ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #221 : Girls und Panzer สงครามรถถังกีฬาสีประจัญบาน!!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.87K
      9
      1 เม.ย. 56

               

    Girls und Panzer ในบทความนี้เป็นการรีวิวของคนที่ไม่มีความรู้เรื่องรถถัง

    และไม่มีความละเอียดอ่อนเลยสักนิด ดังนั้นจะไม่เจาะลึกอะไรมากครับ

    อยากอ่านเจาะลึกเต็มๆ ไปที่

     http://my.dek-d.com/doggiebiz/writer/viewlongc.php?id=774147&chapter=33

    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kross&month=10-2012&date=12&group=27&gblog=1

    เองเน้อ

     

    Girls und Panzer นั้นผมจำได้ตอนที่เข้ามาใหม่ๆ หลายคนตั้งแง่อคติสุดๆ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ดูด้วยซ้ำ พร้อมดูถูกว่า การ์ตูนเรื่องนี้คงจะเป็นขายความโมเอะ ขายผู้หญิงโลลิ คงมีแต่ฉากเห็นชุดว่ายน้ำและกางเกงในล่ะว้า (สงสัยยังขุ่นเรื่องกางเกงในบินได้ไม่หาย) ดังนั้นไม่แปลกหรอกครับ ที่ตอนแรกๆ รีวิวไม่ว่าไทยและต่างประเทศต่างกดคะแนนเรื่องนี้เป็นแถวๆ บางเว็บให้คะแนนเรื่องนี้ 0 คะแนน บางเว็บให้ 6 คะแนนธรรมดา หลายคนเชื่อว่าอนิเมะเรื่องนี้คงไม่สามารถสู้การ์ตูนโชโจหรือการ์ตูนดังๆ ที่จับตามากมายในซีซั่นเดียวกันได้

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป Girls und Panzer ได้ลบความสบประมาททั้งมวลแก่ผู้มองการ์ตูนเรื่องนี้แบบอคติ ว่าการ์ตูนโมเอะเรื่องนี้ไม่ได้ไร้สาระอย่างที่คิดเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าความนิยมมากขึ้นเมื่อหลายๆ ตอนผ่านไป ยอดจองอนิเมะซีซั่นนี้มากที่สุด มีการวาดโดจินมากมาย และได้รับการกล่าวถึงบ้านเราขณะนี้ว่าเป็นการ์ตูนที่สนุกเหลือเชื่อ จนทำให้คนที่เกลียดโมโอะหรือเมินการ์ตูนเรื่องนี้ตอนแรกเกิดความสงสัยว่า “การ์ตูนเรื่องนี้ดีตรงไหน?

    และนี่คือหนึ่งในการ์ตูนที่ผมชอบที่สุดส่งท้ายปี 2012 ครับ

     

     

    Girls und Panzer

    ชีวิตประจำวัน, แอ็คชั่น, สงคราม (??)

     

    Girls und Panzer เป็นอนิเมะ Actas (สตูดิโอนี้ไม่ค่อยดังครับ) กำกับโดย Mizushima Tsutomu (Shinryaku! Ika Musume, Another, Blood-C, xxxHOLiC) ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2012 (และมีมังงะ) มีทั้งหมด 12 ตอน  แม้เนื้อหาจะเกี่ยวกับรถถังและกีฬาผสมสงคราม แต่อารมณ์ของอนิเมะเป็นแนวสงครามที่จั๊กจี้หัวใจของคุณเพราะเต็มไปด้วยมิตรภาพของเหล่าสาวๆ ที่แสนอบอุ่น

    Girls und Panzer  เนื้อหาเกี่ยวกับโลกแห่งหนึ่ง คล้ายๆ กับโลกของเรา เพียงแต่มีศิลปะป้องกันตัว (??) ที่เรียกว่า Sensha-do คือศิลปะป้องกันตัวด้วยรถถัง ซึ่งความหมายตรงๆ ว่าการขับรถถังสงครามจริงๆ  75 มม ที่ต่อสู้กับข้าศึกนี้แหละ ที่แปลกกว่านั้นคือศิลปะป้องกันตัวดังกล่าวเป็นของผู้หญิงเท่านั้น พวกผู้ชายตูดงอนไม่มีสิทธิแตะต้อง และตามค่านิยมของโลกนี้ผู้หญิงที่ขับรถถังเก่งๆ ถือว่าเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง เป็นกุลสตรีที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชาย........ นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันระดับชิงแชมป์ประเทศอีก....

    Girls und Panzer  เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อตัวเอกซึ่งเป็นเด็กสาวคนหนึ่งชื่อ นิชิซึมิ มิโฮะที่มีนิสัยไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง อยู่ในตระกูลผู้บังคับบัญชารถถังที่มีชื่อเสียง แต่ด้วยเหตุผลหนึ่งทำให้เธอต้องหลีกหนีศิลปะป้องกันตัวด้วยรถถัง เป็นเหตุทำให้เธอออกจากครอบครัวแล้วไปเรียนโรงเรียนสตรีโอราอิที่ไม่มีกิจกรรมชมรมศิลปะป้องกันตัวด้วยรถถัง ตอนแรกๆ เจ้าตัวไม่ค่อยคุ้นโรงเรียนใหม่สักเท่าไหร่ จนนึกว่าจะเป็นคนโดดเดี่ยวอยู่แล้ว จนกระทั่งมีเพื่อนร่วมห้องสองคนคือ ทาเคเบะ ซาโอริซังและ อิซูสุ ฮานะซังมาทัก ทำให้ทั้งสามสนิทสนมเป็นเพื่อนรักกันอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเรื่องก็เกิดขึ้นจนได้เมื่อนิชิซึมิโดนสภานักเรียนบังคับให้เข้าชมรมศิลปะต่อสู้ด้วยรถถังที่จะเปิดเรียนในเทอมดังกล่าว ตอนแรกนิชิซึมิพยายามปฏิเสธแต่ความจำใจทำให้เธอต้องเข้าชมรมอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับภาระอันหนักอึ้ง ที่จะต้องนำทีมรถถังไปชนะการแข่งขันชิงแชมป์ให้ได้ ทั้งๆ ที่ชมรมพึ่งก่อตั้ง อีกทั้งสมาชิกในชมรมไม่มีใครรู้เรื่องรถถังมาก่อน แล้วจะไปรอดหรือไม่เนี้ย ก็ติดตามต่อไป

     

                    การ์ตูนโมเอะ (Moe) ถือว่าเป็นของที่อยู่คู่กับญี่ปุ่นไปแล้ว คำว่าโมเอะเป็นคำแสลงของญี่ปุ่นที่หมายถึงความชอบหรืออามรมณ์ทางเพศที่มีต่อตัวละครในมังงะ อนิเมะหรือวีดีโอเกม (แต่สำหรับผมแปลว่าตัวละครน่ารักน่ะ) ซึ่งส่วนมากตัวละครโมเอะนั้นเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เติบโตไม่เต็มที่ ต้องพึ่งพอคนอื่น หรือทำให้ผู้ชมการ์ตูนมีความรู้สึกอยากปกป้อง เอาใจช่วย จนถึงขั้นหลงรักในที่สุด

