ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #100 : Majin Tantei Nougami Neuro ฆ่าคนจำเป็นต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ??

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.88K
      9
      26 ม.ค. 54

      

                    ปกติผมไม่ค่อยชอบการ์ตูนของจัมป์(Jump)เท่าใดนัก เพราะว่าการอ่านการ์ตูนของค่ายนี้ทีไรผมมักจะต้องทำใจอยู่เสมอว่า “มันต้องออกทะเล” ไม่ก็ “ตัดจบได้เซ็งจิต”(ผมเชื่อว่าคนที่อ่านบทความนี้ส่วนใหญ่ก็ต้องมีความคิดเหมือนผมไม่มากก็ไม่น้อยเหมือนกัน) แต่กระนั้นในบ้านเรานั้นการ์ตูนของจัมป์นั้นได้รับความนิยมเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น วันพีซ , นารุโตะ,บลีช ,รีบอร์น , นูอิ, กินทามะ, ฮันเตอร์ x ฮันเตอร์ ต่อให้มีหลายคนชื่นชอบ(ภาษาวัยรุ่นเรียกว่า อวย)ให้ แต่สำหรับผมแล้วเซ็งจิต เวลาใครพูดถึงการ์ตูนของจัมป์(ทั้งในเอ็มและในเม้น) ว่าช่วยเขียนถึงให้หน่อย ช่วยดูให้หน่อย ผมมักบ่ายเบี่ยงไปเรื่อยเปื่อย และพยายามเลี่ยงจะพูดถึงเสมอ แต่ต้องทำใจยอมรับเพราะว่าจัมป์หรือโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์เป็นนิตยสารระดับโลก เป็นนิตยสารเก่าของญี่ปุ่นที่ออกมาตั้งแต่ปี 1968 ได้รับความนิยมของญี่ปุ่นที่มียอดขายกว่า 2.8 ล้านเล่ม อุดมไปด้วยการ์ตูนที่ชาวไทยรู้จักดีจึงไม่แปลกที่จะมีคนรู้จักแต่การ์ตูนของค่ายนี้มากกว่าการ์ตูนนอกสายตาอื่นๆ

                    ส่วนตัวผมนั้นตอนนี้ผมอ่านติดตามการ์ตูนของจัมป์ไม่กี่เรื่องเท่านั้นเอง(แน่นอนว่าต้องเป็น To love Ru อันดับแรก) เนื่องจากผมไม่ชอบการ์ตูนพวกแอ็คชั่นบ้าพลังสู้เพื่อหาศัตรูแกร่งไปเรื่อยๆ เท่าไหร่  ผมอยากเห็นการ์ตูนที่เนื้อหาที่ลงตัว จบอย่างลงตัว ไอเดียน่าติดตาม (นอกเหนือจากนั้นก็เป็นรสนิยมของผมด้วยครับ เช่น พระเอกต้องน่ารัก(!!), ตัวละครที่ชอบ(ส่วนมากเป็นตัวร้าย), โมเอะ)

                    การ์ตูนจัมป์ที่ผมอ่านตอนนี้ก็มีจำพวก  Swot (เจ้าแว่นจอมซึน) ซึ่งตอนแรกผมอ่านแล้วน่าติดตามมากแม้ตอนนี้มันจะทำให้ผมเซ็งจิตเป็นที่เรียบร้อย(ใช้สมองดีกว่าใช้พละกำลังในการแก้ปัญหานะครับ)แต่กระนั้นผมก็ยังติดตามอยู่ ต่อมาก็อ่าน Medaka Box (อ่านแค่สามตอนมั้ง เพราะพระเอกเถื่อนไปหน่อย ไม่น่ารัก) ต่อมาก็ Oumagadoki Doubutsuen Series (ยังสนุกอยู่ แต่ปัญหาคือมันจะโดนตัดจบหรือเปล่า เพราะอันดับเรตติ้งไม่ค่อยดีเท่าไหร่) และเรื่องต่อมาคือ Majin Tantei Nougami Neuro การ์ตูนที่ผมจะมานำเสนอในบทความนี้นี่เอง

                    การ์ตูนจัมป์ที่ผมอ่านสามารถอ่านได้ใน http://www.nekopost.net/project.php?content_type=m

     


    Majin Tantei Nougami Neuro

    แอ็คชั่น, สืบสวนสอบสวน(??), ตลก, เหนือธรรมชาติ

    มังงะ http://www.mangafox.com/manga/majin_tantei_nougami_neuro/

    อนิเมชั่น http://www.youtube.com/watch?v=ri9daRsuXR4&feature=related

     

    Majin Tantei Nougami Neuro หรือ “นักสืบปีศาจโนงามิ นิวโร” เป็นการ์ตูนที่เขียนโดย Yusei Matsui(มีอีกผลงานคือ Choutei Rikon เป็นการ์ตูนสั้นลงปี 2009) ลงต่อเนื่องในนิตยสารโซเน็นรายสัปดาห์  Jump ลงตั้งแต่ 2005-2009 มีทั้งหมด 23 เล่มจบ(??) และถูกสร้างเป็นดราม่า CDs(ตอนพิเศษไม่มีในต้นฉบับ) และอนิเมชั่น โดย Madhouse ฉายตั้งแต่ 2 ตุลาคม 2007 ถึง 25 มีนาคม 2008 มี 25 ตอนจบ สำหรับในบ้านเราได้ลิขสิทธิ์โดยสนพ.สยามอินเตอร์คอมิคส์ ซึ่งทำปกได้กวนจริงๆ เพราะมันวาดกลับหัว จนทำให้สับสนทุกครั้งเวลาเปิดอ่านครั้งแรก

