ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร้อยเล่ห์ ซาตาน

    ลำดับตอนที่ #11 : คืนวิวาห์ ( เจ็บปวด ) ในความทรงจำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.82K
      6
      26 ธ.ค. 53

     
              ณ บริษัทในเครือธนากรสกุล บ่ายวันนี้ เต็มไปด้วยนักข่าว สายธุรกิจ และสายบันเทิง ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ เพราะเมื่อ 2 วันที่แล้วทุกคนได้รับแจ้งให้มางาน แถลงข่าวงานแต่งงาน ของประธานบริษัทหนุ่มหล่อ คริสโตเฟอร์  ธนากรสกุล กับ นางแบบสาวสวย นราวดี ศิริพัฒน์ ( ธนากรสกุล )  ทุกคนต่างงง ข่าวสารที่ได้รับ เพราะตลอดเวลาที่ คาสโนว่าหนุ่มหล่อนาม คริสโตเฟอร์ มีข่าวกับผู้หญิงคู่ควงของเขา ไม่เคยมีคู่ควงนาม นราวดี เลย มีแต่ผู้หญิงตระกูลไฮโซ ทั้งนั้นที่เป็นข่าวกับเขา หรือจะมีอะไรที่นักข่าวยังไม่รู้ 

               14.00 น คุณดิลก คุณเจนนิเฟอร์ คริสโตเฟอร์ นราวดี คุณวนิดา คุณมงคล ก็พากันเดินออกมาที่ห้องประชุม ซึ่งจัดเป็นห้องแถลงข่าว ในวันนี้ 

                     ''  สวัสดีครับ ทุกคนผมและครอบครัวรู้สึกเป็นเกียติ ที่ทุกคนให้ความสนใจและมางานแถลงข่าวในวันนี้  และรายละเอียดทั้งหมด ผมจะให้ ว่าที่เจ้าบ่าวเป็นคนแถลงครับ'' คุณดิลกเกริ่น 
               
               หลังจากนั้นคริสโตเฟอร์พูดรายละเอียดของงานจนจบ พร้อมทั้งขอโทษที่ไม่มีการด์เชิญแจก เนื่องจากการด์มีไว้เชิญแขกผู้ใหญ่ ที่นับถือ ส่วนนักข่าวทุกคนสามารถเข้าไปทำข่าวในงานแต่งงานได้ แค่โชว์บัตรนักข่าวให้พนักงานดู ใครมีอะไรซักถาม เ
    ชิญถามได้เลยครับ  คริสโตเฟอร์เอ่ย

