ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) THE HOSPITAL. [END] | RE-PRINT.

    ลำดับตอนที่ #14 : ✚ r o o m . XIII

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.96K
      20
      26 เม.ย. 56

    Chapter XIII

     

    จุนมยอน !!”

     

    คยองซูรีบวิ่งเข้าไปในห้อง ก่อนจะเปิดทั้งห้องน้ำ และประตูด้านหลังที่ติดกับระเบียงเพื่อหาจุนมยอน แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา

     

    หรือว่าจะหายดีแล้ว

     

    หมอหนุ่มเดินลงมาชั้นล่าง เพื่อไปเช็ครายชื่อเจ้าหน้าที่ เผื่อว่าบางทีจุนมยอนอาจจะออกมาทำงานแล้ว

     

    เจ้าหน้าที่ : คิมจงอิน  บยอนแบคฮยอน  เสี่ยวลู่หาน

     

    รายชื่อบนกระดาน สร้างความงุนงงให้กับคยองซู เพราะไม่มีชื่อของคนที่เขาตามหา

     

    ถ้าจุนมยอนไม่ได้อยู่ในห้องพักคนไข้

     

    และไม่ได้มาเช็คชื่อเข้าทำงาน

     

    แล้วเขาไปไหน !?!

     

    มาทำอะไรตรงนี้เหรอคยองซู ??

    ผู้อำนวยการ…”

    บอกกี่ทีแล้วครับ ว่าอย่าทำหน้าเหมือนเห็นผีเวลาเจอผมน่ะ

    “…”

    มาเช็ครายชื่อเจ้าหน้าที่เหรอครับ ?ชานยอลส่งยิ้มให้ พลางหันไปมองกระดานรายชื่อ

    ครับ…”

     

    ทำไมกันนะ

     

    รู้สึกอึดอัดแบบบอกไม่ถูก

     

    เวลาอยู่ใกล้ๆคนๆนี้

     

    หืม ? วันนี้จุนมยอนไม่มาเหรอเนี่ย…”

    ผอ. พอจะทราบมั้ยครับ ว่าเขาไปไหน

     

    คยองซูรวบรวมความกล้าถามคนที่เป็นถึงผู้อำนวยการ บางทีเขาอาจจะรู้ว่าเจ้าหน้าที่ลาไปไหน เพราะน่าจะเขียนจดหมายลาแจ้งไว้

     

    ไม่รู้หรอกครับ

    “…”

    จะว่าไป ผมเห็นคุณสนิทกับจุนมยอนเหมือนกันนะ ไม่รู้หรอกเหรอ ??

    ไม่ครับคยองซูตอบเบาๆพลางส่ายหน้า

    ฮืม…”

     

    สงสัยกลัวฉันมั้ง ?

     

    ชานยอลพูด ก่อนจะหันมามองหน้าคยองซู พลางยิ้มไปด้วยเหมือนกำลังเล่นตลก แววตาซุกซนที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์กำลังจ้องมองที่คยองซู ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

     

    กลัว…?”

    ฮะๆ ไม่มีอะไรหรอก ก็คงไม่สบายล่ะมั้ง ลองไปถามพวกจงอินกับเทาดูสิ พวกนั้นน่าจะรู้นะ

     

    จุนมยอนลาป่วยครับ เขาลากลับบ้านไปแล้ว… ’

     

    เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังของทั้งคู่ สายตาทั้งสองคู่หันกลับไปตามต้นทางของเสียง

     

    อ้าว แบคฮยอน มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ??ชานยอลทักเป็นคนแรก

     

    เขารู้สึกไม่ชอบเลย เวลาที่ต้องอยู่ต่อหน้าทั้งชานยอลและแบคฮยอน ลำพังจากความกดดันในระดับหนึ่งก็มากพอแล้วที่เขาต้องเผชิญ

     

    และเมื่อไหร่ที่แบคฮยอนอยู่

     

    มันจะกดดันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

     

    ผมมาที่นี่ตั้งแต่เช้าแล้วครับ เมื่อเช้าจุนมยอนเดินมาขอลางาน เขากลับไปแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงเขาหรอกครับ

    เขากลับไปแล้วเหรอครับ ?

