ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ซวยฉิบหาย! ผมกลายเป็นเมียเขา [จบจ้า]

    ลำดับตอนที่ #30 : Rule 23 : รักน้องต้องยอมรับ (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 27.35K
      84
      2 ม.ค. 56

    1/1/13
    update : 2/1/13
     
    Rule 23 : รักน้องต้องยอมรับ


    LUN
    "มีคนมาแอบถ่ายรูปผมด้วย  อย่าคิดว่ามองไม่เห็นนะเฮ้ย"



    พี่ลันรีบเดินมาจูงมือผมเข้าไปในห้องนอนของแกก่อนจะผลักผมเข้าไปในห้องน้ำ

    “รีบล้างหน้าซะ  โทนเนอร์อยู่หน้ากระจกหาเอา” พี่ลันพูดพลางถอดเสื้อของตัวเองออกอย่างรวดเร็วแล้วเดินไปค้นๆ คุ้ยๆ อะไรบางอย่างอยู่ในตู้  ผมก็รีบล้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อลบเครื่องสำอางออกให้หมด

    พอล้างเสร็จผมก็เทโทนเนอร์ลงบนสำลีก่อนจะเช็ดหน้าของตัวเอง  ไอ้พี่ลันเอาเสื้อผ้าของตัวเองมาให้ผมเปลี่ยนส่วนตัวพี่แกก็ใส่แต่บ็อกเซอร์  ก่อนเดินออกจากห้องไอ้พี่ลันก็ขยี้หัวตัวเองให้ฟูๆ แล้วทำตาปรือๆ

    “อยู่ในห้องอย่าออกไปไหนนะ” ไอ้พี่ลันสั่งก่อนจะเดินออกไป

    ผมรีบจัดการตัวเองก่อนจะนั่งเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ปลายเตียงด้วยหัวใจที่สั่นระรัวเร็ว  กลัวถูกจับได้มากครับ  ไอ้สองพี่นั่นก็ฉลาดเป็นกรดแถมยังระแคะระคายเรื่องผมกับไอ้พี่ลันอยู่แล้วด้วย  ขืนสองพี่มาเห็นผมตอนนี้ล่ะก็ซวยเช็ดล่ะ!

    “เชี่ยลัน  กูซื้อเหล้ามา” เสียงไอ้พี่เสือดังขึ้นอย่างร่าเริงก่อนที่เสียงเคร้งคร้างจะดังขึ้นซึ่งบ่งบอกอย่างดีว่าขวดเหล้ามันกระทบกันตอนที่พี่มันวางไว้บนโต๊ะ

    “ทำไมไม่โทรนัดก่อนวะ” ไอ้พี่ลันแกล้งพูดเสียงงัวเงีย

    “นี่มึงเพิ่งตื่นเหรอ?” เสียงไอ้พี่ขลุ่ยดังขึ้นอย่างสงสัย

    “เออ”

    “กูไม่เชื่อ  ยี่สิบนาทีที่แล้วมึงยังอัพรูปของมึงที่กำลังคั่วสาวอยู่เลยแล้วทำไมตอนนี้ถึงทำเหมือนเพิ่งตื่น  ที่พวกกูมาก็เรื่องรูปนี่แหละ” ไอ้พี่ขลุ่ยพูดอย่างจับผิด  ไอ้พี่ลัน!! มึงขุดหลุมฝังตัวเองทำไมฟะ!!!

    “เอ่อ...รูปนั้นกูถ่ายนานแล้ว” ไอ้พี่ลันแก้ตัว

    “เสื้อที่มึงใส่ในรูปถ่ายกับที่มึงใส่เมื่อกลางวันเหมือนกันเด๊ะ” ไอ้พี่เสือช่วยจับผิดอีกแรง

    “กูใส่ซ้ำไม่ได้ไงวะ? คนบ้าอะไรใส่เสื้อไม่ซ้ำซักวัน ฮู้!” ไอ้พี่ลันทำเสียงเหมือนกำลังรำคาญ  ตอแหลเก่งนี่หว่า

    “ลัน...” ไอ้พี่เสือเรียกพี่ลันด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ  แม่ง  ขนลุกพรึ่บเลยกู?

