Intimate Mind ล่าล้างฝัน จิตสังหาร - นิยาย Intimate Mind ล่าล้างฝัน จิตสังหาร : Dek-D.com - Writer
×

    Intimate Mind ล่าล้างฝัน จิตสังหาร

    "โลกจิตใต้สำนึกจำลอง" คือการทดลองลับระดับโลกที่เป็นความลับมากว่าร้อยปี ถูกปิดบังในชื่อองค์กรวิทยาศาสตร์ธรรมดา ทว่าหนูทดลองที่หายไปห้าคน จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของโลกไปตลอดกาล...

    ผู้เข้าชมรวม

    9,524

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    9.52K

    ความคิดเห็น


    317

    คนติดตาม


    233
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  33 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  26 มิ.ย. 60 / 21:53 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     นิยายเรื่องนี้กำลังอยู่ระหว่างการรอรีไรท์ แต่ขณะนี้ผู้แต่งกำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ ทำให้ต้องหยุดเขียนไปชั่วคราว จึงขออภัยผู้อ่านทุกท่านในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้

    แล้วพบกันใหม่กลางปี 2017 ค่ะ!



                     เคยมั้ย... เวลาพบใครครั้งแรก แต่รู้สึกเหมือนเคยรู้จักกันมาแสนนาน

                    เคยมั้ย... แค่สบตา ก็รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามคิดอะไรอยู่

    โลกจิตใต้สำนึกน่ะ น่าค้นหากว่าที่คุณคิดเยอะเลยล่ะ...


     
     

    เซนจูรี่ ดีพาร์ทเจอร์ คอร์เปอเรชั่น

     

                    หลายๆคนมองว่ามันก็คงจะเป็นองค์กรวิทยาศาสตร์ธรรมดาๆ เหมือนกับองค์กรนาซ่า

                    แต่พวกเขาไม่รู้เลย ว่าที่นี่กำลังจะมีโปรเจกต์ใหญ่ที่น่าพิศวง นั่นก็คือ โครงการ “โลกจิตใต้สำนึกจำลอง

                    เรื่องนี้ถูกปกปิดเป็นความลับและใช้การทดลอง ผู้เดินทางผ่านศตวรรษบังหน้าแทน และแน่นอน นี่ไม่ใช่การทดลองเดินทางข้ามเวลาไปสู่อดีตหรืออนาคตอย่างในภาพยนตร์ แต่นี่คือการทดลองนำเด็กๆ ที่เป็นหนูทดลองจำศีลเพื่อข้ามผ่านกาลเวลา เพื่อเล่าเรื่องในอดีตให้คนรุ่นต่อๆไปได้ฟัง

                    ด้วยเหตุนี้จึงเกิดการรับสมัครคัดเลือกเด็กมาทดลองขึ้น โดยครอบครัวของผู้ที่ถูกคัดเลือกจะได้รับการดูแลอย่างดี ผู้ถูกคัดเลือกจะต้องผ่านการทดสอบขององค์กร ผู้ที่ไม่ผ่านก็จะถูกส่งตัวกลับบ้าน  เมื่อทุกอย่างพร้อม การทดลองจำศีลข้ามเวลาก็เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับการวิจัยลับนี้

                    แต่เมื่อเวลาผ่านไปเก้าสิบปีก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น เมื่อมีเด็กเจ็ดคนหายไปจากองค์กรนี้อย่างลึกลับ พวกเขาหนีไปได้อย่างไร ไม่มีใครรู้

                    นี่เป็นจุดเริ่มต้นการไล่ล่า...ขององค์กรเซนจูรี่ ดีพาร์ทเจอร์ คอร์เปอเรชั่น

     

    เด็กทั้งห้าคนนั้นหนีหายไปไหน แล้วองค์กรกำลังทำอะไรอยู่กันแน่!?

     

    ติดตามได้ใน Intimate mind ล่าล้างฝัน จิตสังหาร






    คุณพร้อมที่จะร่วมค้นหาความจริงกับพวกเขาแล้วหรือยัง?

     

    ใหม่ล่าสุด!! แบบทดสอบว่าคุณเป็นใครในนิยายเรื่อง Intimate Mind ล่าล้างฝัน จิตสังหาร คลิกเลยจ้า!






     

    ขอขอบคุณเฮียบอมพ์เป็นพิเศษ เจ้าของร้านดีไซน์ ZUPERNOVA!!!



    และขอขอบคุณ

     




    Story Starts at 2 August  2013

    Story ends in XX XX 2015



    S
    N
    A
    P

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    "Miss Suika รับวิจารณ์นิยาย"

    (แจ้งลบ)

    Intimate mind เจาะจิต ทะลุฝัน เกณฑ์การให้คะแนนเต็ม 100 ชื่อเรื่องและความสอดคล้องของเนื้อหา (10/10) โดยรวมแล้วชื่อกับเนื้อหายังสอดคล้องกันอยู่ค่ะ อารมณ์ของเรื่องน่าจะคล้าย ๆ กับ Total recall หรือ Source Code ที่มีแนวของเรื่องในการย้อนเวลาข้ามไปข้ามมาค่ะ ความสนุก (15/30) แนวเรื่องฟังดูน่าติดตามดีค่ะ โดยส่วนตัวแล้วหากผู้แต่งท่านใดเขียนนิยายแนว ... อ่านเพิ่มเติม