                    ปัจจุบันโมเอะนั้นสอดแทรกการ์ตูนทุกแนวแหละครับ ไม่ว่าจะเป็น Elfen Lied, Haruhi, Clannad ที่ตัวละครผู้หญิงหลายตัวมีลักษณะโมเอะ ลายเส้นส่วนใหญ่จะเป็นลายเส้นที่สื่อให้เห็นเด็กตัวเล็กๆ ดวงตากลมโต (1/5 ของใบหน้า), จมูกเล็ก, ใบหน้าแบน, แขนขาบอบบาง,หัวใหญ่, ผมมีหลายหลายสีสัน, นิสัยโดดเด่นตามลักษณะของตัวละครนั้นๆ (ร่าเริง, ซึนเดเระ)ซึ่งหากจะเป็นการ์ตูนโมเอะแท้ๆ (เช่น K-ON) จะเป็นเรื่องของจะเป็นแนวชีวิตประจำวันของเด็กผู้หญิงน่ารักที่ไม่มีอะไรซับซ้อน แทบไม่มีตัวละครเพศชายเจือปน (ไม่ก็ตัวละครชายเป็นแค่ประกอบ) (ส่วนมากเป็นแนวการ์ตูน4 ช่อง)

                    พูดง่ายๆ หากคุณดูการ์ตูนญี่ปุ่น คุณหนีโมเอะไม่พ้นอยู่ดี

                    ถ้าถามว่าเราได้อะไรกับการ์ตูนแนวโมเอะของแท้ ก็ตอบยากเหมือนกัน ส่วนมากการ์ตูนแนวโมเอะนั้นเป็นการ์ตูนเฉพาะกลุ่ม และที่แปลกคือกลุ่มที่ชอบไม่ใช่เด็ก ส่วนมากเป็นผู้ใหญ่เพศชายที่ชอบอะไรที่น่ารัก (โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง) อีกทั้งชอบเสพอะไรที่เนื้อหาเบาๆ ไม่มีอะไรมาก ดูตัวละครโมเอะ ลายเส้นก็คุ้มและน่าหลงใหล ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นการ์ตูนหลายเรื่องชอบเอามาแซวโอตากุที่ชอบการ์ตูนประเภทนี้ว่าโรคจิต และใส่ชุดลายการ์ตูนโมเอะที่ชอบไม่เหมาะสมกับวัย เป็นต้น

                    อย่างไรก็ตาม โมเอะนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับญี่ปุ่นมาช้านาน เรามักเห็นข่าวอะไรก็โมเอะของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตให้เป็นสาวน้อยโมเอะ เอาตัวละครโมเอะเป็นมาสคอตผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือส่งเสริมการท่องเที่ยวก็ทำมาแล้ว

                    แต่สำหรับบ้านเราแล้ว ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ชอบตั้งแง่ลบการ์ตูนแนวโมเอะมาโดยตลอด โดยเฉพาะโมเอะที่ดัดแปลงจากมังงะ 4 ช่องจบจะโดนด่าเยอะเป็นพิเศษ ว่าเป็นการ์ตูนปัญญาอ่อน ไร้สาระ มุกแป๊ก ไม่เห็นขำตรงไหน ขายนักพากย์ ซึ่งสาเหตุเป็นแบบนี้อาจเป็นเพราะคนไทยมองว่าการ์ตูนโมเอะเป็นการ์ตูนของเด็ก คนชอบจะเป็นพวกโอตากุ ไม่ก็คนโง่ๆ

    นอกจากนี้หลายคนก็ยังมองโมเอะว่าเป็นการ์ตูนขายเซอร์วิส กางเกงใน และชุดว่ายน้ำโรงเรียนให้พวกหื่นๆ ได้เสพ (เช่น Strike Witches) สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้หลายคน (ไม่ว่าไทยและเทศเกิดอคติต่อการ์ตูนโมเอะมากขึ้นไปอีก)

                    ดังนั้นจึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่ตอนแรก Girls und Panzer ออกฉายนั้น ก็มีคนมาพูดอย่างอคติว่า “ก็แค่โมเอะผสมกับรถถังล่ะว้า”


               ผมก็รับสารภาพเหมือนกันตอนแรกที่ผมดูการ์ตูนเรื่องนี้ ผมตั้งแง่อคติเต็มพิกัด (ส่วนตัวก็ไม่ชอบรถถังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) ตอนแรกผมให้ความคิดเห็นฉากเปิดฉากตอนแรกของการ์ตูนไว้ว่า ใช้เทคนิคการ์ตูนเซล หรือ เฉดเซล
    3D (Cel หรือ Cel-shading) มาใช้ในฉากการต่อสู้กับรถถัง (และตัวรถถังในเรื่อง) ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีการ์ตูนหลายเรื่องโดยเฉพาะแนวต่อสู้ที่ต้องมีตัวละครมากๆ (ยิ่งพวกเครื่องจักร เครื่องยนต์นี้เห็นบ่อยมาก)  มาประกอบฉากต้องใช้การ์ตูนเฉดเซลมาทำ โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยชอบการมีใช้การ์ตูนเฉดเซลในฉากสงครามแบบนี้มากนักเพราะมันไม่ค่อยสมจริงสักเท่าไหร่ ดูแล้วขัดตา น่าจะเอาเป็นลายเส้นแบบเดียวกันเลย

     อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ดูหลายตอน นานๆ เข้า ผมก็เริ่มปรับตัวได้ ภาพเริ่มเนียนขึ้น เริ่มดูออกยากแล้วว่าไหนการ์ตูนเฉดไหนวาดเอง  อีกทั้งความสนุกก็เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น และเริ่มมีอะไรมากมายที่น่าติดตามจนผมทำให้สนใจเพลิดเพลินจนลืมเรื่องการ์ตูนเฉดไปเลย

                    หลังจากที่ผมพิจารณามาสักพัก ผมก็พบว่า  Girl und Panzer  ไม่ใช่การ์ตูนโมเอะธรรมดา และสามารถตอกกลับได้เลยว่าการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ใช่การ์ตูนแนวโมเอะไร้สาระอย่างที่คิดเอาไว้ เพราะการ์ตูนเรื่องมีอะไรต่างๆ มากมายนอกเหนือจะเป็นการ์ตูนโมเอะชีวิตประจำวันและโรงเรียนสำหรับผู้หญิงล้วนแบบการ์ตูนโมเอะทั่วไป  ไม่ว่าจะเป็น การสอดแทรกแนวกีฬา, ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2, ประวัติศาสตร์อื่นๆ,  กลยุทธ์พิชัยสงคราม, ปรัชญาสงคราม, แอ็คชั่นสู้รบ นอกจากนี้ยังมี Moe anthropomorphism เข้าไปมีส่วนร่วมได้อย่างแยบยล และทั้งหมดก็เข้ากันอย่างลงตัว

                    Girl und Panzer  ไม่ใช้การ์ตูนโมเอะไร้สาระโครงเรื่องหลวมๆ อย่างที่หลายคนคิดเอาไว้ เพราะการ์ตูนได้วางโครงเรื่องอย่างเป็นเหตุเป็นผล เมื่อผู้หญิงตัวเล็กๆ กับเหล่ารถถังในประวัติศาสตร์สงครามโลกสองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสงครามที่โหดร้ายและยิ่งใหญ่ของมลมนุษย์ชาติจับถูกจับมารวมกันอย่างเข้ากันอย่างน่าแปลกประหลาด ซึ่งจากความคิดโดยทั่วไปแล้วแทบคิดไม่ออกเลยว่ามันจะจับเอามารวมกันได้อย่างไร เพราะรถถังมันเป็นเรื่องของเด็กผู้ชาย พวกผู้หญิงไม่มีมาทางชอบรถถังแน่นอน แต่การ์ตูนเรื่องนี้สามารถทำได้

