คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ 100%
บทนำ
ภาพความสวยงามของแสงไฟจากบ้านริมน้ำสองฝั่งคลองที่ขนาบเรียงรายสะท้อนบนผิวน้ำของลำคลองสายเล็กๆในแถบชานเมืองนั้นไม่ได้ทำให้คนที่อดหลับอดนอนทำงานมาตั้งแต่เมื่อคืนมีอารมณ์อยากจะลุกมาสัมผัสความสุนทรีกับบรรยากาศมากนัก
จนกระทั่งเสียงของนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ดังขึ้น มือบางเคลื่อนไปหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงขึ้นมาเปิดดูเวลา
ก่อนจะตัดสินใจกดเลื่อนเวลาไปอีก
“ตีห้าครึ่ง...ขอนอนอีกครึ่งชั่วโมงก็ยังดี” ว่าแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดทั้งคืน
“เอ้กอี้เอ่กเอ้ก...จิ๊บๆๆ” เสียงของไก่และนกกระจิบที่ร้องดังเซ็งซ้องไปทั่วนั้นคุ้งน้ำทำเอาคนที่เพิ่งจะนอนหลับหมาดๆต้องตื่น
ร่างบางพลิกตัวไปมาด้วยความหงุดหงิดใจ
ไหนจะเสียงตะหลิวเคาะกระทะจากครัวด้านล่างอีก สิ่งเหล่านี้ผนวกกันรบกวนการนอนจนหญิงสาวตัดสินใจลืมตาตื่นเพื่อตัดรำคาญ
“พี่วลีตื่นหรือยัง!!! หลวงตาจะมาถึงแล้วนะ เร็วๆรีบตื่นเดี๋ยวนี้!!!”เสียงตะโกนปลุกของน้องชายตัวแสบดังแหวกทะลุผนังห้องมาแต่ไกลตามมาด้วยเสียงฝีเท้ากระทบแผ่นไม้ที่ค่อยๆดังใกล้เข้ามาทุกที
“พี่ขอห้านาทีค่อยลุกนะ
อย่าเพิ่งกวนพี่ เดี๋ยวพี่ตามไป”คนเป็นพี่พูดเสียงอู้อี้อยู่ใต้ผ้าห่ม
เด็กชายวัยสิบขวบกะพริบตาปริบๆมองมือพี่สาวที่กวักๆไล่อยู่เหนือผ้าห่มด้วยแววยิ้มเจ้าเล่ห์
“ไม่ยอมตื่นใช่ไหม? นี่แหนะๆๆ” มือเล็กอวบของเด็กชายจี้จู่โจมไปที่ลำตัวของพี่สาวด้วยความรวดเร็ว
ทำเอาคนที่กำลังสะลืมสะลืออยู่สะดุ้งกลิ้งหลบการจู่โจมเป็นพัลวัน สุดท้ายก็หนีไม่พ้นร่างอ้วนๆของน้องชายที่โถมเข้ามาทับร่างของตนแบบไม่ทันตั้งตัว
“ฮะ...ฮาฮ่าๆๆๆ
นี่แหนะๆ”เสียงหัวเราะปนความสะใจของเด็กชายดังลั่นไปทั่วห้อง
คนเป็นพี่อาศัยจังหวะที่น้องชายกำลังเผลอตวัดเอาร่างอ้วนๆพลิกมาล็อกแขนและจับกดลงกับหมอน
ผ้าห่มกระจัดกระจายเต็มเตียง
มือบางเปลี่ยนตำแหน่งมาจี้ที่พุงอ้วนๆของน้องชายแทนทันที
“ไม่รู้จักพี่ซะแล้วไอ้หมูตอน”คนเป็นพี่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะ
“โอ๊ย!!! ฮะ ฮ่าๆๆ.....ฮ่าๆๆๆ ปล่อยเค้านะ ยอมแล้วเค้ายอมแล้วพี่วลีคนสวย ฮ่าๆๆ ชาลียอมแล้วคร้าบบ
ปล่อยยยยยย!!!!!”
