นคือลาล่า, นานะ และโมโมะ เรียกได้ว่าโชคดีเสียจริง

                       และความโชคดีอีกอย่างคือทั้งสามพี่น้องที่ริโตะปักธงนั้นเป็นที่เจ้าหญิง ซึ่งที่ผ่านมานั้นไม่มีการ์ตูนเรื่องไหนที่ปักธงแบบนี้มาก่อน (ฮาเร็มที่ปักธงสามพี่น้องนี้ก็มีพวก H แต่ที่เป็นถึงเจ้าหญิง เชื้อพระวงศ์นี้หายาก) แถมแต่ละคนมีฤทธิ์เดชมากมาย

                       ริโตะเป็นคนเจ้าชู้หรือไม่ ก็ตอบว่าไม่ เพราะริโตะไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองปักธง ริโตะแค่ใจดีเอาใจใส่สามพี่น้องเหมือนคนในครอบครัว แต่กลายเป็นว่าสามพี่น้องที่ไม่เคยเจอชายใดที่ดีที่สุดในชีวิตก็เริ่มหลงรักเริ่มชอบ จะมีแต่คนดูเท่านั้นแหละที่รู้ว่าตัวละครคิดอะไรอยู่เท่านั้น

                       ฮาเร็มไม่ได้เป็นเรื่องของผัวเมีย ผู้ชายมีเมียหลายคน แต่เป็นเรื่องของความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง แม้ว่าริโตะจะไม่ได้แต่งงานแบบยกครัว แต่ทั้งเรื่องเราก็ได้เห็นสองครอบครัวอาศัยบ้านหลังคาเดียว อยู่กันอย่างสงบสุข แม้จะไม่ได้มีเรื่องของเพศมาเกี่ยวข้อง แต่เพียงแค่นี้ถือว่าน่าอิจฉาอย่างบอกไม่ถูก

                       สมดุลฮาเร็ม จุดเด่นอย่างหนึ่งของฮาเร็มริโตะคือบทของตัวละครที่ทำออกมาได้อวยอย่างน่าเหลือเชื่อ อย่างที่บอกตอนต้น To Love-Ru ตอนแรกนั้นเรื่องนี้เริ่มต้นเป็นแนวรักสามเศร้าที่ตอนแรกตั้งใจเน้นตัวละครอย่างลาล่าและฮารุนะ จึงไม่แปลกที่ตัวละครหญิงคนอื่นอย่างมิคังหรือ "ริสะ" (สาวผมหยิกเพื่อนฮารุนะ) จะออกแบบดาษๆ ดูแล้วไม่มีน่าสนใจอะไรเลย (แถมช่วงแรกๆ ฉากเซอร์วิสยังไม่ค่อยเท่าไหร่) หากแต่เมื่อดำเนินเรื่องสักพัก ฉากเซอร์วิสแรงขึ้น มิคังดันน่ารักโมเอะซะงั้น

     


    หน้าหนึ่งในโดจินสายมืดที่ริสะเป็นนางเอก (ใครจะเชื่อครับว่าตัวละครมีบทครั้งเดียวจะมีโดจินกับเขาด้วย)

    (ริสะถือว่าเป็นหนึ่งในตัวละครที่ผมอยากจะเห็นเธอมีบทเด่นอีกครั้ง จากภาคแรกมีการเปิดเผยแล้วว่าอีกด้านหนึ่งของสาวขึ้นเล่นริสะยังมีด้านเหงาๆ ซ่อนอยู่ ส่วนจะแอบชอบริโตะหรือไม่นั้นยังคงเป็นปริศนา)

     

