หน้าที่ 1 , 2
 
ใครแต่ง : ธุวัฒธรรพ์
30 ต.ค. 65
100 %
1 Votes  
#1 REVIEW
 
เห็นด้วย
16
จาก 20 คน 
 
 
อ่านแล้วนะเธอว์

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 24 ธ.ค. 54
SSS สงครามวัตถุวิญญาณ ผู้เขียน: MyU_immi

ทำเอาเครียดเลยทีเดียวสำหรับการสับนิยายรองชนะเลิศจากการประกวด Enter Books 2010 แต่ก็ใช่ว่าจะรอดพ้น SD ไปได้ อันดับแรกก่อนเลย ต้องชื่นชมก่อนว่าคุณเรียบเรียงเนื้อเรื่องและมีลูกเล่นได้แพรวพราวมาก รู้จักนำบุคคลจริงในประวัติศาสตร์มาทำให้ไม่น่าเบื่อสำหรับคนอ่านอีกต่อไป ไม่แน่ว่าถามเด็ก ๆ แถวบ้านดูก็อาจจะรู้ว่าใครผลิตซูปเปอร์กาว แสดงว่าคุณคงจะมีหนังสือ 100 ชีวประวัติบุคคลสำคัญของโลกไว้แนบกายเป็นแน่ 555+

ชมแล้วต้องสับ

จำได้ว่าคุณเคยโพสฝากนิยายให้ SD หลายครั้งและหลายช่องทางแล้ว รวมทั้งคำการันตีว่า “ไม่สนุกให้เหยียบ”

ฮึ ๆ พ่อคุณเอ๋ย ยิ่งท้ายิ่งโฆษณา SD ยิ่งไม่ไปว่ะ อาจเป็นอาการโรคจิตส่วนตัวของข้าพเจ้าเอง รวมทั้งไม่ค่อยอ่านแนวแฟนตาซีเลย อย่าหวังว่าจะไปอ่านง่าย ๆ ระวังว่าอาจจะเจอแบบ SD อีกก็ได้นะท่าน เอาล่ะ! เกริ่นกันมาหลายคำ นิยายเรื่องนี้เปิดตัวด้วยฉากอสัญกรรมของบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่โลกรู้จัก ( แต่SD ไม่เคยได้ยินชื่อ มันเป็นใครฟ่ะ) ผู้เขียนทราบจุดอ่อนนี้ดีจุดพยายามช่วยลดความอับอายของ SD ด้วยการมีเชิงอรรถขยายความรู้ให้ทุกบท ซึ่งทำให้ยิ่งอ่านสนุก จอห์น เนเปียร์ เป็นนักคณิตศาสตร์ผู้ประดิษฐ์แท่งนาเปียร์โบนส์.... เกิดวันนี้ ตายวันนี้ ยิ่งใหญ่มาก บลา ๆๆ จบ

อืม ๆๆ แล้วไงอ่ะ

และแล้วแท่งที่ว่าก็ถูกส่งมาถึงมือนายเรแพน.. ไอ้อ่อนปวกเปียกแต่เก่งเลข ใครส่งมาให้ก็ไม่รู้ เป็นปริศนา บังเกิดการซิงโครทางวิญญาณในยามคับขัน การตีความหมายของ SD อย่างฮามากก็เพราะนึกไปถึงการรวมร่างของทรังค์กับโกเท็นในดราก้อนบอล GT = ผู้ชายรวมร่าง = วายวอด (อ่ะนะ =..=)

พลังของมันคืออะไร ก็ค่อย ๆ เรียนรู้ไปกับนายอ่อน ซึ่งก็ยังหาคำตอบไม่ได้ชัดเจนว่า “ตารางแสง” คืออะไรกันแน่

“นาเปียร์โบนส์”

“นิวตันกราวิตี้”

“X-ray!”

“คริสต์มาสกิฟต์”

ตัวละครแต่ละตัวมีท่าไม้ตายเด็ดไว้เผด็จศึกศัตรู ผู้หญิงต้องการความรักและไขว่คว้าหาความมั่นคงยืนยงในชีวิตคู่ฉันใด ผู้ชายก็ใฝ่ฝันหาพลังอำนาจและความยอมรับจากคนรอบข้างฉันนั้น เหตุผลที่พวกเขาแต่ละคนได้รับวัตถุวิญญาณจากคนลึกลับ เท่าที่ SD อ่านมาก็ยังไม่เฉลย SD จึงพยายามเดาเอาว่าคงเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวของแต่ละคนที่เหมาะจะได้รับวัตถุวิญญาณแต่ละชิ้น ซึ่งยิ่งทำให้งงว่าคนชอบกินแอปเปิ้ล เกี่ยวอะไรกับแรงโน้มถ่วงฟ่ะ

โอเคก็เท่ดี นายเย็นชาชอบแทะแอปเปิ้ลเหมือนพระเอกเรื่องยิงแม่มเลยชอบแทะแครอท ยิ่งเวลานายคาซีออกโรง ดีดนิ้วหักแข้งขาคนร้าย ยกของบ้างลอยตัวบ้างแล้วบอกว่าตรูควบคุมแรงโน้มถ่วงได้เฟ้ย คิ้วของ SD ก็เริ่มขมวด อืม เอ่อ เท่าที่ SD กระ กระสนได้ D ฟิสิกส์ 1,2 มา แรงโน้มถ่วงตามสมการ


F= GM1M2/R2

นั่นคือมวลมากแรงมาก และน้อยลงเมื่อระยะห่างเพิ่มขึ้น ถ้าหากจะทำได้อย่างคาซี มวลของคนร้ายคงเดิม โลกต้องเล็กลงครึ่งหนึ่งเพื่อให้น้ำหนักคนร้ายเพิ่มขึ้น 4 เท่าตามสมการระยะทางผกผันกำลังสอง ถ้าให้เพิ่ม 100 เท่า โลกกลม ๆ ก็ต้องลดลง 10 เท่าซะ แล้วมันคุมอะไร นิวตันเทพสาด

วนกลับมาที่นายอ่อน

สิ่งที่วางไว้คือนายเรแพนเก่งเลขจึงมีคุณสมบัติได้รับแท่งมหัศจรรย์ ในขณะที่กำลังวิ่งฝ่าเหล่าร้าย แท่งมหาสนุกนี้ก็คอยเป็นพรายกระซิบและสำแดงอภินิหารช่องเจ็ดสีให้แคล้วคลาดทุกที คำถามคือ แท่งบ้าอะไรวะ ศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ

SD ต้องกลับไปเปิดอากู๋หาค้นหาว่าจอห์น นาเปียร์คือใครซ้ำอีกครั้ง จึงเบิกเนตรว่าสแควร์รูทสองรูทสาม ลอกการิทึม เลขฐาน e ที่ทรมานมาตลอดหลายปี มีมันนี่เองที่บุกเบิก! แน่จริงเอ็งประดิษฐ์เครื่องคิดเลขให้ตรูสิฟ่ะ รู้มั้ยว่าเกรดเลขตรูเท่าไหร่ นาเปียร์โบนส์ของเอ็งช่วยอะไรได้มั้ยย่ะ

กลับมา ๆ

เมื่อรู้แล้วว่าแท่งนรกนี่คืออะไร SD จึงเข้าใจนายอ่อนมากขึ้นว่ามันถือไว้ทำซากอะไร แล้วตารางแสงคืออะไรล่ะ มีอยู่บทนึงที่นายอ่อนโชว์ความเทพด้วยการสู้กับชาวเกาะกวม ชาวเกาะมั่นใจว่าใบพัดเรือยนต์ย่อมถูกมวลน้ำต้านทานให้เคลื่อนที่ช้าลงจนเฉื่อยไปเอง ทำร้ายเขาไม่ได้แน่นอน

