เวลาไม่เคยพอ - เวลาไม่เคยพอ นิยาย เวลาไม่เคยพอ : Dek-D.com - Writer

    เวลาไม่เคยพอ

    โดย aisang

    ได้แต่เกลียดตัวเองที่ลืมนึกไป ว่าโลกมีคำว่าสาย ไว้สะกิดใจให้ฉันรีบทำ ได้แต่กอดตัวเองกับความทรงจำ ที่ยิ่งย้ำว่าฉันมันผิดที่ชะล่าใจ T_T)

    ผู้เข้าชมรวม

    611

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    611

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 ก.ค. 50 / 03:22 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้


    คำแนะนำ

    จะซึ้งมาก หากอ่านไปด้วย

    ฟังเพลงไปด้วย

    ~ เวลาไม่เคยพอ ~

    ~
    *----------------------------------*~

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      เวลาไม่เคยพอ

              ~ตอนอายุ  8 ขวบ~

       

              คุณพ่อ  ตั้งใจทำงานนะคะ  อย่ากลับบ้านช้านักล่ะ  เดี๋ยวแม่จะทำกับข้าวไว้รอตอนเย็นนะคะ

       

              คุณแม่ก็ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ  แล้วตอนเย็นพ่อจะซื้อขนมมาฝาก

       

                  เสียงเจื้อยแจ้วในบทบาทสมมุติประกอบการเล่นตุ๊กตากระดาษของเด็กน้อยสองคน  คนหนึ่งเป็นเด็กหญิงแก้มแดงเรื่อ  กับอีกคนเป็นเด็กผู้ชาย  อายุไล่เลี่ยกัน

                 
      ฟาง  พี่ไม่อยากเล่นตุ๊กตากระดาษแล้วอ่ะ

       

                  เด็กผู้ชายพูดพร้อมกับวางตุ๊กตากระดาษลง

                 
      แล้วพี่นุจะเล่นอะไรล่ะ  เล่นขายของไหม  เดี๋ยวฟางเป็นแม่ค้า  ให้พี่นุเป็นคนมาซื้อ

                  เล่นขายของอีกแล้วเหรอ  พี่เบื่อแล้วอ่ะ

       

                  งั้นเล่นอะไรดีล่ะ  พี่นุช่วยคิดหน่อยสิ

       

              พี่อยากเล่นเตะบอล

       

                  เด็กชายพูดและลุกขึ้นยืน

       

                  แต่ฟางเล่นไม่เป็นนี่

       

                  พี่ก็ไม่ได้บอกว่าจะเล่นกับฟางสักหน่อย  พี่จะไปเล่นกับพวกผู้ชายที่โรงเรียนต่างหาก

       

       

                  ถ้าพี่นุไปแล้วฟางจะเล่นกับใครล่ะคะ

       

                  เด็กหญิงถาม  น้ำเสียงและแววตาเศร้าลงทันใด

       

                  เด็กชายมองหน้าเด็กหญิง  เขายิ้ม  ลูบหัวเธอ  แล้วพูดว่า

       

                  ฟางก็ไปดูพี่เล่นสิ  เราไปโรงเรียนด้วยกันเลยดีกว่า

       

                  น้องฟางยิ้มออกมา  เธอลุกขึ้นยืนข้างๆ พี่นุ  แล้วทั้งคู่ก็ออกไปข้างนอก  ไปยังสนามฟุตบอลของโรงเรียน

       

       

                  เด็กชายลงไปเล่นกับเด็กผู้ชายคนอื่นๆ อีก 9 คนในสนามหญ้าสีเขียวหรอมแหรม ปนกับดินสีน้ำตาล

                  เด็กหญิงนั่งดูอยู่ข้างสนาม  เธอจ้องพี่นุของเธอตาไม่กระพริบ ฟางทั้งส่งเสียงเชียร์  ทั้งปรบมือทุกครั้งที่นุได้ลูก

       

                  พี่นุเตะเลยค่ะ   เอาเลยๆ

       

                  เสียงใสตะโกนดังไม่ขาดสาย 

       

                  นุถูกแย่งลูกแล้ว  เตะกันไปเตะกันมา  แล้ว.....บอลลูกกลมๆ ที่คน 10 คนในสนามพยายามแย่งกันก็ถูกเตะโดยใครคนหนึ่ง 

       

                  พลั๊ก!

       

                  บอลถูกเตะพุ่งเข้าหาฟางอย่างจังงงง

       

                  ขณะที่ทุกคนกำลังอยู่ในอาการอึ้งและเงียบงัน  นุรีบวิ่งมาหาฟางที่ข้างสนาม

       

                  ฟางเจ็บมากไหม

       

                  นุตรงเข้ามาดูฟางที่มีเลือดไหลออกมาจากจมูก  ผลจากการถูกลูกบอลชนเข้าใบหน้าอย่างจัง

       

                  เด็กหญิงร้องไห้  น้ำตาไหลเต็มใบหน้า เปรอะแก้มใสๆ

       

                  นุถอดเสื้อตัวเองออกมาเช็ดเลือดกำเดาให้ฟาง  เข้าดึงหน้าผากที่กำลังร้องไห้เข้ามากอด  พลางปลอบโยนด้วยคำพูดแผ่วเบา

       

                  ไม่เป็นไรนะ  ไม่ร้องไห้นะคะ  พี่ไม่ดีเองที่ชวนฟางมาที่นี่  พี่นุขอโทษนะ  ต่อไปพี่จะไม่ไห้ฟางต้องมาเจ็บตัวแบบนี้อีกแล้ว  กลับบ้านกันนะ

       

                  ฟางร้องไห้สะอึกสะอื้น  นุหยุดเล่นฟุตบอล  เขาพาฟางกลับบ้าน

       

       

       

                  ตอนค่ำของวันนั้น  ม้านั่งไม้ตัวเก่าที่อยู่ตรงกลางระหว่างรั้วบ้านสองหลังมีเด็กสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่