     

    ทันทีที่ได้ยินว่าแบคฮยอนกำลังพูดถึงจุนมยอน ความอึดอัดที่มีต่อแบคฮยอนก็กลายเป็นความห่วงจุนมยอนขึ้นมาแทน เลยถามออกไปโดยไม่ได้สนใจตัวเอง

     

    ครับไม่ต้องห่วงเขาหรอก…”

     

    ห่วงตัวเองจะดีกว่า… ’

     

    คำพูดสุดท้ายของแบคฮยอนทำให้หัวใจของคยองซูแทบจะหยุดเต้น มาอีกแล้ว สายตานิ่งๆและเย็นชา กับคำพูดที่ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรเลย

     

    น่ากลัว

     

    บุรุษพยาบาลคนนี้

     

    น่ากลัวพอๆกับลู่หาน

     

    แบคฮยอนอา…” ชานยอลดุขึ้นมา

    ผมพูดอะไรผิดเหรอครับหมอ ?

     

    แบคฮยอนหันไปถามชานยอลที่ยืนกอดอกพร้อมขมวดคิ้วใส่ร่างบางเล็กน้อย แต่ดูเหมือนแบคฮยอนจะไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย

     

    เปล่าหรอก ไม่มีอะไร…” ชานยอลตอบแบบเนือยๆ

    ผมอุตส่าห์เตือนเขาเพราะหวังดีแท้ๆ…”

    หวังดีอะไรล่ะ ?”

    เตือนให้เขาห่วงตัวเอง…”

     

    ที่ต้องมาอยู่ใกล้ๆคนแบบหมอไงครับ… ’

     

    แบคฮยอน…” เสียงชานยอลเริ่มกดต่ำลง

     

    คยองซูเองก็เริ่มทำตัวไม่ถูก ดูเหมือนตอนนี้คนตรงหน้าเขาทั้งสองคนจะเริ่มทำสงครามเย็นกัน อยากจะวิ่งหนีออกไป แต่ก็ทำไม่ได้

     

    ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้อีกแล้ว

     

    ไม่ชอบเลย….

     

    เขาควรจะทำยังไงดี ??

     

    หมอคยองซู อย่าสนใจเลยครับ เราก็พูดทำนองนี้กันเป็นประจำแบคฮยอนพูดขึ้นมา หลังจากที่เห็นสีหน้าของคยองซู

    นั่นสิครับ สนิทกันมากก็แบบนี้แหละชานยอลพูดพลางยิ้มเหมือนเคย

    ..ครับ…”

     

    ถึงจะตอบสั้นๆ แต่สายตาก็ไม่ได้มองทั้งสองคนแม้แต่น้อย แต่ดูเหมือนทั้งสองคนจะจ้องมองเขามาเป็นจุดเดียว

     

    ผมว่า ผมขอตัวก่อนจะดีกว่าครับ

     

    ส่งยิ้มให้นิดๆ ก่อนจะโค้งให้ทั้งสองคน แล้วรีบเดินออกมาให้เร็วที่สุดจากตรงนั้น ถึงแม้ว่าจะพยายามเก็บอาการกลัวที่รู้สึกในตอนนี้ให้ได้มากที่สุด

     

    ยังไงก็คงเก็บได้ไม่มิดหรอก

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

    ผ่านไปแล้วสามวัน แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจุนมยอนจะมาทำงานที่โรงพยาบาล ถึงจะบอกว่าลากลับบ้าน

     

    มันนานไปแล้วนะ

     

    รู้สึกใจไม่ดีชอบกลๆ

     

    จะว่าไปมันก็น่าสงสัย สามวันที่ผ่านมา เขาพยายามถามทั้งจงอินและเทา แต่ทั้งคู่ก็ไม่รู้ว่าจุนมยอนกลับบ้าน ทั้งๆที่สนิทกัน และยังบอกกลับมาอีกว่า ติดต่อจุนมยอนไม่ได้

     

    แต่คนที่รู้ว่าจุนมยอนกลับบ้าน

     

    กลับเป็น

     

    บยอนแบคฮยอน…!!

     

    อ้า ไม่สิคยองซู แบคฮยอนบอกเองว่า วันนั้นเขามาทำงานแต่เช้า และจุนมยอนก็มาขอลางานแต่เช้า แต่ไม่พบใคร

     

    คิดว่าแบคฮยอนคงไม่โกหก

     

    และก็คงไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหก

     

    คิดว่าแบบนั้นนะ

     

    หมอ…”

    คุณจงอิน ??