    “อะไร?” ไอ้พี่ลันกระชากเสียงอย่างรำคาญ

    “วิกใคร?” เหี้ย!! สิ้นคำพูดไอ้พี่เสือผมรีบจับหัวของตัวเองทันที  เหยดเปียดละ! สงสัยวิกที่ผมใส่มาจะหล่นตอนที่พี่มันจับผมกดลงที่โซฟาว่ะ  แม่ง!!

    “ของกู” ไอ้พี่ลันตอบทันที

    “มึงจะเอาวิกแต๋วแบบนี้มาทำไมวะ?” ไอ้พี่ขลุ่ยจี้ถาม

    “เรื่องของกูน่า  พวกมึงแม่งเสือกว่ะ” ไอ้พี่ลันเริ่มลน  ถือว่าพี่ลันยังสติดีที่ตอบได้ชัดถ้อยชัดคำ  ถ้าเป็นผมป่านนี้ความคงแตกไปนานแล้ว

    “ไอ้ลัน...ผมเนี่ย...เหมือนผู้หญิงในรูปเลยว่ะ” ไอ้พี่เสือพูดบ้าง  นี่! พวกมึงอย่างจี้ได้ป่ะ  กูลุ้นจนขี้จะแตกอยู่แล้วเนี่ย

    “เออนั่นแหละ! ของเด็กกู” ไอ้พี่ลันแถ  กูไปเป็นเด็กมึงตั้งแต่ตอนไหนวะครับ? ได้ข่าวกูยังไม่ตกลง

    “ลัน...” ไอ้พี่ขลุ่ยกับไอ้พี่เสือสลับกันเรียกชื่อไอ้พี่ลันอย่างกดดัน  ผมเชื่อว่าตอนนี้พวกพี่มันคงกำลังเดินต้อนไอ้พี่ลันจนพี่ลันต้องก้าวหนีแล้วล่ะครับ

    ผมลุกเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวาย  หัวใจผมเต้นรัวเป็นกลองสะบัดไชยเลยทีเดียว  รู้สึกตื่นเต้นจนท้องปั่นป่วนไปหมด

    กึก!

    “อั่ก!” เหี้ย!!

    เนื่องจากผมลนลานเกินไปทำให้ผมเดินไปสะดุดขาเตียงหน้าทิ่มพื้นพรม  คางกระแทกลงบนพื้นพรมนุ่มทำให้ผมเผลอส่งเสียงออกมาอย่างช่วยไม่ได้  โชคดีคางไม่แตกเพราะในห้องนอนของไอ้พี่ลันปูพรมทั้งห้อง  แม้กระทั่งห้องน้ำตรงอ่างล้างหน้าลึกเข้าไปถึงโซนส้วมพื้นยังปูพรมเลยครับ  โซนที่ใช้อาบน้ำเป็นห้องกระจกฝ้าปิดทึบน้ำจึงไปแฉะออกมาเปียกพรม  ห้องน้ำในตัวห้องนอนของพี่มันไม่มีอ่างแต่ห้องน้ำด้านนอกมี

    ซวยแล้วๆๆๆ โคตรพ่อโคตรแม่ซวยเลย  ถ้าไอ้สองพี่นั่นเข้ามาล่ะก็ความแตกฉิบหายวายวอดแน่!

    “เฮ้ยพวกมึง...!!

    ผ่าง!!

