ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF.PROJECT] Evil's Story. : WONKYU

    ลำดับตอนที่ #44 : [S Fic] Rose Addict. [ -8- ]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 579
      3
      8 ต.ค. 56

    Rose Addict


    - 8 -

     

                บรรยากาศในห้องนอนเงียบเชียบ ท้องฟ้าข้างนอกตัวคอนโดฯมืดสนิท ลมหนาวกำลังเข้ามาเยี่ยมเยือน ชายหนุ่มเฝ้ามองแผ่นหลังบางที่กำลังเก็บเสื้อผ้าบางชุดรวมไปถึงของใช้บางอย่างลงกระเป๋าเป้ พรุ่งนี้พ่อแม่ของคยูฮยอนกลับมาจากต่างจังหวัดพร้อมกัน เป็นกำหนดที่ช้าไปเกือบอาทิตย์ อย่างน้อยมันก็ยืดเวลาให้พวกเขาใช้เวลาร่วมกันได้อย่างอิ่มหนำใจ ถึงอย่างนั้น... เช้าวันรุ่งขึ้นก็เท่ากับเขาต้องไปส่งเด็กคนนี้ให้ถึงบ้านก่อนที่ผู้ใหญ่ทั้งสองจะกลับมา อันที่จริง ชเว ชีวอนรู้ว่าการหลบๆ ซ่อนๆ สายตาของพ่อแม่คยูฮยอนไม่ใช่เรื่องที่ลูกผู้ชายอย่างเขาควรจะทำ ทั้งเขาก็เป็นผู้ใหญ่มากขนาดนี้แล้วเชียว ทว่าดูเหมือนเด็กคนนี้ยังไม่พร้อมที่จะให้พ่อแม่ของเจ้าตัวต้องมารับรู้เรื่องเกี่ยวกับกลุ่มชเวที่ยังวุ่นวายและคาดเดาสถานการณ์ไม่ได้ต่างหาก ซึ่งนั่นชีวอนก็เข้าใจดีอยู่แล้วและต้องการสะสางเรื่องราวให้เรียบร้อยเพื่อที่คนรอบข้างไม่ต้องเสี่ยงอันตราย

                ท่านประธานชเวอย่างเขาเจออะไรมามาก...เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาไม่รู้กี่ครั้ง เขารับอันตรายได้หลากหลายรูปแบบแต่จะให้คนรอบข้างหรือคนที่เกี่ยวข้องต้องมาเสี่ยงกับเรื่องนี้ ชเว ชีวอนไม่ต้องการ...ยิ่งกับเด็กนี่แล้วล่ะก็...ชีวิตทั้งชีวิตเขาก็ยอมแลกเพื่อลมหายใจของโจ คยูฮยอนจริงๆ นั่นเพราะ...ดอกกุหลาบดอกนี้ช่างมีค่ากับเขาเหลือเกิน ชายหนุ่มถอนหายใจ...เขาพิงศีรษะกับหัวเตียง มองเรือนร่างโปร่งที่เดินวนไปวนมาในห้องเพื่อเก็บข้าวของของตัวเอง แสงสีส้มนวลจากโคมไฟช่วยขับให้ผิวขาวจัดดูละมุนไม่หยอก และเมื่อเด็กหนุ่มปิดซิปกระเป๋าเป้เสร็จสรรพ ฝ่ามือหนาจึงตบลงเบาๆ บนพื้นเตียงข้างกาย และนั่นก็ทำให้ลูกแมวของเขาคลานขึ้นมานอนข้างกัน หัวทุยๆ เอนซบที่หัวไหล่ของเขาก่อนเจ้าตัวจะออกปากบ่นพึมพำ

                “ไม่อยากกลับเลย...” ท่าทางจะอ้อนเขาอย่างนั้นหรือ... ชายหนุ่มนึกหัวเราะเอ็นดู

                “ทำไมล่ะ?” เขาแกล้งแหย่... ดวงตาคู่กลมช้อนมองเขาอย่างกระเง้ากระงอด

                “ไม่ชิน แล้วก็เป็นห่วงคุณ”

                “เสาร์อาทิตย์ก็ต้องเจอกันอยู่แล้ว...ไม่ต้องห่วงไปหรอก” ชีวอนว่าพลางกดจมูกลงบนกลุ่มเส้นผมสีเข้ม หลับตารับกลิ่นแชมพูกลิ่นเดียวกัน ทว่ามันกลับหอมละมุนกว่ากันยิ่งนัก เขาทำข้อตกลงระหว่างคยูฮยอนเพื่อที่อย่างน้อย...เขาจะได้ไม่ต้องขาดใจไปเสียก่อน เชื่อว่าเด็กตัวขาวก็คงไม่ต่างกัน แค่วันหยุดเสาร์อาทิตย์เพียงไม่กี่วันก็น่าจะช่วยให้ไม่รู้สึกต้องห่างกันมากเกินไป อีกทั้งเขายังสั่งให้ลูกน้องคอยติดตามคยูฮยอนอยู่เรื่อยๆ เพราะทราบดีว่ากลุ่มคิมมักเล่นแผลงแม้พวกเขาจะระวังเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม

                “อยากให้เสาร์อาทิตย์วนมาถึงเร็วๆ ชะมัด...”

