ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #255 : ฮาเร็มโรคจิต Abnormal-kei Joshi

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.91K
      2
      20 ต.ค. 56

                    Psychosis โรคจิต หรือวิกลจริต (มาจากภาษากรีก "psyche" แปลว่าจิตใจ/จิตวิญญาณ และ "-osis" แปลว่าสภาพผิดปกติหรือความยุ่งเหยิง) หมายถึงสภาพความผิดปกติของจิตใจในทางจิตเวช ที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียแยกแยะความจริง (ความคิดผิดปกติ) , ไม่สามารถแยกแยะถูกผิด ทำให้ผู้เป็นความทุกข์ทรมาน ทำอะไรที่ผิดไปจากคนทั่วๆ ไป

    โรคจิต เป็นกลุ่มโรคกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีหลากหลายโรค ไม่ว่าจะเป็น โรคอารมณ์แปรปรวน, วิตกกังวล, โรคซึมเศร้า, ฯลฯ ซึ่งแต่ละความมีที่มาและความรุนแรงหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นอาการประสาทหลอน, อาการหลงผิด, ความรุนแรง

    ปัจจุบันวิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายได้ว่าโรคจิตเกิดขึ้นได้อย่างไร หรือระบุว่าใครกันเป็นที่โรคจิต อีกทั้งโรคจิตไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ว่ากรณีใด

    แน่นอนว่าเรามักมองคนเป็นโรคจิตว่าเป็นคนน่ารังเกียจ เป็นบุคคลอันตราย  ที่ไม่ควรเข้าใกล้ ( แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพยนตร์และการ์ตูนแล้ว พวกโรคจิตกับมีสเน่ห์กันอย่างน่าประหลาด อย่างเช่นโจ๊กเกอร์ (จากแบทแมน) ทั้งๆที่เป็นคนธรรมดา ไม่มีพลังวิเศษอะไรเลยหากเทียบกับวายร้ายจากโลกยอดมนุษย์ แต่โจ๊กเกอร์กับเป็นคาแร็คเตอร์ที่หลายคนรู้จักมากที่สุด เพราะความเป็นโรคจิต ทำอะไรบ้าๆ แต่ดูแล้วมีพลัง มีความลึกลับ น่าค้นหา ทำสิ่งที่คนธรรมดาทำไม่ได้ แม้ว่าสิ่งนั้นจะผิดก็ตาม (และเป็นสิ่งที่ลึกๆ แล้วเราอยากจะทำเหมือนกัน แต่เราไม่กล้า)

    ดังนั้นไม่แปลกใจแต่อย่างใด ที่เรามักชอบพวกโรคจิต ที่ในภาพยนตร์และการ์ตูนมักทำภาพโรคจิตเหล่านั้นให้ออกมีเสน่ห์ จนดูน่าสนใจกว่าตัวละครธรรมดาด้วยซ้ำ

     

     

    Abnormal-kei Joshi

     

    Abnormal-kei Joshi (แปลเป็นไทยก็ ผู้หญิงผิดปกติ) เป็นการ์ตูนผลงานของ Sanada Eleven (คนเดียวกับผู้วาด Hyakko) ลงต่อเนื่องใน Comic Meteor (G-mode) ในปี 2012  ซึ่งกว่าตอนใหม่จะออกนั้นใช้เวลานานถึง 3 เดือนถึงจะออกแต่ล่ะตอน

    การ์ตูนเปิดฉากด้วยคำพูดของพระเอกว่า ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยาก  จากนั้นเนื้อหาเหมือนกับนิยายฮาเร็มเรื่องอื่นๆ ด้วยการเปิดตัวพระเอก “ชิอินะ ชินยะ” ที่มีนิสัยเฉยเมยต่อสิ่งรอบข้าง (และจิตแข็ง) อีกทั้งยังมีความคิดว่าผู้หญิงสวยนั้นเป็นสิ่งลึกลับสำหรับเขา เพราะว่ารอบตัวเขานั้นเต็มไปด้วยผู้หญิงมากมายรุมล้อม หากแต่พวกเธอเหล่านั้นกลับมีด้านหนึ่งที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ ไม่เปิดใจให้คนอื่น นอกเสียจากพระเอกเพียงคนเดียว  โดยประกอบไปด้วย

    “ซึบาสะ โทโอกะ” สาวสวยเพื่อนร่วมห้องของพระเอก ที่เป็นที่รักของทุกคน แต่ความจริงแล้วเป็นสาวสตอร์คเกอร์ตามติดพระเอกขั้นเทพ

    “มาซากิ ชิกิมูระ” สาวแว่นนิสัยเงียบๆ ไม่ค่อยพูดใครกับใคร แต่ความจริงเป็นยัยมาโซที่ชอบให้พระเอกมาซาดิสต์ (ทำร้าย) เธอประจำ

    “อิคาริ ซาสึกิ” สาวน้อยเพื่อนสมัยเด็กของพระเอก ภายนอกเป็นคนร่าเริงเข้าคนได้ง่าย แต่ความจริงแล้วเป็นฆาตกรต่อเนื่องฆ่าคนไม่เลือดหน้า