       

                  พี่นุจะไม่ให้ฟางต้องเจ็บตัวอีกแล้วนะ

       

                  พี่นุไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย

       

                  ฟางพูด  ทั้งๆ ที่ยังเจ็บจมูก

       

                  ฟางตั้งหากที่ต้องขอโทษที่ทำให้พี่นุโดนคุณป้าว่า

       

                  ไม่เป็นไรหรอก

       

                  ทั้งคู่ยิ้มให้กัน  กลิ่นดอกไม้กลางคืนที่ถูกปลูกอยู่ริมรั้วส่งกลิ่นหอมมาทักทาย

       

                  ฟางเอ้ยยย     กลับบ้านได้แล้วจ๊ะ  ได้เวลานอนแล้ว

       

                  เสียงคุณแม่ของฟางตะโกนออกมาจากบ้าน

       

                  พี่นุ  คุณแม่เรียกแล้ว  ฟางกลับบ้านก่อนนะ

       

                  จ๊ะ  แล้วพรุ่งนี้พี่จะไปหาฟางที่บ้านแต่เช้าเลยนะ  เราจะมาเล่นตุ๊กตากระดาษกัน

       

                  ค่ะ

       

                  ฟางพยักหน้ารับคำ  เธอยิ้มอย่างยินดี  ก่อนจะเดินหายกลับเข้าบ้านไป

       

                  นุมองจนฟางพ้นสายตา  ตนเองจึงเดินกลับเข้าบ้านที่อยู่ข้างๆ นั้นเอง

       

                  ....................................................................................................................

       

                  ~ตอนอายุ 12 ปี~

       

              พี่นุ ๆๆ

       

                  เสียงฟางตะโกนเรียกนุจากหน้าบ้าน

       

                  พี่นุเร็วๆ สิ  เดี๋ยวก็ไปไม่ทันวันประกาศผลสอบหรอก

       

                  วันนี้  วันที่นุจะจบชั้นป.6  และฟางจะขึ้นชั้น ป.5  มันเป็นวันสำคัญของนุที่จะไปรับใบจบการศึกษา  แต่คนที่ดูจะตื่นเต้นดีใจมากกว่าเจ้าตัวนั่นก็คือฟาง

       

                  ถึงจะเป็นโรงเรียนประถม  แต่โรงเรียนของเด็กทั้งสองก็มีการจัดให้เด็กที่จบชั้น ป.6 ได้แต่งชุดบัณฑิตน้อยขึ้นไปรับเกียรติบัตรบนเวที

       

                  พี่นุเท่ห์จังเลยค่ะ

       

                  ฟางชื่นชมชื่นชอบนุในชุดบัณฑิตน้อย  เธอมองดูนุตาไม่กระพริบ

       

                  เดี๋ยวปีหน้าฟางก็ได้ใส่เหมือนพี่แล้ว

       

                  ปีหน้าพี่นุจะต้องมาดูฟางรับด้วยนะคะ

       

                  จ๊ะ  ไปกันเถอะ  ไปถึงโรงเรียนแล้วเราไปถ่ายรูปที่ซุ้มดอกไม้กันนะ

       

                  ค่ะ

       

                  รูปถูกถ่ายเก็บไว้ในวันนี้....  ฟางยิ้มแก้มบานยืนข้างๆ นุที่ทำหน้าเคร่งขรึมในชุดบัณฑิตน้อย  หน้าซุ้มดอกไม้ที่โรงเรียนจัดแต่งไว้อย่างสวยงาม

       

       

      ........................................................................................................................................

       

                  พี่นุสอบเข้าโรงเรียนในตัวเมืองได้เหรอ  ดีใจจัง

       

                  ฟางรีบมาแสดงความยินดีเป็นคนแรก  ทันทีที่รู้ว่านุสอบเข้า ม.1 ในโรงเรียนประจำจังหวัดได้

       

                  แต่ก็ไม่ดีเท่าไร  เพราะพี่นุก็ต้องไปอยู่ในเมือง  เราก็จะไม่ได้เจอกัน

       

                  ทำไมล่ะ  พี่ก็ต้องกลับบ้านทุกอาทิตย์อยู่แล้ว

       

                  ก็นั่นแหละ  ไม่ได้เจอกันทุกวันเหมือนเดิมนี่นา

       

                  งั้นปีหน้าฟางก็ต้องสอบเข้าโรงเรียนพี่ให้ติดสิ  เราจะได้เรียนโรงเรียนเดียวกัน  จะได้เจอกันทุกวันไง

       

                  ค่ะ  ฟางจะพยายาม

       

      ..........................................................................................................................................

       

              พี่นุกลับมารึยังคะคุณป้า

       

                  เมื่อถึงเย็นวันศุกร์  ทันทีที่ฟางกลับมาถึงบ้าน  เธอรีบเดินไปหาบ้านข้างๆ ทันที  ฟางตะโกนถามคุณป้า  แม่ของนุ  เธอรอฟังคำตอบอย่างตื่นเต้น 

       

                  แต่คำตอบที่ได้รับทำให้ฟางรู้สึกผิดหวัง  เธอดูเศร้าลงทันที

       

              นุไม่กลับบ้านหรอกจ๊ะวันนี้น่ะ  แล้วก็อาทิตย์หน้าและอาทิตย์ต่อๆ ไปก็คงไม่กลับ  เพราะป้าให้นุเรียนพิเศษวันเสาร์- อาทิตย์ด้วยน่ะ

       

                  ฟางค่อยๆ เดินกลับเข้าบ้าน  เธอเดินขึ้นไปยังชั้นสอง  เข้าไปในห้องนอนของเธอ  วางกระเป๋าลงบนโต๊ะ  ล้มตัวลงบนที่นอน  หน้าซุกหมอน 

       

                  พี่นุจะไม่กลับบ้านแล้วเหรอ

       

                  เธอพูดกับตัวเอง

       

                  .......คิดถึงพี่นุจัง.....

