คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #240 : Femdom การต่อต้านที่ไร้ประโยชน์ (โลกที่ผู้หญิงเหนือกว่าผู้ชาย)
ความจริงบทความนี้จะเขียนถึง “เกมพิพากษา” ของสยามสักหน่อย แต่พอดีเล่ม 6 ซึ่งเป็นเล่มสุดท้ายที่ผมสั่งซื้อดันไม่มาส่ง เลยแป๊กสนิท ทำให้สัปดาห์นี้ไม่มีการ์ตูนที่อยากเขียนถึงเป็นพิเศษเท่าไหร่
สิ่งที่ผมจะเขียนถึงต่อไปนี้ เป็นเรื่องของสายการ์ตูนเรื่องหนึ่ง ที่เหล่าผู้หญิง (และผู้ชายบางคน) อาจไม่เข้าใจนัก ว่ามันดี มันสุดยอดตรงไหน? แต่สำหรับผู้ชายบางคน (รวมถึงผม) ได้บรรลุถึงความสุดยอดของสุดยอดของสายนี้มาก วันนี้จึงขอพูดถึงแนวดังกล่าว รวมไปถึงตัวละครชาย และหญิงในเรื่องว่าพวกเขามีบทบาทความสัมพันธ์กันอย่างไร
Femdom
(ภาพจาก การ์ตูนเรื่อง Houkago Play )
(พล็อตเนื้อเรื่องต่อไปนี้ดัดแปลงจากเรื่อง Boku no Geboku ni Nare! หรือเป็นไทยว่า “จงมาเป็นทาสรับใช้ฉันซะ!” เป็นแนวกับดัก สาวดุ้นนั้นแหละ แต่เนื้อหามันอธิบายคลอบคลุมกว่า)
กาลครั้งหนึ่งยังมีพระเอกคนหนึ่ง เป็นชายหนุ่มมัธยมปลายแข็งแรงธรรมดาทั่วไป กำลังเดินเล่นข้างนอก ทันใดนั้นเองเขาก็ได้เห็นสาวทวินเทลคนหนึ่งที่น่ารักสุดยอดมาเข้า เธอน่ารักสุดๆ จนเขาตกหลุมรักเลยทันทีที่พบเห็น
ใจของพระเอกยังคงนึกถึงสาวทวินเทลคนนี้ไม่หาย ขนาดตอนเช้ามาโรงเรียน เขาก็ยังคิดถึงสาวทวินเทลคนนี้อยู่ และมโนภาพว่าเธอจะได้เป็นสาวอ่อนหวาน ขี้อาย เด็กแมนยูแน่นอน (อันหลังไม่เกี่ยว) และทันใดนั้นเองก็ถึงคาบโฮมรูท อาจารย์ประจำชั้นก็บอกว่ามีนักเรียนย้ายมาใหม่ และนักเรียนใหม่ที่ว่าคือสาวทวินเทลที่เขาพบเมื่อวันก่อนนี้เอง
เมื่อทวินเทลแนะนำตัวเสร็จ พระเอกก็ตื่นเต้นไม่หาย ไม่คิดเลยนางฟ้าจะมาประทับ ณ ที่เขาอยู่ เขาอยากตีสนิทกับเธอ อยากเป็นแฟนกับเธอ อยากเป็นเด็กแมนยูด้วยกัน (อันหลังไม่เกี่ยวอีกแหละ)
และขณะที่ทวินเทลเดินตรงมายังโต๊ะของเธอ เธอก็ได้ผ่านที่พระเอกนั่ง พระเอกได้แต่นั่งหน้าแดง ปากสั่น พูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองทวินเทลแบบไม่วางตา เมื่อทวินเทลมามองหน้าพระเอก เธอก็พูดประโยคที่แสนประทับใจแบบไม่รู้ลืมแก่พระเอกคนนั้นว่า
“มองหาอะไรไอ้ห่า? ฉันโครตเกลียดนายเลย!!”
