ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #205 : Monster Musume no Iru Nichijou รักน่ะสาวมอนสเตอร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.95K
      8
      3 ก.ย. 55

     

    Monster Musume no Iru Nichijou อาจเป็นการ์ตูนแนวฮาเร็มธรรมดา หากแต่มันแตกต่างไปจากฮาเร็มเรื่องอื่นๆ ตรงที่ตัวละครหลักผู้หญิงนั้นล้วนเป็นสาวมอนสเตอร์ พูดถึงสาวมอนเสอตร์เราก้ต้องนึกถึงสาวหูหมา สาวมังกรน่ารัก แต่สาวมอนสเตอร์ในการ์ตูนเรื่องนี้กลับเป็นสาวครึ่งมนุษษย์ครึ่งอสูรกายที่ทั้งน่ารักและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน

     


    Monster Musume no Iru Nichijou

    ตลก, เอจจิ, แฟนตาซี, ฮาเร็ม, ผู้ใหญ่, โรแมนติก, ไซเน็น

     

    Monster Musume no Iru Nichijou เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น แปลไทยว่า “ชีวิตประจำวันของสาวมอนสเตอร์” (Daily Life With A Monster Girl Manga) ผลงานของ Okayado (และ Inui Takemaru จากการหาข้อมูลผมไม่แน่ใจว่า Okayado & Inui Takemaru เป็นคนเดียวกันหรือเปล่า? แต่ข้อมูลของผมคือเป็นคนเขียนคนเดียวกันครับ ) ลงต่อเนื่องใน Comic Ryu (Tokuma Shoten)  ในปี 2012 ซึ่งตอนที่ผมเขียนอยู่นี้ยังไม่ทราบว่ามีโครงการรวมเล่ม และไม่รู้ว่าจะจบในตอนที่ 6 หรือเปล่า? (ข่าวล่ามาเร็ว ตอนที่ 6 ยังไม่จบครับ แสดงว่ามี 2 เล่มแน่นอน)

    Monster Musume no Iru Nichijou เป็นเรื่องราวสามปีที่ผ่านมาโลกเราได้รับรู้ถึงการดำรงชีวิตเหล่าอมมนุษย์ว่ามีอยู่จริง เพราะรัฐบาลได้ทำเปิดเผยการมีอยู่ของเหล่าอมมนุษย์ หลังจากปกปิดมาโดยตลอด การเปิดเผยนี้รัฐบาลเชื่อว่าพวกอมมนุษย์จะสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ธรรมดาได้อย่างปกติสุข อีกทั้งยังมีการร่างกฎหมาย “การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างเผ่าพันธุ์ขึ้น” โดยรัฐบาลได้จัดการส่งอมมนุษย์ไปแบบอาศัยอยู่กับพวกมนุษย์แบบโฮมสเตย์ในต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมากฎหมายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมก็ราบรื่นมาโดยตลอดที่ช่วยให้เหล่าอมมนุษย์ทั้งหลายอาศัยอยู่ร่วมกับสังคมของมนุษย์ธรรมดาให้สงบสุข

    พระเอกเรื่องนี้มีชื่อว่า “คุรุสุ คิมิฮิโตะ” เป็นอาสาสมัคร (?) ในโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลลาเมียตัวหนึ่งชื่อ “มีอา” ซึ่งหลังจากที่ดูแลระยะหนึ่งมีอาได้ตกหลุมรักคุรุสุ (เรียกคุรุสุว่า “ดาร์ลิ้ง”) จนอยากเป็นภรรยา หากแต่เป็นมันไม่ได้ เพราะมีข้อตกลงในโครงการแลกเปลี่ยนว่าห้ามมีการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างมนุษย์และอมมนุษย์โดยเด็ดขาด หากละเมิดกฎหมายนี้จะถูกลงโทษอย่างหนัก ซึ่งคุรุสุจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย (ต้องแตะบอลทุกวันเพื่อลดความหื่น) พร้อมกับเอาตัวรอดไปด้วย เพราะมีอานี้ก็งูอนาคอนด้าดีๆ นี้เอง

    อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คุรุสุอยู่กับมีอาระยะหนึ่ง ก็มีอมมนุษย์ใหม่เข้ามาเป็นสมาชิกในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ปี้ที่ชื่อ “ปาปี้” รูปร่างเหมือนสาวน้อยน่ารักนมแบนแต่อายุมากกว่าที่คิด และชอบพระเอกเปิดเผย (เรียกคุรุสุว่า “สามี”) และเซนทอร์ที่ชื่อ “เซเรีย” ที่ชอบพระเอกเช่นกัน (เรียกคุรุสุว่า “นายท่าน”) ตอนแรกก็ปรองดองกันดีแหละ แต่เผลอเป็นไม่ได้ ทั้งสามต้องทะเลาะแย่งคุรุสุอยู่บ่อยๆ ส่วนพระเอกไม่มีเวลาหื่นหรอก วันๆ ต้องเตรียมน้ำอุ่นอาบอย่างกับวัง เตรียมอาหารเป็นลังๆ ไม่รู้พระเอกหาเงินมาจากไหน และไม่รู้ว่าไปโรงเรียนหรือเปล่า? ต่อมาก็เกิดปัญหาเกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลเสนอกฎหมายใหม่ให้สามารถแต่งกันข้ามสายพันธุ์ได้ โดยเลือกพระเอกเป็นกรณีตัวอย่าง เมื่อสามสาวมอนสเตอร์ได้ยินก็หูผึ่งจนอยากจับกดพระเอก และแล้วความอยู่รอดของพระเอกก็ได้เริ่มต้นขึ้น พระเอกจะโดนจับกดหรือไม่? พระเอกจะตายหรือไม่? และจะมีสาวมอนเสอตร์ตัวใหม่มาเพิ่มปัญหาให้แก่พระเอกหรือไม่ ก็ติดตามต่อไป