                        ''   ถามได้ทุกคำถามหรือเปล่าคะ  ''  นักข่าวสาวถาม
                        ''   ทุกคำถามครับ ถ้าผมสามารถตอบได้ '' คริสโตเฟอร์ตอบ
                        ''    ทำไม ไม่เคยมีวี่แววมาก่อนเลยคะ ว่าคุณคริสกับน้องแก้มเป็นแฟนกัน  ''  นักข่าวสาวอีกคนถาม
                        ''    ไม่ค่อยมีคนรู้หรอกครับ นอกจากครอบครัวเรา และเพื่อนสนิท '' คริสโตเฟอร์ตอบ
                        ''    ทำไมเวลาคุณคริส ออกงานไม่เคยไปกับน้องแก้มเลย '' นักข่าวอีกคนถาม
                        ''     เพราะเวลาผมไปงานส่วนมาก แก้มเขาทำงาน หรือถ้าเขาไม่ได้ทำงาน เขาก็เหนื่อยอยากพักผ่อน '' คริสโตเฟอร์ตอบ
                        ''      แล้วน้องแก้มไม่หึงเหรอคะ เวลาที่คุณคริสควงผู้หญิงอื่นไปงาน แล้วมีข่าวลงให้เห็น '' นักข่าวอีกคนถาม นราวดี
                        ''      ไม่ค่ะ พี่คริสจะบอกแก้มทุกครั้งที่ไปงาน และจะบอกทุกครั้งก่อนไปคะว่าไปกับใคร ''  นราวดีตอบ 
                        ''       ทำไมถึงรีบจัดงานแต่งงานกระทันหันคะ มีอะไรที่ทำให้ต้องรีบแต่งหรือเปล่าคะ '' นักข่าวสาวใจกล้าถามเรื่องที่ทุกคนอยากรู้
                        ''       พี่ ๆ หมายถึง แก้มท้องก่อนแต่ง หรือเปล่าคะ '' นราวดีถาม แต่เงียบไม่มีใครตอบรับเธอ เธอจึงพูดต่อ 
                        ''       พวกพี่ ๆ วางใจได้เลยค่ะ แก้มไม่ได้ท้องก่อนแต่งแน่นอนค่ะ พวกพี่ ๆ นับวันได้เลยค่ะ '' นราวดีตอบอย่างมั่นใจ เธอจะไม่มั่นใจได้ยังไงในเมื่อเธอกินยาคุมฉุกเฉิน ป้องกันไว้แล้ว 
                        ''       แต่งงานแล้วน้องแก้มจะทำงานต่อ หรือเลิกรับงาน เตรียมตัวเป็นแม่บ้านให้คุณคริสคะ  '' นักข่าวถาม
                        ''       แน่นอนค่ะ แก้มต้องทำงานอยู่แล้วค่ะ พวกพี่ ๆ ยังเห็นหน้าแก้มในวงการนี้แน่นอนค่ะ '' นราวดีตอบ
                        ''        คุณคริสยอมให้น้องแก้มเดินแบบต่อเหรอคะ คุณคริสไม่หวงเหรอคะ  ''  คริสโตเฟอร์อ้าปากจะตอบ แต่นราวดีชิงตอบก่อน 
                        ''        ครอบครัวเราคุยกันแล้วค่ะ แล้วทุกวันนี้ พี่คริสกับแก้มก็เหมือนแต่งงานกันแล้วค่ะ  ''  นราวดีตอบ แน่นอนเธอขออนุญาต คุณดิลกกับคุณเจนนิเฟอร์แล้ว เธอขอทำงานที่เธอรักต่อหลังจากแต่งงาน
                        ''         หมายความว่ายังไงคะ เหมือนแต่งงานกันแล้ว '' นักข่าวถาม
                        ''         พี่คริสกับแก้ม จดทะเบียนสมรสกันแล้วค่ะ  ''  นราวดีประกาศสถานะของเธอให้ทุกคนรับรู้ 
                        ''           เมื่อไหร่คะ นักข่าวถาม
                        ''           สักพักแล้วค่ะ แล้วคนที่ไปจดทะเบียนกับเรา คือคุณแม่ของพี่คริส กับคุณแม่ของแก้ม เราไม่ได้ไปแอบจดกันสองคนนะคะ '' เธอตอบแบบกันนักข่าวถามต่อ 
             ถ้าไม่มีใครถามอะไรแล้ว ผมและครอบครัวขอจบการแถลงข่าวนะครับ คุณดิลกพูดขึ้นเพราะเห็นคริสโตเฟอร์เริ่มไม่พอใจแล้ว 

               ถ้างั้นให้คุณคริสจูบน้องแก้ม เพื่อให้เราเอารูปไปทำข่าวหน่อยนะคะ เพราะทั้งคู่ก็จดทะเบียนกันแล้ว นักข่าวขอร้อง 
               คริสโตเฟอร์ได้แต่อึ้ง จะให้เขาจูบเด็กบ้านี่เหรอ ไม่มีทาง แต่นราวดีชิงพูดขึ้นก่อน 
                        ''  พี่ ๆ ชินแล้วใช่ไหมคะ ที่ผู้ชายจูบผู้หญิง แก้มว่าเปลี่ยนมาเป็น แก้มหอมแก้มพี่คริสดีกว่าค่ะ น่าสนใจกว่าเยอะเลย นาน ๆ จะมีผู้หญิงหอมแก้มผู้ชายให้เห็นนะคะ ''  นราวดี รีบเบี่ยงประเด็นนักข่าว เพราะเธอรู้ว่า เขาไม่จูบเธอแน่นอน ซึ่งหลังจากที่เธอพูด นักข่าวต่างเห็นด้วยกับเธอ พอชายหนุ่มนั่งอึ้ง ๆ แล้วเผลอ เธอเลยหอมแก้มเขาให้บรรดานักข่าวถ่ายรูป เป็นการปิดการแถลงข่าว 