                “....”

                “ผมยังไม่ให้รางวัลที่คุณสอนการบ้านภาษาจีนให้ผมเลยนะ...อันที่จริง......ให้ตอนนี้เลยก็ได้...”

                ...เดี๋ยวนี้ก็ช่างอ้อนเขาเสียจริง แน่ใจนะว่าตอนนี้โจ คยูฮยอนคือลูกแมวไม่ประสีประสา... หนุ่มน้อยข้างกายถึงได้ขยับกายเข้ามาหา ใบหน้ากลมเกลี้ยงโน้มหน้ามาจูบที่ริมฝีปากคมเบาๆ ก่อนจะผละออก เจ้าตัวอมยิ้มหวาน มองๆ ดูแล้วกลับคล้ายว่ากำลังยั่วยวนเชิญชวน ชายหนุ่มอดนึกแปลกใจไม่ได้ เปลี่ยนไปมากขนาดนี้เชียวหรือ...เด็กคนนี้น่ะ หรือเพราะแท้จริงตัวตนอีกตัวของคยูฮยอนที่เคยถูกปิดซ่อนได้ออกมาโลดแล่นต่อหน้าเขาแล้วกัน เขาพลิกกายโอบกอดร่างนุ่มนิ่ม ฝ่ามือเอื้อมไปปิดโคมไฟตรงหัวเตียง ปล่อยให้ความต้องการในกายชักจูงสู่ห้วงอารมณ์อัศจรรย์ที่ไม่เคยมีสักครั้งที่ปฏิเสธได้ กายขาวเป็นที่ต้องตาต้องใจเขาเสมอ โจ คยูฮยอนไม่ต่างจากดอกกุหลาบดอกเล็กๆ ที่แม้ชูดอกอยู่ตามลำพัง ไม่เด่นจนสะดุดตาเพราะเติบโตท่ามกลางเถ้าไม้ที่ปิดกั้น กระนั้นก็สามารถดึงดูดผีเสื้อให้เข้าไปดอมดม...เป็นดอกกุหลาบแรกแย้มที่เขาค้นพบและเพียรถนอมให้ผลิบานอย่างสวยงามและแข็งแกร่ง 
     

    NC CUT
    ตามลิงค์ไปเงียบๆนร๊ อิอิ

     

    ชเว ชีวอนไม่ได้มาส่งเขาที่บ้านด้วยตนเองเพราะติดประชุมด่วนเรื่องคาสิโน...โจวมี่คือสารถีคนเดิมที่รับหน้าที่ตรงนี้ คยูฮยอนแอบถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างบอดี้การ์ดหนุ่มชาวจีนกับเพื่อนร่วมชั้นอย่างซอนมีเป็นพักๆ คำตอบที่ได้คือ...กำลังไปได้สวยแม้ความรักครั้งนี้จะยังไม่ถูกเปิดเผยให้ใครได้ทราบนัก เด็กหนุ่มก้มศีรษะขอบคุณโจวมี่อีกครั้งก่อนจะสะพายกระเป๋าเป้เดินเข้าตัวบ้านไป ท่าทางคุณพ่อจะยังไม่กลับมาเพราะโรงจอดรถยังคงว่างเปล่า และดูเหมือนจะมีเพียงคุณแม่คนดีเท่านั้นที่เพิ่งจะกลับมา เธอแปลกใจไปสักหน่อยที่เขาเดินตัวโงนเงนเข้าบ้านในยามสายโด่ง เขาจึงจำต้องโป้ปดว่าเมื่อคืนทำรายงานที่บ้านเพื่อนดึกไปหน่อย...และวันนี้ก็ไม่อาจลากสังขารไปนั่งเรียนได้อย่างที่ควรจะเป็น คุณแม่เอ็ดเขานิดหน่อยที่ทำตัวเลื่อนลอยบ่อยขึ้น เจ้าของใบหน้าหวานไม่อาจโต้เถียงอะไรออกไปได้นอกจากจุ๊บเบาๆ ที่ริมฝีปากของเธอ ออดอ้อนไปอีกนิด ผู้เป็นแม่ก็จำต้องใจอ่อนและปล่อยให้เขาขึ้นไปนอนพักบนห้องโดยไม่ทักท้วงใดๆ อีก       

                ที่ร่างกายเหนื่อยอ่อนขนาดนี้ เพราะบทรักเมื่อคืนใช่ย่อยเสียที่ไหนล่ะ!

