ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #208 : คอมมิคฆาตกรต่อเนื่อง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.41K
      1
      24 ก.ย. 55


     

                    พูดตามตรงว่าบทความตอนนี้มีวัตถุประสงค์กระตุ้นให้หลายคนซื้อต่วยตูนที่ผลงานของผมได้รับตีพิมพ์สักหน่อย  เห็นหลายคนสงสัยว่านามปากกา Cammy ในต่วยตูนแต่ละฉบับ คนเขียนเป็นคนเดียวหรือเปล่า จนเกิดดราม่าแบบไม่ตั้งใจมาแล้ว (ก็ขอตอบในที่นี้ว่าคนเดียวกันครับ นามปากกา Cammy, ไตเติ้ล, นาวา คือคนเขียนคนเดียวกันครับ) แล้วทำไมคนเขียนไม่ค่อยพูดถึงหรือโฆษณาเท่าไหร่ (ก็ตอบในที่นี้ว่าผมอายครับท่าน) วันนี้จึงขอหยิบยกเนื้อหาต่อจากต่วยตูนฉบับเดือนกันยายน ปี 2012 มาพูดถึงในที่นี้ล่ะกันน่ะครับ

     

     

    Family Bones

    คอมมิค (comic book) , ดัดแปลงจากชีวิตจริง, อาชญากร

     

    Family Bones “ครอบครัวซากศพ” หรือ ครอบครัวกระดูก เป็นการ์ตูนชุดของ ชอวน์ เกรนเจอร์ (Shawn Granger) มี 2 เล่มจบ (ความจริงยังมีอีกหลายเวอร์ชั่น ซึ่งตรงนี้ผมคงไม่รู้เหมือนกัน เพราะข้อมูลน้อย)  เขียนในปี 2010

    Family Bones เป็นการ์ตูนนิยายภาพเรื่องราวดัดแปลงจากชีวิตจริงของเรย์และเฟย์ โคปแลนด์คู่สามีภรรยาวับชราเกษตรกรที่เป็นฆาตกรต่อเนื่องในมิสซูรี ระหว่างปี ค.ศ.1986 1989 และถูกตัดสินประหารชีวิตในข้อหาฆาตกรรมคนงานในไร่ที่อาศัยอยู่กับพวกเขา โดยเรื่องเล่าผ่านสายตาของหลานชาย ที่เขาเองไม่รู้โฉมหน้าที่แท้จริงของคุณปู่กับคุณย่าที่เต็มไปด้วยความน่ากลัวและเยือกเย็น

    และหลานชายของเรย์และเฟย์ โคปแลนด์ คนนั้นก็คือชอวน์ เกรนเจอร์คนเขียนการ์ตูนเรื่องนี้แหละครับ

     Family Bones เป็นการ์ตูนดัดแปลงจากชีวิตจริงของฆาตกรต่อเนื่อง ซึ่งฆาตกรตอเนื่องนั้นก็คือบุคคลที่ก่อคดีฆาตกรรมตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป หรือก่อคดีมาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้งในช่วงระยะเวลามีชีวิตอยู่

    อเมริกานั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีฆาตกรต่อเนื่องมากมาย ซึ่งอาจเป็นเพราะเป็นประเทศที่ใหญ่ สภาพแวดล้อม ปัจจัยหลายๆ อย่าง (ครอบครัว, วัฒนธรรม, เชื้อชาติ, ฐานะ)  ส่งเสริมทำให้เกิดคนธรรมดากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตกันมากขึ้น

    คดีฆาตกรรมต่อเนื่องนั้น ค่อนข้างยากมากในการตามหาตัวฆาตกรมารับผิดตามกฎหมาย เนื่องจากคนที่ก่อคดีนี้ไม่มีมูลเหตุจูงใจมากนัก เหยื่อที่มันหมายตานั้นไม่เคยมีความแค้นต่อกัน ฆ่าเพราะความรู้สึกฆ่าล้วนๆ (แต่ก็มีหลายรายเหมือนกันที่ฆ่าหวังทรัพย์สิน) อีกทั้งฆาตกรต่อเนื่องไม่ค่อยทิ้งหลักฐานที่สาวตัวถึง ส่งผลทำให้ฆาตกรต่อเนื่องออกอาละวาดก่อกรรมทำเข็น ฆ่าเหยื่อหลายรายอย่างสะดวก แค่ฆ่าเฉยไม่สาแก่ใจ เพราะมีการทรมาน ทิ้งลายเซ็น (รูปแบบการฆ่า)  เอาไว้ บางรายก็จับได้บ้าง แต่มักจบในช่วงฆาตกรฆ่าเหยื่อไปหลายรายแล้ว ในขณะที่บางรายจับไม่ได้และกลายเป็นคดีไขไม่ออก จนกลายเป็นตำนานเขย่าขวัญของโลกต่อไป

