ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) short fiction (kai x d.o)

    ลำดับตอนที่ #1 : special intro.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.73K
      7
      9 ก.ย. 56

    ` theme - อินมายสไตล์ .

     









    คุณเคยเป็นไหมครับ หลอมละลายเพราะความอ่อนโยนของใครบางคน
    จนสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง 
    ..

    อย่างผม

     

    .

    .

    .

    .

                    ชื่อโด คยองซู..” เสียงนุ่มๆนั่นแนะนำตัวภายในห้องฝึกซ้อมที่มีสมาชิกนั่งอยู่แต่ละมุมห้อง และแน่นอน เมื่อมีสมาชิกใหม่ก็ต้องมีคนสนใจเป็นธรรมดา

     

    คน ที่แนะนำตัวดูจะตาโตขึ้นทันทีที่เห็นสายตาหลายๆคู่จ้องมาที่ตน  ไหล่ที่เล็กอยู่แล้วก็หดตัวลงราวกับเด็กที่ถูกตำหนิ เพียงแต่ใบหน้าที่ยิ้มออกกว้างพร้อมกับโค้งตัวจนหัวแทบทิ่มลงไปกับพื้นนั้น แหละทำเอาหลายๆคนในห้องซ้อมประทับใจไปตามๆกัน
     

                    รวมทั้งผมด้วย

     

    ผม นั่งรวมกลุ่มอยู่กับเพื่อนๆที่ถูกคัดให้อยู่ในวงเดียวกันที่กำลังจ้องมองคน ที่มาใหม่อย่างตื่นเต้น พวกเรารู้ครับว่าจะต้องมีสมาชิกมาใหม่อยู่เรื่อยๆ และไม่รู้ว่าจะมีถึงกี่คน ..

     

                    “แหมะ มองไม่วางตาเลยนะไอ้ดำ

     

    เซ ฮุนตบหัวผมแรงๆแล้วหันไปหัวเราะกับพี่ลู่ห่านที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของมัน อืม ผมมองเขาไม่วางตาจริงๆนั่นแหละครับ ผมช็อคมากๆเมื่อรู้ว่าเขาเป็นพี่ผม แต่แค่ปีเดียว คงจะช็อคพอๆกับรู้ว่าพี่ลู่ห่านเป็นพี่ของผมกับเซฮุนนั่นแหละครับ ให้ตายเถอะ คยองซู.. ไม่สิ พี่คยองซูเขาดูเด็กมากๆ

     

                    ไม่ใช่แค่หน้าตา แต่รวมทั้งท่าทางด้วย

                    เขาเหมือนกับเด็กที่ไม่รู้ประสีประสาอะไร

     

                    โห ไรมึง คนอื่นเขาก็มองเยอะแยะ

    ผม พูดไปตามความจริง เมมเบอร์คนอื่นก็มองไปที่พี่เขาแล้วต่างก็ชื่นชม พี่คยองซูที่ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ยิ้มแล้วก็โค้งอยู่อย่างนั้นหลายรอบจนพวก ผมขำกันออกมา
     

                    เหมือนเขาจะรู้ว่าพวกผมขำกัน ถึงได้มองอย่างไม่เข้าใจ ดวงตากลมที่โตกว่าปกติก็ยังกลมโตอยู่อย่างนั้น ริมฝีปากที่อ้าออกนิดๆพร้อมกับคิ้วเรียวที่ขมวดเข้าหากันทำเอาพวกผมเผลอยิ้ม ออกมาแล้วทำมือปฏิเสธ
     

                    โคตรน่ารักเลยสาส !

    .

    .
    .
    .
    .
    .

    .
    .
    .
    .

    .

    .                              

                    ไม่ว่าจะที่ไหน พี่เขามักจะยิ้มแย้ม โบกมือ และโค้งให้คนอื่นๆเสมอ

     

    ผม เดินมาซ้อนหลังพี่เขาแล้วโอบเอวไว้หลวมๆ พี่เขาดูท่าจะตกใจมากถึงได้หันมามองผมอย่างตกใจหน่อยๆ ดวงตานั่นโตขึ้นอีกแล้ว ผมยิ้มออกมาแล้วหันไปมองแฟนคลับที่จ้องมาที่พวกเราแล้วกรี๊ดออกมา ไหนจะแสงแฟลชที่กดรัวเข้ามาทำเอาผมต้องหยีตาลงด้วยความแสบตา
     

                    ใช่แล้วครับมันเป็นแฟนเซอร์วิส

     

                    ใกล้ไปไหมอะ?”
     

