คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #40 : มนต์วิเศษเทียนแดงกับนางเงือกสาว
นานแสนนานมาแล้ว ณ เกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งมีนางเงือกชอบนอนพักอยู่บนโขดหินริมทะเล แม้รูปท่อนบนของนางจะคล้ายกับมนุษย์ แต่เธอก็ต้องใช้ชีวิตอย่างปลาในน้ำ เธอรู้สึกว่าชีวิตใต้ท้องทะเลช่างเป็นชีวิตที่น่าเบื่อ
นางเงือกกำลังตั้งครรภ์และจะคลอดลูกในไม่ช้า เธอไม่ต้องการให้ลูกต้องมีชีวิตที่เงียบเหงาเหมือนเธอ
“ถ้าลูกเกิดแล้ว แม่จะพาลูกไปฝากให้มนุษย์ที่มีจิตใจดีงามเลี้ยงดู” นางเงือกคิด
หลังจากคลอดลูกเธอจึงนำลูกสาวของเธอไปทิ้งไว้ที่หน้าบ้านของตายาย
ตายายมีบ้านอยู่เชิงเขา อยู่ใกล้ ๆ กับศาลเจ้า ทั้งสองมีอาชีพขายเทียนไขสีแดงที่ใช้สำหรับไหว้เจ้า
ยายเป็นผู้พบทารกน้อยถูกทิ้งอยู่หน้าบ้านของตน จึงรีบอุ้มทารกเข้าบ้าน
“พระโพธิสัตว์คงเห็นใจที่เราไม่มีลูก ก็เลยประทานเด็กคนนี้ให้เป็นลูกของเราแน่ ๆ เลย” ยายพูดอย่างมั่นใจ
ตั้งแต่นั้นมา ตายายก็ให้ความรักและเลี้ยงดูทารกน้อยเป็นอย่างดี สิบห้าปีผ่านไป ลูกสาวของนางเงือกก็เติบโตขึ้นจากเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ กลายเป็นหญิงสาวที่สวยงาม จนเป็นที่ร่ำลือของคนที่พบเห็น
มีชายหนุ่มมากมายต้องการพบและรู้จัก แต่เงือกสาวก็ปฏิเสธ เพราะเธอไม่ต้องการให้ใครรู้ว่า เธอมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนคนอื่น ๆ นั่นคือเธอไม่มีขา แต่กลับมีหางเหมือนปลา
“ลูกเป็นเด็กที่พระโพธิสัตว์ประทานมาให้ อาจมีบางสิ่งที่ไม่เหมือนคนทั่วไป บ้านเราไม่มีใครรังเกียจลูก ฉะนั้นอย่าได้ทุกข์ใจไปเลย”
เงือกสาวก็ได้ใช้ชีวิตประจำวันด้วยการช่วยตายายทำเทียนไขสีแดงไปขาย
แล้ววันหนึ่งเธอก็บอกกับตายายว่า “ลูกคิดจะวาดรูปลงบนแท่งเทียนดู ไม่แน่ว่าลูกค้าที่มาซื้ออาจจะชอบก็ได้นะจ๊ะพ่อ”
ดังนั้นลูกสาวนางเงือกจึงได้ลงมือวาดรูปลงบนแท่งเทียนไข ทั้งรูปปลา รูปเปลือกหอย รูปสาหร่ายในทะเล ทุกรูปที่วาดขึ้นล้วนแต่สวยงามมาก ทำให้เทียนไขขายดิบขายดี เป็นที่ถูกใจของลูกค้า
ยังร่ำลือกันว่า ใครนำเทียนไขสีแดงไปจุดไหว้ที่ศาลเจ้า เวลาออกเรือหาปลาก็จะไม่พบกับพายุและได้กลับถึงฝั่งอย่างปลอดภัยเสมอ ฉะนั้นบรรดาชาวประมงจึงพากันมาสั่งซื้อเทียนไขสีแดง
แล้ววันหนึ่งมีพ่อค้าที่ร่ำรวยเดินทางมาหาตายายที่บ้าน เขาต้องการซื้อตัวลูกสาวนางเงือกไป จึงสร้างเรื่องหลอกตายายว่า “เจ้าคงจะไม่รู้ว่าลูกสาวของเจ้าคือนางเงือก นางเงือกถือเป็นสิ่งอัปมงคลสำหรับมนุษย์ นางจะนำความโชคร้ายมาสู่พวกเจ้า เอาอย่างนี้สิ เจ้าก็ขายนางให้กับฉัน ฉันจะพานางไปเมืองหลวง เช่นนี้พวกเจ้าก็จะไม่โชคร้ายอีกต่อไป”
พ่อค้าเสนอเงินจำนวนมากเป็นค่าตัวเงือกสาว ด้วยความเชื่อโชคลางและความละโมบ ตายายก็ตกลงขายลูกสาว
เงือกสาวรู้เรื่องก็ตกใจ แต่ไม่ว่าจะอ้อนวอนอย่างไร สองตายายก็ยังคงไม่เปลี่ยนใจ เงือกสาวเห็นดังนั้นจึงไม่พูดอะไรอีก เธอได้แต่ก้มหน้าทำเทียนไขสีแดงและวาดรูปลงบนแท่งเทียนไขต่อไปนี้เรื่อย ๆ โดยไม่ได้หยุดพักและร้องไห้เงียบ ๆ อย่างเสียใจ