                ว่าแล้วร่างโปร่งก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอันแสนคุ้นเคยของเขา คงต้องบอกว่า...เตียงที่คอนโดฯของผู้ชายคนนั้นอาจทำให้คยูฮยอนหลับสบายได้มากกว่าเสียแล้ว เพราะมีกลิ่นกายของคนคนนั้นอบอวลอยู่โดยรอบ ...นี่โจ คยูฮยอนเพ้อขนาดนี้แล้วหรือ? เรียวหน้ากลมขาวระบายยิ้มเขินทุกคราเมื่อยามนึกถึงช่วงเวลาที่เพิ่งจะผ่านมาหมาดๆ ภายใต้เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่ตอนนี้เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความคิดถึงที่อีกฝ่ายได้ฝากไว้... แค่คิดว่าต้องเป็นห่วงชเว ชีวอนอยู่ห่างๆ แบบนี้ เขาก็ชักอยากจะให้วันเสาร์อาทิตย์วนมาบรรจบให้เร็วขึ้นเสียเหลือเกิน...

                “หื้ม?...” เรียวมือยกขึ้นจับสายสร้อยบริเวณลำคอ... จะว่าไปสร้อยนี่มาอยู่กับเขาได้อย่างไรกันล่ะ... คยูฮยอนลุกขึ้นนั่งบนเตียงอีกครั้งพลางพิจารณาสร้อยที่เขาจำได้แม่นว่าไม่เคยมีมันอยู่บนคอของเขาเลยด้วยซ้ำ ทว่ามันกลับมาปรากฏเอาในตอนที่เขาไม่ได้สังเกตอะไร...สร้อยสีเงินแวววาว ตรงจี้เป็นรูปตัวอักษรภาษาจีนซึ่งสลักไว้ได้อย่างสวยงาม มีมังกรเล่นไฟโอบล้อมอยู่โดยรอบ...เป็นความสง่าที่เคลือบแฝงไปด้วยความแข็งแกร่ง...

                ฝีมือของชเว ชีวอนเป็นแน่ที่แอบใส่สร้อยเส้นนี้ให้เขาน่ะ... ข้อความคำว่า ต่อสู้ เหมือนที่อกซ้ายของผู้ชายคนนั้น รวมไปถึงสัญลักษณ์มังกรเป็นเอกลักษณ์เช่นนี้...เป็นใครไปไม่ได้จริงๆ

                คิดได้ดังนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความสั้นๆ ส่งกลับไปหาใครอีกคนที่น่าจะกำลังยุ่งอยู่กับการประชุม

                ขอบคุณสำหรับสร้อยนะครับ เป็นห่วงและคิดถึงคุณสุดๆ เลย

                                       

     

                สีหน้าเคร่งเครียดของท่านประธานชเวกำลังทำให้บรรดาลูกน้องคนอื่นๆ ไม่อาจกล้าสู้สายตา ห้องประชุมเต็มไปด้วยบรรยากาศน่าอึดอัด...แน่นอนทุกคนไม่มีใครสบายใจทั้งสิ้น ตั้งแต่เมื่อเช้าที่กลุ่มฮันส่งข่าวมาบอกเรื่องปัญหาคาสิโนที่เพิ่งจะเริ่มก่อสร้างได้ไม่นาน ดูเหมือนกลุ่มผู้มีอำนาจหลายๆ กลุ่มที่นั้นได้รับข้อมูลข่าวสารที่คลาดเคลื่อน...มันเป็นการใส่ร้ายป้ายสีที่ชเว ชีวอนทราบดีว่าวิธีแบบนี้คือวิธีลอบกัดของกลุ่มคิม จดหมายล่ารายชื่อประท้วงยกเลิกการก่อสร้างคาสิโนของเขาถูกส่งต่อไปยังกลุ่มต่างๆ อย่างรวดเร็ว...ทั้งยังมีการกระจายข้อมูลว่ากลุ่มชเวต้องการจะไปล้มล้างอำนาจของผู้คนในเขตนั้นทำให้ผู้นำกลุ่มที่หลงเชื่อหลายคนไม่พอใจ...เชื้อเพลิงครั้งนี้คุกรุ่นมานานและมันก็ปะทุเดือดเพราะการปล่อยข่าวมั่วๆ จากฝีมือของพวกสุนัขจิ้งจอก ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจบรรเทาความไม่พอใจที่จำต้องปิดซ่อน เวลานี้เขาไม่ควรแสดงท่ามีว่าโกรธจนควันออกหู แต่ควรหาทางตั้งรับให้ปลอดภัยและไม่กระทบต่อลูกน้องในกลุ่มให้มากที่สุด

