ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ' S P E C I A L ✖ w a y o f m y l i f e
SPECIAL CHAPTER : MYSTERY GIRL
....เจ็ดร้อยปีก่อน....
เคร้ง! เสียงใบดาบกระทบกับพื้นไม่ดังนัก แต่ก็ดังเพียงพอให้ทุกคนในสนามประลองที่เงียบกริบได้ยินอย่างชัดเจน เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่คนนับหมื่นนับพันอยู่รวมกันแต่ไม่มีเสียงใดนอกจากเสียงหายใจและเสียงประดาบกันอย่างดุเดือดเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
เสียงที่เกิดขึ้นนั้นประกาศชัดเจนว่าได้ผู้ชนะเป็นที่เรียบร้อย เสียงเฮ! ดังกึกก้องทั่วทั้งสนามตามด้วยเสียงปรบมือชื่นชม ผู้ชนะเพียงยิ้มและโบกมือให้ทุกคนก่อนยื่นมือมาดึงคู่ต่อสู้ที่ถูกปลดอาวุธและล้มลงไปนั่งกับพื้น ผู้แพ้ไม่ได้แสดงท่าทีเคียดแค้นแต่อย่างใดเขาจับมือที่ยื่นมาและดึงตัวเองกลับขึ้นไปยืนอีกครั้ง ทั้งสองแท็คมือและตีไหล่กันอย่างสนิทสนมแทบจะเดินกอดคอกันออกไปเลย ถ้าไม่มีเสียงกรรมการขัดขึ้นมา
"เอ้า! รอก่อนๆ อย่าพึ่งลืมกติกาสิ จริงๆ เลยน้า~ นายก็โตแล้ว อย่าติดเพื่อนมากนักสิ 'อเล็กซิส'"
เสียงทักท้วงอย่างเป็นกันเองเรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งสนามรวมทั้งผู้เข้าประลองทั้งสองด้วย ผู้ชนะเกาหัวแก้เก้ออย่างไม่มีมาดมีฟอร์มก่อนตะโกนด้วยเสียงที่ได้ยินชัดเจนทั่วทั้งสนาม
"มีใครจะสู้กับข้าอีกมั้ย!"
เป็นกติกาของการประลองที่ผู้ชนะจะต้องตะโกนถามเพื่อหาคู่ต่อสู้ใหม่ของตน ถ้ามีคนเสนอตัวก็จะเริ่มการประลองทันที หากไม่มี ผู้ชนะในนัดนี้ก็จะสามารถออกจากสนามไปพักได้และกรรมการจะเลือกผู้เข้าแข่งขันคู่ต่อไปด้วยตัวเอง ผู้ชนะครั้งนี้เป็นเด็กหนุ่มวัยสิบเก้าที่มีแววตาฉลาดเฉลียวและรอยยิ้มสดใสอันเป็นเอกลักษณ์ คงจะมีคนเสนอตัวสู้กับเด็กหนุ่มคนนี้มากมายถ้าหากไม่เห็นทริคการต่อสู้อันล้ำเลิศที่โชว์จบไปสดๆ ร้อนๆ
ทั้งสนามกลับมาเงียบกริบอีกครั้ง เมื่อเขาไม่เห็นว่ามีใครต้องการสู้กับตนอีกจึงหมุนตัวกลับเตรียมจะเดินออกไป แต่ก็มีเสียงเรียกดังขึ้นก่อน
"ข้า! ข้าลงเอง"
ร่างของเด็กสาววัยสิบสี่ผุดลุกขึ้นมาจากแสตนด์ชมที่ล้อมรอบลานประลอง ผู้เข้าชมที่นั่งติดกับเธอส่งเสียงร้องฮือฮาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เด็กหนุ่มเองก็ตกใจเช่นกันที่คู่ต่อสู้ครั้งนี้เป็นเพียงเด็กผู้หญิง ไม่ใช่นักรบหรืออะไรเหมือนครั้งอื่น ไม่แปลกอะไรที่ทุกคนจะดูประหลาดใจ เพราะเด็กสาวที่อาสาประลองนั้นไม่ได้สวมชุดเกราะด้วยซ้ำ อีกทั้งยังไม่มีลักษณะที่ดูเป็นนักรบแม้แต่น้อยหากไม่นับแววตาที่เป็นประกายราวกับมีเรื่องให้คิดตลอดเวลา ชุดกระโปรงแบบกรีกโบราณ และรัดเกล้าสีทอบ่งบอกได้อย่างดีว่าเธอต้องเป็นลูกผู้ดีจากบ้านไหนสักบ้านแน่ ที่ดูผิดแผกหน่อยก็เห็นจะเป็นเรื่องดาบ โดยปกติแล้วไม่มีใครสะพายดาบกับชุดกระโปรง ถ้าไม่นับเป็นชุดเกราะ ยิ่งกับชุดกระโปรงกรีกที่ใส่เพื่อความสวยงามยิ่งไม่มีใครคิดจะพกดาบเข้าไปอีก