    Majin Tantei Nougami Neuro เป็นเรื่องราวของปีศาจตนหนึ่งชื่อ “โนงามิ นิวโร” เป็นปีศาจที่แสนจะแปลกในหมู่ปีศาจทั่วไปเพราะว่าเขากิน “ปริศนา” ซึ่งอยู่ในรูปของพลังงานเมื่อเขาไขปริศนาได้มาเป็นอาหาร และดูเหมือนว่านิวโรจะเป็นปีศาจที่ตระกละกินไม่รู้จักพอจนเขากิน “ปริศนา” ในโลกปีศาจจนไม่มีเหลือ แต่เขาจำเป็นต้องหาปริศนามาเติมเต็มความหิวของเขาอีก ดังนั้นเขาเลยตัดสินใจไปโลกมนุษย์ ที่ซึ่งมีปริศนาที่เป็นอาหารมากมายรอเขาอยู่ แต่กระนั้นด้วยเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นิวโรจำเป็นต้องปิดบังสถานะตัวเองเป็นปีศาจ(เหรอ??) อีกทั้งเขาก็ไม่อยากจะเด่นดังและไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของกฎหมาย เขาเลยต้องหาตัวแทน(หุ่นเชิด??) มาเป็นเกาะกำบัง(และใช้หาผลประโยชน์) โดยคนที่เขาเรียกก็คือคัตซึรางิ ยาโกะ สาวน้อยผู้น่าสงสารที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ เมื่อเธอได้สูญเสียคุณพ่อจากการถูกฆาตกรรมโหดอย่างลึกลับ นิวโรจึงใช้ยาโกะเป็นเครื่องมือ(อีกทั้งยังเป็นกระสอบทรายให้นิวโรเล่นด้วย) โดยเขาจะเป็นคนคอยไขปริศนา และให้ยาโกะ รับบทเป็นนักสืบคอยไขคดี(แค่เอามือชี้ตัวคนที่เป็นฆาตกร) จนเธอได้กลายเป็นนักสืบชื่อดัง จนทำให้นิวโรกินปริศนาจากคดีต่างๆ มากยิ่งขึ้น นอกจากฆาตกรธรรมดา(??) ที่นิวโรกับยาโกะต้องเผชิญแล้วพวกเขาต้องพบกับมนุษย์ที่มีพลังวิเศษเทียบเท่าปีศาจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์คอมพิวเตอร์ มนุษย์ไร้รูปร่าง หรือองค์กรร้าย!! ที่หมายหัวพวกเขาเป็นศัตรูที่ต้องกำจัด เรื่องราวเหล่านี้จะเป็นเช่นไรต่อก็ติดตามอ่านได้เลย

      

    โนงามิ นิวโร (Nogami Neuro) ปีศาจนกจากนรกที่มีพละพลังมหาศาลด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า “777 เครื่องของโลกปีศาจ(ใช้สืบสวน ใช้เป็นอาวุธ และเครื่องทรมาน) กินพลังงานที่ได้จากการไขปริศนา(ที่เกิดจากความประสงค์ร้าย)เป็นอาหารจานโปรด แต่ดูเหมือนว่ากินแล้วไม่รู้จักพอ กินจนปริศนาหมดไปจากโลกปีศาจ ทำให้ต้องขึ้นมายังโลกเพื่อหาอาหาร โดยแปรงร่างเป็นมนุษย์และแกล้งเป็นผู้ช่วยนักสืบเพื่อเชิดยาโกะเป็นนักสืบชื่อดัง  มีนิสัยหยิ่ง ขี้แกล้งและซาดิสต์อย่างรุนแรงและคนที่รับกรรมอันนี้มากที่สุดคือนางเอกยาโกะ(ผมว่าเป็นนางเอกคนแรกของจัมป์ล่ะมั้งที่ถึกและศรีทนได้อย่างสุดๆ แบบนี้) มองมนุษย์เป็นแค่อาหารที่ผลิต “สุดยอดปริศนา” มาให้เขากินเท่านั้น แต่กระนั้นนิวโรก็มีความฉลาด มีความตั้งใจหากคิดจะทำอะไรละก็จะกัดไม่ปล่อยไม่ยอมแพ้ขอให้บรรลุเป้าหมาย และเขาจะมีความเคารพในการตัดสินใจของยาโกะที่มองจิตใจของคนอื่น นอกจากนิวโรจะมีพลังอุปกรณ์ 777 อย่างแล้วเขายังมีความอึดกระสุนธรรมดาไม่สามารถทำอันตรายเขาได้(แต่ถ้าอยู่ในโลกมนุษย์นานเกินไปเขาจะกลายเป็นมนุษย์มากขึ้น) นอกจากนี้เขายังมีพลังเรดาห์สามารถจับคลื่นปริศนาทำให้เขารู้ว่าจะมีที่ไหนเกิดคดีขึ้นแล้วมักไปเสนอหน้าทุกที กลายเป็นว่านิวโรไม่ใด้เปHนตัวซวยเหมือนคินดะอิจิหรือโคนันแต่เขาจงใจปล่อยให้มันเกิดต่างหาก

      

    คาซึรางิ ยาโกะ (Katsuragi Yako) สาวน้อยมัธยมปลายอายุ 16 ปี ที่แสนจะธรรมดา(ตรงไหน??) ที่ชะตาเล่นตลกที่เธอได้พบกับนิวโรปรากฏตัวในขณะที่เธอกำลังซึมเศร้าการจากไปของพ่อ และถูกนิวโรเชิดกลายเป็นหุ่นที่หน้าฉากเป็นนักสืบมัธยมปลายชื่อดังที่ไขปริศนาดังมากมาย(แบบนักสืบโคโกโร่ในโคนัน) แต่ความจริงๆ แล้วเธอไม่เก่งเรื่องสืบสวนสอบสวนเลย อีกทั้งสมองความรู้วิชาการก็เอาตัวไม่ค่อยรอด แต่กระนั้นสิ่งที่เธอเก่งที่สุดคือ “จิตวิทยามนุษย์(ที่ซึ่งนิวโรไม่มี)” นอกจากนี้เธอยังมีสถานะร่างกายที่อึดถึกมากสามารถทนต่อการกลั่นแกล้งของนิวโรได้สารพัด(ไม่ว่าจะโดนนิวโรตบ โดนถีบ โดนหักคอยังไม่ตายเลยคิดดู) สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์รวดเร็วและข่มตนเองให้สงบได้(โหยปีศาจก็เห็นมาแล้ว แค่ศพ แค่ฆาตกรทำไมฉันจะต้องกลัวฟ่ะ) ความสามารถพิเศษคือท้องกระเพาะอาหารที่เป็นหลุมดำ เธอสามารถเขมือบกินทุกอย่างที่ขวางหน้าของให้เป็นอาหารได้อย่างไม่อั้น(ทำให้ได้รับฉายาคือ นักสืบจอมตะกละ)

