{SF EXO} That Rainy Day : baekdo
ขอบคุณฝนตกวันนั้น..ที่ทำให้เราได้เจอกัน
ผู้เข้าชมรวม
997
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
“คยองซู อย่าลืมเก็บของไม่ใช้แล้วใส่ลังด้วยนะลูก” เสียงคุณแม่ตะโกนดังมาจากชั้นล่างของบ้าน
“คร้าบ” เสียงใสตอบรับ ขณะกำลังจัดการรื้อเสื้อผ้าเก่าๆจากตู้
เนื่องจากคยองซูสอบได้ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดปูซานก็เลยต้องไปอยู่หอที่นั่นทั้งปี กว่าจะได้กลับอีกทีก็คงปลายปีนู่น
ซึ่งไหนๆก็ต้องเก็บของใช้เก็บเสื้อผ้าอยู่แล้ว ก็เลยถือโอกาสนี้รื้อห้องส่วนตัวไปด้วยเลยแล้วกัน
มือบางเอื้อมไปเปิดลิ้นชักใต้โต๊ะ..ก่อนสายตาจะไปสะดุดกับบางสิ่งที่ทำให้รอยยิ้มรูปหัวใจต้องคลี่ออกมา..
มันคือร่มสีดำแบบพกพาธรรมดาคันหนึ่ง..
แต่ทำไมมันถึงพิเศษน่ะหรอ...ก็เพราะคนให้น่ะสิ
.
.
.
.
.
.
.
.
3 ปีที่แล้ว
ท่ามกลางเหล่านักเรียนนักศึกษามากมายที่กำลังเดินไปสู่จุดหมายหลังเลิกเรียน
โด คยองซู นักเรียนชั้นม.4ของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในกรุงโซลกำลังสาวเท้าอย่างเร่งรีบเพื่อไปยังจุดหมายของเขา คือป้ายรถเมล์
คยองซูต้องมารอรถเมล์ที่นี่ทุกวันเพื่อกลับบ้าน แต่วันนี้ที่มันพิเศษกว่าวันอื่นๆก็เพราะพยากรณ์อากาศที่เพิ่งดูในโทรศัพท์มือถือตอนเช้าน่ะสิว่าบ่ายนี้จะมีพายุเข้า ฝนจะตกหนักควรหลีกเลี่ยงการเดินทางทางถนนและพกร่มออกจากบ้าน
คุณแม่ของคยองซูก็เตือนเขาแล้วนะว่าให้หยิบร่มออกมาด้วย แต่สุดท้ายการที่โหมอ่านหนังสือถึงดึกๆเมื่อคืนก็ทำให้ตื่นสายแล้วก็ลืมจนได้
ระหว่างที่กำลังคิดไปเพลินๆและก้าวเท้าไปตามทางเรื่อยๆ ลมแรงก็พัดเอาเศษฝุ่นเศษใบไม้ปลิวว่อนไปมาเต็มถนน เมื่อแหงนมองท้องฟ้ากับจำนวนเมฆตอนนี้แล้ว...คยองซูบอกได้เลยว่าพยากรณ์อากาศทายถูกชัวร์ๆ
เด็กหนุ่มถอนหายใจ เริ่มกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อไปให้ถึงป้ายรถเมล์เร็วๆ
แล้วในที่สุดก็มาถึงจนได้ ร่างเล็กรีบเดินเข้าไปนั่งใต้หลังคาทันที
"เฮ้อ ทันจนได้ ถ้าตัวเปียกกลับบ้านมีหวังโดนแม่ด่าแน่ๆ" พูดเบาๆพลางเหลือบมองป้ายตารางเวลารถเมล์
ระหว่างนั้นก็มีคนอีกหลายคนมายืนรอรถเมล์ตรงนี้ด้วย (หรือเตรียมหลบฝนกันนะ) ทำให้ที่นั่งที่เป็นม้านั่งยาวไม่พอสำหรับทุกคน แล้วหลังคาก็ดูสั้นเกินจะบังคนที่ยืนรอจากฝนที่กำลังจะตก
เนื่องจากวันนี้มีพายุทำให้ตารางเวลามีการดีเลย์ สำหรับสายที่เขาไปก็ต้องนั่งรออีก15นาที
อา..วันนี้คงจะไม่ใช่วันของโด คยองซูจริงๆ
แล้วก็เหมือนจะเป็นอย่างที่เขาคิด มีคุณยายคนหนึ่งท่าทางดูแก่มากแล้ว ถือไม้เท้าเดินโขยกเขยกมาตามทาง
คยองซูขอให้ยายเขาไม่เดินมาตรงนี้นะ
โอเค..ยายเขามารอรถเมล์จริงๆแหละ
คุณยายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆก่อนจะหยุดยืน..ตรงหน้าเขา
"อา..สวัสดีครับ" ค่อยๆเงยหน้ามองก่อนจะเอ่ยทักเบาๆ
จริงๆคยองซูก็ไม่ใช่คนใจร้ายอะไรไง ก็เลย..ต้องลุกให้คุณยายนั่งㅜㅜ
"นั่งเลยครับ ผมยืนได้ เดี๋ยวรถก็จะมาแล้ว"
"ขอบคุณนะจ้ะ" คุณยายเอ่ยตอบ
สุดท้ายคยองซูจึงจบลงที่การยืนพิงเสาที่มีหลังคาบังมาปิดได้แค่ครึ่งตัว
และโชคร้ายที่ต่อจากนั้น..ฝนก็เทลงมาพอดี
คยองซูกอดกระเป๋าเป้ไว้แนบตัว ก่อนจะรู้สึกว่ามีคนมายืนข้างๆ..
