ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Stormy Night คืนวันพายุกระหน่ำ {Fic Tegomassu}[Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #2 : Era 2 : meeting day 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 156
      0
      28 พ.ย. 53

    เอามาลงครบแล้ว~~ น่าดีใจอย่างที่สุด^^
    เชิญชมค่ะโดโซะ~

    ---------------------------------------------------------------

    Era 2 : meeting day 1

     

    รถลีมูซีนสีดำคันหนึ่งแล่นเข้าไปจอดในบ้าน ไม่ใช่สิ ตึกสูงระฟ้า ถ้ามองจากโลโก้หน้าตึกนี้จะรู้ได้ทันทีว่าที่นี่คือ!!! บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งการส่งออกสินค้า ใครที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าหวั่งว่าจะเข้าไปในนั้นได้ ระบบรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม จนแม้กระทั้งมดตัวเล็กๆยังไม่สามารถลอดเข้าไปในนั้นได้!!!! จะมีซักกี่คนเชียว ที่รู้ว่าตึกนี้แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่  ตึกนี้มีทั้งหมด 23 ชั้น แต่น่าแปลกที่มีเพียงแค่ 5 ชั้นเท่านั้นที่เป็นบริษัท นอกนั้นนะหรือ???? คงต้องลองฝ่าด่านความปลอดภัยที่แม้แต่มดยังผ่านไปไม่ได้เข้าไปดูแล้วละ!

    ภายในชั้นบนสุดของอาคาร

    “ฮัลโหล......... หนีไปได้..... ปลุกมันมาคุยให้รู้เรื่อง......... เออๆ ........ ไม่บาดเจ็บ......มีคนช่วย ........ ไม่ได้เบาะแสเพิ่มไม่ต้องเสนอหน้ามาที่นี้อีก....”

    ชายวัยกลางคนหน้าตาดีที่นั้งอยู่บนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาตามแบบฉบับของตัวเอง แต่ว่าคำพูดนั้นช่างเชือดเฉือดจิตใจคนฟังที่พอโทรศัพท์ตัดสายไปแล้ว ก็ยังสามารถขนลุกต่อได้เกือบทั้งวัน

    ชายสวมสูทคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง

    “คุณยูยะกลับมาแล้วครับ”

    “บอกให้เข้ามา”

    “ครับ”

    ไม่นานนักยูยะก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของพ่อ ทั้งห้องตกแต่งด้วยสไตล์ยุโรป ดูหรูหราและฟู่ฟ่า บนฝาพนัง ติดรูปบรรพบุรุษของเขาเรื่องรายซะจนน่ากลัว และ สิ่งที่ไม่น่าจะมีในห้องนี้แต่กลับมี! นั้นก็คือ มีด ดาบ ขวาน และ ปืน!!!! ที่ประดับอยู่บนฝ่าผนังทุกด้าน มีทุกรูปแบบราวกับว่าเป็นของสะสม แต่แท้ที่จริงแล้ว ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยซักนิดเดียว

    “ไปไหนมาซะละ”

    พ่อของยูยะเปลี่ยนนำเสียงเมื่อซักถามลูกชายของตนเอง มันดูอ่อนโยนกว่าเมื่อกี้ซักสิบเท่า เพราะ สิ่งที่ชายวัยกลางคนคนนี้รักมากที่สุดคงจะเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้ละมั้ง

    “พอดีติดฝนนิดหน่อยนะฮะ”

    “ถ้าไม่ส่งคนไปตาม แกก็คงยังไม่กลับสินะเจ้าลูกชาย”

    “ที่จริงผมก็กลับเองได้ ไม่เห็นต้องไปรับกวนยามาชิตะเขาเลยนี่ฮะ”

    “แม่แกนั้นแหละ เขาเป็นห่วง เลยขอร้องให้เจ้ายามาชิตะมันไป”

    “ฮะ”