      

    โกได ชิโนบุ (Godai Shinobu) แต่เดิมทำงานเป็นพนักงานสำนักงานสถาบันการเงินซาโอโตเมะ(ธุรกิจปล่อยกู้ของยากูซ่าที่ผิดกฎหมาย) หลังจากที่นิวโรยึดสำนักงานโดยแลกกับไขปริศนาคดีฆาตกรรมเจ้านายเดิมของโกได เขาเลยกลายเป็นคนตกงาน ทำงานพิเศษไปวันๆ จนกระทั้งนิวโรได้ลากเขามาเป็นเบ๊หมายเลข 2 ที่ใช้เฝ้าสำนักงาน ต่อมาก็ให้ย้ายงานเป็นผู้ช่วยในสำนักงานนักสืบใหญ่(ที่ถูกนิวโรยึดมาอีกแหละ) แม้ภายนอกจะเป็นคนเลือดร้อน ชอบใช้กำลัง และมักพูดเสียงดัง แต่เขาเป็นคนเจ้าระเบียบ มีความรับผิดชอบ เชื่อถือได้ และเขาเป็นบุคคลที่โดนนิวโรแกล้งพอๆ กับยาโกะ โดยบาดแผลทางใจคือรถยนต์สุดหรูสุดที่รักของเขาโดนนิวโรเอาไปพังในพริบตา

      

    อากาเนะ(Akane) ศพที่ถูกโปกอยู่ในผนังสำนักงานการเงินซาโอโตเมะที่นิวโรยึดมา ที่ได้รับไอโลกปีศาจของนิวโรจนมีชีวิตขึ้น โดยมักปรากฏแต่เพียงผมเปียที่สามารถเคลื่อนย้ายไปทุกสถานที่(ไม่ว่าจะเป็นภายในสำนักงาน หรือแบตมือถือ) แม้พูดไม่ได้แต่ก็เก่งเรื่องคำนวณและอะไรหลายๆ อย่าง นิวโรเลยจ้างเธอเป็นเลขานุการ(โดยให้ยาโกะดูแลผมเธอเป็นการแลกเปลี่ยน) นอกจากนี้เธอยังมีความสามารถควบคุมเส้นผมตนเองให้ยาวและมีชีวิตได้ และยังสามารถรวมกับเส้นผมของยาโกะได้อีก

        

    ซาซาคึสะ เอจิ (Sasatsuka Eishi) เจ้าหน้าที่กรมตำรวจแผนกสืบสวนที่ 1 เขาเป็นหนึ่งในสองเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับมอบหมายในการแก้ปริศนาการตายในห้องปิดตายของพ่อยาโกะ หลักจากนิวโรไขปริศนาคดีนี้แล้ว เขาก็กลายเป็นพันธมิตรที่เข็มแข็งของยาโกะ  ที่นิวโรมักใช้ประโยชน์จากเขาเสมอเวลาที่คดีนิวโรสืบนั้นเขาเป็นผู้รับผิดชอบ เขามักทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เมื่อนิวโรและยาโกะมายุ่งกับที่เกิดเหตุ(ประชดมุกเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นแหละหลวมปล่อยให้คนนอกเข้ามาในที่เกิดเหตุ) นิสัยภายนอกเป็นคนเย็นชา ไม่ค่อยกระตือรือร้นและไม่ค่อยสนใจบรรยากาศรอบข้าง แต่มีทักษะยิงปืนยอดเยี่ยม นอกจากนี้เขายังมีอดีตที่เป็นบาดแผลทางใจคือครอบครัวของเขาถูกฆ่าโหดโดยฝีมือของฆาตกรปริศนา(ที่คาดว่าจะเป็นจอมโจร X ไซ)ทำให้เขามีความแค้นกับจอมโจรXไซอย่างลึกๆ

     

    อิชิงาคิ จุน (Ishigaki Jun) เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มที่เป็นลูกน้องของซาซาสึกะ หลังจากนิวโรไขปริศนาการเสียชีวิตของพ่อยาโกะ ดูเหมือนเขาจะเป็นเด็กหนุ่มที่อ่อนหัด ไม่ค่อยมีศักดิ์ศรีเท่าไหร่ ชอบกวนประสาทยาโกะและชอบซื้อพวกของเล่นและโมเดลมากมายมาอวดให้ซาซาสึกะดู(แล้วก็โดนซาซาสึกะทำลายทุกที)  รู้สึกว่าคนทั้งกรมจะเหม็นขี้หน้าหมอนี้มากๆ(เป็นตัวฮ่าของเรื่องพอๆ กับยาโกะ)

     

    อายะ เอเชีย(Aya Asia) เป็นไอดอลระดับโลกที่เป็นลูกค้ารายแรกของสำนักงานนักสืบนิวโรที่จ้างยาโกะและนิวโรไขปริศนาการฆ่าตัวตายผู้จัดการของเธอสองรายซ้อน แต่ความจริงแล้วเธอนั้นแหละที่เป็นคนฆ่าผู้จัดการสองรายนั้นแหละ(ส่วนเหตุผลที่ฆ่านี้สุดๆ ทั้งโหดทั้งเศร้า) สุดท้ายนิวโรและยาโกะก็เปิดเผยตัวว่าเธอเป็นฆาตกรต่อหน้าถ่ายทอดสดในโทรทัศน์ ส่งผลทำให้ยาโกะโด่งดังไปทั่วประเทศ และเป็นคดีเปิดตัวทักษะจิตวิทยาของยาโกะด้วย เธอมีความสามารถพิเศษคือสามารถร้องเพลงที่ส่งผลต่อระบบสมองของมนุษย์และความสามารถนี้ยังพัฒนาเมื่ออยู่ในคุกด้วย แต่หลังจากที่เธอถูกจับขังคุกแล้วบทบาทของเธอก็ยังไม่ได้หายไปไหน เพราะเธอมักโผล่ประจำในฐานะที่ปรึกษาให้คำแนะนำแก่ยาโกะเวลามีปัญหาอะไร นอกจากนี้เธอยังมีความสัมพันธ์กับผู้ดูแลในคุกแบบเพื่อนสนิทกันเลยทีเดียว(น่ารักดีนะ เธอคนนี้)