    “บันโจ โยรุโกะ” สาวมืดมน ตัวเตี้ย ผู้เป็นป่วยเป็นโรคจูนิเบียว (อาจมากกว่าด้วยซ้ำ) ที่คิดว่าชาติที่แล้วเธอเป็นอัศวินที่ต้องปกป้องพระเอกด้วยชีวิต

    “อุจิดะ ยูเมะจิ” สาวน้อยที่หลับอยู่แต่ในห้องพยาบาล และจะตื่นเมื่อพระเอกเรียก (ก่อนที่จะหลับอีกครั้ง)

    “โอคุอิ อาคาเนะ” สาวน้อยทวินเทล ผู้ที่คิดว่าเป็นแวมไพร์ ถึงขั้นล่าเหยื่อ (ดูดเลือด) ตอนกลางคืน

    และ “เมย์” น้องสาวสุดน่ารักของพระเอกที่ติดพี่ชายจนอาการน่าเป็นห่วง

    หลังผลงานเรื่อง Hyakko ที่เป็นการ์ตูนตลกวัยรุ่นใสๆ (ที่ผ่านมา) จบลงไป คนเขียนการ์ตูนเรื่องนี้ได้เขียนการ์ตูน Abnormal-kei Joshi   ซึ่งมีเนื้อหาที่สุดแสนที่จะตะลึง และเป็นแนวที่แตกต่างจาก Hyakko เป็นอย่างมาก

    Abnormal-kei Joshi   เปิดฉากเหมือนการ์ตูนตลกวัยรุ่นวัยใสแบบทั่ว ๆ ไป (จนเกือบเหมือน Hyakko ก่อนหน้า) หากเมื่อเนื้อหาดำเนินไปเรื่อยๆ จากใสๆ ก็เริ่มมืดลง กลายเป็นความลึกลับ แปลกประหลาด ไม่ใช่การ์ตูนที่ดูแล้วปวดตับ หรือดราม่า แต่เป็นการ์ตูนที่สร้างความประหลาดใจ อารมณ์แบบว่า “จริงดิ!??”, “บ้าเปล่าว่ะ!??”, “เห้ย!!” ประมาณนั้น และนั้นทำให้หลายคนติดตามด้วยความน่าสนใจไม่ยาก

    3 บทแรกของการ์ตูนเรื่องนี้เป็นการอารัมภบทและแนะนำตัวละครทั้งหมด โดยเนื้อหาเป็นการเล่าชีวิตประจำวันของ “ชินยะ” เด็กมัธยมปลายธรรมดาคนหนึ่ง ที่แต่ละวันเขาทำอะไรบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วชีวิตประจำวันของชินยะคือการพบเจอและทำกิจกรรมกับผู้หญิง 7 คนที่เขารู้จักอย่างสนิทสนม ซึ่งดูแล้วช่างเป็นฮาเร็มที่น่าอิจฉาจริงๆ

    หากแต่ชินยะไม่ได้คิดแบบนั้น (และคนดูด้วย) ในหน้าแรกของการ์ตูนชินยะได้พูดประโยคหนึ่งว่า “ผู้หญิงทุกคนเป็นสิ่งมีชีวิตเข้าใจยาก” แน่นอนว่าตอนแรกๆ หลายคนสงสัยว่าทำไมพระเอกถึงคิดแบบนี้ พระเอกเป็นโฮโม? หรือเกลียดผู้หญิงสวยเหรอ?  เชื่อเลยว่าหลายคนคงเกลียดชินยะในหน้าแรก โดยยังไม่ได้อ่านหน้าต่อไปด้วยซ้ำ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเราเปิดหน้าต่อไป เราก็รู้ว่าทำไมชินยะถึงคิดแบบนี้ (ชนิดว่าสมควรที่ชินยะคิดแบบนี้ด้วยซ้ำ) เมื่อผู้หญิง 7 คนที่รายล้อมเขามีความคิดและรสนิยมที่สุดแสนประหลาดชนิดคนดูต้องอุทานว่า “พระเอกทนคบยัยพวกนี้ได้อย่างไร?

     

     

    จูนิเบียวที่ปรากฏตัวได้ทุกทีทุกเวลา

     

    ชินยะแนะนำผู้หญิงนิสัยประหลาดที่รายล้อมเขาทีละคน เริ่มจากคือ “บันโจ โยรุโกะ” สาวเตี้ยมืดมน จูนิเบียว (โรคป่วย ม.2 ที่คิดว่าตนพิเศษกว่าคนอื่น) ที่ตนเองอ้างว่าระลึกชาติได้ โดยชาติที่แล้วเธอเป็นอัศวินที่มีหน้าที่ปกป้องพระราชา และพระราชาก็คือพระเอกปัจจุบัน แน่นอนว่าคนแรกไม่แปลกเท่าไหร่ หลายคนคงคิดประมาณว่า “สาวจูนิเบียว” น่ารักดี ยังคงคิดว่าเนื้อหาของการ์ตูนเป็นชีวิตประจำวันของวัยรุ่นชายหญิงธรรมดาอยู่

     

     

    พระเอกซาดิสต์ (!?) ใส่น้องแว่น

     