       

                  ฟางหยิบรูปวันที่นุจบ ป.6 มาดู

       

                  เธอมองภาพนั้นพลางนึกถึงภาพวันวานสมัยเด็กๆ  ที่ชีวิตของเธอมีแต่พี่นุ

       

                  ฟางเก็บรูปนั้นไว้ในไดอารี่   แล้วเธอก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ  อ่านๆๆ   ขยันๆๆๆ  เธอจะต้องสอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดให้ได้  เธอจะได้เจอพี่นุอีก  พี่นุ  ฟางคิดถึงพี่จัง

       

       

      ..........................................................................................................................................

       

       

              วันนี้....วันที่ฟางพยายามมาตลอดทั้งปี  วันจบการศึกษาชั้น ป.6 ของฟาง

       

                  ฟางในชุดบัณฑิตน้อย  เธอน่ารักมาก

       

                  เด็กสาวยืนอยู่หน้าบ้าน  เธอมองดูม้านั่งตัวเก่าที่ใกล้ผุพังเต็มที  ฟางนึกถึงวันนี้ในปีที่แล้ว  นึกถึงคำสัญญาที่ใครคนหนึ่งเคยให้ไว้

       

                  เธอชะเง้อมองเข้าไปในบ้านของนุ  ผ่านรั้วไม้เถาว์ที่ปลูกไว้

       

                  คุณป้าคะ  วันนี้พี่นุจะมาไหมคะ

       

                  ฟางพยายามตะโกนเรียก  แต่ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา  บ้านล็อกกุญแจนี่นา  ไม่มีใครอยู่บ้าน

       

                  พี่นุจะมาดูเธอขึ้นรับเกียรติบัตรไหมนะ......

       

      ..........................................................................................................................................

       

       

                  และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ฟางยินดีไม่น้อย  ความตั้งใจของเธอที่จะสอบเข้าโรงเรียนแห่งนี้

       

                  เธอทำได้  และในวันเปิดเทอม  เธอจะได้เจอกับพี่นุอีกครั้ง...

                 

                 

                  เช้าวันเปิดเรียนวันแรก

       

                  ฟางก้าวเข้าสู่ประตูโรงเรียนแห่งนี้...โลกของเธอกว้างขึ้นอีกนิด

       

                  ที่นี่กว้างขวางใหญ่โตกว่าโรงเรียนประถมของเธอมาก  ผู้คนเดินกันขวักไขว่  มีแต่ใครก็ไม่รู้ซึ่งฟางไม่รู้จัก

       

                  ฟางเดินงกๆ เงิ่นๆ ตามประสาใสซื่อ พยายามมองหาเพื่อนจากโรงเรียนเก่า 

       

                  แต่คนสำคัญที่สุดที่เธอพยายามมองหานั่นก็คือ  พี่นุ

       

                  เสียงสัญญาณเข้าแถวดังขึ้นแล้ว  ฟางยังหาพี่นุในโรงเรียนแห่งนี้ไม่เจอเลย

       

             

              ที่นี่ฟางได้รู้จักกับเพื่อนใหม่  เธอได้นั่งเรียนกับเมย์  และเมย์ก็เป็นคนที่น่ารัก  นิสัยดีคนหนึ่ง

       

                  ตอนพักเที่ยงฟางไปกินข้าวเที่ยงกับเมย์  เธอยังคงพยายามมองหาพี่นุของเธอต่อไป  จนเพื่อนใหม่สังเกตเห็น

       

                  ฟางมองหาอะไรอยู่เหรอ

       

                  เมย์ร้องถามด้วยความสงสัย  เรียกสายตาของฟางที่กวาดไปรอบโรงอาหารให้หันกลับมา

       

                  อ่อ เรามองหาพี่ชายเราน่ะ

       

                  เธอมีพี่ชายด้วยเหรอ

       

                  น้ำเสียงของเมย์ส่อแววแปลกใจ

       

                  ก็ไม่ใช่พี่แท้ๆ หรอก  เป็นพี่ชายที่อยู่บ้านข้างๆ น่ะ

       

                  แล้วพี่เค้าชื่ออะไรล่ะ

       

                  พี่นุ

       

                  พรวด!!

       

                  เสียงเมย์สำลักน้ำที่เธอกำลังดื่ม

       

                  เป็นอะไรไปเหรอเมย์

       

                  ฟางร้องถาม  เธอพยายามจะสะกดกลั้นความขำไว้

       

                  ใช่พี่นุ ม.2 ห้อง 1 ป่ะ

       

                  ใช่ๆ พี่เค้าแก่กว่าฉันปีนึง  แล้วพี่นุก็เรียนเก่งมากๆ ด้วย

       

                  เธอรู้จักกับพี่นุจริงๆ เหรอ  เธอคงไม่ขี้ตู่ใช่ไหม

       

                  เมย์ทำหน้าประหลาดใจ  ไม่เชื่อฟาง

       

                  ฉันรู้จักกับพี่นุแล้วทำไมเหรอ

       

                  เธอไม่รู้อะไร  ฉันมีพี่สาวอยู่ ม.3 พี่ฉันบอกว่า  พี่นุ ม.2/1 น่ะ  ฮอตสุดๆ เลยล่ะ  เรียนก็เก่ง  เล่นกีฬาก็เก่ง  เล่นดนตรีก็ยอดเยี่ยม  เป็นผู้ชายที่เพอร์เฟ็คมากๆ

       

                  จริงเหรอ

       

                  ฟางทำหน้าตื่นเต้นดีใจ  พี่นุของเธอบยอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยหรือ

       

                  ถ้าเธอไม่เชื่อ  เย็นนี้ไปที่สนามฟุตบอลสิ  ฉันคิดว่าพี่นุคงไปเล่นฟุตบอลที่นั่น

       