เงาจากร่มที่ค่อยๆเลื่อนมาบังเด็กหนุ่มจากฝนทอดไปบนพื้นด้านหน้า คยองซูรีบหันขวับไปมอง
เป็นผู้ชายตัวสูงกว่าเขาแค่นิดหน่อย ตาเรียวๆ จมูกโด่งๆ อายุน่าจะโตกว่าเขาหลายปี ใส่ชุดนักศึกษา
"ตากฝนระวังไม่สบายนะครับ" คนแปลกหน้าเอ่ยขึ้น
"ขะ..ขอบคุณครับ" คยองซูก้มหน้าตอบกลับคนข้างๆที่อยู่ๆก็มายืนกางร่มกับเขาตรงนี้
"วันนี้ฝนตกหนักเนอะ ถ้าไม่ได้เอาร่มมาด้วยนี่ตัวต้องเปียกแน่ๆ ฮ่าๆๆ" คนแปลกหน้าพูดพลางหัวเราะเบาๆ
"..." ร่างเล็กยังคงยืนนิ่งไม่ยอมพูดตอบ
"มารอรถเมล์หรอครับ" คนแปลกหน้าพูดขึ้นอีกรอบขจัดความเงียบน่าอึดอัดที่มีแต่เสียงฝน
"อ่า..ใช่ครับ" คยองซูตอบเสียงเรียบ ก็ใช่อยู่แล้วมั้ยล่ะ เขามายืนที่ป้ายรถเมล์คงไม่กลับแท็กซี่หรอกมั้ง
"อยู่ม.อะไรแล้วล่ะเรา"
"ม.4ครับ"
"อะไรนะ" คนถามกึ่งพูดกึ่งตะโกนแข่งกลับเสียงฝน
"ม.4ครับ ม.4" คยองซูพูดทวนช้าๆ
"ห้ะ อะไรนะ”
เอ๊ะ นี่ไม่ได้ยินจริงๆหรือแกล้งไม่ได้ยินกันแน่นะ หูหนวกหรือไง
"ฮ่าๆ ล้อเล่นๆ" คนตัวสูงกว่ายิ้มแล้วรีบพูดต่อเมื่อเห็นคนตัวเล็กเหลือกตาใส่
เป็นครั้งแรกที่คยองซูได้สังเกตใบหน้าของคนแปลกหน้าที่บังเอิญเจอคนนี้ดีๆ
ดวงตาเรียวที่มีแววขี้เล่น รอยยิ้มที่ทำให้ริมฝีปากบางๆนั่นกลายเป็นรูปสี่เหลี่ยม..
