ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนาน Ragnarok

    ลำดับตอนที่ #13 : บทที่13 คำสาปแห่งแหวน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.37K
      0
      2 ธ.ค. 49

    บทที่13คำสาปแห่งแหวน
    เรื่องตำนานชาวเหนือน่ะจบแล้วละครับ ท่านผู้อ่านได้สังเกตอะไรบ้างอย่างบ้างหรือเปล่าว่ามีความคล้ายคลึงกับเรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริง ของคุณตาโทลคีนอยู่หลายตอนทีเดียว อย่างเช่นแผ่นดินต่างๆ ในตำนานชาวเหนือก็แบ่งคล้ายๆ กัน เรื่องของธอร์ที่ไปเผชิญกับยักษ์สกรายเมียร์ผู้สูงใหญ่เป็นตัวแทนของพลังธรรมชาติซึ่งเขาไม่อาจเอาชนะได้ ก็เหมือนกับเมื่อตัวเอกในเรื่องนั้นไปเจอกับบรรพบุรุษต้นไม้ซึ่งก็เป็นตัวแทนของพลังธรรมชาติ ที่ลุกขึ้นมาชนะพลังความชั่วและความดี บุคลิกบางส่วนของโลกิก็ยังกลายเป็นบุคลิกส่วนหนึ่งของพ่อมดตัวโกงเหมือนกัน การรบในทุ่งสงครามที่ทุ่งสงครามของโทลคีนแต่งก็คล้ายช่วงแร็กนาร็อคยังไงก็ไม่รู้นะครับ กระทั่งแหวนตัวต้นเรื่องยังมาจากบุคลิกของแหวนเดราป์เนียร์ของโอดินเลย วงนั้นน่ะมีคุณสมบัติถอดแบบตัวเองทุก 7 วันขณะที่ของคุณตาโทลคีนมีลูกน้องแหวนได้ด้วย(ที่วิเคราะห์มาทั้งหมดนี่เป็นความเห็นของผมแต่ผู้เดียวนะครับ)
    ตรงนี้เลยทำให้ผมเสียดายถ้าจะไม่เล่าเรื่องคำสาปแห่งแหวนเรื่องนี้ให้ฟัง
    เพราะว่าแหวนวิเศษของชาวเหนือไม่ได้มีเฉพาะเดราป์เนียร์เท่านั้นนะครับ แต่ยังมีอีกวงหนึ่งซึ่งน่าจะผสมผเสมีส่วนอยู่ในเรื่องเดอะลอร์ดฯ ไม่น้อย แหวนวงนี้ชื่อว่าแหวนอันดวารี-Andvari ครับ
    เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อสมัยที่โลกิ โอดินและวิลี (หรือโฮเนียร์) ยังร่วมทางเดินกันเช่นเดียวกับการผจญภัยที่โลกิโดนยักษ์จับไปบีบบังคับเอาเทวีไอดัน คราวหนึ่งทั้งสามมีอันอยากลงมาผจญภัยยังแดนมิดการ์ด(อีกแล้ว) ด้วยความหิวต่างคนก็ต่างมองหาว่าจะล่าเนื้ออะไรได้บ้าง เผอิญโลกิหันไปเห็นนากตัวหนึ่งนอนหลับอยู่ริมน้ำ เทพก็เอาหินก้อนพอเหมาะขว้างเขาให้ ผลก็คือเขาได้นากตัวนั้นมาเป็นเนื้อสำหรับอาหารเย็น สามเทพเดินต่อไปโดยมีโลกิหิ้วนากตามมาด้วยจนกระทั่งไปถึงบ้านหลังหนึ่งกลางไร่ จึงเข้าไปเคาะประตูหวังจะหาที่พักสักคืนหนึ่ง
    เจ้าของบ้านเปิดประตูรับ โอดินแจ้งความประสงค์ พระองค์ว่าไม่ได้มามือเปล่าแต่ขอแลกกับเนื้อนากก็แล้วกัน ว่าแล้วก็ผายมือไปยังโลกิที่หิ้วซากนากตามมาเบื้องหลัง แต่ปรากฏว่าเจ้าของบ้านซึ่งก็คือพ่อมดฮเรียดมาร์-Hreidmar เขาตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นนากตัวนั้น เพราะก็คือออตเตอร์-Otter (แปลว่านากนั่นแหละ) ลูกชายของเขาเอง พ่อมดโกรธเกรี้ยวกราด เขาร่ายเวทย์ทำให้แขกแปลกหน้าอ่อนแรงจากนั้นก็เรียกฟาฟเนอร์-Fafnir และเรจิน-Regin ลูกชายที่เหลือออกมาช่วยกันจับเทพมัดเอาไว้ โอดินส่งเสียงว่าเขาไม่ผิด และว่าถ้าหากรู้ว่าออตเตอร์เป็นลูกเจ้าของไร่จะตรงมาที่นี่ทำไม ฮเรียดมาร์ไม่ยอมฟังแล้วยังทำท่าเหมือนจะฆ่า โอดินเฝ้าอ้อนวอนใช้วาทศิลป์ต่างๆ จนพ่อมดยอม แต่ต้องหาของมาไถ่โทษ