     

    จอมโจร X ไซ (X) หรือ Phantom Thief X โดยชื่อนี้มาจาก 'Kaibutsu Goutou XI'(หรือ Monster robber X.I: X หมายถึงความไม่รู้ I หมายถึงมองตาเปล่าไม่เห็นX) เป็นจอมโจร(??)ลึกลับที่มีความแข็งแกร่งมากทั้งความเร็วและความสามารถ โดยสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างของเซลล์ในร่างกายของเขาเองทำให้สามารถเปลี่ยนร่างเป็นคนหรือสัตว์ เพศหญิงเพศชายได้โดยจำกัด เขามีเป้าหมายชีวิตก็คือการอยากรู้ชาติกำเนิดตนเองว่าเขาเป็นตัวอะไรกันแน่ ดังนั้นเขาเลยฆ่าคนเพื่อเพื่อศึกษาอวัยวะภายในเรื่อยมา(โดยขโมยของเป็นของแถม)และยัดศพเข้าในกล่องโปร่งใส จนกระทั้งเขาได้มาพบนิวโรและได้รู้ว่านิวโรเป็นปีศาจเขาเลยเปลี่ยนเป้าหมายหันมาฆ่านิวโรแทนเพื่อศึกษาอวัยวะภายใน แต่ว่าเขาก็ล้มเหลวเพราะนิวโรเก่งกว่าเขามาก ทำให้เขาหาวิธีจ้องหาวิธีฆ่านิวโรเรื่อยมา(ปล. ประวัติความเป็นมาของตัวละครนี้แตกต่างกันครับในมังงะและในอนิเมชั่น)

     

    มนุษย์ไฟฟ้า HAL(HAL) เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่สร้างขึ้นโดยศาสตราจารย์ ฮารุคาวะ เอสึเกะโดยคัดลอกจากคลื่นสมองของเขา โดยมีวัตถุประสงค์อย่างหนึ่ง(ที่แสนจะซึ้งมากๆ) โดยมีความสามารถเคลื่อนไหวในโลกดิจิตอลและอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างอิสระ มีความสามารถสามารถส่งคลื่นไฟฟ้ายาเสพติดล้างสมองให้คนดีกลายเป็นคนเลว และสามารถควบคุมได้ หลังจากที่ฆ่าฮารุคาวะ แล้วเขาก็มีความคิดที่จะกำจัดนิวโร และเขาไม่ได้เห็นยาโกะอยู่ในสายตา(อีกคน) ส่งผลเกิดหายนะกับเขาในอนาคตตามมา หลังจากเขาถูกลบจากระบบไปแล้ว ก็ยังมีข้อมูลคัดลอกมาคือ HAL II ที่เป้าหมายแตกต่างจาก HAL ตัวแม่ และเขาก็ถูกจอมโจร X ไซดูดความสามารถจนกลายเป็นพลังของตนเองเพื่อกำจัดนิวโร(ขนาดตัวแม่ยังสู้นิวโรไม่ได้ ตัวลูกจะเหลือเรอะ)

    ก่อนอื่นใครคิดว่า Majin Tantei Nougami Neuro เหมือนคินดะอิจิและโคนันละก็ ขอให้เลิกคิดไปเลยนะครับ ขึ้นชื่อว่า “จัมป์” แล้วแน่นอนสิ่งที่มีมากที่สุดคือฉากแอ็คชั่นนั่นเอง หากคิดเปอร์เซ็นต์ละก็ 20 เปอร์เซ็นต์จะเป็นฉากสืบสวนสอบสวน และอีก 80 เปอร์เซ็นต์เป็นแอ็คชั่นซะเป็นส่วนใหญ่ในหนึ่งเล่ม แต่ที่น่าสนใจคือเทคนิคการสืบสวนของนิวโรนั้นรวดเร็วว่องไวในการไขปริศนามาก เพราะแต่ละคดีพี่แกจะใช้พลังจาก 777 อุปกรณ์ของโลกปีศาจในการไขคดี ซึ่งแต่ละเครื่องมือใช้ประโยชน์แตกต่างกันออกไป แต่ที่น่าสนใจคือการออกแบบนี้เด่นสุดๆ จนหลายคนชอบในฉากนี้และลุ้นว่าตอนต่อไปนิวโรจะเอาอุปกรณ์จากโลกปีศาจแบบไหนมาเล่นบ้าง

