ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] พ่ายรัก [ChanBaek] [NC 18+]

    ลำดับตอนที่ #8 : ชวนเข้าบ้าน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.34K
      51
      5 เม.ย. 57







    เมื่อได้ข่าวว่าแบคฮยอนไม่สบาย  ดีโอจึงได้มาเยี่ยมถึงที่บ้าน ขณะที่คนเป็นเพื่อนกำลังหายเป็นปกติ

     

     

    ได้ข่าวว่าแกไม่สบาย เป็นห่วงก็เลยแวะมาเยี่ยม

     

     

    ขอบใจแกมากนะ ที่อุตส่าห์มีน้ำใจมาเยี่ยม ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอก

     

     

    แบคฮยอนมองหน้าเพื่อนด้วยความตื้นตัน

     

     

    แกไม่เป็นอะไรมากฉันก็เบาใจ รู้ไหมที่บาร์น่ะ พอไม่มีแก ดูเงียบไปถนัด คุณชานยอลงี้มาทุกคืนแล้วก็หน้าเศร้ากลับไป

     

     

    สีหน้าของคนป่วยตึงขึ้นทันที... เมื่อได้ยินชื่อของชานยอล  แบคฮยอนป่วยก็เพราะคิดถึงการกระทำของเขาจนนอนไม่หลับ

     

     

    เขาอาจหาญทำกับร่างบางถึงเพียงนี้  ทั้งๆที่ก็มีผู้หญิงอยู่ข้างกายอยู่แล้ว เขาไม่ให้เกียรติกันเลยแม้แต่น้อย แบคฮยอนไม่ยอมญาติดีกับเขาเป็นอันขาด

     

     

    ดีโอ ฉันเคยบอกแกแล้วไงว่าอย่าเอ่ยชื่อของผู้ชายคนนี้ให้ฉันได้ยินอีก ฉันไม่อยากฟังเรื่องของเขานักหรอก

     

     

    เด็กหนุ่มพูดเสียงเรียบขรึม พลางขยับตัวเหยียดขาตรงๆอยู่บนเตียง  เองหลังพิงหัวเตียงมีหมอนใบหนึ่งวางอยู่บนตัก เพื่อให้วางแขน

     

     

    เพียงแค่แบคฮยอนป่วยไม่กี่วัน  ร่างกายยังทรุดโทรมถึงเพียงนี้

     

     

    ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจแต่ถ้าแกเป็นฉัน แกจะรู้ว่าคุณชานยอลเขาชอบแก

     

     

    คำพูดนั้นทำให้หัวใจของคนฟังวูบวาบขึ้นครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับเข้าสู่สภาพเดิมเมื่อคิดถึงหลักความจริง

     

     

    ชานยอลไม่มีวันที่จะชอบคนอย่างเราได้หรอก ในเมื่อสถานะ มันต่างกันราวฟ้ากับเหว  แบคฮยอนคิดในใจ ชีวิตของเขาแวดล้อมด้วยผู้หญิง ผู้หญิงอีกมากมายที่เดินมาให้เขาเลือก

     

     

    แบคฮยอนก็แค่คนธรรมดา  ที่เขาอาจจะมองเป็นเพียงของเล่นชิ้นใหม่

     

     

    เป็นไปไม่ได้หรอกดีโอ แกอย่าพูดหน่อยเลย ถ้าเกิดเขามาได้ยินมันไม่เหมาะนักหรอกนะ รวมทั้งผู้หญิงของเขาด้วย”  แบคฮยอนตำหนิเพื่อน

     

     

    ก็ได้ ถ้าชื่อของเขาทำให้แกไม่สบายใจฉันก็จะไม่พูดถึงเขาอีก

    .

    .

    .