"เอาจริงเหรอ สู้จริงเจ็บจริงนะ ไม่มีออมมือด้วย" ชายหนุ่มถามเพื่อรวามแน่ใจแต่กลับได้คำตอบเสียงใสจากปากของเด็กสาวว่า"ไม่ได้ตายจริงนี่"
ก็จริงอยู่ การประลองนี้ไม่มีใครตายอย่างมากก็แค่บาดเจ็บ เพราะนี่เป็นแค่การละเล่นยอดนิยมอย่างหนึ่งของอาณาจักรนี้เท่านั้น การเลือกผู้ชนะมีวิธีง่ายๆ คือสามารถปลดอาวุธของคู่ต่อสู้ได้ชนิดที่ว่าผู้ที่ถูกปลดอาวุธจะไม่สามารถลุกขึ้นมาสู้ได้อีก ถ้าถูกปลดอาวุธแล้วยังสู้ด้วยมือเปล่าได้หรือใช้อาวุธที่ซ่อนไว้ก็ยังไม่ถือว่าแพ้ อีกวิธีคือมีโอกาสที่สามารถปลิดชีพคู่ต่อสู้ได้ทันทีอย่างเช่น ล็อคคอ ข้อบังคับง่ายๆ ของผู้เข้าร่วมทุกคนคือต้องใช้อาวุธระยะประชิดหรือสู้ด้วยมือเปล่าเท่านั้น
ทั้งคู่เอื้อมมือไปหยิบดาบ ตั้งท่าเตรียมพร้อม และกระโจนเข้าหากันทันทีที่ได้สัญญาณจากกรรมการ เธอตวัดดาบไปที่กลางลำตัวของคู่ต่อสู้ แต่อเล็กซิสก็สามารถกันไว้ได้ เขาคว้าแขนข้างที่ถือดาบของเธอเพื่อปลดอาวุธ เด็กหนุ่มคงจะปลดได้ไปแล้วถ้าคนตรงหน้าเป็นเพียงคุณหนูจากครอบครัวผู้ดีธรรมดาๆ เธอโยนดาบไปที่มืออีกข้างและกระแทกด้ามดาบเข้าที่ท้องของอเล็กซิสเต็มแรงจนเด็กหนุ่มตัวงอ เด็กหญิงสะบัดแขนออกจากการจับกุม ก่อนถอยออกมาดูเชิง
"ไม่ใช่เด็กธรรมดาๆ นี่" อเล็กซิสเปรยขึ้นหลังจากหายจุก และก็ได้รับคำตอบทันที "เด็กธรรมดาจะมาลงแข่งเหรอ พูดไม่คิด"
คำตอบปนเหน็บแนมจากปากของเด็กที่ยืนสะบัดข้อมือตัวเองอยู่คลายความตึงเครียดในลานประลองได้ทเป็นอย่างดี อเล็กซิสยู่ปากอย่างขัดใจที่โดนเด็กย้อนก่อนกลับมาตั้งท่าเตรียมพร้อมอีกครั้ง อเล็กซิสเข้าประชิดตัวอย่างรวดเร็ว เด็กสาวเบิกตาเล็กน้อยแต่ปฏิกิริยาตอบสนองของเธอก็ทำงานได้เป็นอย่างดี ฝักดาบถูกนำไปใช้ด้วยความเคยชิน เธอกระทุ้งฝักดาบไปยังใต้คางของเด็กหนุ่ม แต่ครั้งนี้อเล็กซิสกันไว้ได้ เขาเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย กระแทกด้ามดาบเข้าที่หว่างคิ้วของเธอและยื่นขาไปขัดให้เพื่อให้เสียการทรงตัว เด็กสาวเซเล็กน้อย อเล็กซิสเตรียมจะเข้าไปซ้ำเพื่อให้ง่ายต่อการปลดอาวุธ แต่ก็ถูกเด็กที่เค้าเคยมองว่าเป็นคุณหนูตวัดดาบใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล
"เฮ้ย!"