ทันใดนั้น นายอ่อนก็คว้าแท่งมหาสนุกขึ้นพลางเกาคางว่า “อืม ความหนาแน่นของน้ำ สูตรคืออะไรนะ” ใบพัดที่คิดว่าจะหยุดก็หมุนเร็วแรงเท่าเดิม พุ่งเข้าตัดร่างนายกวม ตาย5 ไปเลย สมน้ำหน้า

ต๋ายยยยย แม่เจ้า นิวตันว่าเมพแล้ว นาเปียร์เมพกว่า และงงสุด ๆ ไม่นับตอนเครื่องบินตก ตกยังไงไม่รู้ ตัดฉากไวมากหรือ SD ตาลาย โผล่ที่กองขยะกลางเมืองได้ไง ข้าวของหายหมด แต่ที่ขาดไม่ได้ต้องกิ่งแอปเปิ้ลกับแท่งมหาสนุก

มีหลายบทที่ดูเหมือนว่าคุณพยายามจะให้หักมุม แต่ SD มีภูมิต้านทานพอจึงหักไม่สุด คล้าย ๆ ว่าตรูว่าแล้ว เพราะนิสัยการเขียนของคุณกับ SD คล้ายกันคงจับกลิ่นได้ อย่างกรณีหลวงพ่อผู้แสนดี พอโผล่มาปุ๊บแล้วร้องพร่ำ ๆ ก็ชัดเลย ส่วนท่าไม้ตายของนายหื่น ซึ่งให้คำจำกัดความไว้ว่าสามารถทะลุผ่านทุกสิ่งให้ให้ทุกสิ่งที่จับผ่านตัวได้ นั่นคือความสามารถของ x-ray เขาจึงสามารถพลุ่บ ๆ โผล่ ๆ ตามพื้นผนังแล้วจับคนอื่นฝังคาพื้นได้ 555 เคยอ่านการ์ตูนเจอครับท่าน ท่าไม้ตายนี้สอบตก เพราะนายหื่นออกมาโชว์เทพปุ๊บ ไอ้ตัวการ์ตูนมังงะนั่นก็ลอยมาทันที

ที่สำคัญ รังสี x-ray ผ่านทะลุได้ทุกอย่างจริงอ่ะ???? ผนังปูนก็จอดแล้วท่าน

ส่วนนักบุญซานต้า อืมมมม ไม่แตะอ่ะกัน ซูอัลน่ารักดี ให้อภัยได้ ช่วงที่ทั้งสี่คนถูกบังคับให้ต้องต่อสู้เพื่อสิ่งสำคัญในชีวิต เป็นบทที่ SD ชอบมาก คุณเข้าใจเล่นประเด็นนี้ให้ตัวละครแสดงให้คนอ่านเห็นว่าสิ่งสำคัญของเราคือ พ่อ แม่ คนรัก และเพื่อนผอง ซึ่งก็มาฮาฮวบตรงนายอ่อนอีกนั่นเอง

มาถึงสาวน้อยในขบวนการนี้ เธอได้รับฟอสซิสเป็นวัตถุวิญญาณสื่อถึงชาร์ล ดาร์วิน ทำไมต้องฟอสซิสล่ะ อ้อ...เพราะดาร์วินเป็นผู้เสนอแนวคิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต แต่ที่ SD เรียนมา เมื่อนึกถึงดาร์วินก็นึกถึงหมู่เกาะกาลาปากอส นึกถึงเกาะนึกถึงดาร์วินก็นึกถึงนกฟินซ์นะเธอว์

ไม่นับรวมคำถามที่เกิดขึ้นมากมายซึ่งก็คิดว่าคุณคงมีคำตอบรอเฉลยไว้อยู่แล้ว พิมพ์ถามไปก็เมื่อยมือเปล่า ๆ เพราะ SD อ่านไปสิบกว่าบทเอง

ไม่เอาน่า อย่าคิดมาก เพราะเป็นแบบนี้ SD ถึงอ่านนิยายแฟนตาซีไม่รอด เพราะพอคิดแล้วความมันส์ตกฮวบ การเขียนนิยายอิงวิทยาศาสตร์เช่นนี้ท่านต้องระวังมาก ๆ ขบวนการ x-men, พิภพวานร, 2012, หนังซอมบี้ สารพัดก็มีให้สับได้ทุกเรื่องล่ะท่าน เพียงแต่ว่าเรื่องไหนจะสนุกสมเหตุสมผลจนสามารถฉลุยไปได้

มาให้เหยียบเบา ๆ ซะดี ๆ

     
 
4 เม.ย. 63
100 %
1 Votes  
#2 REVIEW
 
เห็นด้วย
15
จาก 16 คน 
 
 
ร่างกาย+จิตใจ = ชีวิต

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 30 ม.ค. 55
Human’s Empire ดารา สายพาน ธารหมอก ผู้เขียน: Lucia


คำเตือน สิ่งที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ เป็นข้อคิดเห็นของคนเพียงคนเดียว อย่าเพิ่งนำไปตัดสินเรื่องทั้งหมดนะเออ

ขออภัยที่ SD อู้ไปนาน เหตุผลเป็นเพราะอะไร SD กำลังคลั่งละครเกาหลี อยากซุกอกพระเอก ฮุฮุ SD อ่านนิยายเรื่องนี้ค้างไว้นานมาก ซึ่งเปิดเรื่องได้อย่างน่าสนใจ มนุษย์ในยุคดาราภิวัฒน์ท้าทายพระเจ้าด้วยการทดลองสร้าง “มนุษย์” ขึ้นมาเอง แม้จะสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบเพียงใดก็ยังมีข้อบกพร่อง คำสั่งทำลายทิ้งจึงส่งลงมา ทว่านักวิทยาศาสตร์หญิงคนหนึ่งก็มีความผูกพันกับมนุษย์เทียมคนนั้น เธอจึงแอบช่วยเหลือให้เขาหลุดพ้นออกสู่โลกภายนอก

เธอเองก็เปรียบดั่งแม่ที่ช่วยให้เนเวิสหลุดออกจากรกอันอึดอัดคับแคบ และถึงแม้ว่าการทดลองนี้จะโหดเหี้ยมเพียงใด สุดท้ายแล้วผู้เขียนก็เลือกให้ผู้หญิงเป็นผู้ใจอ่อน เธอกระซิบบอกให้เนเวิสค้นหาโลกที่มีดวงดาว แต่ก้าวแรกที่เขาพบ กลับเจอเพียงท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยควันขมุกขมัวและตึกแปลกประหลาด มีคนจากองค์กรและสัตว์กลายพันธุ์ไล่ฆ่า จนกระทั่งมาถึงเขตปลอดภัย และได้พบครอบครัวที่แสนอบอุ่น

นิยายแฝงแง่คิดนิด ๆ เอาสิ มาเลย

บอกกันตรง ๆ ว่า SD ง่วงเลย ไม่ใช่ว่าพล๊อตไม่ดี เนเวิสเกิดมาได้สองเดือน มีสรีระเท่ากับคนอายุ 15 แล้วอายุสมองล่ะ ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าเนเวิสคือหุ่นยนต์ที่ต้องป้อนคำสั่งให้ สิ่งที่ทำให้ SD สะดุดกึกเลยก็คือการที่เนเวิสมักจะทวนกับตัวเองและคนอื่นบ่อย ๆ ว่า คำนู่นแปลว่าอะไร คำนี้แปลว่าอะไร และที่หนักคือ “แม่คืออะไร” เมื่อได้คำตอบแล้ว เนเวิสก็ไม่ได้คิดถามว่าแล้วตัวเองล่ะ เกิดมาจากไหน หรืออย่างน้อย ๆ ก็ใช้ประโยชน์จากการถามนี้ โยงว่าความรู้พื้นเพเดิมที่เนเวิสได้รับจากห้องทดลองมีอะไรบ้างก็ยังดี รูปภาพที่ถูกอัดให้ดูในห้องทดลองมันก็น่าจะทำให้เขาคุ้นเคยโลกในระดับหนึ่ง รวมทั้งตามปกติแล้วเมื่อคุ้นเคยกับสิ่งที่อยู่มาตั้งแต่เกิด มันก็ย่อมเป็นนิสัยชอบไม่ชอบของเนเวิสไปโดยอัตโนมัติ และหญิงนักทดลองคนนั้นคือคนที่เขาผูกพันด้วยมากที่สุด ถึงแม้ว่าเนเวิสจะไม่รู้ความหมายของคำว่าแม่ แต่ความรู้สึกย่อมมี แต่เท่าที่อ่าน แต่ละบทเป็นการพาเนเวิสเที่ยว พาเนเวิสชิม พาเนเวิสเข้าเรียน และ SD ก็กดปิด ขี้เกียจอ่านแล้ว