                 
                        ''  เฮ้อ !!! ไอ้คริส แกจะแต่งงานกับน้องแก้ม แกไม่คิดจะบอกเพื่อนฝูงเลยเหรอวะ ต้องให้ไปอ่านเจอในหนังสือพิมพ์  ''   เอกชัยโวยวาย หลังจากที่พวกเขา 4 คน นัดกันที่ผับประจำ ในคืนนี้เพื่อถามคนที่จะแต่งงาน แต่ไม่ยอมบอกเพื่อน
                        ''   มันมีเหตูให้ต้องแต่งโว้ย  ''  ตอบเพื่อน             
                        ''   เหตุไรวะ แกทำน้องแก้มท้องเหรอ แต่เขายืนยันว่าไม่ได้ท้องนี่หว่า '' ไมเคิสบอก  
                        ''   หรือจริง ๆ แล้วท้อง แต่ปิดข่าววะ แต่เขาก็ท้านักข่าว ให้นับวัน ได้เลยนี่หว่า ''  เอกชัยบอก
                        ''    ไม่ได้ท้องโว้ย แต่วันที่ฉันได้ยัยเด็กนั้น คุณพ่อ คุณแม่ฉันเห็น ฉันเลยดิ้นไม่หลุด ต้องแต่งกับยัยนี่
                        ''    แล้วแกไปเอาที่ไหน คุณพ่อ คุณแม่ถึงเห็น  ''  ไมเคิลถาม
                        ''    ในห้องนอนฉัน ที่บ้าน '' ตอบเพื่อน
                        ''     แกกล้าเอาน้องแก้มในบ้านแกเลยเหรอ ใช่คืนที่น้องแก้มเมาแล้วขึ้นไปเต้นหรือเปล่า ''  ภวัสถามบ้างหลังจากเงียบ มานาน 
                        ''     ไม่ใช่คืนนั้น แต่เป็นคืนวันเกิดคุณแม่  ฉันคิดว่าฉันโดนวางยาว่ะ '' คริสโตเฟอร์ตอบ
                        ''      เฮ้อ!!! น้องแก้มกล้าทำแบบนั้นเลยเหรอวะ  ''  3 หนุ่ม เอ่ยออกมาพร้อมกัน 
                        ''      แล้วเป็นไงบ้างวะ กี่ทีวะ '' เอกชัยแซว
                        ''      ไม่ตอบโว้ย แกก็รู้ฉันไม่เคยเอาเรื่องพวกนี้มาพูด '' คริสโตเฟอร์บอก
                        ''       รู้แล้วน่ะ แค่แซวขำ ขำ ก็มันผิดความคาดหมายนี่หว่า คาสโนว่าตัวพ่อดิ้นไม่หลุด ถูกเด็กแสบที่ตัวเองจงเกลียดจงชังจับแต่งงาน ''  เอกชัยแซว 
              
         หลังที่ทุกคนหารือเรื่องใครจะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่งงานของคริสโตเฟอร์แล้ว ทุกคนก็ลงมติ ให้ ภวัสเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว เพราะว่างมากที่สุด เอกชัยเป็นหมอหาเวลาว่างได้ยากมาก  ไมเคิลเป็นเจ้าของธุรกิจต้องไปญี่ปุ่นอาทิตย์หน้า แต่กลับมาทันงานแต่ง ภาระเพื่อนเจ้าบ่าวเลยตกเป็นของ ภวัส ที่ปฏิเสธไม่ได้ พอทุกคนรู้รายละเอียดงานแล้วจึงแยกย้ายกันกลับ 