     

     

    แบคฮยอนกลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ช่วยเรียกแขกกลับเข้าร้านได้ดีดั่งเดิม

     

     

    และชานยอลก็มาเป็นแขกของบาร์แห่งนี้ แถมยังเป็นแขกประจำเสียด้วย

     

     

    หายดีแล้วแบคฮยอน” ซูโฮถามเสียงเป็นห่วงในฐานะเพื่อนที่ร่วมงานกันมานาน

     

     

    หายดีแล้วครับ ขอบคุณ

     

     

    ตั้งแต่คุณไม่อยู่ ที่ร้านดูเงียบเหงาไปถนัดตาเชียวครับ

     

     

    สาเหตุคงไม่ได้มาจากผมหรอกนะครับ คุณซูโฮ

     

     

    ทุกครั้งที่แบคฮยอนพูดกับซูโฮมักจะเป็นทางการเสมอ แม้จะถูกขอร้องอย่างไรก็ตาม

     

     

     

    คุณนั้นแหละครับ คือสาเหตุใหญ่ แขกทุกคนถามถึงแต่คุณ โดยเฉพาะที่โต๊ะโน้น

     

     

    แบคฮยอนมองไปตามมือของคนพูด... แล้วหัวใจก็เต้นแรง.. เมื่อสายตาสะดุดเข้ากับสายตาคมเข้มพอดี

     

     

    ดูเหมือนเขาจะมองเจ้าของร่างบางอยู่ก่อนนานแล้ว... ท่าทางบอกว่าสนใจ แบคฮยอนรีบเบนหน้ากลับทันที สีหน้าเปลี่ยนไปจากเดิม

     

     

    เขาคงหาคนทะเลาะด้วยไม่ได้มังครับ”  แบคฮยอนพูดเหมือนไม่ใส่ใจ

     

     

    ผมว่าเป็นเพราะสาเหตุอื่นมากกว่าครับ

     

     

    อะไรละครับ”  หัวคิ้วเรียวสวยกระตุกเข้าหากันทันที

     

     

    ผมยังบอกคุณตอนนี้ไม่ได้หรอกครับ... เอาไว้ให้ผมมั่นใจกว่านี้เสียก่อน

     



    คุณซูโฮนี้ทำตัวลึกลับจริงนะครับ”   แบคฮยอนว่าเหมือนหมั่นไส้ ก่อนจะเดินออกไปทำงานตามปกติ

     

     

     

    เมื่อทำงานเสร็จแล้ว แบคฮยอนก็เดินมาด้านหลังของบาร์... รู้สึกปวดหัวขึ้นมาอีก... ปวดหนักๆจนแทบจะพยุงตัวเองไม่อยู่

     

     

    ยาก็ไม่ได้เอาติดตัวมา เพราะไม่ได้เฉลียวใจว่าจะกลับเป็นโรคนี้ขึ้นมาอีก... โรคปวดหัวที่กำเริบทุกครั้งที่แบคฮยอนมีเรื่องที่จะทำให้คิดหนัก

     

     

    แบคฮยอนรู้สึกปวดมากจนหน้าชา...  มองใบหน้าที่ไร้คราบของเครื่องสำอางด้วยความสังเวชใจ

     

     

    เมื่อแบคฮยอนไม่มีเครื่องพอกหน้าปิดบังความหมองอีกอย่างนี้...  ก็ยิ่งทำให้หน้าตาของแบคฮยอนซีดเซียวจนแทบดูไม่ได้

     

     

    แบคฮยอนกุมศีรษะพยายามพยุงตัวเองเดินออกมาข้างนอกได้อย่างลำบาก แล้วร่างของแบคฮยอนก็เซถลาทำท่าจะเสียหลัก ดีแต่ว่ามีร่างแข็งแรงของใครเขาหนึ่งเข้ามาพยุงไว้


     

    คุณ” 




    แบคฮยอนเห็นเขาพอลางๆเพราะดวงตามันพร่ามัวไปหมด...  พยุงตัวเองไม่อยู่จนต้องยอมให้เขาพยุง

     

     

    ท่าทางคุณไม่สบายนี่นา ผมจะไปส่ง

     

     

    เขาพูดเสียงทุ้มใกล้หู.... เด็กหนุ่มรู้สึกถึงความตึงแน่นของกล้ามเนื้อของเขา.... และรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด

     

     

    ไม่ต้องครับ ถ้าจะเป็นธุระก็พาผมไปเรียกแท็กซี่ที

     


    แบคฮยอนบอกเขาเสียงพร่าเบา... ชานยอลรู้สึกหมั่นไส้ที่แม้ตัวเองกำลังจะเป็นจะตายแต่ก็ยังทำอวดดี

     

     

    เขาส่งยาพร้อมกับแก้วน้ำที่ขอมาด้วยให้เด็กหนุ่ม แบคฮยอนรับยาทานแต่โดยดี

     