                    Girl und Panzer  ได้สร้างโลกคู่ขนานขึ้นมาใหม่ ด้วยการจำลองโลกที่มนุษย์บางส่วนใช้ชีวิตตั้งบ้านเรือนอยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินรบที่ใหญ่มากๆ (เหตุผลไม่บอกว่าทำไมมนุษย์บางส่วนต้องอาศัยบนเรือรบด้วย?) มีเทคโนโลยีที่มีเครื่องจักรสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เต็มไปหมด (ไม่ว่าจะเป็นรถ, เครื่องบิน และอื่นๆ อีกมากมาย แม้เท่าที่ดูโลกในเรื่องจะดูทันสมัยล้ำยุคมากแล้วก็ตาม)  และสร้างสังคมที่ผู้หญิงมีบทบาทในสังคมไม่แพ้ผู้ชาย และสร้างค่านิยม (รู้สึกว่าจะเป็นสมัยเก่า) ว่าหากจะเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมนั้นจะต้องเรียนศิลปะต่อสู้ด้วยรถถัง (ซึ่งเปิดเป็นวิชาเรียนโดยเฉพาะเลยก็ว่าได้) ด้วยเหตุผลที่ว่าผู้หญิงที่เรียนวิชานี้จะเป็นคนที่จิตใจเข้มแข็ง แข็งแรง มีระเบียบวินัย เป็นผู้นำ สมกับเป็นกุลสตรีในยุคนี้  

    นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันการต่อสู้ด้วยรถถัง (ที่เป็นรถถังสมัยประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 เท่านั้น)  แต่ไม่ใช่แบบฆ่ากันให้ตายเลือดสาด หากแต่เป็นกีฬา แม้จะใช้รถถังจริงๆ ปืนจริงๆ  แต่ด้วยเทคโนโลยีของโลกใบนี้ ทำให้การเป็นการต่อสู้ที่ปลอดภัย ไม่มีใครตายสักคน กระสุนไม่สามารถทำอันตรายคน?? และหากยิงโดนรถถังจะไม่ระเบิด (แต่อาจกระเด้งและพังยับควันไฟไหม้แต่ไม่ระเบิดจนคนข้างในรับอันตราย)  แถมยังมีกฎกติกามากมายที่เข้มงวดเพื่อให้การแข่งขันสนุกและเป็นเรื่องเป็นราวสมจริงมากขึ้น โดยกติกาแพ้ชนะคือ การยิงรถถังฝ่ายตรงข้ามจนกว่าจะมีธงขาวยกขึ้นมา แสดงว่ารถถังนั้นหมดสภาพแล้ว (หากแข่งเป็นทีมหากยิงรถธงของฝ่ายตรงข้ามได้ถือว่าฝ่ายนั้นชนะทันที)

                   

    ถ้ามองการ์ตูน Girls und Panzer เรื่องนี้เป็นพล็อตแนวกีฬาบาสเกตบอลหรือฟุตบอล จะถือว่าพล็อตสูตรสำเร็จตลาดๆ มาก ประมาณว่าการ์ตูนเรื่องนี้ใช้มุกพล็อตกีฬาทั่วๆ ไป ประมาณว่ามิโอะเป็นนักเรียนใหม่ที่พึ่งย้ายมา แม้ดูภายนอกจะเหมือนคนธรรมดา แต่ความจริงแล้วมีความสามารถเก่งกาจเรื่องกีฬามากๆ แต่เพราะเหตุการณ์ในอดีตทำให้เธอไม่กล้าแตะกีฬานั้นอีก จึงมาเรียนในโรงเรียนที่ไม่ถนัดในกีฬาประเภทนั้น (และต้องเป็นชมรมที่กำลังถูกยุบ หรือไม่ก็ตั้งขึ้นมาใหม่สดๆ ชิ่งๆ)  ด้วยสถานการณ์พาไปนางเอกต้องถูกจับเข้าชมรมและถูกข้อร้องแกมบังคับให้เป็นผู้นำโดยมีเป้าหมายชนะเลิศ (ลูกเดียวเท่านั้น)  ต่อมาตัวเอกก็ได้เจอสมาชิก (เพื่อน) ใหม่ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะตัวเหนือมนุษย์แฝงอยู่ (หรือช้างเผือก) และความสามารถเหล่านี้จะเริ่มเก่งสุดยอดในช่วงท้ายหรือช่วงจากฝึก (แต่ก็บางคนเหมือนกันที่อัจฉริยะตั้งแต่แรกก็มี) และทีมตัวเอกจะแพ้นัดกระชับมิตร และนัดชิงชนะเลิศทีมของตัวเอกจะต้องเจอกับทีมโรงเรียนเก่าของนางเอก สิ่งเหล่านี้ล้วนมีอยู่ในพล็อตการ์ตูนแนวกีฬาอยู่แล้ว

    แม้ว่า Girls und Panzer จะใช้สูตรพล็อตสำเร็จของการ์ตูนแนวกีฬามาใช้ แต่ด้วยการปรุงแต่งของผ็กำกับและทีมงาน ได้ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้กับสนุกน่าติดตามอย่างไม่น่าเชื่อ (แม้คุณจะรู้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้ดำเนินเรื่องตามพล็อตสูตรสำเร็จแท้ๆ ก็ตาม) ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้สนุกและน่าติดตามมีดังต่อไปนี้


                 - ความสมจริงของรถถัง
    ก่อนอื่นก็ขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถถังมากนัก แม้ว่าจะชอบเล่นเกมแนวสงครามโลกครั้งที่ 2 และดูภาพยนตร์แนวสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นชีวิตจริงใจ แต่เรื่องรถถังนั้นผมก็รู้แบบงูๆ ปลา (แค่รู้ว่ารถถังพยายามแข็งแกร่ง และรถถังอเมริกามันป้อมๆ กลมๆ)

    ดูเหมือนว่าเรื่องรถถังนั้นจะเป็นประเด็นสำคัญเหมือนกันที่หลายคนตั้งแง่กับการ์ตูนเรื่องนี้ ประมาณว่า “ฉันไม่รู้เรื่องรถถังมาก่อนแล้วมาดูการ์ตูนเรื่องนี้จะรู้เรื่องเปล่าเนี้ย?” ซึ่งผมก็เช่นเดียวกับคนอื่นที่ดูการ์ตูนเรื่องนี้ดูความรู้สึกกังวลเหมือนกัน และอีกใจหนึ่งก็กลัวว่าจะเป็นรถถัวยิงกันตูมตามเละไปข้างหนึ่งแบบไร้สมองหรือเปล่า?

    ขอบอกครับ หลังจากที่ผมดูการ์ตูนเรื่องนี้ถึงตอนที่ 3 ผมก็เกิดความรู้สึกว่าอยากจะหาข้อมูลรถถังในเรื่องแล้วสิว่ามันเป็นรถถังรุ่นอะไรบ้าง มีความสามารถยังไง เวลาเห็นรถถังเหล่านี้ต่อสู้กันในการ์ตูนก็เกิดความรู้สึกอยากกลับไปเล่นเกมสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นบ้าเลย ว่ารถถังที่อยู่ในการ์ตูนกับเกมมันแตกต่างกันอย่างไร

    ที่ตลกคือยังมีหลายคนเข้าใจผิดว่าการ์ตูนเรื่องนี้สร้างจากเกมรถถังออนไลน์เกมหนึ่ง ทั้งที่จริงแล้วเป็นผลงานออจินอลแท้ๆ ของค่าย Actas  การ์ตูนเรื่องนี้เลย (แต่ผมก็เชื่อว่าอีกไม่นานการ์ตูนเรื่องนี้คงสร้างเป็นเกมแน่แท้ฟันธง!!)