    อย่างไรก็ตามในช่วงต่อมา ชินยะก็แนะนำผู้หญิงนิสัยประหลาดคนที่สอง นั้นคือ จาก “มาซากิ ชิกิมูระ”  สาวแว่นที่ตอนแรกปรากฏตัวออกมาดูเป็นคนเรียบร้อยน่ารัก และเป็นเด็กเรียนดีเด่น หากแต่ชินยะก็เปิดเผยก็แค่ฉากหน้า ความจริงแล้วเป็นมาโซตัวแม่ที่ชอบให้พระเอกทำร้าย (และชอบโดนด่า) เราได้ฉากเห็นพระเอกฟาดแส้ร่างเปลือยเปล่าของสาวแว่นที่ถูกพันธการและปิดตา พร้อมหัวเราะด่าว่ายัยหมูตัวเมีย ก่อนที่พระเอกจะอ้างว่าเขาไม่ได้รู้สึกชอบทำแบบนี้เลย หากแต่เธอความต้องการของชิกิมูระต่างหาก ที่เขาทำก็เพื่อตอบสนองงานอดิเรกของเธอเท่านั้น

     

     

    หนึ่งในฉากที่ผมชอบที่สุดในการ์ตูนเรื่องนี้

     

    โอเค กรณีของชิกิมูระยังพอยอมรับได้ เห็นบ่อยๆ จะตายพวกสาวมาโซชอบให้พระเอกทำร้ายหรือด่าว่า หากแต่หลังจากพระเอกกลับบ้านตอนดึก เขาก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง ก็พบว่าเป็นข้อความจาก “อิคาริ ซาสึกิ” เพื่อนสมัยเด็กของเขาที่ครั้งหนึ่งแยกห่างจากกัน 10 ปีก่อนที่จะกลับมาพบกันอีกครั้ง โดยข้อความบอกว่า “ให้มาที่สวนสาธารณะ มีอะไรดีๆ ให้ดู” และเมื่อพระเอกไปถึงก็พบศพชายคนหนึ่งโดนแทงเลือดอาบทั่วร่าง และข้างๆ ศพนั้นมีมาสึกิเลือดโชกตัวในมืดถือมีดอยู่

    “นี้ๆ ชินจัง (ชื่อเล่นพระเอก) ดูสิ ฉันเจอศพอีกแล้วล่ะ” มาซึกิยิ้มร่าชี้ไปที่ศพ

     

                    เห็นได้ชัดเลยว่าเพื่อนสมัยเด็กนั้นแหละเป็นคนฆ่าชายคนนั้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือซาสึกิก็คือฆาตกรต่อเนื่องที่ออกอาละวาดในช่วงเวลานี้ เป็นฆาตกรต่อเนื่องสุดบ้าเลือดที่ฆ่าคนไม่เลือดหน้า ไม่สนว่าเหยื่อเป็นชายหรือหญิง ขอให้เห็นเวลากลางคืนจะใช้มีดแทงแบบไม่ยั่ง จนทำให้เมืองพระเอกอยู่กลายเป็น “เมืองแห่งฆาตกร” ไปแล้ว

                    “10 ปีที่ผ่านมา เพื่อนสมัยเด็กได้กลายเป็นคนที่เขาไม่รู้จักเสียแล้ว” พระเอกคิดในใจ

                    หากแต่ แทนที่พระเอกจะรู้สึกตกใจหรือกลัว เขากับทำหน้าซังกะตาย (หรือปลาตาย หรือใจเย็นก็บอกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ นิ่งมาก) พร้อมพูดว่า “แล้วคุณฆาตกรต่อเนื่องแยกผมมาดูสถานที่นองเลือดทำไมหรือ?

                    มาสึกิยิ้มและทำท่าดี๊ด๊าพร้อมพูดว่า “ก็แหม ฉันอยากจะให้ชินจังเห็นเป็นคนแรกนี่น่า แบบว่าเหมือนของขวัญอะไรแบบนี้แหละ”

    จากประโยคนี้แสดงให้เห็นว่านี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาสึกิเรียกให้พระเอกมาดูศพที่ตนฆ่า หากแต่เป็นหลายครั้ง (เชื่อว่านี้เป็นครั้งที่ 6) ซึ่งพระเอกรู้มาตลอดว่าเพื่อนสมัยเด็กของเขาเป็นฆาตกรต่อเนื่อง หากแต่เขาไม่บอกใคร ซ้ำยังไม่ชอบคนอื่นมาว่าร้ายเพื่อนสมัยเด็กของเขาด้วย

    หลังจากนั้นซินยะก็ขอลามาสึกิเพื่อกลับบ้าน ระหว่างทางกลับบ้านนั้นพระเอกได้รู้ว่ามีใครคนหนึ่งสะกดรอยตาเขามา ซึ่งก็คือสาวสวยประจำห้อง “ซึบาสะ โทโอกะ” สเตอร์เกอร์ตัวแม่ที่ตามติดชีวิตของเขาทุกฝีเก้า แน่นอนว่าเธอรู้จักตัวตนพระเอกทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นนิสัยใจคอ ไปจนถึงความลับของผู้หญิงทุกคนที่อยู่รอบตัวเขา (มาถึงตรงไหนก็ไม่แปลกแล้วล่ะ)

    “นายชอบคิดว่าพวกผู้หญิงนั้นเข้าใจยาก แล้วทีตัวเองล่ะก็แปลกพอกันแหละ” โทโอกะย้อนกลับพระเอกบ้าง แน่นอนว่าคนดูก็มีคิดเห็นตรงกับโทโอกะไม่มากก็ไม่น้อย