"งั้น..ขอแทนตัวเองว่าพี่นะ พี่ชื่อบยอน แบคฮยอน เราอ่ะ"
"อา..โด คยองซูครับ" ตอบแบบเขินๆก่อนจะก้มหน้ามองแอ่งน้ำบนพื้นต่อ
"ยินดีที่ได้รู้จักนะ" แบคฮยอนยื่นมือข้างที่ไม่ได้จับร่มออกไป
คยองซูเหลือบมองมือเรียวก่อนจะค่อยๆยื่นมือออกไปสัมผัสเบาๆ..มันทั้งนุ่มแล้วก็อุ่นด้วย
"กลับบ้านคนเดียวทุกวันเลยหรอ"
"อ่อครับ วันปกติมันสะดวกมากเลยนะครับ แต่ไม่ใช่วันฝนตกแบบนี้ แถมผมลืมร่มด้วย" คยองซูยิ้มแห้งๆ
"ฮ่าๆ วันหลังอย่าลืมอีกนะ ไม่มีคนมากางร่มให้นะ" แบคฮยอนยีหัวคนตัวเล็กกว่าอย่างเอ็นดู
คยองซูหันหน้าหนี มาลูบหัวทำไมเนี่ย แล้วทำไมใจต้องเต้นเวลาได้อยู่ใกล้กันด้วยนะ -//-
“เป็นไรอ่ะ ทำไมหน้าแดงๆ” พูดไม่พอเอื้อมมือมาแตะหน้าผากอีก
“อะ..มะ..ไม่ได้เป็นอะไรครับๆ” หันหน้าหนีอีกรอบ คนข้างๆจะรู้มั้ยนะว่ายิ่งทำแบบนี้มันยิ่งเขิน!
“พี่แบคเรียนอยู่แถวนี้หรอครับ” พูดออกมาเปลี่ยนเรื่องซะเลย
“อ่า ไม่อ่ะพี่อยู่มหาลัยนอกเมือกโน่น แต่อาทิตย์ได้มาฝึกงานในเมือง”
“งั้นก็ดีสิครับ..ได้เที่ยวด้วย”
“นั่งรถกลับไปกลับมามันไม่สนุกหรอก”
“แต่คยองชอบนะ เวลาได้ไปที่ใหม่ๆ ตื่นเต้นดี”
“เด็กน้อยเอ้ย~” พูดพลางส่งยิ้มมาให้
อา..นั่นไง ใจเต้นเลย หยุดทำอย่างงี้ได้แล่ว
"อ่าวรถมาแล้วอ่ะ..คยองซูเก็บร่มไว้ก่อนก็ได้นะ ไว้เจอกันอีกทีค่อยคืนก็ได้" แบคฮยอนหยิบมือบางไปไวัที่ด้ามจับ เมื่อเห็นรถเมล์สายของตนขับมาจอดด้านหน้า
คยองซูรับร่มจากคนตัวสูงกว่าแบบงงๆ "แล้วพี่ไม่ต้องใช้หรอครับ"
"ป้ายรถเมล์ไปลงหน้าบ้านพี่เลยแหละ เดินนิดเดียว เก็บไว้เถอะ"
"แล้วจะเจอกันอีกหรอครับ"
"เจอสิ เดี๋ยวเราก็เจอกันอีก" แบคฮยอนวิ่งตากฝนออกไปขึ้นรถเมล์ก่อนจะหันมาโบกมือให้
เด็กหนุ่มยิ้มให้กับรถเมล์ที่ขับออกไปท่ามกลางสายฝนก่อนจะเงยหน้ามองร่มสีดำที่ถืออยู่..
ไว้ผมจะเอาไปคืนนะครับ...พี่แบค
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
จนถึงตอนนี้..คงไม่มีใครรู้ว่าเขาเฝ้ารอคอยวันนั้นมากแค่ไหน
เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่มี อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ชื่ออย่างเดียว แล้วอีกอย่างนี่มันก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ถึงเจอกันอีกทีจริงๆอีกฝ่ายก็คงจะจำเขาไม่ได้
ร่างเล็กถอนหายใจ..
ไม่รู้ว่ากี่ปีกี่เดือนกี่วันแล้วนะ..