    ผมที่ล้มหน้าคะมำเงยหน้ามองคนที่เข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มแหยๆ ก่อนจะค่อยๆ ประคองตัวเองให้ลุกขึ้นเพราะตอนนี้ผมหนีไม่ทันแล้วล่ะครับ  เสียงตบหน้าผากดังแป๊ะของไอ้พี่ลันยิ่งทำให้ผมรู้สึกอับอายและรู้สึกผิดมากกว่าเดิมที่ดันซุ่มซ่ามจนทำเสียเรื่อง



     

    ผมกับพี่ลันถูกไอ้สองพี่ลากมาสอบสวนที่ห้องนั่งเล่น  ผมนั่งขมวดคิ้วไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรซึ่งไม่ต่างจากไอ้พี่ลันสักเท่าไหร่  แม่งเครียดว่ะ!! ไอ้สองพี่ก็แม่งจ้องไม่วางตาเลย

    “พวกมึง...ได้กันตั้งแต่เมื่อไหร่?” หลังจากนั่งเงียบมานานไอ้พี่เสือก็เป็นคนเปิดประเด็น “แล้วไม่ต้องบอกว่ายังไม่ได้กันเพราะกูไม่เชื่อ” พี่มันดักทางไว้ก่อนที่พี่ลันจะอ้าปากพูด  ไอ้พี่ลันที่กำลังจะพูดพ่นลมหายใจแรงๆ ก่อนจะหยิบบุหรี่ที่วางไว้บนโต๊ะกระจกมาจุดสูบ  พี่แกขมวดคิ้วเครียดๆ

    “ตอนเลี้ยงสายรหัส” ไอ้พี่ลันเอนกายพิงพนักก่อนจะพ่นควันออกมา  ตอนนี้พี่ลันมันกลับไปแต่งตัวดีๆ แล้วล่ะครับส่วนผมก็ใส่ชุดตัวโคร่งๆ ของพี่ลันอยู่

    “เมา?” ไอ้พี่ขลุ่ยถาม

    “เออ” ไอ้พี่ลันขมวดคิ้วก่อนจะอัดบุหรี่แล้วพ่นควันออกมาอีกรอบ “สักมวนไหม?” ไอ้พี่ลันหันไปถามเพื่อน  สองพี่ส่ายหัวทันทีไอ้พี่ลันจึงเก็บบุหรี่ของตัวเองลงกระเป๋าที่อกเสื้อ

    “แล้วพวกมึงก็ได้กันต่อมาเรื่อยๆ?” ไอ้พี่เสือถาม

    “เออ”

    “คบกัน?” พี่เสือถามต่อ

    “เปล่า”

    “เฮ้อ  ลัน...นี่น้องนะเว้ย” ไอ้พี่ขลุ่ยถอนหายใจก่อนจะพูด  อ่า...ดีใจจังที่พวกพี่ๆ คิดว่าผมเป็นน้อง

    “แล้ว?” ไอ้พี่ลันเลิกคิ้วกวนๆ

    “เรื่องบนเตียงมึงก็เพลาๆ ลงหน่อยได้ไหมวะ  อย่าลากน้องมันเข้ามาอยู่ในวังวนของมึงสิ” ไอ้พี่เสือเตือน  เป็นห่วงผมล่ะสิพี่ๆ  ใจดีจังเลยนะ ^^

    “ก็ไม่ได้เอากันบ่อยขนาดนั้นซักหน่อย  บ่นจัง” ไอ้พี่ลันทำหน้าเซ็งๆ ก่อนจะยกขาขึ้นไขว้กันในมาดคุณชาย  แต่คำพูดที่พูดออกมามันช่างฟังดูหน้าด้านซะไม่มี  พี่มันไม่อายแต่ผมอายฉิบหาย

    “พวกมึงยังจะทำแบบนี้ต่อไปเหรอ?” พี่ขลุ่ยถาม

    “ทำนองนั้น” พี่ลันตอบ

    “แล้วมึงไปคั่วเด็กคนอื่นบ้างหรือเปล่า? ปกติมึงคั่วหนึ่งคนต่อหนึ่งคืนไม่ใช่หรือไง?” ไอ้พี่เสือพูด  แม่ง...พี่ลันแรงว่ะ  มองคนมองแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆ

    “ตอนนี้กูไม่มีใคร” ไอ้พี่ลันถอนหายใจก่อนจะพูดลอยๆ  อ่า...ใครเอาไฟมาลนหน้ากูวะ  ร้อนจริง!