การบรรยายว่าโลกในยุคดาราภิวัฒน์จะเปลี่ยนแปลงอะไรไปอย่างไรบ้างก็สำคัญไม่แพ้ปมของเรื่องนะคะ ทิ้งปมไว้นานพาลลืม พวกนักทดลองอุตส่าห์สร้างมนุษย์พันธุ์อึดอย่างเนเวิสได้แต่ฆ่าทิ้งซะงั้น แล้วสเปกสุดหรูหรือข้อบกพร่องของนายเนเวิสคืออะไรกันแน่ ถ้าจู่ ๆ ได้รู้คงดราม่ากันน่าดู จากนายเนเวิสที่ไร้อารมณ์ ไม่รู้จักโลกภายนอก หวาดระแวง เขาคงจะค่อย ๆ เรียนรู้ว่าคนเราไม่ได้ต้องการแค่กินอิ่มนอนหลับในห้องที่ปลอดภัย แต่ยังต้องการความรัก มิตรภาพ ความใกล้ชิดและเป็นที่ยอมรับของคนสักคนนึง

ลองให้เนเวิสหยุดคิดตามลำพังหลังจากวิ่งวุ่นตามคนอื่นไปทั่ว เมื่อนั้นดวงดาวก็ส่องสว่างเอง

     
 
ชื่อเรื่อง :  คำสาปรัก ฟาโรห์
30 มิ.ย. 56
80 %
10 Votes  
#3 REVIEW
 
เห็นด้วย
12
จาก 12 คน 
 
 
SD คลุ้มคลั่ง

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 27 ธ.ค. 52
อยากจะบอกว่าเกลียดพ่อไข่นุ้ย "ฮาราฮัซซ์ฮัซซ์" มั่กๆ คนอาไร้ขี้หึง ขี้หวงแต่ทำเป็ดอะไรไม่ได้เล้ย นางสนมเกลื่อนวังก็ยังมีหน้ามาจีบนู๋ณัฎอีก อ๊ากกก ยัยบ๊องคนนี้ก็ดันไปใจอ่อนอี๊กกกก เสร็จมัน แบบนี้ต้องตีเข่า

พ่อคาซัสที่น่าสงสารของ SD อยู่ไหน ออกมาขยี้มันเลยลูก ขบวนการพระรองต้องครองเมือง 555555+ รีบๆออกไปรับนู๋มลสักทีสิย่ะ มัวแต่กลิ้งไปกลิ้งมาก็แห้วอีกหร๊อก หล่อลากไส้แบบนี้ต้องแบ่งมาให้ SD กินบ้างนะ (เริ่มมั่วตั้งแต่บรรทัดแรก) การี๊ด
     
 
ใครแต่ง : รักต์ศรา
26 ก.ย. 66
80 %
38 Votes  
#4 REVIEW
 
เห็นด้วย
8
จาก 9 คน 
 
 
เยอะจริงอะไรจริง

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 19 ธ.ค. 54
Mystic Land ฝ่ามิติแดนพิศวง ผู้เขียน: นายศรา

ออกตัวก่อนว่า SD อ่านได้แค่ 4 ตอนก็ยอมแพ้ ไม่ใช่ว่าไม่สนุก แต่ด้วยแนวเรื่องและการเขียน ไม่ใช่สเปกของ SD เลยพับผ่า

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นด้วยการนำเรื่องเล่าที่ทุกคนอาจเคยได้ยินหรือลืมเลือนไปแล้ว เป็นเรื่องที่ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะเตือนเวลาเราเดินทางเข้าป่า ระวังถูกผีลักผีซ่อนไปอีกมิติหนึ่ง เร้าความสนใจให้คลิกบทถัดไปโดยพลัน SD ก็ได้ทำความรู้จักกับ “เอื้องคำ” สาวเหนือบ้านป่าแสนลึกลับ เธอฝ่าฝืนคำห้ามของผู้ใหญ่อย่างไม่แยแสด้วยการออกเที่ยวป่าในเวลากลางคืน ข้อนี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงว่ามนุษย์ย่อมมีความอยากรู้อยากเห็นแฝงอยู่ในตัวเองเสมอ เราอาจได้ยินคำสอนของคนโบราณเป็นกุศโลบายห้ามทำนู่นนี่นั่นโดยที่ไม่รู้ว่าทำไม แต่มันแฝงคำเตือนให้ระวังอยู่ในนั้นเสมอ ผู้ใหญ่จึงใช้สิ่งนี้เป็นเครื่องมือในการควบคุมมาโดยตลอด

แต่น่าแปลกที่เอื้องคำต่อต้าน และก็ไม่ผิดจากคำเตือนของผู้ใหญ่ เธอเจอเสือจู่โจมใส่ ผู้เขียนทำให้คนอ่านแปลกใจหนักขึ้นอีกเมื่อพบว่าร่างของหญิงสาวหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งไว้เพียงเสือที่งุนงงเท่านั้น

บทต่อมาเป็นการรุกรานของคนเมืองเข้าสู่ป่า ตัวละครหลักคือฟ้าและเพื่อน ๆ ตกน้ำแล้วหลงเข้าไปยังหมู่บ้านในป่าแห่งหนึ่ง เอื้องคำโผล่มานำทางแล้วก็หายตัวไป พลุ่บ ๆ โผล่ ๆ อ่านแล้วก็นิ่งไปชั่วครู่ว่าจะเหนือก็ไม่เหนือจะกลางก็ไม่กลาง แต่เป็น “พยายามจะไทยกลางของคนท้องถิ่น” สรุปแล้วเอื้องคำคงจะเคยรู้จักคนภาคกลางมาก่อนสินะ เหล่าหนุ่มสาวไม่ถามหาทางกลับหรือถามว่าที่นี่คือที่ไหน แต่เป็นฝ่ายเสนอขอเข้าหมู่บ้านก่อนซะงั้น

“เธอเป็นชาวบ้านแถวนี้สินะ พวกเรากำลังหลงป่าน่ะ ช่วยพาเราไปที่หมู่บ้านของเธอหน่อยสิ”

คำพูดที่คนเมืองพูดกับเอื้องคำ สื่อชัดเจนเลยว่าเป็นคำพูดของเจ้านายกับไพร่ เป็นเทวดาที่มาเที่ยว ตอนนี้กำลังเดือดร้อน สูเจ้าทั้งหลายจงรีบรับรองความสะดวกสบายของพวกข้าพเจ้าให้เร็วรี่

เอาล่ะ นางฟ้าก็ถึงเวลาสลบวูบไปอีกครั้ง บทถัดมาก็ทำให้ SD ร้องอื้อหือว่า “ตัวหนังสือเยอะจริงฟ่ะ” จับใจความได้แค่ว่านางฟ้าฝันไป แต่กินเวลาคนอ่านนานค่อด ๆ บทถัดมาก็เริ่มพบสิ่งพิลึกพิลั่นซึ่งด้วยความที่บรรยายจับทุกรายละเอียด ตัวละครเข้าฉากเยอะ จับทุกพิกเซล ความสยองปนน่ากลัวก็ปวดตาแทน แล้วในระหว่างนาทีระทึกนั้น นางฟ้าก็ระลึกความหลังอีก เป็นการขยายความอีกบทถัด ๆ มานั่นคือโรงเรียนสุขสันต์

พอเลย จบกัน ขี้เกียจอ่านแล้วเพคะ ตอนนี้ต้นฉบับซัดไปกี่หน้าแล้วคะ?