                  อื้มๆ

       

                  ฟางพยักหน้ารับคำ

       

       

       

      -*-*-

       

              เย็นนั้น  สองเพื่อนคู่หูคู่ใหม่พากันไปที่สนามฟุตบอลของโรงเรียน  เด็กผู้ชายประมาณ 8 - 10 คนกำลังวิ่งวุ่นแย่งลูกกลมๆ ในสนาม

       

                  พลันใครคนใดคนหนึ่ง เตะลูกบอลพลาดออกนอกเขตสนาม  กระเด็นสูงได้มุมตกกระทบพอดีที่กระหม่อมบางๆ ของสาวน้อยคนหนึ่ง

       

                  โอ้ย!”   ฟางร้องด้วยความเจ็บปวดระคนงุนงง

       

                  เด็กผู้ชายคนหนึ่งจากสนามวิ่งเข้ามาดูฟางที่ล้มลงพร้อมกับลูกบอล

       

                  ฟางกุมขมับตัวเองที่เริ่มบวมปูดขึ้นมา  เธอเงยหน้าขึ้งมองผู้ที่ตรงรี่มาประคับประคองเธอด้วยความสำนึกผิด

       

                  คนที่ฟางเห็นทำให้เธอลืมความเจ็บปวดทั้งหมดลงเป็นปลิดทิ้ง

       

                  พี่นุ

       

                  ฟางอุทานเบาๆ เธอยิ้มแก้มบานเมื่อเจอคนที่เธอรอคอยจะพบเจอมานานเป็นปี

       

                  พี่ขอโทษนะครับ เอ่อ....

       

                  ยังไม่ทันที่นุจะได้พูดอะไรต่อ  เมย์เพื่อนใหม่ของฟางกับเหล่าสาวน้อยสาวใหญ่อีกเป็นสิบคนก็กรูกันเข้ามาหานุ  จนฟางต้องเขยิบหลบออกมาจากรัศมีรอบตัวนุ 1 เมตร

       

                  ฟางทำหน้างุนงงมองเข้าไปยังฝูงชนกลุ่มย่อยนั้น

       

                  เสียงเรียกพี่นุดังสลับไปมากับเสียงออดอ้อนต่างๆ นาๆ จากเหล่าเด็กหญิงที่คลั่งไปด้วยความคิดถึงพี่นุตลอดปิดเทอมใหญ่ที่ไม่ได้มาโรงเรียนกัน

       

                  ฟางยังคงงงต่อไปจนสักพักผู้คนเริ่มเดินออกจากวงนั้นทีละคน  เมื่อวงแตกฟางก็พบว่า  พี่นุของเธอหายไปเสียแล้ว

       

                  ฟางกุมรอบโนบนศีรษะของตน  เฮ้อ  ถึงจะเจ็บไปหน่อย  แต่ก็ไม่เป็นไร

       

                  ฟางยังนึกถึงเมื่อตอนเป็นเด็ก............. ไม่เป็นไรนะ  ไม่ร้องไห้นะคะ  พี่ไม่ดีเองที่ชวนฟางมาที่นี่  พี่นุขอโทษนะ  ต่อไปพี่จะไม่ไห้ฟางต้องมาเจ็บตัวแบบนี้อีกแล้ว  กลับบ้านกันนะ ....................คำพูดปลอบเด็กงอแงของพี่นุตอนนั้น   ตอนนี้พี่นุคงยุ่งจนไม่มีเวลาทำเช่นนั้นได้อีก  ไม่เป็นไร  เราอยู่โรงเรียนเดียวกันแล้ว  เดี๋ยวฟางก็ต้องได้เจอพี่นุอีก

       

                  เช้าวันที่สองของการมาโรงเรียน  เมย์รีบตรงรี่มาหาฟางท่าทางตื่นเต้น

       

                  ฟางรู้หรือยังว่าใครเป็นพี่รหัสเธอ

       

                  พี่รหัส?

       

                  ฟางย้อนถาม  เธอไม่เข้าใจพี่รหัสคืออะไร  เพื่อนใหม่อธิบายให้เธอฟังจนเข้าใจในที่สุด

       

                  แล้วใครคือพี่รหัสของฉันล่ะ

       

                  พี่นุ

       

                  ฟางแทบไม่เชื่อหู  จริงๆ เหรอเนี่ย  เธอจะได้สนิทกับพี่นุเหมือนเหมือนก่อนแล้ว  เวลาที่เธอรอคอยมาแสนนาน

       

                  บ่ายนั้น  ตามธรรมเนียม  พี่รหัสจะนำของขวัญมาให้น้องรหัสของตัวเอง

       

                  ก่อนกลับบ้าน  ในวิชาเรียนคาบสุดท้าย  นุเดินเข้ามาในห้องเรียนของฟาง 

       

                  เขายื่นกล่องของขวัญกล่องกระจิ๋วหลิวให้ฟาง

       

                  ฟางดีใจมาก  เธอมองหน้าพี่นุ  ทำไมพี่นุดูแปบกๆ ไป  พี่นุจำฟางไม่ได้เหรอ

       

                  พี่นุ  จำฟางได้ไหม  ฟางตามมาหาพี่ที่นี่แล้วนะคะ

       

                  นุทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อย  แต่แล้วความทรงจำก็หวนมา

       

                  ฟางเหรอ  ฟางจริงๆ ด้วย  ไม่เจอกันปีเดียวโตขึ้นเยอะเลยนะ  พี่แทบจำไม่ได้เลลยแน่ะ

       

                  เค้าน่ารักขึ้นด้วยใช่ไหมล่ะ

       

                  ไม่อ่ะ  เธอยังงัยก็ขี้เหร่เหมือนเดิม  เตี้ยเหมือนเดิมอีกต่างหาก

       

                  ความสนิทสนมเริ่มกลับคืนมา  สองพี่น้องสมมุติสร้างความคุ้นเคยหยอกเหย้ากันเหมือนวัยเด็ก