    “แล้วรูปที่มึงโพสต์ล่ะวะไม่ใช่เด็กมึงเหรอ?” ไอ้พี่เสือถามอย่างสงสัย

    “ฮือ” ไอ้พี่ลันหรี่ตามองเพื่อนของตัวเองก่อนจะพยักหน้ามาที่ผม  สายตาของสองพี่พุ่งตรงมาที่ผมอย่างตกใจทันที  ผมสะดุ้งนิดๆ ก่อนจะยิ้มแหยๆ อย่างจำยอม

    “แม่ง!!” ไอ้พี่เสือกับพี่ขลุ่ยจ้องหน้าผมอยู่สักพักก่อนจะสบถออกมาแทบจะพร้อมกัน

    “ฮู้ว! กูแม่งก็นั่งคิดอยู่ตั้งนานว่าสาวสวยที่มึงนัวเนียด้วยมันใคร ที่แท้ก็คนใกล้ตัวแถมเป็นผู้ชาย! มึงอายไหมวะเชี่ยลัน แต่กูว่าไม่ว่ะแม่ง  กล้าลงรูปดูดปากเลียหน้ากันขนาดนั้นหนังหน้ามึงทำด้วยอะไรวะเนี่ย” ไอ้พี่เสือพูดอย่างโมโห  ท่าทางจะโมโหที่เพื่อนทำอะไรแล้วตัวเองไม่รู้ล่ะมั้ง  แต่คำพูดของพี่มันทำให้ผมแทบอยากมุดดินหนี  กูอายนะเฮ้ย พวกมึงพูดอะไรเกรงใจกูบ้างดิ  กูไม่ได้หน้าหนาหน้าทนเหมือนพวกมึงนะ

    “กูก็แค่ทำโทษที่มันดื้อใส่กู” ไอ้พี่ลันขยี้บุหรี่ลงที่เขี่ยบุหรี่ที่ไม่รู้ว่ามาวางอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ตอนไหน

    “เรื่องอะไรของมึงวะ” ไอ้พี่ขลุ่ยขมวดคิ้วถาม

    “งอนอะไรไม่เข้าเรื่อง” ไอ้พี่ลันจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ

    “อะไรของมึงวะ?” ไอ้พี่ขลุ่ยกับพี่เสืองง

    “ก็เรื่องน้ำไง  โกรธแล้วหาว่ากูเข้าข้างน้ำแล้วก็วิ่งหนีกู” ไอ้พี่ลันหยุดพักหายใจส่วนคนอื่นๆ ก็รอฟังพี่ลันพูดต่อ “กูเลยตามไปพังประตูหอเลยแม่ง” ไอ้พี่ลันหยุดหายใจก่อนจะทำท่าหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอีกแต่ไอ้พี่เสือมือไวรีบคว้าบุหรี่มาถือไว้เอง

    “ปกติมึงไม่ค่อยสูบเพราะงั้นกูไม่ให้” ไอ้พี่เสือพูดก่อนจะคีบบุหรี่ขึ้นมาคาบแล้วจุดสูบเสียเอง  เอ่อ...ดูจากยี่ห้อบุหรี่และกลิ่นของบุหรี่แล้วผมว่าบุหรี่ของพี่ลันมันแพงฉิบหายแล้วมึงไปหยิบของพี่มันมาสูบนี่มึงเกรงใจเขาบ้างไหมเนี่ยอิพี่เสือ

    “พูดมาก กูเหนื่อย” ไอ้พี่ลันเดาะลิ้นเซ็งๆ ที่ถูกแย่งบุหรี่ไป  เอ่อ...นี่คือพูดมากแล้วเหรอ? ทีตอนว้ากกับตอนบ่นนี่ไม่เหนื่อยเลยนะ

    “พูดให้หมด!” ไอ้พี่ขลุ่ยเค้นเสียงส่วนไอ้พี่เสือพอได้อัดบุหรี่แล้วหุบปากไปเลยล่ะครับ
     

    คั่น

    หน้าอิพี่ลันแบบ...แอร๊ยยยยยย cr. ในภาพเลยจ้า

     