    แม้ว่า To Love-Ru จะมีตัวละครที่เป็นผู้หญิงหลายคน แต่เนื้อเรื่องอวยตัวละครใหญ่ได้น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่มาที่หลัง (แต่ดังกว่า) และตัวละครตัวประกอบ ขนาดตัวละครที่ไม่ค่อยมีบทพอมีบทก็ทำได้น่าอวย ที่เห็นเด่นชัด นานะกับโมโมะสองสาวฝาแฝดของลาล่าออกครั้งแรกในช่วงคร่งหลังมาภาค To Love-Ru Darkness กลายเป็นนางเอก หรือสองตัวละครที่ไม่ค่อยมีบทอย่าง “ริสะ” (เพื่อนของฮารุนะ) ที่ตอนแรกออกมาแบบกากๆ แต่พอมีบท (ตอน 147) กับทำออกมาน่าอวย (จนสายมืดมีการวาดอวยเธอแบบเต็มๆ มาแล้ว) หรือจะเป็น “เคียวโกะ” สาวน้อยพลังเพลิงที่ตอนแรกๆ มาแบบตัวประกอบ ไม่ได้สนใจริโตะ แต่พอมีบทอีกทีในภาค ตอนเดียว ริโตะปักธง พร้อมฉากเซอร์วิสเงาสะท้อนก๊อกน้ำให้หลายคนฮือฮา

    จะว่าไปฉากเซอร์วิสมีส่วนสำคัญตัวละครสาวๆ เหล่านี้โดดเด่นขึ้น

    อย่างที่รู้กันว่า To Love-Ru เป็นการ์ตูนที่ขายเซอร์วิส  มากกว่าที่จะเน้นการดำเนินเรื่องเป็นเรื่องเป็นราว ภาคแรกนั้นเซอร์วิสไม่เท่าไหร่ แต่พอ To Love-Ru Darkness เซอร์วิสแรงมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างตัวละครมีน้ำมีนวลมากขึ้น, กางวาดหัวนมเด่นชัด (ภาคแรกๆ ยังไม่ค่อยมี) ไปจนถึงมุมกล้องที่น่าหวาดเสียง

    แน่นอนว่าหลายคนเปรียบเทียบ To Love-Ru กับการ์ตูนเซอร์วิสเรื่องอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตามผมกลับมองว่าในความเซอร์วิสของ To Love-Ru นั้นมันมีสิ่งที่ไม่เหมือนใครซุกซ่อนอยู่

    สิ่งที่ว่าคือความเร้าอารมณ์ การกระตุ้นอารมณ์ ที่ To Love-Ru ทำได้อย่างยอดเยี่ยม หลายคนอาจไม่สังเกตมากนัก แต่ในต่างประเทศแยกประเด็นมากมายเกี่ยวกับฉากเซอร์วิสการ์ตูนเรื่องนี้ได้อย่างละเอียดพอสมควน เป็นต้นว่า หางของชาวเดวิดลูค (ลาล่า, นานะ และโมโมะ) ปลายหางเป็นลูกหัวใจอันเหมือนหางของปีศาจเซอร์คิวบัส (ซัคคิวบัส) อันเสมือนหนึ่งของปีศาจสาวสวยที่กินพลังชีวิตผู้ชายในฝัน ซึ่งเซอร์คิวบัสเป็นปีศาจที่รูปร่างเป็นสาวสวยมีเสน่ห์ยั่วยวน สัญลักษณ์ของหางจึงกลายเป็นสิ่งเย้ายวนแต่เพศบุรุษชายอย่างน่าเหลือเชื่อ (ไม่เชื่อดู H เซอร์คิวบัส หรือปีศาจส่วนใหญ่มีหางแบบนี้ มันดูแล้วยั่วหื่นอย่างบอกไม่ถูก) นอกจากนี้ก็มีพวกปลาหมึกเทนตาเคิล, เลีย, ซึ่งล้วนเป็นพื้นฐานเซอร์วิสทั้งสิ้น

    นอกจากนี้ยังมีเซอร์วิสเร้าอารมณ์แปลกๆ ที่น่าหวาดเสียว ทั้งๆ ที่ตอนแรกมีเพียงไอน้ำศีลธรรมหรือไม่ก็ช่องคำพูดบอลลูนบังจุดสงวนของผู้หญิงจนมิด  แต่พอช่วงหลัง และภาค To Love-Ru Darkness ก็มีเซนเซอร์แปลกๆ เช่น มุมกล้องที่มีอะไรบางอย่างปิดของสงวนได้อย่างพอดี เช่นฉากมิคังในสภาพชุดวันเกิดที่อยู่ก็มีการซูมแปรงสีฟันอยู่ในตำแหน่งของสงวนพอดี เป็นต้น แทนที่จะหมดอารมณ์ กลายเป็นเร้าอารมณ์ เพราะมันน่าตื่นเต้นนั้นเอง