    Intimate mind เจาะจิต ทะลุฝัน เกณฑ์การให้คะแนนเต็ม 100 ชื่อเรื่องและความสอดคล้องของเนื้อหา (10/10) โดยรวมแล้วชื่อกับเนื้อหายังสอดคล้องกันอยู่ค่ะ อารมณ์ของเรื่องน่าจะคล้าย ๆ กับ Total recall หรือ Source Code ที่มีแนวของเรื่องในการย้อนเวลาข้ามไปข้ามมาค่ะ ความสนุก (15/30) แนวเรื่องฟังดูน่าติดตามดีค่ะ โดยส่วนตัวแล้วหากผู้แต่งท่านใดเขียนนิยายแนวไซไฟจะรู้สึกว่าเก่งจังเลย แต่การจะรักษาความสนุกและน่าติดตามได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับการวางแนวเรื่องตลอดทั้งเรื่องค่ะ ซึ่งผู้แต่งยังไม่สามารถดึงความน่าสนใจของเรื่องให้ผู้อ่านรู้สึกอยากติดตามนัก สาระของเรื่องยังไม่ถูกกล่าวชัดเจน แม้จะถูกกล่าวในบทที่ห้าแต่ก็ยังไม่รู้สึกเข้าใจ รู้แค่ว่าแต่ละตัวละครจะมีความทรงจำที่สลับซับซ้อนกันไปมาและมีบางจุดที่จะเชื่อมโยงถึงกัน เช่น อเล็นเล่กับวิคเตอร์ ชาร์ลอตกับชาลี เป็นต้น ซึ่งถ้าผู้แต่งไม่เขียนเนื้อหาให้กระจ่างจะทำให้ผู้อ่านสับสนไปตลอดทั้งเรื่องได้ค่ะ เน้นบทสนทนาที่บางครั้งไม่ใช่จุดสำคัญของเรื่อง (ประมาณตอนต้นเรื่องที่ต้องการเนื้อหาให้ดึงดูดใจและอยากอ่านต่อ) การดำเนินและผูกเรื่องยังเอื่อย ๆ จุดที่ควรดึงอารมณ์ก็ยังทำได้ไม่ดีนัก จุดนี้แนะนำว่าให้ผู้แต่งลองวางโครงเรื่องในแต่ละตอนให้ชัดเจนก่อนว่าจะเริ่มต้นอย่างไร จะดำเนินเรื่องแบบไหน และมีจุดให้ตื่นเต้นและลุ้นตามยังไงที่สำคัญในแต่ละตอนต้องมีปมให้เราอยากรู้และอยากอ่านในบทต่อไปด้วยซึ่งสิ่งเหล่านี้จะประสบความสำเร็จได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์เขียนและการอ่านค่ะ แต่ถึงอย่างไรก็ตามดูเหมือนเนื้อเรื่องจะเริ่มเข้มข้นตั้งแต่บทที่หกเป็นต้นไปค่ะเพราะผู้แต่งเริ่มคลี่คลายปมให้เข้าใจบ้างแล้ว นอกจากนี้แล้วเนื้อหาในแต่ละตอนที่มีความยาวมากเกินไปก็ทำให้เกิดความเบื่อหน่ายในการอ่านได้เช่นกัน จุดนี้ลองปรับให้เนื้อหาแต่ละตอนนั้นมีความยาวที่ไม่ยาวจนเกินไปสามารถแบ่งเนื้อหาในตอนนั้น ๆ เป็นตอนย่อยได้ค่ะ การบรรยาย (17/20) ถ้าเทียบอายุของผู้แต่งกับการเขียนบรรยายในลักษณะนี้ก็ถือว่าดีพอสมควรค่ะ แต่ยังต้องมีการพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ ผู้แต่งยังใช้คำสั้น ๆ คำง่าย ๆ ในการบรรยายบางฉากที่ควรจะบรรยายให้ลื่นไหลกว่านี้ ซึ่งผู้วิจารณ์เห็นคำเหล่านี้บ่อย ๆ ในการบรรยาย เช่น ตะลึง อึ้ง ตกใจ เป็นต้น วิธีการจะทำให้การเขียนบรรยายลื่นไหลก็ต้องอาศัยการอ่านบ่อย ๆ รวมถึงการเขียนของผู้แต่งเองด้วย ยิ่งเขียนยิ่งได้ค่ะ ยกตัวอย่าง แสงสีอร่ามตาจากตึกสูงระฟ้า น่าจะขยายคำเพิ่มเช่น แสงไฟหลากสีอร่ามตาจากตึกสูงระฟ้า เพื่อให้ประโยคชัดเจนขึ้น ทั้งสองต่างพากันหอบอย่างเหน็ดเหนื่อย ลองปรับเป็นว่า ทั้งสองต่างหอบเหนื่อย, ทั้งสองต่างหอบตัวโยน เป็นต้น เอลเลนมองตามลงมาอย่างตะลึง ควรปรับเป็น เอลเลนมองตามลงไปอย่างตื่นตะลึง หรือ เอลเลนมองตามลงไปอย่างตื่นตระหนก วิคเตอร์พูดและเอาเก้าอี้มาวางไว้ให้ ปรับได้ว่า วิคเตอร์พูดจบก็นำเก้าอี้มาวางและรอให้แขกหน้าใหม่ได้นั่งลง แม้เขาจะมีท่าทีนอบน้อมแต่เขาก็ดูระวังตัวไม่น้อยเลยทีเดียว ปรับได้ว่า แม้เขาจะมีท่าทีนอบน้อม แต่เขาก็ยังรักษาระยะห่างไว้อย่างระวังตัว เธอนั่งอยู่บนวิลแชร์เพราะเธอไม่มีขา มันดูเป็นประโยคบอกเล่าที่ตรงเกินไป น่าจะปรับเป็นว่า เธอนั่งอยู่บนวิลแชร์ เนื่องด้วยเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ต้องสูญเสียขาของเธอไป เป็นต้น ทำให้วิคเตอร์ร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างสาหัส ควรปรับเป็น วิคเตอร์ร้องโอดโอยจากพิษบาดแผลนั้น หรือวิคเตอร์ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดจากพิษบาดแผล เป็นต้น ชาลีพูดแล้วประคองวิคเตอร์ที่มีสภาพเลือดโชกตัวออกไป ควรปรับเป็น ชาลีรับคำและรีบประคองวิคเตอร์ที่โชกเลือดไปทั้งตัวออกไป การบรรยายคำตะกุกตะกัก เช่น “ถ ถ ถูกต้อง” มันอยู่ในอัญประกาศแล้วเพราะฉะนั้นใช้คำที่ออกเสียงได้เลยค่ะ เช่น “ถะ ถูกต้อง” การบรรยายในบทสนทนาระหว่างโทรศัพท์ หากต้องการทำให้รู้ว่าเป็นการสนทนาในสายระหว่างกัน