    ก่อนที่คนเขียนจะวาด Monster Musume no Iru Nichijou ผลงานก่อนหน้านี้ของคนเขียนเคยวาดสาวมอนเตอร์ไม่ว่าจะซีรีย์ My life with monstergirls  หากแต่เป็นการ์ตูนโป๊และมีหน้าเดียวจบ (จบหนึ่งตอน)  โดยพระเอกหน้าเหมือนคุรุสุ (แต่ไม่ทราบชื่อ) ต้องเลี้ยงสาวมอนสเตอร์อมมนุษย์แบบคนรัก (และสัตว์เลี้ยง) ซึ่งมีทั้ง ลาเมีย, ดูราฮาน, เคนทารอส, เงือก, สไลม์ ฯลฯ และเรื่องที่สอง The Report of Monster Girls ซึ่งเป็นการ์ตูนโป๊หน้าเดียวจบเช่นกัน

    นอกจากนี้คนเขียนยังเขียนการ์ตูนตอนเดียวจบในชื่อ “Deadline Summonnr” (2012) ซึ่งเป็นการ์ตูนแนวสาวมอนสเตอร์เหมือนกัน แต่เป็นแค่การ์ตูนแนวเอจจิ โดยเป็นเรื่องราวพระเอกที่ได้หลงเข้ามาในโลกแฟนตาซีผจญภัยและได้เป็นผู้อัญเชิญสัตว์อสูรที่แต่ละตัวเป็นสาวมอนเตอร์ทั้งสิ้น

    ความจริงคนเขียน ได้เขียนการ์ตูนเรื่อง Mamama - Mahou Iinchou Mako-chan Mahou Shidou ในปี 2010 ซึ่งน่าจะเป็นแนวเดียวที่ไม่ใช่แนวสาวมอนเตอร์

     

    หากพูดถึงการดำเนินเรื่อง Monster Musume no Iru Nichijou ก็คือการ์ตูนฮาเร็มโลกสีชมพูธรรมดานี้แหละ ที่พระเอกเป็นคนธรรมดาไม่ได้โดดเด่นอะไร หากแต่รอบตัวเขากับเป็นที่ชื่นชอบสาวสวยทั้งสิ้น หากแต่สิ่งที่แปลกประหลาดกว่าฮาเร็มเรื่องอื่นๆ ก็คือสาวสวยที่ชอบพระเอกนั้นเป็นสาวมอนสเตอร์น่ะสิ

    แน่นอนพูดถึงสาวมอนสเตอร์หลายคนก็นึกถึง สาวหูแมว สาวหูหมา หรือสัตว์ประหลาดน่ากลัวที่จำแลงมาเป็นมนุษย์ซึ่งเป็นสาวสวยน่ารัก (ซายะะกินแมว หรือเนียวรูโกะ) หรือเป็นสาวมังกรที่เป็นสาวน้อยที่ยังเป็นส่วนของสัตว์ประหลาดอยู่ติดตัว เช่น หาง ปีก เขี้ยว เป็นต้น อย่างไรก็ตาม Monster Musume no Iru Nichijou ได้เปลี่ยนความคิดสาวมอนสเตอร์ที่เราเคยเห็นมาทั้งหมด เมื่อสาวมอนสเตอร์ในเรื่องที่แม้ยังคงมีรูปร่างมนุษย์เป็นสาวสวยน่ารัก แต่ร่างกายกว่า 80% นั้นกลับมีส่วนผสมของสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว (จำพวก งู, แมงมุม เป็นต้น) ทำให้สิ่งที่ออกมาก้ำกึ่งกับความน่ารักและความน่ากลัวในเวลาเดียวกัน

    มอนสเตอร์ (Monster) ตามความหมายวิกีพีเดีย แปลว่าสัตว์ประหลาด อสูรกาย อมมนุษย์ หรือสิ่งมีชีวิตที่มักจะพบในตำนานหรือนิยายสยองขวัญที่มักจะมีรูปร่างน่าเกลียด ผิดแปลกจากสภาพแวดล้อมโดยทั่วๆ ไป หรือสัตว์ที่มนุษย์ไม่รู้จัก มักสร้างความหวาดกลัวแก่ผุ้คน โดยมักทำร้ายมนุษย์ธรรมดา

    โดยคำว่า Monster ที่มีที่มาจากภาษาละตินคำว่า Monstrum ซึ่งหมายถึง การเกิดสิ่งผิดปกติทางชีววิทยามักจะที่ถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์ว่าสิ่งที่ถูกต้องภายในเพื่อธรรมชาติ

                    ความจริงแล้วคำว่า Monster ยังมีอีกความหมายหนึ่งที่เราไม่คุ้นเคย นั้นคือใหญ่ โต โดยใช้เรียกสัตว์ที่มีขนาดใหญ่โตมาก ซึ่งไม่ใช่มอนสเตอร์เสมอไป เช่น วาฬยักษ์ หรือ)ฉลามยักษ์เป็นต้น