                    เซอร์วิสมายังไม่รวมถึงมุมกล้องแปลกๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะกลายเป็นเซอร์วิสได้ เป็นต้นว่า นานะสวมกางเกงขาสั้นทั้งๆ ที่ไม่น่าจะมีฉากเซอร์วิสเลย แต่มุมกล้องก็ยังอุตสาห์ให้เห็นกางเกงในใต้กางเกงขาสั้นของนานะจนได้ หรือไม่ก็มุมกล้องสองแง่สองง่ามที่มากมายจนนับกันไม่หวาดไม่ไหวที่ปรากฏมาในการ์ตูนเรื่องนี้

     

     


    ริโตะไม่ได้เป็นเทพสะดุดล้ม แต่เป็นเทพพุ่งชน

     

                     สกิลเทพริโตะ แน่นอนสิ่งที่หลายคนรู้จักริโตะมากที่สุดก็คือริโตะเป็นพระเอกที่ซุ่มซ่าม สะดุดล้มมากที่สุดในการ์ตูนแนวฮาแร็ม ที่แปลกคือล้มตอนไหนไม่ล้ม ดันไปล้มโดนผู้หญิง (ที่ริโตะรู้จัก) ตรงหน้า  ล้มยังไม่พอ ยังล้มออกมาในลักษณะที่ไม่มีทางเป็นไปได้ เช่น ลูบคลำนม ลูบไล้ เห็นกางเกงในสาวๆ แบบแนบเนื้อ  ชนิดทำให้คนอ่านรู้สึกอิจฉา และนั่นเองทำให้หลายคนขนานนามริโตะว่า “สะดุดล้มเทพ” แม้ว่าริโตะมักปฏิเสธบ่อยๆ ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่หลายคนไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ เพราะมันน่าเหลือเชื่อมากเกินไป จนหลายคนบอกว่ามันเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะบุคคล แถุมมีวิวัฒนาการมีการพัฒนาด้วยซ้ำ และนอกเหนือจากสกิลมหาเทพแล้ว ริโตะยังมีพลังพิเศษแฝง แม้จะไม่มีความสามารถเหนือมนุษย์ หรือไม่มีทักษะทางการภายภาพอื่นๆ แต่ความจริงแล้วก็มีทักษะการหลบหลีก (ระดับ MAX) มีความยืดหยุ่นสามารถหลบการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างเหลือเชื่อ

              ความจริงแล้วผ่านมามีการ์ตูนฮาเร็มหลายเรื่องที่พระเอกหลายคนมีสกิลริโตะ ทำให้ไม่สามารถเรียกได้ว่าริโตะไม่ใช่ต้นตำรับ สมัยก่อนมีพระเอกดังๆ อย่าง พระเอก “อุราชิมะ เคทาโร่” จาก Love Hina สะดุดล้มไปโดนสาวๆ บ่อยครั้ง (มาก) , “เนกิเมะ” จาก Mahou Sensei Negima! ก็บ่อย, “ชินจิ” จาก Neon Genesis Evangelion นับไม่ถ้วน พูดง่ายๆ พระเอกแนวฮาเร็มส่วนใหญ่จะมีสกิลนี้หมด (บางเรื่องไม่ใช่ฮาเร็มยังมี)

    แม้ริโตะจะไม่ใช่ต้นตำรับ (สกิลเทพ) นั้นพิเศษอยู่หลายอย่าง บางทีอาจเป็นเพราะการเซอร์วิสที่มีน้ำมีนวลมากกว่า และการจัดแสดงท่าทางที่ดูแล้วทำให้ผู้ชายเร้าอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก และริโตะเป็นพระเอกแนวฮาเร็มที่ยังสืบทอดต้นตำรับนี้จนถึงปัจจุบัน เพราะสมัยนี้หาพระเอกมีสกิลแบบนี้ยากแล้ว (อันหลังผมมั่ว)

                    แม้ว่าริโตะจะถูกขนานนามว่า “สะดุดล้มเทพ” แต่คุณเชื่อไหมว่าทั้งเรื่องริโตะสะดุดล้มน้อยกว่าที่คิดไว้มาก!!