เช้าวันนั้น พ่อค้าได้ส่งคนนำกล่องไม้ใบใหญ่ ซึ่งมีตาข่ายคลุมอยู่ภายนอกมารักตัวลูกสาวนางเงือกไปขายต่อให้กับเศรษฐีผู้มั่งคั่งในเมืองหลวง เศรษฐีผู้นั้นเชื่อว่านางเงือกเป็นสัตว์นำโชค เขาจึงต้องการลูกสาวนางเงือกไปเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา
และแล้วนางเงือกสาวก็ถูกพาตัวไป เหลือทิ้งไว้แต่เพียงเทียนไขสีแดงสองสามเล่มที่เธอยังทำไม่เสร็จ ผู้คนในหมู่บ้านรู้สึกสงสารเงือกสาวมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือเธอ
หลังจากขายเงือกสาวไปแล้ว ตายายก็เลิกอาชีพขายเทียน แล้วใช้ชีวิตอยู่กันอย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งกลางดึกของคืนวันหนึ่ง ระหว่างที่ตายายกำลังหลับสนิทอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเบา ๆ
“ใครน่ะ” ยายร้องถามแต่ก็ไม่มีเสียงตอบ จึงลุกออกไปเปิดประตูด้วยตัวเอง แล้วยายก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่นอกประตู เธอเป็นคนสวยมาก ผมที่ยาวมากของเธอเปียกน้ำเป็นประกายยามสะท้อนกับแสงจันทร์ เธอยิ้มให้ยายและเอ่ยขึ้นว่า
“ฉันได้ยินว่าที่นี่มีเด็กสาวคนหนึ่งทำเทียนไขสีแดงขาย ฉันอยากจะซื้อเทียนที่เด็กสาวคนนั้นทำ”
“เทียนไขที่แม่หนูนั่นทำน่ะ ฉันขายหมดไปแล้วล่ะ แล้วพวกฉันก็เลิกอาชีพขายเทียนไปนานแล้ว”
“อ้าว...ทำไมล่ะจ๊ะ” หญิงสาวถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“เพียงแต่แม่หนูนั่นไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว มีคนบอกฉันว่า แม่หนูนั่นเป็นสิ่งอัปมงคล จะนำพาความโชคร้ายมาให้ ฉันก็เลยขายแม่หนูคนนั้นให้กับพ่อค้าไป” ยายอธิบายช้า ๆ
หญิงสาวหน้าซีดเผือด เธอจับมือยายและถามอย่างร้อนรน “ยายขายเด็กสาวคนนั้นไปที่ไหนจ๊ะ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน อ้อ...แต่ถ้าเธออยากจะได้เทียนไข ฉันพอจะมีเหลืออยู่สองสามเล่ม แต่ว่ามันเป็นเทียนไขที่ยังทำไม่เสร็จนะ วาดภาพไว้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น” ยายพูดจบก็เข้าไปหยิบเทียนไขในบ้านออกมาให้หญิงสาว
“โธ่...ลูกแม่” เธอร้องไห้อย่างเจ็บปวด จากนั้นก็หยิบเงินออกมาส่งให้ยาย และจากไปโดยไม่ได้พูดอะไรอีก
ยายรู้สึกแปลกใจกับท่าทางของหญิงสาวมากและหลังจากที่หญิงสาวจากไปแล้ว ยายก็พบว่าเงินที่หญิงสาวจ่ายเป็นค่าเทียนไขนั้นได้กลายเป็นแค่เปลือกหอยธรรมดา ๆ
เช้าวันต่อมา ทะเลก็เกิดคลื่นซัดรุนแรง ทำให้เรือของพ่อค้าและชาวประมงล่มและจมผู้คนมากมายต้องเสียชีวิต
ไม่นานบรรดาปลาเล็กปลาน้อยที่เคยมีอยู่ในทะเลก็ค่อย ๆ หายไปหมด นอกจากนี้ทุก ๆ คืนผู้คนในหมู่บ้านยังได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญดังขึ้นมาจากริมทะเล จนชาวบ้านและชาวประมงพากันหวาดกลัวและอพยพออกไป
ในที่สุดเกาะเล็ก ๆ ที่เคยมีผู้คนอาศัยอยู่ก็ได้กลายเป็นเกาะร้าง
ความคิดเห็น