              หลังจากงานแถลงข่าว คริสโตเฟอร์ยังไม่มีโอกาสเจอนราวดีเลย เพราะต่างคนต่างยุ่ง และเหมือนทั้งสองคนจงใจหลบหน้ากัน 

              เช้าวันเสาร์ นราวดีมาหา คุณเจนนิเฟอร์ เพราะทั้งสองคนนัดกันว่าจะไปเอาการด์งานแต่งงาน และของชำร่วยที่ร้าน เธอเดินเข้ามาในบ้านขณะที่ทุกคนนั่งทานข้าวเช้า 
                          ''   แก้มทานข้าวหรือยังลูก '' คุณดิลกถาม 
                          ''   แก้มทานมาแล้วค่ะ คุณพ่อ  ''
                          ''   นั่งรอแมแป๊บนึงนะลูก เสร็จแล้วเราจะได้ไปกันเลย ''  คุณเจนนิเฟอร์บอก
                          ''   ตาคริส พรุ่งนี้แกกับน้องเอาการด์ไป เรียนเชิญ ท่าน ศักดา ที่บ้านด้วยนะ คุณพ๋อ โทรฯ ไปเรียนเชิญท่านให้มาเป็นประธานในงานเราแล้ว  ท่านรับปากแล้ว เหลือแต่เอาการด์ ไปเรียนเชิญท่านอีกครั้งและเราสองคนต้องไปด้วยกัน แม่จะไปกับแกด้วยพรุ่งนี้ ''  มารดาสั่ง
                           ''  ครับคุณแม่ '' 
                           ''  ไปกันเถอะ หนูแก้มแม่อิ่มแล้ว '' พูดจบก็จุงมือกันออกไป 

             บ่าย ๆ ทั้งสองคนแม่ผัวและลูกสะใภ้ ก็กลับมาพร้อมเกณฑ์เด็กในบ้านมาช่วยกันเอาการด์ใส่ซองและแยกแขกฝ่ายเจ้าบ่าว และฝ่ายเจ้าสาว และช่วยกันแปะสติ๊กเกอร์ชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาว ที่ของชำร่วย และของชำร่วยในงานนี้เป็น พวงกุญแจเป็นรูปแม่กุญแจและลูกกุญแจอยู่คู่กัน ตรงกลางแม่กุญแจ มีรูปคริสโตเฟอร์ และนราวดี พอทำเสร็จจึงแยกย้ายกันไป

                 สายวันอาทิตย์ คริสโตเฟอร์เดินลงมาด้วยชุด กางเกงสแล๊คสีดำ เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน พับแขนเสื้อขึ้นสองทบ  ส่วนนราวดีที่นั่งรออยู่แล้ว สวมชุดแซกยาวเลยเข่ามาหน่อยสีเขียวอ่อน จับจีบผูกโบว์ใต้อก ดูแล้วเรียบร้อย อ่อนหวาน เหมาะแก่การเข้าไปพบผู้ใหญ่ แล้วทั้งสองคนพร้อมคุณเจนนิเฟอร์จึงเดินทางไปบ้าน ท่าน ศักดา ตามที่ได้นัดหมายกันไว้ 

                ผ่านไปอีก 2 วัน นราวดี เข้าไปหา คริสโตเฟอร์ที่บริษัท พอถึงหน้าห้องทำงานเขาก็บอกคุณ อำนาจเลขาเขา ว่าเธอมาพบเขา พอคุณอำนาจรายงานว่าเธอมาขอพบคริสโตเฟอร์ก็อนุญาตให้เธอเข้ามาได้ 