     
             ปริศนาส่วนใหญ่ใน
    Majin Tantei Nougami Neuro ส่วนใหญ่จะเป็นคดีกิ๊กก๊อกไม่ได้อลังการงานสร้างบ้าพลังแบบโคนันหรือคินดะอิจิ แต่กระนั้นจะว่าง่ายก็ง่ายจะยากก็ยาก เพราะบางคดีหากเอาข้อมูลและคำใบ้ประกอบกันคุณก็สามารถไขคดีนั้นๆ ได้อย่างสบาย โดยไม่จำเป็นต้องคิดวิเคราะห์ให้ลึกซึ้งเหมือนการ์ตูนนักสืบทั่วไป แต่สาเหตุที่ยากคือการ์ตูนเรื่องนี้ได้ละเลยระเบียบที่จำเป็นของ “นิยายนักสืบ” ไป ก็คือ “การเปิดเผยหลักฐานให้หมด” ซึ่งการ์ตูนได้ละเลยจุดนี้ คือไม่ยอมบอกว่าสิ่งที่นิวโรและยาโกะสืบสวนนั้นอะไรเป็นข้อมูลสำคัญไม่สำคัญ มีหลักฐานอะไรบ้าง มีคำใบ้อะไรบ้าง  หลักฐานบางชิ้นก็ไม่พูดถึงซึ่งผู้อ่านจะต้องสังเกตกันเอง เช่น ในเล่มแรก คดีที่ 2 เกิดคดีฆาตกรรมในห้องปิดตายพ่อของยาโกะ ที่นิวโรทำการตรวจสอบห้องพร้อมคุยกับยาโกะไปด้วย นิวโรได้หยิบไม้บรรทัดแล้ววางกลับ ฉากนี้ดูเหมือนไม่มีอะไร และนิวโรก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับข้อมูลไม้บรรทัดดังกล่าวว่าสำคัญกับคดีนี้ขนาดไหน อีกทั้งฉากเหมือนไม่ใช้จุดสำคัญของการสอบสวนเพราะระหว่างที่นิวโรตรวจสอบห้องอยู่นั้นเขาหันมาพูดกับยาโกะไปด้วย และเมื่อแกล้งยาโกะเสร็จแล้ว นิวโรก็กลับไปค้นหาอะไรบางอย่างบนโต๊ะและบนพื้น ในช่วงนั้นที่ช่องหนึ่งที่พื้นเหมือนอะไรสักอย่างตกอยู่ ซึ่งร้อยทั้งร้อยผมเชื่อว่าคนอ่านแทบไม่สนใจกับฉากเหล่านี้เลย แต่เมื่อเฉลยออกแล้วกลับต้องอึ้งเพราะว่าฉากดังกล่าวนั้นส่งผลต่อการเฉลยคดีดังกล่าว เพราะว่าไม้บรรทัดดังกล่าวคืออุปกรณ์สร้างห้องปิดตาย และสิ่งที่ตกเป็นพื้น(แทบไม่สังเกตเลย)ที่นิวโรเจอนั้นคือคอนแทคเลนส์ที่มัดตัวคนร้ายทำตกในที่เกิดเหตุนั่นเอง(แต่ผมดูแล้วเหมือนพื้นเป็นรูเสียมากกว่า)

    อีกสิ่งที่ทำให้การ์ตูนนี้ยากคือหลักฐานบางชิ้นเหมือนไม่ใช้ของสำคัญ และไม่สามารถระบุได้ว่ามันคืออะไรกันแน่ เพราะการ์ตูนได้อมภูมิข้อมูลนี้ไปไม่เปิดเผย เช่นนิวโรพบอะไรบางอย่างเป็นน้ำๆ ในสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งนิวโรไม่ได้บอกอะไรเลยว่ามันคืออะไรจนเฉลยเท่านั้นแหละว่ามันคือ “กาว” ดังนั้นเราต้องเดาเอาเองว่าสารที่นิวโรพบมันคืออะไรและมีผลต่อคดียังไงด้วย

    ส่วนหลักฐานมัดตัวคนร้ายนั้นนิวโรจะใช้เหตุผลจิตวิทยาต้อนคนร้ายมากกว่าจะใช้หลักฐานที่จับต้องได้มาใช้ เช่น นิวโรซักไซ้ไล่เรียงข้อสันนิษฐานเพื่อให้คนร้ายเถียงไม่ออก พูดง่ายๆ เหมือนกรณีคนร้ายของโคนันที่คนร้ายเจอคำถามที่โต้ตอบไม่ได้ก็ยอมรับสารภาพทันที ทั้งๆ ที่หากคนร้ายเหล่านี้ขึ้นชั้นศาลบางทีอาจมีสิทธิเอาตัวรอดได้แท้ๆ

      

    แต่สิ่งที่สนุกที่สุดของการ์ตูนเรื่องนี้ก็คือตัวผู้ร้ายนั่นแหละ ที่แต่ละตัวนี้แสดงออกมาอย่างโดดเด่นมาก เมื่อพวกเขาถูกเปิดโปง ถูกกระชากหน้ากากออกมา จากคนธรรมดาที่ดูแล้วไม่มีพิษมีภัย กลับกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่สีหน้าโฉดชั่ว น่ากลัว เสมือนบอกว่าในสังคมเรานั้นมีเรื่องปกติที่มีคนชั่วและคนดีปะปน คนชั่วนั้นหากมีกิเลส ตัณหา โลภ ริษยา ผลักดันละก็คนชั่วเหล่านั้นจะกลายเป็นฆาตกรทันที ในการ์ตูนเรื่องนี้ได้แบ่งฆาตกรเอาไว้สองประเภท คือฆาตกรรายแรกคือฆาตกรที่ฆ่าคนเพื่อผลประโยชน์ ที่บางครั้งผลประโยชน์ที่ได้รับนั้นไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเลย มันก็คือกิเลสความต้องการของตนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากมีใครมาขัดขวาง หรือยุ่งย่ามกับตน ตนก็พร้อมที่จะฆ่าบุคคลที่ขัดขวางเหล่านั้นอย่างโหดเหี้ยมโดยไม่สนผิดชอบชั่วดี แม้คนที่ตนฆ่านั้นจะเป็นคนในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานก็ตาม

    ฆาตกรประเภทที่องที่นิวโรและยาโกะเจอนั้นอันตรายกว่าฆาตกรรายแรกมาก คือฆาตกรที่ฆ่าคนโดยปราศจากแรงจูงใจ โดยพวกเขาฆ่าคนเหล่านั้นทั้งที่ไม่มีความแค้น ฆ่าคนเพียงเหตุผลเล็กน้อยและไม่มีเหตุผล ฆ่าคนโดยไม่สนว่าตนจะได้รับผิดประโยชน์หรือเปล่า ไม่สนเลยว่าคนที่ตายไปนั้นมีครอบครัวหรือเป็นคนดีมีประโยชน์มากแค่ไหน ขอให้ตนมีความสุขที่ได้ฆ่าก็ขอให้พอใจแล้ว แต่การฆ่าธรรมดาแบบเอาปืนยิงแล้วจบนั้นมันง่ายไป พวกเขาจึงจำเป็นต้อง “ปริศนาคอยปกปิดการกระทำและเหตุจูงใจของเขา เพื่อไม่ให้มีใครสงสัย บุคคลเหล่านี้ในโลกแห่งความจริงถือว่าเป็นบุคคลอันตรายมาก เพราะพวกเขามีแนวโน้นที่จะฆ่าคนไม่สิ้นสุดโดยไม่ถูกจับ อีกทังฆ่าแล้วยังอำพรางคดีไม่ให้ใครสาวตัวไปถึงตัวฆาตกรโดยตัวอย่างฆาตกรในโลกแห่งความจริงที่ฆ่าคนโดยปราศจากแรงจูงใจและอำพรางคดีนี้ก็มีมากมาย เช่น