     

    ไม่มีฉากเซอร์วิสมากเกินไป-แน่นอนว่าเรารู้จักการ์ตูนโมเอะมิตรภาพผู้หญิงที่มีส่วนผสมแอ็คชั่นมากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสงครามหรือไซไฟ  ที่เนื้อหาหลักๆ ก็คือเน้นชีวิตประจำวันของพวกผู้หญิง ผสมกับฉากแอ็คชั่น ซึ่งโมเอะแนวนี้จะเน้นด้านตัวละครนั้นก็มีส่วนผสมขององค์ประกอบโมเอะ คือใช้แต่ตัวละครหญิงที่น่ารัก และมีจุดเด่นตามแบบของหลักการโมเอะทุกคาแร็คเตอร์ (ประธาน, ซึน, คูเดเระ ฯลฯ) และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือฉากเซอร์วิสให้เหล่าแฟนๆ หื่นพอเป็นกระยาสัย

    Girls und Panzer เป็นการ์ตูนโมเอะที่แปลกๆ นิดหน่อย ตรงที่เป็นการ์ตูนโมเอะที่ไม่ได้เน้นฉากเซอร์วิสเลย หากเป็นการ์ตูนเรื่องอื่นๆ เราอาจเห็นสูทเว้าสูง (พอดีผมชอบครับ หึ หึ หึ) โชว์กางเกงในวับๆ แว่มๆ ชุดว่ายน้ำโรงเรียน ชุดแต่งกายมากมายให้คนดูหื่นกันแล้ว แต่การ์ตูนเรื่องนี้แทบไม่มีเลย อย่างมากก็เห็นแค่ฉากล้างทำความสะอาดรถถัง  (ดูเหมือนว่าจะมีตอนพิเศษที่เหล่าตัวละครใส่ชุดว่ายน้ำ) เห็นว่าผู้กำกับประกาศเลยว่าอนิเมะนี้ไม่ขายฉากเซอร์วิสและฉากโชว์กางเกงใน (มีข่าวว่าตอนที่ 6 เลื่อนฉายเพราะว่าผู้กำกับพบว่ามีฉากตัวละครหนึ่งกางเกงใน จึงระงับฉายทันที)

    เมื่อการ์ตูนเรื่องนี้ไม่มีฉากเซอร์วิส ทำให้เปิดให้คนดูทุกเพศทุกวัยให้ได้เข้ามาดูด้วย ถือว่าเป็นการลบสบประมาณว่าการ์ตูนโมเอะเป็นการ์ตูนสำหรับพวกโอตากุหื่นๆ นั้นไปหมดสิ้น


                  ตัวละคร-
    จุดเด่นของการ์ตูนเรื่องนี้ก็คือะการออกแบบตัวละครที่โดดเด่น ส่วนผสมของการ์ตูนโมเอะมิตรภาพผู้หญิง (โชโจ-ไอ ยูริแบบอ่อนๆ) ที่เข้ากับการต่อสู้กับรถถังได้อย่างลงตัว

    ตอนแรกที่ผมดูฉากที่ตัวละครหลายตัวโผล่ออกมา ผมแทบพูดลอยๆ ว่า “ทำไมตัวละครเรื่องนี้ตลาดจังว่ะ” เพราะคือละครออกแบบได้สูตรสำเร็จมาก ยกตัวอย่างเห็นได้ชัดคือ มิโฮะ นางเอกนั้นออกแบบให้เป็นตัวละครจืดๆ จางๆ (ตามแบบตัวเอกการ์ตูนโมเอะแท้ๆ) ค่อนข้างขี้อาย พึ่งย้ายโรงเรียน ไม่กล้าเข้าหาคนอื่น แต่กลับถูกดันให้เป็นผู้นำทีม ทั้งๆ ที่ตัวเธอไม่เหมาะกับเป็นหัวหน้าด้วยซ้ำ  ในขณะที่ตัวละครคนอื่นๆ ก็ออกแบบด้วยสูตรสำเร็จ เช่นกัน

                    อย่างไรก็ตาม เมื่อผมดูไปหลายๆ ตอน กลับติดใจอย่างเหลือเชื่อ เมื่อตัวละครเหล่านั้นมีเสน่ห์น่าจดจำ ทั้งที่ๆ ที่การ์ตูนเรื่องนี้มีตัวละครมากมายหลายคน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายตัวเอก หรือฝ่ายศัตรู แต่ด้วยความฉลาดของการวางบท การออกแบบคาแร็คเตอร์ทำให้ตัวละครในเรื่องขโมยซีน

                 หลายเหตุการณ์หลายบทช่วยส่งเสริมให้ตัวละครที่ออกแบบสูตรสำเร็จเหล่านั้นโดดเด่นขึ้นครับ ยกตัวอย่างมิโฮะนั้นได้ใช้การพัฒนาจิตใจเข้ามาช่วยเสริมให้คาแร็คเตอร์ที่ดูจืดๆ ของมิโฮะโดดเด่นมากขึ้น  จากปมที่หลีกหนีเหตุการณ์ในอดีตจนละทิ้งรถถัง แต่ต้องกลับมาเป็นบังคับรถถังอีกครั้งพร้อมหน้าที่สำคัญยิ่งกว่าเดิม ทั้งๆ ที่เธอไม่มีความเป็นผู้นำ เพราะว่าเธอเป็นคนที่นิสัยไม่มั่นใจ ไม่สู้คน ไม่กล้าสั่งคนอื่น หากแต่สิ่งนั้นกลับเปลี่ยนไปเมื่อเธอมีเหล่าเพื่อนๆ คอยช่วยเหลือ คอยให้กำลังใจตลอด จนทำให้มิโอเริ่มออกคำสั่งให้แก่ลูกทีม ไว้ใจเพื่อนพ้อง หากเมื่อสถานการณ์คับขันหรือทีมกำลังหมดกำใจท้อถอย มิโอะจะมีความกล้าและจะปลุกกำลังให้ลูกทีมมีกำลังใจฮึกเหิม ซึ่งดูแต่ฉากล้วนส่งเสริมให้มิโฮะโดดเด่นตลอด

                    นอกจากมิโฮะแล้วยังมีตัวละครหลักก๊วนนางเอกอีก 4 คน ซึ่งแต่ละคนช่วยส่งเสริมให้มิโฮะโดดเด่นขึ้น แม้ว่าแต่ละคนจะออกแบบดูธรรมดา แต่ด้วยนิสัยทำให้ดูโดดเด่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น “ซาโฮริ” (สาวน้อยโผงผางแบบวัยรุ่นทั่วไป), “ฮานะ” (สาวดอกไม้), มาโกะ (พลขับรถถัง) และหนึ่งในตัวละครสายลูกน้องจงรักภักดี (อวย) เจ้านาย “ยูคาริ” ที่อวยยูคาริสุดๆ (จิ้นหลายคนเอามาจิ้นวายเป็นที่เรียบร้อย) ที่ความสามารถพิเศษของแต่ละคนเหมาะสำหรับตำแหน่งต่างๆ ในการขับรถถังทั้งสิ้น (โดดเด่นที่สุดคือฮานะที่เป็นสาวน้อยนักจัดดอกไม้ที่เป็นพลยิงปืนซึ่งได้ทักษะฉลาด ความใจเย็น สมาธิ ความแม่นยำในการจัดดอกไม้มาประยุทธ์ในการขับรถถังจนกลายเป็นพลยิงปืนแม่นที่พัฒนาฝีมืออย่างรวดเร็วทั้งๆ ที่ฝึกไม่กี่ปี)