     

    “เออ! พังประตูเสร็จกูเลยพามันมาเคลียร์ที่นี่แต่ดันเจอน้ำที่มาได้ไงก็ไม่รู้” พี่ลันสลับขาเปลี่ยนเอาอีกข้างขึ้นไขว้แทน “แล้วแม่งก็นอยด์แดก  หนีกูไปอยู่ที่อื่นถึงขั้นลงทุนแต่งหญิง  พอกูไปเจอก็เลยลากมาเนี่ย” ไอ้พี่ลันเคาะเท้าเบาๆ ที่พื้นอย่างเซ็งๆ

    “แสดงว่ารูปที่พวกมึงถ่ายกันก็เพิ่งถ่ายสดๆ เลยอ่ะดิ?” ไอ้พี่ขลุ่ยตาโต

    “เออ”

    “ถ่ายกันในรถ? กลับมาที่คอนโด...นี่พวกกูมาขัดจังหวะใช่ป่ะ?” ไอ้พี่ขลุ่ยปะติดปะต่อเรื่องราวก่อนจะถามออกมา

    “มะ...ไม่...”

    “มาก!” ไอ้พี่ลันตอบแทรกก่อนที่ผมจะปฏิเสธ  โอย จะหน้าด้านก็ให้มันเบาๆ หน่อยพี่  ผมอายนะเว้ย

    “ให้ตายเถอะ! กูยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกมึงสองคนจะ...! เฮอะ! แล้วฮันนี่เคยฟันผู้หญิงหรือยัง?” ไอ้พี่ขลุ่ยตบหน้าผากก่อนจะชี้หน้าถามผม  ผมอึ้งกับคำถามก่อนจะค่อยๆ ส่ายหน้า “แม่ง! ยังไม่เคยฟันใครแต่ดันถูกฟันก่อน  ไอ้ลัน! ทำไมมึงทำกับน้องมันอย่างนี้วะ!!” ไอ้พี่ขลุ่ยโวยวาย

    “อ้าว? กูผิด?” ไอ้พี่ลันชี้หน้าตัวเอง  เออ! มึงผิด! ทั้งมึงทั้งไอ้พี่เสือเลยแม่ง เอาครั้งแรกกูไปทุกอย่าง  สัตวแพทย์เอ๊ย!!(ไม่รู้จะด่าอะไร)

    “แล้วเป็นไงมึง  เข้าข้างหลังผู้ชายครั้งแรก?” ไอ้พี่เสือสูบบุหรี่หมดมวนก่อนจะบี้ก้นมันลงที่เดียวกันกับพี่ลันแล้วถามเสียงกรุ้มกริ่ม  เอ่อ...ถามอะไรเกรงใจกูหน่อยเว้ย

    “ลองเองดิ” ไอ้พี่ลันพูด

    “ไม่เอาๆ กลัวติดใจ ฮ่าๆๆ” ไอ้พี่เสือพูดขำๆ ก่อนจะหัวเราะร่า

    “ติดไม่ติดก็ดูไอ้ลันเป็นตัวอย่างดิวะ  ตามติดแจไม่ห่างก้นน้องมันเลยนะ” ไอ้พี่ขลุ่ยแซว  ผมถลึงตามองพี่มันก่อนจะชกไหล่พี่มันแรงๆ เนื่องจากพี่มันนั่งอยู่ข้างผม

    “อย่าอยากลองกับถิ่นของกูก็แล้วกัน” ไอ้พี่ลันพูดก่อนจะดึงผมให้เลื่อนไปนั่งใกล้ๆ ผมเบิกตากว้างมองพี่ลันอย่างตกใจไม่คิดว่าพี่แกจะพูดแบบนี้  เขินอีกแล้วกู