                         ''  คุณคริสโตเฟอร์คะ ฉันขอคุยกับคุณแค่ 5 นาที ถึง 10 นาทีค่ะ '' นราวดีบอก
                         ''  มีอะไร '' เขาถาม
                         ''  ทำไมคุณไม่ช่วยฉันแจกการด์เลยคะ ผู้ใหญ่บางท่านถามถึงคุณฉันต้องแก้ตัวให้คุณว่า ต่างคนต่างแจกจะได้เร็วดี นี่ฉันต้องไปแจกผู้ใหญ่ฝ่ายคุณที่ฉันไม่รู้จักคนเดียว คุณเห็นใจฉันบ้างไหม  '' นราวดีถามด้วยความอัดอั้น  
                         ''  แล้วทำไมผมต้องช่วยคุณแจก ผมไม่ได้อยากแต่งงานนิ คุณอยากแต่งคุณก็แจกเองซิ ''  คริสโตเฟอร์ตอบ
                         ''  ได้ฉันจะแจกเองคนเดียว ในเมื่อเป็นฉันคนเดียวที่อยากแต่งงานกับคุณ นราวดีพูดไปร้องไห้ไปแล้วเดินออกจากห้องทำงานของเขา คุณเจนนิเฟอร์ให้เธอและคริสโตเฟอร์ไปช่วยกันแจกการด์ แต่เธอไม่เคยบอกคุณเจนนิเฟอร์เลยว่าทุกวันนี้เธอไปแจกการด์คนเดียว เขาไมเคยไปกับเธอเลย 

         หลังจากวันนั้นทั้งสองคนก็ไม่เคยเจอกันอีก คริสโตเฟอร์รับรู้ว่าเสื้อผ้าและของใช้ของนราวดีถูกย้ายเข้ามาในห้องนอนเขาเรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวเขาอาทิตย์นี้ถูกคุณแม่บังคับให้ย้ายไปนอนห้องอื่นก่อนเพราะจะทำห้องนั้นเป็นห้องหอและให้เขานอนห้องนั้นในคืนแต่งงาน  ส่วนชุดแต่งงานก็ถูกส่งมาที่บ้านก่อนวันงาน 3 วัน เขาไม่เคยไปลองชุดแต่งงานที่ร้านเลย แต่เมื่อวานนี้เขาลองสวมดู พอดีไม่ต้องแก้ไขอะไร 

           เช้าวันแต่งงานทั้งคริสโตเฟอร์ และนราวดีถูกปลุกให้ลุกขึ้นมาแต่งหน้าทำผมแต่เช้าตรู่ พอได้เวลาตามฤกษ์ นราวดีที่อยู่ในชุดไทยดุสิตสีทอง ก็ถูกพาตัวลงมาจากบนบ้าน เจ้าบ่าวในชุดราชประแตน ผ้านุ่งสีน้ำเงินก็ถูกพามานั่งข้าง ๆ กัน พร้อมทำพิธีสงฆ์ตอนเช้า เสร็จแล้วเป็นพิธีแห่ขันหมาก จากบ้านเจ้าบ่าวมาบ้านเจ้าสาว พร้อมทั้งเงินสินสอดถูกวางลงตรงพานข้างหน้าเจ้าบ่าวเจ้าสาว มูลค่านับ หลายสิบล้านบาท

            หลังจากนั้นเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ต้องเปลี่ยนชุดเพื่อเข้าโบสถ์เพื่อทำพิธีทางคริสต์ศาสนา หลังจากเสร็จพิธี ชายหนุ่มจึงรู้ว่าคุณตา และญาติทางคุณแม่ที่อยู่อังกฤษมาร่วมงานด้วยหลายคน แต่เขายังไม่มีเวลาได้คุยกับคุณตาและญาติ ๆ เลย 
            ตอนเย็นงานเลี้ยงที่โรงแรม เจ้าบ่าวในชุดสูทสีดำยืนหน้าบึ้งคู่กับเจ้าสาวในชุดเกาะอกสีครีม ยืนยิ้มแหยะ ๆ พร้อมด้วยเพื่อนเจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าสาว ยืนรับแขกอยู่หน้างาน จนแขกเหรื่อที่มากันมากมายในงานนี้พร้อมนักข่าวและที่รู้จักกับสองครอบครัวมากันถ้วนหน้า ทั้งหมดจึงเดินเข้างาน จนพิธีการสำคัญบนเวทีผ่านไปเหลือพิธีส่งตัวเข้าหอ ที่ไปทำกันที่บ้านมีแค่ญาติสนิทเท่านั้นที่ไปทำพิธีส่งตัวเข้าหอ เจ้าบ่าวเริ่มเมาแล้วเพราะดื่มตั้งแต่เริ่มงาน คุณเจนนิเฟอร์ก็ไม่พอใจที่บุตรชายดื่มแต่ไม่อยากจะว่าในวันนี้เพราะเป็นวันดี วันมงคล เลยปล่อยให้ดื่มตามสบาย 