ที่แอบรักผู้ชายแปลกหน้าที่ชื่อ 'บยอน แบคฮยอน'
---
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างรถบัสสองชั้นเข้ามากระทบเปลือกตาที่ปิดสนิท ทำให้เจ้าตัวค่อยๆลืมตาพร้อมยกมือขึ้นมาบัง
“ถึงปูซานแล้วครับ กรุณาตรวจสอบสัมภาระก่อนลงจากรถด้วยนะครับ” เสียงคนขับรถดังมาจากด้านหน้า
คยองซูในชุดเสื้อแขนยาวสีดำกับกางเกงยีนส์ลุกจากที่นั่งอย่างงัวเงียหลังจากนั่งรถบัสที่มหาวิทยาลัยจัดให้(แต่ไม่ฟรี)สำหรับเด็กปี1ที่ประสงค์จะนั่งรถบัสจากโซลมา ซึ่งนานกว่านั่งรถไฟประมาณ4ชั่วโมงได้ แต่เขาก็ยังยืนยันจะนั่งรถบัสเพราะมันประหยัดที่สุด แล้วก็มาถึงก่อนตั้งหลายวันมีเวลาเหลือเฟืออยู่แล้ว
ก้าวแรกที่สัมผัสพื้นดินจังหวัดปูซาน เด็กหนุ่มหยุดยืนก่อนจะสูดหายใจลึกๆแล้วมองไปรอบๆ
เนื่องจากเป็นเดือนกุมภาพันธ์อากาศยังหนาวอยู่แต่ต้นไม่ก็เริ่มผลิใบแล้ว มองไปซ้ายขวาจึงเห็นต้นไม้มีใบสีเขียวอ่อนๆอยู่ประปราย ด้านหน้าสุดเป็นมหาวิทยาลัยจุดหมายปลายทางของเขา มีตึกหลายตึกเรียงรายกันด้านใน การออกแบบดูมีเอกลักษณ์เฉพาะแต่ละตึก โดยรวมแล้วน่าเรียนมาก
“สวัสดีค่ะ นักศึกษาปีหนึ่ง เดี๋ยวครูจะพาเราไปที่หอพักนะคะ ตามมาค่ะ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นก่อนทุกคนจะทยอยกันเดินตามไป
.
.
.
.
.
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นในช่วงสองสามวันที่ปูซาน คยองซูรู้จักเพื่อนแค่คนเดียวซึ่งก็คือรูมเมทของเขาเอง ชื่อ 'ปาร์ค ชานยอล' เป็นคนคุยเก่งต่างกับเขาที่พูดน้อย เวลาคุยกันเลยเหมือนชานยอลพูดคนเดียวซะมากกว่า
“คยองซู! แต่งตัวเสร็จรึยัง ไปสายเดี๋ยวก็โดนทำโทษหรอก” พอนึกถึงก็ตะโกนมาเลย แต่ใช่ วันนี้มีกิจกรรมรับน้องของพี่ปี4กับน้องปี1 เขาควรจะรีบแต่งตัวแล้วไปให้ทันเวลานัด
“คายองซู!!”
“เอ้อ! เสร็จแล้วๆ” ตะโกนกลับออกไปก่อนจะเดินออกมาด้วยชุดนักศึกษาใหม่เอี่ยม
“แต่งตัวนานจริง ชุดนักศึกษาแค่เนี้ย”
“ไม่เห็นนานซะหน่อย รีบไปสิ เดี๋ยวก็สายจริงๆหรอก” คนตัวเล็กดันหลังเพื่อนตัวสูงให้ออกจากห้อง
ทั้งสองมาถึงทันเวลาพอดี ตอนนี้เด็กปีหนึ่งนั่งรวมกันตรงกลางลานหน้าคณะเป็นแถวๆ คยองซูกับชานยอลเลือกนั่งตรงแถวสุดท้าย มีพี่ปี4หลายคนยืนอยู่ด้านหน้าสุด