                “การจะเรียกความเชื่อมั่นจากคนพวกนั้นคืนมาได้...เราจำต้องแสดงความจริงใจให้พวกเขาเห็นมากที่สุด” เสียงทุ้มกังวานไปทั่วห้องประชุม ลูกน้องคนอื่นๆ พยักหน้ารับฟังอย่างตั้งใจ

                “อาทิตย์หน้าจะมีการประชุมสมาพันธ์จากฝั่งไต้หวัน ฮ่องกงและจีน เป็นงานที่เหมาะเป็นอย่างมากที่ท่านประธานจะเข้าร่วม” หนึ่งในทีมบริหารเอ่ยขึ้น ชเว ชีวอนไปร่วมงานประจำปีในทุกๆ ครั้งตั้งแต่เป็นท่านประธานของกลุ่มชเว...หากเป็นเช่นนั้นเพื่อภาพลักษณ์ของกลุ่มที่ไม่ควรเสียหายไปมากว่านี้ ชายหนุ่มเห็นสมควรว่าตนจะต้องไปร่วมงานอย่างเสียไม่ได้...และงานนี้คุณปู่ชเวก็อาจไม่รีรอที่จะตบปากรับคำเข้าร่วมอีกเช่นเดียวกัน...

                “เตรียมการสำหรับงานนี้ให้พร้อม...กลุ่มชเวจะต้องได้รับความไว้วางใจอีกครั้ง”

                “...ครับท่านประธาน” ท่านประธานของกลุ่มกล่าวจบเพียงเท่านั้น ถือเป็นการปิดการประชุม ร่างสูงใหญ่สืบสาวออกจากห้องประชุม จังหวะเดียวกับที่โจวมี่กลับมาจากการไปส่งคนของเขาพอดี บอดี้การ์ดเชื้อสายจีนทั้งยังเป็นมือขวาของเขารู้ผลการประชุมเป็นอย่างดีถึงแม้เจ้าตัวไม่ได้เข้าร่วม เขาเดินตามผู้เป็นนายอย่างสงบเงียบ จวนจบเมื่อทั้งเจ้านายและลูกน้องก้าวเข้าสู่ห้องทำงานโอ่โถง โจวมี่จึงสามารถพูดในสิ่งที่สามารถพูดกันได้อย่างตรงไปตรงมา

                “ผมว่างานนี้กลุ่มคิมจ้องเล่นงานกลุ่มชเวหนักกว่าทุกครั้ง นอกจากเรื่องคาสิโนแล้ว ผมคิดว่ากลุ่มคิมต้องคิดการณ์ใหญ่มากกว่านี้เป็นแน่” ชเว ชีวอนพยักหน้ารับในสิ่งที่มือขวาของเขาคาดเดา...แน่นอน เขาก็ไม่ได้คิดต่างไปจากนี้

                “มันคงคิดจะโค่นล้มกลุ่มชเว และฆ่าฉันให้ตาย”

                “แต่ท่านประธานครับ...ผมเกรงว่า พวกมันไม่ได้แค่คิดจะฆ่าท่านประธาน ยังมีนายน้อยอีกคน...”

                “......”

                “พวกมันคิดจะฆ่าท่านประธานรวมไปถึงนายน้อย...หากไม่มีนายน้อย พวกมันอาจคิดว่าท่านประธานต่างหากที่จะตายทั้งเป็น” คิ้วหน้ากระตุกขึ้นคล้ายหัวใจของเขา...แน่นอน ชเว ชีวอนดึงคยูฮยอนเข้ามาเอี่ยวในเรื่องนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ ถึงแม้เหตุการณ์ในวันที่เด็กหนุ่มเห็นการฆ่าตัดต่อของกลุ่มคิมหรือโดนไอ้มือปืนโรคจิตนั้นตามเก็บจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม เขาก็เชื่อว่าอย่างไรเสีย...โชคชะตาต้องลิขิตให้เขาพบกับเด็กคนนี้อยู่ดี... เป็นเรื่องน่าตลกที่ทุกอย่างถูกขีดขึ้นในช่วงเวลาอันแสนอันตราย ถึงอย่างนั้น...เขาจะไม่มีวันให้คนจากคิมมาพรากหัวใจของเขาไปไหนแน่!