SD ก็เคยเขียนอย่างเมามันส์ เก็บทุกรายละเอียด ใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร ใครหันซ้ายหันขวาก็ใส่หมด แต่สุดท้ายพิจารณาแล้ว มันไม่สำคัญต่อเนื้อเรื่องเลย คุณควรควบคุมจำนวนหน้าให้ดี ๆ นะเออ ไม่งั้นต้องเซ็งตอนถูกสนพ.ปฏิเสธเพราะว่านิยายคุณหนาเกินไป TT^TT

แน่นอนว่าแต่ละบทแต่ละฉากและแต่ละการกระทำของตัวละคร ย่อมเกี่ยวเนื่องและเชื่อมโยงไปถึงฉากต่อ ๆ ไป นางฟ้าอาจจะกำลังหมดอาลัยตายอยากจนคิดถึงอดีตและเป็นจุดเริ่มต้นของคำตอบทุกอย่าง แต่ข้อเสนอแนะของ SD คือ คุณไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับทุกฉากทุกตัวละครอย่างเท่าเทียมกันหมด สิ่งใดเร่งเร้าให้เกิดไคลแม๊กซ์ก็ควรจะให้ความสำคัญต่อฉากนั้น บทพร่ำพรรณนาของฟ้าเป็นช่วงที่ SD อ่านข้ามได้สบาย ๆ มากโดยเฉพาะบทฝัน อ่านช่วงท้ายยังรู้เรื่องเลย และตามความคิดของ SD แล้ว การทิ้งท้ายแต่ละบทของคุณยังไม่ชักจูงให้น่าสนใจติดตามพอ ลองพิจารณาดูตามสมควรนะคะ

ฝ่ามิติแดนพิศวงจริง ๆ ล่ะเธอว์
     
 
7 ก.ค. 66
80 %
14 Votes  
#5 REVIEW
 
เห็นด้วย
7
จาก 7 คน 
 
 
ทดสอบอะไรจ๊ะเธอว์

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 18 ธ.ค. 54
ประเดิมงานสับแรกของ SD ด้วยงานเขียนของท่านพยัคฆ์ทอง ในผลงานเรื่อง Aesel Leader of Blood เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ได้รับเลือกให้เข้าทดสอบจากตระกูล ผู้ใดสามารถพิสูจน์ตนเองจากบททดสอบนี้ได้ก็จะได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไป แน่นอนว่ามันต้องโหดหิน มีผู้สังเวยมาแล้วมากมาย ในขณะเดียวกันผลตอบแทนที่ได้รับก็ช่างเย้ายวน

ผู้เข้าทดสอบจะมีเพียงคนเดียวต่อครั้ง มีกฎว่าจะต้องออกจากบ้านและหาเลี้ยงตนเองโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางตระกูล พี่ชายของเอเซลหายตัวไประหว่างการทดสอบครั้งที่แล้ว และได้ทิ้งบันทึกการเดินทางไว้ให้ต่างหน้า ดังนั้นเมื่อเอเซลได้รับเลือกให้ทดสอบ เธอจึงตัดสินใจเดินทางตามรอยเพื่อค้นหาพี่ชาย พรั่งพร้อมด้วยเพื่อนร่วมเดินทางที่เก็บเกี่ยวได้ระหว่างทางและมีคนร้ายหมายปองชีวิตให้ลุ้นไปเนือง ๆ

ย่อหน้าแรกที่ SD ได้อ่านก็อมยิ้มทันที เพราะเรื่องราวมันเล่าถึงการเติบโตเป็นผู้ใหญ่และต้องออกจากบ้านของเด็กทุกคน โลกความเป็นจริงของเรา ๆ ก็ต้องพบเจอเรื่องผจญภัยเหมือนเอเซล ต้องโตพอให้พ่อแม่ญาติพี่น้องเห็นว่าเราเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำครอบครัว แล้วในนิยายเรื่องนี้ก็ใช้การเดินทางเป็นข้อพิสูจน์ตัวเอง ดังนั้นจึงมีญาติผู้ใหญ่บางคนไม่พอใจที่เอเซลได้รับเลือกแทนที่จะเป็นลูกหลานของตนเอง แม้แต่ SD ก็ยังมีคำถามเลยว่าทำไมเอเซลได้รับเลือก มีอะไรลึก ๆ หรือไม่ที่ไม่ให้ลูกหลานแข่งขันภายในตระกูลก่อนแล้วค่อยเลือกผู้ชนะไปทดสอบ มีเพียงเหตุผลว่า “ผู้ใหญ่สั่ง มีปัญหาก็ไปคุยเอง” สองมาตรฐานลามเข้าไปถึงในนิยายทีเดียว

อีกเรื่องสำคัญก็คือ เมื่อ SD อ่านไปเรื่อย ๆ ก็มีความพิศวงงงงวยว่า “เอเซล เอ็งมีเป้าหมายอะไรกันแน่ฟ่ะ?” บททดสอบคืออะไร? จุดสำเร็จของงานอยู่ที่ไหน แล้วผู้ทดสอบจะรู้ได้อย่างไรว่าผ่านทดสอบแล้ว? เท่าที่อ่านผ่านตามา ประเด็นสำคัญนี้ไม่มีเลย นอกจาก “ย้าก เคร้ง เคร้ง หาเรื่องเรอะ ฆ่ามันสัตว์ประหลาด”

และแล้วนักรบ นักเวทย์ นักธนู นักบวชก็พาเหรดกันออกมาสนุกสนาน เอเซลได้แสดงความเทพให้ทุกคนเห็น และนี่ก็อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอจึงได้รับเลือก ซึ่งสิ่งที่ SD อยากจะเสนอแนะคือคุณไม่ควรปล่อยให้แต่ละบทไหลผ่านไปอย่างนั้น กุญแจสำคัญของเรื่องนี้ก็คือบันทึกของพี่ชายที่ทิ้งไว้ให้ แน่นอนว่าเอเซลก็กำลังเดินทางย้อนรอยเส้นทางเพื่อค้นหาอะไรบางอย่างอยู่ แต่มันกร่อยและไม่ได้รับความสำคัญเท่าที่ควร เท่าที่ SD อ่านมาก็เพิ่งถึงตอนที่ 6 ก็รู้สึกว่าพอแล้ว บรรดาผู้ร่วมเดินทางมีที่มาที่ไปหรือเกี่ยวพันต่อเนื่องกับบันทึกมากน้อยแค่ไหน หรือจะวางเสริมให้ครบองค์ประชุมแล้วสร้างความผูกพันขึ้นระหว่างการทดสอบ ทุกอย่างก็อยู่ที่การวางพล๊อตของท่าน

เรื่องสำนวนถือว่าอ่านง่ายไหลลื่นดีแล้วค่ะ คำผิดเพียบซึ่งก็เป็นหน้าที่ของคุณเองที่ต้องรับผิดชอบตามล่าหานะจ๊ะ จะติงก็ตรงช่วงที่ดีมิทรีพบเอเซลครั้งแรก อ่านแล้วงงมาก ไม่เข้าใจจนต้องอ่านซ้ำถึงจะรู้เรื่องว่า อ้อ มันจะเนียนกินฟรีเลยโดนตื้บ แต่ผ่านไปอีกบท มันกลับมีตังส์ให้นางเอกยืมซะงั้น ตกลงดีมิทรีกระเป๋าแห้งหรือว่าจงใจเข้ามาตีสนิทเอเซลกันแน่ ถ้าเป็นอย่างหลัง SD ว่าถึงเอเซลจะฝีมือเทพ เก่งปานนักรบตะลาล่า แต่ถ้าดูเจตนาของคนที่เข้ามาไม่ออกและหยิ่งทระนงในฝีมือแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เอเซลจะสอบตกในสายตาคนอ่านนะคะ