    พระเอกยังคงทำหน้าตาย แม้จะมีอารมณ์นิดหน่อยบ้าง แต่เขาก็เดินกลับบ้านโดยมีโทโอกะเดินตามอยู่ข้างๆ เป็นอันจบตอนแรก

    สรุปคือผู้หญิง 4 คนที่เป็นตัวละครหลักในตอนที่ 1 ไม่มีใครจิตปกติสักคน... แถมแต่คนโรคจิตอย่างมีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก

    เรียกได้ว่าตอนแรกของการ์ตูนเรื่องนี้เปิดฉาก แนะนำตัวละครได้น่าตกใจ จนสร้างความน่าติดตามแก่คนดูเป็นอย่างมาก ว่าตอนต่อไปจะเอายังไงต่อ หากแต่กว่าตอนใหม่ที่ว่านั้นกว่าจะมานั้นต้องรอนานถึง 3 เดือน (ไม่รู้เพราะอะไร แต่หลายคนบอกว่าสำนักพิมพ์มีปัญหาซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า)

    และเมื่อตอนที่ 2 ออกมา ปรากฏว่าฮาเร็มของพระเอกยังไม่หมดเพียงเท่านี้ โดยสำหรับตอนที่ 2 นั้นมีสาวสวยอีก 2 คนที่ใกล้ชิดกับพระเอกไม่แพ้ 4 คนก่อนหน้า

    บทที่ 2 เริ่มขึ้นในตอนเช้า ชินยะได้ไปโรงเรียนพร้อมกับเพื่อนสมัยเด็กฆาตกร ระหว่างที่ทางที่เพื่อนสมัยพูดติดตลกอยู่นั้น เขาก็ได้เห็นผู้หญิงทวินเทลถือร่มทั้งๆ เป็นตอนเช้าที่ไม่มีแสงแดดแรงและฝนตก เมื่อทวินเทลเห็นพระเอกก็ก็ยิ้มเห็นฟันแหลมๆ ดูแล้วน่ากลัว พร้อมทักทายชินยะ เห็นได้ชัดว่าชินยะรู้จักทวินเทลคนนี้ (แต่เพื่อนสมัยเด็กไม่ได้รู้จักทวินเทล แสดงให้เห็นว่าพวกผู้หญิงในฮาเร็มต่างไม่รู้จักกัน เพียงแต่มีจุดร่วมคือพวกเธอคบ (เป็นเพื่อน) กับพระเอกเท่านั้น)

     

     

    เจ้าหญิงนิทรา

     

    อย่างไรก็ตามพระเอกยังไม่แนะนำทวินเทลให้คนดูรู้จัก  แต่กลับแนะนำเพื่อนหญิงอีกคนที่คนในโรงเรียนตั้งฉายาว่า “เจ้าหญิงนิทรา” เธอชื่อ “อุจิดะ ยูเมะจิ” สาวน้อยที่ใช้ชีวิตกว่าครึ่งหนึ่งของวันเพื่อนอนหลับอย่างเดียว (หากอยู่ในโรงเรียนจะนอนในห้องพยาบาล) ซึ่งเธอกับพระเอกมีความสัมพันธ์คือเป็นเพื่อนกัน หากเขามีเวลาว่างเขาปลุกเธอและเอาหนังสือพิมพ์มาให้เธออ่าน (เพราะเธอชอบอ่านหนังสือพิมพ์) หากเทียบกับคนอื่นๆ ในฮาเร็มชินยะแล้ว ยูเมะจิน่าจะเป็นตัวละครที่ดูปกติมากที่สุด แม้ว่าจะชอบนอนหลับยาวก็ตาม

     

     

    ทวินเทลแวมไพร์

     

    หลังจากชินยะออกจากห้องพยาบาล (ที่เจ้าหญิงนิทราอยู่) เขาก็ถูกทวินเทลที่ทักเขาในตอนเช้าจู่โจม แล้วลากเขาเข้าไปในห้องน้ำหญิง พระเอกแนะนำว่าเธอชื่อ “โอคุอิ อาคาเนะ” แม้เป็นคนสวยแต่มีพฤติกรรมประหลาดที่คิดว่าตนเป็นแวมไพร์ (หรือแวมไพร์จริงๆ ก็ไม่รู้) ด้วยพฤติกรรมเกลียดแสงแดด ไม่ชอบออกมาข้างนอก หากถึงตอนกลางคืนเธอจะออกล่าเหยื่อด้วยการกัดดูดเลือดเหยื่อที่เป็นมนุษย์จริงๆ ซึ่งเธอนั้นชอบเขา เพราะว่าเขามีเลือดที่มีรสชาติอร่อยลิ้น ซึ่งพระเอกก็ไม่ได้รังเกียจทวินเทลอะไรเลยแม้แต่น่อย พร้อมยินดีให้เลือดทวินเทล ประมาณหากมีเวลาว่างเมื่อใดพระเอกจะเชือดข้อมือตนเองเพื่อให้ทวินเทลเลียเลือดเขาเสมอ

     

     

    น้องสาวบราคอน

     