    “เฮ้ย! ไอ้ลันหวงว่ะคราวนี้” ไอ้พี่เสือกับพี่ขลุ่ยตาโตกันใหญ่

    “นี่...ฮันนี่โชคดีรู้ไหม? ปกติไอ้เวรนี่ไม่เคยหวงใครเลยนะ ฮ่าๆ” พี่ขลุ่ยทำท่าป้องปากนินทาพี่ลันแต่นินทาดังไปหน่อยพี่ลันก็เลยใช้ตีนสะกิดขาพี่มันอย่างแรง

    “พูดมากนะมึง” ไอ้พี่ลันข่มตาดุมองไอ้พี่ขลุ่ยอย่างปรามๆ เหมือนไม่อยากให้พูด  ไม่ทันแล้วพี่...ผมเขินไปเรียบร้อย

    “กูบอกแล้วว่าฮันนี่ของกูน่ารัก  มึงเล็งไว้แต่แรกแล้วอ่ะดิ” ไอ้พี่ขลุ่ยพูดก่อนจะขยับเข้ามากอดไหล่ผมไว้  ตอนไหนจะเลิกพูดว่ากูน่ารักวะ  กูหล่อต่างหาก!!

    ไอ้พี่ลันขมวดคิ้วก่อนจะเอียงหน้ามองหน้าผม “น่ารักตรงไหน?” ไอ้พี่ลันพูดเสียงขึ้นจมูกก่อนจะทำหน้าแหยงๆ  เฮ้ย ไอ้เวรนี่  เมื่อกี้มึงยังบอกว่ากูน่ารักอยู่เลย  ตกลงเอาไงวะ?

    “ใช่ๆ ผมไม่น่ารัก  แต่ผมหล่อไง” ผมยักคิ้วหลิ่วตากวนประสาทเล่นเอาพวกพี่ๆ เบือนหน้าหนีกันเป็นแถว

    “ว่าแต่มึง...ไอ้ขลุ่ย...” ไอ้พี่ลันหันกลับมามองไอ้พี่ขลุ่ยด้วยสายตาดุๆ

    “อะไรวะ?” พี่ขลุ่ยทำหน้างง  ไอ้พี่ลันมองหน้าเพื่อนตัวเองสลับกับมือที่วางพาดไว้บนไหล่ของผม “อ๋อ  หวงว่างั้น?” ไอ้พี่ขลุ่ยยิ้มกวน

    “ฮู้ว! หวงเมียด้วยเว้ย!” ไอ้พี่เสือแซว

    “ผมไม่ใช่เมียนะครับ!” ผมขมวดคิ้วไม่พอใจทันที  ผมเป็นผู้ชาย ผมมีศักดิ์ศรีในความเป็นผู้ชายถึงจะเสียเอกราชไปแล้วแต่ผมไม่ชอบให้ใครมาว่าผมแบบนี้  เมียมันเป็นคำสำหรับผู้หญิง  คนอย่างผมต้องเป็นผัวเซ่!

    “เฮ้ยอย่าบอกนะว่ามึงโดนสุดที่รักกด!?!” ไอ้พี่เสือตกใจหันไปถามไอ้พี่ลันทันที

    “ก็ไม่นี่” ไอ้พี่ลันยักไหล่

    “เฮ้อ กูนึกหน้ามึงตอนโดนจิ้มไม่ออกเลยว่ะ” ไอ้พี่เสือกับพี่ขลุ่ยทำหน้าแหยงๆ  อ้าว...พูดแบบนี้มึงนึกหน้ากูออกเหรอวะ?

    “หยุดคุยเรื่องนี้กันเถอะครับ” ผมถอนหายใจ  ยิ่งคุยยิ่งทะลึ่งขึ้นเรื่อยๆ เลย

    “ท่าทางจะอาย” ไอ้พี่เสือกับพี่ขลุ่ยยักคิ้วให้กันอย่างล้อๆ  อายห่าอะไร เออ! อายก็ได้

    “กินเหล้าๆ ซื้อมาเยอะเลย” พี่ขลุ่ยยิ้มนิดๆ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพลางเดินไปหยิบแก้วหยิบจานมาใส่ขนม