โอ้! เซอุส!! ตัวจริงของทวินเทลที่เขาเห็น ช่างแตกต่างจากที่จากทวินเทลที่เขาวาดฝันไว้เลย ตัวจริงของเธอนั้นปากจัด หน้าตาไม่เป็นมิตร เธอเป็นเด็กลิเวอร์พูล (อันหลังไม่เกี่ยวอีกแล้วเว้ย!!) แต่แทนที่พระเอกจะผิดหวัง เสียใจ แต่กลายเป็นว่าร่างกายเขาสั่น เมื่อมีกระแสไฟฟ้าช็อตในหัวใจ มันไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด แต่มันรู้สึกซาบซ่า ราวกับจิตสำนึกของเขามีอะไรบางอย่างตื่นขึ้น
ในตอนใกล้เลิกเรียน หลังชั่วโมงพละ พระเอกได้มีธุระที่ห้องเก็บอุปกรณ์ แต่ที่นั้นเขาได้เห็นทวินเทลกำลังแต่งตัวและแสดงท่าทีมีพิรุธ แต่เรื่องนี้พระเอกไม่สน เพราะตอนนี้เขาสนแต่เห็นกางเกงในลายทาง และขาอ่อนของเธอมากกว่า และระหว่างที่พระเอกกำลังน้ำลายยืดนั้นเอง ทวินเทลก็รู้ตัว เธอตกใจมากว่ามีคนมาเห็น
เมื่อทวินเทลเห็นพระเอกมองเธออยู่ เธอจึงกระโจนเข้าไปถามพระเอกว่า “นายรู้ความลับฉันใช่ไหม” พระเอกได้แต่น้ำลายยืดหลงใหล ไม่รู้ด้วยซ้ำความลับของเธอคืออะไร แต่ทวินเทลยังรุกหนักเพราะเธอเชื่อว่าพระเอกรู้ความลับของเธอแน่ๆ จากนั้นเธอจัดการพระเอกมัดด้วยสายเชือกกระโดด ชนิดดิ้นหลุดไม่ได้
แทนที่พระเอกจะกลัว อยากจะหนี พระเอกกลับชอบซะงั้น ใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาอยากได้มากกว่านี้อีก
ทวินเทลเห็นพระเอกที่ถูกมัดแทนที่จะกลัวกลับลั๊นล่าอย่างมีความสุข เธอยิ่งแน่ใจเลยว่าพระเอกมันมาโซตัวพ่อ (ที่พึ่งตื่นขึ้น) และดูเหมือนหัวอ่อนด้วย เธอเลยแกล้งเขาว่าจะยอมเป็นของเขาหากเขารักษาความลับเอาไว้ (ความลับอะไรผมยังไม่รู้เลยเพ่!!) แต่อนิจจาขณะที่ทวินเทลกำลังเปิดกระโปรงจนใกล้จะกางเกงในลายทางเต็มสองตา พระเอกกลับช็อกหมดสิต เลือดกำเดาไหลกระฉูดไป และนั้นเองเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นทาสรับใช้ที่แสนจะสุขใจของพระเอกคนนี้ไป
ทั้งหมดนี้เป็นแนวหาคร่าวๆ ของการ์ตูนแนวพล็อตที่เรียกว่า Femdom (ชื่อเต็มคือ Female dominance) ที่พบเห็นในการ์ตูนทั่วๆ ไปไม่ว่าจะเป็นมืดหรือ สว่าง
ผู้หญิงที่ชอบแกล้งผู้ชายถือว่าผู้หญิงรักน่ะครับ?
(ภาพจากการ์ตูนเรื่อง Houkago Play )
เวลาที่คุณอ่านการ์ตูนคอมมาดี้ ฮาเร็ม หรือแนวต่อสู้ ฯลฯ คุณเคยเห็นความสัมพันธ์ประหลาด ประมาณว่าผู้ชาย (ตัวเอก) เป็นลูกไล่ของตัวละครผู้หญิง ตามใจคุณเธอไปทุกเรื่อง แม้ว่าตัวเอกจะโดนคุณเธอแตะ โดนใช้ โดนรังแกก็ไม่เคยบ่น ไม่เคยว่าแม้แต่น้อย
และนั้นเองทำให้หลายคนเรียกพระเอกเหล่านี้ว่า “พระเอกกาก” หรือ“พระเอกอ่อนแอ” ซึ่งหลายคนแล้วไม่ชอบพระเอกแบบนี้นัก เพราะส่วนใหญ่หลายคนมักคิดถึงว่าพระเอกต้องเป็นคนแข็งแกร่ง มีหน้าที่ปกป้องผู้หญิง แต่ไม่ใช่ขี้ข้าผู้หญิงหรือให้ผู้หญิงมาปกป้อง หลายคนแทบรับไม่ได้เลยที่ตัวละครเหล่านี้ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเสียเลย
ส่วนตัวละครหญิง นั้นก็ไม่มีหลายคนชอบเหมือนกัน หลายคนรับไม่ได้ที่ตัวละครหญิงนิสัยเอาแต่ใจ ชอบทำร้ายตัวเอกแบบไม่มีเหตุผล ชอบปั่นหัวผู้ชายโดยผู้ชายไม่ได้ขัดขืนอะไรกับพวกเธอได้เลย ผิดกับนางเอกที่หลายคนรู้จัก เพราะนางเอกคือผู้หญิงตัวน้อยๆ ที่คอยให้ผู้ชายปกป้อง ไม่ได้มีอำนาจกว่าผู้ชาย
มีศัพท์หนึ่งที่พอจะอธิบายความสัมพันธ์ของตัวละครได้เป็นอย่างดี นั้นคือ Femdom หรือชื่อเต็มๆ คือ Female dominance หากแปลเป็นไทยคือ “ผู้หญิงที่มีอำนาจเหนือกว่า” เป็นรูปแบบความสัมพันธ์อย่างหนึ่งระหว่างหญิงกับชาย ที่ผุ้หญิงจะเป็นฝ่ายเหนือกว่า ส่วนผู้ชายเป็นเพียงแค่ลูกไล่ เป็นความสัมพันธ์ที่ผู้หญิงจะทำอะไรผ็ชายก็ได้ ราวกับโลกใบนี้สร้างขึ้นเพื่อผู้หญิง ส่วนผู้ชายไม่มีค่าอะไรเลย
ปกติศัพท์คำว่า Femdom นั้นเป็นศัพท์อธิบายเรื่องเพศสัมพันธ์ระหว่างหญิงกับชาย ในรูปที่หญิงเป็นฝ่ายนำ เกี่ยวกับผู้ที่มีความสัมพันธ์ BDSM ซึ่ง BDSM นั้นคือความหลากหลายเกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศที่ย่อมาจาก
B ย่อมาจาก bondage มีความหมายว่า ความเป็นทาส หรือการผูกมัด พันธนาการ
D ย่อมาจาก discipline การทำให้มีระเบียบวินัย โดยการทำโทษให้อีกฝ่ายเกิดความหวาดกลัว โดยการลงโทษ
S ย่อมาจาก sadism การมีความสุขหรือพึงพอใจจากการทรมานผู้อื่น
M ย่อมาจากmasochism การมีความสุขหรือพึงพอใจจากถูกทรมานหรือทำให้ความเจ็บปวด
ทั้ง 4 คำนี้มีที่มาแตกต่างกัน แต่โดยหลักๆ ก็คือกิจกรรมทางเพศอันหลากหลาย ความรู้สึก ซึ่งนอกจากนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้ใน BDSM คืออุปกรณ์หรือรูปแบบในการทรมานเพศหญิง (รวมไปถึงเพศชาย( เช่น Bars (ที่ล่ามมือล่ามเท้า), Cages (กรงขัง), Chains (โซ่), Collars(ปลอกคอของสุนัข) , Crucifixion (ตรึงกางเขน), Dildos (อวัยวะเพศชายเทียม), Handcuffs (กุญแจมือ), Hanging (การแขวนที่สูงโดยใช้เชือก), Hot Wax (น้ำตาเทียนร้อนๆ), Ropes (เชือกที่ใช้ในการมัดหรือล่าม)) ฯลฯ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้เรามักเห็นบ่อยอยู่ครั้ง ที่เรื่องไหนมีพระเอกกากๆ อ่อนๆ มักจะโดนอุปกรณ์ที่ว่าโดนจนน่วมตัวอีกที
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีอุปกรณ์เกี่ยวข้อง ก็อธิบายเรื่อง Femdom คือฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายนำในกิจกรรมทางเพศ ซึ่งก็ขอพูดไว้ตรงแค่นี้เพราะหากเจาะลึกไปเนื้อหาจะล่อแหลม เอาเป็นว่าจะพูดถึง Femdom ในการ์ตูนสายสว่าง มากกว่าสายมืด ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศอะไรมากมายละกัน
Hatoko-san to Lovecome
หรือ Hatoko-san to Rabukome
Femdom เป็นคำศัพท์ที่มีมานานแล้ว ในเว็บโดจินมืดเองก็มีศัพท์นี้ปรากฏอยู่เพื่อเรียกหมวดแนวการ์ตูนที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายนำ อย่างเรื่อง HHH ของผลงานของ Distance ที่เนื้อหาแสดงให้เห็นชัดเจนในเรื่องผู้หญิงเหนือกว่าผู้ชายในเรื่องของเพศสัมพันธ์