                    ปกติแล้วมอนสเตอร์มักสื่อถึงความผิดปกติหรือความชั่วร้าย ในเมื่อมันรูปร่างประหลาดจิตใจก็ต้องบิดเบี้ยวโหดร้ายไปด้วย ทำให้ยังมีการประยุกต์ไปใช้เปรียบเปรยคนที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่นคนตะกละ หรือคนน่ากลัว เป็นต้น

                    นอกเหนือจากที่เรารู้จักมอนสเตอร์ในตำนานแล้ว ปัจจุบันมอนเตอร์ยังปรากฏในสื่อต่างๆ โดยเฉพาะภาพยนตร์ ที่ปรากฏในยุคภาพยนตร์เงียบ ที่เป็นพวก แวมไพร์ มนุษย์หมาป่า หรือ อสูรกายแฟรงเกนสไตน์ พอมาถึงยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็มีพวกสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ขนาดยักษ์ที่เกิดจากกัมมันตภาพรังสีนิวเคลียร์ซึ่งทั่วโลกกำลังหวาดกลัวเวลานั้นมาเรียกคะแนนความนิยม ที่โดดเด่นก็เช่น ก็อตซิล่า หรือสัตว์ในตำนานอย่างพวก คราเคน เป็นต้น และปัจจุบันภาพยนตร์เกี่ยวกับมอนสเตอร์ก็มีหลากหลายรูปแบบหลายแนวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์น่ารักไปจนถึงมอนเสตอร์น่าเกลียดน่ากลัว สยองขวัญเลือดสาด

                    ปัจจุบันสื่อที่เรารู้จักมอนสเตอร์ส่วนใหญ่จะเป็นสื่อวีดีโอเกมบันเทิง จำพวกแฟนตาซีแนวเกมจำพวกแอ็คชั่นหรือเกมภาษาผจญภัยที่เราต้องสวมบทบาทและจำเป็นต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์หลากหลาย ที่บางตัวก็เกิดจากการสร้างเองของผู้สร้างเกม (สไลม์) หรือมีแรงบันดาลใจจากมอนสเตอร์ในตำนานจากทั่วโลก เป็นต้น

                   

    การ์ตูนญี่ปุ่นนี้เป็นประเทศไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ที่ใช้ความโมเอะเปลี่ยนอะไรทุกอย่างให้น่ารัก ขนาดอุจจาระเองก็เคยทำให้น่ารักโมเอะมาแล้ว มาคราวนี้ก็เป็นเปลี่ยนมอนสเตอร์สัตว์ประหลาดน่าเกลียดให้มีภาพลักษณ์น่ารัก และที่ไอเดียกระฉูดคือการใส่ภาพลักษณ์ของมนุษย์ใส่ลงในสัตว์ประหลาด ให้เป็นสาวมอนสเตอร์น่ารัก (Cute Monster Girl) บ้าง

    ความจริงแล้วสาวมอนสเตอร์มีมานานแล้ว ฝรั่งเองก็วาดสาวมอนสเตอร์เหมือนกัน โดยเป็นพวกพวกสาวมอนสเตอร์ในตำนานที่มีภาพลักษณ์ของมนุษย์ผู้หญิงอยู่ก่อนแล้ว อย่าง ไซเรน, ฮาร์ปี้, อรักเน่ (สาวครึ่งคนครึ่งแมงมุมยักษ์) ให้วาดในส่วนมนุษย์ผู้หญิงสวยและดูยั่วยวนมากขึ้น แต่เน้นความสมจริงมากกว่าน่ารักแบบของญี่ปุ่น

    สาวมอนสเตอร์น่ารักของญี่ปุ่นนั้นมีหลายแบบ ซึ่งจำแนกคร่าวๆ ดังต่อไปนี้

    - สาวหูสัตว์ทั้งหลายแหลที่มี สาวหูหมา สาวหูแมว สาวหูกระต่าย ที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์ผู้หญิงสาวน่ารัก(หลายแบบ) ที่มีส่วนผสมของสัตว์เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ (20-30%) กล่าวคือ มีหู มีหาง บางครั้งก็มีอุ้มมือของสัตว์ ก็แล้วแต่คนเขียนการ์ตูนเรื่องนั้น ซึ่งถือว่าเป็นคาแร็คเตอร์ที่เรารู้จักกันดืที่สุด และสามารถแบ่งหลายแบบ แตกสาขามากมาย แล้วแต่นิสัยน่ารักของสัตว์นั้นๆ

    - สาวภูตผี ปีศาจ โดยที่ได้รับความนิยมที่สุดคือซาคิวบัส ที่มักนิยมในสื่อลามก (เกม, มังงะ) ที่มีฉากหลังเป็นแฟนตาซี (อีกแบบหนึ่งก็แนวทำสัญญากับปีศาจ) ซึ่งซาคิวบัสในร่างสาวสวย เปลือยล่อนจ่อน มีเขาและมีปีกของปีศาจ อาจมีกงเล็บมือหรือเท้าแหลมคม ก็แล้วแต่คนเขียนจะออกแบบอย่างไร ตรงนี้ก็แปลกดี เพราะปกติแล้วความเชื่อของฝรั่งมนุษย์สมสู่กับปีศาจมักเป็นสิ่งไม่ดีไม่สมควร แต่เพราะความไม่สมควร นั้นเองทำให้การ์ตูนลามกหลายเรื่องเลือกซาคิวบัสมาเป็นนางเอกของเรื่อง ซึ่งซาคิวบัสสื่อถึงราคะที่เร้าร้อน ความลึกลับ และน่าหลงใหลในรูปร่างของผู้หญิงที่เต็มเปลี่ยม

                   -อื่นๆ เช่นสาวมนุษย์ต่างดาว หุ่นยนต์ที่รูปลักษณ์ดูก็รู้เลยว่าไม่ใช่มนุษย์(ที่แปลกคือบางเรื่องวาดสาวมอนสเตอร์มนุษย์ต่างดาวไม่น่ารัก ออกแนวแปลกๆมากกว่า)

    -และสาวมอนสเตอร์ คือสาวมอนสเตอร์ในตำนานแท้ๆ ซึ่งแบ่งออกแป็น 3 แบบแบบที่เรารู้จักกันดีคือพวกจำแลงมาเป็นมนุษย์กล่าวคือร่างจริงเป็นสัตว์ประหลาดน่าเกลียดน่ากลัวแต่จำแลงกลายเป็นมนุษย์สาวน่ารักที่ไม่มีส่วนผสมของมอนสเตอร์เลยแม้แต่น้อยแต่ยังคงมีนิสัยและสัญชาตญาณของมอนสเตอร์เหมือนเดิม (และโหดหรือน่ารักก็แล้วแต่แนว),แบบที่สองคือมีส่วนผสมของสัตว์เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ (20-30%) เหมือนกรณีสาวหูสัตว์ แต่มอนสเตอร์ส่วนใหญ่เป็นเป็น สาวมังกร สาวไซเรน(สาวมีปีกและมีกรงเล็บ) ซึ่งมอนสเตอร์ดังกล่าวโดยเฉพาะมังกรมีความเท่และอำนาจผสมกับนิสัยเหย่อหยิ่งและความเก่งทำให้น่าหลงใหล (ตัวอย่างสาวมังกรที่เห็นได้ชัดก็มี Dragon Half)

    และสุดท้ายคือหัวข้อที่พูดถึงบทความนี้คือ สาวมอนสเตอร์ที่มีลักษณ์ครึ่งมนุษย์ที่เป็นสาวสวยน่ารักและอีกครึ่งหนึ่งเป็นสัตว์ประหลาดซึ่งมีส่วนประกอบถึง80% แถมสัตว์แต่ละครึ่งที่เป็นสัตว์ประหลาดก็น่ากลัวมากกว่าน่ารักหรือเท่(จำพวกงู ปลาหมึก แมงมุม) ซึ่งต่อไปนี้ผมขอเรียกว่า “สาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์” (Half-Human Hybrid) ล่ะกัน


                ปกติแล้วในการ์ตูนญี่ปุ่นสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์ มักปรากฏศัตรูตัวร้าย (ในฐานลูกสมุนที่ไม่ค่อบจดจำนัก) ในแนวแอ็คชั่น ผจญภัยมากกว่า อีกทั้งอยู่ในภาพลักษณ์สมจริงและน่ากลัว หรือไม่ก็มักปรากฏในแนวสยองขวัญตาหวาน (การ์ตูนสยองขวัญลายเส้นผู้หญิงสมัยก่อน) จำพวกมนุษย์ครึ่งงู มนุษย์เงือกนี้แหละเยอะที่สุด

    ส่วนมากนั้นเราพบแนวที่มนุษย์ธรรมดามีความรักกับสาวมอนสเตอร์แบบโรแมนติก (??) ในการ์ตูนและเกมโป๊มากกว่า ซึ่งเชื่อว่าหลายคนอาจเคยพบเห็นมาบ้าง โดยตัวเอกสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์ส่วนใหญ่จะเป็นพวกลาเมีย,  เงือก, แมงมุม, สาวปลาหมึก (คราเคน) เยอะที่สุด (โดยเกมที่เนื้อหาสาวมอนสเอตร์ครึ่งมนุษย์น่ารักที่หลายคนรู้จักกันดีน่าจะเป็น เกม Monmusu Quest! หรือ Monster Girl Quest ซึ่งเป็นตัวเกมเรารับบทเป็นผู้กล้าที่มีสาวลาเมียมาเป็นผู้ช่วย ที่ต้องเดินทางไปปราบเจ้ามอนเตอร์ ซึ่งตัวเกมมีการสอดแทรกการเหยียดเผ่าพันธุ์ ที่สอนให้มนุษย์รังเกียจมอนสเตอร์  แต่ตรงข้ามกับพระเอกที่เห็นสาวมอนสเตอร์เหล่านั้นระหว่างเดินทางที่แต่ละตัวมีความน่ารัก (จนไม่กล้าฆ่า) อีกทั้งยังมีจิตใจเหมือนเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง

    ใช่ว่าด้านสว่าง (ไม่เอาโป๊หรือเอจจิ) จะไม่มีสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์เป็นตัวเอก เช่นภาพยนตร์การ์ตูนสมัยก่อนมีเรื่องของ Bagi, the Monster of Mighty Nature (1984) ซึ่งผลงานของปรมาจารย์สึกะ โอซามุ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักของมนุษย์ธรรมดากับสาวลูกครึ่งแมว (ไม่ใช่สาวหูแมวอย่างที่เข้าใจกัน แต่เป็นสาวที่รูปร่างเป็นแมว เค้าโครงหน้าเป็นแมว เพียงแต่สรีระเหมือนมนุษย์ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีคำนิยามของโมเอะ) อย่างไรก็ตาม พวก ครึ่งงู หรือครึ่งสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดนี้ยังไม่มีในสายสว่าง

     

    คำถามต่อมาคือเหตุใดคนบางกลุ่มถึงชอบสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์ในสายมืด (การ์ตูนโป๊) มันมีดีตรงไหน?