                    ตัวละครหลักแต่ละตัวไม่ได้แบนราบอย่างที่คิด เพราะการ์ตูนสอดแทรกปมและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักและครอบครัวเอาไว้ด้วย  โดยมีรถถังเป็นมาเป็นประเด็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นมิโฮะกับครอบครัวที่ถูกเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดและขีดเส้นให้ลูกสาวมากเกินไปจนมิโฮะกลายเป็นคนที่ขาดความมั่นใจตนเอง  นอกจากนี้การ์ตูนยังสื่อว่าแม้วิชาการต่อสู้รถถังจะเป็นกีฬาที่มีเกียรติสำหรับผู้หญิง แต่อย่างไรก็ตามมาถึงตอนนี้ก็กลายเป็นวิชาที่เก่าแก่ล้าหลังไปแล้วสำหรับคนทั่วๆ ไป ยกตัวอย่างเช่นยูคาริสาวน้อยที่ชื่นชอบรถถังมากๆ แต่เพราะบ้ามากเกินไปทำให้ไม่มีเพื่อนคบเลย หรือจะเป็นฮานะสาวน้อยนักจัดดอกไม้ที่ทะเลาะกับแม่ ที่แม่มองว่าวิชารถถังมันเป็นความรุนแรงและหยาบคาย (เดี๊ยนรับไม่ได้)  หรือตัวประกอบรุ่นน้องที่โดนแฟนเลิกคบตั้งแต่ขับรถถัง

                    

                     อย่างไรก็ตาม เมื่อหักลบกันแล้วดูเหมือนว่าวิชาการขับรถถังสำหรับผู้หญิง อาจมีความสำคัญสำหรับใครบางคน ไม่ว่าจะเป็นสภานักเรียนที่จำเป็นต้องชนะเลิศเพื่อไม่ให้โรงเรียนสตรีที่พวกตนรักถูกปิด  (ต้องการชื่อเสียง) ยูคาริที่ได้เพื่อนที่เป็นคอเดียวกันพูดถูกคอ และที่ประทับใจที่สุดคือ “มาโกะ” หนึ่งในตัวหลักของทีมตัวเอก ที่เป็นเด็กฉลาดขั้นอัจฉริยะ หากแต่เพราะความดันต่ำทำให้ขาดเรียนบ่อยครั้ง จนเกรดไม่ค่อยมี จำเป็นต้องเข้าชมรมรถถัง และจำเป็นต้องดูแลยายซึ่งเป็นคนในครอบครัวของคนเดียว ผมยังประทับใจไม่หายที่คุณยายของมาโกะยืนเชียร์หลานคนเดียวอยู่เลย (มาโกะโชว์เทพให้ยายเห็นด้วยล่ะ!!)

                    เรื่องของวิชารถถังในการ์ตูนเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าในขณะที่หลายคน (ตัวละครในเรื่อง) มองด้านลบ เป็นเรื่องของความรุนแรงและหยาบคาย หากแต่สำหรับคนที่สัมผัสมันกับพบว่ามันเป็นอะไรมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นได้เพื่อนพ้อง ได้มิตรภาพ สร้างความสามัคคีในกลุ่ม สร้างระเบียบวินัย อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักของคน มีคนเอาใจช่วย มีคนให้ความสำคัญกับเรา ส่งเสริมความสัมพันธ์กับครอบครัว  เวลาเรามองอะไรไม่ควรมองด้านเดียว หากไม่ลองสัมผัส ไม่ทำความรู้จักมัน ก็ไม่มีทางที่จะเข้าใจมันได้ ก็เหมือนกับคนที่ดูถูกการ์ตูนเรื่องนี้แหละครับว่าการ์ตูนเรื่องนี้โมเอะไร้สาระว่ะ ดูถูกทั้งๆ ที่ไม่สัมผัส ไม่ดูมันเลยแม้แต่น้อย แบบนี้มันน่าน้อยใจครับ

                   นอกเหนือจากกลุ่มตัวเอก ตัวละครประกอบคนอื่นๆ ในเรื่องที่มจุดเด่น บทเด่นไม่แพ้กัน เช่นทีมตูดฮิปโปที่ประกอบด้วยพวกบ้าประวัติศาสตร์ที่ออกแบบได้โดดเด่นยิ่งกว่ากลุ่มตัวเอกเสียอีก (ทั้งน่ารักและเก่ง) นอกจากโดดเด่นแล้วยังชอบพูดเรื่องประวัติศาสตร์เปรียบเทียบจนทำให้หลายคนต้องไปหารายละเอียดยกใหญ่  หรือจะเป็นทีมเต่าของกลุ่มสภานักเรียนยัยแว่นตาเดียวเป้าสะอาด ทวินเทลอัจฉริยะแต่ชอบกินขนมแบบสบายๆ หรือจะทีมเป็ดของกลุ่มชมรมวอลเลย์บอลที่สมาชิกไม่ครบ 6 คนกำลังถูกยุบเลยต้องเข้าชมรมเพื่อหาสมาชิกเข้าชมรมที่ชอบใช้ศัพท์แสลงของวอลเลย์บอล และใช้จุดเด่นของการเล่นวอลเลย์ประยุกต์กับรถถังไม่ว่าจะเป็นการยิงที่แม่นยำ การเคลื่อนไหวหลบกระสุนราวกับนิวไทป์

    ฝ่ายศัตรูทีมคู่ปรับพระเอกก็ไม่น้อยหน้า  ต่างเอาจุดเด่นนิสัยของคนของประเทศต่างๆ มาใส่อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าทีมอังกฤษชอบพูดเรื่องศักดิ์ศรีอัศวินและชอบดื่มชา, หัวหน้าทีมอเมริกานิสัยโผงผ่างและใจกว้างปากบอกว่าแข่งกันอย่างยุติธรรมแต่พวกลูกทีมใช้ลูกไม้สกปรกซะงั้น, หัวหน้าทีมโซเวียตนิสัยเอาแต่ใจ เป็นต้น  แต่อย่างไรก็ตาม ตัวละครเหล่านี้แม้จะเป็นฝ่ายตรงข้ามกับตัวเอก แต่ก็เกลียดไม่ลง เพราะความโมเอะของตัวละครทำให้กลบนิสัยเสียน่ารังเกียจตัวละครบางตัวไปเยอะ  แถมดีไม่ดีพอตัวละครฝ่ายศัตรูเป็นฝ่ายแพ้ก็อดที่สงสาร อยากเข้าไปปลอบใจเลยทีเดียว

     

                    ฉากต่อสู้ของรถถัง- แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้มีความน่าติดตามและน่าสนใจ คงจะเป็นฉากต่อสู้รถถังที่ทำได้ตื่นเต้นเร้าใจ สนุกน่าติดตาม

                    อย่างไรก็ตาม การที่ดูการ์ตูนเรื่องนี้ควรลืมหลักเหตุผลวิทยาศาสตร์สักหน่อย และให้ท่องในใจว่ามันเป็นกีฬา ไม่ใช่สงครามจริงๆ ปืนที่ใช้ทำอันตรายต่อรถถัง (รถถังเกินไฟลุก พังพับ คว่ำ) ไม่ใช่ทำอันตรายต่อคน และรถถังน่าจะมีเทคโนโลยีที่ปกป้องคนขับมากพอคมควร ซึ่งอยากให้หลายคนคิดแบบนี้จะได้ดูการ์ตูนเรื่องนี้อย่างสบายใจโดยไม่คิดเล็กคิดน้อย

                    อย่างที่ผมว่าไว้ตอนต้นว่าการ์ตูนเรื่องนี้ใช้หลักการของการ์ตูนแนวกีฬาเข้ามาประยุกต์ คือชมรมของมิโฮะเข้านั้นเป็นชมรมใหม่พึ่งก่อตั้ง นั้นคือมันเริ่มจาก 0 ที่ไม่มีทรัพยากรหรือบุคคลให้เลือกใช้มากมาย เงินทุนก็ไม่มี รถถังของตัวเอกกากๆ  รถถังบางคันก็เป็นรถถังที่ถูกลืมในประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยซ้ำ อีกทั้งนอกจากมิโฮะแล้ว สมาชิกในกลุ่มสักคนก็ไม่มีใครเคยขับรถถังสักคน

                    ในขณะฝ่ายศัตรูของพวกตัวเอกนั้น มีทั้งทรัพยากรเหลือเฟือย บุคลากรก็มีมากมายแต่ละคนมีประสบการณ์ รถถังแกร่งๆ เกราะหนา ปืนแรง และมีจำนวนมากกว่าตัวเอกหลายร้อยเท่า (กติการถถังจำกัดจำนวน เพียงแต่ฝ่ายตัวเอกรถถังน้อยกว่ากำหนด......)