                    หลายคนคิดว่าริโตะชอบสะดุดล้ม แต่ความจริงหากสังเกตดูดีๆ นอกเหนือจากสะดุดล้มแล้ว ริโตะเกิดอุบัติเหตุหรือผิดคิวบ่อยมาก เป็นต้นว่า เปิดประตูไปเจอสาวกำลังแก้ผ้า เจออุปกรณ์ของลาล่าทำให้เห็นชั้นในของหญิงสาว , ริโตะแปลงร่างเป็นสัตว์ (ไปจนถึงกางเกงใน) ซอนไซไปตามร่างกายของผู้หญิง, ไม่ก็ลมลามกัดกระโปรงของสาวๆ ให้ริโตะเห็นกางเกงในใต้กระโปรงเป็นบุญตาเป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นอุบัติเหตุที่ไม่ตั้งใจ (แต่ในขณะเดียวกันก็น่าเหลือเชื่อที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว)

                    แถมบางครั้งริโตะเองก็ไม่ได้เป็นคนเกิดอุบัติเหตุแบบไม่ตั้งใจ สาวๆ เองก็เกิดอุบัติด้วย หากสังเกตดีๆ ก็มีสาวสะดุ้นล้มเอง (เช่น ยุย) ให้ริโตะได้ลูบคลำ ไม่ก็พุ่งเข้ามาโดนริโตะ และสังเกตดีๆ อีกจะพบว่าสาวเกิดอุบัติเหตุบ่อยกว่าริโตะสะดุดล้มเองด้วยซ้ำ

    บ่อยครั้งการเกิดอุบัติเหตุแบบไม่ตั้งใจ ทำให้สาวหลายคนหันมาสนใจริโตะไม่ว่าจะเป็นยัย หรือโดยริโตะเทพหลายครั้ง ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกชอบในตอนหลัง

     

    ผมลองไปนับดูเล่นๆ พบว่าภาคแรกริโตะสะดุดล้มจริงๆ 7 ครั้งเท่านั้นเอง ที่น่าสนใจคือบุคคลแรกที่โดนริโตะใช้ท่ามหาเทพสะดุดล้มก็คือ “นิตตะ” อาจารย์ประจำชั้นของมิคัง (ในตอนที่ 54) ซึ่งก็ไม่เชิงสะดุดล้ม คือฉากที่ว่าริโตะเมาปลิ้น แล้วก็ล้มลง )  มือดันไปเปิดเสื้อผ้าอาจารย์เข้า (ก่อนที่ล้มลงก็ถอดกางเกงของมิคังออกไปอีก แต่ถ้าจะเอาสะดุดแบบจะๆ ก็คงจะเป็นซากิ ที่ริโตะสะดุดล้มแล้วเห็นใต้กระโปรงซากิเข้าในตอนที่ 59

    ส่วนอื่นๆ ที่นับมา เป็นต้น ว่าริโตะพุ่งเข้าไปหาสาว (ส่วนใหญ่ไม่เจตนา) มีมากถึง 22 ครั้ง ซึ่งน่าจะเปลี่ยนจาก “เทพสะดุดล้ม” มาเป็น “เทพพุ่งชนได้แล้ว” ส่วนที่เหลือ สาวพุ่งมาหาเอง 14 ครั้ง และริโตะเห็นของดีนับไม่ถ้วน (ส่วนมากเป็นลาล่า) เกิดเพราะอุบัติเหตุ (สาวเป็นเหตุ) 11 ครั้ง เกิดเพราะอุบัติเหตุ (ริโตะเป็นเหตุ) 7 ครั้ง) และคนที่โดนมหาเทพริโตะมากที่สุด (ภาคแรกคือ) ยุย 11 ครั้ง รองลงมาซากิประมาณ 8 ครั้ง

    (ภาค มืด กำลังนับอยู่)