“นึกว่าจะแน่
โธ่เอ๋ย!!!”คนเป็นพี่ยิ้มสะใจอย่างผู้ชนะแล้วปล่อยร่างตุ้ยนุ้ยของน้องชายออก
เมื่อหลุดพ้นจากพันธนาการคนที่แพ้ก็รีบกลิ้งหมุนร่างกลมๆของตนหลบหนีพี่สาวไปอีกฝั่งของเตียงทันที
“ก็ตัวตัวสูงกว่าเค้า
คอยดูเถอะถ้าเค้าสูงกว่าตัว ตัวสู้เค้าไม่ได้หรอก”ชาลีมองพี่สาวค้อนๆไม่ยอมจนแต้มง่ายๆ
“หืมมมมมมม...งั้นหรอจ๊ะ กลัวตายละ พูดจาแบบนี้อยากโดนอีกใช่มะ!!!!”คนเป็นพี่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงติดหมั่นไส้ลุกขึ้นพรวดพร้อมกระโจนเข้าหาร่างอ้วนๆของน้องชายเเต่ก็ไม่ทันเสียเเล้วเมื่อเจ้าน้องชายตัวดีใส่เกียร์หมาวิ่งหนีไปด้วยความรวดเร็วพร้อมเสียงตะโกนเเหกปากลั่นบ้านราวกับต้องการให้ผู้เป็นยายที่กำลังจัดเตรียมข้าวของรอตักบาตรอยู่ด้านล่างได้ยิน
“ไอ้ตัวแสบ!!!”เกวลีก่นด่าตามหลัง
หญิงสาวส่ายหน้ามองหลังไวไวของน้องชายอย่างไม่ถือสา นี่ถ้าไม่เห็นแก่ 'ศิรินทร์' หรือน้าของเธอซึ่งเป็นแม่ของชาลีด่วนเสียไปก่อนด้วยโรคร้าย
ชาลีก็คงไม่มีโอกาสแก่นเซี้ยวเปรี้ยวซ่าได้ขนาดนี้หรอก
คิดได้แค่นั้นหญิงสาวก็หันมาจัดการพับผ้าห่มและที่นอนให้เรียบร้อยก่อนจะเดินตามลงไป
“อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฒาปะจายิโน จัตตาโร ธัมมตาวัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง.....พลัง”
“สาาาาา.....ธุ๊!!!!!”
“น้อยๆหน่อยเถอะหยะ....หมั่นไส้!!!!”เกวลีก้มจรดปลายนิ้วที่หน้าผากแล้วเอ่ยออกมาด้วยความเอ็นดูปนหมั่นไส้ในความโอเวอร์เเอคติ้งของน้องชาย
เพี๊ยะ!!!!
มือเหี่ยวย่นของหญิงชราผู้เป็นยายตีลงมาที่หลังมือของหลานสาวทันที ทำเอาคนที่ถูกตีสะดุ้งเล็กน้อย
“เสียมารยาทยายวลี...ต่อหน้าคุณพระคุณเจ้า”เกวลีแยกยิ้มแหยๆให้กับหลวงตาและเด็กวัดที่อยู่ในเรือ ข่มอารมณ์ไว้แต่ในใจก็ยังไม่ยอมลงให้น้องชาย
“สมน้ำหน้า...555” เสียงหัวเราะคิกคักปนกับข้อความแกมสะใจของเด็กแสบที่นั่งอยู่ข้างๆดังลอยเข้ามากระแทกหู
เกวลีเหล่ตามองไปที่เด็กชายอย่างจำนนไปก่อนพลางคิดในใจว่าหากเรือของหลวงตาพ้นชายคาศาลาริมน้ำไปเมื่อไหร่
ไอ้หมูตอนตัวนี้จะต้องถูกตอนจริงๆอย่างแน่นอน
หลังจากนั่งระงับอารมณ์ฟังผู้เป็นยายเสวนาพาทีเรื่องงานบุญใหญ่ที่กำลังจะจัดเร็วๆนี้กับหลวงตาเสร็จ
เกวลีก็แสร้งลุกขึ้นบิดขี้เกียจตีเนียนไม่ให้หมูตื่น ตาคู่สวยเล็งไปทาง 'นงลักษณ์' ผู้เป็นยายที่กำลังเดินกลับเข้าไปในบ้าน
เมื่อสบจังหวะที่น้องชายเผลอ มือบางจึงค่อยๆเอื้อมไปคว้าแขนของน้องชายทันที
‘หึ!!