“สวัสดีครับน้องๆทุกคน คงรู้กันแล้วว่าวันนี้พวกพี่จัดกิจกรรมรับน้องให้กับรุ่นน้องปี1ทุกคน เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนๆพี่ๆนะครับ” เสียงของรุ่นพี่คนหนึ่งเกริ่นนำขึ้นส่งผลให้เสียงคุยเงียบลง
“เข้าเรื่องเลยดีกว่า ก่อนอื่นให้น้องๆแบ่งกลุ่มกัน เอาแถวตามที่นั่งเลย ไปเล่นกิจกรรมทีละฐานเวียนกันไปเรื่อยๆ เอ้าลุกๆ” สิ้นเสียงรุ่นพี่ ทุกคนก็ค่อยๆลุกขึ้นยืนพลางคุยกันเสียงจ้อกแจ้กต่อ ก่อนจะมีพี่ปี4เดินมาบอกแต่ละแถวว่าให้ไปฐานไหนก่อน
คยองซูกับชานยอลก็เดินตามคนอื่นไปเรื่อยๆ มีทั้งหมด4ฐาน กลุ่มของเขาได้ฐาน2เป็นฐานแรก รุ่นพี่ดูสนุกกันมาก แต่รุ่นน้องดูจะเหนื่อยซะมากกว่า
“โอ๊ย ฉันจะเป็นลมจริงๆแล้วนะ มันยังไม่หมดอีกหรอเนี่ย” ร่างโปร่งพูดขึ้น หลังเสร็จจากโดนทำโทษกางแขนยืนขาเดียวกลางแดดเกินครึ่งชั่วโมง
“เอาหน่า อีกฐานเดียว เราก็เหนื่อยเหมือนกันนั่นแหละ” คยองซูปลอบเพื่อนตัวสูง ซึ่งจริงๆแล้วคนพูดก็ดูจะไม่ไหวพอๆกับคนฟัง
“อืมๆ ตรงนั้นป่าวอ่ะฐาน1”
“คงใช่แหละ”
สุดท้ายก็ลากกันมาจนถึงด้านหลังมหาลัยที่ถัดไปเป็นที่ตั้งของป่าแห่งหนึ่ง มีพี่สองสามคนยืนอยู่
“นี่คือฐาน1นะคะ น้องปี1กับพี่ปี4จะจับคู่กันออกไปล่าสมบัติในป่า โดยน้องจะโดนปิดตาให้ไม่รู้ว่าพี่เป็นใคร คนไหนไปเอาสมบัติออกมาได้ก่อนเป็นผู้ชนะ แต่ใครออกมาเป็นคนสุดท้ายมีบทลงโทษนะคะ น้องรับผ้าปิดตาไปคนละผืนเลยนะคะ แล้วยืนรอพี่ๆตรงนี้ก่อน” ทั้งสองรับผ้าสีดำผืนยาวมาปิดตาแต่โดยดีเพราะอยากจะให้มันจบๆไป
“งั้นอย่างงี้เราก็ต้องแยกกันอ่ะดิ” คนตัวสูงพูดขึ้น
“อืม เดี๋ยวเจอกันตรงนี้นะ”
ผ่านไปซักพักคยองซูก็รู้สึกถึงสัมผัสเบาๆที่มือขวา
“สวัสดีครีบน้อง..” เสียงปริศนาหยุดไปหนึ่งอึดใจก่อนจะพูดขึ้นต่อ
“ไปหาสมบัติกัน”
ไม่รู้เขาคิดไปเองรึป่าวนะ แต่เสียงของรุ่นพี่คนนี้คุ้นมากๆ.. อ่อ หรือว่าจะเป็นคนที่ประกาศในแถวตอนแรกกันนะ
“อ่า..หวัดดีครับ แล้วสมบัติที่ว่านี่มันคืออะไรหรอครับ” คนตัวเล็กถามออกไปด้วยความสงสัย
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันน่ะสิ ป่าตรงนี้ก็ไม่เคยเข้า พี่กลุ่มนั้นเขาเพิ่งไปเรียกพี่ให้มาช่วยเมื่อกี้เอง นี่ถ้าบอกว่ามีทำโทษด้วย พี่ไม่มาแน่ๆฮ่าๆ” เมื่อรุ่นพี่พูดจบก็จูงมือคนตัวเล็กออกเดินเข้าป่าทันที
สัมผัสที่มือ..ทำไมรู้สึกอบอุ่นแปลกๆ..