       

                  ฟางพักที่ไหนเหรอ

       

                  นุเอ่ยถาม  หลังจากคุยกันมานานพอสมควร

       

                  คุณแม่ซื้อบ้านเล็กๆ อยู่ข้างโรงเรียนค่ะ  ใกล้แค่นี้เอง

       

                  งั้นพี่เดินไปส่งฟางนะ  พี่ก็อยู่หอพักใกล้ๆ โรงเรียนนี่แหละ

       

                  เราได้มาอยู่บ้านใกล้ๆ กันอีกแล้วนะคะ  ดีจังเลย  ฟางคิดถึงพี่นุมากเลยค่ะ

       

                  สองคนยิ้มให้กัน มีเพื่อนเมย์มองดูอบย่างแอบอดอิจฉาไม่ได้

       

                  นุ  วันนี้ไปกินไอติมกันนะ

       

                  เสียงเรียกจากหน้าประตูห้องเรียน  ทำให้ความสุขของฟางหยุดลง

       

                  นุหันไปหาต้นเสียง  เขาชะงักการสนทนาลง

       

                  เอ่อ...  ฟาง  พี่ขอโทดนะ  พอดีพี่ลืมไปว่าพี่มีนัดน่ะวันนี้

       

                  พี่นุ

       

                  ฟางเรียกทำเสียงเจื่อนๆ  แต่ไม่ทันแล้ว  นุรีบเดินออกจากห้องไปกับเด็กผู้หญิงคนนั้น

       

                  ใครเหรอเมย์

       

                  ฟางถามเพื่อนใหม่

       

                  อ๋อ  พี่แนน  แฟนพี่นุ  พี่แนนอ่ะ เหมาะสมกัยพี่นุที่สุดแล้ว  รายนั้นก็สวยมากเลยล่ะ  รุ่นพี่รุมจีบกันเต็ม  แถมพี่แกยังร้องเพลงเก่งมากด้วย  พี่แนนกับพี่นุเป็นแฟนกันเพราะแข่งประกวดวงดนตรีด้วยกันปลายปีที่แล้ว  คู่นี้น่ะ  เป็นคู่ที่หวานที่สุดในโรงเรียนเชียวนะ  ใครๆ ก็อิจฉา

       

                  เหรอ

       

                  ฟางยิ้มเจื่อนๆ  ทำไมนะ  พี่ชายมีแฟนทั้งที  แถมพี่ยังจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุดอีก  ฟางก็ต้องมีความสุขไปกับพี่สิ  ทำไมจิตใจเธอถึงได้หดหู่อย่างนี้ล่ะ

       

       

                  ~หนึ่งปีผ่านไป~

       

                  ฟางจบ ม.1 แล้ว  พี่นุก็กำลังจะขึ้น ม.3 ในปีนี้

       

                  ในหนึ่งปีนี้ฟางอยากมาโรงเรียนทุกวันเลย  ฟางอยากมาเจอพี่นุ 

       

                  พี่นุยุ่งมากขึ้นทุกวันๆ ๆ ไม่รู้จะยุ่งอะไรนักหนา

       

                  แต่พี่นุของฟางก็เก่งมากเลยนะ  เรียนก็ติดอันดับต้นๆ ของโรงเรียน

       

                  เล่นกีฬาก็ไม่เคยแพ้ใคร  วงดนตรีของพี่นุก็ชนะอีกในปีนี้

       

                  อ่อ...ต้องชมพี่แนนด้วย  พี่สองคนรักกันมาได้อีก 1 ปี

       

                  ขอให้ความรักของพี่ทั้งสองยั่งยืนๆ นะ

       

                  พี่แนนเป็นคนดี  ขอให้พี่นุมีความสุขมากๆ นะ  ฟางจะได้มีความสุขด้วย

       

                  ฟางชอบเวลาพี่นุยิ้ม  ฟางชอบเวลาพี่นุหัวเราะ

       

                  ถึงแม้ว่าช่วงนี้เราจะไม่ได้มีโอกาสมายิ้ม  มาหัวเราะร่วมกันเหมือนตอนเด็ก

       

                  แต่ฟางก็ดีใจที่มีโอกาสได้แอบมองดูพี่นุยิ้ม  พี่นุหัวเราะอยู่ห่างๆ

       

                  ฟางรักพี่ชายคนนี้ที่สุดเลย........

       

       

                 

      ...........................................................................................................................................

       

                  เวลาผ่านไปอีกครึ่งปี  ใกล้ปิดเทอมเล็กแล้ว

       

                  อาทิตย์หน้าก็จะสอบแล้ว

       

                  ฟางนั่งอ่านหนังสืออยู่บนชั้นสองของบ้าน  ฝนตกลงมาไม่ขาดสาย  บรรยากาศแบบนี้น่านอนจัง หุหุ

       

                  ฟางเผลอละสายตาออกจากหนังสือที่อ่านไปยังบรรยากาศภายนอกผ่านหน้าต่าง

       

                  เอ....ใครมายืนตากฝนที่หน้าบ้านเรานะ  ฟางนึกในใจ

       

                  เธอชะโงกหน้าไปดู  ใช่แน่ๆ  คนๆ นี้คือคนที่เธอไม่ว่าจะมองจากมุมไหนๆ ก็จำได้

       

                  พี่นุ!!”