     

    นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ที่คยองซูยืนคิดเรื่องจุนมยอน จนกระทั่งจงอินเรียกเขา ถึงได้รู้ตัวว่าปล่อยให้สติหลุดออกไป

     

    อีกแล้วนะคยองซู

     

    ร่างเล็กได้แต่ตำหนิตัวเองอยู่ในใจ ก่อนจะหันไปตอบรับคำทักทายของเจ้าของเสียงที่ยืนทำหน้าเครียดอยู่

     

    หมอผมว่ามันแปลกๆ…”

     

    จงอินไม่รีรอที่จะพูด เขาพูดสิ่งที่เขากำลังคิดในตอนนี้ออกมา โดยไม่ได้เกริ่นหรือพูดอ้อมๆอะไรให้มากความ

     

    แปลกๆ…?”

    “…”

    มีอะไรรึเปล่าครับ ?

    หมอ…”

    “…”

    หมอก็รู้ใช่มั้ย ว่าจุนมยอนเป็นเพื่อนสนิทผม

    ..ครับ…”

    หมอว่ามันไม่น่าแปลกเหรอ ว่าไมจุนมยอนลางานไป 3 วัน แต่ทำไมผมกับเทาไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ ทั้งๆที่เราสนิทกัน

    ก็…”

     

    คำพูดของจงอิน ทำให้คยองซูถึงกับไปไม่ถูก เขาเพิ่งคิดถึงเรื่องนี้เมื่อครู่นี้นี่เอง แต่เจ้าตัวกลับมาพูดให้เขาฟังอีกรอบ

     

    บางทีผมอาจจะเป็นห่วงจุนมยอนมากไป…” ร่างสูงว่าพลางถอนหายใจ

    อย่าว่าแต่คุณเลย ผมก็ห่วงจุนมยอนเหมือนกัน

    “…”

    “…”

     

    แม้ว่าจะยืนอยู่ด้วยกัน แต่กลับไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากทั้งสองคน ความเครียดที่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความอึดอัด ทำให้คยองซูเองก็รู้สึกไม่ดีนัก

     

    หมอ เดี๋ยวผมไปเข้าห้องน้ำซักครู่นะ

    ครับ

     

    จงอินเดินแยกตัวออกไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ด้านในสุดของตึกเจ้าหน้าที่ ปล่อยให้คยองซูยืนอยู่คนเดียว จนกระทั่งผ่านไปประมาณห้านาที จงอินก็เดินกลับมา พร้อมมีสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีซักเท่าไหร่

     

    มีอะไรรึเปล่าครับ ?

     

    หลังจากที่สังเกตได้ว่า บุรุษพยาบาลตรงหน้ามีสีหน้าแปลกๆ ก็อดสงสัยไม่ได้ เลยตัดสินใจถามออกไป

     

    หมอเมื่อเช้าหมอได้เข้าห้องน้ำมั้ย ?

    ผมยังไม่ได้เข้าห้องน้ำเลยครับ มีอะไรรึเปล่า ?

     

    แม้จะงงๆ ที่จู่ๆจงอินก็ถามอะไรแปลกๆ และดูไม่เกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาพูดคุยกันเลยแม้แต่น้อย

     

    แต่แน่นอนว่า

     

    สร้างความสงสัยให้คยองซูได้อีกแล้ว

     

    เมื่อกี๊นี้ ผมไปล้างหน้า ผมไม่แน่ใจว่าผมคิดไปเองรึเปล่า…”

    “…”

     

    กลิ่นในห้องน้ำมันแปลกๆ… ’

     

    จงอินพูดประโยคนั้น พลางสบตากับคยองซู ทิ้งความสงสัยให้คยองซูได้เป็นอย่างดี

     

    หืม ?

    หมอลองไปที่ห้องน้ำดูสิ

     

    ว่าแล้ว จงอินก็เดินนำหน้าไป เป็นลางนัยๆว่า ยังไงหมอก็ลองเดินตามผมมาเถอะ ทั้งที่คยองซูเองก็ไม่ค่อยอยากจะไป แต่ก็ไม่อยากปฏิเสธจงอินซักเท่าไหร่

     

    หวังแค่ว่า

     

    จงอินคงจะคิดมากไป

     

    คงไม่มีอะไรมากกว่านั้น

     

    ถึงแม้จะใจคอไม่ค่อยดี แต่อีกใจก็อยากรู้ว่ากลิ่นที่จงอินว่านั้นมันเป็นอย่างไร เลยยอมตัดใจเดินตาม จนกระทั่งทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำ

     

    เอไม่มีกลิ่นแบบเมื่อกี๊แล้วเหรอ ??