    พูดง่ายๆ แทบเป็นไปไม่ได้เลยว่าชมรมของมิโฮะจะสามารถชนะเลิศการแข่งขันศึกรถถังทั่วประเทศได้เลย ยิ่งเห็นการแพ้ศึกอุ่นเครื่องนัดแรก ผมแทบมองไม่ออกเลยว่ามิโฮะจะชนะได้ยังไง จีงไม่แปลกแต่อย่างใดที่มิโฮะมักบ่นอยู่เสมอ อยู่บ่อยๆ ว่า ตรูจะเอาอะไรไปสู้กับมันฟ่ะเนี้ย

     

                  ปกติการ์ตูนแนวกีฬาทีมของพระเอกมักเป็นทีมรองที่ตอนแรกแทบไม่มีอะไรเลย หลายถูกดูถูกว่าหมูสนามด้วยซ้ำ หากแต่เมื่อตัวเอกเข้ามาในทีม ทีมก็มีการเปลี่ยนแปลง โดยอาศัยการวางแผน ความสามารถเฉพาะตัวของลูกทีม แม้ว่าจะเสียเปรียบและตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรองและใกล้แพ้อยู่มะร่อมร่อ แต่แล้วด้วยแรงใจและลูกอึดของทีมพระเอกก็สามารถนำมาซึ้งชัยชนะแบบหวุดหวิดแบบฉิวเฉียด รอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์ และเมื่อจบการแข่งขันสิ่งที่ได้คือประสบการณ์ของลูกทีม ความเชื่อใจของลูกทีมที่มีต่อตัวเอก (ที่ตัวเอกแสดงให้เห็นว่าเขาเหมาะแก่การเป็นผู้นำ)

                    แม้รู้ทั้งรู้ว่าตอนท้ายการแข่งขันสุดท้ายทีมตัวเอกได้รับชัยชนะ (ส่วนรอบชิงชนะเลิศนี้จะออกมา 50/50) แต่การ์ตูนนี้ก็ทำออกมาได้อย่างน่าติดตามอยู่ดี ด้วยการต่อสู้ด้วยรถถัง สถานการณ์ที่เสียเปรียบทีมรถถังของตัวเอก ที่โดนรถถังของฝ่ายศัตรูไล่บี้ เป็นอะไรลุ้นมากๆ ทั้งตื่นเต้น เร้าใจ หากใครที่เคยดูภาพยนตร์เกี่ยวกับรถถังในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (เช่นเรื่อง The Bridge at Remagen ไม่ก็เรื่อง Battle Of The Bulge )ไม่มีผิดหวัง

                   

                    แม้ส่วนหนึ่งที่ทีมมิโฮะชนะฝ่ายศัตรู เพราะฝ่ายตรงข้ามประมาณทีมตัวเอกมากเกินไป ประมาณว่าไม่ชนะโดยเด็ดขาด พยายามต้อนสุนัขให้จนตรอก และบังเอิญสุนัขตัวนี้เกิดสู้ไม่ถอย กัดเข้าจุดตายเข้าพอดี เลยชนะแบบฉิวเฉียด  แต่กระนั้นฝ่ายศัตรูก็ไม่เคยโอดครวญว่าฝ่ายตัวเอกชนะเพราะฟลุ๊ค กลับกันฝ่ายศัตรูเป็นผู้แพ้ที่ดี ชื่นชมทีมตัวเอก และอวยพรให้ชนะในรอบต่อไป

                    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นเพราะศัตรูประมาท แต่อีกส่วนหนึ่งที่มิโฮะชนะก็คือการสู้ไม่ถอย ไม่เสียสมาธิ ไม่สิ้นหวังจนหยดสุดท้าย หากเป็นเราเจอทีมแข็งแกร่งตั้งแต่รอบแรก ก็เข่าอ่อนยอมแพ้แล้ว แต่ทีมมิโฮะไม่เลย ยังคงตั้งใจฝึกซ้อม วางแผนกลยุทธ์ ปล่อยตัวให้สบายๆ ไม่ให้เครียด เมื่อถึงวันงานก็อาศัยการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ให้เหมาะสมกับการต่อสู้

                    ยกตัวอย่างเช่นในตอนที่ 9-10 ฝ่ายมิโฮะถูกฝ่ายศัตรูต้อนเข้าไปในโบสถ์ และถูกล้อมเกือบทุกด้าน  หากเป็นคนธรรมดาคงยอมแพ้ ไม่ก็สู้แบบบ้าเลือดตายเป็นตายไปแล้ว แต่มิโฮะได้ปลุกใจลูกทีมที่ดูสิ้นหวังให้มีแรงอึดอีกครั้ง นอกจากนี้ยังส่งคน (ซึ่งดูเหมือนเลือกคนด้วย เอาคนที่สายตาดี และคนที่รู้เรื่องรถถัง) ไปลาดตระเวนหาจุดที่รถถังฝ่ายศัตรูอยู่  เมื่อพบจุดที่ฝ่าวงล้อม มิโฮะก็ไม่ประมาณ เพราะศัตรูอาจดักซุ่มโจมตี เลยวางแผนจัดขบวนรถถังเพื่อฝ่าวงล้อม จนสามารถเอาชนะฝ่ายศัตรูแบบฉิวเฉียด

                    ดูเหมือนว่าจุดเด่นของทีมมิโฮะนั้นจะเน้นการวางแผน ความสามารถพิเศษของลูกทีม ลูกอึด และโชคช่วยเป็นบ้างครั้ง ก็ต้องติดตามต่อไปว่ามิโฮะจะสามารถใช้ความสามารถเหล่านี้เอาชนะเลิศได้หรือไม่ เมื่อพล็อตการ์ตูนแนวกีฬา ได้นำให้มิโฮะมาเจอกับโรงเรียนเก่าของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งฝ่ายศัตรูประกาศแล้วว่าจะเอาชนะเธอแบบไม่ประมาณเด็ดขาด และไม่อ่อนข้อเด็ดขาด!!