หวังว่าความเห็นของ SD จะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย และนี่คือความคิดเห็นส่วนตัว โปรดระวังมึนเมา
     
 
ใครแต่ง : ฮาร์มาคิส
24 ส.ค. 53
40 %
2 Votes  
#6 REVIEW
 
เห็นด้วย
6
จาก 6 คน 
 
 
SD เพิ่งอ่าน+เริ่มคอมเม้นท์ อ่านด่าหนูน้า

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 30 พ.ค. 53
อืมมม หนูหลงเข้าอ่านเมื่อคืนนะเด้อ ตาแฉะเลย แต่สตาร์ทแบบมึนๆที่ตอน 39 ก็เลยลำดับญาติไม่ถูกว่าไผเป็นไผ ใครเป็นน้องใคร และไผเป็นแฟนใคร หน้าที่การงาน อายุหน้าตาเป็นจั๋งใด๋

เรียบเรียง ไม่ก็เกริ่นให้หนูหน่อยสิเค่อะ ปุ๋มขี้เกียจตามอ่าน 1-38
ช่วงแรกๆที่ตัวละครคุยกัน เหมือนอ่านแลกเชอร์เลยพี่ขา บางทีมันไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในนิยาย ปุ๋มเข้าใจว่าพี่พยายามสอดแทรกความรู้

ปุ๋มอ่านข้ามๆมาโดยไม่ได้เมนท์เพราะกดเพลิน sorry ด้วยนะคะ ^^ แต่จะเมนท์รวมๆล่ะกัน เผื่อพี่เจี๊ยบจะตามกลับไปแก้
เนื้อหาในส่วนความรู้ด้านอียิปต์ของพี่ แน่นปึ๊กมากคร่ะ อิน้องชูนิ้วโป้ง ทำให้กระจ่างและจิ้นได้แจ่มขึ้นในหลายๆเรื่อง สำหรับคนที่แต่งนิยายแนวฟาโรห์อย่างหนูแล้วถือว่ามีประโยชน์มากคร่ะ แฮะๆ

เริ่ม มาพูดถึงการดำเนินเรื่อง มีหลายจุดที่ไม่เข้าใจ หรืออาจเพราะสตาร์ทที่ตอน 39 ก็คือทำไมบรรดาเทพจึงต้องเป็นธุระอุ้มสมคู่หนุ่มสาวเหล่านี้ด้วย พวกเธอมีความพิเศษอันใด ทำไมพาญ่าจึงได้ข้ามภพมาครั้งเดียวจบ ในขณะที่เฮเลนต้องไปๆมาๆ
ความรู้ต่างๆที่พยายามเติมเข้ามาเป็นสิ่งที่ น่าสนใจค่ะ แต่ไม่ควรมากจนเกินไปจนอยู่ในระดับยัดเยียด มีหลายตอนที่ตัวละครกล่าวถึงประวัติศาสตร์ (ซึ่งก็ดี) แต่คนอ่านเบื่อได้ง่ายๆคะ เพราะเนื้อเรื่องย่ำอยู่กับที่ ไม่ไปไหนสักที ลองปรับเป็นการเล่าเรื่องในมุมมองบุคคลที่สามน่าจะสนุกกว่านะคะ เพราะเดี๋ยวๆก็ลากเข้าวิชาประวัติศาสตร์ มันจะเอียนมากกว่าอ่ะ ปุ๋มสารภาพเลยว่าอ่านข้าม

ส่วนเจ้าตูบสองตัวน่ารักมากคะ ก็ชวนให้สงสัยอีกนั่นแหละว่า ทำไมเทพีไอซิสถึงไม่เข้ามาจัดการเรื่องแนวนี้เองอ่ะ แต่ปล่อยให้เทพมรณะ + บลาๆเข้ามาช่วย มันจะแฮปปี้มั้ยเนี่ย (ฮา) พี่เจี๊ยบแหวกจริงๆ หรือว่าเจ๊พาญ่ามีของดี

มีหลายสถานการณ์ชวนให้สงสัยว่าตัวละครเคยพบ กันมาก่อนแล้ว อย่างเช่นคู่ของเฮเลนที่เปิดมาว่าเคยพบกันในฝัน แต่ก็ค้างอยู่ที่ mode อื่น และบทหลังๆก็เริ่มรู้สึกว่าพาญ่ากับนาเมอร์หายไป ลองปรับให้เนื้อหาสลับไปมาระหว่างคู่หลักและคู่รอง คนอ่านจะได้ไม่ลืม
และ ปุ๋มยังไม่ค่อยเก็ทว่า ทำไมต้องให้น้ำหนักกับราฟมากมาย ปุ๋มอ่านข้ามตอนของเฮียไปหลายชอต อาจจะหลงประเด็นไปบ้าง ถ้าไงพี่เจี๊ยบก็เคาะบอกอีกทีนะคะว่าสรุปแล้วมีเฮียไว้ทำไม และแอบหมั่นไส้นิดๆว่าแม่พาญ่าจะเลือกใครสักคนไม่ได้เรอะ แหม! มีการตายแล้วคืนจิตไปอยู่กับกิ๊กด้วย อะไรจะคุ้มปานนั้น

ปล. แอบบอกนิดๆ ไม่นิดแล้วมั้ง คำโปรยนิยายของเรื่องนี้ กับรูปมันปวดใจจริงๆ เหมือนมัมมี่รีเทิร์นมากๆ
ลองเปลี่ยนเป็นภาพวิว ฯลฯ และเรียบเรียงคำโปรยดูใหม่ดีไหมค่ะ เพราะกว่าปุ๋มจะรวบรวมความกล้า คลิกเข้ามาได้ก็นานอยู่
อย่างเช่น
"เมื่อเส้นทางแห่งความรักได้เปิด สู่ดินแดนแห่งอียิปต์ พาญ่าจึงผูกพันหัวใจไว้ที่อไบดอส แต่เฮเลนจะเลือกทางไหน เจ้าชายผู้เป็นที่รัก หรือว่าครอบครัวที่รอเธออยู่"

บลาๆๆๆ

แต่ปุ๋มชอบคู่พระรองมากเลย อาฮาร์น่ารักมาก ถ้าเป็นปุ๋มนะจะกระโดดถีบด้วยความรักแล้วลากเข้ากระโจม 3 วัน 3 คืน
     
 
17 ก.ย. 55
80 %
13 Votes  
#7 REVIEW
 
เห็นด้วย
6
จาก 6 คน 
 
 
แม่กุหลาบโหด

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 20 ธ.ค. 54
Vanzirkt โรงเรียนพันธุ์ดุ ผู้เขียน: Lucia

บทนำเริ่มต้นด้วยสงครามระหว่างกองกำลังอะไรสักอย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะมีกำลังด้อยกว่าแต่ก็ยังคงมั่นใจ ทุกอย่างดุเดือดขึ้นและเฉลยว่านี่คือการยกพวกตีกันของเด็กนักเรียน ชวนให้สงสัยว่ามันตีกันเรื่องอะไร ใครเหยียบหางหรืออย่างไร ถึงได้ตีกันขนาดนั้น....