     

    จงอินลองเดินวนในห้องน้ำอย่างงงๆ พร้อมกับทำสีหน้าแปลกๆ คยองซูเลยพอจะเดาได้ว่า สิ่งที่จงอินพูดคงไม่ได้โกหก

     

    แล้วกลิ่นมันเป็นยังไงเหรอครับ ??

    บอกไม่ถูกครับแต่มันแปลกๆมันไม่ใช่กลิ่นของห้องน้ำ…”

    “…”

     

    กึ้ก !

     

    หมอหนุ่มเริ่มรู้สึกใจไม่ดี ใบหน้าขาวของคยองซูเริ่มซีดลงกว่าเดิม คงเป็นผลจากการทำงานหนัก บวกกับคิดมากเรื่องจุนมยอน เลยตัดสินใจเปิดก๊อกน้ำ หวังจะใช้น้ำเย็นๆชโลมหน้าพอให้ค่อยยังชั่ว

     

    แต่ทว่า มันกลับไปเป็นแบบนั้น ทันทีที่มือเล็กหมุนบิดก๊อกน้ำหน้ากระจก สีหน้าของจงอินก็เริ่มเปลี่ยนไป

     

    หมอ !!!!”

     

    กลิ่นอะไรบางอย่างเริ่มลอยโชยมา ก่อนที่จะเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนคยองซูแทบจะวิ่งออกไปอาเจียนให้ได้

     

    กลิ่นเหม็นเน่า

     

    แต่ไม่ใช่กลิ่นห้องน้ำ

     

    หมอกลิ่นนี้แหละ !!” จงอินเบิกตาโพลง พร้อมกับอธิบายหน้าตาตื่น

    “…”

     

    คยองซูค่อยๆใช้นิ้วแตะน้ำที่ไหลผ่านก๊อก ก่อนที่จะดมมือของตัวเองที่เพิ่งสัมผัสน้ำจากก๊อกมา

     

    ไม่ผิดแน่

     

    กลิ่นมาจากน้ำแน่ๆ !

     

     

    ผมว่า น้ำอาจจะสกปรกน่ะครับ

     

    คยองซูพยายามอธิบายอย่างใจเย็นๆ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อยากให้บุรุษพยาบาลข้างๆรู้สึกไม่ดีไปด้วย

     

    แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะจงอินพูดพลางขมวดคิ้ว

    ผมว่า…”

    เดี๋ยวผมจะขึ้นไปดูแท็งค์น้ำบนดาดฟ้าหน่อย บางทีอาจจะมีหนูตายอยู่ในแท็งค์ก็ได้ ชอบมีพวกสัตว์เล็กๆน้อยๆตายบนดาดฟ้าน่ะครับ ขืนปล่อยเอาไว้ เดี๋ยวคนไข้จะเดือดร้อน

    เอางั้นก็ได้ครับ

     

    .

    .

    .

     

    จงอินและคยองซูเดินบันไดกันขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้าของโรงพยาบาล ด้านบนของที่นี่เป็นพื้นที่โล่ง และมีลมพัดโกรกอยู่ตลอดเวลา

     

    แท็งค์น้ำอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวผมจะเอาสวิงติดไปด้วย เผื่อเอาไปช้อนซากหนู

     

    จงอินชี้ไปที่ถังลูกบาศก์ที่ทำจากเหล็กขนาดใหญ่มหึมา ก่อนจะเดินตรงไปปีนบันไดแท็งค์น้ำ โดยมีสวิงอยู่ในมือ ส่วนตัวคยองซูยืนรออยู่หน้าประตูที่ติดกับบันไดทางลง

     

    ร่างสูงใช้แรงทั้งหมดที่มีงัดฝาปิดแท็งค์ด้านบน ด้วยน้ำหนักและรูปทรง ทำให้ใช้เวลานานพอสมควร กว่าที่จงอินจะงัดมันออกมาได้

     

    โอเคมั้ยครับ ?คยองซูตะโกนถาม

    งัดฝามันออกได้ก็ไม่มีอะไรต้องห่….”

     

    จงอินหยุดประโยคสนทนา หลังจากที่เขาหันไปมองด้านในของแท็งค์น้ำ ทำให้คยองซูเกิดความสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง

     

    อย่าเงียบสิคร

     

    จุนมยอน !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ’

     

    TO BE CONTINUED

     

    Tenpoints!
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×