    ผม เขยิบไปชิดกว่าเดิมจนพี่เขาหันมาถาม ผมยิ้มไปไม่ตอบ พี่เขาขมวดคิ้วน้อยๆแล้วหันไปยิ้มให้แฟนคลับเหมือนเดิม มันน่าจะเป็นเรื่องปกติไหม? เพราะเป็นคำสั่งของบริษัทเขาบอกให้ทำแบบนี้
     

                    โห พี่ทำๆไปเหอะ..เห็นไหมพี่ชานยอลกับพี่แบคฮยอนยังเซอร์วิสกันซะขนาดนั้น
     

    ผม ก้มลงไปกระซิบข้างหูพี่เขา พี่คยองซูเหลือบไปมองคู่ชานแบคแล้วพยักหน้าเบาๆ ผมคลายยิ้มออกมา ใช่ คู่ชานแบคก็เซอร์วิสเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงพี่เขาคบกันจริงๆนั่นแหละ

     

                    ^____________^  มีความสุขซะจริง


     

    ทันที ที่พวกผมเดินลงจากเวทีก็รีบวิ่งขึ้นรถตู้กันทันที ผมพยายามเดินให้มาตรงข้างๆที่พี่คยองซู จนแม้กระทั่งจะขึ้นไปบนรถตู้แล้วพี่คยองซูก็ยังหันมาโค้งขอบคุณแฟนคลับแล้ว โบกมือให้อีก
     

                    เหนื่อยหน่อยนะ
     

    พี่ ผู้จัดการหันมาบอกพวกเรา ซึ่งตอนนี้ตำแหน่งการนั่งสลับปนเปกันไปหมด ผม พี่ซูโฮ เซฮุนนั่งอยู่หลังสุด สองที่ถัดมาก็เป็นของพี่แบคฮยอนกับพี่ชานยอล ส่วนพี่คยองซูนั่งหน้ากับพี่ผู้จัดการและสต๊าฟ ผมเอาหัวฟุบลงกับเบาะหน้าเพราะว่าเพลียเหลือเกิน ตารางงานของพวกเรามันหนักเกินไปสำหรับเด็กที่เพิ่งจะก้าวมาเป็นผู้ใหญ่ต้นๆ หรือปล่าว?
     

                    “เห้ย จงอินไหวไหม
     

    พี่ ซูโฮสะกิดผมเบาๆจนผมต้องเงยหน้าขึ้นมา กลายเป็นว่าทั้งรถกำลังหันมามองผม รวมทั้งพี่คยองซูที่ทำหน้าขมวดคิ้วจนแทบจะติดกันอยู่แล้ว ทำให้ผมรู้สึกตื้นตันอยู่หน่อยๆ ความจริงผมก็ไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ แค่ง่วงนิดหน่อย ไหนจะต้องแยกไปซ้อมเดี่ยวอีก
     

                     อ่า เอ่อ ผมแค่ปวดหัวนิดหน่อยครับ

     

    ผมสาบานได้ว่าไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นครับ แต่พอเห็นหน้าพี่คยองซูทำท่าจะร้องไห้แบบนั้นปากของผมก็เผลอพูดแบบนั้นออกไป

     

                    สำออย..”

     

    ไอ้เซฮุนพูดออกมาแล้วหันกลับไปมองหน้าต่างเหมือนเดิม

     

                    ดัดจริต..”

     

    พี่ ชานยอลที่พูดออกมาหน้าเอือมๆก็โดนพี่แบคฮยอนฟาดเข้าให้ข้อหาว่าน้อง ผมเริ่มตีหน้าซึมทันทีเพราะถ้ามีใครจับได้ว่าโกหกผมคงโดนด่ายับแน่ๆ
     

                    กะจะขอโดดซ้อมพรุ่งนี้แล้วนอนอยู่หอเล่นสักหน่อย

     

                    เดียวกลับบ้านพี่ทำข้าวต้มให้กินนะ

    พี่คยองซูพูดขึ้น เช้ด .. โคตรจะลัคกี้ ผมลอบยิ้มออกมาแต่ก็กลับไปตีหน้าซึมเหมือนเดิม พี่ซูโฮเอามือมาอังหน้าผากผมแล้วทำหน้าครุ่นคิดอยู่
     

                    ตัวก็ไม่ร้อนนี่หว่า…”

                    แค่กๆ
     

    ผมแกล้งไอออกไป จนทุกคนหันมามองผมอีกที แล้วผมก็ฟุบหน้าลงกับเบาะหลังข้างหน้า
     

                    พี่ซูโฮแลกที่กับผมได้ไหมอะ?”
     

    พี่คยองซูพูดมาจากเบาะข้างหน้า ผมได้ยินเสียงดังกุกกักๆก็ยิ้มออกมา พี่คยองซูคงจะย้ายที่กับพี่ซูโฮแน่ๆ  เอาวะ! เล่นละครมาซะขนาดนี้ก็เล่นให้จบเลย
     

                    กูรู้นะ กูทำกับพี่ห่านบ่อยๆ
     

    เซ ฮุนเปรยๆออกมาราวกับว่าไม่ได้คุยกับใครในรถ แต่ว่าทำผมสะดุ้งทันที ผมเงยหน้ามามองมันที่ใส่หูฟังไอพอดเข้าสู่ยานแม่ของมันไปเรียบร้อย
     

                    เมื่อคืนพี่เปิดแอร์แรงไปหรอ?”