                ชเว ชีวอนเองต่างหากที่จะเป็นคนขุมหลุมฝังศพไอ้พวกเดรัจฉานนั้น!

               

     

                เด็กหนุ่มรู้ดีว่าชเว ชีวอนจะต้องมีเรื่องเครียดมากเป็นแน่...เมื่อคืนที่คุยโทรศัพท์กันน้ำเสียงของอีกฝ่ายดูเข้มกว่าปกติ...เขาไม่อยากเซ้าซี้อีกคนให้วุ่นวายถึงได้บอกให้อีกคนพักผ่อนให้มากๆ ก่อนจะวางสายชเว ชีวอนบอกว่าเจ้าตัวจะต้องเดินทางไปไต้หวันอาทิตย์หน้าเพื่อไปประชุมเรื่องปัญหาของคาสิโนแห่งใหม่กับสมาพันธ์ฝั่งนั้น ดูเหมือนสาเหตุของเรื่องยุ่งๆ น่าจะมาจากกลุ่มคิมเป็นแน่ เป็นอีกครั้งที่เขาต้องเดินทางไปกับชายหนุ่ม เสียงทุ้มกำชับชัดว่าไม่ว่าอย่างไร เขาจะต้องอยู่ในสายตาของชเว ชีวอนให้มากที่สุด...ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มชเวและกลุ่มคิมมีรายละเอียดอย่างไร เขาไม่ต้องการทราบไปมากกว่านั้น

    คยูฮยอนรู้สึกว่าลางสังหรณ์กำลังบอกอะไรบางอย่าง...

    จุบจบแห่งความบาดหมางระหว่างกลุ่มชเวและกลุ่มคิมมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

                “คยูฮยอน...นายเหม่อตลอดเลยนะ” เสียงหวานที่ทักขึ้นทำให้คยูฮยอนหันไปมองเพื่อนร่วมชั้นคนสวยผู้มีฐานะเป็นถึงลูกสาวเจ้าของโรมแรมตระกูลอี ซอนมีนั่งลงข้างๆ เขาในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ กำลังสนุกสนานกับชั่วโมงพละ ทั้งมันยังเป็นคาบสุดท้ายของการเรียนวันนี้ โรงยิมขนาดใหญ่สะท้อนก้องไปด้วยเสียงลูกบาสกระทบกับพื้นสนามรวมไปถึงเสียงของนักเรียนหลายๆ คนที่โห่ร้องเมื่อยามใครสักคนชู้ตลูกบาสลงห่วง

                “คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ” เด็กหนุ่มตอบสาวสวยข้างกายทว่าหล่อนกลับยิ้มทะเล้นออกมาเสียอย่างนั้น

                “เรื่องกลุ่มชเวหรอ? เอ๋... หรือว่าคิดถึงคุณชีวอนล่ะ!

                “ก...ก็ ทำนองนั้น” คยูฮยอนทำหน้าไม่ถูกเมื่อหล่อนถามเข้าประเด็นอยู่ร่ำไป ตั้งแต่ซอนมีรู้เรื่องที่เขาเป็นคนของชเว หรืออีกนัยก็คือ นายน้อยของกลุ่มชเว แม้ซอนมีเองจะไม่ไปพูดเรื่องนี้กับใครตามที่เขาร้องขอไว้ แต่หล่อนก็มักเอ่ยปากแซวทุกครั้งที่มีโอกาส...ครั้นคยูฮยอนเรื่องโจวมี่คืนบ้าง เธอกลับไม่มีทีท่าเคอะเขินแต่อย่างใด...แก้มของหล่อนแดงระเรื่อเมื่อพูดถึงหนุ่มชาวจีนก็จริง แต่นิสัยคล้ายหงส์ที่หยิ่งแสนหยิ่งกลับกลบภาพแบบนี้ได้เสียมิด...ถึงอย่างนั้น ซอนมีก็ไม่เคยปฏิเสธว่าช่วงเวลานี้ไม่มีใครพิเศษไปกว่าหนุ่มบอดี้การ์ดของกลุ่มชเวอีกแล้ว

                “ตั้งแต่ฉันรู้เรื่องกลุ่มชเวจากนาย...เรื่องกลุ่มผู้มีอิทธิพลต่างๆ ก็ทำให้ฉันรู้ว่าโซลน่ากลัวกว่าที่คิด”

                “อันที่จริง...กลุ่มชเวไม่ได้น่ากลัวเลย... แต่ถ้าเป็น..”