    ผมตอบรับเสียงเหนื่อยๆ เป็นกันทั้งพ่อ ทั้งแม่เลย ผมดูแลตัวเองได้ใครๆก็รู้ ตอนนี้ผมก็โตจนอายุ20กว่าๆแล้ว ผมเป็นผู้ใหญ่แล้วผมรู้สึกได้ ถึงยังไงพ่อกับแม่ก็เป็นห่วงผมอยู่ดี อาจเป็นเพราะผมเป็นลูกชายคนเดียงของตระกูลนี้ละมั้ง ถ้าไม่มีทายาทมาสานต่อทุกอย่างก็จะล้ม

    “พ่อมีอะไรรึป่าว”

    “แน่นอนว่ามี”^^

    พ่อยิ้มอย่างอ่อนโยนจนตีกาขึ้นมาให้ผม ผมขอเดาว่าผมน่าจะมีงาน(อีกแล้ว= =)

    “ลูกรู้จัก ตระกูล มัตสึดะมั้ย”

    “ก็นิดหนอยนะฮะ เจ้าของบริษัทคู่แข่งของพ่อ เบื้องหน้าทำธุรกิจคาสิโนถูกกฎหมาย แต่เบื้องหลังเป็นมาเฟียตัวฉกาด”

    “ดีมาก... พ่ออยากให้ลูกช่วย”

    “......”

    “ไปสืบข้อมูลมาทั้งหมด ว่าพวกนั้นทำอะไร ลูกต้องรู้ทุกความเคลื่อนไหวของมันเข้าใจมั้ย!!

    เป็นเรื่องงานทีไรพ่อมักจิงจังแบบนี้ทุกที.....

    “ผมไม่เข้าใจทำไมเราต้องทำแบบนั้นด้วย พ่อกับเขา เลิกแล้วต่อกันมานานแล้วนี่ฮะ”

    “อันนี้มันอดีต...... พ่อได้ยินมาว่าตอนนี้อยู่ในระหว่างเลือกทายาท ภายในต้องสั่นคลอนแน่ๆ พ่อจะทำลายมันจากข้างใน..”

    “......แล้วเจอกันฮะพ่อ”

    ผมปล่อยให้พ่อจมกับความคิดของตัวเอง พ่อผมเป็นจอมวางแผน..... ถ้าคิดอะไรได้อย่าไปยุ่งในตอนนั้นจะดีกว่า

    ปั้ง!!!!!

    “เป็นไง”

    “ก็ไม่เลวนิ”

    พอออกมาจากห้องได้ก็เจอตัวเจ้าปัญหาจนได้ มันนะเป็นเลขาส่วนตัวของผมก็จริง แต่ผมว่า มันสั่งผมมากกว่าผมสั่งมันซะอีก

    “ตกลงวันนี้มีเรื่องอะไรกันแน่”

    “ถ้าไม่บอกละ”

    - - ชิ้ง~

    “โอเคๆ คนของเราถูกทำร้ายระหว่างไปสืบหาข้อมูล ไม่บาดเจ็บ ไม่เป็นอะไรเลย ดูเหมือนว่าโดนแค่สันมือเข้าไปเลยน๊อก ส่วนข้อมูลนะหนีหายไปได้”

    ผมว่าเหตุการณ์มันคุ้นๆนะ...ช่างเถอะ

    “พีจัง พรุ่งนี้เช้าช่วยเอารถผมออกให้หน่อยนะ”

    “ไปไหนอีกละ~ เมื่อวานก็ไป วันนี้ก็ไป พรุ่งนี้ก็จะไปอีก”

    “ผมจะไปซื้อโทรศัพท์ ผมจะไปล่าข้อมูล เหตุผมแค่นี้นะพอมั้ยครับ?

    “ชิ!! เออๆเดียวเอาออกให้ ฉันเป็นเบ้นายอยู่แล้วนิ เออ!ไปหาแม่แกด้วยแม่แกอยากกอดลูกชายสุดที่ร้าก~~~~

    พีทำเสียงยาวๆล้อเลียนผม= = ผมไม่ใช่คนติดแม่ แต่ผมว่าแม่นะติดผม

    “เออๆๆๆ ไปได้แล้ว”

    5555

    พีจังหัวเราะเสียงดังแบบแม่มดลั่นทางเดิน

    ผมมีเลขาแบบนี้อีกไม่นานผมต้องบ้าไปกับมันแน่ๆ....