    มาบทที่ 3 การแนะนำฮาเร็มของพระเอกยังไม่จบ คราวนี้เป็นตัวละครระดับลาสต์บอส (ผู้มีอิทธิพลต่อพระเอกอย่างสูง) นั้นคือน้องสาวสุดน่ารักของชินยะ “เมย์” ซึ่งเป็นน้องสาวประเภทบราคอน (รักพี่ชาย) ระดับโรคจิตรุนแรง กล่าวคือ รักพี่ชาย ห่วงพี่ชายสุดๆ ชนิดว่าไม่ให้พี่ชายมีเพื่อนที่เป็นเพศตรงข้าม (ดีหน่อยตรงที่เมื่อเร็วๆ นี้ให้พี่ชายคบกับเพื่อนผู้ชายได้) ยกเว้นเพื่อนสมัยเด็กของพระเอกที่เธออนุญาตให้คบเป็นกรณีพิเศษ แน่นอนว่าพระเอกนั้นปิดความลับว่าเขามีเพื่อนเป็นผู้หญิงสวยถึง 6 คนไม่ให้น้องสาวรู้เด็ดขาด เพราะหากน้องสาวรู้ว่ามีผู้หญิงคนไหนใกล้ชิดกับพี่ชายเธอล่ะก็ เธอจะเกิดอารมณ์หวีดโมโหอย่างรุนแรงพังข้าวของรอบตัวทันที ซึ่งกว่าที่พระเอกจะง้อน้องสาวได้แทบเหนื่อยทีเดียว (อย่างไรก็ตามาถึงตอนนี้เราก็ไม่แปลกใจแล้วละว่าน้องสาวมีอิทธิฤทธิ์อะไรบ้าง)

    เป็นอันว่าจบการแนะนำฮาเร็มของชินยะ สรุปก็คือมีสาวถึง 7 คนอยู่ในฮาเร็มของพระเอก และทุกคนล้วนมีนิสัยแปลกประหลาดทั้งสิ้น.....

    มาถึงตอนนี้ขอบอกว่าเราได้เห็นอะไรหลายๆ ในตัวของชินยะ ตัวเอกในการ์ตูนเรื่องนี้ ว่าเป็นเทพฮาเร็มของจริง และเป็นพระเอกที่มีความอดทนสูงมาก เพราะฮาเร็มมีแต่สาวนิสัยชวนปวดหัว จนคนดูต้องอุทานว่า “พระเอกมันทนได้ยังไง” หากแต่พอมาดูตอนที่ 3 ก็พอรู้แล้วว่าสาเหตุที่พระเอกเป็นแบบนี้น้องสาวอาจมีส่วนเกี่ยวข้องไม่มากก็ไม่น้อย เพราะทุกวันพระเอกต้องอยู่กับการโกหก การไม่แสดงสีหน้าให้มีพิรุธกับน้องสาว  ต้องทำหน้าตาย ต้องปากไม่ตรงกับใจ และในขณะเดียวกันเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธคำขอของผู้หญิงคนอื่นๆ ได้ (พูดง่ายๆ ผู้หญิงมีอำนาจเหนือกว่าพระเอกนั้นเอง)

    ชินยะแบ่งเวลาได้เยี่ยมจริงๆ มีเวลาว่างให้สาวแต่ละคน (หากสังเกตดีๆ วันๆ หนึ่งพระเอกจะมีเวลากับสาวๆ 5 คน ส่วนสาวสตอร์คเกอร์และสาวจูนิเบียวบ้าอัศวินนั้นไม่มี เพราะชีวิตอยู่กับการตามติดกับพระเอกอยู่แล้ว) และที่เทพกว่าคือรถไฟแทบไม่ชนกันเลย  (แถมจะชนแต่พระเอกสามารถพูดไม่ให้สาวๆ ทะเลาะกันได้)

    หากใครสังเกตดีๆ จะพบว่าพฤติกรรมนิสัยของสาวๆ ในฮาเร็มของชินยะนั้นสอดคล้องกับ 7 บาปศาสนาคริสต์อย่างน่าประหลาด หากดูจากพฤติกรรม, ความโรคจิต  ความรู้สึกของผู้หญิงแต่ละคนที่มีต่อพระเอกที่ค่อนข้างออกไปทางสุดโด่ง  จนไม่สามารถตีความได้ว่าพวกเธอชอบชินยะเพราะในฐานะชายหญิง  ในฐานะเพื่อo หรือในฐานะเหยื่อกันแน่?

    มาซากิ ชิกิมูระ-ราคะ-สาวผู้ชื่นชอบความเจ็บปวด ชอบให้พระเอกชินยะทำร้ายตนเอง (หรือทำเรื่องไม่ดีใส่) จนกลายเป็นความสุขทางเพศ คิดแต่ในทางเสื่อม ต้องการความเร้าใจ หมกมุ่นจนเกิดพอดี

    โอคุอิ อาคาเนะ-ตะกละ-ทวินเทลแวมไพร์ที่เอาแต่กระหายเลือดแบบไม่มีที่สิ้นสุด ชอบดื่มเลือดชินยะเป็นพิเศษ  อีกทั้งยังอาละวาดดื่มเลือดคน โดยไม่สนใจ หรือเห็นใจคนอื่น (หากดูบทต่อไปจะพบว่าทวินเทลนั้นออกอาละวาดดูดเลือดคนในตอนกลางคืนด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าคุณเธอฆ่าคนหรือเปล่า แต่เชื่อว่าเธออาจทำ)