อย่างไรก็ตาม ตอนแรกผมไม่ได้สังเกตคำนี้มากนัก และไม่ทราบว่าเราจะเรียกการ์ตูนที่ผู้หญิงมีอำนาจเหนือผู้ชายว่าอะไร จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เอง ผมก็ได้เห็นคำอธิบาย Femdom ด้านท้ายของการ์ตูน (แปล) เรื่อง Hatoko-san to Lovecome เข้าพอดี จึงรู้ความหมายดังกล่าว
Hatoko-san to Lovecome ก็เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่แสดงให้เห็นอำนาจของผู้หญิงที่เหนือกว่าผู้ชายในอีกแบบหนึ่ง โดยเป็นเรื่องของ “เฮย์วะจิมะ ฮายาโตะ” เด็กดหนุ่มอายุ 16 ปี ที่ได้รับเลือกเป็นหนึ่งสืบทอดมรดกของคุณปู่ โดยมีเงื่อนไขคือเขาจะต้องอยู่ห้องเช่าขนาดเล็กร่วมกับ “เฮย์วะจิมะ ฮาโตโกะ” ที่มีดีกรีเป็นทั้งเมด, ผู้ฝึกสอน, ผู้ปกครอง, ผู้ประเมิน, น้องสาวบุญธรรม,เพื่อนสมัยเด็ก และคู่หมั่น โดยฮายาโกะนั้นมีอำนาจเหนือกว่าพระเอกเกือบทุกอย่าง และมีเงื่อนไขอีกว่าหากพระเอกมีอะไรกับเมดคนนั้นจะถึงตัดสิทธิเป็นผู้สืบทอดทันที ซึ่งพระเอกเองก็ไม่มีทางทำอะไรกับเมดนี้อยู่แล้ว เพราะทันทีที่พระเอกคิดลามกเขาจะเป็นลมซะเอง เพราะชีวิตนี้ไม่เคยจับต้องสาวมาก่อน
หากได้ดูการ์ตูนแนวผู้หญิงที่มีอำนาจเหนือกว่าผู้ชายนั้น จะพบว่าการ์ตูนเหล่านี้จะมีส่วนคล้ายๆ กันคือผู้หญิงจะเหนือกว่าผู้ชายทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสภาพสังคมที่ผู้หญิงเป็นไอดอทโรงเรียน เป็นประธานนักเรียน ใครๆ ก็นับถือและชื่นชอบ มีความฉลาดเฉียว เก่งกีฬา
ด้านผู้ชาย (พระเอก) นั้นตรงกันข้ามนางเอกทุกประการ คือไม่คนธรรมดาสามัญ ก็คนขี้แพ้ไปเลย ทุกอย่างด้วยกว่านางเอกหมด (หากผู้ชายเก่ง แต่ผู้หญิงเก่งกว่าถือว่าเข้าข่าย) ซึ่งตอนแรกนั้นฝ่ายผู้ชายไม่รู้จักฝ่ายหญิงมาก่อน (บางพล็อตเป็นเคยเป็นเพื่อนสมัยเด็กแต่หายไปนานจนพระเอกลืม) จนกระทั่งเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ฝ่ายพระเอกรู้จักนางเอก (รู้ความลับ, ตอนจับหมั้น) แต่แทนที่พระเอกจะเป็นฝ่ายเหนือกว่ากลับกลายเป็นว่าโดนผู้หญิงข่มหมด ผู้หญิงสวยเพอร์เฟคนั้นแท้จริงแล้วมีอีกด้านหนึ่งก็คือสาวซาดิสต์ นางมารร้ายชอบแกล้งผู้ชาย
นอกเหนือพระเอกจะอ่อนแอ (บางคนก็มีความเป็นแคะสูง) แล้วยังไม่ค่อยถูกกับผู้หญิงมากนัก เรียกได้ว่าชีวิตนี้แทบไม่มีพูดคุยกับผู้หญิงแบบจริงๆ จังๆ มาก่อน การโดนผู้หญิงข่มนั้นไม่สามารถต่อต้านได้เลย ยิ่งโดนผู้หญิงจับกดแทนที่จะตอบโต้กลับเป็นลม เพราะจู่ๆ เจอรุกแบบไม่ตั้งตัว ข้ามขั้นมากเกินไป ทำให้จิตใจรับไม่ไหว ทั้งหมดนี้คือความสัมพันธ์ Femdom ในการ์ตูนญี่ปุ่น
เซนโจวกาฮาระ ฮิตากิ จาก Bakemonogatari