มาให้ลงโทษซะดีดี กล้ามาเเหยมกับลูกพี่ กลายเป็นหมูจุ่มซะเถอะคราวนี้55555’
“น้องวลีจ๊ะ น้องวลี!!!!...คุณกรณ์มาหาจ๊ะ” เสียงเรียกของ‘แป้น’ลูกมือทำขนมของนงลักษณ์ที่มีอายุมากกว่าเธอเอ่ยตะโกนมาแต่ไกล
ทำเอาคนที่กำลังจะตะครุบเหยื่อเป็นอันต้องพับเก็บโครงการไว้ก่อน นับว่าเจ้าน้องชายวัยนี้โชคดี
สวรรค์ส่งคนมาช่วยได้ทันเวลา ฝากไว้ก่อนเถอะ!!!
เกวลีถอนใจเล็กน้อยก่อนหันไปหาคนที่สวรรค์ส่งมาช่วยชาลี ร่างของชายวัยกลางคนที่
‘เคย’คุ้นเคยกำลังเดินตรงมาที่เธอ
เกวลีกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่
นานกี่ปีแล้วนะที่เธอไม่เคยได้เจอคนๆนี้ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้น
“พ่อ...”หญิงสาวเอ่ยออกมาเบาๆก่อนปรับสีหน้าเป็นปกติเมื่อเห็นร่างนวยนาดของผู้หญิงในวัยเดียวกันที่แต่งกายด้วยชุดกรุยกรายไม่เข้ากับสภาพแวดล้อมใดใดในที่นี้เลยสักนิดอยู่ด้านหลัง
‘กรณ์’ พ่อของเธอ
“สวัสดีค่ะพ่อ คุณนภา” เกวลียกมือไหว้ตามมารยาท
“เป็นไงบ้าาาา..... ”ยังไม่ทันจบที่คนเป็นพ่อเอ่ยทักทายกับลูกสาวจบ
คนข้างกายก็เอ่ยแทรกขึ้นมาทันที
“ไม่เจอนานเลยนะหนูวลี แหม...โตเป็นสาวแล้วสวยขึ้นเป็นกอง
ไม่เหมือนแต่ก่อน...ป้าไม่อยากจะพูดถึง หึๆ”
คุณนายนภายิ้มขำไม่เอ่ยต่อ
แต่เกวลีก็รู้ว่ามันไม่ใช่คำชมแน่นอนดูจากสายตาดูถูกและน้ำเสียงกระแหนะกระแหนของอีกฝ่าย
ทำไมเธอจะสัมผัสไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะพูดถึงเรื่องดีๆเกี่ยวกับเธอ
ตั้งแต่รู้จักกันมาคุณนายนภาก็ไม่เคยพูดจาดีกับเธอเลยสักกะนิดเดียว แถมยังทำตัวเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายตามสูตรนิทานหลอกเด็กไม่มีผิด
“มีอะไรกันหรือคะ?.....มาถึงที่นี่”
เจ้าของบ้านถามยิ้มๆพยายามข่มอารมณ์ในใจ นี่ถ้าเธอไม่เกรงใจกรณ์ที่ยืนอยู่ข้างๆและระลึกถึงมารยาททางสังคมที่ผู้เป็นยายเพียรสั่งสอนมาทั้งชีวิต
หญิงสาวคงจะเอ่ยอีกอย่างออกไปเป็นแน่
‘มาเพื่อ?’