    -เบเวอรี่ เอลลิทท์ (Beverly Allitt ค.ศ. 1968-??) หรือฉายานางฟ้าแห่งความตายฆาตกรต่อเนื่องที่ชาวอังกฤษที่อีตทำงานเป็นนางพยาบาลดูแลเด็ก และถูกจับในข้อหาฆาตกรรมเด็ก 4 คน และทำให้บาดเจ็บสาหัสอีก 5 คน(ที่จริงมากกว่านั้น) โดยการฉีดสารอินซูลินหรือโพแทสเซียมที่ใช้เพื่อเร่งการทำงานของหัวใจมากเกินไป จนเด็กตายอย่างทรมาน ส่วนแรงจูงใจไม่มีใครอธิบายว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ หากแต่เธอระบุว่าตนมีอาการโรคประสาท(ที่เธอตั้งขึ้นมาเอง)

    -แกรี ลีออง ริดจ์เวย์ (Gary Ridgeway 1949-?? )  ช่างทาสีรถบรรทุกเมืองซิแอตเทิลและทาโคน่า รัฐวอชิงตัน วัย 54 ปี ฆาตกรโรคจิตเจ้าของฉายา นักฆ่าลุ่มแม่น้ำเขียวยอมรับว่าสังหารสตรี มากกว่า 50 ศพ ซึ่งตำรวจเชื่อว่าน่าจะสังหารมากกว่านั้น โดยสาเหตุที่เขาฆ่าก็คือเขาเกลียดโสเภณี

    -กิลส์ เดอ เรยส์ (Gilles de Rais, 1404-1440) อดีตคนสนิทของ โจน ออฟ อาร์ค วีรสตรีซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดของฝรั่งเศส หลังจากแจนน์ ดาร์คก็ถูกทหารฝ่ายศัตรูจับ และถูกเผา ทั้งเป็นในฐานะแม่มดเมื่อปี 1431 กิลส์ก็เริ่มบ้า และเชื่อว่าเลือดคนสามารถเล่นแร่แปรธาตุเป็นทองคำได้ ทำให้เขาริเริ่มทำการรวบรวมเด็กชาย จากที่ต่างๆมาเพื่อเป็นเครื่อง สังเวยให้กับปีศาจโดยเด็กบางคนถูกผ่าท้องแล้วทึ้งไส้ออกมา บ่อยครั้งที่กิลส์ข่มขืนศพของเด็กที่เสียชีวิตแล้ว เขาสะสมศีรษะของเด็ก หนุ่มจำนวนมาก และศีรษะที่หน้าตาดีจะถูกเรียงไว้เหนือเตาผิงเหมือนเป็นคอลเลคชั่นพิเศษ มีการพบศพของเด็กจำนวนกว่า 150 ศพ (ส่วนใหญ่ไม่มีศีรษะ) ในปราสาท ว่ากันว่าเหยื่อของเขาน่าจะมีมากกว่า 1500 ราย

    -แมรี่ เบล(Mary Bell 1957-??) เด็กหญิงอายุ 11 ปีที่ที่ย่านนิวคาสเซิล ทางตอนเหนือของอังกฤษ  ก่อเหตุฆ่าเด็กสองคนอย่างโหดเหี้ยม ด้วยสาเหตุทำไปเพราะความสนุก

    จะเห็นได้ว่าฆาตกรเหล่านี้มีทุกยุคทุกสมัย มีทุกวัย ทุกเพศ ที่พวกเขาจะฆ่าคนทั้งที่ไม่มีความแค้นต่อกัน Majin Tantei Nougami Neuro พยายามส่งเสริมให้ฆาตกรจำพวกนี้เสมือนปีศาจร้ายที่น่ากลัวกว่านิวโร เมื่อพวกเขากระทำความชั่วลงไป กระทำมันซ้ำๆ โดยไม่รู้สำนึก พวกเขาก็กระทำมันอีกเสมือนสารเสพติดที่ไม่ทำจะไม่สบายใจ จนกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง แต่พอถูกใครบางคนได้เปิดโปงความชั่วร้ายของเขาออกมา แทนที่จะกลับตัวกลับใจ หรือเสียใจในสิ่งที่ตนกระทำ แต่กลายเป็นว่า พวกเขากลับไม่รู้สำนึกสิ่งที่ทำลงไปเลยแม้แต่น้อย กลับกันพวกเขากลับบ้ายิ่งกว่าเดิม และพยายามก่อกรรมทำเข็นเพิ่มขึ้นไปอีก

    ฆาตกรที่ผมชอบในการ์ตูนเรื่องนี้คือ “มือระเบิดฮัสทีเรีย” ในเล่ม 3-4 ตัวตนของฆาตกรตัวนี้ผมว่ามีมิติกว่าจอมโจร X ไซเสียอีก จากภายนอกเป็นแม่บ้านที่สุดแสนจะธรรมดาและแสดงท่าทางเหมือน แต่เมื่อนิวโรเปิดเผยแล้ว เธอรั่วฮ่ามากๆ และเหตุผลที่ก่ออาชญากรรมก็บ้ามาก แม้ฆาตกรคนนี้จะมีชีวิตที่สงบสุข ครอบครัวอบอุ่น แต่ว่าหากมันธรรมดาจนน่าเบื่อเกินไป เมื่อเก็บกดมากไปก็อยากระเบิดออกเพื่อให้สังคมเดือดพล่าน ดูแล้วสะใจพระเดชพระคุณเหลือเกินแตกต่างจากฆาตกรในโคนัน คินดะอิจิที่ผู้ร้ายเวลาฆ่าคนนี้มักอ้างเหตุผลเรียกน้ำตาเสียทุกครั้ง แต่ฆาตกรในนิวโรนี้ชั่วก็ชั่วสุดๆ บ้าก็บ้าสุด ๆ เลยดูแล้วสมจริงสมจังและทันสมัยเป็นอย่างมาก