                “กลุ่มคิมใช่ไหม...ฉันแอบถามโจวมี่มา กว่าเขาจะยอมบอก ให้ตายสิ...” ไม่ทันจะพูดจบ ซอนมีก็เอ่ยขึ้น สีหน้าของหล่อนดูหงุดหงิดไม่น้อย คุณหนูตระกูลอีอาจไม่เคยมีใครขัดใจ...คยูฮยอนทราบดีว่าโจวมี่เป็นคนเงียบขรึมขนาดไหน กับเรื่องกลุ่มชเวและกลุ่มคิมแล้วล่ะก็...โจวมี่ก็คงไม่อยากให้คนที่ตนรักต้องมาเสี่ยงอันตรายเป็นแน่ คงไม่มีใครยินดีแต่แรกกับหน้าที่ที่ดำรงอยู่บนความเสี่ยงไม่มีสิ้นสุด หน้าที่ที่ต้องปกป้องกลุ่มที่ตนภักดีและปกป้องคนที่ตนรัก...มันเป็นภาระอันหนักอึ้ง

                ยิ่งไปกว่านั้น...คนที่อยู่สูงอย่างชเว ชีวอน...อาจแบกรับทุกอย่างมากกว่าใครๆ

                “ที่เขาไม่ยอมบอกเธอ...คงเพราะเป็นห่วงเธอนั่นแหละ”

                “...แต่นะ ถ้าการที่เขาไม่ยอมพูดอะไร แถมยังเก็บเรื่องไม่สบายใจไว้คนเดียว นายคิดว่าเราจะยินดีหรือไง...ความทุกข์น่ะ แค่เขาแบ่งมันออกมาบ้าง ฉันรับได้อยู่แล้ว แค่ไม่อยากให้เขาเหนื่อย ...ฉันรู้สึกอย่างนั้นน่ะคยูฮยอน” ใบหน้าน่ารักของเด็กสาวยิ้มบาง...คยูฮยอนทราบความหมายของที่ซอนมีต้องการจะสื่อออกมาได้เป็นอย่างดี เขาและเธอไม่ได้มีโชคชะตาเรื่องความรักที่แตกต่างกันนักหรอก เป็นคนที่ยืนอยู่เคียงข้างใครอีกคนที่เสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ...การเฝ้าขอพรพระเจ้าอาจเป็นเรื่องปกติสำหรับเขาในตอนนี้ แค่ต้องการให้ท่านคุ้มครองบุคคลซึ่งเป็นที่รักไม่ให้ถูกพญามัจจุราชพรากลมหายใจไปไหน คงไม่มีใครต้องการให้ความรักเป็นเพียงสายหมอกอันเจือจาง...

    สถานการณ์อันไม่แน่นอนอาจเริ่มคุกรุ่นและพร้อมจะปะทุเดือดได้เสมอ... อีกไม่นานแน่ๆ ที่ทุกอย่างจะจบลง คยูฮยอนนึกถึงสร้อยเงินซึ่งประดับอยู่ที่ลำคอ เรียวมือเผลอยกขึ้นกุมมันไว้แน่น และเขาก็สังเกตเห็นซอนมีทอดสายตามองกำไลหยกสีมรกตที่ข้อมือเช่นกัน...นี่อาจเป็นของแทนใจจากโจวมี่ไม่ต่างจากสิ่งที่เขาได้จาก ชเว ชีวอนมา...

                ของแทนใจที่ทำให้เข้มแข็ง...และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างคนที่รักเสมอ

               

                หลังเลิกเรียนคยูฮยอนแยกมาเก็บของที่ห้องล็อคเกอร์ ตอนนี้เพื่อนคนอื่นทยอยกันกลับกันเกือบหมด คยูฮยอนเห็นซองกยูกับยงกุกคุยกันเรื่องจะไปดื่มที่ย่านเริงรมย์ตามเคยก่อนจะเห็นพวกมันระริกระรี้กลับไปแต่งตัวเสริมหล่อ เดี๋ยวนี้เจ้าพวกนี้ติดเที่ยวชะมัดทั้งที่ใกล้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วเชียว เขานึกบ่นในใจ พลางสาวเท้าออกจากชั้นล่างสุดของตึกเรียน ทว่า...เสียงคล้ายมีของบางอย่างตกพื้นดังมาจากมุมหนึ่งของอาคาร มันดังมากเสียจนเขานึกแปลกใจ วันนี้อะไรๆ ก็ดูแปลกไปหมด...ตึกเรียนแทบจะไม่มีใครอยู่เลยด้วยซ้ำทั้งที่ฟ้ายังไม่มืด