อยากรู้ก็คลิกสิ

ตัวละครหลักของเรื่องคือโรสทำให้ความใฝ่ฝันของสาว ๆ หลายคนเป็นจริง นั่นคือได้เป็นจุดสนใจและไร้คู่แข่งท่ามกลางเพศตรงข้าม และทวีความสงสัยขึ้นไปอีกว่ามนุษย์เพศเมียในเรื่องหายไปไหนหมด โรสต้องกลายเป็นนักเรียนหญิงของโรงเรียนเถื่อน ๆ แห่งนี้ด้วยเหตุจำเป็น นั่นคือมีหน้าที่คุ้มกันความปลอดภัยให้ลูกชายคนเล็กของบอสแก๊งค์กิเลนไร้พ่าย โรสไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบอสมีลูกชายคนเล็ก ไม่เคยพบ ไม่มีรูปถ่ายไว้จำหน้า พยายามหาเท่าไหร่ก็ต้องรอให้คนถูกคุ้มกันมาหาเอง เธอจึงใช้เวลาหลายวันกว่าจะตามตัวเจอ SD จึงไม่มั่นใจในฝีมือของเธอตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

คิดในอีกมุม ลูกชายคนนี้ของบอสก็อาจจะมีฝีมือดีกว่าที่คิดก็ได้

SD ฮาก๊ากทันทีที่โรงเรียนแห่งนี้มีจตุรเทพ เอาล่ะ คงตีกันนัวเนีย สรุปแล้วโรสต้องการเข้ามาคุ้มกันเจ้านายจากอะไร? จากอันตรายทั้งปวง แต่คนคุ้มกันดันตามหาเจ้านายไม่ค่อยเจอ ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างเรียน สรุปแล้วโรสเข้ามาก็เพื่อวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ เป้าหมายที่แจ้งเพียงว่าคุ้มกันคงไม่พอซะแล้ว เท่าที่ SD อ่านมายังไม่มีเฉลยเลยแม้แต่น้อย มีเพียงการค่อย ๆ สืบ ค่อย ๆ แกะรอยจากการมีเรื่องชกต่อยไม่เว้นตอนว่านายพันไมล์คงถูกใครสักคนทำร้ายด้วยอาวุธ ....= ..= โอ โรสคะ ก็รู้ตั้งแต่ได้รับคำสั่งแล้วไม่ใช่เหรอ งมโข่งจริง

และแล้วแม่กุหลาบและผองเพื่อนก็เริ่มพ่นคำหยาบไม่หยุดหย่อน ให้สมกับชื่อเรื่องและสถานที่ บอกตามตรงว่าเซ็ง โอเคว่าในโรงเรียนจริง ๆ ก็พูดกัน แรงกว่านี้ด้วยซ้ำ SD ก็พูด แต่เมื่อพิมพ์ออกมาแล้ว มันไม่แสดงถึงความเก่งกาจอะไรของคนพูดแต่กลายเป็นแค่นักเลงหยาบ ๆ คาย ๆ เท่านั้นเอง ไม่มีใครทักเรื่องที่สาว ๆ พูดจาแบบนี้ โรสจึงแปลงร่างกลายเป็นนักเรียนชายคนหนึ่งในเวลาเรียน มีฝีมือต่อยตี ปากกล้า น้ำใจลูกผู้ชาย และกลายร่างเป็นผู้หญิงเวลาอยู่กับพ่อกับพี่ชาย เหตุผลเพราะเธอทำหน้าโหดสู้ไม่ได้เพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวละครหญิงตัวนี้ยังไม่ได้ละความเป็นหญิง ดังนั้นการใส่ตัวละครตัวนี้ลงไปในโรงเรียนเถื่อน ๆ แห่งนั้นจึงมีกลิ่นนิยายรักอ่อน ๆ ให้คนอ่านคอยจับคู่ แต่ยิ่งสร้างภาพให้แม่กุหลาบว่าเก่งกล้าเท่าใด SD กลับรู้สึกว่าไม่สมราคาคุยเลย

การสู้รบไม่จำเป็นต้องใช้ดาบเสมอไปนะคะ เป็นถึงระดับสามทั้งที ใช้เป็นแต่กล้ามเนื้อก็แย่น่ะสิ

เมื่อเริ่มอ่านมา SD ก็มีความสงสัยไม่ต่างจากพันไมล์ว่าโรสเป็นใคร และก็อึ้งไม่ต่างกันว่าแม่กุหลาบคนนี้เป็นถึงระดับสามขององค์กรมาเฟียเลยทีเดียว

โอ้ววววว.... จริงอ่ะ

ตกลงแล้วตีกันเรื่องอะไร
     
 
ชื่อเรื่อง :  หัวใจจอมพยศ
ใครแต่ง : ปุลิน
1 ก.ย. 56
80 %
4 Votes  
#8 REVIEW
 
เห็นด้วย
6
จาก 8 คน 
 
 
พยศได้โล่จริง ๆ นะเธอว์

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 18 ธ.ค. 54
หัวใจจอมพยศ ผู้เขียน: ปุลิน

เปิดหน้าแรกมาก็ตกใจเพราะดันใช้รูปพระเอกเหมือนกัน SD เลยสะดุ้งว่าพระเอกตรูมาได้ไง 555+

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของรินลดา แม่สาวตกงานที่ถูกย่าตามตัวกลับบ้านตจว. เป้าหมายของย่าคืออะไร รินลดามองออกทุกอย่าง แต่แล้วโชคร้ายรถน้ำมันหมดกลางทางในที่เปลี่ยว เผอิญมีชายแปลกหน้าขับรถผ่านมา เธอจึงขอติดรถไปด้วยและพบว่าเขาช่างกวนโมโหได้ยอดเยี่ยมมาก ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างหนักตามสไตล์พ่อแง่ อน รินลดาจึงนึกเกลียดขี้หน้าเขาทันที

ฮั่นแน่! เดาออกใช่ไหมว่านิยายเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป...

มีตัวละครอย่างคุณย่าและแต๋วเข้ามา ทำให้หนุ่มสาวต้องโคจรมาพบกัน ย่าเป็นคนจัดการจับคู่แนะนำตัวให้หนุ่ม ๆ รู้จักหลานสาว ถึงจะแห้วก็ไม่ยอมแพ้ ตั้งหน้าตั้งตาจับคู่ให้ได้เพื่อหวังจะได้อุ้มเหลนก่อนตาย ซึ่ง SD อ่านมาเรื่อย ๆ ก็ขอสารภาพเลยว่ารำคาญนางเอกขี้เหวี่ยงมาก ๆ และก็ค้างคาในใจด้วยว่าในเมื่อมีมือถือ ไยไม่โทรขอความช่วยเหลือ จู่ ๆ ก็กระโดดขึ้นรถคนแปลกหน้าเลยก็แสดงว่าไม่คิดหน้าคิดหลังดี และที่ฮามากคือพระเอกอำว่าแถวนั้นมีหมาป่า ให้ระวัง นางเอกก็เชื่ออีก จึงเริ่มสับสนว่านางเอกเป็นเด็กโตในพื้นที่รึเปล่า? จึงไม่รู้เรื่องสภาพดินฟ้าธรรมชาติแถวบ้านเลย ฉากต่อมานางเอกโมโหมากจึงเดินกลับไปที่รถคนเดียว และก็เกิดสติแตกกลัวความมืดกับเสียงประหลาดจนวิ่งพรวดกลับไปง้อพระเอกแทบไม่ทัน สุดท้ายก็ต้องติดแหง่กในรถอยู่ดี แต่บทถัด ๆ มา สาวรินลดาก็ดูเป็นสาวจอมแก่น เคยเที่ยวเล่นสนุกสนานมาไม่น้อย มันจึงค้านความรู้สึกเล็ก ๆ ว่า “เฮ้ย ตกลงเคยอยู่บ้านนอกจริงเรอะ หรือว่าเป็นแค่สาวชาวกรุงแวะไปเที่ยวบ้านย่า”

เอ๊ะ! หรือว่า SD อ่านพลาดไปหว่า

เหตุผลที่พระเอกขี้รำคาญผู้หญิงยังไม่เฉลย แต่ก็เข้าใจเลยว่าถ้าเจอผู้หญิงอย่างรินลดา เป็น SD คงตบมันไปแล้ว คนอื่นมีน้ำใจช่วยเหลือยังเหวี่ยงทุกคำ SD อ่านฉากที่ทั้งคู่เจอกันครั้งแรกแล้วก็ร้องเลยว่า โอ้โฮ เธอจ๊ะ มากไปไหม เก็บอารมณ์ไม่เป็นเลยเชียว เมื่อทำตัวไม่น่ารักก่อน แล้วใครจะทำดีด้วยล่ะเนี่ย ทางฝ่ายพระเอกก็พูดน้อยคำ แต่ละคำชวนต่อล้อต่อเถียงได้ทุกหยด ผสมโรงกับบรรดากองเชียร์ที่คอยตามแซว นางเอกคอยจิตตกว่ามันจะเข้ามาเกาะแกะทั้งที่อีกฝ่ายก็เปล่าคิด และสุดท้ายก็จะเริ่มคิด นิยายเรื่องนี้จึงต้องคอยลุ้นว่าเมื่อไหร่มันจะเลิกทะเลาะกันสักที และอะไรล่ะที่พระเอกจะหันมาหลงรักนางเอก และนางเอกก็เลิกมองเขาในแง่ร้ายสักที