            ภายในห้องหอ เหลือแค่พ่อแม่เจ้าบ่าว เจ้าสาว และเจ้าบ่าว เจ้าสาว เท่านั้น หลังจากทำพิธีในห้องหอเสร็จ คุณดิลก และ คุณเจนนิเฟอร์ก็อวยพรให้ทั้งสองรักกันนาน ๆ มีลูกหัวปี ท้ายปี ส่วนคุณมงคลก็บอกเจ้าบ่าวว่า ''  ลูกใคร ๆก็รัก ถ้าวันหนึ่งคุณไม่สามารถรักลูกผมได้ ให้คุณบอกผม เมื่อถึงวันนั้นผมจะรับลูกสาวผมกลับบ้านเอง โดยที่คุณไม่ต้องไปส่งถึงบ้าน และคุณจะไม่มีสิทธิได้เหยียบบ้านผมเลย '' พอคุณมงคลพูดจบทุกคนไม่แต่อึ้ง ๆ ที่ได้ยินแบบนี้ แม้แต่ตัวเจ้าบ่าวตอนที่ได้ยินยังพูดไม่ออกเลย ส่วนคุณวนิดา ก็พูด ''  คุณคริส น้าฝากน้องด้วยนะ แกอาจจะดื้อบ้าง รั้นบ้าง แต่แกก็เป็นเด็กดี '' นางพูดแค่นี้ หลังจากนั้นทุกคนก็ออกจากห้องหอไป ก่อนไปคุณเจนนิเฟอร์ก็กำชับไม่ให้เจ้าบ่าวออกจากห้องคืนนี้ 

              พอเหลือแค่ สองคนในห้องหอ ต่างคนต่างไม่รู้จะทำอะไร นราวดี เลยเดินเข้าไปหาคริสโตเฟอร์แล้วขอร้องให้เขาช่วยเธอถอดชุดหน่อย
          