     

    สถานที่ :: โกดังล้าง

    ผมเดินเข้าไปอย่างมาดมั่น ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าผมมาที่นี่อีกทำไม แล้วทำไมผมต้องมารอเค้าด้วย... บางที่ผมอาจจะอยากเป็นเพื่อนกับเค้าจริงๆแล้วก็ได้......

    stormy night

    ผมตะโกนเสียงดัง แต่ส่งที่ได้ยินกลับมากลับเป็น เสียงของตัวเองที่พูดว่า สตอมมี่ ไนท์ กลับไปกลับมา ซ้ำๆ

    บางทีเขาแค่อาจจะพูดเล่นๆ

    บางทีเขาอาจจะไม่มาแล้วก็ได้

    เป็นผมเองแหละที่โง่มารอ555+

    แต่ผมขอรอต่อไปอีกซักหน่อยรึกัน.....

    .......................

    ..............

    .......

    ..

    .

     

    ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    อ่ะ!เสียงใครนะ

    ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

    พอผมลืมตาขึ้นมาก็ต้องพบว่าตัวเองมาลอยคว้างอยู่ในอากาศนี่เอาซะดื้อๆ

    ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    เสียงหัวเราะเสียงหนึ่งก้องอยู่ในหัว

    ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    และแล้วก้อนเมฆข้างหน้าก็ค่อยๆรวมตัวกันปรากฏเป็นรูปภาพผมที่หัวเราะอย่างมีความสุข ผมแน่ใจว่าผมไม่ไดทำแบบนั้นมานานแล้ว....นานมากๆแล้ว.... ผมนั่งอยู่บนโต๊ะกาแฟตัวเล็กๆตัวหนึ่ง กำลังคุยกลับใครบางคนที่ผมมองไม่เห็นหน้า..... เขาหัวเราะร่วนไปกลับผมด้วย

    สงสัยผมคงจะฝันอยู่สินะ.....

    ช่างเป็นฝันที่แปลกประหลาดดีแท้....

    คุณๆๆๆ คุณครับคุณ

    ผมรับรู้ได้ถึงแรงสะกิด ใครบางคนกำลังพยายามปลุกผมให้ตื่นอยู่.....

    แต่ผมไม่อยากตื่นนี่นาน การได้เห็นตัวเองหัวเราะมันเหมือนกับผมได้ดูสิ่งมหัศจรรย์เลยนะ

    คุณ!!!!!’

    ไม่ตื่นแฮะ  Stormy night!!!!!!’

    คนที่ปลุกผม พูดอะไรแปลกๆ= =

    หื่ม??? Stormy night!

    เฮือก!!!!!!

    ผมตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ถ้าผมไม่ฝันไปแสดงว่า.....

    ดวงตาเรียวใสแจ่วกำลังจ้องมองผมอยู่ จมูกที่ออกจะโตซักเล็กน้อย ริมฝีปากได้รูป... กำลังทำหน้าเหวอๆอยู่ มันทำให้ผมแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่

    “คุณคือ.... ยูยะใช่มั้ยครับ”

    “ใช่”

    “ผมมัตสึนะครับ^^ จำผมได้มั้ย”

    “อ้อ~มัตสึนะหรอ~ คนที่กลัวแมลงเมื่อวานใช่มั้ย???

    ผมแอบแกล้งมัตสึแหละ555+ คนๆนี้ทำไมถึงได้น่าแกล้งจังนะ^^

    มัตสึทำหน้าบู้ๆแล้วมองผมอย่างไม่พอใจ

    “เพราะคุณนั้นแหละ แต่ยังไงซะวันนี้คุณก็ต้องเลี้ยงข้าวผม^^ ไปกันเถอะฮะ^^

    “จะกินอะไร”

    “เลือกได้ด้วยหรอครับ?

    “เลือกเลยได้หมดละ”

    “งั้นผมขอไปกินร้าน.......รึกัน”

    =0=;; อ้ากๆๆๆๆๆ ผมว่าผมหลงกลไอ้หม่อนี่เข้าไปอย่างจังแล้วละ!!!!!