       

                  ฟางร้องเรียก  ฉับพลันที่นึกได้  ฟางรีบวิ่งลงไปข้างล่าง  เธอหยิบร่มออกไปกางให้นุ

       

                  นุเปียกโชกไปทั้งตัว  ฟางเดินออกมาหานุที่หน้าบ้าน

       

                  ฟาง

       

                  เสียงนุร้องเรียก  พร้อมๆ กับดึงตัวฟางเข้าไปกอด  ฟางตกใจจนปล่อยร่มออกจามือ  ปล่อยให้น้ำฝนโปรยปรายใส่อย่างไม่เกรงกลัว

       

                  น้ำฝนหนาวเย็นจัง  แต่ฟางรู้สึกได้ถึงน้ำอุ่นๆ ที่ไหลจากใบหน้าของใครบางคนหยดลงบนบ่าของเธอ

       

                  ...พี่นุร้องไห้

       

                  เป็นอะไรไปคะพี่นุ

       

                  ฟางร้องถามอย่างแผ่วเบา  แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา

       

                  พี่นุเข้าบ้านก่อนเถอะค่ะ  เดี๋ยวไม่สบาย

       

                  เมื่อยืนรับน้ำฝนจนชุ่มช่ำ  ทั้งคู่ก็ตัดสินใจเข้าบ้านสักที

       

                  ฟางเห็นหน้านุเศร้ามาก  เธอรู้ดีว่าเวลานี้ควรจะเงียบเป็นดีที่สุด  เธอนั่งข้างๆ นุ  นั่งอยู่เป็นเพื่อนโดยไม่พูดอะไร

       

                  ฟางจะไม่ถามอีกว่าพี่นุต้องร้องไห้เพราะใคร...ถ้าพี่นุไม่อยากบอก

       

                  ฟางไม่อยากรู้ว่าพี่นุไปเสียใจอะไรมา...มันไม่มีประโยชน์ที่จะตอกย้ำพี่นุตอนนี้

       

                  สิ่งที่ฟางอยากทำมากที่สุดตอนนี้คือ...ทำให้พี่นุยิ้มได้

       

                  พี่นุ  ดูอะไรนี่

       

                  ฟางหยิบของชิ้นหนึ่งที่เอพกติดตัวไว้ตลอดเวลา

       

                  นุละสายตาจากอาการเหม่อลอยมามองของในมือฟาง

       

                  เข็มกลัดรูปใบไม้ที่พี่ให้ฟางตอนฟางเข้า ม.1  ฟางเก็บไว้ตลอดเวลาเลยนะ

       

                  นุมองเข็มกลัดนั้น  และมองหน้าฟาง

       

                  พี่จำไว้นะ  เค้าก็เหมือนกับใบไม้นี่แหละ  เค้าจะอยู่กับพี่จนกว่าพี่จะไม่ต้องการ  พี่อาจจะปลิดใบทิ้งออกจากต้น  แต่เค้าก็จะยังอยู่กับพี่  อยู่เป็นปุ๋ยให้พี่ต่อไป

       

                  นุลูบหัวฟาง  แล้วยิ้มออกมาจนได้

       

                  ยัยเด็กโง่

       

                  นุพูดออกมาได้แค่นั้น  แต่ทั้งคู่ก็หัวเราะเบาๆ ออกมาพร้อมกัน

       

                  ฮัดดด...เช้ย

       

                  เสียงฟางจาม  เธอคงจะเป็นหวัดเพราะโดนฝน

       

                  ไปหาหมอด้วยนะ  เดี๋ยวป่วยหนักจะยุ่ง  ใกล้สอบแล้วด้วย

       

                  พี่ก็เหมือนกันนะ  ใกล้สอบแล้ว  อย่าให้ป่วยล่ะ  ทั้งกายและใจเลยนะ

       

                  รู้แล้วน่า

       

                  นุขยี้หัวฟาง  พลางยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

       

      ...........................................................................................................................................

       

                  ฟางมารู้ภายหลังว่าเหตุการณ์ในวันนั้นเกิดจากพี่นุถูกพี่แนนบอกเลิก  สงสารพี่นุจัง  ทำไมพี่แนนใจร้ายอย่างนี้นะ

       

                  พี่นุกลับมาสนิทกับฟางอีกครั้ง  ตอนเย็นก็ไปส่งฟางที่บ้าน  ตอนเช้าก็เดินมาโรงเรียนด้วยกัน  ก่อนสอบพี่นุก็ติวให้ฟาง  เพราะพี่นุเรียนเก่งมาก  ทั้งคู่สนิทกันจนหลายๆ คนในโรงเรียนต่างพากันอิจฉา

       

                  ตอนนี้ฟางมีความสุขที่สุดเลย  อยากให้ช่วงเวลานี้อยู่กับเราตลอดไปจัง

       

                  ม.3 ปลายๆ เทอม  ในวันวาเลนไทน์  วันนี้พี่นุจะขึ้นเล่นดนตรีอีกครั้ง  คราวนี้พี่นุจะเป็นคนร้องเพลงเอง

       

                  พอนุขึ้นเวที  ทุกคนก็ส่งเสียงเชียร์กันใหญ่เลย  นุร้องเพลงเพราะมากๆๆๆๆ

       

                  พอถึงเพลงสุดท้ายที่นุจะร้อง

       

                  เพลงนี้  ผมขอร้องให้กับคนๆ หนึ่ง  กับความรู้สึกที่ผมเก็บมันไว้มานาน

       

                  นุเริ่มร้องเพลง  ทุกคนนิ่งฟัง  และรอลุ้นกันว่า  คนๆ นั้นคือใคร

       

      มอง มองเธอมาแสนนาน
      ฉันไม่กล้าต้องคอยหลบตาเธอเสมอ
      กลัวว่าวันหนึ่งถ้าเธอรู้ว่าฉัน
      ปิดบังความจริงอะไรเอาไว้

      ความลับที่ฉันซ่อนไว้
      ไม่เคยบอกใคร จะอดใจไม่ไหว

      ยิ่งฉันใกล้เธอเท่าไหร่ ยิ่งอยากจะเผยใจ
      เมื่อสบสายตาก็ยิ่งหวั่นไหว มันยากเหลือเกิน
      จะเก็บซ่อนความรักเอาไว้
      และความลับในใจของเธอ มีฉันอยู่บ้างไหม