ถึงกับร้องเสียงหลง ชะล่าใจนิดเดียวเด็กหนุ่มก็ได้รอยแผลบนหน้าเป็นที่เรียบร้อย รอยขีดลากยาวจากแก้มผ่านจมูกไปถึงแก้มอีกข้าง ทั้งอเล็กซิสและเด็กสาวได้แผลภายในเวลาไม่ถึงห้านาที ทั้งที่คู่ก่อนหน้านี้ที่อเล็กซิสเป็นผู้ชนะนั้น ผ่านไปกว่าสิบนาทีเด็กหนุ่มก็ยังไม่มีสักแผล แผลเหล่านี้จึงเรียกความสนใจของผู้ชมที่คิดว่าคงเป็นแค่การวิ่งไล่กับเด็กอายุสิบสี่เท่านั้น เลือดไหลจากแผลมากพอสมควร ทำให้เขาต้องคอยเช็ดเลือดอยู่เป็นระยะๆ พอๆ กับเด็กสาวที่ยืนปาดเลือดตรงหว่างคิ้วแทบทุกสิบวินาที ใช่...เธอคิ้วแตก อเล็กซิสออกจะประหลาดใจเล็กน้อย ด้วยความแรงขนาดนั้นเพียงพอที่จะให้ผู้ใหญ่สลบได้สบายๆ แต่เด็กคนนี้กลับยังยืนอยู่ได้
การประลองนี้จะว่าเร็วก็เร็ว เพราะแต่ละครั้งที่ประดาบกันนั้นรวดเร็วจนบางคนถึงขั้นมองตามไม่ทัน หรือจะว่าช้าก็ไม่ผิดเพราะหลังจากปะทะกันได้สักสองหรือสามครั้ง ทั้งคู่ก็จะถอยห่างออกมาและยืนพิจารณาวิธีการต่อสู้ของอีกฝ่ายเป็นประจำ ถ้าจะนับเป็นมวย นี่เป็นยกที่สามแล้วที่ทั้งคู่หยุดยืนมองกันอย่างจับผิดและเตรียมจะปะทะกันอีกรอบ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง อเล็กซิสยังคงใช้วิธีการเดิมคือกระโจนเข้าใส่ แม้จะมีทริคที่ปรับเปลี่ยนบ้างเล็กน้อย แต่รวมๆ แล้วเด็กหนุ่มก็ยังคงใช้กลยุทธ์เดิม ในขณะที่เด็กสาวยืนอยู่กับที่ไม่พุ่งเข้าหาหรือหลบออกไปทั้งนั้น เธอหยุดยืนอยู่ตรงนั้นจนอเล็กซิสเข้ามาในระยะที่เหมาะสม ซานเทียร์เดินวนเป็นวงกลมด้วยความเร็วปกติพร้อมลากดาบไปด้วย
ในความคิดของเด็กหนุ่มนั้น เธอเชื่องช้ามาก แต่ตัวเขาเองกลับช้ายิ่งกว้า เขาไม่สามารถควบคุมประคองสติได้ ดวงตาของเด็กสาวมีอำนาจอย่างประหลาด ยิ่งเมื่อเขาสบตาด้วยแล้ว ดวงตาคู่นั้นราวกับจะดึงวิญญาณของเขาออกไป อเล็กซิสพึ่งจะสังเกตก็ตอนนี้ว่านัยน์ตาสีฟ้าปนเทาพายุนั้นอันตรายขนาดไหนก็ตอนนี้ ประกายแปลกๆ ในดวงตาของเธอทำให้สติของเขาเริ่มจะหลุดลอยออกไป อเล็กซิสรู้สึกว่าดาบของตนนั้นหลุดไปอยู่ในมือของเด็กสาวเรียบร้อยแล้ว และตัวเขาเองก็อยู่ในสภาพคุกเข่าเอามือปิดหน้าไว้ อีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าเขาต้องหน้าคะมำกับพื้นแน่ๆ แต่ก็มีเสียงหนึ่งที่ดึงให้สติของเขากลับมาอีกครั้ง แม้ว่าจะเพียงเล็กน้อยก็ตาม