    “เอ้อ อย่าให้เมานะเว้ย  เดี๋ยวได้กันอีก ฮ่าๆๆๆ” ไอ้พี่เสือที่กำลังเทน้ำแข็งลงถังน้ำแข็งแซวก่อนจะที่พี่แกจะเซเกือบล้มเพราะฝีเท้าไอ้พี่ลัน


     

    ผมจัดการรินเหล้าให้พี่ๆ ทุกคนอย่างรู้หน้าที่เพราะผมเด็กที่สุด

    “พี่ขอเข้มๆ นะสุดที่รัก” ไอ้พี่เสือพูดหลังจากที่ผมชงเหล้าส่งให้พี่ลันกับพี่ขลุ่ยเสร็จแล้วหันมาชงให้แก  เมื่อได้ยินแบบนั้นผมก็รินเหล้าใส่แก้วเยอะกว่าเดิมก่อนจะเทโซดาและน้ำตามลงไป  ส่วนเหล้าของผมเอาไม่เข้มเพราะผมไม่อยากเมาจนเผลอตัวไปมีอะไรกับพี่ลันเหมือนครั้งแรก

    “แล้วไม่กลับหอแบบนี้น้องเมฆไม่เป็นห่วงเอาเหรอ?” ไอ้พี่ขลุ่ยยกแก้วเหล้าขึ้นจิบก่อนจะถามออกมา  เออว่ะ! ผมลืมเชี่ยเมฆไปเลย  สงสัยต้องโทรรายงานมันหน่อยแล้ว

    “ครับ  ผมคิดว่ามันคงกำลังกังวลอยู่แน่ๆ  เดี๋ยวผมโทรบอกให้ไอ้วิทลงมาอยู่เป็นเพื่อนแก้เหงาให้ไอ้เมฆดีกว่า” ผมพูดก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาไอ้วิท  ไอ้วิทมันพักอยู่ชั้นสูงกว่าพวกเราหนึ่งชั้น

    “เอ้อฮันนี่! ไม่ต้องๆ เดี๋ยวพี่ไปอยู่เป็นเพื่อนเอง” ไอ้พี่ขลุ่ยวางแก้วเหล้าก่อนจะพูดอย่างลนลาน  ผมหรี่ตามองไอ้พี่ขลุ่ยอย่างจับผิด

    “ผมคิดว่าผมควรรู้เรื่องนี้ได้แล้วนะครับ” ผมมองจิก  ไอ้พี่ขลุ่ยกับไอ้พี่เสือมองหน้ากัน  ไอ้พี่ลันเองก็มองสองคนนั้นอย่างงงๆ

    “ก็...จีบอยู่” ไอ้พี่ขลุ่ยเบือนหน้าหนีก่อนจะเกาแก้มที่เริ่มขึ้นสีของตัวเองเบาๆ  ผมถอนหายใจ...ไม่คิดเลยว่าไอ้พี่ขลุ่ยจะเป็นเกย์

    “มึงเปลี่ยนรสนิยมไปบริโภคผู้ชายตอนไหนวะขลุ่ย?” ไอ้พี่ลันถาม

    “ก็...ตอนเลี้ยงเหล้าน้องใหม่ครั้งแรกไง  ที่กูไปส่งน้องเมฆ  กูก็คิดว่ามันน่ารักดี” ไอ้พี่ขลุ่ยหน้าแดงกว่าเดิมก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มแก้เขิน  ตอนนี้แกก็ยังไม่กล้ามองหน้าพวกผมเพราะอายจัด

    “พี่เป็นเกย์เหรอ?” ผมถาม

    “ก็ไม่ใช่หรอก  แต่แบบ...เออ...นั่นแหละ...ชอบอ่ะ  อ๊าย!” ไอ้พี่ขลุ่ยบิดไปมาก่อนจะอมยิ้มจนหน้าแดงไปถึงหู

    “พูดไม่รู้เรื่องว่ะ” พี่ลันบ่น

    “กูพูดเอง  ไอ้ห่านี่มันมองๆ น้องเมฆไว้ตั้งแต่แรกแล้วแต่ตอนแรกก็ยังไม่ได้ชอบอะไรแค่คิดว่าน้องมันน่ารัก  เอาไปเอามาแม่งเดินมาบอกกูว่าอยากกดน้องเมฆ” ไอ้พี่เสือพูด  ผมกระแทกแก้วเหล้าลงบนโต๊ะก่อนจะจ้องไอ้พี่ขลุ่ยด้วยสีหน้ามึนตึง  ลูกสาวกูนะนั่นน่ะ  อย่าคิดว่าจะกดง่ายๆ นะเว้ย!!