นอกจากนี้ในการ์ตูนทั้งในมังงะและคาแร็คเตอร์ของตัวละครหญิงที่มีสถานะเหนือกว่าผู้ชายที่หลายคนรู้จักกันดี จะต้องประกอบด้วย คาแร็คเตอร์มาดประธานสาว เป็นลูกคุณหนู หยิ่ง ตัวสูงกว่าพระเอก (หรือตัวเตี้ยกว่าพระเอก) ทวินเทล (ไม่ก็ผมยาวดำ) และสุดท้ายคือต้องมีนิสัยซึนเดเระ ซึ่งจะมากหรือน้อยก็แล้วแต่
อย่างไรก็ตามหากแยกๆ จะพบคาแร็คเตอร์ 2 แบบ คือ สาวผมยาวดำมาดเจ้าแม่ (ประธานนักเรียน) กับสาวทวินเทลซึนเดเระซึ่งเป็นคาแร็คเตอร์ที่โดดเด่นที่สุด ชนิดหลายคนเห็นก็รู้เลยว่าเป็นพวกมีอำนาจเหนือกว่าพระเอก
แน่นอนว่าคาแร็คเตอร์ประเภทนี้ที่หลายคนรู้จักกันดีก็มีหลุยส์ ยัย 0 จาก Zero no Tsukaima แม้ว่าสถานะของเธออาจด้วยกว่าคนอื่นๆ แต่หากเทียบพระเอกแล้ว หลุยส์ชนะขาดหมดไม่ว่าจะเป็นชาติตระกูลและพลังกำลัง (แฝง) ชอบปฏิบัติพระเอกเหมือนทาส (ให้พระเอกนอนบ้านหมา, ชอบทำร้ายพระเอกด้วยแส้)
อีกคาแร็คเตอร์หนึ่งที่หลายคนรู้จักกันดีและต้องนึกถึงก่อนทุกครั้งหากคิดถึงสาวที่มีอำนาจเหนือกว่าผู้ชายนั้นคือน้องปู เซนโจวกาฮาระ ฮิตากิ จาก Bakemonogatari เป็นคนสวย ฉลาด ทรงผมมาดประธานโรงเรียน ที่ประกาศตนว่าเธอรักอารารากิ หากแต่การแสดงความรักของเธอนั้นอาจแปลกๆ ออกไปทางซาดิสต์ ชอบแกล้งพระเอก ทรมานพระเอก
ทางพูดถึง Femdom ในการ์ตูนโป๊ (สายมืด) ก็มีระดับรุนแรงไปจนถึงปกติธรรมดา รุนแรงคือ บางเรื่อง ฝ่ายหญิง (ส่วนมากเป็นหลายคน) จะรุมจับพระเอกทรมานพระเอกด้วยอุปกรณ์ทางเพศ จนพระเอกร้องไห้ (พระเอกนั้นต้องแคะและหน้าตาน่ารัก) หรือบางเรื่องพระเอกเป็นแค่พ่อพันธุ์ให้กับสาวๆ ในเรื่อง (อันนี้ออกไปทางน่าอิจฉามากกว่าน่ะ)
นอกจากนี้ยังมีคาแร็คเตอร์อีกรูปแบบหนึ่ง ที่อารมณ์หรือมีส่วนคล้ายๆ Femdom ที่ไม่ใช้ชิงเรื่องความรักหรือเรื่องเพศ นั้นคือบทบาทของผู้หญิงที่แสดงถึงความเป็นนางเอกจ๋า ในขณะที่บทพระเอกนั้นแทบไม่มี หรือไม่มีค่าอะไร (บางเรื่องมีตัวละครชาย แต่ไม่ใช่พระเอก) ซึ่งส่วนมากจะเป็นแนวแฟนตาซีหรือต่อสู้ ที่ผู้หญิงเป็นผู้กล้าที่เก่งกว่าพระเอกหลายเท่า พระเอกมีหน้าที่สนับสนุนนางเอกเฉยๆ (นั่นก็คือผู้หญิงเข้มแข็งกว่าผู้ชายนั้นเอง)
จากเรื่องสมาคมคนหนีโลก N.H.K.
จะเห็นได้ว่าการ์ตูนญี่ปุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นสื่อที่มีอิสระ และมีความหลากหลายสูง บนโลกใบของการ์ตูนไม่มีการเหยียดเพศ ทุกเพศมีสิทธิเท่าเทียมกันหมด จากเพศชายที่เคยเป็นใหญ่ในการ์ตูน (ส่วนนางเอกมีหน้าที่ต้องให้ผู้ชายปกป้อง) ก็เริ่มมีแนวเพศหญิงเป็นคนปกป้องผู้ชายและมีอำนาจเหนือกว่าผู้ชายมากขึ้น ซึ่งก็อยู่กับผู้อ่านเองว่าจะเลือกเสพแบบใด
(ส่วนในชีวิตจริงนั้น ในปี 1985 มีการสำรวจมาว่า 30 % ของเพศหญิงชื่นชอบ BDSM กับผู้ชาย และหลายปีต่อมา 1995 มีการศึกษาอีกว่า 89% เพศหญิงมีการใช้ BDSM กับเพศชายมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าสังคมเริ่มยอมรับเรื่องเพศแบบนี้มากขึ้น และบทบาทของผู้หญิงในสังคมก็เปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน--ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)