    ที่ผมพูดว่าบางกลุ่มก็เนื่องจาก การ์ตูนแนวสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์ยังเป็นการ์ตูนเฉพาะกลุ่มจริงๆ คือมีบางคนชอบมาก ในขณะที่บางคนถึงขั้นเกลียดไปเลย

    โดยทุนเดิมมนุษย์หลายคนมีความเชื่อฝังหัวว่าการที่มนุษย์ร่วมเพศระหว่างสัตว์มันผิดศิลธรรม กับปีศาจก็ยิ่งแล้วใหญ่ อมมนุษย์และสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์เองก็ถือว่าเป็นตัวแทนไม่สมบูรณ์แบบ เพราะครึ่งหนึ่งเป็นมนุษย์ อีกครึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์รังเกียจและขยะแขยง จำพวกของลื่นๆ เมือกๆ พวกงูและแมงมุมยิ่งไม่โสภาเขาไปใหญ่ เอางี้ลองคิดภาพดู การ์ตูนโป๊แนวสาวมอนสเตอร์สักเรื่องหนึ่ง เมื่อถึงฉากที่เรา (มนุษย์เพศชาย) มีเพศสัมพันธ์กันระหว่างสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์ พวกครึ่งงูตัวใหญ่, ครึ่งแมงมุมขนาดใหญ่, ครึ่งปลาหมึกคิดว่าขยะแขยงขนาดไหน แถมสายมืดบางเรื่องชอบสาวสาวมอนสเตอร์ที่สรีระโอเวอร์เกินงามโดยเฉพาะหน้าอกที่ใหญ่มากยิ่งไม่เป็นที่พิสมัยของใครสักเท่าไหร่

    แต่กระนั้น ก็มีคนอ่านหลายคนมีรสนิยมชอบในสายมืดแนวสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์ หากตอบว่าทำไมถึงชอบ ก็ตอบแค่คำเดียวคือ “แปลก” ชอบของแปลก เห็นอะไรธรรมดามาเยอะแล้วขอลิ้มลองของแปลกประหลาดบ้าง ยิ่งไม่สมบูรณ์แบบยิ่งชอบ ยิ่งผิดศิลธรรมยิ่งชอบ มีส่วนผสมของความน่ากลัวหวาดเสียวยิ่งชอบ ซาดิสต์รุนแรงยิ่งชอบไปใหญ่ ซึ่งมนุษย์เองก็ต้องการความหลากหลายในเพศรสอยู่แล้ว

    อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มี Monster Musume no Iru Nichijou ซึ่งเป็นแนวเอจจิ (แค่หื่น) ก็ทำให้หลายคนหลงใหลสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์บ้าง เพราะพวกเธอช่างน่ารักเสียจริง

     

    เคยมีคำกล่าวว่ายิ่งสิ่งไม่ใช่มนุษย์ มีรูปลักษณ์ของความเป็นมนุษย์มากเท่าไหร่ เราก็มีความรู้สึกสงสาร และความรู้สึกและปฏิบัติต่อมันเหมือนมนุษย์มากเช่นนั้น

    ยกตัวอย่างเช่น สไลม์ มอนสเตอร์ชั้นต่ำที่สุดในโลกแฟนตาซี ที่มักปรากฏในตอนแรก ที่แสนกระจอกเพราะพุ่งเข้าชนอย่างเดียว อีกทั้งยังไร้สติปัญญา ลักษณะของมันเป็นวุ้นใสๆ เหมือนน้ำ (ในโลกแห่งความจริงมันก็คือราเมือก ซึ่งเป็นโพรทิสต์) เห็นแล้วน่ากลัวอยากฆ่ามากกว่าจะจับมาเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ญี่ปุ่นนี้ช่างคิด ขนาดมอนสเตอร์น่าเกลียดน่ากลัวก็ยังสามารถทำให้โมเอะได้ ทำให้มันน่ารัก ทำตาดูบ๋องแบ๊ว มีปากยิ้มดูแล้วน่าเอ็นดู (แต่บางคนเห็นแล้วรู้สึกกวนตีน อยากฆ่ามันมากกว่า) แต่ที่เจ๋งสุดคือทำให้สไลม์เป็นสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์สไลม์โมเอะโดยใส่ภาพลักษณ์ที่เป็นมนุษย์ลงไป โดยรูปร่างเหมือนมนุษย์เด็กสาวน่ารักทวิลเทลแต่กระนั้นก็ยังคงคุณสมบัติของสไลม์ไปด้วยกล่าวคือมีเมือกและสีของสไลม์ทั่วตัว และที่โมเอะสุดๆ คือนิสัยของสไลม์ที่ไร้สติปัญญาหากเปลี่ยนเป็นสาวมอนสเตอร์ลูกครึ่งแล้ว ก็จะกลายเป็นนิสัยน่ารัก อ่อนโลก และขี้อ้อน ใครเห็นสาวมอนสเตอร์สไลม์ก็จะรักอยากปกป้อง มากกว่าที่จะฆ่ามันอย่างโหดร้าย