     

    ไม่นานนักเพราะฤทธิ์ยา... แบคฮยอนจึงรู้สึกดีขึ้น ชานยอลจึงขับรถไปต่อ

     

     

    ค่อยรู้สึกดีขึ้นหรือยัง

     

     

    ชายหนุ่มร่างสูงหันมาถามเสียงทุ้ม.. มองเสี้ยวหน้าซีดเซียวอย่างเวทนา.. พ่อแม่ของแบคฮยอนเป็นใครกันนะ ทำไมไม่เอาใจใส่คนตัวเล็กซักเท่าไหร่เลย

     

     

    ดีขึ้นมากแล้วครับ.. ขอบคุณมากสำหรับน้ำใจ

     

     

    แบคฮยอนตอบเขาเสียงเรียบ ทั้งที่ไม่หันมามองหน้าเขา พอดีขึ้นมาหน่อยท่าทางแบคฮยอนก็ถือว่าอวดดีขื้นมาเลย ชายหนุ่มนึกค่อนอย่างหมั่นไส้

     

     

    รู้ว่ายังไม่หายดีทำไมถึงต้องมาทำงานอย่างนี้.... มันไม่ได้คุ้มเสียรู้หรือเปล่า

     

     

    เขาตำหนิร่างเล็กเสียงจริงจัง ทำให้ใบหน้างามเชิดขึ้นอย่างไม่พอใจ

     

     

    จะทำยังไงได้ครับ... ผมไม่ได้มีเงินล้นฟ้าเหมือนคนบางคนนี่... จะได้นอนตีพุงเล่นอย่างสบายอยู่ที่บ้าน

     

    แบคฮยอนจงใจว่ากระทบเขา...  ชานยอลรู้ดี.. แต่เขาก็ไม่รู้สึก กลับนึกขันเสียด้วยซ้ำกับคำเปรียบเปรยที่ร่างบางเลือกสรรมาพูด

     

     

    ไม่มีใครจะสบายอย่างที่คุณพูดหรอกนะ... จริงๆแล้วทุกคนก็ต้องทำงานด้วยกันทั้งนั้นชายหนุ่มอธิบายเสียงทุ้ม

     

     

    แต่เขาก็มีเศษเงินทีเหลือเก็บค่อยหว่านโปรยให้คนที่เขาชอบใครเอาไปไว้ดูเล่นอยู่ดีนั้นแหละ

     

     

    รถกระตุกเมื่อร่างบางพูดเช่นนั้นออกมา

     

     

    ผมยังเคยคิดเลยว่า... ทำไมพวกเขาเหล่านี้ถึงไม่คิดเอาเงินไปทำสิ่งอื่น ที่เป็นประโยชน์ต่อคนยากจนและสังคม

     

     

    กระแสเสียงของแบคฮยอนขรึมและดูจริงจังเสียจนคนฟังรู้สึกซาบซึ้งไปด้วย...  คำพูดของร่างบางแต่ละคำล้วนแสบสันและมีสาระทั้งนั้น

     

     

    คุณน่าจะได้เป็นนักการเมืองนะ เพราะคุณพูดมีสาระดี

     

     

    เขาพูดกระเช้าแบคฮยอนเป็นผลให้ถูกค้อนด้วยความหมั่นไส้... แต่ก็ไม่พูดอะไรเพราะรถมาถึงบ้านแบคฮยอนพอดี

     

     

    คุณจะไม่เชิญผมเข้าบ้านหน่อยหรือ ขอผมได้ดื่มน้ำเย็นๆซักแก้วก็ยังดี”  ชายหนุ่มร่างสูงทวงถามเมื่อเด็กหนุ่มก้าวลงจากรถโดยไม่เอ่ยปากชวนเขาซักคำ

               

    ร่างบางชะงักก่อนจะหันมาพูดกับมา

     

               

    ถ้าไม่รังเกียจก็เข้ามาซิครับ”  แบคฮยอนบอกเสียงไม่เต็มใจนัก.. แต่ด้วยมารยาทที่ทำให้แบคฮยอนต้องชวนเขา... แต่ชายหนุ่มร่างสูงก็เดินตามลงไปอย่างเต็มใจ

     

     



     

      

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×