“อ๋อ!!! ก็ไม่มีอะไรมากหรอกจ่ะหนู
เฮ้ออออ....แต่ป้าว่าอย่างคุยกันตรงนี้เลย ร้อนก็ร้อน เหม็นสาบโคลนอีก ป้าว่าไปคุยกันข้างในบ้านดีกว่านะจ๊ะ
นะคะคุณ”ว่าเสร็จคุณนายปากแดงก็เดินควงแขนสามีเข้าบ้านไปหน้าตาเฉย
เกวลีเหลือบมองอากัปกิริยาของอีกฝ่ายแล้วเบ้ปากอย่างหมั่นไส้
นี่ขนาดเพิ่งทำบุญไปมารยังมาผจญแต่เช้าเลย
สงสัยต้องไถ่ชีวิตโคกะบือหรือบวชชีสักพรรษาซะมั้งถึงจะมีบุญพอมาไล่นางพญามารตนนี้ให้ไปไกลๆจากชีวิตอันแสนสงบสุข
เซ็งงงงงงงงง เว้ยยยย!!!!!!.....
“น้ำเย็นๆมาแล้วคร้าบบบบ คุณลุงคุณป้า”เด็กชายชาลีกุลีกุจอวางน้ำที่เตรียมมาใส่แก้วให้กับญาติผู้ใหญ่ทั้งสองอย่างอารมณ์ดี
กรณ์รับมาพร้อมยิ้มให้กับหลานชาย เเต่........
“น้ำจากไหนจ๊ะเนี่ย สะอาดหรือเปล่า?? ป้ากินน้ำธรรมดาไม่ได้หรอกนะ”เกวลีหันมองคุณนายกระแดะอย่างปลงๆนี่ไม่รู้ว่าพ่อของเธอทนอยู่กับผู้หญิงมากเรื่องคนนี้ได้ยังไง
แค่เจอหน้ากันไม่ถึงสองวินาทีเกวลีก็อยากจะถอดวิญญาณตัวเองไปลอยไปดาวอังคารเเล้ว
“น้ำฝนฮะ กินได้ครับ ต้มกับกรองแล้วด้วย“เด็กชายตอบกลับไปตามตรง
“อี๋!!! น้ำล้างหลังคา!!!! ป้าทานไม่ได้หรอก
เกิดท้องเสียขึ้นมาจะทำยังไง”
“ท้องเสียก็กินยา หรือไม่ก็ไปโรงพยาบาลสิฮะคุณป้า
จะทนปวดอึ๊ทำไม”เกวลีนั่งอมยิ้ม สะใจพี่มากไอ้น้องชาย
ครั้นพอหันไปทางกรณ์ก็ต้องรีบหุบยิ้มโดยไว ขณะที่แม่เลี้ยงของเธอก็ยังไม่หยุดทำท่าทีฮึดฮัดสักที
“คุณเเม่มาเเล้วคุณ”กรณ์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างของหญิงชราเดินเข้ามาพร้อมขนมเทียนที่เพิ่งทำเสร็จใหม่พูนจานวางบนโต๊ะ
“มากันยังไงละพ่อ กินขนมเสียก่อนสิ ฉันทำไว้กะใส่บาตรแต่มันมือไปหน่อยเลยทำเสียเยอะ”นงลักษณ์ยิ้มให้กับแขกทั้งสอง
“ไม่รบกวนหรอกค่ะคุณป้า
คือที่นภากับคุณกรณ์มาที่นี้เนี่ย...เพียงแต่อยากมาเชิญไปงานหมั้นของลูกฉัตร
นี่เห็นว่าเป็นคนกันเองนะคะเลยมาเรียนเชิญด้วยตัวเอง...นี่ค่ะการ์ดเชิญ”นงลักษณ์ผู้เป็นยายของเกวลีรับการ์ดมาอย่างเสียมิได้ผิดกับหลานสาวที่ได้แต่กรอกตามองบน
‘อวดละสิไม่ว่า’ เกวลีก่นด่าอยู่ในใจ
มือก็เอื้อมไปหยิบขนมเทียนขึ้นมาแกะกินแก้เซ็งแทน
“งานนี้จัดใหญ่โตมากเลยนะคะ แขกเกือบพันคน
นักข่าวมาทุกสำนัก แขกบางคนนี่ระดับท่านรัฐมนตรีเลยทีเดียว
เอ่อ...อย่าหาว่านภาจุกจิกอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะคะคุณป้า นภารบกวนให้แต่งตัวให้สมเกียรติงานลูกฉัตรหน่อย
ชุดไม่แพงนภาไม่ว่า เพราะเข้าใจว่าคงไม่มีปัญญาซื้อกัน
แต่ยังไงขอความร่วมมือหน่อยนะคะว่าอย่าเอาชุดตามตลาดไปใส่ หรือถ้าไม่มีจริงๆ บอกนภามาได้เลยค่ะเดี๋ยวนภาจัดการให้เอง
ต้องเข้าใจนะคะว่านภาไม่อยากขายหน้าแขกระดับสูงนะค่ะ
ยิ่งต้องบอกว่าเป็นญาติกันด้วย อย่างน้อยจะได้ดูระดับเดียวกันหน่อย นภา.....”