คยองซูเดินตามรุ่นพี่คนนี้มาเรื่อยๆ ระหว่างทางไม่ได้พูดอะไรกันมากนักเพราะถูกปิดตาอยู่ ความรู้สึกคือมีลมเย็นๆพัดมากระทบใบหน้ากับเสียงหวิวๆของมันเท่านั้น
เดินไปเรื่อยๆก็เจอพี่ปี4กำลังยืนอยู่ข้างต้นไม้มีโต๊ะตั้งอยู่ ด้านบนมีเค้กก้อนใหญ่สีขาว มีป้ายแปะไว้ว่า'ด่านที่1'
“มากันแล้วๆ ตรงนี้เลยครับด่านที่1” ทั้งคู่เดินเข้าไปตามเสียงเรียก
"เดี๋ยวรุ่นพี่รบกวนรับผ้าไปปิดตาด้วยนะครับ" พูดพร้อมกับยื่นผ้าปิดตามาให้
“เอาล่ะครับ เดี๋ยวเราจะให้ทั้งคู่หาลูกสตรอเบอร์รี่ในเค้กครีมสด4ปอนด์ก้อนนี้มาแลกกับแผนที่ไปด่านต่อไป โดยห้าม่ใช้มือนะครับ ห้ามกินด้วยนะ เริ่มได้”
“อ่าวแล้วทำไงอ่ะ!” คนเพิ่งถูกปิดตาโวย
“ก็ใช้ปากไงครับ” กรรมการตอบ "เริ่มแล้วนะครับ ห้ามใช้เวลาเกิน20นาทีด้วยนะครับ”
“โว้ยยห้ามอะไรนักหนาวะ” บ่นอีกครั้ง ก่อนจะจำใจก้มหน้าลงไปกินก้อนเค้กจนใบหน้าเปื้อนไปด้วยครีมสีขาวๆ
“น้องปี1ต้องช่วยหาด้วยนะครับ”
“ง่า โอเคครับ” คยองซูที่ทำเป็นยืนนิ่งๆสุดท้ายก็ต้องช่วยหาด้วย โถ่นึกว่าจะรอดแล้ว
เค้กก้อนโตที่ถูกโปะหน้าด้วยครีมสีขาว บัดนี้ได้กระจายไปทั่วทุกทิศทางโดนฝีมือของรุ่นพี่ปี4กับรุ่นน้องปี1 ครีมสีขาวเปื้อนหน้าไปหมด
“งื้อทำไมหาไม่เจอซะที”
“พี่ก็หาไม่เจอเนี่ย กินครีมเข้าไปจนเต็มกระเพาะแล้วแค่ก”
“เดี๋ยวหาฝั่งนี้ซิ..โอ๊ะ..” ใบหน้าหวานหยุดกึกเมื่อรู้สึกว่าริมฝีปากของตน..ประทับเข้าไปบนแก้มของคนด้านข้างอย่างจัง
“ขะ..ขอโทษครับ” คยองซูรีบเบือนหน้าหนีไปอีกฝั่ง โอ๊ยเขาทำอะไรลงไปเนี่ย น่าอายเป็นบ้าเลย!
“อ่า ไม่เป็นไร รีบหาต่อเถอะๆ” คนข้างๆที่ดูจะเขินไม่แพ้กันรีบพูดตอบก่อนจะก้มลงไปหาต่อ
...แต่ก็ชนกันอีกจนได้
จมูกของทั้งคู่มาแตะกัน คนตัวเล็กกว่ารู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของอีกคนที่รดลงมา..
..จนใบหน้าเริ่มขึ้นสีแดง
อ๊ากกกกกกกกกกก เขาทำอะไรอีกเนี่ยย ขอสัญญาว่าจะไม่มองหน้ารุ่นพี่ตอนเล่นเกมจบเด็ดขาด ไม่ถามชื่อไม่อะไรทั้งสิ้นเลยด้วย! มันน่าอายมากเลยฮือออออ
“อ่ะ ผมเจอแล้วครับ” คนตรงหน้าเอ่ยขึ้นก่อนจะค่อยๆคาบผลสตรอเบอรร์รี่ขึ้นมา..จากตรงที่จมูกโดนกันนั่นแหละ-//-
"ดีมากครับ นี่แผนที่ครับ" รุ่นพี่ที่เป็นกรรมการยื่นแผนที่ให้คนที่เพิ่งแกะผ้าปิดตาออก ไม่มีใครสังเกตคนตัวเล็กด้านหลังที่ยืนหน้าแดงก่ำอยู่
“ทีนี้ผมก็ไปได้แล้วใช่มั้ย"
“ครับ”
ทั้งสองเดินไปตามแผนที่เรื่อยๆ จนเจอแอ่งน้ำขนาดใหญ่มีป้ายแปะอยู่ 'หาได้เจอสิ กุญแจอยู่ในนี้'
“อะไรเนี่ย นี่มันงานรับน้องหรือแกล้งพี่กันแน่วะ โอเคๆเรายืนตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่จะลงไปหา” พอพูดจบคยองซูได้ยินเสียงรุ่นพี่เดินลุยลงไป น้ำไม่น่าจะลึกมากแต่คงจะเป็นโคลนหน่อยๆ
“เห้ย! นี่ไรวะ!!” รุ่นพี่ตะโกนออกมาหลังจากใช้มือควานหากุญแจเจ้าปัญหาแล้วคงไปโดนอะไรซักอย่าง
“พี่เป็นไรป่าวครับ?” คยองซูถามพร้อมกับก้าวขามาข้างหน้า แต่เนื่องจากยังโดนปิดตาอยู่ทำให้ลื่นตกลงไปในแอ่งน้ำ
“โอ๊ย!”
