ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อารยธรรมตะวันออก (จีนและอินเดีย)

    ลำดับตอนที่ #3 : อารยธรรมจีนสมัยประวัติศาสตร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.83K
      4
      14 ธ.ค. 54

    อารยธรรมจีนสมัยประวัติศาสตร์แบ่งออกเป็น 4 ยุค ได้แก่

    1. ประวัติศาสตร์สมัยโบราณ เริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชาง สิ้นสุดสมัยราชวงศ์โจว
    2. ประวัติศาสตร์สมัยจักรวรรดิ เริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์จิ๋น จนถึงปลายราชวงศ์ชิงหรือเช็ง
    3.
    ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ เริ่มปลายราชวงศ์เช็งจนถึงการปฏิวัติเข้าสู่ระบอบสังคมนิยม
    4. ประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เริ่มตั้งแต่จีนปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเข้าสู่ระบอบสังคมนิยมหรือคอมมิวนิสต์จนถึงปัจจุบัน

     

    อารยธรรมจีนในสมัยราชวงศ์ต่างๆ มีดังนี้

    • ราชวงศ์ชาง เป็นราชวงศ์แรกของจีน

    § มีการปกครองแบบนครรัฐ

    § มีการประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้เป็นครั้งแรก พบจารึกบนกระดองเต่าและกระดูกวัว เรื่องที่จารึกส่วนใหญ่เป็นการทำนายโชคชะตาจึงเรียกว่า
    กระดูกเสี่ยงทาย

                               

     
     อักษรจีนจารึกบนกระดองเต่า

    §มีความเชื่อเรื่องการบูชาบรรพบุรุษ

     


     

    • ราชวงศ์โจว

    §แนวความคิดด้านการปกครอง เชื่อเรื่องกษัตริย์เป็น “โอรสแห่งสวรรค์
    สวรรค์มอบอำนาจให้มาปกครองมนุษย์เรียกว่า “อาณัตแห่งสวรรค์

    § เริ่มต้นยุคศักดินาของจีน

    § เกิดลัทธิขงจื๊อ ที่มีแนวทาง

    § เป็นแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยม

    § เน้นความสัมพันธ์และการทำหน้าที่ของผู้คนในสังคม ระหว่างจักรพรรดิกับราษฎร บิดากับบุตร พี่ชายกับน้องชาย สามีกับภรรยา เพื่อนกับเพื่อน

    § เน้นความกตัญญู เคารพผู้อาวุโส ให้ความสำคัญกับครอบครัว

    § เน้นความสำคัญของการศึกษา

    § เกิดลัทธิเต๋า โดยเล่าจื๊อ ที่มีแนวทาง

    § เน้นการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ต้องมีระเบียบแบบแผนพิธีรีตองใดใด

    § เน้นปรับตัวเข้าหาธรรมชาติ

    § ลัทธินี้มีอิทธิพลต่อศิลปิน กวี และจิตรกรจีน

    § คำสอนทั้งสองลัทธิเป็นที่พึ่งทางใจของผู้คน

     

    • ราชวงศ์จิ๋นหรือฉิน

    § จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่สามารถรวมดินแดนของจีนให้เป็นจักรวรรดิ เป็นครั้งแรกคือ พระเจ้าชิวั่งตี่ หรือ จิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นผู้ให้สร้าง กำแพงเมืองจีน

     
    จิ๋นซีฮ่องเต้


    กำแพงเมืองจีน 

     

                               ทหารจีนตุ๊กตาดินเผา
                                    ภายในสุสานสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ มณฑลซีอาน


    § มีการใช้เหรียญกษาปณ์ มาตราชั่ง ตวง วัด

     

    • ราชวงศ์ฮั่น

    § เป็นยุคทองด้านการค้าของจีน มีการค้าขายกับอาณาจักรโรมัน อาหรับ และอินเดีย โดยเส้นทางการค้าที่เรียกว่า เส้นทางสายไหม ( Silk Rood )

    § ลัทธิขงจื๊อ คำสอนถูกนำมาใช้เป็นหลักในการปกครองประเทศ

    § มีการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการเรียกว่า จอหงวน

     

    • ราชวงศ์สุย

    § เป็นยุคแตกแยกแบ่งเป็นสามก๊ก

    § มีการขุดคลองเชื่อมแม่น้ำฮวงโหกับแม่น้ำแยงซี เพื่อประโยชน์สะพานเจ้าโจวหรือสะพานหินอันจี้ อายุกว่า 1 ปี ได้ชื่อว่าเป็นสะพานโบราณที่หนึ่งแห่งแผ่นดิน ใช้เทคนิควิศกรรมก่อสร้างสะพานหินโค้งที่ล้ำหน้า กล่าวกันว่าเป็นผลงานของหลู่ปัน ช่างฝีมือเอกแห่งยุคในด้านการคมนาคม

     

    • ราชวงศ์ถัง

    § ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของอารยธรรมจีน นครฉางอานเป็นศูนย์กลางของซีกโลกตะวันออกในสมัยนั้น

    § พระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรือง พระภิกษุ (ถังซำจั๋ง) เดินทางไปศึกษาพระไตรปิฎก ในชมพูทวีป

    § เป็นยุคทองของกวีนิพนธ์จีน กวีคนสำคัญ เช่น หวางเหว่ย หลี่ไป๋ ตู้ฝู้

    § ศิลปะแขนงต่างๆมีความรุ่งเรือง

     