    อิคาริ ซาสึกิ-โลภะ-เพื่อนสมัยเด็กฆาตกร ชอบให้พระเอกชินยะมาดูผลงานของตน ราวกับเป็นพิธีกรรมอะไรสักอย่าง อีกทั้งยังทะเยอทะยานอันแรงกล้า  ตามนิสัยฆาตกรต่อเนื่อง (แบบนิยม) ที่มันจะฆ่าคนตราบใดที่ตนไม่ถูกจับ และนับวันจะยิ่งย่ามใจมากขึ้นเรื่อยๆ มีความต้องการไม่ที่สิ้นสุด

    อุจิดะ ยูเมะจิ-เกียจคร้าน ผู้เอาแต่นอนจนไม่สนใจการเปลี่ยนแปลงต่อสิ่งรอบข้าง (แต่สนใจเหตุการณ์บ้านเมืองที่กว้างกว่านั้น) ใช้เวลาอย่างไร้ค่า

    เมย์-โทสะ- น้องสาวของชินยะที่รักพี่ชายของตนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด และจะโกรธเคืองพยาบาท มุ่งร้ายกับบุคคลที่ตนไม่ชอบ ไม่สนศีลธรรม ไม่ชอบคนอื่นแบบไร้เหตุผล (นอกจากรนี้ยังออกไปทางลาสต์บอสด้วย)

    ซึบาสะ โทโอกะ -ริษยา-สตอร์คเกอร์ต้องการพระเอกมาครองคนเดียว  ชนิดเผลอเมื่อไหร่จับกด (อันนี้อาจมองลึกๆ หน่อย)

    บันโจ โยรุโกะ-อัตตา จูนิเบียวจอมหย่อหยิ่ง ชอบดูถูกคนอื่น เห็นตนเองดีกว่าคนอื่น

    สาวๆ ในฮาเร็มของชินยะ จะเป็นตัวแทนของ 7 บาป หากแต่ระดับความอันตรายนั้นแตกต่างกัน จากคนอันตรายน้อยๆ (หรือเปล่า?) ไปจนถึงโครตอันตราย ซึ่งชินยะก็เทพอีกที่สามารถเอาพวกเธออยู่

    น่าคิดคือ ตกลงแล้วชินยะนั้นรู้สึกกับผู้หญิงในฮาเร็มอย่างไร? ชอบ? เกลียด? หรือเสแสร้งทำเป็นคบหรือเปล่า? เพราะพฤติกรรมสาวแต่คน คนธรรมดามาเห็นก็รู้สึกรังเกียจหรือหวาดกลัวไม่มากไม่น้อย อีกทั้งพวกเธอไม่ได้รักพระเอกแบบผู้หญิงทั่วไปเขาทำกัน แต่ชินยะยังนิ่งซ้ำยังมีส่วนร่วมกิจกรรมของพวกเธอ และหากอ่านดีๆ จะพบว่าชินยะนั้นให้ความสำคัญกับผู้หญิงในฮาเร็มทุกคน อาจไม่ใช่แบบคู่รัก หากแต่เป็นเพื่อนมากกว่า มีอยู่ฉากหนึ่งที่ชินยะรู้สึกโมโหมากเมื่อสาวจูนิเบียดูถูกสาวซาดิสต์และเพื่อนสมัยเด็กฆาตกรว่าเป็นสาวชั้นต่ำ หรือสาวอันตราย ซึ่งเขาก็พูดทำนองว่าจะปกป้องพวกเธอด้วยซ้ำ

    ราวกับว่าพระเอกนั้นยอมรับสภาพ พยายามใช้ชีวิตอยู่กับบาป (แม้จะเหนื่อยทั้งกายและใจก็ตาม) ไม่ใช้ผลักใสไล่ส่งบาป ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผิดจากคนอื่นๆ ที่พยายามไล่หรือชำระบาปเหล่านี้เพื่อพ้นตัว  

    แม้ว่านิสัยตัวละครในเรื่องออกไปทางสุดโด่ง หรือนิสัยโรคจิตตามแบบการ์ตูนไปบ้าง (เช่น ซิสคอน, จูนิเบียว) ไปบ้าง หากแต่มองโลกแห่งความจริงเราก็ยอมรับว่าทุกวันนี้คนรอบข้างนั้นต่างคนล้วนมีนิสัยโรคจิตไม่น้อยเลย (จะมากหรือน้อยเท่านั้น) เพียงแต่เราไม่รู้เท่านั้น

    ในเรื่องหลายคนอาจชอบสาวสตอล์กเกอร์เพราะเธอน่ารัก มีความเป็นนางเอก และเป็นตัวละครที่มีความรักพระเอกในลักษณะชายหญิง เธอชอบเขา อยากอยู่กับเขา (ส่วนพระเอกไม่เอาลูกเดียว) แต่อย่างไรก็ตาม ผมกับชอบ 2 ตัวละครที่แสดงอาการทางจิตได้อย่างน่าสนใจ และไม่เหมือนใครมากกว่าสาวสตอล์กเกอร์