    “ห้ามทำอะไรเพื่อนผม!” ผมพูดเสียงเย็นเพื่อขู่  ไอ้พี่ขลุ่ยมองหน้าผมเหมือนกำลังมองว่าที่พ่อตาอย่างไรอย่างนั้น

    “แหม...ก็แค่อยาก  ยังไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย  น้องเมฆเองก็ยอมซะที่ไหนล่ะ” ไอ้พี่ขลุ่ยพูดด้วยหน้าที่งองุ้ม

    “บอกไว้ก่อนเลยนะครับว่าผมหวงเพื่อนมาก  อย่าคิดจะทำอะไรแปลกๆ เชียวอย่าหาว่าผมไม่เตือน” ผมขู่

    “อุ๊ย น่ากลัวจังเลย” ไอ้พี่ขลุ่ยกับพี่เสือล้อเลียน

    “เทควันโดสายดำ” พี่ลันพูดลอยๆ ไอ้พี่ขลุ่ยกับไอ้พี่เสือสะดุ้งเฮือก

    “ยูโด ไอคิโดผมก็เล่น” ผมพูด  สองอย่างนั้นผมก็ฝึกพอเป็นแต่เทควันโดผมเล่นจนได้สายดำและได้แข่งอยู่บ่อยๆ เมื่อสมัยยังเรียนมัธยม

    “โอ้ อันตรายๆ  แบบนี้แกล้งสุดที่รักไม่ได้แล้วเดี๋ยวโดนสอย ฮ่าๆๆ” ไอ้พี่เสือหัวเราะเจื่อนๆ

    “ก็ลองแกล้งดูสิ” ไอ้พี่ลันเหลือบมองไอ้พี่เสือเหมือนจะขู่  อ่า...พี่ลันชอบทำให้เขินเรื่อยเลยว่ะ  เดี๋ยวหน้าผมก็ร้อนจนระเบิดหรอก

    “อะไรวะลัน  แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะ  พอความแตกเข้าหน่อยทำเป็นหวง หมั่นไส้ว่ะ” ไอ้พี่เสือยิ้มล้อ

    ไอ้พี่ลันไม่พูดอะไรเอาแต่นั่งจิบเหล้าทำเอาผมเขินอยู่คนเดียว  จะปฏิเสธบ้างก็ได้นะพี่ลัน  พอไม่ปฏิเสธแบบนี้ผมก็คิดไปเองคนเดียวน่ะสิ  แย่ล่ะสิ...อายจนไม่กล้ามองหน้าใครแล้วเนี่ย

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    T^T ไรเตอร์เพลียอ่ะ T________T  ช่วงนี้เหนื่อยมาก
    เอ้อ...เคยมีคนเสนอให้ไรเตอร์รวมเล่ม  แต่ไรเตอร์ไม่กล้าทำ  กลัวแป้ก แฮะๆๆ
    เอ้อ...ไรเตอร์ทำเพจที่เฟซบุ๊คด้วยดีป่ะ?
    เอ้อ...เจอคำผิดทักด้วยนะ
    เอ้อ...การมาของไอ้สองกวนโอ๊ยนั่นไม่ได้แค่มาขัดจังหวะอย่างเดียวหรอกนะ  แต่มันก็ีเรื่องดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในตอนหน้าด้วย ก๊ากกกกก

    มาแล้วๆๆๆ  เรื่องของพี่ลุกซ์ค่า!!

    Rasp

    Free Theme dek-d By i'nutberry

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×