     

    สถานที่ :: ร้านอาหารหรูย่านกรุงโตเกียว

    ผมเดินตามมัตสึมาจนถึงร้านอาหารแห่งหนึ่งข้างนอกดูเพลนๆ ธรรมดาๆ แบบร้านอาหารทั่วๆไป แต่ข้างในกลับหรูหราไฮโซ อย่างกับห้องอาหารของพระราชา ทั้งโคมไฟระย้า ทั้งห้องอาหารที่เป็นแบบส่วนตัวและแบบรวม ทุกอย่างในร้านนี้ตกแต่งด้วยสีทองดูแวววาวมากๆ และมันก็สวยมากๆด้วย แม้แต่เจกันที่เอามาประดับร้าน ผมดูแล้วยังคิดว่าเป็นของที่หากยากมากเลย

    มัตสึเดินเข้าไปในร้านอย่างอารมณ์ดี แล้วเดินเข้าไปพูดบางอย่างกับพนักงานต้อนรับ

    “คุณครับ คุณ! จะเอาแบบห้องส่วนตัวมั้ยครับ?

    “แล้วแต่นายเหอะ”

    มัตสึยิ้มหวานๆตอบผมมา ผมเกรงว่าจะเป็นยิ้มหวานอาบยาพิษ หรือเคลือบยาพิษ อะไรเทือกๆนั้น = = ดีนะเนี่ย เอาบัตรมาด้วย แค่มากินอาหาร! กระเป๋าจะฉีกก็ให้มันรู้ไป!

    จะว่าไปแล้วมัตสึเนี่ยเป็นคนที่แต่งตัวแปลกๆละ เสื้อข้างในเป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายทางสีขาวสลับดำ เสื้อนอกเป็นเสื้อหนาวมีฮูตแขนยาวสีชมพูแต่พับแขนขึ้นลวกๆ ร้องเท้ากีฬาสีเหลือง และที่สำคัญ กางเกงขาสั้นลายเสือดาว???? จะมีใครกล้าแต่งแบบนี้อีกมั้ยนะ= =

    มัตสึเดินนำผมมาที่ห้องรับรองชั้นใน ห้องนี้เป็นห้องกระจกใสสามารถมองเห็นข้างนอกได้แต่เค้าจะไม่เห็นเรา มีโต๊ะขนาดกลางตัวหนึ่งในห้องคาดว่าน่าจะนั่งได้ซัก 6-8 คน ห้องนี้ประดับประดาไปด้วยดอกไม้และของใช้สีขาวราวกับว่าเป็นห้องของเจ้าหญิงตัวน้อยๆก็ไม่ปาน แถมยังมีมุมอ่านหนังสือเล็กๆจัดเอาไว้ให้อีกต่างหาก = = ค่าห้อง มันจะซักเท่าไหร่กันเชียวTT’’’

    “สั่งอาหารเลยนะ”

    ไม่ทันที่ผมจะอนุญาติ เค้าก็ชิงสั่งไปก่อนแล้ว หลายอย่างด้วย จะกินหมดมั้ยเนี่ย= =

    “นายกินหมดหรอ”

    ผมถามเค้าระหว่างที่กำลังเมามันกับการสั่งอาหารแบบ non limit

    “แน่นอนครับ^^ คุณก็สั่งของคุณด้วยนะ^^

    = = ตอนนี้ผมไม่กังวลกับค่าห้องแล้วละ ขอกังวลค่าอาหารดีกว่าTT’’’

    ผมสั่งอาหารไปไม่กี่อย่าง กับไวน์ชั้นเยี่ยมของที่นี่ ส่วนมัตสึ เหมือนว่าจะสั่งให้คนสักสิบคน= =

    “ถ้านายกินหมดนี่นายคงไม่ใช่คนแล้วละ”

    “ไม่นะครับๆ ผมว่าที่นี้เค้าให้อาหารน้อยจะตาย”

    “แสดงว่านายเคยมาแล้วสินะ”

