ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พรหมลิขิตรักสองภพ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.33K
      12
      20 ส.ค. 58


    CR.SQW


                   บทนำ

     

     

     

     

     

               

     

     

                    บนถนนสายหลวงแห่งหนึ่ง รถตู้สีขาวกำลังแล่นไปตามถนนที่คดเคี้ยว ท่ามกลางความมืด มีเพียงแสงไฟเรืองรองจากริมถนนที่ส่องสว่างอยู่เป็นระยะ ถนนสายนี้เป็นเส้นทางสายเหนือ รถตู้โดยสารขนาดสิบสองที่นั่งอัดแน่นด้วยผู้โดยสารกำลังหลับใหล ซึ่งเป็นคณะนางรำชื่อดังแห่งหนึ่งในเชียงรายกำลังมุ่งหน้าไปตามถนนสายหลัก โดยมีกระบะอีซูซุสีขาวขับนำ หลังจากที่การแสดงในงานประจำปีที่เจ้าของคณะได้รับงานไว้ที่อยุธยาเสร็จสิ้น ขณะที่ทุกคนต่างหลับสนิทอย่างเหนื่อยล้าและอ่อนแรง มีเพียงสาวน้อยนางหนึ่งหน้าตาแฉล้มแช่มช้อยที่นั่งคู่กับคนขับเท่านั้นที่ยังไม่หลับไปกับคนอื่น ในมือกำสร้อยสีเงินที่เพิ่งจะได้มา ด้วยความสีหน้าครุ่นคิดสงสัย ก่อนจะชำเลืองมองโชเฟอร์จนตาแทบไม่กระพริบ ชายวัยกลางคนรูปร่างผอม ขณะมือจับพวงมาลัยรถ แต่ตากลับปรือๆ เหมือนคนเบลอ คล้ายคนหลับใน จนทำให้เธอต้องคอยมองอย่างระแวดระวัง

                    “พี่...พี่ไหวไหมเนี่ย ถ้าพี่ง่วงหนูว่าพี่จอดรถข้างทางพักก่อนดีกว่าไหม”

    เธอพยายามชวนคุย เพราะกลัวเขาจะหลับไปเสียก่อน ยิ่งรถส่ายไปมาอย่างน่าหวาดเสียว มันทำให้ลุ้นแทบใจหายใจคว่ำ กลัวเหลือกินว่ามันจะลงไปนอนหงายท้องข้างทางเสียก่อนที่จะไปถึงจุดหมายปลายทาง

    “เฮ้ย! ได้ไง ขืนจอดพักมันก็จะช้านะสิ ไม่ต้องกลัวน่าพี่ขับรถขึ้นเหนือล่องใต้จนชำนาญ แค่นี้พี่ไหว”

    ชายคนดังกล่าวว่า และยังยืดอกอย่างโอ้อวดด้วยความลำพองใจ เพราะเขาขับรถอยู่บนเส้นทางนี้จนเคยชิน แต่กระนั้นมันไม่ได้ทำให้คนฟังวางใจเลยแม้เพียงนิด เพียงออเมินหน้าไปอีกทางแล้วแอบเบ้ปากโดยไม่ให้เขาเห็น พลันคิดในใจว่าขับรถอย่างกับงูเลื้อยแบบนี้ยังกล้าอวดอีก

    หลังจากที่ผ่านไปซักพัก เธอยังคงชวนเขาคุยจนโชเฟอร์ออกอาการรำคาญใจ ฟังบ้างไม่บ้าง

    “พี่เป็นคนที่ไหนเหรอ มีลูกมีเมียรึเปล่าแล้วขับรถไปอยุธยาบ่อยไหม”

    “นี่นังหนู อย่าชวนพี่คุยได้ไหม ไม่มีสมาธิขับรถ”

    โชเฟอร์วัยกลางคนบอกเสียงดุ และยังทำเสียงจึกจั๊กแบบไม่สบอารมณ์อย่างมากที่เธอเอาแต่ถามซอกแซกอยู่นั่นแหล่ะ เพียงออจึงแอบกลอกตาที่ว่าไม่มีสมาธิ ไม่มีสมาธิหลับนะสิ! เขาจะรู้ไหมนะว่าเธอกลัวแทบตายแล้ว ตาของเขามันแทบจะลืมไม่ขึ้น มีอยู่บางช่วงเธอเห็นว่าขับกินเลนไปมากโข ถึงเขาจะดึงมันกลับมาได้ แต่เธอสิหัวใจจะวายตาย

    ระหว่างที่รถแล่นไปเรื่อยๆ ด้วยความเร็วพอดู เพียงออคิดว่ามันน่าจะอยู่แถวอุตรดิตถ์ มันเป็นเส้นที่มีทางโค้งที่น่าหวาดเสียวอยู่หลายจุด และข้างทางก็เป็นเหวลึก หญิงสาวกอดกระเป๋าสะพายไว้แนบอกอย่างหวาดหวั่น คอยเหลือบไปมองโชเฟอร์อยู่ตลอดเวลา มือข้างหนึ่งนั้นกำพวงมาลัย อีกข้างควานหากาแฟกระป๋อง เมื่อเขาหยิบมันขึ้นได้และกำลังจะเปิด ทันใดนั้นเองมันหลุดมือกลิ้งตกลงไปข้างใต้ เขาทำท่าจะก้มลงเก็บ เพียงออจึงร้องขึ้นทันที

    “พี่ทำอะไร”

    “ก็จะเก็บกาแฟไง” เขาบอกเสียงห้วน

    “เดี๋ยวหนูเก็บให้”

    เพียงออเผลอขมวดคิ้วนิดๆ ตัวเองขับรถแท้ๆ ยังจะก้มเก็บของ เป็นคนขับรถภาษาอะไรเนี่ย พลางคิดในใจว่าคราวหลังเธอจะไม่มากับโชเฟอร์คนนี้อีก หญิงสาวปลดเซฟตี้เบลออก จากนั้นก็ย่อตัวลงควานหากาแฟกระป๋องเจ้าปัญหา มันกลิ้งโค่โล่ไปมา จู่ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนรถเอียงวูบจนน่ากลัว อารามตกใจเธอโงหัวขึ้นมาทันเห็นรถสิบล้อที่พุ่งข้ามเกาะกลางถนนตรงมาหา โชเฟอร์รถตู้หักหลบแบบกะทันหัน แต่ทว่ามันพุ่งชนรั้วเหล็กที่กั้นข้างทางอย่างแรง เนื่องจากเพียงออไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ทำให้ร่างของเธอพุ่งทะลุกระจก กระเด็นออกไปนอกตัวรถ หญิงสาวกรีดร้องสุดเสียง หัวใจทั้งดวงหล่นวูบ โชคร้ายเหลือเกินข้างหน้าเป็นหุบเหวลึก เธอลอยคว้างอยู่หลายวินาที ราวกับเวลามันถูกหยุดอยู่ชั่วครู่ มองเห็นกระเป๋าเป้ เศษกระจก และสร้อยคอที่มีจี้รูปไข่ลอยอยู่กลางอากาศ เธอคว้ามันไว้ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบ                                                       

        

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×