                    ริโตะไม่ได้เป็นมหาเทพอย่างที่หลายคนคิด แม้ว่าทั้งเรื่องริโตะจะสะดุดล้ม หรือไม่ก็ได้ลูบคลำตัวผู้หญิงนับไม่ถ้วน แต่สกิลเทพริโตะยังมีจุดอ่อนอยู่อย่างคือ สกิลนี้ไม่สามารถปักธงสาวได้เหมือนที่หลายคนคิดเอาไว้ เพราะไม่มีทางหรอกที่มีผู้หญิงคนไหนจะตกหลุมรักได้หากชายใดลื่นล้มแล้วลูบคลำหื่นใส่ตั้งแต่แรกเห็น ตัวอย่างเห็นได้ชัดคือ “ซากิ” ที่ภาคแรกโดนริโตะใช้สกิลเทพเยอะไม่แพ้คนอื่นยังไม่ตกหลุมรักริโตะเลย เพราะริโตะยังไม่แสดงด้านดี ความเป็นลูกผู้ชาย ความเมตตา อ่อนโยนให้เห็นก็ไม่มีวันปักธง ผลพลอยได้ของสกิลมหาเทพทำได้แต่เพียงผู้หญิงหันมาสนใจตัวริโตะเท่านั้น (แต่ยังไม่รัก)

    ยังมีตัวละครหญิงที่ไม่โดนริโตะใช้ท่ามหาเทพใส่ ไม่ว่าจะเป็น เซรีน, แว่น (เพื่อนสนิทของริสะ), ริสะ (มีแต่จับกดริโตะ), โอชิซุ (น้องผี)  ตัวละครที่รอปักธงอีกมากมาย ซึ่งกำลังรอคอยว่าภาคใหม่นี้ตัวละครเหล่านี้จะมีบทเด่นหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ตัวละครหญิงทุกคนในเรื่อง ขนาดผู้หญิงในห้องโดนริโตะเห็นของดีหมดแล้ว!! (และที่สำคัญตอนนี้โดจินสายมืดริโตะได้เสียตัวละครที่เป็นผู้หญิงหมดแล้ว!! บางทีอาจยกเว้นเนเมซิสที่ผมไม่เห็นแบบจริงๆ เป็นนางเอกสักเท่าไหร่)

    นอกจากนี้ก็มีตัวละครที่ยังไม่ได้ปักธง ไม่ว่าจะเป็น ริสะ, โอชิซุ (น้องผี), ซากิ, แว่น (เพื่อนของซากิ) และแว่น (เพื่อนของซากิ)  ไปจนถึงตัวละครหลักไม่ว่าจะเป็นนานะ, เมอา, เนเมซีส (ส่วนตัวละครอาจารย์เป็นเซอร์วิสเฉยๆ) ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีเนื้อเรื่องให้ริโตะปักธงหรือไม่ หากมีริโตะจะกลายเป็นมหาเทพของแท้แน่นอน

    ที่น่าสนใจคือบัดนี้ริโตะไม่ได้จูบตัวละครหญิงเลย มีอยู่ครั้งเดียวที่ริโตะจูบก็คือ “รุน” แต่จูบเจ้าตัวตรงๆ ก็ไม่ถูกนัก เพราะริโตะจูบเร็น (เป็นอุบัติเหตุ) ซึ่งตอนนั้นรุนยังอยู่ร่างของเร็นและมีความรู้สึกร่วมกันอยู่  ก็ถือว่าจูบแม้จะเป็นอุบัติเหตุก็ตาม

                    ทำไมมหาเทพริโตะไม่เคยติดอันดับสุดยอดพระเอกฮาเร็ม แม้ว่า To Love-Ru หรือพระเอกริโตะจะดัง หลายคนรู้จักมากที่สุด คุณภาพฮาเร็มก็ไม่เป็นสองรองใคร  แต้ก็มีหลายเหตุผล เช่นกัน ที่มหาเทพฮาเร็มริโตะผู้นี้ไม่สามารถติดอันดับหนึ่งฮาเร็ม  ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินเรื่องที่ไม่ค่อยเป็นเรื่องเป็นราวมากนัก, ฉากเซอร์วิสจนมากเกินไป (มากถึงขนาดผู้ปกครองมาเห็นต้องตกใจ)