     แม้ปัจจุบันนี้ก็ยังมีฆาตกรต่อเนื่องปรากฏตัวมากมาย แต่ความแปลกและความน่าสนใจลดลงไปบ้าง เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีการสอบสวนรุดหน้ามากยิ่งขึ้น เพียงแค่ขนไม่กี่เส้นสามารถตรวจหาดีเอ็นอีและนำไปเที่ยบหาประวัติผู้ต้องสงสัยจากแฟ้มอาชญากรก็หาตัวคนผิดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้หยุดการออกอาละวาดฆาตกรได้อย่างรวดเร็ว

                    อย่างไรก็ตาม สมัยก่อนนั้นเทคโนโลยีการสืบสวนไม่ได้รุดหน้าเหมือนในปัจจุบัน ส่งผลทำให้มีฆาตกรต่อเนื่องหลายรายถูกจารึกชื่อในประวัติศาสตร์ทั้งถูกจับได้และไม่ได้บ้าง  เป็นต้นว่า เอ็ด กีน (Ed Gein), แกรี ลีออง ริดจ์เวย์ (Gary Ridgeway), เฮนรี่ ลี ลูกัส (Henry Lee Lucas), เอซ เอซ โฮล์ม (H.H. Holmes), เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ (Jeffrey Dahmer), โซติแอค คิลเลอร์ (The Zodiac Killer) ฯลฯ ซึ่งเรื่องราวของพวกเขานั้นคงอยู่ในความทรงจำของคนอเมริกาและคนทั่วโลกอย่างไม่รู้ลืม

    ปกติแล้วบุคคลใดที่ก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ทำชั่ว ฆ่าเด็กหรือผู้หญิง (ฆ่าพ่อแม่ยิ่งแล้วใหญ่) มักถูกประณามและสาปแช่งมากกว่า อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจะญาติของเหยื่อแล้ว มีหลายคนทีเดียวที่ชื่นชอบฆาตกรต่อเนื่องเหล่านั้น แม้จะเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ที่หลงไหลฆาตกรต่อเนื่องราวราวกับไอดอทของเขาก็ตาม

    สำหรับคนบางกลุ่มแล้วหลงใหลฆาตกรต่อเนื่องมาก บางที่อาจเป็นเพราะ ฆาตกรต่อเนื่องนั้นค่อนข้างมีสเน่ห์ อาจมีพลังออร่าบางอย่างที่ทำให้หลายคนหลงใหล (ซึ่งฆาตกรต่อเนื่องได้ใช้สเน่ห์นี้เป็นประโยชน์ในการล่อหลอกเหยื่อไปฆ่าในที่ลับตาคน)  นอกจากนี้ตัวฆาตกรต่อเนื่องนั้นอาจเป็นตัวแทนของความแหกคอก หลุดออกจากกรอบสังคม เป็นตัวแทนของสันดานดิบของมนุษย์ที่ไม่กล้าเป็นแต่อย่างเป็น ความสะใจ ความโรคจิต ความแปลกประหลาด ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

                       

     

                    ตัวอย่างของคนบ้าคลั่งฆาตกรต่อเนื่องค่อนข้างทำอะไรแปลกๆไม่เหมือนชาวบ้าน เป็นต้นว่ามีผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเคยขอแต่งงานกับฆาตกรต่อเนื่องคนหนึ่งชื่อริชาร์ด รามิเรซ(Richard Ramirez)ในขณะถูกจำคุกบางคนก็เขียนจดหมายถึงฆาตกรว่า ผมรักคุณอย่างล้นหลาม