     

    พี่ คยองซูหยิบเสื้อกันหนาวมาจากไหนก็ไม่รู้มาคลุมให้ผม ผมหันไปส่ายหน้าให้พี่เขา ..... พวกคุณไม่รู้หรอกครับว่าผมโชคดีแค่ไหนที่ได้เป็นรูมเมทห้องเดียวกับพี่คยอง ซูที่หอพักของเรา

     

                    สงสัยจะแพ้อากาศนะ เดียวพี่ไปซื้อยาให้

                    “แหมะ ดูแลกันดีเกินไปละ

     

    พี่ชานยอลหันมาแขวะ จนพี่แบคฮยอนต้องตีแขนไปอีกรอบ พี่คยองซูหัวเราะเบาๆแล้วเอามือมาแตะหน้าผากผม แล้วขมวดคิ้วราวกับใช้ความคิด
     

                    อา..พี่เขาจะรู้ไหมว่ารอยยิ้มของพี่เขามีผลต่อการเต้นของหัวใจของผม
     

    ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองที่แฟนคลับบอกว่ามันดูเซ็กซี่มากๆออกมา
     

    รอยยิ้มนั้น..

    สายตานั่น..
     

     ตอนนี้สมองผมคิดได้แค่อย่างเดียว อย่างเดียวเท่านั้น!

     

                    เอาวะ !!!!!!
     

                    “คืนนี้ผมนอนกับพี่ได้ไหมอะ เวลาผมไม่สบายหนักจะได้เรียกพี่ได้

     

    เท่านั้นแหละครับ !!! ไอ้เซฮุนกับพี่ชานยอลโห่ใส่ทันที !


    .
    .

     

    .

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

     

    .

    .

                    ไม่สบายแล้วสระผมทำไมละ
     

    พี่คยองซูทักผมตอนเดินออกจากห้องน้ำ ผมชะงักไปสักแปบ

     

    เออวะ ลืมไปต้องป่วย

     

                    ผม ใส่..เจลเยอะนะครับ มันเหนียวๆหัว นอนไปเดียวคันอะ
     

    อันนี้สาบานได้ว่าไม่ได้โกหก มันเหนียวจริงๆครับ พี่คยองซูพยักหน้าแล้วเดินหยิบผ้าขนหนูมาโปะไว้ที่หัวผมแล้วเช็ดเบาๆอย่างนั้น ผมมองหน้าพี่คยองซูที่จ้องอยู่ที่ผ้าบนหัวผมอย่างนุ่มนวลนั่นแล้วเผลอกลืนน้ำลายลงคอดังเฮือกใหญ่
     

                    ..ชิบหายละ ...

     

                    เอาที่เป่าไหม ? เดียวพี่ไปยืมคนอื่นมาให้ จะได้นอนเร็วๆไง

     

    ถึงผมจะอยากนอนเร็วๆ แต่ว่าถ้ามีคนน่ารักมายืนทำตัวน่ารักเช็ดผมให้ขนาดนี้ใครจะไปยอม!!!

     

                    ไม่ต้องครับพี่ ผม ว่า คนอื่นๆคงอยากพักมากกว่านะ

     

    พี่ คยองซูพยักหน้าเข้าใจ มือเล็กยังคงทำหน้าที่เช็ดผมให้ผมต่อ อาจจะเป็นเพราะความสูงเราห่างกันจนทำให้พี่คยองซูต้องเงยหน้า แล้วผมก็ต้องก้มลงมองเขา .. มุมเป๊ะ องศาเป๊ะ !!!

     

                    ต่อไปเหลืออาศัยความหน้าด้านเท่านั้น !!!


     

    เหมือนพี่คยองซูจะรู้ตัวแล้วว่าผมมอง พี่เขาหยุดเช็ดผมให้ผมแล้วมองหน้าผม ดวงตากลมโตนั่นกำลังสะท้อนภาพของผมเพียงคนเดียว

     

                    ให้ตายเหอะครับจงอินน้อยกำลังจะตื่น 

     

                    “ทำไมทำหน้าแปลกๆแบบนั้น?”
     

