ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์รัก...ลวงใจ

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 719
      0
      10 ส.ค. 50






                      ก้องภพเดินมาที่โต๊ะอาหาร เขาสบตากับลุงหมอเล็กน้อยก่อนที่จะอมยิ้ม เพราะรู้ว่าลุงหมอต้องว่าเขาทำเรื่องอย่างว่าแน่ถึงได้ลงมาช้า

    "สวัสดีครับลุงวี ตื่นแต่เช้าเลยนะครับ" เขาเอ่ยทักลุงหมอก่อนที่จะลงมือทานอาหารที่อยู่ตรงหน้า

    "แล้วนี่หนูแพรวเขาไม่ลงมาพร้อมแกเหรอก้อง" ผู้เป็นลงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจเพราะไม่เห็นว่าหญิงสาวจะลงมาพร้อมหลานชาย


    "แพรวยังไม่ตื่นครับ เขาจำเป็นต้องโกหก" เพราะก่อนจะลงมาเขาเห็นเธอยังนอนอยู่บนเตียง สะอื้นของเธอทำให้เขารู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก

    "อืม ลุงเข้าใจ ฮ่าๆๆ" ลุงหมอหัวเราะชอบใจ


    "เออ ก้องลุงจะฝากยายไหมไว้กับก้องสักสองอาทิตย์ได้มั้ย พอดีลุงต้องไปสัมมนาที่อังกฤษ ไม่ไว้ใจให้อยู่บ้านคนเดียว ยายไหมมันยิ่งชอบเที่ยวอยู่ด้วย"
    ผู้เป็นลุงถามเหมือนสั่งซะมากกว่า ทอไหมลูกสาวที่แสนดื้อ อยู่กับพ่อเพียงสองคนเพราะแม่เธอได้จากไปพร้อมกับพ่อและแม่ของก้องภพ

    "ได้สิครับ ช่วงนี้ไหมปิดเทอมจะได้มาอยู่เป็นเพื่อนแพรว เวลาผมไปทำงานจะได้ไม่ต้องกลัวว่าแพรวจะเหงา ปากก็พูดไปอย่างนั้นแหละ"
    ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าทอไหมมีนิสัยยังไง ทอไหมหวงเขายิ่งกว่าอะไร ถึงขนาดไม่ยอมมางานแต่งงาน เพราะกลัวว่าพีรญาจะมาแย่งความรักจากพี่ชายอย่างก้องภพไป สงสัยงานนี่เขาคงไม่ต้องเหนี่อยกับการทำให้เธอเจ็บปวดแล้วล่ะมั้ง แค่ทอไหมคนเดียวเธอก็เกินจะรับไหวแล้ว

    "ดี ถ้าอย่างงั้นลุงฝากด้วยนะ เดี๋ยวเย็นๆยายไหมถึงจะมา ยังไงก้องก็ช่วยห้ามไหมด้วยนะเวลาจะไปไหนมาไหน ลุงต้องขึ้นเครื่องตอนบ่าย ยังไงลุงไปก่อนนะก้อง ขอบใจมากนะ" แล้วผู้เป็นลุงก็ขับรถออกไป

    "แม่อิ่มเดี๋ยวให้เด็กเก็บโต๊ะเลยนะครับ แพรวเขาไม่ลงมากินหรอกครับ" ก้องภพสั่งแม่นมที่เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่ แม่นมอิ่มอยู่มาตั้งแต่เขาเล็กๆ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรแม่นมอิ่มจะต้องรู้เป็นคนแรกเสมอ




    กว่าพีรญาจะลงมาก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายสามโมง ดวงตาที่บวมช้ำทำให้เป็นที่สังเกตโดยเฉพาะแม่นมอิ่มที่มองด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรทำไมถึงต้องร้องไห้ขนาดนั้น หน้าตาที่แสนสวยของเธอดูเศร้าหมอง ถ้าใครเห็นคงไม่คิดว่าเธอพึ่งจะแต่งงาน คงคิดว่ามีใครที่บ้านเป็นอะไรซะมากกว่า