ไม่จำเป็นต้องทำตัวเอียง (ในบทที่ 4) เพราะจะสับสนกับการบรรยายแบบคิดในใจ แค่ให้บทสนทนาอยู่ในอัญประกาศและบรรยายต่อท้ายว่ากำลังสนทนาทางโทรศัพท์ก็จะทำให้เข้าใจได้ง่ายกว่าเช่น “ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แค่นี้นะ” คนปลายสายพูดตัดบทและวางสายไปทันที เป็นต้น ข้อสงสัย ให้ผมเดาคงเป็นชาวจีน ในฉากแรก ๆ การพูดถึงเจ้าของร้านที่ชาลีทำงานมานานแล้ว ไม่น่าจะใช้คำว่าเดาได้ เพราะน่าจะมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับเจ้าของร้านอยู่แล้ว ถ้าปรับประโยคให้สอดคล้องกับเนื้อหาควรเป็น อาแปะแก่ ๆ คนหนึ่งที่เป็นชาวจีน บทที่แน๊ทซ์ถามเกี่ยวกับดอกแอสเตอร์ “นายนี่ตลกร้ายนะว่าแต่ปลูกให้ใครเนี่ย” แต่วิคเตอร์ตอบว่า “ฉันปลูกเอง” คำตอบของวิคเตอร์ขัดแย้งในสิ่งที่แนทซ์ถาม ถ้าถามว่าปลูกให้ใครก็ต้องตอบว่าปลูกให้คนนั้นคนนี้หรือปลูกให้ตัวเอง เป็นต้น บทที่ชาลีปั่นจักรยานไปส่งอเล็นเล่ “นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้นั่งจักรยานด้วยกัน” ประโยคนี้ขัดกับบทแรกค่ะ เพราะเปิดฉากชาลีก็ขี่จักรยานไปส่งอเล็นเล่ที่โรงเรียนหนิคะ วิคเตอร์เช็ดน้ำตาและยื่นดอกเอสเตอร์สีชมพูที่เขาเก็บไว้ในเสื้อกาวน์ให้อเล็นเล่ ต้องให้เอลเลนเพราะฉากนี้ยังพูดคุยกับเอลเลนอยู่ค่ะ ฉากที่ชาลีรออยู่หน้าห้องไอซียูมีท่าทีร้อนรน แต่เมื่อพยาบาลบอกว่าอเล็นเล่ปลอดภัยและมีคนไข้รายอื่นจะคุยด้วยก็เดินไปหาวิคเตอร์เลย จุดนี้น่าจะขอให้พยาบาลพาไปหาอเล็นเล่ก่อนมันดูจะสมจริงมากกว่าเข้าไปหาวิคเตอร์แล้วถามอาการน้องสาวจากวิคเตอร์ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวก็ยังนอนเจ็บอยู่ แม้จะมีข้อบกพร่องให้เห็นอยู่แต่มีอยู่บางคำบางประโยคที่ผู้แต่งพยายามเขียนให้ดูมีความเป็นผู้ใหญ่ เข้าใจโลกใบนี้ดี อ่านแล้วรู้สึกเอ่อ ดีนะ คิดได้ยังไงอยู่หลายประโยคนะคะ ต้องขอชม ความถูกต้องของหลักภาษา/การใช้คำให้ถูกความหมาย/การเขียนถูกผิด (17/20) คำถูกผิดและเขียนตกหล่น รู้สึกว่าจะไม่ค่อยมีให้เห็นค่ะ ซึ่งดีมากเลย แต่ขอยกตัวอย่างเท่าที่เห็นนะคะ ประปลาย – ประปราย, ท้างฟ้า – ท้องฟ้า, หลางหาว – พลางหาว, ชาร์พูด – ชาร์ลอตพูด, ใหล้ตาย – ใกล้ตาย, เสือ กาวน์ – เสื้อกาวน์, เลือนลาง – เลือนราง เป็นต้น ไม้ยมก หน้าและหลังเครื่องหมายให้เคาะวรรคเช่น ต่าง ๆ นานา เป็นต้น แต่บางสำนักพิมพ์ก็เคาะเพียงหลังเครื่องหมาย เช่น เสื้อสีแดงๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ เป็นต้น ทั้งนี้ควรเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งไปตลอดการเขียนบรรยายค่ะ จุดไข่เปล่า เช่น “...ต่อด้วยข้อความ” อันนี้ผู้วิจารณ์ได้รับคำแนะนำจากกองบก. ท่านหนึ่งบอกว่าโดยหลักภาษาไทย การใช้จุดไข่ปลามักจะใช้ท้ายประโยคที่มีการอธิบายยืดยาวและย่นประโยคให้สั้นลง หรือถ้าใส่หน้าข้อความแล้วก็ต้องใส่หลังข้อความในกรณีที่ยกข้อความมาจากที่อื่น ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องใส่จุดไข่ปลา ให้ผู้แต่งบรรยายไปว่าตัวละครเว้นระยะการพูด หรือหยุดเงียบชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อไปแทนน่าจะดีกว่าค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ทราบว่าทางสำนักพิมพ์ที่อื่นจะเป็นยังไงนะคะ ปกติผู้วิจารณ์อ่านแต่นิยายแปลก็ลองปรับใช้กับนิยายของผู้แต่งแล้วกันค่ะ ปรัศนี ? ตามความเป็นจริงหลักภาษาไทยไม่มีการใช้ค่ะ เพราะในภาษาไทยมีคำไทยที่เป็นคำถามในตัวมันเองแล้ว เช่น หรือ เหรอ หรือไม่ อะไร ที่ไหน อย่างไร ดังนั้น ใคร? จึงไม่จำเป็นต้องมีเครื่องหมายคำถามกำกับด้านหลังค่ะ ตัวเอียง ถ้าต้องการใช้ตัวเอียงในการบรรยายบทที่พูดในใจของตัวละครก็ให้ผู้แต่งใช้ตลอดทั้งเรื่องไปเลยค่ะ บางครั้งผู้วิจารณ์ก็ยังเห็นผู้แต่งใช้บ้างไม่ใช้บ้าง ยกตัวอย่างบทสนทนาที่ไม่ได้ถูกใช้ ขอให้ดอกแอสเตอร์คุ้มครองเพื่อนของผมด้วยเถิด เด็กชายอธิษฐาน บรรยากาศโรแมนติกจริงนะ เขาตื่นขึ้นและคิดในใจ ตัวหนา การทำตัวหนาเป็นการเน้นว่าส่วนนี้สำคัญแต่บางคำไม่จำเป็นต้องทำตัวหนาก็ได้ค่ะ เช่น สเต็กหมูพริกไทยดำราดซอสเทอริยากิ เพราะอย่างไรแล้วผู้แต่งก็ใส่เครื่องหมาย ‘____’ เพื่อบอกว่ามันเป็นเมนูชนิดหนึ่งแล้วจึงไม่จำเป็นต้องทำตัวหนาค่ะ เครื่องหมายยัติภังค์ ( - ) เห็นผู้แต่งใช้บ่อยมากในบทสนทนาที่ยังกล่าวไม่จบ ไม่ทราบจริง ๆ ว่าเครื่องหมายนี้ถูกต้องหรือไม่ แต่ปกติแล้วการใช้เครื่องหมายเพื่อบอกถึงการพูดไม่จบหรือมีผู้แทรกขึ้นน่าจะใช้จุดไข่ปลามากกว่าค่ะ เครื่องหมายยัติภังค์ในภาษาไทยจะใช้เพื่อ - รวมคำต่างชนิดกันเพื่อใช้เป็นส่วนขยายหรือเพื่อให้เกิดคำใหม่ - แบ่งพยางค์ในการอ่าน - ใช้เขียนแยกคำเมื่ออยู่สุดบรรทัด - ใช้แทนช่วง เช่นราคามือถือเครื่องนี้อยู่ราว ๆ 8000-9000 เป็นต้น ดังนั้นการใช้เครื่องหมายต่าง ๆ ต้องใช้ให้ถูกต้องค่ะ อย่าใช้ตามใจ ปรับคำหรือประโยค ไม้สุดท้าย พิมพ์ตกหรือเปล่า น่าจะเป็นไม้ตายสุดท้ายหรือเปล่า ถูกเตะกระจุยกระจาย ควรปรับเป็น ถูกเตะกระจัดกระจาย แต่นายก็สู้สุดฤทธิ์สุดเดช ควรปรับเป็น แต่นายก็สู้จนสุดกำลัง หรือแต่นายก็สู้จนสุดแรง เป็นต้น แต่ก่อนที่ไอรินจะเหนี่ยวไกก็มีอะไรบางอย่างหยุดเธอไว้ก่อน มีคำฟุ่มเฟือยอยู่ในประโยคเดียวกัน ควรปรับเป็น แต่ก่อนที่ไอรินจะเหนี่ยวไกก็มีบางอย่างหยุดเธอ ฉันก็จะสนองตัณหาของแกเอง น่าจะปรับเป็นว่า ฉันจะสนองความต้องการของแกเองจะดีกว่า เพราะความหมายของคำว่าตัณหาไม่ตรงกับเนื้อเรื่อง หน้าตาดีจนชาลีต้องพูดกระแนะกระแหน กระแนะกระแหน แปลว่า พูดกระทบ พูดเสียดสี ปรับได้ดังนี้ หน้าตาดีจนชาลีอดแซวไม่ได้ ชาลีพูดตะโกนใส่หน้าของวิคเตอร์แล้วชกเข้าที่หน้าหน้าของเขา มีคำฟุ่มเฟือย แก้เป็น ชาลีตะคอกกลับและชกเข้าที่หน้าของวิคเตอร์แต่พลาดท่าเมื่อเด็กหนุ่มหลบทันและหมัดนั้นก็พุ่งตรงไปยังกำแพง พวกเรารีบวิ่งไปกันเถอะ ไม่อย่างนั้นเราอาจจะหายไปตามด้วยนะคะ เขียนสลับที่แก้เป็น พวกเรารีบวิ่งไปกันเถอะ ไม่อย่างนั้นเราอาจจะหายตามไปด้วยนะคะ คำพูดที่ดูเย็นชาของเด็กน้อยคนนี้กลับดูเหมือนซ่อนความกล้ำกลืนเอาไว้นะ? ซ่อนความกล้ำกลืน รู้สึกแปลก ๆ ค่ะ กล้ำกลืนแปลว่าอดกลั้นไม่แสดงให้เห็นซึ่งมีความหมายคล้ายกับซ่อน ควรปรับเป็นว่าซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ พร้อม ๆ กับร่างของฉันที่หายวาบในพริบตา ปรับเป็น พร้อม ๆ กับร่างของฉันที่หายวับในพริบตา ความสวยงามของบทความ (18/20) การจัดวางเนื้อหานิยายให้ชวนน่าอ่าน ต้องจัดวางตามรูปแบบหนังสือนิยายที่วางขายทั่วไปนะคะ นอกจากดูเรียบร้อยสวยงามแล้วยังทำให้อ่านง่ายขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นหากเริ่มต้นเขียนให้ย่อหน้าโดยใช้แท็บบทเวิร์ดช่วย เมื่อจบการบรรยายในเหตุการณ์นั้นก็เคาะบรรทัดลงมาแล้วทำการย่อหน้าใหม่อีกครั้งเมื่อเริ่มเหตุการณ์ใหม่ ทั้งนี้ก็ใช้กับบทสนทนาด้วยค่ะ ทั้งนี้ควรเขียนเนื้อหาลงในเวิร์ดก่อนแล้วค่อยก๊อปมาวางลงในเว็บไซด์จะทำให้รูปแบบการจัดวางยังคงเดิม ยกตัวอย่างการเขียนแบบมีย่อหน้า เพย์ตันคว้าแขนแมดดี้ได้ทันแต่ทั้งคู่ก็ร่วงสู่เบื้องล่างในพริบตาเดียว ร่างทั้งสองตกลงสู่ลำธารที่เย็นเฉียบ เพย์ตันพยายามถีบร่างขึ้นเหนือน้ำแต่แล้วก็พบว่ามือที่เคยคว้าแมดดี้เอาไว้กลับไม่มีเธออยู่ข้างๆ เขากระวนกระวายจนต้องรีบว่ายไปทั่วเพื่อตามหา “แมดดี้!” เขาตะโกนลั่นและพยายามปรับสายตาให้คุ้นชินกับความมืด แต่รอบๆ ตัวเขากลับเงียบสงัดจนต้องตัดสินใจดำน้ำลงไปทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะมองเห็นข้างล่างนั่นหรือไม่ เป็นต้น ตัวอักษร แนะนำให้ปรับสีเป็นสีดำเพื่อให้อ่านง่ายและไม่ปวดตา อีกปัญหาคือขนาดของตัวอักษรบางจุดจะเห็นว่ามีขนาดเล็กเกินไปด้วยค่ะ แนะนำว่าถ้าจะปรับแก้ให้มาปรับแก้ในเวิร์ดก่อน อย่าแก้ในตัวเนื้อหาที่จะอัพในเว็บไซด์ค่ะ อาจมีปัญหาเรื่องโค้ดก็ได้ทำให้เนื้อหาบางจุดรวนจนมีขนาดเล็กเกินไป รวม 77 คะแนน หวังว่าจะนำคำแนะนำไปปรับปรุงนิยายของท่านให้ดีขึ้น อาจไม่สามารถชี้แนะได้ทั้งเรื่องแต่ก็อยากให้นำคำแนะนำเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อผู้แต่งในการพัฒนาชิ้นงานนะคะ หากมีข้อผิดพลาดเขียนตกหล่นก็ขออภัยค่ะ Miss Suika ยินดีให้บริการ   อ่านน้อยลง