    • ราชวงศ์ซ้อง

    § มีความก้าวหน้าด้านการเดินเรือสำเภา

    § รู้จักการใช้เข็มทิศ

    § รู้จักการใช้ลูกคิด 

    § ประดิษฐ์แท่นพิมพ์หนังสือ

    § รักษาโรคด้วยการฝังเข็ม

     

    • ราชวงศ์หยวน

    § เป็นราชวงศ์ชาวมองโกลที่เข้ามาปกครองจีน ฮ่องเต้องค์แรกคือ กุบไลข่าน หรือ หงวนสีโจ๊วฮ่องเต้

    § ชาวตะวันตกเข้ามาติดต่อค้าขายมาก เช่น มาร์โคโปโล พ่อค้าชาวเมืองเวนีส อิตาลี

     

    • ราชวงศ์หมิงหรือเหม็ง

    § วรรณกรรม นิยมการเขียนนวนิยายที่ใช้ภาษาพูดมากกว่าการใช้ภาษาเขียน มีนวนิยายที่สำคัญ ได้แก่ สามก๊ก ไซอิ๋ว

    § ส่งเสริมการสำรวจเส้นทางเดินเรือทางทะเล

    § สร้างพระราชวังหลวงปักกิ่ง (วังต้องห้าม)

     

    • ราชวงศ์ชิงหรือเช็ง

    § เป็นราชวงศ์เผ่าแมนจู เป็นยุคที่จีนเสื่อมถอยความเจริญทุกด้าน

    § เริ่มถูกรุกรานจากชาติตะวันตก เช่น สงครามฝิ่น ซึ่งจีนรบแพ้อังกฤษ ทำให้ต้องลงนามในสนธิสัญญานานกิง

    § ปลายยุคราชวงศ์ชิง พระนางซูสีไทเฮาเข้ามามีอิทธิพลในการบริหารประเทศมาก

     




    จีนยุคสาธารณรัฐและยุคคอมมิวนิสต์

    • ปลายยุคราชวงศ์ชิง ดร.ซุนยัตเซ็น จัดตั้งสมาคมสันนิบาต เพื่อล้มล้างราชวงศ์ชิง โดยประกาศ ลัทธิไตรราษฎร์ ประกอบด้วย 1.หลักเอกราช 2.หลักแห่งอำนาจอธิปไตยของประชาชน 3.หลักความยุติธรรมในการครองชีพ ส่วนนโยบายปฏิวัติ คือ โค่นล้มราชวงศ์แมนจู และจัดตั้งรัฐบาลประชาชน จัดตั้งรัฐบาลตามระบอบสาธารณรัฐ จัดสรรที่ดินให้แก่ประชาชน และก่อตั้งพรรคชาตินิยม หรือ
      พรรคก๊กมินตั๋ง ขึ้นในที่สุด
    • ต่อมา ซุนยัตเซ็นได้ร่วมมือกับ ยวน ซีไข ทำการปฏิวัติล้มราชวงศ์ชิงได้สำเร็จเปลี่ยนการปกครองเข้าสู่ระบอบสาธารณรัฐ (จักรพรรดิปูยี เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของจีน) มีการแย่งชิงอำนาจของผู้นำทางทหารเรียกว่า ยุคขุนศึก
    • ซุนยัตเซ็นได้เสนอให้ ยวน ซีไข เป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐจีน
    • ยวน ซีไข คิดสถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิและรื้อฟื้นระบบศักดินา
    • ดร.ซุนยัตเซ็น ตั้งพรรคก๊กมินตั๋ง
    • เมื่อ ยวน ซีไข เสียชีวิตลง ดร.ซุนยัตเซ็นเป็นประธานาธิบดี แต่เป็นได้ไม่นานก็เสียชีวิต
    • หลังจาก ดร. ซุนยัตเซ็น เสียชีวิต เจียงไคเช็ค ขึ้นเป็นผู้นำพรรคก๊กมินตั๋งและผู้นำจีน
    • แต่รัฐบาลเจียงไคเช็ค ประสบปัญหาฉ้อราษฎร์บังหลวง กดขี่ราษฎร
    • จีนเกิดการปฏิวัติอีกครั้ง โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน ภายใต้การนำของ เหมา เจ๋อตุง รัฐบาลเจียงไคเช็ค ต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แต่แพ้
    • เหมา เจ๋อตุง สถาปนา สาธารณรัฐประชาชนจีนปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ มีการจัดระเบียบสังคมใหม่ เรียกว่า การปฏิวัติทางวัฒนธรรม เพื่อต่อต้านจารีตศักดินาแบ่งชนชั้น
    • หลังจาก เหมา เจ๋อตุง เสียชีวิต เติ้งเสี่ยวผิงขึ้นเป็นผู้นำจีนแทน ประกาศพัฒนาประเทศด้วย นโยบายสี่ทันสมัย คือด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การทหาร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนภายในประเทศ รวมทั้งผ่อนปรนวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชนให้คลายความเข้มงวดลง

     

    อนุสาวรีย์วีรชนปฏิวัติของจีน

    ประธาน เหมา เจ๋อตุง
     
    อนุสรณ์สถานประธาน เหมา เจ๋อตุง


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×