    คนแรก “อิคาริ ซาสึกิ” เพื่อนสมัยเด็กที่ต่อหน้าคนอื่นนั้นเธอจะทำตัวเหมือนเด็กสาวธรรมดา ยิ้มแย้มตลอดเวลา หากแต่ตกกลางคืนเธอจะเป็นฆาตกรต่อเนื่องใช้มีดแทงฟันคนไม่เลือกหน้า พูดง่ายๆ เธอมาแบบฉบับฆาตกรโรคจิต ที่พบเห็นได้ตามโลกแห่งความจริง   แม้ว่าซาสึกิยังคงมีนิสัยแปลกๆ ต่อหน้าคนอื่นบ้าง แต่คนรอบข้างก็ไม่ได้คิดติดใจ สงสัยอะไรเพราะเป็นนิสัยที่รับได้และดูแล้วไม่มีพิษมีภัย

    แต่สิ่งที่ผมชอบคือความสัมพันธ์ของเธอกับพระเอกนั้นเธอไม่เหมือนเพื่อนสมัยเด็กในการ์ตูนทั่วๆ ไป ที่ปกติแล้วแนวฮาเร็มเพื่อนสมัยเด็กค่อนข้างเจียมเนื้อเจียมตัวไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับตัวละครอื่น หากแต่เรื่องนี้ใส่ความเป็นโรคจิต ใส่ความโหดเลือดสาดเข้าไป ทำให้เพื่อนสมัยดูมีพลัง น่าจดจำ อีกทั้งการแสดงความรักกับพระเอกในรูปแบบฆาตกรที่อยากให้พระเอกเห็นผลงาน (เหยื่อที่ตนฆ่า) ก็ยิ่งดูแล้วน่าสะพรึงกลัว น่าตกใจ กลายเป็นตัวละครอันตราย อีกทั้งทำให้เนื้อเรื่องน่าติดตามขึ้นด้วย  

    คนที่สองที่ผมชอบ (ผมชอบพอๆ กับซาสึกิแหละ)  “โอคุอิ อาคาเนะ” ทวิวนิเทลแวมไพร์ คนนี้แตกต่างจากเพื่อนสมัยเด็กฆาตกรต่อเนื่องอย่างเห็นได้ได้ชัด ในขณะที่เพื่อนสมัยเด็กปกปิดไม่ให้ใครรู้ว่าเธอเป็นโรคจิต แต่ทวินเทลนั้นประกาศให้โต้งๆ ให้คนรอบข้างรู้เลยว่าเธอเป็นโรคจิต เธอนั้นเป็นแวมไพร์ บ้าถึงขั้นใส่ชุดไม่เหมือนคนอื่น กางร่มในตอนเช้าทั้งๆ ที่ไม่มีแดดแรงหรือฝนตก โดยไม่อายสายตาผู้คน แถมยังเป็นโรคจิตอันตราย บ้าเลือดทำร้ายคนอื่น  กลางคืนทำตัวเป็นแวมไพร์ดูดเลือดคนบนถนน (ไม่กลัวเอดส์เลยเนอะ ไม่รู้ว่าตายหรือเปล่า แต่เห็นบริเวณเลือดเหยื่อที่สดเสื้อเธอแล้วคงรอดยอด) แต่เธอกลับไม่ถูกจับเข้าโรงพยาบาลบ้าเลยแม้แต่น้อย (ผมเดาว่าเธอน่าจะมีเส้น มีอิทธิพลพอสมควรเลย)

    ที่น่าสนใจคือ หากดูความสัมพันธ์ระหว่างทวินเทลแวมไพร์กับพระเอกชินยะแล้วจะพบว่า เธอเป็นหนึ่งคนที่สนิทกับพระเอกมากที่สุด (หากไม่นับว่าเธอชอบเลือดพระเอกน่ะ) นอกจากเป็นเพื่อนแล้ว พระเอกยังให้เธอเข้ามาในบ้านของตนด้วยซ้ำ (แถมยังรู้จักน้องสาวพระเอกอีกต่างหาก) และยังสามารถพูดเรื่องโรคจิตเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา (ประมาณว่าเธอรู้ตัวดีว่าโรคจิต ชนิด ไม่อาย ไม่ปิดบัง)

    สิ่งได้เรียนรู้อีกอย่างจาก Abnormal-kei Joshi  คือข้อดีของการออกแบบตัวละครโรคจิต สมมุติหากตัวละครอย่างเพื่อนสมัยเด็กและทวินเทลเป็นคนธรรมดาจะถือว่าน่าเบื่อมาก แทบไม่มีอะไรแปลกใหม่อะไรเลย หากแต่เมื่อใส่ความเป็นโรคจิต เลือดสาด ด้านมืดเข้าไปในตัวละครก็จะยิ่งโดดเด่นขึ้น ซ้ำยังกำจัดความแบนราบของตัวละคร (ทำไมเธอถึงรักพระเอก, ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้) ไม่ต้องปูนพื้นเรื่องราวของเธอมากมายอะไร เพียงแค่รู้ว่าเธอโรคจิตมันก็เข้าใจแล้ว