    wondermomo | 2 ก.ค. 57

    • 5

    • 0

    "Kakikomi Academy (รับวิจารณ์ทุกอย่าง)"

    (แจ้งลบ)

    สวัสดีครับผมคืออาจารย์โอเอซิสที่ได้รับเรื่อง[Intimate Mind เจาะจิต ทะลุฝัน] นะครับ จะขอเข้าเรื่องเลยละกันนะครับ อ้อแล้วผมก็ไม่มีการคิดคะแนนด้วย นี่เป็นเพียงความเห็นของนักอ่านคนนึงเท่านั้นนะครับ หากไม่ชอบหรือผมเผลอใช้คำรุนแรงก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าอาจารย์จะวิจารณ์โดยภาพรวมเท่านั้นหากไม่พอใจหรือต้องการใ ... อ่านเพิ่มเติม

    สวัสดีครับผมคืออาจารย์โอเอซิสที่ได้รับเรื่อง[Intimate Mind เจาะจิต ทะลุฝัน] นะครับ จะขอเข้าเรื่องเลยละกันนะครับ อ้อแล้วผมก็ไม่มีการคิดคะแนนด้วย นี่เป็นเพียงความเห็นของนักอ่านคนนึงเท่านั้นนะครับ หากไม่ชอบหรือผมเผลอใช้คำรุนแรงก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าอาจารย์จะวิจารณ์โดยภาพรวมเท่านั้นหากไม่พอใจหรือต้องการให้เจาะลึกกว่านี้ต้องบอกกันก่อนนะครับ เริ่มจากชื่อเรื่อง บอกตรงๆว่าชื่อเรื่องดึงดูดมากครับเห็นงานนี้แล้วผมรู้สึกดีใจมากที่มีนิยายแฟนตาซีระทึกขวัญเข้ามา เลยตั้งความหวังไว้มาก ต่อมาคือเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนโดยเปิดตัวมาก็ทำให้รู้สึกตื่นเต้น บทนำสั้นๆแต่กระตุ้นให้ผมรีบเปิดบทที่หนึ่งอย่างรวดเร็วเพื่ออ่านเนื้อหา (ด้วยความโรคจิตของอาจารย์ที่อวยให้พระเอกตายตอนจบ) แต่สิ่งที่ผมผิดหวังในเรื่องนี้คือการบรรยายที่ค่อนข้างสั้นๆ ไม่ใช่ว่ามันสั้นเกินไปแต่เป็นบรรยายโดยการตัดคำที่จำเป็นออก บรรยายรวดเร็วเกินไป เช่นฉากต่อสู้ของหลี่กับวิกเตอร์ที่โรงเรียน มันจะดูสนุกและน่าสนใจมากกว่านี้หากเพิ่มบทต่อสู้ที่มีมิติมากกว่าการบอกแค่ว่าเขาสู้กันและเขาทำแบบนั้นๆ ผมขอยกตัวอย่างไว้เล็กน้อย “ไง..”เสียงทักทายที่คุ้นเคยดังขึ้นอย่างสนิทสนม “เธอมาจับฉันสินะ หลี่” วิเตอร์ไม่ใส่ใจกับคำพูดทักทายนั้นทำให้หลี่แสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเบื่อหน่าย “รู้เร็วจังนะ อย่างนี้ก็หมดสนุกน่ะสิ” เธอบอกพร้อมถอนหายใจยาว วิกเตอร์ยังคงจ้องเธออยู่ “คงไม่มีประโยชน์ถ้าจะขอให้เธอเลิกยุ่งกับฉัน” “นายก็รู้ดีนี่ เราหมดเวลาคุยแล้วแล้วล่ะ”หลี่ตอบพร้อมค่อยๆก้าวเข้ามาราวกับจะหยั่งเชิงว่าเขายังสามารถรับมือเธอได้รึเปล่า วิกเตอร์หัวเราะในลำคอเบาๆก่อนยิ้มแล้วเปรยขึ้นมา “งั้นก็น่าสนุกดีนี่” สิ้นเสียงเขาก็พุ่งตัวออกไปทางหน้าต่างข้างๆอย่างรวดเร็ว เสียงกระจกแตกดังก้อง ร่างของเขาพุ่งลงสู่สระว่ายน้ำด้านล่าง เหตุการณ์ประจวบเหมาะราวกับเขาได้เตรียมตัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เหมือนเขารู้ล่วงหน้าหรือเพราะเขาระวังตัวตลอดเวลา... “ว้าว ฉันนึกไม่ถึงเลย”หลี่ผิวปากชื่นชมก่อนจะพุ่งกระโจนตามลงมา”วางแผนได้ดีแต่คราวนี้เป็นทีของฉันแล้ว!”หลี่ตวัดขาเตะวิกเตอร์ทันทีเมื่อเขาตะกายขึ้นจากสระน้ำ วิกเตอร์ก้มหลบแต่ก็ทำให้เขาเซล้มลง เธอพุ่งเข้าหาพร้อมเผด็จศึก “เสร็จฉันล่ะวิกเตอร์!” “ยังหรอกน่า...”ชั่วพริบตาเขารีบล้วงกระเป๋าสื้อกาวน์หยิบระเบิดแสงออกมา ใช้ฟันกัดสลักแล้วดึง ระเบิดแสงลอยพุ่งเข้าใส่เด็กสาวทันที ในจังหวะที่ระเบิดแสงทำงานวิกเตอร์รีบฉวยโอกาสออกลุกขึ้นวิ่งหนี ระเบิดแสงทำให้ตาของหลี่พร่ามัวไปชั่วครู่แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอหยุดชะงัก เธอกระโดดป่ายไปตามขอบหน้าต่างตึกอย่างชำนาญทำให้หลี่สามารถตามเขาได้อย่างรวดเร็ว อันนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่ดัดแปลงมาเท่านั้นนะครับ เพราะในบทไม่ค่อยมีรายละเอียดมาก อย่างสีหน้า ท่าทาง อารมณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆมีเพียงแต่บทสนทนาและอารมณ์ของน้ำเสียงเท่านั้น การบรรยายถือเป็นจุดด้อยของเรื่องนี้เพราะบรรยายวกวน ตัดฉากยังไม่แนบเนียนพอ บางครั้งก็ทำให้ผู้อ่านสับสนได้ว่า กำลังอ่านในช่วงปัจจุบันหรือย้อนอดีต เนื้อหาเป็นส่วนที่ค่อนข้างซับซ้อนอย่างที่บอกโดยเฉพาะตัวละครแกต่ละตัวที่เก็บความลับเอาไว้ และชื่อตัวละครซึ่งมีอย่างน้อยตัวละสองชื่อทำให้ผู้อ่านสับสน ความสัมพันธ์ตัวละครยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าที่ควรนะครับและขอติเรื่องที่วิกเตอร์ยังแสดงความเป็นอัจฉริยะได้ไม่มากเท่าที่ควร เพราะการบรรยายของคุณไม่ค่อยคล่องตัวนัก ลักษณะนิสัยของวิกเตอร์จึงกลายเป็นเด็กที่ฉลาดกว่าเด็กทั่วไป พูดน้อยและไม่เข้าสังคมแทนที่จะเป็นเด็กอัจฉริยะอย่างที่วางไว้ตั้งแต่แรก ส่วนปมเรื่องวางไว้ค่อนข้างดีครับแต่มาเสียตรงที่ความสัมพันธ์ตัวละครแต่ละตัวที่ซับซ้อน ยากต่อการเรียงลำดับว่าใครมีความสำคัญอย่างไรทำให้เนื้อหาไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร อย่างหลี่มีความสัมพันธ์อย่างไรกับวิกเตอร์ อเลนเล่กับชาลีเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันหรือเป็นแค่พี่น้องในนาม ความสัมพันธ์ระหว่างวิกเตอร์และอเลนเล่ องค์กรลับที่วิจัยบางสิ่ง มันดูสับสน แนะนำให้เขียนในเรื่องที่ต้องการจะสื่อเป็นแก่นหลักก่อนเช่น ในตอนแรกการปูเรื่องเป็นเรื่องดีที่สุด ลองเขียนบรรยายความสัมพันธ์หรือให้ช่วงต้นนั้นตัวละครแต่ละตัวมีความอิ่มตัวทางความคิดก่อน จากนั้นค่อยๆเข้าสู่บทหลัก ดีที่สุดคือปูเนื้อให้จบในสองบทแรก การใช้ภาษายังอ่อนอยู่มาก บางครั้งฉากบรรยายก็น้อยเกินไป สิ่งท่ำบมากที่สุดในนี้คือ “อย่าง” เล่น”ยิ้มอย่าง หัวเราะอย่าง...”คืออธิบายแค่น้ำเสียงอย่างเดียวไม่มีคาแรกเตอร์หรือท่าทางประกอบ หากตันในศัพท์หรือคำที่จะนำมาใช้แนะนำให้ใช้ Google ช่วยจะได้ข้อมูลที่ละเอียดกว่านี้ หรืออ่านนิยายแนวนั้นๆเพื่อเก็บแต้มประสบการณ์ ศึกษาวิธีการเขียนของเขา นำมาปรับปรุงของเราให้ดีขึ้น เรื่องการตกแต่งผมจะขอไม่พูดถึงนะครับเพราะไม่มีเซ้นต์ด้านอาร์ตติสเท่าไหร่ แต่สำหรับผมถือว่าเข้ากับเนื้อหาครับโทนดำๆ(บังเอิญผมก็ใช้ธีมนี้ด้วย) แต่ขอติเรื่องการจัดหน้ากระดาษครับซึ่งก็คือ เมื่อขึ้นต้นบรรทัดใหม่ทุกครั้งควรกด Tab เพื่อเว้นย่อหน้าด้วยยกตัวอย่างเช่น ทั้งสองเปิดหาอยู่นาน เล่มแล้วเล่มเล่าก็ยังไม่เจอสิ่งที่ตามหา หรือเพราะวิกเตอร์ที่มีนิสัยไม่เข้าสังคม วันๆเอาแต่ขลุกอยู่ในห้องทดลองกับกองเอกสารและหนังสือ รูปถ่ายของเขาจึงหาได้ยาก “เดี๋ยวนะ คุณหลี่..”โปรแกรมเมอร์หนุ่มอุนทานขึ้นเมื่อนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง”วิกเตอร์เป็นหัวหน้าฝ่ายวิชาการไม่ใช่เหรอครับ?” “ตำแหน่งนั้นเพิ่งมีคนเข้ามาแทนน่ะ ที่ทำเนียบฝ่ายวิขชาการก็ไม่มีรูปของเขาอยู่ เพราะวิกเตอร์เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องทดลอง วิจัยแต่เรื่องแปลกๆ เวลาจะถ่ายรูแก็หลบหายไปทุกที” เป็นต้น มันจำทำให้อ่านง่ายและดูสบายตามากขึ้น ขอชมเรื่องที่ไม่มีคำผิดนะครับเพราะขนาดผมพิมพ์อยู่ยังกังวลว่าจะมีคำผิดหลุดไป สรุปคือ นิยายเรื่องนี้การบรรยายยังไม่ดีนัก แนะนำให้อ่านนิยายเยอะๆเพื่อศึกษาสำนวนของมืออาชีพ นำมาพัฒนาตัวเองและนิยาย เพราะถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป นิยายที่ปมดีๆแบบนี้จะถูกลืมและไม่เป็นที่สนใจเพราะการบรรยายและสำนวนไม่ดี เรื่องของสำนวนหรือการบรรยายนั้นอาจารย์ไม่สามารถสอนให้ได้ เพียงแค่แนะนำให้คุณศึกษาด้วยตนเองเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยตนเองได้โดยไม่ต้องหวังพึ่งใคร เมื่อไหร่ที่แก้ไขในเรื่องสำนวนหรือมีการรีไรท์ผมจะตามไปอ่านเพื่อดูว่าคุณได้พัฒนาฝีมือตนเองหรือไม่ ขอบคุณที่อ่านบทวิจารณ์ของผมจนจบนะครับ ยาวไปมากก็ขอโทษนะครับ นี่คือความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะนักอ่านคนนึงเท่านั้นหากมีจุดที่ผมเข้าใจผิดไปหรือต้องการชี้แจงอะไรก็สามารถท้วงหรือบอกได้นะครับ ขอบคุณครับที่ใช้บริการครับ อ.โอเอซิส   อ่านน้อยลง