"อันตรายนะนั่น"
"สะกดจิตอย่างนั้นก็แย่สิ เจ้าก็รู้ว่าตัวเองสะกดได้ขนาดไหน" ชายคนนั้นพูดต่อ เด็กสาวยกยิ้มอย่างไม่รู้สึกอะไร
"รู้สิ ก็แค่สลบเอง กะแรงไว้อยู่น่า ไม่ต้องห่วงหรอก" ว่าแล้วก็ปล่อยมือที่คว้าคอเสื้อของอเล็กซิสออกและเดินไปหาชายวัยกลางคน
"อเล็กซิส สินะ เราจะได้เจอกันอีกแน่" เธอหันกลับมาพูดกับเด็กหนุ่มด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
"เจ้า..." อเล็กซิสขยับปากจะถามชื่อ แต่ตอนนี้ตัวของเขาชาไปหมด แม้แต่ปากก็ยังขยับแทบไม่ได้ เด็กสาวคลี่ยิ้มก่อนตอบอย่างรู้ใจ
"คงชาอย่างนั้นไปสักชั่วโมงสองชั่วโมง ถ้าจะถามว่าข้าชื่ออะไร...." เธอเงียบไปและก้มลงมากระซิบ "เรธิเซีย เดอ ซานเทียร์ คือชื่อของข้า หวังว่าเราจะได้เจอกันเร็วๆ นี้"
พูดได้แค่นั้นเรธิเซียก็หมุนตัวกลับและเดินออกไปพร้อมชายในตอนแรกโดยไม่สนใจกติกาที่ว่าต้องประกาศหาคู่ต่อสู้คนถัดไปอีกเลย และชื่อ เรธิเซีย เดอ ซานเทียร์ ก็เป็นชื่อที่วนเวียนอยู่ในหัวของอเล็กซิสไปอีกนาน พร้อมกับคำเตือนสั้นๆ แต่ได้ใจความ
เด็กอายุสิบสี่ที่คุณพบในลานประลองไม่ใช่คนที่คุณควรสบตาด้วยแม้แต่นิดเดียว
---------------------------------------------------------------------------------------------
อัพบทใหม่ต้อนรับวันพ่อไม่เจอกันนานเลย ขอโทษรีดเดอร์จริงๆ นะคะที่ดองมาจนจะเป็นเดือนอยู่แล้ว ถ้าอัพได้ก่อนสอบมิดเทอมก็คงดี แต่ถ้าไม่ได้คงนานพอสมควรเลยค่ะ เพราะไรท์ต้องไปฉลองปีใหม่ คงไม่มีเวลามาอัพเลย ไม่มีแน่ๆ ค่ะ ช่วงนี้อ่านหนังสือสอบด้วย ที่จริงบทนี้จะใช้เป็นเนื้อเรื่องรีไรท์ของบทนำ แต่เห็นว่าเนื้อหามันต่างกันพอสมควรเลยเอามาทำเป็นสเปเชี่ยลแทน เหมือนเดิมค่ะ กระแสตอบรับดีจะเขียนต่อ ไรท์รอเม้นท์ของรีดเดอร์อยู่น้า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น