                    ข้าวของเครื่องใช้หรือสิ่งของกับตัวฆาตกรนั้นมักได้รับความนิยมและได้ราคาสูงมากหากนำไปประมูลในอินเตอร์เน็ต เช่นภาพวาดที่วาดโดยจอห์น เวยน์ เกซี (JohnWayne Gacy)หรือภาพวาดของชาร์ล มิลเลส แมนสัน(Charles Manson)ถือว่าเป็นของสะสมที่มีค่าใครๆก็อยากได้

                    ยังไม่นับเรื่องของเล่นต่างๆ ที่นำตัวฆาตกรต่อเนื่องมาเป็นแบบ ไม่ว่าเป็นหุ่นเด็กเล่น ถ้วยชาม การ์ดเด็กเล่น (การ์ดสะสม)ที่มีเว็บเปิดอย่างเป็นทางการที่เป็นของที่ใครๆอยากได้

                    ส่วนหลายคนอยากจะทราบเรื่องของฆาตกรคนนั้นๆอยากรู้ว่าพวกเขาใช้ชีวิตอย่างไรถึงเป็นฆาตกรต่อเนื่องก็มีหนังสือเชิงจิตวิทยาหลายเจ้าให้เลือกอ่านซึ่งหนังสือพวกนี้มักมีเนื้อหาจำพวกประวัติชีวิตฆาตกรตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ครอบครัว การก่ออาชญากรรม รายละเอียดแต่ละคดี ไปจนถึงการวิเคราะห์ทางจิตวิทยาซึ่งยังคงเป็นที่นิยมจนถึงยุคปัจจุบัน

    สื่อบันเทิงเองก็เอาเรื่องของฆาตกรต่อเนื่องมาดัดแปลงอาจนำบุคลิกฆาตกรต่อเนื่องบางคนมาสร้างเป็นตัวละครตัวใหม่ หรืออาจเป็นสารคดี หรือภาพยนตร์ดัดแปลงชีวิตจริงของฆาตกรก็มี ทั้งดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่ก็ยังได้รับความสนใจแบบไม่เสื่อมคลาย

                    นอกจากนี้การ์ตูนก็ไม่เว้น ก็เอาเรื่องของฆาตกรต่อเนื่องที่มีอยู่จริงมาเขียนเหมือนกัน ซึ่งก็แล้วแต่จะเป็นแบบได้ อาจเป็นแค่ตัวละครตัวประกอบฉาก แค่มุกของคนเขียน (เช่น ชื่อฆาตกรต่อเนื่องปรากฏในฉากการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่) หรือจะมาเป็นตัวละครลับเชิญ ไปจนถึงการ์ตูนที่ดัดแปลงชีวประวัติของฆาตกรต่อเนื่องนั้นๆ เลย

                    การ์ตูนของอเมริกาไม่ได้เรียกมังงะเหมือนการ์ตูนของญี่ปุ่น หากแต่เรียกว่า คอมมิค (Comics) หมายถึงการ์ตูนช่อง ซึ่งเป็นทัศนศิลป์ประเภทหนึ่งที่ประกอบด้วนรูปภาพเป็นช่องๆ และมีข้อความอยู่ในบัลลูนคำพูดหรือเป็นคำบรรยายภาพ ซึ่งมีหลายประเภท แต่หากพูดถึงการ์ตูนอเมริกาเรามักนุกถึงคอมมิคบุ๊คที่เป็นการ์ตูนแนวฮีโร่ที่เป็นการ์ตูนที่นำเสนอเป็นเรื่องราวที่มีความตจ่อเนื่องจนจบ มีบทสนทนาภายในภาพ

    การ์ตูนคอมมิคอเมริกา (ส่วนมาก) ลายเส้นจะเน้นความสมจริง มากกว่าโมเอะ (เพราะอเมริกาไม่รู้จักคำว่าโมเอะ) และเน้นชีวิตจริงๆ ของคนมากกว่า อย่างสไปเดอร์แมนนี้มีสอดแทรกการใช้ชีวิต มีแฟน มีเพื่อน มีญาติ ฯลฯ ให้เหมือนชีวิตของคนๆ หนึ่ง

                    ความจริงแล้วคอมมิคของอเมริกาก็มีหลากหลายมากมาย ซึ่งแนวเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่องก็มี ซึ่งอาจดัดแปลงบางส่วนมากเพื่อไม่ให้น่าเบื่อเกินไป