     
              สิ่งการ์ตูนเรื่องนี้ได้รักษากฎของนักสืบหนึ่งอย่าง คือเมื่อเรื่องเลวร้ายทุกอย่างผ่านพ้น เรื่องดีๆ ก็ตามมา สิ่งเหล่านี้มีอยู่ในนิยายนักสืบเกือบทุกเรื่อง คือในตอนแรกก่อนที่จะเกิดคดีฆาตกรรม สภาพแวดล้อมสังคมที่เป็นฉากดำเนินเรื่องในตอนนั้นอยู่ในสภาพไม่สู้ดี บรรยากาศตรึงเครียด ตัวละคร(ผู้ต้องสงสัย)ไม่น่าไว้ใจ บางคนมีสภาพจิตใจไม่ปกติ จนบางคนนางเอกถึงกับเอ่ยคำพูดว่า “เหมือนสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งไม่ใช้คน” เช่น กาฝากครอบครัว พวกตามติด ยากูซ่า ฯลฯ ทั้งๆ ที่ตอนแรกนางเอกยาโกะไม่ได้เจอคนพวกนี้แท้ๆ แต่เมื่อยาโกะได้เป็นนักสืบ ถูกนิวโรลากตัวในสถานที่จะเกิดเหตุฆาตกรรม ถึงได้รู้ว่าบุคคลเหล่านี้อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด และเมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมและไขคดีได้ สภาพสังคมนั้นก็กลับคืนสู่ปกติ ความสิ้นหวังได้สลายผ่านพ้นไป ความหวังใหม่ได้เข้ามาแทนที่ นี้คือฉากจบมาตราฐานนิยายนักสืบ   

                    ในการ์ตูนเรื่องนี้ผมชอบฆาตกรที่เป็นคนธรรมดามากกว่าฆาตกรที่เป็นพลังวิเศษตัวหลักๆ แบบจอมโจร X ไซ ผมว่าการ์ตูน(นิยาย)นักสืบสนุกนี้คือการตีแผ่ด้านมืดของมนุษย์จิตวิทยามากกว่าจะเน้นการต่อสู้นักสืบกับอาชญากรอัจฉริยะมากกว่า แต่เนื้อหาหลักของนิวโรนั้นส่วนใหญ่เน้นแอ็คชั่นที่สู้กับพวกเหนือมนุษย์ อย่างเช่นเนื้อหาหลักมนุษย์ไฟฟ้า HAL ที่เน้นต่อสู้เน้นแอ็คชั่นมากกว่าจะใช้สมองหักเหลี่ยมเหมือนเดธโน๊ตซึ่งตรงนี้ผมว่าน่าเสียดายมาก ผมดูไปเหนื่อยใจไป เพราะเนื้อหาไม่ได้แตกต่างอะไรจากการ์ตูนแอ็คชั่นทั่วๆ ไปเลยเพราะสู้กันลูกเดียว แถมลากมาหลายเล่มกว่าจะจบอีก ใครจะชมว่าสุดยอดหรืออะไรก็เถอะแต่ผมเซ็งลูกเดียว สิ่งเหล่านี้ทำให้การ์ตูน Majin Tantei Nougami Neuro ไม่ใช้การ์ตูนแนวสอบสวนสืบสวนจ๋าแบบโคนัน คินดะอิจิ ไม่มีสถานการณ์โลกปิดตาย ไม่มีปริศนาที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน สิ่งเหล่านี้ไม่มีในการ์ตูนเรื่องนี้แน่นอน หรือหักเหลี่ยมเฉือนคมด้วยสมองแบบเดธโน๊ต

    นอกจากนี้การ์ตูนนี้ไม่มีฉากเน้นความสัมพันธ์ตัวละครที่ดราม่าจำพวกกอดจูบดราม่าลึกซึ้ง หรือบรรยากาศมืดมนน่าสะพรึงกลัว เพราะสิ่งเหล่านี้จะถูกกลบด้วยมุกตลกหรือภาพล้อเลียนที่สอดแทรกเข้าไปในช่องแต่ละช่อง ขนาดฉากคนถูกฆาตกรรมผมทั้งขำและฮ่าเพราะการตายของเหยื่อแต่ละคนนี้ช่างเวอร์และชวนหัวเสียยิ่งกระไร เพราะสีหน้าของเหยื่อนี้เรียกได้ว่าแสดงได้คุ้มค่าตัวสุดๆ ชนิดว่าจ้างมา 500 แต่เล่น 1000 บาท และมุกตลกนี้ถือได้ว่าเป็นจุดแข็งของการ์ตูนเรื่องนี้ เพราะมุกแต่ละมุกนี้ฮ่ามากมาย  โดยเฉพาะฉากที่หลายคนชื่นชอบอย่างมุกแถมยาโกะโดนพระเอกนิวโiแกล้ง ก็ยังกับนางเอกในการ์ตูนผู้หญิงเลย(แต่สิ่งที่ไม่มีคือเธอไม่มีแฟน ฮ่าๆ)