    “ครับ~ ^o^ ร้านนี้อร่อยผมชอบ มีอาหารจีนด้วย>O<

    “ท่าทางจะชอบอาหารจีนนะนาย= =

    “ก็นิดหน่อยครับ^^ แต่ผมชอบเกี๊ยวซ่ามากกว่า เกียวซ่าๆๆๆๆๆ>L<

    “เป็นเอามากแฮะ= =

    “เกี๊ยวซ่าๆๆๆๆ”

    = =

    “เออ~ ว่าแต่คุณยูยะครับ^^ ผมขอเรียกชื่อคุณเฉยๆได้มั้ยครับ พูดแบบนี้แล้วมันไม่ชินปากนะครับ”

    “ตามใจนายซิ เรื่องอะไรนายต้องมาขออนุญาติ ฉัน”

    “ก็ผมอยากเป็นเพื่อนกับยูยะนี่นา^o^ อีกอย่าง ยูยะรู้ความลับผมแล้ว ผมไม่ปล่อยไว้แน่^^

    “ก็แค่แมลงนายจะแคร์ไปทำไม”

    “มันเสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายนี่ครับ= =

    “ใครบอกนายกัน= =

    “พี่บอกฮะ พี่บอกว่าเป็นผู้ชายต้องห้ามกลัวอะไรทั้งสิ้น”

    “งั้นพี่นายคงไม่รู้สินะว่านายกลัวแมลง”

    “รู้อยู่แกใจเลยละฮะ พี่เคยเอามาแกลงผมด้วย ผมร้องไห้ พี่ก็เลยโดนพ่อว่า หลังจากนั้นพี่ก็ไม่แกล้งผมอีกเลย^o^

    “หรอๆๆๆ”

    ผมกับมัตสึกำลังคุยกันอย่างออกรส จะว่าไปแล้วการเป็นเพื่อนกันมันคงจะเป็นแบบนี้ละมั้ง คุยกันได้ทุกวันไม่เบื่อ มีเรื่องให้มาคุยได้เรื่อยๆ ผมว่านะ ช่องว่างระหว่างผมกับมัตสึคงจะแคบลงแล้วละ ผมนะ ก็อยากเป็นเพื่อนกับเขาเหมือนกันนะ^^

    และแล้วอาหารที่สั่งก็มาถึง โต๊ะขนาดกลางตอนนี้เต็มไปด้วยจานที่วางไว้จนไม่เหลือที่ว่าง

    “เกี๊ยวซ่า~>O<

    มัตสึดูดีใจมากเมื่อจานเกี๊ยวซ่ามาถึง เขาสั่งเกี๊ยวซ่ามาเยอะมากๆเมื่อเทียบกับอาหารอื่นๆ จะว่าไป อาหารของที่นี้ก็ไม่ได้ให้น้อยมากอะไร แต่แค่น้อยกว่าที่อื่นก็เท่านั้น

    ผมกับมัตสึกินอาหารกันจนอิ่ม(หมดด้วย) แล้วต่อด้วยของหวาน ผมสงสัยจังว่าไอ้ที่กินไปเนี่ยมันไปเก็บไว้ส่วนไหนของกระเพาะของมัตสึ ทำไมถึงกินได้เรื่อยๆไม่มีอิ่มแบบนี้ละ หรือว่าท้องของนายนี่จะเป็นหลุมดำกันนะ= =

    “หลังกินข้าวนายว่างมั้ยมัตสึ”

    ผมถามระหว่างที่กำลังรอขนมหวานมาเสิร์ฟ

    “ก็น่าจะว่างนะฮะ ทำไมหรอฮะ”

    “ฉันจะไปซื้อโทรศัพท์ จะให้นายไปด้วยไง”

    “เอ่??? โตป่านี้แล้ว ยังไม่มีโทรศัพท์ใช้อีกหรอฮะ”

    “พึ่งพังไปเมื่อวานโว้ย= = มันช๊อตนะเข้าใจมั้ยว่ามันช๊อต”

    “อ๋อ~หรอฮะ^o^

    มัตสึขึ้นเสียงสูงแบบกำลังไม่เชื่อผมอยู่

    “จะไปมั้ย นายไม่ไปฉันไปคนเดียวได้”

    “แต่ผมไม่มีรถนะฮะ ผมไม่ได้เอารถมา”

    “รถฉัน”

    “รถอะไรหรอฮะ”

    “ชอปเปอร์”


    ปรึ้นๆๆๆๆ~!!!!