      โปรดบอกความในใจ ให้ฉันรู้ทีนะเธอ
      เก็บเอาคำพูดของเธอ มาคิดมาก
      แอบคิดไปเองอยู่อย่างนี้
      ก็เธอ เธอช่างดีแสนดี คำว่ารักเธอ
      จะต้องเก็บไว้อีกนานแค่ไหน

      ความลับที่ฉันซ่อนไว้
      ไม่เคยบอกใคร จะอดใจไม่ไหว

      ยิ่งฉันใกล้เธอเท่าไหร่ ยิ่งอยากจะเผยใจ
      เมื่อสบสายตาก็ยิ่งหวั่นไหว มันยากเหลือเกิน
      จะเก็บซ่อนความรักเอาไว้
      และความลับในใจของเธอ มีฉันอยู่บ้างไหม

      ความลับที่ฉันซ่อนไว้
      ไม่เคยบอกใคร จะอดใจไม่ไหว

      ยิ่งฉันใกล้เธอเท่าไหร่ ยิ่งอยากจะเผยใจ
      เมื่อสบสายตาก็ยิ่งหวั่นไหว มันยากเหลือเกิน
      จะเก็บซ่อนความรักเอาไว้
      และความลับในใจของเธอ มีฉันอยู่บ้างไหม

      ยิ่งฉันใกล้เธอเท่าไหร่ ยิ่งอยากจะเผยใจ
      เมื่อสบสายตาก็ยิ่งหวั่นไหว มันยากเหลือเกิน
      จะเก็บซ่อนความรักเอาไว้
      และความลับในใจของเธอ มีฉันอยู่บ้างไหม

       

                  เมื่อนุร้องเพลงจบ  เขาเดินลงจากเวที  พร้อมถือกุหลาบแดงช่อหนึ่ง

       

                  นุเดินตรงมาทางฟาง  หัวใจของฟางเต้นไม่เป็นจังหวะยิ่งกว่าเสียงกลองเมื่อครู่นี้เสียอีก

       

                  นุยิ้ม  และยื่นดอกกุหลาบจากมือของเขาส่งให้....

       

                  ส่งให้เมย์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ฟาง

       

                  เมย์  พี่ชอบเมย์นะ

       

                  พี่นุชอบเมย์  ความจริงที่รู้แล้วต้องอึ้ง

       

                  ทำไมพี่นุชอบเมย์ได้ล่ะคะ

       

                  เมย์เอ่ยถาม แม้เธอจะดีใจแบบสุดๆ แต่ก็อดนึกแปลกใจไม่ได้

       

                  ต้องขอบคุณฟางที่คอยเล่าเรื่องเมย์ให้พี่ฟัง

       

                  อื้ม  ค่ะ  พี่ชาย

       

                  ฟางพยักหน้าและยิ้ม  การยิ้มครั้งนี้ช่างเป็นรอยยิ้มที่ยากเย็นที่สุดในชีวิต

       

                  อ่ะ  ช็อกโกแลตกล่องนี้เราทำเอง  มอบให้พี่ชายของฟาง  กับเพื่อนของฟาง  ในโอกาสที่ทั้งสองคนมาชอบกันจนได้

       

                  ช็อกโกแลตที่ฟางตั้งใจทำเพื่อมอบให้พี่นุคนเดียว

       

                  ไม่หรอก  เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว  ฟางจะเป็นน้องสาวที่ดี  ขอเพียงพี่ชายมีความสุขก็ดีแล้ว

       

                  เมย์เป็นเพื่อนฟาง  เมย์เป็นคนดี  เมย์จะไม่ทำให้พี่นุเสียใจอีก

       

                 

      ...........................................................................................................................................

       

                  นุขึ้น ม. ปลาย  แล้ว  เขาตั้งใจเรียนมากเป็นพิเศษ  นุตั้งใจว่าจะสอบติดแพทย์ให้ได้

       

                  อ่อ  เกือบลืมบอกไป  ตั้งแต่วันนั้นนุกับเมย์ก็คบกันเป็นแฟน  โดยมีฟางคอยเป็นที่ปรึกษาให้ทั้งสองฝ่าย

       

                  แต่ระยะหลังๆ นี่  ฟางต้องคอยปลอบเมย์หนักขึ้น เพราะตอนนุอยู่ ม.5 นุแทบไม่มีเวลาให้กับอะไรเลยนอกจากการเรียน

       

                  วันหนึ่งเมย์ตัดสินใจฝากฟางไปบอกพี่นุว่าขอเลิก

       

              ฟางไม่อยากให้นุเสียใจ  เธอจึงยังไม่บอกเรื่องนี้กับนุ  จนวันหนึ่ง

       

                  เมย์ขอเลิกกับพี่แล้วแต่ทำไมฟางไม่บอกพี่

       

                  วันที่นุรู้ความจริงจากปากคนอื่น  นุโกรธฟางมาก

       

                  ฟางไม่อยากให้พี่นุเสียใจนี่คะ

       

                  แต่ฟางโกหกพี่

       

                  นุขึ้นเสียงอย่างโกรธจัด

       

                  ฟางขอโทษค่ะ  ฟางไม่ได้ตั้งใจ

       

                  อยู่ดีๆ ฟางก็ร้องไห้ขึ้นมา

       

                  นุโกรธจัดไม่รับฟังอะไร  เขาเดินออกจากห้องไป

       

                  พี่นุ...

       

                  ฟางพยายามตะโกนเรียกด้วยเสียงแผ่วเบา

       

                  นุหันกลับมามองฟางที่กำลังล้มลง

       

                  ...............................................................................................................................

       

                  หมอบอกว่าฟางมีเลือดคั่งในสมอง  เกิดจากการที่ศีรษะถูกกระทบกระเทือน  แต่ไม่แสดงอาการในระยะแรก

       

                  ตอนนี้ฟางต้องการการผ่าตัดโดยแพทย์ที่ฝีมือดีที่สุด

       

                  ไม่อย่างนั้น  ฟางอาจจะตาย  หรืออย่างดีหน่อย  ก็คงเป็นได้แค่เจ้าหญิงนิทรา

       

                  ...............................................................................................................................