                 ''  คุณคริสคะ ช่วยแกะกระดุมข้างหลังให้ฉันหน่อยค่ะ ฉันแกะไม่ได้ ''
                 ''  ทำไมฉันต้องช่วยเธอด้วย อยากออกแบบชุดแบบนี้เอง ช่วยเหลือตัวเองแล้วกัน ''
                 ''  คุณคริส ฉันขอร้องคุณดี ๆ ทำไมคุณต้องว่าฉันด้วย ''
                 ''  ก็เพราะฉันไม่อยากช่วย ไม่อยากโดนตัวเธอไง แค่นี้ต้องให้บอกอีกเหรอ และจำไว้เลยนะ ต่อไปอย่ามายุ่งกับฉันอีก ฉันจะนอนบนโซฟานี่ ส่วนเธอไปนอนบนเตียงโน้นคนเดียว เราสองคนต่างคนต่างอยู่ในห้องนี้ แต่จะบอกไว้เลยนะว่าฉันก็ไม่ได้อยากอยู่ในห้องนี้กับเธอ แต่คุณแม่บังคับฉัน ถ้าคุณแม่รู้ว่าฉันแยกห้องนอนกับเธอท่านจะไล่ฉันออกจากบ้าน และตัดขาดความเป็นแม่ลูกกับฉัน แต่คุณแม่ไม่ได้ห้ามฉันนอนคนละเตียงกับเธอ สรุปคือฉันไม่ผิด ฉันไม่ได้ขัดคำสั่งท่าน และฉันหวังว่าเธอคงเป็นผู้ใหญ่พอ ที่จะไม่เอาเรื่องเรานอนแยกเตียงกันไปฟ้องท่านเหมือนเด็ก ๆ หรอกนะ  '' คริสโตเฟอร์บอก
                  ''   ทำไมคะ คุณคริส  ทำไมคุณต้องเกลียดฉันขนาดนี้ ฉันไปทำอะไรให้คุณ ''  นราวดีถามพร้อมร้องไห้สะอึกสะอื้น 
                  ''   เธอจำความเลวของตัวเองไม่ได้เหรอ เธอวางยาฉัน ทำให้ฉันต้องแต่งงานกับเธอ เธอไม่มีปัญญา หาผู้ชายแล้วเหรอ ทำไมผู้ชายคนนั้นมันต้องเป็นฉันทำไม '' คริสโตเฟอร์ถามพร้อมทั้งเขย่าร่างนราวดี 
                  ''   เพราะฉันรักคุณไง เพราะผู้ชายที่ฉันรักมันคือคุณไง ฉันรักคุณทั้ง ๆ ที่รู้ว่าคุณ เกลียดแสนเกลียดฉัน '' นราวดีตอบ
                  ''   เธอบอกเธอรักฉัน เธอกล้าวางยา ผู้ชายที่เธอบอกว่าเธอรักเขาเหรอ เธอไม่กลัวฉันเกลียดเธอเหรอ หลังจากที่เธอวางยาฉัน '' คริสโตเฟอร์ถาม
                  ''   ฉันจะกลัวคุณเกลียดฉันทำไมล่ะคะ ในเมื่อคุณเกลียดฉันอยู่แล้ว แค่คุณเกลียดฉันมากกว่าเดิมเท่านั้นเอง '' นราวดีตอบ
                  ''   เธอนี่มันหน้าด้านจริง ๆ เลยนะ และรู้ไว้เลยนะ เราจะไม่ยุ่ง ไม่มีเซ็กส์กันอีก ที่เรามีครั้งนั้นเพราะฉันโดนวางยา ฉันเลยเลี่ยงไม่ได้ แค่นั้นฉันก็สะอิดสะเอียนเธอจะแย่แล้วรู้ไหม แต่ถ้าฉันมีสติปัญญาพร้อมอย่างนี้ฉันจะไม่มีวันแตะเธอเด็ดขาด จำเอาไว้ '' พูดจบก็เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ปล่อยนราวดีนั่งร้องไห้ที่พื้นข้างเตียงนอน จนชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เขาเดินไปที่เตียงนอนหยิบ หมอนหนึ่งใบ พร้อมผ้าห่ม แล้วเดินไปที่โซฟาเพื่อจะนอน นราวดีก็ยังไม่เลิกร้องไห้   ''  นี่ไปร้องไห้ที่อื่นได้ไหม ฉันจะนอนมันหนวกหู '' คริสโตเฟอร์บอกพร้อมล้มตัวลงนอนบนโซฟา   

           นราวดีจึงเดินไปร้องไห้ในห้องน้ำ พร้อมหาวิธีถอดชุดเจ้าสาว แธอไม่สามารถถอดได้เพราะมันเป็นกระดุมหลังเรียงเป็นแถวยาว จนเวลาผ่านไปนานเธอจึงหยุดร้องไห้ แล้วเดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียงทั้งชุดเจ้าสาว ก่อนนอนเธอให้สัญญากับตัวเองว่าเธอจะไม่ร้องไห้ ให้ผู้ชายใจร้ายคนนั้นอีกแล้วถ้าไม่จำเป็น แล้วเธอก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ทั้งร่างกาย และจิตใจ                       
                                                                               

            
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×