    นี้แหละคือหลักการของการ์ตูนญี่ปุ่นโมเอะ

    มนุษย์เรานั้นค่อนข้างใส่ใจกับภาพลักษณ์ภายนอกพอสมควร (ค่อนข้างมากด้วยซ้ำ)  ขอให้มีภาพลักษณ์เหมือนมนุษย์มากเท่าใด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งไม่มีชีวิตหรืออมมนุษย์ก็จะทำให้เราเกิดจิตใจสองมาตราฐาน ปฏิบัติต่อมันแตกต่างกันไป  

    ยกตัวอย่างเช่น มนุษย์ต่างดาวจากภาพยนตร์ที่ District 9 ที่เคยฉายในปี 2009 มนุษย์ต่างดาวได้ลี้ภัยมายังโลก แต่ได้รับการปฏิบัติอย่างโหดร้าย  ขาดเสรีภาพ สาเหตุเพราะมนุษย์ธรรมดากับมนุษย์ต่างดาวไม่สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข เพราะมนุษย์เห็นมนุษย์ต่างดาวรูปร่างไม่เหมือนมนุษย์ เหมือนกุ้งเดินได้ น่าเกลียดน่ากลัว จนเกิดความคิดว่ามนุษย์เหนือกว่า จึงนำสู่การเอาเปรียบ ดูถูกเหยีดย้ำ ปฏิบัติต่อมนุษย์ต่างดาวเหมือนทาส ทั้งๆ ทีมนุษย์ต่างดาวก็มีจิตใจแบบคนเหมือนกัน

    ในทางกลับกัน หากมนุษย์ต่างดาวรูปร่างเหมือนมนุษย์ ยิ่งมนุษย์น่ารักมากเท่าไหร่คนที่เห็นจะเอ็นดู ได้รับปฏิบัติตามสิทธิมนุษย์ชนอย่างยิ่งยวด ตัวอย่างเห็นได้ชัดคือมนุษย์ต่างดาวเดียรส์จากเรื่อง DearS ที่มายังโลกเพราะยานเสียเหมือนกัน มนุษย์ได้เห็นพวกเดียรส์ก็ต่างหลงรัก อยากปกป้อง เพราะพวกเดียรส์แต่ละคนหน้าตาน่ารัก หล่อ จึงได้รับการปฏิบัติดีกว่ามนุษย์ต่างดาวกุ้งจาก District 9

    ส่วนสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์นั้นก้ำกึ่งน่ารักและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน แต่มนุษย์ก็หลงรักอยู่ดี หากภาพลักษณ์เป็นสาวน่ารัก น่าปกป้อง


                    ตัวอย่างเห็นได้คือ Monster Musume no Iru Nichijou สาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษญ์ตัวแรกที่ปรากฏคือ ลาเมียเป็นสัตว์ในตำนานของกรีก เป็นอสูรกายที่รูปร่างส่วนบนเป็นมนุษย์ผู้หญิง ลำตัวส่วนล่างเป็นงู มีนิสัยกระหายเลือดชอบกินเลือดเด็ก ตามตำนานเล่าว่าอดีตเธอเป็นสาวสวยงดงามหากแต่ถูกเทพเจ้าสาปให้กินลูกของตัวเอง (นอกจากนี้สาวครึ่งมนุษย์งูจะอยู่ในความเชื่อของฮันดู ซึ่งเรื่องว่า นาการ์) ซึ่งลาเมียนั้นเป็นมอนเสตอร์ที่มักปรากฏในเกม RPG หรือเกมแอ็คชั่นทั่วไป หากมีฉากหลังเป็นแฟนตาซียุคกลาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมอนสเตอร์ชั้นต่ำที่น่าเกลียดน่ากลัว แม้อีกครึ่งจะเป็นมนุษย์ผู้หญิงแต่เป็นผู้หญิงที่ไม่สวยงามไม่มีเค้าโครงความเป็นมนุษย์แม้แต่น้อย (ไม่สวย, หรือหน้าตาเป็นหญิงแก่ชรา) อย่างไรก็ตามลาเมียที่ปรากฏใน Monster Musume no Iru Nichijou นั้นกลับน่ารักแบบเหลือเชื่อ ด้วยครึ่งหนึ่งเป็นมนุษญ์ผู้หญิงธรรมดา ขี้อ้อน (ชอบรุก) อ่อนโยน

                    สายมืดนั้นสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์ลาเมียที่เป็นตัวเอกค่อนข้างเยอะ (แต่ไม่มากเท่า สาวหูหมา สาวหูแมว ซาคิวบัส) สาเหตุที่ลาเมียมักเป็นตัวเอกนั้น คงเป็นเพราะนิสัยของลาเมียเป็นสาวพราวเสน่ห์ (นมใหญ่ไม่นับ) มากรัก ยิ่งมีส่วนผสมของงูก็ช่างร้อนแรง สำหรับใครบางคนแล้วก็ได้เห็นงูร่วมรักเลื้อยพันตัวก็ถือว่าเกิดอารมณ์ได้เหมือนกัน

                  