       

                  นุกำลังจะสูญเสียฟางไปแล้ว

       

                  ต้นไม้ต้นหนึ่งกำลังจะสูญเสียใบไม้ใบหนึ่งไป

       

                  แต่กว่าจะรู้ว่าใบไม้ใบนั้นสำคัญที่สุดก็ตอนที่มันกำลังจะปลิดใบตัวเองออกจากต้น

       

                  เขามองข้ามฟางมาตลอด  เขาเพิ่งรู้ว่าจริงๆ แล้ว...คนที่เขารักและรู้สึกผูกพันมากที่สุดคือใคร

       

                  ถ้าเหตุการณ์ในวันนี้ไม่เกิดขึ้น เขาก็คงคิดว่าฟางจะอยู่กับเขาตลอดไป  และเขาก็จะยังคงมองไม่เห็นค่าของฟางต่อไป

       

                  เขาเพิ่งรู้ตัวเองว่า...คนที่เขาขาดไม่ได้จริงๆ คือใคร...

       

                  ...คือฟาง  คนที่กำลังจะจากเขาไป

       

                  นุกลับมาตั้งสติ  นึกทบทวนภาพความหลังในอดีต

       

                  กลิ่นอายของมันช่างหอมหวานเหลือเกิน

       

                  ช่วงชีวิตที่ผ่านมาของเขา  ช่วงเวลาที่มีความสุข  คือช่วงเวลาที่ได้อยู่กับฟาง.........

       

      พรุ่งนี้  เขาจะไปหาฟาง  เขาจะไปบอกกับฟางว่าจริงๆ แล้ว  เขาคิดอย่างไรกับฟาง

       

                  ฟางจะต้องไม่เป็นอะไร  ฟางจะต้องตื่นขึ้นมาเล่นกับเขาอีก  ทำให้เขายิ้ม  และหัวเราะได้เหมือนเคย

       

      ...........................................................................................................................................

       

                  นุรีบมาโรงพยาบาลทันทีที่เขาตื่น

       

                  เขามาหาฟางที่ห้องก็ไม่พบ  จึงไปถามประชาสัมพันธ์

       

                  คนไข้ย้ายออกไปแล้วจ๊ะ

       

                  ย้ายไปไหนครับ

       

                  ไม่ทราบค่ะ  รู้แต่ว่าด่วนมาก  เพราะคนไข้อาการหนักมาก

       

                  นุได้แต่นิ่งเงียบ  เขาคิดอะไรไม่ออก  สมองตายไปชั่วขณะ

       

                  ฟาง.................ฟางกำลังจะหายไปจากชีวิตของเขาตลอดกาล

       

       

      ~เรายังอยู่ด้วยกันอีกนานแสนนาน

      ฉันเชื่อตัวเองเช่นนั้น ถึงได้ปล่อยวันเวลาไปไกล

      ควรจะบอกบางคำก็ทำลืมไป

      คิดว่าเหลือเวลาเท่าไรก็พอพูดมัน

      กว่าจะบอกตัวเองว่าอย่ามั่นใจ

      ก็เมื่อในวันที่สาย ที่ไม่มีเธอข้างๆกายกัน

      อยากจะบอกคำเดิมที่เธอรอนาน

      ฉันก็เหลือแค่เพียงสิทธิ์บอกเธอผ่านสายตา

       

      และทีนี้เวลาที่มีไม่พอสักอย่าง

      อยากมีหนทางดึงสิ่งต่างๆย้อนมา

      จะกอดเธอไว้จะทำทุกวันให้มีความหมายให้มีค่า

      จะไม่ทำให้เธอปวดใจ

       

      ฉัน ไม่มีวันได้เธอคืนมา ฉันขอเวลาแค่บอกคำนั้น

      ที่เธอเคยต้องการมันยังทันใช่ไหม

      ฉันเสียใจตลอดเวลาที่รักษาเธอไม่ได้ สุดท้าย

      อยากให้รู้ว่ารัก

       

      ได้แต่เกลียดตัวเองที่ลืมนึกไป

      ว่าโลกมีคำว่าสาย ไว้สะกิดใจให้ฉันรีบทำ

      ได้แต่กอดตัวเองกับความทรงจำ

      ที่ยิ่งย้ำว่าฉันมันผิดที่ชะล่าใจ

       

      และทีนี้เวลาที่มีไม่พอสักอย่าง

      อยากมีหนทางดึงสิ่งต่างๆย้อนมา

      จะกอดเธอไว้จะทำทุกวันให้มีความหมายให้มีค่า

      จะไม่ทำให้เธอปวดใจ

       

      ฉัน ไม่มีวันได้เธอคืนมา ฉันขอเวลาแค่บอกคำนั้น

      ที่เธอเคยต้องการมันยังทันใช่ไหม

      ฉันเสียใจตลอดเวลาที่รักษาเธอไม่ได้ สุดท้าย

      อยากให้รู้ว่ารัก

       

      ฉันขอได้ไหม แค่บอกคำนั้น (แค่บอกคำนั้นจากใจ)

      ที่เธอเคยต้องการมันยังทันใช่ไหม

      ฉันรักเธอตลอดเวลา แต่รักษาเธอไม่ได้

      เชื่อไหม (สุดท้าย) เวลาไม่เคยพอ~

       

       

      ยังไม่จบอ่ะนะ  แต่ว่าไม่ไหวแล้ว  ง่วงมากมาย

       

      ขณะนี้เวลา 3.15

       

      ตีสามกว่าแล้ว นอนก่อนนะ

       

      ฝากเม้นท์ให้ด้วย  แล้วจะมาแต่งต่อจ้า

       

      ขอบคุนล่วงหน้างับ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×