    สภาอาจารย์โฮรอน | 5 ก.ค. 57

    • 3

    • 0

    ดูทั้งหมด

    คำนิยมล่าสุด

    "NighTime' รับวิจารณ์นิยาย"

    (แจ้งลบ)

    สวัสดีครับ คุณเบสท์ งานของคุณเบสท์เป็นอีกหนึ่งงานที่ใช้พลังกายพลังใจในการอ่านเยอะพอสมควร ด้วยความที่เป็นแนวที่อ่านยากเทียบกับแนวอื่นๆ สำหรับคำถามของคุณเบสท์ที่ว่าพอจะส่งสำนักพิมพ์ได้มั้ย ผมคงตอบว่าได้ ส่วนผลลัพธ์อาจจะกึ่งๆ ครับ ถ้าพูดถึงในส่วนของเนื้อเรื่องนะ เพราะนิยายเรื่องนี้ สามารถพัฒนาให้ดีกว่านี้ได้ และยังมีจุดให้ติอยู่พอสมควรทีเดียว อย่างไรก ... อ่านเพิ่มเติม

    สวัสดีครับ คุณเบสท์ งานของคุณเบสท์เป็นอีกหนึ่งงานที่ใช้พลังกายพลังใจในการอ่านเยอะพอสมควร ด้วยความที่เป็นแนวที่อ่านยากเทียบกับแนวอื่นๆ สำหรับคำถามของคุณเบสท์ที่ว่าพอจะส่งสำนักพิมพ์ได้มั้ย ผมคงตอบว่าได้ ส่วนผลลัพธ์อาจจะกึ่งๆ ครับ ถ้าพูดถึงในส่วนของเนื้อเรื่องนะ เพราะนิยายเรื่องนี้ สามารถพัฒนาให้ดีกว่านี้ได้ และยังมีจุดให้ติอยู่พอสมควรทีเดียว อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นผม แนะนำให้ลองส่งไปแล้วให้ทางสำนักพิมพ์ติกลับมา แบบนั้นจะสามารถแก้ไขได้ตรงจุดกว่าพวกผมที่เป็นนักวิจารณ์ตามอินเตอร์เน็ตอย่างแน่นอนครับ ^ ^ 1.ชื่อเรื่อง (9 คะแนน/10 คะแนน) – มันขัดตรง จิตสังหารด้านหลังครับ อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ ดูไม่ค่อยเข้ากับเนื้อเรื่องเท่าไหร่ แต่เรื่องความดึงดูดนี่ให้เต็มครับ 2.เนื้อเรื่อง (22 คะแนน/30 คะแนน) – เนื้อเรื่องนิยายเรื่องนี้จัดอยู่ในเกณฑ์ดีครับ แต่ก็ยังมีข้อติให้ติอยู่เช่นเดียวกัน เรื่องแรกเลยก็คือเรื่องอารมณ์ของเนื้อเรื่อง จากที่อ่านๆ มา อารมณ์ของเรื่องยังถูกปูได้ไม่ดีเท่าไหร่ บางช่วงอารมณ์ไม่ปะติดปะต่อเหมือนปะทุขึ้นมาดื้อๆ บางช่วงอารมณ์ขัดแย้งกันไปขัดแย้งกันมา ซึ่งทำให้เนื้อเรื่องที่สนุกเสียอรรถรสได้ (ตรงส่วนนี้มีขยายความในส่วนย่อย) เรื่องที่สองคือการดำเนินเรื่องราวครับ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นแนวซ่อนเงื่อนปนจิตวิทยาอย่างจิตใต้สำนึกและความทรงจำทำให้เนื้อเรื่องมีความลับซ่อนอยู่มากมาย ดังนั้นการดำเนินเรื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ทำให้ผู้อ่านหลงระหว่างอ่านครับ และเรื่องนี้ยังทำได้ในระดับพอใช้ค่อนไปทางดี ยังมีการสับเปลี่ยนฉากที่ตัดไปตัดมาชวนสับสน บวกกับการดำเนินเรื่องแบบไม่เรียงลำดับเวลา (มีพวกสามสิบนาทีก่อนหน้า) ทำให้ผู้อ่านค่อนข้างงง ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องแลดูไม่จำเป็นครับ อย่างฉากที่วิคเตอร์ชวนชาลีกลับบ้านในตอนที่6 คุณเบสท์สามารถให้เรื่องราวดำเนินต่อไปที่บ้านได้เลย โดยอาจจะบรรยายเพิ่มเติมไปหน่อยว่าพวกเขาตัดสินใจกลับมาที่บ้านแล้วพบกับหลี่ เป็นต้น เรื่องที่สาม เรื่องเวลา มันขัดแย้งกันเองครับ อย่างตอนที่4หรือตอนที่6เองก็ดี ตอนที่4 เปิดมาตอนแรกเขียนไว้ว่าเวลาผ่านมากว่าหกชั่วโมงแล้ว แต่พอชาลีนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้ากลับย้อนไปแค่ห้าชั่วโมงน่ะครับ ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าคุณเบสท์พิมพ์ผิดหรือผมอ่านแล้วเข้าใจผิด ส่วนตอนที่หกนั้น คุณเบสท์ขึ้นไว้ว่า ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว แสดงว่าต้องต่อจากฉากที่หลี่ชวนอเล็นเล่ แต่พออ่านไปก็เป็น ห้านาทีถัดมา ซึ่งแสดงว่าทั้งสองเดินทางใช้เวลาห้านาที แต่กลับพบหลี่อยู่ที่บ้านเรียบร้อยแล้ว? แล้วตกลงว่าสามสิบนาทีก่อนหน้านั้น ก่อนหน้ามาจากเหตุการณ์ไหนหรือครับ? ทางที่ดี เพื่อกันคนอ่านสับสน ควรเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนมาใส่ไว้ข้างหน้าครับ เรื่องสุดท้าย คือเนื้อเรื่องยังค่อนข้างเอื่อย ไม่เข้าประเด็น ไม่เข้าจุดเสียที มันเหมือนมีแต่น้ำ มีเนื้อน้อย ขนาดจุดประสงค์หลักของเรื่องผมยังจับจุดไม่ได้เลยครับ ขนาดอ่านมาแปดตอน ตัวละครแต่ละตัวยังอมพะนำว่าเป้าหมายของตัวเองคืออะไร แม้แต่ตัวเอกของเรื่องเองก็ตาม ซึ่งตรงนี้อาจทำให้ผู้อ่านบางคนรู้สึกเบื่อได้ บทนำ ในส่วนของบทนำ อารมณ์มันยังดึงออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควรครับ มันยังมีจุดขัดอารมณ์ลุ้นระทึกหลายจุดอยู่ อย่างตอนที่เอลเลนบอกว่าหมดหนทางหนี ผมว่า ฉากที่วิคเตอร์ปาดเหงื่อให้มันขัดกับอารมณ์กระวนกระวาย ในแง่ของอารมณ์และความเป็นจริง ลองจินตนาการดูว่า หากคุณกำลังวิ่งหนี หมดหนทางรอด คุณคงไม่มีใจที่จะยิ้มขอบคุณก่อนแล้วค่อยตระหนกขึ้นมา ยิ่งอยู่ในสถานการณ์คับขันด้วยแล้วยิ่งดูแปลก มันเหมือนคุณค่อยๆหย่อยตัวลงนั่ง แต่กลับมีแรงบางอย่างผลักให้คุณกระโดดอย่างรวดเร็ว ประมาณนั้นน่ะครับ หรืออย่างจุดที่เอลเลนถามเรื่อง เขา ที่วิคเตอร์พูดถึง มันไม่แสดงออกถึงความลนลานที่เธอมี มีแต่ความสงสัย ผมว่ามันน่าจะฟีลประมาณ “เขา? เธอพูดเรื่องอะไรน่ะ?!” เป็นอารมณ์ของความสงสัยปนอารามตระหนกมากกว่าครับ ฉากสุดท้าย ผมรู้สึกว่า อารมณ์ของสองฉากในตอนนี้มันขัดกันเอง ตอนแรกที่เป็นการไล่ล่า ผู้อ่านกำลังลุ้นกับเนื้อเรื่อง กลับถูกตัดด้วยอารมณ์บรรยายเหมือนเกริ่นหนังตอนฉากที่พูดถึงองค์กรเซนจูรี่(ขออนุญาตเรียกแบบนี้นะครับ ชื่อมันย๊าวยาว) ถ้าลองสลับที่กันมันอาจจะโอเคกว่าในความคิดของผมครับ บทที่1 ยังมีจุดขัดอีกครับ คือตอนที่เด็กสาวเดินเข้าไปในโบสถ์ เธอเกิดความสงสัยก่อนว่ามันคือที่ไหน แล้วค่อยตกใจเมื่อเห็นเด็กสาวอาการสาหัสที่พื้น คือถ้าจินตนาการโดยปกติ เราเดินผ่านประตูเข้าไป สิ่งแรกที่ปรากฏสู่ครรลองสายตาควรจะเป็นร่างที่นอนอยู่ที่พื้น ผมเลยรู้สึกว่ามันแปลกๆ ถ้าเราจะไม่สังเกตถึงสิ่งของที่ดึงดูดสายตาขนาดนั้นก่อน ถ้าสงสัยก่อนเปิดประตูเข้าไปผมคงไม่อะไรมากครับ 3.