                    ใน Monster Musume no Iru Nichijou ตัวละครที่ผมชอบที่สุดคือฮาร์ปี้ ฮาร์ปี้เป็นสัตว์ในตำนานกรีกที่รูปร่างกายส่วนบนตรงหัวและหน้าอกเป็นมนุษย์ ส่วนท่อนล่างเป็นนก ส่วนแขนเป็นปีก ซึ่งปรากฏในตำนานขนเกาะทองคำ ซึ่งมันชอบก่อกวนมนุษย์และชอบสร้างความน่าขยะแขนงไปทุกๆ ที่มันอยู่ เพราะมันกินทุกอย่างที่ขวางหน้าและทิ้งมูลที่มีกลิ่นเหม็นจนยากจะมีสิ่งมีชีวิตไหนรับได้ (บ้านเราเรียก กินรี)

                    ฮาร์ปี้ที่เรารู้จักเป็นสมุนชั้นต่ำในเกมสวมบทบาททั่วๆ ไป ที่รูปร่างน่าเกลียดน่ากลัว ส่งเสียงร้องเสียงสูง (ส่วนใหญ่ในการ์ตูนฮาร์ปี้มักปรากฏในสภาพคนมีปีกกลางหลังเสียมากกว่า) หากแต่เมื่อจับฮาร์ปี้มาโมเอะ ฮาร์ปี้ก็น่ารักแบบไม่น่าเชื่อ โดยฮาร์ปี้ใน  Monster Musume no Iru Nichijou ได้เปลี่ยนฮาร์ปี้ที่ในภาพลักษณ์สาวน้อยน่ารักแบนๆ (แต่อายุมากกว่าที่เห็น) นิสัยร่าเริง อ่อนต่อโลก ขี้ลืม (สมองนก) และหากเราเอาใจใส่ ฮาร์ปี้จะรักเรามากๆ ทำให้ดูแล้วน่ารัก น่าปกป้องเข้าไปใหญ่

                   ในสายมืด (การ์ตูนโป๊) นั้นไม่มีฮาร์ปี้เป็นตัวเอกสักเท่าไหร่ (คือแทบไม่มีเลย) หากแต่เรื่องคนมีปีกนี้เพียบ โดยมักเรียกนางฟ้ามากกว่า ซึ่งสาวๆ พวกนี้จะมีขนาดใหญ่งอกกลางหลัง (และสามารถบนฟ้าได้ด้วย ชนิดผิดกฎฟิสิกซ์โดยสิ้นชิง) ปีกนั้นสองสีคือสีขาวและสีดำที่สื่อถึงความดีและความชั่วนั้นๆ ซึ่งสายมืดที่แนวคนมีปีกนี้ค่อนข้างเยอะ ในลักษณะแตกต่างกันไป ถ้าถามว่ามันโมเอะตรงไหน อันนี้ก็ตอบยากเหมือนกัน จะว่าชอบของแปลกก็ไม่ได้ น่าจะเรียกว่าจุดโมเอะ คล้ายๆ กรณีนกยูงรำแพงหางมากกว่า อีกทั้งสถานะของสาวมีปีกนั้นมีความเหนือมนุษย์ (นางฟ้า, นักรบ, ฮาร์ปี้, จอมเวทย์) ทำให้ความรักระหว่างมนุษย์ธรรมดา (ส่วนใหญ่สายมืดตัวเอกมักเป็นคนธรรมดาครับ) กับสิ่งที่เหนือมนุษย์ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ซาบซ่าหัวใจเหมือนกัน


                  ที่น่าตกใจที่สุดในการ์ตูน
    Monster Musume no Iru Nichijou มีสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์คน (ตัวหนึ่ง) เป็นสาวเซนทอร์อยู่ด้วย ซึ่งไม่ว่าสายมืดหรือสว่างไม่มีสาวเซนเทอร์ปรากฎตัวเป็นตัวละครหลักมาก่อน เพราะเซนเทอร์นั้นเป็นอมมนุษย์ในนิยายกรีกที่เรารู้จักนั้นจะเห็นแต่เพศชาย (ที่จริงมีเพศหญิงแต่ไม่ปรากฏให้เห็นสักเท่าไหร่ มีร่างส่วนบนเป็นมนุษย์ และส่วนลำตัวเป็นม้าที่กล้ามเนื้อเป็นมัด สง่างาม

    ในการ์ตูนสายมืดนั้นไม่มีสาวเซนทอร์ อาจเป็นเพราะวาดยากหรือไม่นิยม(ของชาวญี่ปุ่น) แต่กระนั้นในสื่อโป๊ แนววิตถารคนกับสัตว์ คนกับม้าค่อนข้างเยอะ (พอๆ กับคนกับสุนัข) อย่างประวัติศาสตร์เองจักพรรดิคาลิกูลา ยังมีเพศสัมพันธ์กับม้า (ม้าตัวผู้ตัวผู้หรือตัวเมียก็ไม่รู้) แสดงให้เห็นว่าบางครั้งจิตใจลึกๆ ของมนุษย์ (บางคน) เองก็โหยหาความต้องการวิตถารและเรื่องผิดศิลธรรม ผิดหลักธรรมชาติการมีเพศสัมพันธ์ก็เป็นไปได้

    และแล้ว Monster Musume no Iru Nichijou ก็ได้เปลี่ยนเซนทอร์กลายเป็นสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์ที่น่ารัก แถมทำดีเสียด้วย จากภาพลักษณ์เซนเทอร์ที่หลายคนรู้จักว่ามีแต่ผู้ชาย นิสัยป่าเถื่อน เจ้าอารมณ์ (ผมก็พึ่งรู้แหละว่ามีเซนเทอร์ผู้หญิง แต่เพราะมีน้อย ทำให้เซนเทอร์ผู้ชายต้องรักพามนุษย์เพศหญิงไปกำเนิดบุตร) ได้เป็นมาเป็น “เซเรีย” สาวน้อยเซเทอร์ซึนเดระนิดๆ ที่กล้าหาญ เลือดร้อน (ตามฉบับเซนเทอร์) หยิ่งในศักดิ์ศรี มีความเป็นอัศวินรักเจ้านายทำให้เรียกความนิยมจากคนอ่านพอสมควร โดยไม่รู้ว่าเซนเทอร์ก็โมเอะเป็น