                    
                 
    ตัวอย่างให้เห็นชัดเจนคือการ์ตูนเรื่อง
    Family Bones ซึ่งเป็นเรื่องราวของหลานของเรย์และเฟย์ โคปแลนด์ ที่ปู่กับย่าของเขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องในมิสซูรี่ ซึ่งเนื้อหารายละเอียดนั้นอยู่ในต่วยตูนฉบับเดือนกันยายน 2012

                    หากจะเล่าย่อๆ ก็ประมาณเรย์และเฟย์ โคปแลนด์  เป็นคู่สามีภรรยาจากมิสซูรี่และฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นอีกหนึ่งกรณีที่แปลกในประเทศอเมริกา เพราะปกติแล้วฆาตกรต่อเนื่องมักมีภูมิหลังที่คล้ายกันและมักจะเริ่มต้นฆ่าเหยื่อด้วยรู้สึกสนุกสนานในช่วงวัยหนุ่มสาวด้วยแรงขับทางเพศ แต่สำหรับกรณีของเรย์และเฟย์กลับตรงกันข้ามเพราะพวกเขาเริ่มต้นฆ่าเหยื่อในขณะอยู่ในวัยชราและเหตุผลที่ฆ่าก็เกิดจากความโลภล้วน ๆ 

                    เรย์ โคปแลนด์นั้นเป็นคนขี้โกงและขี้ขโมยตั้งแต่เด็ก  แม้ว่าแก่ตัว มีลูกมีหลายคน ทำงานฟาร์มก็ไม่เลิกที่จะมีนิสัยโกงแม้แต่น้อย ต่อมาเขาได้จ้างคนเร่ร่อนที่ทำงานฟาร์มของเขาเพื่อโกงงานประมูลวัว เมื่อหมดประโยชน์เขาก็กำจัดคนเหล่านั้นทิ้ง ด้วยการแกล้งเชิญมาทานอาหารเย็นและเมื่อเผลอเมื่อไหร่เขาจะยิงปืนลูกซองเข้าที่ศีรษะด้านหลังอย่างโหดเหี้ยม ก่อนที่จะนำไปซ่อนในบริเวณที่รกร้างในพื้นที่ฟาร์มของเขา

                    ไม่มีใครทราบว่าสองสามีภรรยาโคปแลนด์นั้นฆ่าคนไปเท่าไหร่ (อาจเป็น 5 หรือมากกว่า 12 คน) แต่ที่แน้ๆ หลังจากที่เรย์ฆ่าเหยื่อแล้วเขาจะนำเสื้อผ้าของเหยื่อไปให้ภรรยาทักเป็นผ้าหุ่มให้เขานุ่มห่มในฤดูหนาว ซึ่งผลก็คือผ้าห่มนั้นผืนใหญ่สามารถห่มคนเดียวได้สบายๆ เลยทีเดียว

                    อย่างไรก็ตามความชั่วปิดไม่มิด ต่อมาทั้งสองสามีภรรยาโปแลนด์ก็ถูกตำรวจจับ และเมื่อการขุดหาศพทั่วฟาร์มก็พบศพถึง 5 ศพที่ถูกยิงปืนลูกซองที่ศีรษะทั้งสิ้น ในชั้นศาลเรย์ตนเองบริสุทธิ์ ส่วนเฟย์ยังคงได้อ้างว่าไม่ได้ร่วมมือกับสามีในการฆาตกรรมในชั้นศาล เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสามีเป็นฆาตกรและปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่สุดท้ายสุดท้ายเรย์และเฟย์ถูกศาลตัดสินให้ได้รับโทษประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษ

    อย่างไรก็ตามจุดจบ ของคนทั้งคู่ไม่ได้ถูกประหารชีวิต เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 1993 เรย์เสียชีวิตจากหัวใจวาย ในแดนประหาร ส่วนเฟย์นั้นแก่มากแล้วเลยถูกปล่อยตัวออกมาเพราะช่วยเหลือตนเองไม่ได้และเสียชีวิตด้วยสาเหตุธรรมชาติ