                 สอดแทรกสาระความรู้
    สำหรับใครที่กังวลเวลาดูการ์ตูนเรื่องนี้ว่า ไม่รู้เรื่องรถถังจะสนุกหรือเปล่า และไม่มีความรู้รถถัง ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่กระนั้นผมก็ดูการ์ตูนเรื่องนี้สนุก ตอนแรกๆ ก็กังวลว่าจะตัดสินชนะแพ้ยังไง ปืนที่ใช้ยิงรถถังจะทำอันตรายต่อคนขับหรือไม่ แต่พอดูตอนที่ 3 แล้วสนุกน่าติดตามเลย เพราะว่าความกังวลเหล่านี้หายไปโดยสิ้นเชิง

    สิ่งสำคัญของการดูเรื่องนี้สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องรถถังก็คือ แค่จำว่ารถถังของฝ่ายตัวเอกกาก เกราะอ่อน อาวุธปืนไม่แรง ส่วนรถถังฝ่ายศัตรูเก่งมาก เกราะแข็ง อาวุธแรง เพียงแค่นี้ก็ไม่ต้องเอาอะไรที่มาก ที่เหลือก็ดูเชิงอรรถที่ซับไทยสอดแทรกเอาและไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเอาก็ได้ ซึ่งในแต่ละส่วนของการ์ตูนจะสอดแทรกรายละเอียดมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รายละเอียดรถถัง รูปแบบจัดขบวนรถถัง เหตุการณ์ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 คำพูดบุคคลดังในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งการสอดแทรกไม่ได้เป็นการยัดเยียดข้อมูล แต่สอดแทรกเข้ามาอย่างแยบยล

                     

                    โมเอะ สาเหตุที่การ์ตูนเรื่องนี้พูดได้เต็มปากว่ายังคงเป็นการ์ตูนที่มีส่วมผสมของความโมเอะเกินกว่าครึ่ง นอกจากการออกแบบตัวละครที่มีดวงตากลมโต รูปร่างบอบบาง ตัวเล็ก น่ารักแล้ว (คุณจะไม่เห็นตัวละคร สาวอ้วน สาวฟันเหยิน ยัยอัปลักษณ์ ยัยติ่ง ในการ์ตูนเรื่องนี้แน่นอน) สิ่งที่มีความเป็นโมเอะก็คือการเพิ่มชีวิตประจำวันตามแบบฉบับการ์ตูนสาวน้อยโมเอะไป

                    จะว่าไป โมเอะนั้นมีอยู่ในการ์ตูนเกือบทุกเรื่อง ตัวละครที่หญิงที่น่ารักโมเอะ ตาโต ใส่เสื้อผ้าน่ารัก นั้นแหละคือโมเอะ ไม่ว่าจะแนวใดล้วนมีตัวละครเหล่านี้อยู่ ดังนั้นหากคุณชอบการ์ตูนญี่ปุ่น คุณหนีไม่พ้นเรื่องโมเอะหรอก

                    พูดถึงการดำเนินเรื่องแบบโมเอะ เราจะเห็นได้ชัดเลยในช่วงตอนที่ 1 และช่วงที่จบศึกรถถัง เราจะเห็นการดำเนินเรื่องโมเอะที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันและชีวิตในโรงเรียนของพวกสาวๆ ที่เต็มไปด้วยความสดใสและมิตรภาพความเป็นเพื่อน เราได้เห็นภาพสาวๆ อยู่ด้วยกัน จับกลุ่มทานอาหารด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน พูดเรื่องจิปาทะ ตามภาษาสาวๆ หาความสุขส่วนตัวนี้แหละคือการดำเนินเรื่องแบบโมเอะ ซึ่งมักพบเห็นในการ์ตูนโมเอะประเภท 4 ช่องจบ

    ถ้าโดยปกติแล้วชีวิตประจำวันสาวๆ โมเอะนี้อาจน่าเบื่อสำหรับหลายคน แต่สำหรับการ์ตูนเรื่องนี้ กลับเอามาใช้อย่างน่าติดตาม หลังจากที่ผ่านศึกหนักใจหายใจค่ำ ก็ต้องมีอะไรสบาย ให้คลายเครียด แต่ก็ไม่ลืมที่จะเน้นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคนในเรื่อง อีกยังมีฉากการอัฟเกรดรถถัง เรียกว่าพัฒนาทั้งคนและรถถังดีทีเดียว

    การแข่งขันที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะเน้นการต่อสู้ของรถถัง พูดถึงรถถังแล้วมันก็คืออาวุธในสงครามที่มีประสิทธิภาพและเป็นตัวแปรสำคัญในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกพัฒนานำมาใช้จนถึงปัจจุบัน แน่นอนว่าพูดถึงสงครามมันไม่ใช่สิ่งที่หลายคนอยากจะจดจำนัก เพราะมีแต่ความสูฯเสีย แต่สำหรับการ์ตูนเรื่องนี้ได้เปลี่ยนสงครามรถถังให้กลายเป็นการแข่งขันที่ปลอดภัยและเต็มไปด้วยความสามัคคีและรอยยิ้ม

    อย่างที่ในการ์ตูนมักพูดอยู่บ่อยว่าๆ ผู้หญิงคนใดเก่งเรื่องการขับรถถังถือว่าเป็นกุลสตรี ซึ่งการกล่าวอ้างนั้นเป็นจริง เพราะจากที่เห็นเหล่าสมาชิกทีมตัวเอกหลังจากที่ได้ร่ำเรียนวิชาการต่อสู้ด้วยรถถัง ก็มีการพัฒนาจิตใจและร่างกายมากขึ้น (ยกตัวอย่างทีมเป็ดที่ตอนแรกขี้กลัวแต่ช่วงหลังๆ มีความกล้าและชอบเสี่ยงมากขึ้น นอกจากนี้สมาชิกในทีมมีความสามัคคี มีนำหนึ่งใจเดียวกัน ส่วนฝ่ายตรงข้ามแม้ว่าจะมีนโยบายแตกต่างจากตัวเอกในเรื่องพวกพ้อง แต่กระนั้นก็มีความเป็นผู้แพ้ที่ดี แม้ตนจะแพ้แบบไม่น่าแพ้ แต่ไม่มีโวยวาย พร้อมที่จะอวยพรให้ผู้ชนะต่อไป

    เนื่องจากความล่าช้าการผลิต ทำให้ Girls und Panzer ตอนที่ 11-12 ไม่ได้ฉายเวลาตามที่กำหนดเอาไว้ ทำให้ต้องถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนมีนาคม 2013   ซึ่งขอบอกว่าเล่นเอาแฟนหลายคนฝันค้าง รอคอยมาก เพราะช่วงที่ทีมตัวเอกมิโฮะสู้ด้วยนั้นคือทีมป่าดำ (Kuromorimine Girls High School) ซึ่งเป็นทีมเก่าของมิโฮะที่พี่สาวของมิโฮะเป็นหัวหน้าและผู้บัญชาทีมอยู่ ซึ่งการนำทีมตัวเอกมาสู้กับทีมอดีตของพระเอกอยู่นั้นถือว่าเป็นสูตรสำเร็จการ์ตูนกีฬาที่นำมาใช้กี่ทีก็ตื่นเต้นลุ้นน่าติดตามไม่หาย เพราะส่วนใหญ่ในการ์ตูนกีฬาทีมตัวเอกมักแพ้!!

    หากทีมมิโอะแท้ก็หมายถึงโรงเรียนของเธอต้องถูกสั่งปิดนั่นเอง

    ขอบอกว่าในบรรดาศึกที่มิโฮะเจอทั้งหมด ทีมป่าดำนี้ร้ายกาจสุด เพราะเต็มไปด้วยทรัพยากรและบุคคล ทรัพยากรเต็มไปด้วยรถถังสุดโหด ไม่ว่าจะเป็น Tiger I , Tiger II , Panzer III , Jagdpanzer IVs , Panther tanks , Jagdpanther , Elefant , Jagdtiger และ Panzer VIII Maus หากใครเป็นเซียนรถถังสงครามโลกครั้งที่ 2 ย่อมรู้ดีถึงความโหดของมัน  แถมบุคลากรเต็มไปด้วยลูกทีมที่ผ่านศึกมาอย่างโชกโชน บวกกับชื่อเสียงเป็นแชมป์ถึงเก้าสมัย

                    พูดตามตรงว่าตอนที่ 10 ที่ทีมมิโฮะที่มีรถถังมีประสิทธิภาพต่ำชนิดเกราะและอาวุธปืนสู้กับฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เลย อีกทั้งจำนวนยังน้อยกว่ารถถังฝ่ายตรงข้ามถึงหลายเท่า ตอนเปิดศึกนี้ผมแทบมองไม่เห็นชัยชนะ ยิ่งตอนจบตอนที่ 10 รถถังของทีมมิโฮะโดนยิงดับไป 1 คันอย่างอนาถอีก