    ชอปเปอร์คันใหญ่สีดำสนิทแต่งเครื่องครบครัน แล่นไปบนถนนสายหนึ่งในกรุงโตเกียว

    “ยูยะ!!! อย่าขับเร็วนักสิ!!

    “คร้าบ~~~

    ผมบิดคันเร่งขึ้นไปอีกจนเกือบสุด

    “ยูยะ!!!!!!!!

    555+

    “นายแกล้งฉัน!!!

    555+

    ผมหัวเราะแข็งกับสายลมที่มาประทับกับใบหน้า

    “ขับช้าๆเดี่ยวนี้น๊ะ!!!! ไม่งั้นผมจะกระโดดลงตรงนี้ละ!!!!

    “โดดเลยสิ!!!

    ผมท้าพร้อมทั้งปิดคันเร่งจดสุด

    “อ้ากๆๆๆๆ!!!! ยูยะ!!!!

    มัตสึกอดผมแน่นขึ้นไปอีก พร้อมกับหลับตาปี๋

    5555+

    ผมหัวเราะไปตลอดทางที่ไปห้างสรรพสินค้า

     

    สถานที่ :: ห้างแห่งหนึ่งในโตเกียว

    “นั้นๆๆๆๆ สวยมั้ยยูยะ^^

    “อืมก็โอเค”

    ผมตอบอย่างเบื่อๆ

    ผมมาถึงที่ห้างนี้ตั้งแต่ 30 นาทีที่แล้ว แล้วละ แต่ยังไม่ไปถึงที่หมายซักที เพราะใครซะอีกละครับ ก็คนที่ผมกึ่งลากกึ่งจูงมาด้วยนะสิ~ แวะเข้าร้านนู้นออกร้านนี้อยู่ตลาดเวลาเลย^=^ นี่คิดว่าน่าจะเป็นร้านที่ 10 กว่าๆแล้วละมั้ง = =

    “แต่ว่าน้า~~ ผมว่าที่แถวย่าน ฮาราจุกุ สวยๆกว่านี้เยอะเลย”

    “........”

    “เบื่อแล้วหรอฮะ = =

    “นายคิดว่าไงละ= =

    “......”

    “เอ่อ.... ^^’’’ ไปดูโทรศัพท์ดีกว่าเนอะ~

    พอผมทำหน้าเซ็งๆนั้นใส่ มัตสึก็รีบลากผมไปที่ร้านโทรศัพท์ทันที

    “นายใช่รุ่นอะไรอยู่ละ”

    ผมถามระหว่างที่มัตสึกำลังพาไปร้านโทรศัพท์

    กริ้งๆๆ มัตสึควานไปควานมาในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบมือถือ LG chocolate BL20 สีขาว-ชมพูขึ้นมาให้ผมดู(หมายเหตุ:ไม่อ้างอิงจากที่ไหนนะ เป็นเพราะผู้แต่งชอบมือถือรุ่นนี้เฉยๆ^^)

    “ไวมือดีนะครับ ภาพคมชัดมากผมชอบ แต่ว่า ตอนผมไปซื้อ สีดำ-แดง ดูเหมือนจะขาดตลาดไปแล้วนะครับ ผมเลยได้สีนี้มา ดูหวานแหววไปนิดนึง แต่ผมก็โอเคนะ ผมชอบฮะ^^

    ส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยได้สนใจเกี่ยวกับไอ้โทรศัพท์นี้มากซักเท่าไหร่ หรือให้พูดอย่างก็คือ ผมไม่มีความรู้ด้านนี้เลยด้วยซ้ำ= = ผมลองเอามือจิ้มๆ ที่หน้าจอ มันก็ไม่เห็นขยับเขยื้อนอะไร ไหนบอกว่าไวสัมผัสไงวะ= =