    "เป็นอะไรหรือป่าวคะ คุณแพรว" แม่อิ่มไม่สามารถเก็บคำถามอยู่ในใจได้เลยต้องพูดออกมา


    "ไม่เป็นอะไรหรอกคะ แพรวแค่คิดถึงพี่พิมเท่านั้นเอง แพรวกับพี่พิมไม่เคยห่างกันเลยคะแม่อิ่ม อีกอย่างอย่าเรียกว่าคุณเลยคะ เรียกแพรวเฉยๆดีกว่า" เธอไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรที่ดีกว่านี้แล้ว ไม่งั้นแม่นมอิ่มคงจะถามไม่เลิกแน่ๆ แต่ที่จริงแล้วเธอก็คิดถึงพี่สาวจริงๆอย่างที่พูดนั้นแหละ



    "แม่อิ่มขา" เสียงเล็กๆดังมากแต่ไกล หญิงสาวตัวเล็กวิ่งเข้ามากอดแม่นมนิ่ม พีรญาได้แต่มองด้วยความแปลกใจ นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเด็กสาวคนนี้เป็นใคร

    "หนูไหม มาแล้วเหรอคะ เห็นคุณหมอบอกว่าจะมาตอนเย็น" แม่นมอิ่มลูบผมยาวสวยของทอไหมอย่างเอ็นดู

    "ก็ไหมคิดถึงพี่ก้อง แล้วก็แม่อิ่มนี่คะ" คนตัวเล็กช่างประจบเก่งซะยิ่งกระไร มันยิ่งทำให้พีรญาที่ยืนมองอยู่อยากรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นใครกันแน่

    "หนูไหมนี่ พี่แพรว พี่สะใภ้ของหนูไหมไงคะ" แม่นมอิ่มจัดการแนะนำพีรญาให้ทอไหมรู้จัก หลังจากที่เมื่อวานทอไหมอาละวาดไม่ยอมมางานแต่งเพราะหวงก้องภพ

    "หนูแพรว นี่หนูทอไหมลูกสาวของคุณหมอคะ" แม่นมอิ่มแนะนำทอไหมทำให้พีรญานึกหวั่นใจยังไงก็ไม่รู้ กลัวเหลือเกินเวลาทอไหมมองมา มันมีรังสีความเกลียดชังจนเธอรู้สึกได้

    "สวัสดีคะคุณทอไหม" เธอเอ่ยทักเพื่อไม่ให้เสียมารยาท

    "ไม่เห็นอยากจะรู้จักเลย ชื่ออะไรนะคะ แพรว แพรวพราวเหรอคะ" คำพูดของทอไหมที่ทักมาทำให้คนฟังเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที เหมือนตอกย้ำให้คิดถึงเรื่องที่เธอหลอกก้องภพไว้

    " หนูไหม ทำไมพูดจาแบบนี้ ไม่น่ารักเลยนะคะ เรียนมหาวิทยาลัยแล้วนะคะ ไม่ใช่เด็กอนุบาล ถึงทำตัวไม่น่ารักอย่างนี้" แม่นมอิ่มเอ็ดเด็กสาวที่พูดจาไม่น่าฟัง

    "แพรวขอตัวก่อนนะคะ" พีรญาเดินเลี่ยงมาในครัว ไม่อยากจะสู้รบตบมือกับทอไหมตอนนี้ เพราะมันเหนื่อยทั้งตัวและหัวใจ



    เธอเดินเข้ามาหาอะไรใส่ท้องเพราะตั้งแต่เช้ายังยังไม่ได้กินอะไรเลย เธอหยิบขนมปังมากินรองท้องเพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงอาหารเย็นแล้ว จะให้กินอะไรหนักๆก็คงไม่ไหว เดี๋ยวมื้อเย็นจะกินไม่ลงเอา