แน่นอนว่ามีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบ เมื่อมีหลายคนมีความเห็นว่าตัวละครหญิงดังกล่าวนิสัยไม่ดีเลย เอะอะอะไรก็ทำร้ายพระเอก (ซึนเดเระเวลาอายก็ชอบทำร้ายพระเอก) และการกระทำของเธอที่มีต่อพระเอกนั้นก็น่าตกใจ เช่นให้พระเอกสวมปลอกคอสุนัข ให้พระเอกเป็นม้าให้นั่ง ยื่นเท้าให้พระเอกเลีย จนดูเหมือนกับว่าสาวคนนี้มีนิสัยซาดิสต์แบบไม่มีเหตุผล และพระเอกกาก ไม่ชอบพระเอกอ่อนแอแบบนี้ อะไรก็อยู่หลบอยู่หลังผู้หญิงเวลามีเรื่อง ทำให้หลายคนไม่ชอบเลยก็มี
อย่างไรก็ตาม ผมก็ตอบแต่เพียงว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบก็แล้วแต่คนดู เพราะยังไงก็ตามความซาดิสต์หรือมาโซนั้นไม่ใช่อาการทางจิตของมนุษย์ มันเป็นสัญชาติลึกๆ ของมนุษย์จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ ส่วนตัวผมชอบความสัมพันธ์แบบนี้มาก ไม่รู้เป็นเพราะอายุมากหรือเปล่า
สิ่งหนึ่งที่ตอบได้ก็คือ มีหลายคนชอบการ์ตูนที่พระเอกและนางเอกมีความสัมพันธ์กันแบบนี้มากเลยทีเดียว อย่างแรกเลยก็คือความชอบซึนเดเระของตัวละครหญิงที่ตอนแรกซึนๆ ทำเป็นไม่ชอบพระเอก ชอบแกล้งพระเอก บอกว่าพระเอกเป็นทาสบ้างล่ะ แบล็คเมล์บ้างล่ะ เป็นขี้ข้าบ้างล่ะ เอะอะอะไรก็ต่อยพระเอก แต่สิ่งเหล่านี้คนอ่านบางคนชอบมาก พูดง่ายๆ เหมือนอะไรบางอย่างที่เปล่งรัศมีให้นางเอกโดดเด่นขึ้น ซึนเดเระชัดเจน เช่นฉากที่นางเอกยื่นเท้าให้พระเอกเลีย มันเหมือนผู้หญิงคนนั้นดูมีเสน่ห์ เย้ายวน (บางทีพระเอก็คงชอบด้วยซ้ำ) หรือฉากที่พระเอกส่งสายตาดูเหยียดหยามมองพระเอกแบบต่ำๆ ดูถูก ยิ่งทำให้หลายคนชอบ คือคนอ่านบางคนมีความเป็นมาโซอยู่ในหัวใจแบบลึกๆ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สุดยอดที่สุดนั้นคือเมื่อความเดเระแตกนั้นเอง บางครั้งเมื่อพระเอกกากๆ แสดงความเป็นลูกผู้ชายขึ้นมา (ปกป้อง หรือจูบ) ผู้หญิงก็ซึนแตกกลายเป็นเดเระหน้าแดงน่ารักทันที แต่สุดยอดของสาวประเภทนี้จะรักพระเอกมาก (แต่ไม่แสดงออก) เห็นพระเอกเป็นคนพิเศษสำหรับเธอคนเดียว เป็นของเธอคนเดียว ไม่คนอื่นอีก ต่อให้มีชายที่หล่อ เก่งและเท่กว่าพระเอก เข้ามาขอให้เธอเป็นตัวเลือก เธอก็ไม่สนใจเพราะสิ่งที่ต้องการคือผู้ชายที่มีความสนิทสนมกับเธอ สามารถยอมรับตัวตนของเธอ และที่สำคัญคือเธอต้องมีอำนาจเหนือกว่า เพียงแค่นี้เธอก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
"นายเป็นทาสของฉันคนเดียวเท่านั้น"
จากเรื่อง Onihime VS