    5555+ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ”

    มัตสึหันมามองผมที่กำลังโมโหโทรศัพท์ เลยจัดการเอาไปปลดล๊อกแล้วอธิบายเพิ่มเติม

    “ผมหมายถึงปุ่มกดอ่ะฮะที่เป็นทัชสกรีน ส่วนตัวเลขก็สไลด์ออกมา อย่างนี้นะฮะ”

    = = โง่จริงผม

    “ถ้าให้นายแนะนำ นายคิดว่าฉันซื้อตัวไหนดี”

    “หือ??? นี่มาซื้อโทรศัพท์ ไม่ได้ดูรุ่นไว้ก่อนเลยหรอครับ”

    “โทรศัพท์มันมีไว้โทร นอกจากนั้นฉันก็ไม่รู้อะไรแล้ว”

    = =’’’ นี่อย่าบอกนะครับว่าไปมุดอยู่ใต้ดินมาถึงไม่รู้อะไรเลย”

    “เออ เหอะนะ!

    ผมรู้ว่าผมมันโลว์เทคโนโลยี แต่จะรู้มากไปทำไม ของแพงยังไงก็ดีกว่าของถูกอยู่แล้วไม่ใช่หรอ= =

    = = ตอนนี้ออกใหม่ดีไซน์ที่ผมชอบจะเป็นตัว *lumigon T1 เป็นทัชสกรีนจริงๆ นะฮะ android ด้วย สวยดี กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล มีพร้อมหมด เรื่องคุณภาพเสียงก็สุดยอด ถ้าเล่นเป็นจะเป็นมือถือที่ดีมากๆเลยละฮะ  ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ค่ายดังก็เถอะ= =

    มัตสึแอบแขวะผมตอนท้ายนิดหน่อย เอาเถอะๆถือว่าเค้าเนะนำรึกัน= =

    “นายนี่รู้ดีเนอะ”

    “มีความรู้ไว้ใช่ว่านี่นา ไม่เหมือนยูยะหรอก รู้อะไรกับเค้าบ้างมั้ยเนี่ย = =

    ถ้าจะบอกว่าไมมันก็ยังไงๆอยู่นะ= =

    เสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายหมด(แขวะ: คุณเธอเคยมีด้วยหรอเทชชี่)

    “รู้อะไรที่มันควรจะรู้จะได้ไม่เปลืองสมองดีกว่า”

    = = ยูยะจะบอกว่าผมจำแต่เรื่องไร้สาระใช่มั้ย”

    “ดี! งั้นไม่ต้องมาถามอะไรผมอีกนะ ผมจะไม่ตอบแล้ว”

    แล้วมัตสึก็เดินดุ่มๆตรงไปที่ร้านโทรศัพท์ทันที สัญชาติญาณของผมบอกว่า มัตสึงอนอีกแล้ว= = จะง้อมั้ยก็ขอไปคิดดูอีกหลายๆตลบเลยรึกัน ผมผิดด้วยหรอ???

    ===========================================

    ขอจบไว้เท่านี้เเล้วไปลงตอนหน้ารึกันนะค่ะ
    เดียวมันจะยาวเกิน
    เหอะๆๆๆๆๆๆๆ^o^
    * ขยายความ lumigon t1 ในประเทษโทรศัพม์รุ่นนี้รูสึกว่าจะยังไม่ออกนะค่ะ
    รู้สึกว่าจะเป็นปีหน้า
    แต่ที่เดนมาร์กออกแล้ว
    ดูแล้วสวยมากๆเลย
    ฟังก์ชั่นก็ครบ
    คนแต่งชอบ~~~~ 5555+
     
    รูปคราวๆ
    อ้างอิงจาก
    http://www.siam1.net/article-6760.html

    ปล. ขอเม้นนิดนึงเป็นกำลังใจในการแต่งน้า~^L^
    ปล2. ยังไม่ได้ตรวจแก้คำผิดเลย อาจจะเบลอๆเล็กน้อยนะ
    บอกด้วยก็ดีค่ะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×