    "ทำไมไม่ให้เด็กมาทำอะไรให้กินละแพรว กินแค่หนมปังจะไปอิ่มอะไร" น้ำเสียงนุ่มๆแฝงไปด้วยความห่วงใยทำให้เธอ ไม่เข้าใจว่าเขาเป็นยังไงกันแน่ เพราะเมื่อเช้าเป็นอีกคน ตอนบ่ายเป็นอีกคน ไม่รู้ว่าตอนเย็นจะเปลี่ยนไปอีกหรือไม่

    "เดี๋ยวก็ถึงมือเย็นแล้ว ไม่รบกวนเด็กๆดีกว่าคะ" เธอตอบโดยไม่มองหน้าคนใจร้ายที่ทิ้งให้เธออารมณ์ค้างเมื่อเช้า

    ไม่รู้ว่าเธอจะทนอยู่ที่นี่ได้อีกนานสักเท่าไหร่นี่แค่วันแรกก็จะทนไม่ได้แล้ว ไม่รู้ว่าความอดทนของคนเรามันมีมากสักแค่ไหน ยิ่งมีเด็กสาวอีกคนที่ดูเหมือนจะจงเกลียดจงชังเธอซะเหลือเกิน มันยิ่งทำให้เธอไม่รู้จะทำตัวยังดี ทำแบบไหน ถึงจะถูกใจทุกคน เธอไม่รู้อะไรเลยจริงๆ แค่เขาคนเดียวก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว







    เช้าที่แสนสดใสของใครหลายๆคน แต่ไม่ใช่กับพีรญา เพราะเมื่อคืนก้องภพเล่นไปนอนอีกห้องทำให้เธอถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกเลยทีเดียว


    "หนูแพรวตื่นแต่เช้าเลยนะคะ นี่ป้ากำลังจะขึ้นไปบอกอยู่พอดี ป้าขอลากลับบ้านสักสามวัน น้องสาวป้าป่วยมาก ไม่มีคนดูแล ยังไงป้าฝากหนูแพรวดูแล คุณก้องด้วยนะคะ" แม่นมอิ่มสั่งเสียอย่างร้อนรนเพราะเป็นห่วงน้องสาวมาก

    "คะ แม่อิ่มไม่ต้องเป็นห่วงหรอกคะ เอาเด็กไปด้วยสิคะ แม่อิ่มแก่แล้ว ยังไงก็ให้เด็กไปช่วยอีกคนดีกว่า งานบ้านแค่นี้แพรวทำได้คะ แม่อิ่มไม่ต้องเป็นห่วงหรอกคะ" พีรญามีน้ำใจจนแม่นมอิ่ม ตื้นตันใจ จนเข้ามากอดคนมีน้ำใจเพื่อเป็นการขอบคุณ

    "นั้นป้าไปแล้วนะคะ" แล้วแม่นมอิ่มก็หิ้วกระเป๋าออกไปกับเด็กทำงานบ้านอีกคน ทำให้บ้านนี้เหลือเธอกับก้องภพ แถมมีทอไหมอีกคน ยิ่งคิดก็ยิ่งเหนื่อยใจ งานบ้านพอทำไหว แต่เรื่องทำอาหารนี่สิ ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย เพราะตอนอยู่ที่บ้านเป็นหน้าที่ของพิมตาพี่สาวเธอซะมากกว่า


    "แล้วเราจะทำยังไงดีเนี่ย อาหารก็ทำไม่เป็นสักอย่าง" เธอยืนคิดอย่างกลุ้มใจ เมื่อแม่นมอิ่มออกจากบ้านไป

    "เอาว่ะ โจ๊กหน้าปากซอยคงมี ไปซื้อเอาก็ได้ แล้วก็โมเมว่าทำเอง ง่ายจะตาย" ว่าแล้วพีรญาก็คว้าจักรยานที่มีอยู่ถีบออกไป เพราะถ้าขับรถออกไปกลัวว่าก้องภพจะได้ยินเสียงสตาท์เครื่องยนต์