“เพล้ง!!!!!!!!!!”เสียงจานหล่นกระทบพื้นจนขนมกระจัดกระจายไปคนละทาง
“อุ้ย!!!!!ขอโทษค่ะ วลีไม่ทันระวัง
ช่วงนี้วลีพักผ่อนน้อยนะค่ะ พอได้ยินอะไรที่มันไม่เข้าหูปุ๊บมือไม้มันก็จะอ่อนทันที
ขอโทษที่ขัดจังหวะนะคะคุณนภา”คนพูดว่ายิ้มๆมือก็ก้มเก็บเศษจานและขนมบนพื้นก่อนที่จะลุกไปทิ้ง
แต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากห้อง คนที่เป็นลูกเลี้ยงก็ปรายตามามองแม่เลี้ยงอย่างกวนๆ
“เอ่อ...จริงๆงานเลี้ยงของฉัตร วลีอยากไปม๊ากมากนะคะ
แต่ขอไม่ไปดีกว่า วลีไม่ชอบปั้นหน้า
ยิ่งแขกเป็นร้อยเป็นพันอย่างที่คุณนภาว่าวลีคงจะเมื่อยหน้าแย่”เกวลีสวนกลับไปด้วยน้ำเสียงนิ่ง ในที่สุดความอดทนของเธอก็ถึงขีดสุด
พอทีกับการต้องมาทนฟังคุณนายนภาพร่ำพูดเหยียบหัวคนไปทั่วอย่างไร้สำนึก
“น่าเสียดายจังนะคะ...นภาอุตส่าห์ให้คุณกรณ์พามาเชิญด้วยตัวเองแต่หนูวลีไม่ยอมไปอย่างนี้ก็ไม่สนุกสิคะคุณ”คนพูดว่าพลางทำเสียงเศร้า
เกวลีที่ยังถือเศษจานและขนมถึงกับเบ้หน้ามองการแสดงด้วยความหมั่นไส้ หญิงชราเอื้อมมือกุมมือหลานสาวให้ใจเย็นลง "ยายวลีไปเเน่จ่ะ คุณนภาไม่ต้องเป็นห่วง”
“ยาย!!!!”
คนเป็นหลานโพล่งออกไปอย่างลืมตัว ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าที่คุณนายนภารบเร้าให้พวกเธอไปเพราะอะไร
ถ้าไม่ใช่เอาเธอไปประจาน สาธยายเปรียบเทียบกับ ‘คันฉัตร’
น้องสาวต่างมารดาว่าสูงค่ามากแค่ไหน
พร้อมกับอวดสรรพคุณความเมตตาของตัวเองว่ามีมากล้นเพียงใดที่สงสารรับเลี้ยงดูลูกเลี้ยงอย่างเธอ
ชิ!!