    สิ่งที่พ่อมดต้องการคือทองคำจำนวนมากเท่าที่จะวางให้เต็มหนังนากตัวนั้นทั้งข้างนอกข้างใน ฮเรียดมาร์ว่าแล้วก็หัวเราะก้อง หนังนากลูกชายค่อยๆ ขยายยืดออกๆ เรื่อยๆ ชนิดที่ว่าหาทองมาถมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม โอดินทำท่าเหมือนจะสิ้นปัญญาแต่โลกิรู้แล้วว่าเขาจะต้องทำอย่างไร
    เขาอาสาจะออกไปเอาทอง ฮเรียดมาร์จึงเอาโอดินกับโฮเนอร์ไว้เป็นตัวประกัน แต่เขาไม่ยอมให้โลกิใส่รองเท้าท้องฟ้า มิฉะนั้นเทพจอมปลิ้นปล้อนอาจจะแอบกลับมาปล่อยตัวประกันออกไปโดยไม่มีใครรู้
    โลกิต้องไปหยิบยืมแหของรัน (เมียอีเจอร์) แล้วมุดลงไปในรู้ท่อน้ำสู่ทะเลใต้ดินรอเวลาอยู่นานทีเดียวครับ พอเห็นหมายน้ำที่ต้องการโลกิก็ลงแหได้ปลาไพค์ขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง ปลาตัวนี้ก็เหมือนนากคือไม่ได้มีรูปร่างอย่างที่เห็นแต่แรก แท้จริงมันคือคนแคระอันดวารีผู้ที่รวยที่สุดในหมู่ผู้ที่อยู่ใต้ดินด้วยกัน โลกิจัดการข่มขู่คนแคระที่คืนร่างแล้วเป็นการใหญ่จนอันดวารีกลัวมาก เขายอมให้ทองคำทั้งหมดที่เขามีอยู่ โลกิก็ยังไม่พอใจยังสาธยายภาพความตายอันน่ากลัวถ้าคนแคระยังไม่ให้สิ่งที่มีทั้งหมด โลกิอาจจะซ้อมค้างไปยังงั้นเองละครับ แต่คนแคระดันมีของที่ว่าอย่างนั้นจริงๆ สิ่งนั้นคือแหวนวิเศษซึ่งสามารถสร้างทองคำขึ้นเองได้แลกกับชีวิต โลกิยอมปล่อยคนแคระ อันดวารีพาไปเอาทองและแหวน แต่ยามที่จะต้องพรากจากของรักจริงๆ อันดวารีมีอารมณ์โกรธวับขึ้นมานึกได้ว่าสมบัติพวกนี้เป็นของเขา เขาต้องลงแรงสร้างและหามากว่าจะมากมายขนาดนี้ แต่จะต้องยกให้คนพาลที่อยู่ๆ โผล่มาปล้น อันดวารีจึงร่ายเวทย์สาปแหวนให้ผู้ครอบครองพบกับความพินาศ โลกิไม่ได้สนใจหรอกครับว่าของที่เอาไปจากคนแคระจะมีอันตรายหรือเปล่า ออกจะสะใจเสียด้วยซ้ำ
    โลกิขนสมบัติกลับมาให้ฮเรียดมาร์ตามสัญญา พ่อมดปล่อยโอดินและโฮเนียร์เป็นอิสระ แต่ก่อนจากมาโลกิเตือนทิ้งท้ายว่าแหวนและสมบัติเหล่านี้จะนำมาซึ่งความพินาศ ฮเรียดมาร์ไม่สนใจครับ เวลานั้นเขาโดนมนต์คำสาปครอบงำเสียแล้ว เฝ้าแต่ชื่มชมลูบคลำหวงแหนไม่ยอมให้ใครแตะต้อง
    ทว่าความพินาศก็มาเยือนในเวลาไม่นาน ฟาฟเนอร์และเรจินก็อยากได้สมบัติเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนสมคบกันหาทางฆ่าฮเรียดมาร์ แล้วหนีพร้อมกับทองคำและแหวนซึ่งต่อมาเรจินก็ถูกฟาฟเนอร์ทรยศพาสมบัติไปคนเดียว
    ทว่ามนตราสาปแหวนทำให้จิตใจของเขามุ่งอยู่แต่ความหวงแหน เอาสมบัติไปฝังซ่อนไว้ฟาฟเนอร์ค่อยๆ บ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งในที่สุดกลายร่างเป็นมังกรเฝ้าทองคำและแหวนไม่ยอมไปไหน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×