    เมื่อบทช่วง 1-4 เป็นการแนะนำตัวละครทั้งหมดในเรื่อง (พระเอกกับ 7 สาว) จบลง ผมก็มองไม่ออกมาเนื้อหาการ์ตูนจะเล่นอะไรต่อ? (เป็นการ์ตูนที่เดาเนื้อหาไม่ออกเลยว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร) และ 3 เดือนต่อมา การ์ตูนตอนที่ 5 ก็มา  จะเป็นเรื่องราว (มุมมอง) ของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ภายนอกเหมือนคนปกติธรรมดา มีอาชีพเป็นครูในโรงเรียนมัธยมต้นที่เป็นที่นิยมของนักเรียนหญิง อย่างไรก็ตามการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ต้องการให้มีคนปกติธรรมดาในเรื่องสักคน ดังนั้นเมื่อเรื่องดำเนินไปสักพักเราก็รู้ว่าคุณครูนี้ไม่ใช่ครูธรรมดา หากแต่เป็นฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตที่มีความสุขในการข่มขืน ทรมานและฆ่า (กุโระ) เหยื่อผู้หญิงสวย 3 รายซ้อน   ซึ่งเขากำลังอยู่ช่วงกำลังได้ใจ ตำรวจไม่สามารถจับตัวเขาได้ และพยายามหาเหยื่อรายใหม่

    หากแต่ช่างโชคไม่ดี ครั้งนี้คุณครูคนนั้นผิดพลาด เพราะเลือกใครไม่เลือก ดันเลือก “เมย์” น้องสาวพระเอกเรื่องนี้เป็นเหยื่อ.....!! และนั้นเองทำให้คุณครูได้เขาพบฆาตกรปีศาจของจริง และพวกตามติดของจริง ชนิดที่ว่าเทมื่อเทียบกับพวกเธอแล้วคุณครูเป็นแค่เด็กทารกไปเลย และพระเอกเองก็ได้เตรียมฉากวาระสุดท้ายแก่ผู้ที่คิดมายุ่มย่ามน้องสาวของเขาไว้แล้ว

    ในช่วงที่ 5-7 แสดงเห็นได้ชัดว่านอกจากพระเอกอยู่กับบาป พยายามอยู่ร่วมกับบาปแล้ว เขายังใช้ประโยชน์จากบาปเหล่านั้นเพื่อวัตถุประสงค์ของตนเองด้วย (แม้วัตถุประสงค์ที่ว่าจะเป็นการปกป้องคนที่เขารักก็คลายๆ กับปกป้องฮาเร็มก็เถอะ)

    เรื่องราวกำลังเข้มข้น จนอดใจที่จะรอตอนใหม่ไม่ไหวเลยแหละ........ว่าสุดท้ายแล้วจุดจบของคุณครูฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตจะเป็นอย่างไร ระหว่างถูกตำรวจจับ (เชื่อเถอะการ์ตูนเรื่องนี้ไม่มีทางเป็นแบบนี้แน่ๆ),  หรือถูกเพื่อนสมัยเด็กฆาตกรปีศาจฆ่าเขา

    Abnormal-kei Joshi  ไม่ใช่การ์ตูนที่อ่านแล้วปวดตับ แต่เป็นการ์ตูนที่อ่านแล้วรู้สึกถึงความน่ากลัว โรคจิต มันเป็นฮาเร็มที่อ่านแล้วไม่ได้เกิดความรู้สึกซาบซ่า หรืออิจฉาพระเอกเหมือนฮาเร็มทั่วไป แต่อารมณ์คือพระเอกกำลังเล่นกับไฟ ชีวิตนั้นมืดมน แต่กระนั้นก็อดไม่ได้ที่จะติดตามต่อไป ว่าเนื้อหาจะเป็นยังไงต่อ

    ยิ่งลายเส้นของการ์ตูน รู้สึกเข้ากันอย่างประหลาด แม้ลายเส้นไม่แตกต่างจากอะไรกับผลง่านก่อนหน้า (Hyakko) ที่เป็นลายเส้นเหมือนโล่งๆ ยิ่งเป็นฉากกลางคืนก็ยิ่งได้อารมณ์ ตามความเห็นของผมแล้วลายเส้นแบบนี้เหมาะกับแนวจิตๆ น่าขนลุก นี้ด้วยซ้ำ มากกว่าแนววัยรุ่น วัยใส (ดราม่านิดๆ) อย่าง Hyakko

    อย่างไรก็ตาม แม้เนื้อหาการ์ตูนเรื่องนี้จะน่าขนลุก น่ากลัว แต่กระนั้นก็ยังสอดแทรกความน่ารัก มุมน่ารักของผู้หญิงแต่ละคนเอาไว้ด้วย อีกทั้งยังสอดแทรกบรรยากาศตลก (ตามสไตล์คนเขียน) ที่ไม่ได้เล่นตลกแบบโวหาร แต่เป็นตลกแบบร้ายๆ หรือพฤติกรรมของตัวละคร โดยเฉพาะฉากพระเอกทำ (ตอนแรกคนอ่านอาจตกใจ แต่พออ่านหลายรอบกลายเป็นตลกซะงั้น)

     สรุป Abnormal-kei Joshi เป็นการ์ตูนที่น่าสนใจ แม้ตัวละครจะมาก (ชื่อก็จำยากด้วย) แต่ด้วยการกำหนดนิสัยให้โรคจิตทำให้จดจำง่าย ซ้ำไม่ทำให้เกิดการแบนราบด้วย อีกทั้งยังเป็นการ์ตูนน่าติดตามว่าจะเกิดอะไรเกิดขึ้นต่อไป  เพียงแต่กว่าตอนใหม่จะออกมามันช่างนานเหลือเกิน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×