การใช้ภาษา (29 คะแนน/35 คะแนน) – สำหรับภาษาจัดว่าไหลลื่นดีนะครับ คำผิดเองก็น้อย ซึ่งส่วนมากจะเป็นชื่อตัวละครอย่างคาร์ลวิน(ซึ่งตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่า คาร์วิน หรือ คาร์ลวินกันแน่) ใช้ภาษาบรรยายได้เห็นภาพดี แต่ยังมีเรื่องความสั้นห้วนของภาษาอยู่ในระดับหนึ่ง ตรงนี้หากอ่านและแต่งไปเรื่อยๆ คงจะดีขึ้น บางครั้งที่มีสลับไปมาระหว่างการบรรยายแบบบุคคลที่สามกับบุคคลที่หนึ่ง ตรงนี้ผมว่าระบุไว้หน่อยก็ดีนะครับว่าเป็นมุมมองของใครหรือเปลี่ยนเป็นมุมมองแบบที่หนึ่งอะไรประมาณนั้นครับ กันผู้อ่านสับสน เพราะจู่ๆ มันก็ขึ้นมาเฉยเลย หรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นแบบใดแบบหนึ่งไปเลย แล้วก็ยังมีบางครั้งที่การบรรยายสลับเป็นเหมือนบทพูดของผู้เขียน (ดูได้ในส่วนย่อยของตอนที่ห้าครับ) อีกเรื่องคือว่าผมมีข้อสงสัย ทำไมตัวละครถึงชอบทวนชื่อครับ อย่างเช่นฉากที่แน็ทซ์เจอวิคเตอร์ก็จะต้องประมาณว่า “วิคเตอร์ คิงส์สินะ” หรืออย่างตอนที่วิคเตอร์ฟื้นมาตอนที่5 ก็ต้องทักว่า ”หลี่กับคุณคาร์ลวินสินะ” คือบางทีผมว่ามันแปลกน่ะครับ มันเป็นเกือบทุกตัวละครเลย ผมเลยรู้สึกว่ามันขัดๆ บทนำ คำผิด ไม่มีครับ รูปประโยคแปลกๆ ครับ - ...หมุนแล่นอยู่ติดตรึงในความทรงจำ ตรงนี้ผมว่าเป็น “หมุนแล่นติดตรึง อยู่ ในความทรงจำ” จะดีกว่าครับ คำว่าอยู่ที่แทรกกลางมันทำให้ประโยครู้สึกแปลกๆ บทที่1 คำผิด โรยริน – รวยริน , ประปลาย – ประปราย , คุมโปง – คลุมโปง , อาแป๊ะ – อาแปะ , มีบางประโยคที่ไม่จำเป็นต้องเคาะขึ้นบรรทัดใหม่อยู่นะครับ อย่างตอนที่เด็กสาวเปรยว่าที่นี่ที่ไหน หลังจากนั้นที่อธิบายว่าเธอเลิกคิ้ว สามารถไว้ในย่อหน้าเดียวกันได้เลยครับ บทที่2 คำผิด ท้างฟ้า – ท้องฟ้า , ในบทนี้มีพิมพ์ชื่อคาร์วินผิดครับ เป็นคาร์ลวิน หรือสลับกัน? บทที่3 คำผิด สรรถนะ – สมรรถนะ บทที่4 คำผิด ไม่มีครับ บทที่5 คำผิด ไม่มีครับ - เป็นโอกาสเหมาะของไฮดี้ที่จะค่อยๆ เดินไปหยิบปืนขึ้นมา เขาข่มความกลัวค่อยๆ หยิบมันขึ้นมา ตรงนี้ใช้คำซ้ำอ่านแล้วไม่ลื่นครับ อาจจะเป็น “เป็นโอกาสเหมาะของไฮดี้ที่จะเดินไปหยิบปืน เขาข่มความกลัวแล้วค่อยๆ หยิบมันขึ้นมา” หรืออะไรประมาณนี้มากกว่าครับ - แต่ทำไมเมื่อหยิบปืนขึ้นมาแล้วมือเขาถึงสั่นระริกอย่างนี้ล่ะ นี่ไฮดี้กำลังกลัวอยู่รึเปล่านะ เขาอดทน... ตรงส่วนนี้อ่านแล้วขัดครับ เพราะมันต่างจากลักษณะการบรรยายก่อนหน้า อาจจะเป็น “แต่เมื่อหยิบปืนขึ้นมาแล้วมือของเด็กหนุ่มก็สั่นระริก เขาอดทน...” หรือถ้าต้องการจะให้เป็นคำถามเหมือนเดิมอาจจะใช้วิธีเคาะหลังจาก “เขาอดทน...” ไปขึ้นบรรทัดใหม่ครับ จะได้อ่านแล้วไม่แปลกมาก บทที่6 คำผิด ทำไมได้ – ทำไม่ได้ , ชวย – ช่วย , สัญชาตญาณเอาชีวิต – ตก รอด ครับ - แววตาที่เชื่อมั่นไปด้วยความหวัง... น่าจะเป็น “แววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง” มากกว่าครับ บทที่7 คำผิด ไม่มีครับ ในบทนี้มีส่วนที่ชาลีแทนตัวเองว่าพี่สลับกับฉันตอนคุยกับอเล็นเล่ครับ บทที่8 คำผิด สนมนา – สนทนา 4.ตัวละคร (10 คะแนน/15 คะแนน) – ตัวละครในเรื่องนี้ บางตัวสามารถสื่ออารมณ์ได้ดีครับ แต่บางตัวก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ ตัวเอกอย่างวิคเตอร์ อเล็นเล่จัดว่าดีมาก มีการแสดงนิสัยออกมาได้อย่างชัดเจน ส่วนตัวของไฮดี้หรือชาลีนั้น ผมยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าดีมาก เพราะยังมีความไม่สม่ำเสมอของอารมณ์ของชาลีอยู่ครับ ผมอ่านแล้วไม่เข้าใจว่าชาลีจะเป็นคนใจร้อนหรือมีสติดี เพราะบางฉากจู่ๆ ก็เลือดร้อน แต่บางฉากก็ดูสุขุมดี ทั้งๆ ที่เป็นเหตุการณ์ใกล้เคียงกัน หรือบางทีดีๆ อยู่ก็โวยวายขึ้นมาครับ ส่วนไอริณกับหลี่ เป็นตัวละครที่มีลักษณะคล้ายกันในหลายๆ ด้าน การแยกแยะทั้งสองตัวจึงยังไม่ชัดเจน เท่าไหร่ และอย่างหลี่เองก็มีเคสคล้ายๆ กับชาลีตรงนิสัยดูไม่มั่นคงครับ คือบางทีดูเป็นคนนิสัยแข็งนอก อ่อนใน โลเล แต่บางทีก็ไร้หัวใจ ขี้เล่นคล้ายไอริณ คือ ผมคิดว่าควรจะทำให้ตัวละครแสดงออกมาเสถียรกว่านี้นะครับ คือให้ไปทางไหนสักทางจะดีกว่าน่ะ 5.การจัดรูปแบบ (10 คะแนน/10 คะแนน) – ไม่มีข้อติครับ อ่านง่าย สบายตาดี รวมคะแนน 80 คะแนน/100 คะแนน ผมเป็นนักวิจารณ์ฝึกหัด อาจจะมีผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ ^ ^ ผมเป็นคนเกณฑ์สูงครับ สารภาพตามตรงเลย แล้วก็ค่อนข้างจู้จี้จุกจิก เรื่องมากอีกหน่อย แหะๆ อาจจะยาวไปบ้าง แต่ทุกอย่างผมตั้งใจวิจารณ์ทุกรายละเอียดเท่าที่ผมสามารถทำได้ครับ ถ้ามีส่วนไหนก็ผมอ่านแล้วเข้าใจผิดไปก็ต้องขออภัยด้วยเช่นกันครับ ขอบคุณที่ใช้บริการร้านวิจารณ์ของผมนะครับ ^ ^   อ่านน้อยลง