    นี่คือเรื่องราวของเรย์และเฟย์ โคปแลนด์ที่ถูกนำไปแต่งเป็นนิยายภาพกาณ์ตูนคอมมิค อย่างไรก็ตามเนื้อหาข้างในนั้นค่อนข้างดัดแปลงมากพอสมควร

                                    
                
    จุดอ่อนอย่างหนึ่งคอมมิคของการ์ตูนอเมริกาคือหาอ่านไม่ค่อยได้ในอินเทอร์เน็ต เพราะไม่ค่อยเผยแพร่มากนัก (อาจเป็นเพราะเป็นหนังสือการ์ตูนเฉพาะให้คนในประเทศตนอ่าน)  ไม่เหมือนมังงะที่หากเรื่องน่าสนใจจะมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษและโพสในเว็บอ่านการ์ตูนให้เหล่าคนในต่างประเทศนอกเหนือคนญี่ปุ่นได้อ่านกัน (ความจริงจีนแดงนั้นมีคอมมิคซุปเปอร์ฮีโร่บางส่วน แต่เน้นแบบดังๆ หรือรู้จักกันดีมากกว่า)

                    Family Bones เป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ผมไม่ได้อ่านเต็มๆ เพียงแต่ได้เห็นเนื้อหาบางส่วนในเว็บฆาตกรต่อเนื่องที่กำลังหาข้อมูลอยู่พอดี เห็นแล้วน่าสนใจเลยขอพูดถึงสักหน่อย แต่ถ้าใครอยากได้จริงๆ คงต้องไปเว็บอเมซอนสั่งซื้อเอาเอง ซึ่งราคาก็ไม่เบาเหมือนกัน (ก็ของต่างประเทศนี้เนอะ)

                    เนื้อหาและภาพบางส่วนของการ์ตูน

    http://escritoconsangre1.blogspot.com/2011/12/ray-y-faye-copeland-los-granjeros.html

                    แม้การ์ตูน Family Bones จะเป็นเรื่องของฆาตกรต่อเนื่องหากแต่เนื้อหาของการ์ตูนนั้นไม่รุนแรงหรือมีภาพความโหดเหี้ยมมากนัก (หรือการ์ตูนตัวอย่างตัดฉากเหล่านี้ไปก็ไม่รู้)  เท่าที่ผมดูมาเนื้อหาไม่ค่อยตรงกับข้อมูลที่ผมเขียนมากนัก (เป็นต้นวิธีการสังหารของเรย์ในการ์ตูนบ้าบิ่นเกินไป) อย่างไรก็ตามเนื้อหาบุคลิกของเรย์เหมือนตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นนิสัยใจแคบ ขี้โมโหร้าย ฉลาดแกมโกง ส่วนภรรยาของเรย์นั้นสงบเสงี่ยมเห็นด้วยกับสามีเสมอ (ผมเชื่อว่ากลวิธีการบอกเล่าเรื่องราวในการ์ตูนเรื่องนรี้อาจดีก็ได้ เพราะไม่งั้นจะมีหลายเวอร์ชั่นหรอก)

                    ปกติฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นคู่สามีภรรยานั้น ภรรยามักทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้สามีฆ่าเหยื่อ (เป็นต้นว่า ล่อเหยื่อมาฆ่า หรือช่วยขนศพ) หรือหากไม่ร่วมมือ ก็ทำเป็นไม่รู้เห็นว่าสามีไปทำอะไรมา แม้รู้เต็มอกว่าสามีเป็นฆาตกรต่อเนื่อง

    Family Bones ลายเส้นคล้ายๆ คอมมิคการ์ตูนฮีโร่ (หากจะเรียกว่าลายเส้นมาตรฐานคอมมิคการ์ตูนอเมริกามากกว่า) คือเป็นภาพขาวดำ ลายเส้นสมจริง การรบรรยายภาพ ตามสูตรการ์ตูนอเมริกันโบราณ ซึ่งปัจจุบันเห็นได้ยากแล้วสำหรับการ์ตูนลายเส้นแบบนี้