มังงะบางเรื่องความสัมพันธ์ผู้หญิงที่มีอำนาจเหนือกว่าผู้ชายก็มีอีกมุมหนึ่งที่น่ารักเหมือนกัน ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือเรื่อง Houkago Play เป็นการ์ตูนแก๊กสี่ช่อง (แต่ไม่ได้เน้นฮ่า เน้นตลกโรแมนติกมากกว่า) ซึ่งเป็นเรื่องของคู่รักคู่หนึ่ง ฝ่ายหญิง (ไม่ระบุชื่อ ในวิกีพีเดียเรียกว่า “แฟน”) เป็นสาวน้อยมัธยมปลายที่มาดเหมือนประธานนักเรียน (แต่ไม่ใช่ประธานนักเรียน) มีความสัมพันธ์กับเพื่อนในห้องดี ส่วนฝ่ายชาย (ไม่มีชื่อเช่นกัน) ตรงกันข้ามกับแฟนสาวโดยสิ้นเชิง ทั้งเตี้ย (กว่านางเอกมาก) ขอบตาคล้ำ (เพราะเล่นเกมโต้รุ่งประจำ) อีกทั้งขี้อายทำให้การสื่อสารกับคนอื่นแย่จึงไม่ค่อยมีเพื่อน เวลาโรงเรียนเลิกก็กลับไปอพาร์ตเมนต์และเล่นแต่วีดีโอเกม
แม้ชายและหญิงจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ทั้งสองมีความชอบเหมือนกันนั้นคือ ชอบวีดีโอเกม หลังเลิกเรียนฝ่ายหญิงจะมาอพาร์ตเมนต์ของผู้ชาย เพื่อเล่นเกมวีดีโอเกมร่วมกับแฟนของเธอ (แต่ทั้งคู่ชอบคนล่ะเกมคนล่ะแนวกัน) หรือไม่ก็ดูฝ่ายชายเล่นเกม
แม้จะเรียกว่าแฟน แต่ทั้งสองไม่ได้มีความสัมพันธ์เหมือนคู่รักทั่วไปเลยแม้แต่น้อย เพราะฝ่ายหญิงชอบทำร้ายฝ่ายชาย เอาเท้าแตะ เท้าเหยียบหัวฝ่ายชายแล้วแต่อารมณ์ (ไม่ว่าฝ่ายเธอจะถูกหรือผิดก็ตาม) ไปจนถึงประชดประชันพระเอกแบบไม่ไว้หน้า จนดูเหมือนฝายหญิงเป็นเจ้าแม่มากกว่าเป็นคู่รักกัน
อย่างไรก็ตาม หากสังเกตดีๆ จะพบว่าคู่รักคู่นี้โรแมนติกและน่ารักมิใช่น้อย จะเห็นว่าฝ่ายชายแม้จะถูกฝ่ายหญิงทำร้ายก็ไม่เคยตอบโต้หรือด่าทอแต่อย่างใด ราวกับเขายอมรับตัวตนของเธอ สนิทสนมกับเธอ พูดกับเธอแบบปกติไม่มีความเขินอายแม้แต่น้อย และฝ่ายหญิงเองก็มีมุมน่ารัก คือไม่ถูกกับเรื่องโรแมนติก ไม่ว่าจะเป็นกอดหรือจูบ และเมื่ออายมากๆ จะทำอะไรไม่ถูก (ตรงจุดนี้ทำให้ฝ่ายชายแอบแกล้งเธอเป็นประจำ)
ครั้งหนึ่งคนโบราณของไทยเรายังพูดเลยว่า “ผู้หญิงที่ชอบแกล้งผู้ชายแสดงว่าผู้หญิงรัก” ผู้หญิงที่มีอำนาจเหนือกว่าผู้ชายปากบอกว่าพระเอกคือทาสเป็นหมาบ้างล่ะ ชอบแกล้งบ้างล่ะ แต่ใจจริงเธอรักพระเอกมาก ห่วงพระเอกมาก การบอกพระเอกเป็นทาสนั้นไม่ใช่เป็นการดูถูก แต่แสดงถึงความเป็นเจ้าของ ไม่อยากให้พระเอกตกเป็นของใคร และเธออายเกินกว่าจะเรียกพระเอกว่าคนรัก และนั้นเองทำให้พระเอกไม่ค่อยรู้สึกตัวเท่าไหร่ว่าฝ่ายหญิงรักตนมาก
เคยมีการ์ตูนเรื่องหนึ่งระหว่างที่ฝ่ายหญิงหมดสติ ฝ่ายชายต้องแบกผู้หญิงกลับบ้าน ระหว่างทาง “นายเป็นทาสของฉันคนเดียว” พระเอกได้ยินก็แค่อมยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “นั้นคงเป็นวิธีแสดงความรักในแบบของเธอ” สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าพระเอกเข้าใจเธอ และเขายอมรับด้านนี้ฝ่ายหญิง แม้เขาจะเป็นเบื้องล่างก็ตาม อาจเป็นเพราะพระเอกมีจิตใจอ่อนโยนก็เป็นไปได้