“คยองซู!”
คนที่เป็นรุ่นพี่รีบวิ่งมาหารุ่นน้องที่ล้มไม่เป็นท่าอยู่ในโคลนพร้อมกับเอื้อมแขนไปพยุงคนตัวเล็กให้ยืนขึ้นดีๆ ก่อนมือเรียวจะแกะผ้าปิดตาออกจากใบหน้าเปื้อนโคลน
“เจ็บตรงไหนมั้ยครับ”
“พะ..พี่แบค..” เสียงใสเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ ดวงตากลทโตจ้องเข้าไปในดวงตาเรียวที่ฉายแววเป็นห่วง
“พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง..”
“ก็พี่เรียนอยู่ที่นี่น่ะสิ”
“แล้วทำไม ผมไม่เคยเห็นพี่เลย”
“ก็เรามาอยู่ที่นี่ได้กี่วันล่ะ เอ้า ยืนไหวมั้ย”
“ไหวครับไหว” คยองซูค่อยๆยันตัวยืนขึ้นเอง แต่ก็ลื่นลงไปอีกรอบทำให้คนตัวสูงกว่าต้องอ้อมแขนไปโอบรอบเอว
“พี่ว่าพี่พาเราออกไปก่อนดีกว่า ช่างมันเหอะไอสมบัติอะไรเนี่ย”
“แต่..”
“มา จับมือพี่ไว้นะ” พูดจบรุ่นพี่ก็ปีนขึ้นไปนอกบ่อก่อนจะจับมือคนตัวเล็กแล้วประคองขึ้นมา
“เฮ้อ” คยองซูถอนหายใจ ตอนนี้เขานั่งอยู่บนพื้นหญ้าข้างๆบ่อ ตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำกับเศษดินเศษหญ้า
แบคฮยอนยืนมองรุ่นน้องคนสำคัญ ก่อนจะยื่นมือออกไป "ขี่หลังพี่ดีกว่า ห้ามปฏิเสธนะ”
.
.
.
.
.
.
.
บรรยากาศยามเย็น แสงแดดสีส้มส่องจากด้านหลังทอดเป็นเงายาวสีดำของบยอนแบคฮยอนปี4กับโดคยองซูปี1ที่อยู่บนหลัง มุ่งหน้ากลับไปมหาลัย
ถ้าจะถามถึงความรู้สึกของคยองซูตอนนี้คงยากจะอธิบายมาก มันทั้งมีความสุขทั้งตื้นตันดีใจปนกันไปหมด เขาได้เจอพี่แบคฮยอนแล้ว ได้เจอกันอีกครั้งแล้วจริงๆ..
“แย่เลยนะครับ เสื้อพี่แบคเปื้อนหมดเลย”
“ไม่เป็นหรอก แหมมารับน้องฮ่าๆ”
“เอ่อ..พี่แบคครับ..คือ..ร่มคันนั้นเดี๋ยวผมจะเอามาคืนนะครับ” คยองซูกลั้นใจพูดสิ่งที่ค้างคาออกมา
“อ่า ได้สิ เห็นมั้ยได้เจอกันอีกจริงๆ..พูดแล้วก็นึกถึงตอนนั้นเนอะ”
“นั่นสิครับ..ขอบคุณฝนตกวันนั้นนะครับ..ที่ทำให้เราได้เจอกัน” คนตัวเล็กกว่าเกือบจะเผลอตบปากตัวเองแล้ว นี่เขาพูดอะไรออกไปเนี่ย!
“จริงๆแล้ว มันอาจจะไม่ใช้เรื่องบังเอิญก็ได้นะ”
“พี่แบคหมายความว่า...”