    สิ่งที่ผมชอบการ์ตูนเรื่องนี้อีกอย่างหนึ่ง คือนางเอกยาโกะที่น่ารักมากๆ แถมบทบาทนี้มีทั้งเศร้า รั่ว ดราม่า แม้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้ยาโกะจะไม่มีใครมารัก หรือมีฉากโรแมนติกอะไร (ช่างเป็นนางเอกที่น่าสงสารจริงๆ) แต่ก็มีมุมน่ารักเหมือนกันเกี่ยวกับยาโกะและนิวโร ในฐานะคู่หูซึ่ง ไอเดียการ์ตูนนี้ดูแล้วแปลกใหม่น่าสนุกอยู่เหมือนกัน เกี่ยวกับความสัมพันธ์มนุษย์และปีศาจ โดยกำหนดให้นิวโรเป็นปีศาจที่มีพละกำลังอำนาจมาก ที่ตัวเขาสามารถช้ำพลังอำนาจนี้ปกครองโลกอย่างง่ายดาย หากแต่เขาไม่ทำเพราะเขาไม่สนใจเรื่องแบบนี้ อีกทั้งหากทำเขาคงอดกินปริศนา ซึ่งเป็นอาหารที่เขาชื่นชอบเป็นแน่แท้(อีกทั้งคนที่รู้ว่าเขาเป็นปีศาจ อาจท้าทายอำนาจของเขาเหมือนกรณีจอมโจร X ไซ) ดังนั้นนิวโรจึงยอมที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ปั้น(หรือบังคับ) นางเอก(??) ยาโกะที่แทบไม่ได้เก่งกาจอะไรเลย มาเป็นนักสืบชื่อดังแทน ในขณะที่นิวโรอธิบายทริกและต้อนฆาตกรเกือบทั้งหมดแต่เขาก็ยกผลประโยชน์นี้ให้ยาโกะแต่เพียงผู้เดียว ส่งผลทำให้ชื่อของยาโกะนั้นโด่งดังอย่างรวดเร็วในฐานะนักสืบชื่อดังเสมือนหนึ่งตาลุงจอมหลับในโคนันไม่ปาน แต่ในกรณีของยาโกะนั้นไม่ได้หลงยศหลงชื่อเสียงหรืออวดเก่งแต่อย่างใด เธอได้ตระหนักถึงความอ่อนด้อยของตน ว่าเธอเป็นแค่หุ่นเชิดของนิวโรที่ไม่ได้ทำประโยชน์ใดๆ เลย หากแต่เธอต้องการที่จะทำประโยชน์ให้แก่นิวโรให้ได้เพื่อไม่ให้หลายคนดูถูก และอยากให้นิวโรชมและเห็นเธอเป็นประโยชน์บ้าง

    อีกหนึ่งที่ชอบคือการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ทิ้งตัวละครครับ หากเป็นพวกโคนัน คินดะอิจินี้ พวกฆาตกร พวกตัวละคร(ที่เป็นผู้ต้องสงสัย) ที่จบบทแล้วก็จบเลยไม่กลับมาทำอีก แต่นิวโรนี้ตัวละคร(ทั้งฆาตกรและผู้ต้องสงสัย)หลายตัวที่เอากลับมาเล่นใหม่ อย่างอายะ เอเชียนี้ใครจะคิดล่ะว่าบทบาทของเธอจะสำคัญในอนาคต หนึ่งในนั้นคือบทบาทสอนสั่งนางเอกยาโกะว่าคนเรานั้นไม่ได้เก่งไปทั้งหมด อย่างนิวโรแม้ว่าดูภายนอกจะเก่งไปทุกด้านไม่ว่าเป็นพลังและสมองหากแต่จุดอ่อนเขาก็คือมีนิสัยเย็นชามากเกินไป ไม่สามารถมองจิตใจมนุษย์ออกได้ ดังนั้นเขาจึงต้องเสริมจุดแข็งนี้โดยการหาใครสักคนมาช่วยเหลือ นั้นก็คือยาโกะที่มีสามารถมองจิตใจของมนุษย์ได้เก่ง แม้ว่าบางครั้งที่ยาโกะจะมองจิตใจใครบางคนไม่ออกบ้าง แต่นั้นคือความผิดพลาดมนุษย์ที่ควรมี และความผิดพลาดอันนั้นจะเป็นตัวพัฒนาและปรับปรุงมาใช้ในอนาคตข้างหน้า


            ในแง่ของลายเส้นดูแล้วอาจขัดๆ เกิน ส่วนในอนิเมชั่นนั้นได้รับคำติมากกว่าคำชม(แต่ผมดูแล้วสนุกใช้ได้) โดยเขาได้ให้ความเห็นกับอนิเมชั่นว่าเป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่พยายามนำสิ่งใหม่ๆ มาใช้ แต่กลายเป็นว่าสิ่งใหม่เหล่านั้นไม่สามารถสร้างศักยภาพให้แก่ผู้ดูได้ อย่างเช่นคดีใหม่ที่ไม่มีในมังงะที่กลอุบายแสนง่ายเหลือเกิน

    ถ้าข้อมูลของผมไม่ผิดล่ะก็ตอนนี้ Majin Tantei Nougami Neuro มีภาค 2 เรียบร้อย เป็นตอนที่ผ่านไป 3 ปี ที่ยาโกะโตเป็นสาวแล้วโดนนิวโรลาก(บังคับ)ให้เป็นนักสืบเหมือนเดิม และปริศนาอะไรหลายอย่างก็ยังไม่ไขอย่างอดีตของอากาเนะ การกลับมาของอายะ เอเชีย ฯลฯ และนิสัยยาโกะก็ยังเหมือนเดิม(เพราะว่าหลายคนการ์ตูนเรื่องนี้ก็เพราะเธอนั้นแหละ) แม้โตเป็นสาวแล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร(โดนนิวโรแกล้งเหมือนเดิม) เพราะว่าปกติการ์ตูนเรื่องนี้ก็ไม่ได้ดำเนินเรื่องในโรงเรียนอยู่แล้ว อีกทั้งตัวละครภาคแรกก็ไม่มีตัวละครที่เป็นนักเรียนเท่าไหร่ ดังนั้นอารมณ์การ์ตูนเรื่องนี้ยังเหมือนเดิม

    สรุป Majin Tantei Nougami Neuro อาจไม่ใช่การ์ตูนที่ประสบความสำเร็จของจัมป์ แต่ก็เป็นการ์ตูนที่ทำให้คุณอาจแล้วว่างไม่ลงได้เหมือนกัน เพราะมันทำให้คุณตื่นเต้น กริ๊ด หัวเราะได้ในเวลาเดียวกัน และจงระหวังอย่าให้คนรอบข้างมองหน้าคุณแบบแปลกๆ ล่ะ เดี่ยวจะหาว่าไม่เตือน

      + +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×