    Monster Musume no Iru Nichijou น่าจะเป็นคำตอบที่ดีว่า การ์ตูนแนวฮาเร็มสมัยนี้ควรฉีกแนวมากกว่าฮาเร็มเดิมๆ ที่ผ่านมา ที่ส่วนมากเน้นสูตรสำเร็จฮาเร็มตลาดทั่วไป อย่าง ฮาเร็มในโรงเรียน ฮาเร็มในชมรม หรือแฟนตาซีต่อสู้กันอย่างเดียว หากนักเขียนคนใดสามารถหาสูตรฮาเร็มที่มีจุดเด่น  มีความแปลกโดดเด่นก็มีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะสามารถเรียกคนอ่านสนใจเข้ามาอ่านได้

    Monster Musume no Iru Nichijou เป็นฮาเร็มไม่น่าเบื่อ เพราะมีองค์ประกอบหลายๆ อย่างประกอบ ไม่ว่าจะเป็น ความแปลก ประหลาด เอจจิ ตลก ชีวิตประจำวัน และความโรแมนติกน่ารัก แบบน่าอิจจฉาและน่ากลัว (??) ในเวลาเดียวกันแม้จะไม่ตลกมากมาย อ่านแค่หึๆ ในลำคอ แต่ก็สนุกสนาน น่าติดตาม ไม่จำเป็นต้องดำเนินเรื่องซับซ้อนมากมาย  การดำเนินเรื่องจะคล้ายๆ กับฮาเร็มทั่วๆ ไป ที่พระเอกเป็นคนธรรมดาไม่มีจุดเด่น แต่กับเนื้อหอมแบบไม่เน่าเชื่อ เมื่อเขาเป็นที่หมายปองต่อเหล่าสาวๆ  แต่สาวๆ ในที่นี้ไม่ใช่สาวเฟอร์เฟ็คแต่อย่างใด หากแต่เป็นสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์ ที่ช่วงบนเป็นสาวสวยน่ารัก แต่ท่อนล่างนั้นกลับแปลกประหลาดผสมกับความน่ากลัวไม่น้อย

    โดยพื้นฐานของสาวมอนสเตอร์มนุษย์นั้น แม้ว่ารูปร่างน่าเกลียด แต่ลึกๆ สาวมอนสเอตร์เหล่านั้นก็มีจิตใจเฉดเช่นสาวน้อยธรรมดาทั่วๆ ไป แต่เพราะรูปร่างครึ่งหนึ่งที่น่าเกลียดทำให้คนธรรมดาทั่วไปมองพวกเธอเหล่านั้นเป็นสัตว์ประหลาด  ทำให้เธอค่อนข้างหนักใจกับปมด้อยในความไม่สมบูรณ์แบบอันนี้อันนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเธออยู่กับพระเอก ก็พบว่าพระเอกนั้นแตกต่างจากคนธรรมดา และปฏิยัติต่อพวกเธอเหมือนมนุษยฺทั่วไป จนทำให้พวกเธอชอบพระเอก

    พระเอกในการ์ตูนเรื่องนี้ก็เป็นคนดีจริงๆ (พื้นฐานการ์ตูนฮาเร็มพระเอกต้องเป็นคนใจดี) แม้ว่าหน้าตาจะไม่หล่อ อ่อนแอ แต่พระเอกก็ไม่เคยทำให้ผู้หญิงเสียใจหรือร้องไห้ แม้ผู้หญิงคนนั้นครึ่งหนึ่งจะมีความน่าเกลียดก็ตาม แต่พระเอกกลับไม่เคยรู้สึกรังเกลียดเลย แถมมีความรับผิดชอบ เลี้ยงพวกเธอโดยไม่มีบ่น (ตื่นเช้า เติมน้ำลงอาบน้ำ ทำอาหาร จ่ายตลาด) แถมมีภัยอันตรายพระเอกก็ปกป้องพวกเธอไม่คิดชีวิตด้วย (แม้พระเอกอ่อนแอกว่าพวกเธอก็ตาม) แค่นี้พวกเธอก็รักพระเอกแบบสุดขาดใจขาดดิ้นแล้ว

    สุดท้ายพระเอกก็ไม่รังเกียจสาวมอนสเตอร์เหล่านั้น เพราะพระเอกคิดว่ารูปร่างภาคลักษณ์นั้นเป็นเพียงแค่ภายนอก จิตใจของคนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แม้จะต่างวัฒนธรรม ต่างเชื้อชาติ หากแต่สามารถเข้าใจกันและกันก็สามารถอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขไดเ

    สรุปคือ Monster Musume no Iru Nichijou เป็นการ์ตูนฮาเร็มแปลกๆ ที่ลายเส้นสวย ตัวละครสาวๆ ก็น่ารัก มุกตลกก็น่าสนใจ อ่านไปอ่านมา เรารักสาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์อย่างไม่รู้ตัว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×