                อันที่จริง...เขาไม่ใช่คนอยากรู้อยากเห็นอะไรมากหรอก...แต่เขาคิดว่ามันน่าสงสัย

                เสียงที่ว่าดังกุกกักมาจากห้องดนตรี...เด็กหนุ่มอาศัยความเงียบลอบมองผ่านช่องของประตูและภาพตรงหน้าก็ทำให้เขาตกใจ ...ไม่รีรอคยูฮยอนรีบเปิดประตูเข้าไปพร้อมปรี่ไปกระชากกลุ่มเด็กผู้ชายที่จำได้แม่นว่ามันเป็นพวกเด็กติดยาหลังห้อง พวกมันกำลังจะขึ้นคร่อมซอนมีที่นอนหมดแรงกุมท้องอยู่กับพื้น คยูฮยอนรู้สึกว่าอย่างน้อยเขาก็เข้ามาทันเวลาก่อนหล่อนจะมีตราบาปไปทั้งชีวิต!

                “ปล่อยเธอ!!!” เขาร้องตะโกนพร้อมซัดหมัดใส่ใบหน้าของหนึ่งในสามของไอ้พวกนั้นไปเต็มแรง เจ็บมือไม่หยอก แต่ไม่เท่าความโกรธที่มีเป็นแน่!

                “ห่า มึงอีกแล้ว!

                “แล้วไง พวกนายล่ะเป็นบ้าอะไร ทำไมทำแบบนี้วะ!!!

                “แส่หาเรื่องตลอดว่ะ”

    พวกมันไม่ว่าเปล่า...สองคนที่เหลือเดินเข้ามากระชากตัวเขาออกจากซอนมี สีหน้าของหล่อนแสดงความเจ็บปวดที่อาจถูกหนึ่งในนั้นชกท้องจนตัวงอ คยูฮยอนพยายามดิ้นต่อสู้ทุกวิถีทาง ทว่าแรงของพวกมันก็เยอะเกินกว่าเขาจะสู้ไหว มันดันเขาให้ชิดกับผนังก่อนจะออกแรงชกท้องน้อยไปอีกสองสามหมัด มันเจ็บอย่างที่เด็กหนุ่มสูญเสียพลังขัดขืนไปมาก ทว่าเหตุการณ์ชุลมุนดังกล่าวกลับยุติลงเสียดื้อๆ คยูฮยอนเหลือบสายตามองไอ้เพื่อนหลังห้องทั้งสามที่ค่อยๆ ล่าถอยออกไปราวกับโดนออกคำสั่ง ร่างโปร่งทรุดลง กุมท้องที่ถูกชกจนระบม...อีกทั้งตอนนี้เขาสังเกตเห็นว่าซอนมีไม่อยู่ที่พื้นห้องแล้ว ดวงตาตู่โตเบิกกว้าง ...ร่างบอบบางของเด็กสาวอยู่ภายใต้การกักขังโดยวงแขนของเจ้าของร่างสูงใหญ่ ปืนสีเงินสะท้อนแสงแดดยามเย็นที่เล็ดรอดเข้ามาภายในห้องดนตรีกลับไม่ได้ทำให้อาวุธดูสวยงามแต่อย่างใด หากแต่...ยิ่งสร้างความน่ากลัวเป็นทวีคูณเมื่อมันจ่ออยู่ข้างศีรษะของหล่อน นั่นเป็นฝีมือของมือขวาจากกลุ่มคิม ฮวัง ชานซอง!

                “ว่ายังไง นายน้อยของกลุ่มชเว...จะช่วยเพื่อนยังไงดีล่ะ?” เสียงนั่นว่าอย่างเย้ยหยัน ไอ้เด็กหลังห้องมันเป็นลูกสมุนระดับล่างของกลุ่มคิมไปแล้วอย่างนั้นสินะ... ที่เป็นแบบนี้เพราะพวกมันติดยาและจำต้องรับยาจากกลุ่มคิมอยู่เสมอ เพื่อนหลังห้องของเขาถูกหลอกใช้! เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น...ถูกลำดับมาอย่างดีจากมือขวาของกลุ่มคิมแล้วเป็นแน่

                “ปล่อยซอนมีไป” เด็กหนุ่มพยายามคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่นเนื่องด้วยความเจ็บที่เพิ่งจะถูกหมัดหนักๆ ที่ท้องน้อย ร่างโปร่งพยุงตนขึ้นจากพื้นพลางปะทะสายตากับดวงตาซึ่งไม่ต่างอะไรไปจากสัตว์ร้าย