    บทสัมภาษณ์คนเขียน http://www.youtube.com/watch?v=EwCvpjd9y0w

    เนื่องจากไม่สามารถอ่านหนังสือ Family Bones ก็ไม่สามารถพูดว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่อยากจะพูดถึงก็คือเราได้เห็นการถ่ายทอดเรื่องของฆาตกรต่อเนื่อง หรือคดีในตำนานของอเมริกาในรูปแบบการ์ตูน ซึ่งเพราะมีพื้นฐานมาจากเรื่องจริงก็เรียกให้คนมาติดตามได้ไม่มากก็ไม่น้อย น่าเสียดายที่ประเทศไทยน่าจะเป็นแบบอย่างบ้าง หลายคดีในตำนานของไทยอย่าง บุญเพ็งหีบเหล็ก หรือซีอุย และตี๋ใหญ่เองก็น่าสนใจ น่าจะเขียนเป็นการ์ตูนหรือเขียนเป็นหนังสือให้จริงจังเสียที โดยเฉพาะวาดเป็นการ์ตูนให้เยาวชนได้รู้ว่าครั้งหนึ่งไทยเราก็มีคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่แปลกประหลาดไม่แพ้กันอยู่ แต่หลายฝ่าย (สำนักพิมพ์) ไม่ค่อยสนใจนัก ทำให้เยาวชนปัจจุบันหลงๆ ลืมๆ และทราบข้อมูลผิดๆ ถูกๆ มากมายเกี่ยวกับพวกเขา

     แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าดัดแปลง อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง (ขนาดภาพยนตร์ซีอุยเองก็ไม่ตรงเลย) อย่างไรก็ตาม การดัดแปลงนี้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่อยากให้เนื้อหาสามารถรับได้แก่ผู้ดูได้ ไม่ใช้ดัดแปลงจนน่าเกลียดมากเกินไป

                   Family Bones ไม่ใช่การ์ตูนเรื่องเดียวที่ดัดแปลงจากฆาตกรต่อเนื่องเรื่องจริง เพราะยังมีฆาตกรอีกมากที่นำเสนอเรื่องราวประวัติชีวิต ออกในรูปแบบการ์ตูนเชิงจิตวิทยา


     

    My Friend Dahmer

    ประวัติชีวิต, เชิงจิตวิทยา และอาชญากรรม

     

                    'My Friend Dahmer หรือ ดาห์เมอร์เพื่อนของฉัน เป็นการ์ตูนสร้างสรรค์โดยจอห์น แบล็คเดฟ (John Backderf)  ตีพิมพ์ในปี 2002  เป็นการ์ตูนจิตวิทยาที่เล่าเรื่องราวของเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ฆาตกรต่อเนื่องชื่อดังของอเมริกาในช่วงเรียนอยู่ในโรงเรียนชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลาย ซึ่งคนเขียนเป็นของฆาตกรต่อเนื่องดังกล่าว ที่ถ่ายทอดความทรงจำของเขาเกี่ยวกับเพื่อนคนนี้ว่าเขาเป็นอย่างไรในช่วงนั้น

                    จอห์น แบล็คเดฟ หรือนามปากกา “เดฟ” เป็นนักเขียนการ์ตูนที่มีชื่อเสียงพอสมควรในอเมริกา เริ่มต้นกับการ์ตูนจิกกัดในหนังือพิมพ์หลายฉบับตั้งแต่ปี 1990 และปี 2006 ได้รับรางวัลโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี้ วารสารศาสตร์สาขาการ์ตูน

    สำหรับเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ (Jeffrey Dahmer) เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่มีชื่อเสียงในอเมริกาและของโลก ซึ่งเชื่อว่าได้สารภาพว่าเขาได้ฆ่าชายหนุ่ม 17 ราย ระหว่างปี 1978-1991 โดยเมื่อเขาฆ่าและข่มขืนเหยื่อแล้วเขาจะเอาร่างของเหยื่อมาเป็นของเล่น ชำแหละเก็บสะสมหรือนำมากิน อย่างน่าขยะแขยง ซึ่งตอนที่จับกุมนั้นก็พบว่าที่ห้องของเขาเต็มไปด้วยซากศพมนุษย์มากมายในอ๊อกฟอร์ด อพาร์ทเมนต์ เลขที่ 924 เหนือ ถนน 25 ที่ห้อง 213 ในรัฐวิสคอนซิน ซึ่งเป็นที่อยู่ของเขา