    ผม ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำถามนั้น ตอนนี้หน้าผมคงหื่นจัดมากเลยสินะเนี่ย ผมเม้มปากตัวเองแล้วเดินถอยหลังออกห่างจากพี่เขา เพราะกลัวว่าจะเผลอทำอะไรลงไป

     

                    คำคืนนี้ยังอีกยาวนานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน


     

                    ไม่มีไรครับๆ พี่จะนอนยังอะ

                    ยังเลย กะจะออกไปดูโปโรโร่ก่อน จู่ๆก็อยากดู


     

    ไอ้ โปโรโร่เนี่ยคือการ์ตูนที่ผมกับพี่คยองซูดูด้วยกันบ่อยๆ เอาตรงๆคือผมไม่ได้ชอบดูหรอกครับ แต่ชอบดูคนดูมากกว่า แบบเวลาพี่เขานั่งดูการ์ตูนนี่โคตรจะจริงจัง ดวงตากลมๆนั่นจ้องจอโทรทัศน์อย่างเอาเป็นเอาตาย           
     

                    เป็นภาพที่แฟนคลับหาดูได้ยากเลยนะครับ ~



     

                    ผมไปด้วยดิ อยากดูมั่ง

                    “จงอินไม่สบายอยู่นะ หลับๆไปสิ

                    “พี่ดูแลผมหน่อยๆๆๆ

     

    นี่ สินะที่เขาบอกว่า ความรักทำให้คนดูหน่อมแน้มลงไปนิดนึง  พี่คยองซูขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจการกระทำของผม  ส่วนผมก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆๆอยู่อย่างนั้น

     

                    งั้นนอนเลยก็ได้มั้ง จงอินจะนอนกับพี่หรอ?”

     

    ผมไม่ได้ตอบอะไร ทันทีที่ได้ยินเสียงเชิญชวนแบบนั้นผมรีบวิ่งไปหยิบหมอนแล้วกระโจนขึ้นเตียงพี่เขาทันที

     

                    นายนี่นะ...

     

    ผมแกล้งทำเป็นหลับ ผมได้ยินพี่คยองซูถอนหายใจแล้วเดินไปปิดสวิซไฟแล้วนอนลงที่เตียง
     

                    จงอิน มือ !”

     

    ยัง ไม่ทันที่พี่เขาจะได้นอนลงดีๆ ผมก็คว้าขมับที่เอวพี่เขาแล้วดึงมาไว้ในอ้อมกอดของผมทันที กลิ่นแป้งเด็กอ่อนๆนั่นทำผมต้องสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดอย่างชื่นใจ
     

    น่าจะดีกว่านี้ถ้าได้สูดกลิ่นนี้บนแก้มขาวๆของพี่คยองซู

     

    ไม่มีการพูดอะไรกันเกิดขึ้น ความมืดของไฟทำให้ทุกอย่างเงียบเชียบไปด้วยจนได้ยินเพียงแค่เสียงของเครื่องแอร์ที่ทำหน้าที่อยู่อย่างนั้น

     

                    แกล้งป่วยใช่ไหม?”

     

    เสียงนุ่มๆนั่นพูดขึ้นมาทำเอาผมสะดุ้ง ก้มหน้าไปมองคนในอ้อมแขนที่กำลังจ้องมาตาแป๋วอย่างนั้น
     

    ถึงแม้ว่าจะอยู่ในที่มืด ใบหน้านั่นก็ยังคงมีอิทธิพลกับหัวใจเขาอยู่ดี

     

                    รู้ด้วยหรอ?”

                    ไม่ได้โง่ขนาดนั้นนี่นา

                “แต่ก็ยอมให้หลอกนี่ แถมให้นอนกอดอีก พี่นี่น่ารักจัง

                    ก็นายเป็นน้องชายพี่นี่

     

    ผม ไม่ได้ตอบอะไรออกไปนอกจากยิ้มอย่างนั้นในความมืด และผมค่อยข้างมั่นใจด้วยว่าพี่เขาคงจะยิ้มอยู่ด้วยเหมือนกัน ผมกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น

     

                    ถ้างั้นรักน้องชายคนนี้ให้มากๆนะ

                    รู้แล้วน่า..”

                “แล้วเมื่อไหร่จะได้ตำแหน่งแฟนเหมือนคนอื่นเขาอะ

                    “…”
     

    ไม่มีคำตอบจากคนตรงหน้า นอกจากพี่คยองซูจะซุกตัวเข้ามาในอ้อมกอดผมซะจนชิดไม่มีที่หายใจ ผมลูบหัวพี่เขาเบาๆ

     

                    ไม่เป็นไรครับผมไม่รีบ

                    “อื้อ ขอบใจนะ

     

    ผมยิ้มเบาๆ คำตอบดูเป็นคนดีเนอะ ใช่ครับผมไม่รีบ

    เพราะไว้ได้เป็นแฟนกันเมื่อไหร่ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพี่คยองซูยังจะหลับสบายอย่างนี้อยู่ไหม

    ^_^ เนอะ

     



    ต๊ะ 
     : ฟิคเรื่องแรกนี่หว่า เอามาเป็นน้ำจิ้มส้มตำก่อน 


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×