                    หลังจากจบตอนที่ 10 ต้องรอนานหลายวันเลยทีเดียวกว่าที่ตอนที่ 11 จะออก ซึ่งระหว่างรอก็นอนคิดนั่งคิดผมก็มองไม่ออกว่าทีมของตัวเอกจะสามารถเอาชนะได้อย่างไร

                    จนกระทั่งถึงตอนที่ 11 ออกมา ผมก็ถึงกระจ่างเพราะตอนแรกผมนึกว่าทีมมิโฮะจะใช้ยุทธวิธีสู้ตายแบบบ้าเลือดแลกหมัดกันเสียอีก ปรากฏว่าสิ่งที่ผมผิดคลาด เพราะทีมมิโฮะได้ใช้วิธีแบบตั้งรับ “ตีแล้วถอย” และยุทธการ “กองโจร”  เป็นยุทธวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกองทัพขนาดเล็กทรัพยาการน้อย

                    ในขณะที่ทีมป่าดำมีแต่รถถังรุ่นหนักทำให้การเคลื่อนไหวช้า มิโฮะใช้ยุทธิวิธีที่รถถังตนเองเป็นรถถังขนาดเบามีความเคลื่อนตัวสูง เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วยึดชัยภูมิที่เป็นประโยชน์ต่อทีมตัวเองตั้งป้อมจนสามารถเก็บรถถังเยอรมันไปก่อนค่อนทีม

                    นอกเหนือจากนี้มิโฮะยังใช้ความสามารถเฉพาะของลูกทีมและคุณสมบัติของรถถังของตนเองให้ประโยชน์มากที่สุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นใช้รถถังขนาดเล็กแต่รวดเร็วก่อกวนฝ่ายตรงข้ามแนวหลัง ไทเกอร์รถถังที่มีเกราะหนาใช้ยันต่อสู้ถ่วงเวลา ทำให้ศึกนี้รถถังไทเกอร์เป็นพี่เบิ้มที่พึ่งพอได้ดีทีเดียว จนทีมมิโฮะ (ซึ่งเป็นรถธง) สามารถสร้างสถานการณ์สู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งกับรถถังของพี่สาวมิโฮะ (ซึ่งเป็นรถธงเช่นกัน) ได้ในที่สุด 

    สุดท้ายทีมมิโฮะสามารถเอาชนะทีมป่าดำ ชนิดเรียกว่าพลิกล็อกอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่หากวิเคราะห์จะพบว่าเพราะการวางแผนและการใช้คน (และรถถัง) การปรับตัวตามสถาการณ์ มิโฮะจะเหนือฝ่ายตรงข้าม ที่ฝ่ายตรงข้ามเน้นประสิทธิภาพรถถังบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามมากเกินไปนั้นเอง

    นอกจากนี้ทีมมิโฮะสามารถเอาชนะได้ก็เพราะว่าจิตวิญญาณแตกต่างกัน ทีมป่าดำเล่นเพื่อหวังชนะเพื่อได้แชมป์อีกสมัย ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ทีมของมิโฮะนั้นสู้แบบถวายชีวิตเพราะว่าต้องต้องการปกป้องโรงเรียนที่ตนรักและความไว้วางใจของเพื่อนพ้อง จิตวิญญาณแบบนี้เหนือกว่าฝ่ายตรงข้ามดีอยู่แล้ว

    สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้นำบัญชาการ แม้ว่ามิโฮะนั้นเป็นผู้นำที่มีนิสัยไม่ค่อยมั่นใจในตนเอง และทำให้ทีมของเธอพ่ายแพ้เพราะการตัดสินใจเพียงชั่ววูบของตนเอง แต่เมื่อมาอยู่โรงเรียนแห่งใหม่ มิโฮะก็เริ่มเชื่อมั่นว่าการตัดสินใจของเธอนั้นไม่ผิด การตัดสินใจ ในความคิด “รักเพื่อนพ้องนั้นสำคัญกว่าการแข่งขัน” นั้นทำให้ลูกทีมของเธอมีน้ำใจหนึ่งเดียวกัน แม้หลายทีมไม่เห็นด้วยกับความคิดแบบนี้แหละดูถูกว่ามิโฮะไม่ได้เรื่อง (โดยเฉพาะทีมอิตาลีพิซซ่านั้นไม่เห็นด้วยกับความคิดของมิโฮะ ซึ่งเป็นทีมเดียวที่ไม่แสดงความเป็นผู้แพ้ที่ดี ส่งผลไม่มาดูมิโฮะแข่งในตอนท้าย) แต่มิโฮะไม่เถียง แต่ใช้ผลงานในสนามอธิบายด้วยปากแทน แสดงให้เห็นว่าความคิดของตนถูกต้อง เพราะมิโฮะเชื่อใจเพื่อน ไม่ทอดทิ้งเพื่อน ทำให้ทีมของมิโฮะเอาได้รีบชัยชนะในตอนท้าย

    Girls und Panzer  ช่างเป็นตอนจบที่สุดยอดมาก  ไม่ต้องดราม่าแบบเศร้าๆ จบแบบมีความสุขนั้นแหละดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องทำยุ่งยาก แค่ทำให้ทีมของมิโฮะชนะ ให้สมกับความเหนื่อยยากที่ลำบากมานาน ก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

    ภาพของขบวนรถถังทีมมิโฮะแห่ถ้วยรางวัล (ธงชัยชนะ) กลับเมืองท่ามกลางความชื่นชมของชาวเมืองนั้นเป็นอะไรที่ประทับใจมากๆ

    Girls und Panzer ได้กลายเป็นอนิเมะการ์ตูนโมเอะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของใครหลายคน เรื่องของเด็กสาวธรรมดาที่พึ่งเข้าเรียนในโรงเรียนแห่งใหม่ แต่ต้องถูกรับเลือกให้ทำหน้าที่ยิ่งใหญ่ทำภารกิจที่แทบไม่มีความเป็นไปได้ แต่ด้วยกำลังใจจากเพื่อนๆ และลูกทีม ทำให้เด็กสาวธรรมดานั้นสามารถนำชัยชนะมาสู่โรงเรียนของเธอได้ มันช่างยิ่งใหญ่และได้อารมณ์ปลาบปลื้มจนต้องปรบมือกับชัยชนะของพวกเธอ

                    Girls und Panzer ได้ผลตอบรับความสำเร็จเป็นอย่างสูง ตั้งแต่ฉาย 10 ตอนแรกเรตติ้งโทรทัศน์ก็ได้ดีอย่างเห็นชัด ยอดขายบลูเรย์ก็ขายดีเป็นเท่น้ำเทท่า รวมไปถึงสินค้าต่างๆ และมังงะยอดขายก็ดีเช่นกัน

                    นอกเหนือจากนั้นอนิเมะยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวท่องถิ่น ซึ่งทุกวันที่ 24 มีนาคม 2013 เมืองอาไร ได้จัดงานสาวน้อยและรถถังเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิทำให้ได้รับความนิยมของประชาชนทั่วไป

    สุดท้ายนี้ขอแสดงความเสียดายแก่คนที่ดูถือการ์ตูนเรื่องนี้ตอนแรกว่า “โมเอะไร้สาระ” และคนจีนบางกลุ่มที่เยาะเย้ยการ์ตูนเรื่องนี้ คุณได้พลาดการ์ตูนโมเอะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่งในญี่ปุ่นแล้ว หากคุณดูถูกทั้งที่ไม่ดูถือว่าไม่ใช่นักดูการ์ตูนที่ดีหรอก

     

     

     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×