SD ไม่ถนัดนิยายที่มีฉากทะเลาะทุกตอนเลยพับผ่า! สมชื่อนิยายจริงว่าหัวใจจอมพยศ

นอกจากทะเลาะเถียงกันทุกคำแล้ว พยศแบบอื่นไม่ได้เลยเหรอ

เนื้อเรื่องค่อย ๆ ไต่เขามา ค่อย ๆ สร้างและเพิ่มตัวละคร ฉากการโคจรมาพบกันอีกครั้งของทั้งคู่เป็นฉากที่คนอ่านอยากลุ้นว่าจะเป็นอย่างไร แต่ในความคิดของ SD แล้วมันเซ็ง ๆ และพล็อตเรื่องหลัก ๆ ที่สื่อออกมาคือการคลุมถุงชน ซึ่งในอดีตผู้ใหญ่เป็นคนจัดการพิจารณาความเหมาะสมให้ทั้งหมด แต่แปลกในความรู้สึกที่ผู้ใหญ่เป็นฝ่ายเที่ยวโพนทะนาว่าหลานสาวของตนเป็นแฟนคนโน้นทีคนนี้ที SD คิดว่าคาแล็กเตอร์ของคุณย่าอาจจะเฮฮา ใจดีและมีเป้าหมายแรงกล้าจนล้นไปรึเปล่า? คุณย่าคะ คุณหลานสาวยังโสดติดอยู่ในรถกับชายโสดตามลำพังทั้งคืน คุณย่ารู้ความจริงแล้ว กลับไม่ปกป้องศักดิ์ศรีหลานบ้างเลยหนอ กลับยิ้มชอบใจ+หัวเราะว่ามีเรื่องดี ๆ ไม่บอกกันบ้างนะเธอว์

ท่านย่าใจสปอร์ตค่อด ๆ
     
 
ใครแต่ง : Ureion
17 ม.ค. 57
80 %
6 Votes  
#9 REVIEW
 
เห็นด้วย
5
จาก 5 คน 
 
 
มาอ่านแล้วนะจ๊ะ เจ้าชายปีศาจ

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 30 ม.ค. 55
Demon Prince: ผมนี่แหละจะเป็นราชาปีศาจ ผู้เขียน: Ureion



เท่าที่ SD อ่าน บอกได้คำหนึ่งคือสำนวนการเขียนของคุณยังไม่นิ่งเลย เดี๋ยวก็ท่วมทุ่ง เดี๋ยวก็ไหลลื่นดี การอธิบายความเป็นไปในบางช่วงคล้ายว่าวกไปวนมาทั้ง ๆ ที่ใช้คำสั้น ๆ ง่าย ๆ แทนประโยคยาวยืดเป็นพรืดดดก็เรียบร้อยไปได้แล้ว และที่ SD ไม่ชอบมาก ๆ เลยก็คือการใช้เครื่องหมาย วงเล็บ ลูกน้ำ ปีกกา ยักซ้ายยักขวาแทรกว่านี่คือคำพูดคน นี่คือคำพูดปีศาจในใจ นี่คือชื่ออาคม


เอ่อ... เว่ากันซื่อ ๆ นะ SD ก็อ่านเข้าใจว่าพระเอกร่ายความเทพอยู่ แต่ก็มาสะดุดเพราะวงเล็บอธิบายเชิงอรรถทันที รวมทั้งก็รู้ว่าประโยคใดซอรันเป็นคนพูด เพราะคุณเองก็ได้สร้างเอกลักษณ์ให้คำพูดของเขาอยู่แล้ว อาจเติมลูกเล่นด้วยการให้ทั้งคู่จิกเรียกชื่อเล่นน่าเกลียด ๆ ใส่กันก็ยังน่าสนุก และก็จะเป็นการรู้กันด้วยว่ามีเพียงคู่หูเท่านั้นที่มีสัมพันธภาพนี้ การใช้ปีกกานู่นนี่นั่นก็อาจไม่จำเป็นอีกต่อไป นี่เป็นข้อเสนอแนะของ SD นะคะ และเมื่อคุณใช้วงเล็บแทรกเป็นระยะ ข้อดีก็มี ข้อเสียก็มี ที่ร้ายแรงมากก็คือการอธิบายสั้น ๆ ว่าเหมือนในเกมเรื่องนั้นอ่ะ


โอ้... SD ไม่เคยเล่น แต่ก็จะพยายามจินตนาการ

หากสร้างบรรยากาศแฟนตาซียุคใดขึ้นมาแล้ว ก็ต้องรักษามันไว้ ระวังอย่าหลุดภาษาต่างสมัยเข้ามา เพราะจะสร้างความสับสนให้คนอ่านและทำลายบรรยากาศที่คุณอุตส่าห์สร้างขึ้น

เอาล่ะ สับมาซะไกล นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับองค์ชายสามแห่งราชวงศ์เอฟราลอฟ ชีวิตล่องจุ๊น พ่อไม่แล แม่ไม่สนใจ โดนขังอยู่ในหอคอย เพราะว่าได้รับความสามารถทางสติปัญญาจากสายเลือด องค์ชายสามทุกรุ่นจึงถูกลิขิตชีวิตให้เป็นเสนาบดีของแคว้น ดังนั้นวัน ๆ ต้องอ่านหนังสือ ศึกษาหาความรู้เพื่อจะได้รับใช้องค์ชายใหญ่ในอนาคต

ความน่าเบื่อหน่ายนี้ ทำให้องค์ชายล่องจุ๊นบีบบังคับให้ราชาปีศาจทำสัญญากับเขาทันที และแล้วแผนการที่จะเป็นหนึ่งในโลกก็อุบัติขึ้น ติ๊ดชึ่ง ๆๆๆๆ


เว่ากันซื่อ ๆ อ่านแล้วน่าสนุกดี แต่แล้วก็เริ่มจอดเมื่อองค์ชายล่องจุ๊นหาข้ออ้างให้กับตัวเองว่า จำเป็นต้องเดินทางร่วมกับรีลเพราะการเดินทางคนเดียวอันตราย รวมทั้งพลังของเขากับซอรันก็ยังไม่ลงตัว ให้มนุษย์พวกนี้เป็นหนังหน้าไฟยามมีอันตรายไปก็โอเค


โอ้... เอ่อ... ก็จริง จะเป็นจ้าวแห่งปีศาจ อยู่เหนือปีศาจทั้งมวลก็ต้องรวบรวมปีศาจเข้าพรรคเยอะ ๆ SD ก็เกิดความสับสนว่าซอรันเป็นปีศาจเก่งจริง ๆ อ่ะเหรอ อ่าน ๆ ไปแล้วก็คิดถึงคู่หูโทร่าคิจิกับอุชิโอ จากเรื่องล่าอสุรกายที่เป็นคู่กัดกัน ไล่ฆ่าปีศาจไปเรื่อย แต่ถึงจะดูว่าเรื่อยเปื่อยแต่ก็ยังมีสตรอรี่ให้ตาม และคู่หูหลิน เหยากับกรีด จากเรื่อง FMA ทั้งคู่เป็นตัวประกอบ แต่เป้าหมายชัด กรีดกลืนกินร่างของหลินโดยที่หลินยอมรับและเฝ้ามองอยู่ภายในเงียบ ๆ สุดท้ายก็เกลี้ยกล่อมให้กรีดร่วมมือด้วยในที่สุด จนกระทั่งสุดท้ายทั้งคู่ก็เป็นคู่หูที่รักกันมากคู่หนึ่ง


เป้าหมายขององค์ชายล่องจุ๊นชัดเจนตั้งแต่แรก แต่ SD ไม่รู้สึกถึงความทะเยอทะยานในใจ ในคำพูดหรือจากการกระทำได้เลย สรุปว่าองค์ชายล่องจุ๊นเป็นจ้าวแห่งราชาปีศาจอยู่แล้วสินะ ไม่ต้องฟาดฟันเป็นราชาปีศาจอื่น ๆ อีก แล้วเขาจะออกเดินทางรวบรวมลูกพรรคทำไม ตั้งสำนักแล้วแผ่ไอมารให้ลูกกะจ๊อกคลานมาหาจะไม่สมเกียรติราชากว่ารึ?