    "ป้าคะ โจ๊กสามถุงคะ" เธอจัดการสั่งอย่างชำนาญ เพราะคนที่ทำอาหารไม่เป็นอย่างเธอ ต้องถนัดซื้ออยู่แล้ว

    แต่ระหว่างทางกลับบ้านโชคไม่ดีนัก ที่เธอดันโดนหมาวิ่งไล่ ทำให้จักรยานที่เธอถีบมาล้มโครม แต่โชคยังดีที่โจ๊กไม่แตกซักถุง แต่ไอ้ที่แตกก็คงจะเป็นหัวเข่า และข้อศอก ที่ไถลไปกับถนน ทำให้เลือดซึมออกมา

    "โอ้ย ! ไอ้หมาบ้า เจ็บนะ" พีรญาพูดได้แค่นั้น ก็ต้องรีบลุกปัดฝุ่นออกให้หมด ก่อนจะรีบถีบจักรยานกลับบ้าน เพราะกลัวว่าไม่ก้องภพหรือทอไหมจะตื่นมาซะก่อนแล้ว




    โจ๊กร้อนๆ ส่งกลิ่นหอม ทำให้ก้องภพและทอไหมจัดการซะเรียบ ส่วนพีรญาเองก็กินเหมือนแมวดม ก็เพราะไอ้อาการเจ็บแผลเป็นเหตุนั่นเอง

    "เป็นอะไร ทำไมถึงกินแค่นี้" น้ำเสียงที่ดูไม่อยากจะถามของก้องภพดังขึ้น

    "ไม่ได้เป็นอะไรคะ" พีรญาก้มหน้าก้มตาทำทีว่ากินอย่างอร่อย ให้ก้องภพดู


    "คุณก้องคะ แม่อิ่มกับเด็กที่บ้านไม่อยู่สามวันนะคะ พอดีน้องสาวแม่อิ่มไม่สบาย" เธอเกือบลืมไปว่าแม่นมอิ่มบอกเขาไว้

    "อืม" เขาตอบเพียงแค่นั้นก่อนจะเปิดหนังสือพิมพ์อ่าน ส่วนทอไหมก็ลุกไปดูโทรทัศน์เพราะไม่อยากเสวนากับพีรญาสักเท่าไหร่

    "เจ็บไหมแผลที่ข้อศอกน่ะ" อยู่ๆเขาก็พูดขึ้นมาทำให้เธอตกใจเลยทีเดียวกลัวว่าเขาจะรู้ว่าเมื่อเช้าเธอไปไหนมา

    "เอ่อ" พีรญาไม่รู้จะตอบยังไงได้แต่ยกข้อศอกขึ้นมาดู ก็เห็นว่าเลือดมันซึมทะลุเสื้อออกมาทั้งๆที่เธอก็ใส่เสื้อแขนยาวปิดไว้แล้วเชียว

    "อย่าลืมทำแผลละ แล้วที่หลังถ้าจะซื้อโจ๊กหน้าปากซอยก็ขับรถไป ไม่ต้องถีบจักรยานให้หมามันไล่เอา" ก้องภพพูดก่อนจะลุกไป ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าโจ๊กที่กินซื้อมาหน้าปากซอย ก็ในเมื่อเขากินมันมาตั้งแต่เด็ก แล้วอีกอย่างจักรยานที่จอดอยู่ก็สภาพเปลี่ยนไป ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นว่าหมาซอยนี่ดุขนาดไหน จึงไม่มีใครถีบจักรยานกันซักคน ในใจลึกๆ ก็ห่วงเหลือเกินกลัวว่าจะมาก แต่ก็แสดงออกไม่ได้ ก็เพราะคำพูดนั้นที่เธอพูดกับพี่สาวเมื่อคืนวันแต่งงานแท้ๆ



    ไม่รู้ว่าเธอจะดีใจหรือเสียใจดีที่เขาเป็นห่วง เพราะเขาไม่ใช่คนเดิมที่เธอเคยรู้จักเลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×