กลับกันหากผู้ชายซาดิสต์กับฝ่ายหญิงนั้นดูแล้วไม่น่าดูมากกว่า เพราะหลายเรื่องผู้ชายที่มีอำนาจเหนือผุ้หญิงออกไปในทางนิสัยไม่ได้ ชอบจับกดนางเอก อยากให้นางเอกเป็นทาส สิ่งเหล่านี้ไม่ดูเลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าการ์ตูนบางเรื่องใช่ว่าพระเอกจะรู้ว่าสาวคนนั้นขอบเราหรือหรือเปล่า เห็นเอาแต่แกล้งเรา ด่าว่าเรา ก็นึกว่าไม่ชอบ บางเรื่องสาวเริ่มต้นสนิทกับเราเพราะแบล็กเมล์ ในขณะที่บางเรื่องพระเอกแทบรับไม่ได้เลยว่าสาวเจ้าเปลี่ยนไปในแบบที่เขาไม่เชื่อสายตามาก่อน (คือตัวจริงผิดไปจากที่วาดฝันเอาไว้) เช่นเรื่อง Domina no Do ซึ่งเป็นเรื่องพระเอกคนหนึ่งที่ธรรมดาและหลายคนไม่อยากจำ หากแต่เขาก็โดนนางเอก (ที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กและไม่เจอกันหลายปีแล้ว) จับหมั้น และนางเอกคนนี้รวยและซาดิสต์ชอบทำร้ายพระเอกและกดขี่พระเอกจนจมดิน พระเอกเหมือนตัวไร้ค่า จนพระเอกน้อยใจ พยายามตีห่างจากนางเอก และกว่าที่พระเอกจะรู้ตัวว่านางเอกนั้นยังคงชอบเขาเหมือนเมื่อก่อนก็เกือบสายเกินแก้ ซึ่งพล็อตแบบนี้ก็ถือว่าสนุกไปอีกแบบ เพราะว่าจะได้รักกันก็ลุ้นหลายรอบเลยทีเดียว
ก็มีการ์ตูนบางเรื่องเหมือนกันที่ดูไม่ออกว่าผู้หญิงที่มีอำนาจเหนือกว่าผู้ชายคนนี้ใจจริงรักพระเอกหรือไม่ อย่างเรื่อง Sundome ที่นางเอกบอกให้พระเอกทำสิ่งที่ทำลายศักดิ์ศรีลูกผู้ชายไปทีล่ะเล็กทีล่ะน้อย (ทั้งๆ ที่พระเอกปฏิเสธไม่ทำก็ได้ แต่พระเอกก็ทำ) เรื่องนี้ออกไปทางจิตตกมากกว่าคอเมตี้ นางเอกที่ดูแล้วไม่น่าไว้ใจและน่ากลัวมากกว่าน่ารัก ซึ่งกว่าที่พระเอกจะได้นางเอกมาครอบครองนั้นเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน
ส่วนทางด้านการ์ตูนผู้หญิงนั้น ผมไม่ได้ดูสักเท่าไหร่ เท่าที่พอเห็นส่วนมากการ์ตูนผู้หญิงมักสร้างตัวละครหญิงที่มีอำนาจเหนือกว่าผู้ชายออกมาในลักษณะให้คนอ่านเกลียดมากกว่า เช่นเรื่อง xx me! รักร้าย ยัยตัวแสบ ซึ่งฝ่ายชายจะต้องตามง้อหรือก็จับกด และมีแนวตัวเอกผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่ด้วยไม่เพียงแต่วัยรุ่นเหมือนการ์ตูนเด็กผู้ชาย (ในการ์ตูนเด็กผู้ชายตัวละครแบบนี้จะเป็นตัวประกอบมากกว่า) และไม่ได้เน้นความโมเอะซึนเดเระชัดเจนทำของผู้ชายเท่านั้นเอง
ทั้งหมดนี้คือลักษณะคร่าวๆ ของ Femdom ในมังงะการ์ตูนญี่ปุ่น จะชอบหรือไม่ชอบก็แล้วแต่บุคคล ที่บางเรื่องเน้นทางเพศในขณะบางเรื่องเน้นน่ารัก เพราะมันมีหลายระดับ มนุษย์เองก็มีความต้องการที่แตกต่างกัน แบะสิ่งที่เราได้เห็นคือบทบาทของผู้หญิงในการ์ตูนญี่ปุ่น (และในโลกแห่งความจริง) เริ่มมีการแสดงออกในสังคมมากขึ้น ผู้หญิงไม่ได้เป็นชายเท้าหลังอยู่เบื้องหลังของผู้ชายอีกต่อไป เธอเองก็สามารถเป็นผู้นำที่ดีกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ ไม่ว่าสายตาของคนรอบข้าง (คนอ่าน) จะมองฝ่ายหญิงว่าเป็นคนโหดร้าย ขี้หึ่ง (ประมาณว่าปากบอกพระเอกว่าทาส แต่พอพระเอกมีผู้หญิงอื่นกลับหึ่ง) แต่ใครจะไปสนล่ะ ในเมื่อมีคนหนึ่งที่เข้าใจเธอ นั้นก็คือพระเอก คนที่เธอรักที่สุด เพียงแค่นี้เธอก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือความมีชื่อเสียง
ความคิดเห็น