                “อันที่จริงพวกเธอสองคนก็เป็นหมากเบี้ยตัวสำคัญทั้งนั้น คนหนึ่งคือลูกสาวตระกูลอี คนรักมือขวาของกลุ่มชเว อีกคนคือนายน้อยของกลุ่มชเวที่ ชเว ชีวอนหวงนักหวงหนา...” ใบหน้าคมระบายยิ้มคล้ายคนโรคจิตอย่างที่คยูฮยอนเองไม่อยากจะสบตา...มันน่ากลัว ถึงอย่างนั้นเขากลับขยะแขยง ชายคนนั้นกระชับปืนที่จ่ออยู่ข้างศีรษะของซอนมีมากขึ้นเรื่อยๆ และนั่นก็ทำให้หัวใจของเด็กหนุ่มเต้นราวกับกลองศึก คนคนนี้อาจทำในสิ่งที่ไม่คาดฝัน...ฉะนั้นแล้วเขาจึงควรมีสติและไม่ควรแสดงทีท่าหวาดกลัวให้ฝ่ายตรงข้ามได้ใจ

                “คุณต้องการอะไร...พูดมาเถอะครับ”

                “...บางทีนายน้อยของกลุ่มชเวคงต้องไปเจรจากับประธานของกลุ่มคิมเองดีกว่ากระมัง หวังว่าโจ คยูฮยอนจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี!

     

               

                ชเว ชีวอนติดต่อโจ คยูฮยอนไม่ได้ทั้งที่เลยเวลาเลิกเรียนมามากพอสมควร...เขาฮึดฮัดอยู่ในใจประกอบกับใจคอไม่ดีอย่างน่าประหลาด น่าแปลกที่วันนี้เขารู้ร้อนรุ่มในอก...คล้ายกับมีลางสังหรณ์ ไม่กี่วินาทีหลังจากที่เขาวางสายจากการติดต่อคนในปกครองเกือบๆ จะยี่สิบสายได้ มือขวาของกลุ่มชเวก็เปิดประตูห้องทำงานเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เรียวคิ้วที่ขมวดมุ่นบ่งบอกว่าเรื่องที่โจวมี่กำลังจะแจ้งเขาไม่ใช่เรื่องน่ายินดี

                “งานก่อสร้างคาสิโนถูกกลุ่มคิมปั่นป่วน...พวกมันเข้าไปลอบฆ่าคนงานรวมไปถึงวิศวกรคุมงานที่ออกแบบคาสิโนให้กับเราด้วยครับ รวมทั้งหมดห้าศพ”

                “...เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!” ประหนึ่งความอดทนรวมไปถึงความโมโหของชเว ชีวอนถึงขีดสุด เสียงทุ้มเอ่ยลั่นสะท้อนไปทั่วห้อง เรียวมือกำหมัดแน่น...คราวนี้พวกมันเล่นไม่ซื่อซ้ำยังทำตัวไม่ต่างจากพวกเดรัจฉานจริงๆ

                “ดูเหมือนพวกมันจะจู่โจมในแบบเปิดเผยตัว...มันไม่ใช่วิธีลอบกัดแล้วครับท่านประธาน แต่มันจะทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า”

                “.....”

                “และอีกเรื่อง... พวกมันพาตัวนายน้อยกับคุณหนูซอนมีไปครับ”

                ณ ขณะที่กล่าวกับท่านประธานของกลุ่ม โจวมี่จำต้องกดอารมณ์โกรธจัดไว้เช่นกัน...เขาไม่คิดว่าคนจากกลุ่มคิมจะรู้เรื่องระหว่างเขาและซอนมี ทั้งที่เขาปกป้องเธออย่างสุดความสามารถ ทว่าคนพวกนั้นกลับจ้องจะทำร้ายหัวใจของเขา ไม่ต่างกัน...หนุ่มชาวจีนสังเกตเห็นเรียวมือของท่านประธานที่กำหมัดแน่นก่อนจะทุบลงบนโต๊ะทำงานเต็มแรง

                ท่านประธานของกลุ่มชเวได้รับข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ...ชายหนุ่มอ่านข้อความด้วยสีหน้าคล้ายคนที่จะสามารถฆ่าใครก็ได้

     

                มาจบเรื่องกันเถอะคุณชเว...ว่าจะเลือกหนุ่มน้อยคนนี้หรือกลุ่มชเวอันยิ่งใหญ่...       

     

                “โจวมี่...สั่งคนของเราให้พร้อม งานนี้กลุ่มชเวจะไม่ไว้หน้าไอ้พวกกลุ่มคิม!!!

               

     

     

    Talk*
    มาแล้วกับตอน 8 ตอนสั้นเนอะ หรือว่าหนักไปที่ฉากนั้นก็ไม่รู้ 55555555
    ตอนนี้เราใจดีเปิดฉากนั้นให้อ่านโดยไม่ต้องทิ้งเมลล์ใดๆ ตามสบายค่ะ ^^          

     


    Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×