แล้วถ้าหาลูกพรรคได้พอแล้วจะทำอะไรต่ออ่ะ กวาดล้างผู้กล้า นักบวช ฝ่ายธรรมะเข้าซังเตให้หมด หรือว่าดราม่าเปลี่ยนใจเป็นคนดีภายหลัง หรือว่าจะมีจ้าวแห่งจ้าวแห่งจ้าวแห่งราชาปีศาจรุ่นล่าสุด เบียดซอรันตกโต๊ะ ต้องตีแย่งตำแหน่งกันโดยมีโลกเป็นเดิมพัน บลา ๆๆๆ เดาไปเรื่อย SD อ่านมาหลายบทก็ยังเห็นองค์ชายกับราชาซอรันลอยชายอยู่กับก๊วนมนุษย์

สรุปแล้วองค์ชายชิงชังมนุษย์ เกลียดตัวเองที่เกิดมาเป็นองค์ชายสาม ต้องโดนขังทั้งปีทั้งชาติทั้งที่ไม่มีความผิด ในขณะที่พี่ชายอีกสองคนสบายแฮ ใจจึงฝักใฝ่ปีศาจ หรือว่าทำสัญญากับปีศาจไปด้วยแค่อารมณ์เท่ ๆ แล้วก็บอกว่า “ข้านี่แหละจะเป็นราชาปีศาจ”


รีล วีล และช่างตัดผมอีกคนก็ชื่อวีล = =” .... แนะนำว่าลองใช้บริการเว็บนี้ดู เหมาะกับนิยายแฟนตาซีมาก

http://20000-names.com/special_categories.htm

     
 
19 ธ.ค. 54
80 %
1 Votes  
#10 REVIEW
 
เห็นด้วย
4
จาก 4 คน 
 
 
สงสัยอิ๊บอ๊าย

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 18 ธ.ค. 54
Close Blacklist ปิดบัญชีดำสะกดรักให้อยู่หมัด ผู้เขียน: กระโดดโลดเต้น


นึกว่าจะแป๊ก สนุกนี่ครับท่าน นิยายผิดข้อห้ามของ SD นะเนี่ย อิโมติค่อนไหลมาซะพรึ่บ เกะกะลูกตา SD มาก ^o^ แต่อ่านแล้วลื่นก็ให้อภัยได้ 555+

เปิดเนื้อเรื่องมาด้วยการเปิดตัวละครหลักอย่างคุณหนู “วิลาโก” ขอร้อง อย่าถามว่าชื่อเธอแปลว่าอะไร เธอหรู เธอเริ่ด เธอสวยและหยิ่งแสนวีน แต่ยังไม่ทันออกฤทธิ์ พ่อก็เป็นบ้าก่อน เพราะถูกโกงจนล้มละลาย คุณหนูจึงต้องตกกระป๋องไปอยู่บ้านแม่เลี้ยงใจดี แน่นอนว่าเธอไม่ยอม หัวเด็ดตรีนขาดก็ไม่ไป แต่ดันมีจดหมายขู่อาฆาต วิลาโกจึงต้องเก็บกระเป๋าระเห็จไปอยู่บ้านหลังนั้น บ้านที่เธอไม่เคยเหยียบย่างเลยตลอด 6 ปี น่าสนใจมากว่าเกิดอะไรขึ้นจนทำให้คุณยายแสนรักกับหลานเหม็นขี้หน้าเกลียดกันได้ขนาดนั้น และแล้ววิลาโกก็ชีช้ำซ้ำหนัก เพราะพี่ชายอย่าง “เพนเทล” ดันเป็นเพื่อนกับศัตรูของพ่ออย่าง “โฮลิซอน”

อย่าถามว่านี่คือชื่อคนประเทศไหน อย่าถามว่ามันแปลว่าอะไร ถ้าไม่แปะหน้าดาราไว้แนะนำตัวละคร นายโฮลิซอนตามจินตนาการของ SD จะสืบเชื้อสายมาจากอเมซอน และสมัยก่อนดินสอเพนเทลคงจะดังมาก พ่อเลยตั้งให้ อ่านแล้วขำ

ถ้าเปลี่ยนชื่อตัวละครให้ดี ๆ ตัดอิโมฯออก เผลอ ๆ จะแปลงร่างจากนิยายวัยรุ่นเป็นนิยายโรมานซ์ได้สบาย ๆ เลยนะเออ

สำนวนของคุณอ่านสนุกมาก แต่จุดเดียวที่ท่วมทุ่ง เรียงประโยคแปลก ๆ ก็คือช่วงบรรยายความงามเลิศเลอของคุณหนูวิลาโก และฮาสุด ๆ คือ หมอเดินมาบอกว่า “พ่อคุณเป็นโรคทางจิต” ตรวจภาวะจิตเภทนะคะ บ่ใช่ตรวจไข้หวัด แค่คนไข้ดิ้น ๆ ร้อง ๆ ฟันธงเปรี้ยงว่าโรคทางจิต มันไม่ใช่นา ขนาด SD ส่ออาการซึมเศร้าก็ยังต้องผ่านการตรวจจากนักจิตบำบัดก่อนเพื่อประเมินว่าจำเป็นต้องพบจิตแพทย์หรือไม่ ถ้าเปรี้ยงเดียวแบบนั้น คิดว่าไม่ใช่แน่ ลองหาข้อมูลการตรวจจิตแพทย์ดูนะคะ จะได้ทำให้นิยายแน่นขึ้น

เนื้อเรื่องของคุณยังมีไม่กี่ตอน แต่ทิ้งท้ายไว้ได้สวยแม้ว่าจะงง ๆ อยู่บ้างว่าพระเอกนางเอกพวกนี้มันอายุเท่าไหร่กันแน่ นายโฮลิซอนถึงได้เก่งขนาดโกงตาแก่หมดตัว อาจจะเป็นแค่ข่าวโคมลอยที่นางเอกเข้าใจผิดก็ได้ การสลับให้นางเอกเป็นนางร้าย นางร้ายเป็นนางเอกก็อ่านพบมาเยอะ ไม่รู้ว่าพระเอกเรื่องนี้จะนิสัยอย่างไร ไม่แน่ว่าวิลาโกจะแผลงฤทธิ์อะไรกับนายโฮลิซอนให้วีนแตกกันไปข้างหนึ่งเลยก็ได้ หรือว่ากัดกันแต่พองาม หรือว่าจะเป็นพระเอกแสนดี เข้าอกเข้าใจนางเอกเสมอแม้ว่าจะถูกเหวี่ยง ฝีมือระดับนี้ก็น่าเอาใจช่วย “วิลาโก” ทุกแบบเลยล่ะจ๊ะเธอว์

ขอแสดงความยินดีด้วย นิยายของคุณได้รับเลือกให้เข้าสู่ห้อง “มันเริ่ดเป็ดมาก” ของ SD เป็นคนแรกเลยฮ้าฟฟฟฟ์

สรุปแล้ว วิลาโกลูกพ่ออนันต์ กับ โฮลิซอน แปลว่าอะไร สงสัยชิหาย
     
 
หน้าที่ 1 , 2