    Killer in the Dark Shadow | 11 พ.ค. 58

    • 3

    • 0

    "สำหรับเรานะคะ"

    (แจ้งลบ)

    ชื่อเรื่องผ่านค่ะ ชวนให้กดอ่านดีนะคะ เราอ่านตัวอย่างมาห้าตอน เนื้องเรื่องค่อนข้างโอเคในระดับหนึ่งค่ะ ดำเนินลื่นไหลดีแต่ไม่ค่อยหวือหวาเท่าไร ค่อนข้างอ่านสบายๆมากกว่าสำหรับเรานะคะ คล้ายๆแนวของภาพยนตร์แบบไซไฟดีนะคะ สนุกแต่ยังไม่ชวนให้น่าติดตามมากนัก อยากให้ไรเตอน์ใส่จุดพีคเข้าไปมากกว่านี้ค่ะ บรรยายให้สื่ออารมณ์ขึ้นอีกนิดนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆนะคะ อ่านเพิ่มเติม

    ชื่อเรื่องผ่านค่ะ ชวนให้กดอ่านดีนะคะ เราอ่านตัวอย่างมาห้าตอน เนื้องเรื่องค่อนข้างโอเคในระดับหนึ่งค่ะ ดำเนินลื่นไหลดีแต่ไม่ค่อยหวือหวาเท่าไร ค่อนข้างอ่านสบายๆมากกว่าสำหรับเรานะคะ คล้ายๆแนวของภาพยนตร์แบบไซไฟดีนะคะ สนุกแต่ยังไม่ชวนให้น่าติดตามมากนัก อยากให้ไรเตอน์ใส่จุดพีคเข้าไปมากกว่านี้ค่ะ บรรยายให้สื่ออารมณ์ขึ้นอีกนิดนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆนะคะ  

    D.Maker | 20 เม.ย. 58

    • 3

    • 2

    ดูทั้งหมด

    ความคิดเห็น