    เนื่องจากรัฐวิสคอนซิสได้ยกเลิกโทษประหารไปแล้ว เจฟฟรีย์จึงถูกตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต และในวันที่ 28 พฤศจิกายน 1994 เขาก็ถูกนักโทษทุบด้วนท่อนเหล็กตายในขณะรับเวรทำความสะอาด เป็นอันสิ้นสุดฆาตกรต่อเนื่องที่น่ากลัวที่สุดคนหนึ่งของประเทศอเมริกาในที่สุด

    แม้เจฟฟรีย์จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่เรื่องราวของเขายังคงถูกถ่ายทอดเป็นหนังสือจิตวิทยา และภาพยนตร์ เนื่องจากประวัติชีวิตของเจฟฟรีย์นั้นน่าสนใจต่อนักจิตวิทยาหรือคนธรรมดาเป็นอย่างมาก เพราะปกติชีวิตของฆาตกรต่อเนื่องจะเกิดในสภาพครอบครัวที่เลวร้าย ถูกพ่อแม่ทุบตี แต่สำหรับเจฟฟรีย์นั้นครอบครัวของเขาปกติธรรมดา หากแต่หากเป็นเพราะการเลี้ยงดูที่พ่อแม่ไม่ใส่ใจลูกมากนัก ปล่อยปะละเลยลูกชายของตนเอง บวกกับสภาพแวดล้อมสังคมของอเมริกาที่หล่อหลอมผสมให้เด็กชายธรรมดาคนนี้กลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องในที่สุด


                หากคุณได้ดูคลิปการสัมภาษณ์ดาห์เมอร์ในเว็บยูทูปเราจะพบว่าดาห์เมอร์นั้นเป็นคนมีสเน่ห์ มีคาแร็คเตอร์ที่น่าสนใจ หน้าตาดี ไม่มีใครเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นฆาตกรต่อเนื่องน่ากลัวมากขนาดนี้

    บทสัมภาษณ์ดาห์เมอร์

    http://www.youtube.com/watch?v=ErB0R4wlB64&feature=player_embedded#t=20s

    My Friend Dahmer เป็นอีกหนึ่งในการ์ตูนที่ถ่ายทอดว่าเกิดอะไรขึ้นกับดาห์เมอร์ในช่วงเรียนอยู่มัธยมและเขามีบุคลิกนิสัยใจคอเป็นอย่างไร โดยเนื้อหาของการ์ตูนแสดงให้เห็นมิตรภาพระหว่างคนเขียนและดาห์เมอร์ชายที่ได้กลายฆาตกรต่อเนื่องต่อเรนื่องในอาณาคต ซึ่งช่วงนั้นคนเขียนกำลังเรียนโรงเรียน Eastview Junior High และ Revere High School ซึ่งคนเขียนได้อธิบายไว้ในเนื้อหาของการ์ตูนว่าเขาไม่เคยคิดเลยว่าดาห์เมอร์นั้นจะกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ถูกครอบงำโดยปีศาจในอนาคต เพราะเท่าที่เขารู้ดาห์เมอร์นั้นเป็นคนขี้อาย ใส่แว่น น่าสงสาร แต่ในขณะเดียวกันเขาก็สังเกตว่า แม้ดาห์เมอร์จะมีเสน่ห์ แต่เขานั้นชอบทรมานสัตว์ ดื่มสุราและมีพฤติกรรมประหลาดชอบเรียกร้องความสนใจคนอื่น เช่น ชอบแกล้งเป็นโรคลมชักปลอมๆ ในห้องสมุดให้คนเห็นไปทั่วทั่ว หรือแกล้งเป็นคนปัญญาอ่อน (ความจริงแล้วดาห์เมอร์เป็นคนฉลาดมาก ไอคิวเกิน 100) และที่น่าตกใจคือเขาฆ่าเหยื่อครั้งแรกของเพียงเพียงสองสัปดาห์หลังจากสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมปลาย

    เว็บไซต์ของคนเขียน และอ่านการ์ตูน My Friend Dahmer

    http://www.derfcity.com/comix/MFD/MFD1.html

     My Friend Dahmer ลายเส้นค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ เพราะปกติแล้วการ์ตูนคอมมิคอเมริกันจะเน้นวาดตัวละครสมจริง หากแต่การ์ตูนเรื่องนี้กลับวาดตัวละครในเชิงล้อเลียน (หัวโต, แขนขาบิดเบี้ยว หรือทำท่าประหลาด หรือออกกวนๆ ฮ่า) อีกทั้งฉากหลังยังพิลึกเสมือนหนึ่งเราเข้าไปในจิตใจของตัวฆาตกรต่อเนื่องโรคจิต

                    
                
    ดาห์เมอร์ในการ์ตูนนั้นไม่มีเค้าโครงร่างของฆาตกรสักนิด เพราะคนวาดออกแบบดาห์เมอร์เหมือนเด็กแว่นเนิร์ดธรรมดาที่เห็นอยู่ทั่วไป (เป็นช่วงสมัยประถม) อย่างไรก็ตามการ์ตูนเปิดฉากออกมา (หากคุณเปิดอ่านเว็บ) จะพบอาการทางจิตของดาห์เมอร์ว่าเป็นคนพิลึกชอบเอาเก็บซากสัตว์ที่พบข้างทางมาดองไว้ขวดโหลในกระท่อมกลางป่า ไม่ใช่ขวดเดียว หากมีจำนวนมาก (แถมเขายังใส่ชื่อติดแต่ละขวดอีกว่าแต่ละขวดเป็นอะไร เช่น ขวดแรทคูณ ขวดงู ขวดแมว)

                    แม้ว่าลายเส้นของการ์ตูนจะไม่เน้นความสมจริง แต่สีหน้าของดาห์เมอร์ในการ์ตูนนั้นชัดเจน เราเห็นใบหน้าของวัยรุ่นที่ตอนแรกเหมือนซีดเผือกดูสงบดูตลก ที่จู่ๆ ก็แสดงอารมณ์สยองขวัญ หรือโมโหร้ายแบบไม่มีเหตุผล ยิ่งการ์ตูนดำเนินเรื่องหลายหน้าเท่าไหร่ดาห์เมอร์ยิ่งมีความเย็นชาและความโหดร้ายของฆาตกรต่อเนื่องรายนี้ชัดเจนมากที่นั้น

                    หลังจากดูบางส่วนของการ์ตูน จู่ๆ ในใจของผมได้ตั้งคำถามว่า แท้จริงแล้วสาเหตุดาห์เมอร์บ้านั้นเป็นเพราะอะไรกันแน่ เป็นเพราะการเลี้ยงดูของครอบครัว เป็นเพราะตัวเขาเองที่ใช้ชีวิตห่างเกินครอบครัว หรือเป็นเพราะสังคมของอเมริกันที่ต่างใครต่างอยู่ ทำให้ชีวิตวัยรุ่นที่เขาควรจะได้หายไป

                    แน่นอนว่าการ์ตูน  My Friend Dahmer หนังสือหนากว่า 224 หน้านี้ไม่สามารถหาอ่านในการ์ตูนทั่วไป  อยากได้ตั้งสั่งสื้อเอาเองที่เว็บอเมซอน

                    ก็จบแต่เพียงเท่านี้ในการพูดถึงคอมมิคฆาตกร ซึ่งปกติแล้วผมชอบประวัติฆาตกรต่อเนื่องมาก จำได้สาเหตุที่ชอบนั้นผมได้อ่านประวัติขของเอ็ดกีนจากหนังสือ “เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เห็นฆาตกร” ของนายแพทย์สรจักร ซึ่งตอนที่ผมอ่านก็พบว่าโดนใจมากเพราะไม่คิดเลยว่าโลกใบนี้ยังมีคนโรคจิตอำมหิตแบบนี้อาศัยอยู่ร่วมโลกกับเรา นับจากนั้นเป็นต้นมาผมก็กลายเป็นคนที่ชื่นชอบอ่านประวัติฆาตกรต่อเนื่องเจอหนังสือเจอภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่องซื้อหมด

    หลายคนอาจชอบบุคคลดังที่ประสบผลสำเร็จชีวิตมากแล้ว ลองมาเปลี่ยนดูจุดตกต่ำของชีวิตของมนุษย์อีกมุมหนึ่งบ้าง ว่าโลกนี้ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด

     “จงเรียนรู้ เพื่อป้องกัน”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×