                    หรืออาจเป็นเรื่องของความรักที่ริโตะมีต่อฮาเร็ม เพราะที่ผ่านมาริโตะไม่เคยแสดงความโรแมนติกความรักกับสาวในฮาเร็มสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการจูบ อย่างมากก็แค่การอุ้มแบบเจ้าหญิง หรือไม่ก็การกอดปลอบใจกับนานะเท่านั้น สำหรับแนวฮาเร็มแล้วถือว่าน้อยและธรรมดามาก ฮาเร็มเรื่องนี้น่าจะมีฉากปักธงที่ซาบซึ้งให้มันยิ่งใหญ่หน่อย  แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมเห็นคือใจของริโตะเป็นกลาง ไม่ได้เน้นเรื่องความรักชายหญิงเหมือนฮาเร็มเรื่องอื่นๆ ความคิดของริโตะคือความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรกับทุกคนมากกว่า

                    บางทีฮาเร็ม To Love-Ru อาจขาดดราม่า เพราะปกติฮาเร็มทุกเรื่องมักมีฉากจำพวกสาวๆ ในฮาเร็มทะเลาะเพื่อแย่งชายคนเดียว แต่เรื่อง To Love-Ru นั้นไม่มีดราม่าดังกล่าวเลย มีใกล้เคียงที่สุดคือโมโมะห่วงริโตะจากลาสต์บอส “เนเมซิส” เท่านั้น  จะมีฮาเร็มกี่เรื่องที่ฮาเร็มสาวๆ มีความสามัคคีขนาดนี้

                    และสิ่งสำคัญที่สุดคือตอนจบ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญจุดชี้ชะตาสำหรับฮาเร็มหลายเรื่อง เพราะจบวินหรือฮาเร็มมันส่งผลอย่างมากกับความรู้สึกของผู้ดู ซึ่งส่วนใหญ่ปัจจุบันการ์ตูนฮาเร็มที่ติดอันดับหลายเรื่องยังไม่จบ ในขณะที่บางเรื่องมาตายตอนจบ (ตัวอย่าง เห็นได้ชัด เนกิเมะ)

                    แต่อย่างไรก็ตาม ความคิดผมแล้ว To Love-Ru ไม่น่าจบฮาเร็มหรือวิน แต่น่าจะเป็นค้างคา เพราะว่าผลงานที่ผ่านมาของคนเขียนมักจบค้างคา จิ้นกันต่อไปเอง เป็นแบบนี้ทุกเรื่อง อีกอย่างคอนเซ็ปต์ของ คือปัญหาของความรักที่ยังเป็นปัญหาตลอดไปตั้งแต่ต้นจนจบมากกว่า

     

     

    นานะรูทที่ยังต้องปักธงให้แน่น

     

                    กลับมาดูตอนที่ ที่พูดไว้ตอนต้น สิ่งที่ริโตะปฏิเสธการจูบลาล่า และบอกว่าฮาเร็มไม่ใช่คำตอบนั้น ความจริงแล้ว ความหมายจริงๆ ไม่ใช่ริโตะไม่ชอบลาล่าหรือไม่เอาฮาเร็ม แต่ตอนนี้จิตใจริโตะยังสับสนอยู่

    อย่างที่รู้ว่าริโตะนั้นชอบลาล่าและฮารุนะ หากแต่ตอนนี้ริโตะดันมีสาวอีกคนอยู่ในใจด้วยนั่นคือ “รุน” และบางทีในอนาคตจิตใจยังคงสับสนมากกว่านี้หากริโตะว่ามีผู้หญิงหลายคนแอบชอบเขาอยู่ ซึ่งตรงจุดนี้แหละ คือ กึ๋นของพระเอกฮาเร็ม ว่าจะจัดการอย่างไร ให้ตรงใจคนอ่านมากที่สุด

                    สุดท้าย ไม่ว่าริโตะจะเป็นอย่างไร  เขาก็คือพระเอกฮาเร็ม ที่ตรงตำราฮาเร็มทุกประการ  คาแร็คเตอร์ของเขายังคงจดจำเป็นที่รู้จักในการ์ตูนแนวฮาเร็มอีกนานแสนนาน

     

                    ปล. ผมลืมฮาเร็มในตำนานเรื่องหนึ่ง Ah! My Goddess  มีหลายคนรู้จักบ้างเอย!?

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×