“เฮ้ย! นั่นไงเดินมาโน่นและ ตัวเปียกปอนเชียวไอแบค!” เสียงของรุ่นพี่ที่รออยู่ดังมาแต่ไกล เหมือนชานยอลก็จะยืนรอเขาอยู่ตรงนั้นด้วย
“คยองซู! ทำไมตัวเปื้อนงี้ล่ะ แล้วเจ็บตรงไหนรึป่าว” เพื่อนตัวสูงรีบถามไถ่คนตัวเล็กทันทีที่รุ่นพี่ค่อยๆวางคยองซูลง
“ไม่เป็นไรแล้วๆ แค่ข้อเท้าแพลงนิดหน่อย” คยองซูตอบพร้อมส่งยิ้มคอนเฟิร์มว่าไม่เจ็บจริงๆ
“โอ๊ยย มาๆเดี๋ยวฉันไปส่งที่ห้อง” พูดพลางจับแขนคยองซูมาพาดบ่า ร่างเล็กเหลือบมองแบคฮยอนก่อนทั้งคู่จะส่งยิ้มให้กันอย่างรู้ดี 'เดี๋ยวไว้เจอกัน'
“อ่า แล้วเรื่องทำโทษล่ะครับ ผมว่าผมออกมาเป็นคนสุดท้ายแน่เลย”
“ยังจ้ะๆ มีอีกตั้งหลายกลุ่มยังไม่ออกมา ไปล้างเนื้อล้างตัวได้แล้ว” รุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งตอบคำถามคยองซู จากนั้นชานยอลก็ค่อยๆพยุงคนตัวเล็กกลับหอพัก
---
ขณะนี้ปีการศึกษาใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว คยองซูเป็นนักศึกษาปีหนึ่งของที่นี่อย่างเป็นทางการ
เป็นเวลาสายๆ ร่างเล็กกำลังหิ้วกระเป๋ามุ่งหน้าไปยังตึกคณะที่อยู่ของรุ่นพี่คนพิเศษ..บยอน แบคฮยอน
เนื่องจากรุ่นพี่โทรมานัด(แลกเบอร์โทรศัพท์กันเรียบร้อย)ให้เขาไปหาที่คณะ คนตัวเล็กก็เลยออกจะตื่นเต้นนิดหน่อย
ก้าวขาไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่หน้าคณะ ทอดสายตาไปทั่วๆ..อยู่ตรงไหนน้า รุ่นพี่นัดเขาที่นี่หนิ..
“ทายซินี่ใคร”
“พี่แบค! เอามืออกปาย” คยองซูจับแขนของคนที่เพิ่งเอามือมาปิดตาเขาจากด้านหลัง
“ไปเดินเล่นกัน” คนตัวสูงกว่าคว้าข้อมือคนโดนแกล้งอย่างไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะลากไปที่สวนเล็กๆข้างคณะ
“โหห นี่ผมยังไม่เคยเดินมาตรงนี้เลยนะเนี่ย” คยองซูพูดหลังจากเดินชมต้นไม้ดอกไม้ในสวน
“สวยใช่มั้ยล่ะ”
“อือ”
“เดี๋ยววันหลังพามาบ่อยๆ”
“ดีมากๆ โง้ยไม่อยากเรียนแล้วอ่า อยากอยู่ที่นี่ทั้งวันเลย”
“ฮ่าๆ...แล้ว..อยากอยู่กับพี่ด้วยรึป่าว”
“อยากอยู่สิค้าบ พี่แบคคนน่ารัก ฮิ” พูดพลางกอดแขนคนโตกว่า
“พี่หมายถึง..อยู่ด้วยกันตลอดชีวิตอ่ะครับ..”
“ห้ะ?”
"พี่รักเรานะ รักตั้งแต่ก่อนที่เราจะรู้จักพี่อีก..จริงๆวันนั้นพี่ตั้งใจเอาร่มไปให้รู้มั้ย..."
“พี่แบค...”
"คยองซู...เป็นแฟนกับพี่นะ"
คนพูดคงจะไม่รู้..ว่ามันเป็นประโยคที่คนฟังรอคอยมานานแค่ไหน..
คนตัวเล็กกว่าซบหน้าลงกับอกของคนด้านหน้า พร้อมกับกระซิบเบาๆ..
รอยยิ้มที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของคนทั้งสองในวันนั้น คงจะถูกเก็บอยู่ในความทรงจำของทั้งคู่ไปอีกนาน..
“ตกลงตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้วครับ”
-the end-
จบแล้วง้าบบ เย่~ มันยาวไปมั้ยอ่ะ555
ขอบคุณทุกคอมเม้นที่ให้กำลังใจนะคะ
#ฟิควันฝนตก เผื่อใครจะสกรีม
มีคำผิดแจ้งได้ค่ะ
ขอบคุณที่หลงเข้ามานะค้า รักรีดทุกคน<3
ผลงานอื่นๆ ของ atommumu ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ atommumu
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น