“นั่นสิพี่วลีไปเถอะ
ชาลีอยากไปเที่ยวกรุงเทพฯนะ นะ นะ”
น้องชายตัวอ้วนคะยั้นคะยออย่างเอาเป็นเอาตาย บวกกับสายตาของผู้เป็นยายที่มองมาเชิงบังคับ
เกวลีหลับตาลงไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น
“เเต่…… ”เกวลียังไม่ยอม
“ไปเถอะลูก ถือว่าทำเพื่อพ่อสักครั้ง”คนเป็นลูกมองหน้าผู้เป็นพ่อแล้วลอบถอนใจ
ยี่สิบปีที่ผ่านมาพ่อใช้คำๆนี้เพื่อขอให้เธอยอมก้มหัวให้สองแม่ลูกนี้ตลอด และมันก็ได้ผลเสียด้วย
เพียงคำขอของพ่อไม่กี่คำ
มันคือจุดอ่อนเดียวที่คนอย่างเธอไม่กล้าปฏิเสธและทำตามคำขอของพ่ออย่างไร้ข้อกังขา แต่พ่อคงลืมไปว่าเธอไม่ใช่แค่เด็กหญิงเกวลีคนเดิมอีกต่อไปแล้ว
ตอนนี้เธอโตพอที่จะยืนด้วยขาของตัวเองและจะไม่ยอมก้มหัวให้ใครอีก
โดยเฉพาะคุณนายนภามหาภัย...แม่เลี้ยงของเธอ เกวลียังไม่ตอบรับอีกฝ่ายในทันทีพรางนึกคิดชั่งใจอยู่ว่าตนจะเอายังไงดี
“อ่อ...แม่นภาพ่อกรณ์คงไม่ถือสาฉันหรอกนะ วันหมั้นของลูกแม่นภาน่ะตรงกับวันที่วัดเค้าจัดงานบุญทอดกฐินใหญ่
แล้วฉันก็ตกปากรับคำหลวงตาไว้เสียแล้วน่ะสิ
อย่างไรก็คงจะไปร่วมงานไม่ได้...วลี...ไปเถอะลูก....ถือว่าไปแทนยายนะลูก
อย่างไรเสียนั่นก็น้องสาวเรา”เกวลีสบตาผู้เป็นยายอย่างลำบากใจ
“วลีขอคิดก่อนนะคะว่าติดงานอะไรหรือเปล่า?”เธอเลือกตอบไปส่งๆค่อยหาวิธีเลี่ยงที่หลังก็แล้วกัน
“ยังไงป้าก็ยังหวังให้หนูมานะจ๊ะ เราคนกันเอง
นี่จ่ะการ์ดเชิญของยายฉัตร”เกวลีมองการ์ดในมือของนภาที่ถูกส่งให้ตน
“หนูคงจำได้ คู่หมั้นยายฉัตรไม่ใช่ใครที่ไหนเลย คนคุ้นเคยกันนี่เอง”เกวลีลอบมองนภาอย่างไม่ไว้ใจก่อนยื่นไปรับการ์ดมาเปิดดูชื่อคู่หมั้นของน้องสาว
‘คิมหันต์...ปรเมศกุล’คนกันเองจริงๆด้วยสิ
“ก็ได้ค่ะ วลีจะไป แต่วลีขอพาเพื่อนของวลีไปด้วยสักคนนะคะ
คุณนภา”เกวลียิ้มเย็น จ้องหน้ากลับนภาด้วยความมั่นใจว่าวันงานสีหน้ามั่นๆของแม่เลี้ยงนภาจะถูกเธอกระชากออกมาเป็นหมาหงอยเลย
รู้จักคนอย่างเกวลีน้อยไปซะแล้ว
นภายิ้มกรุ้มกริ่มพอใจกับผลงานที่ตนยอมลดตัวมาเชิญลูกเมียเก่าของสามีด้วยตัวเอง
‘ที่นี้แกจะได้รู้เสียที
ว่าคนอย่างแกมันก็แค่โคลนตมไม่มีค่าอะไรเหมือนแม่ของแก นังวลี’
ไม่รอช้า.....หลังจากพ่อและคุณนายแม่เลี้ยงจรลีกลับไป
หญิงสาวก็ตรงเข้าไปคว้าโทรศัพท์ในห้องนอนเพื่อดำเนินแผนการเอาคืนทันที
“พี่พัฒน์ วลีมีเรื่องให้ช่วยหน่อย ว่างไหมคะ?”
.......................................................................................
ความคิดเห็น