รวมเรื่องตลกที่เคยเอามาให้อ่านในกระทู้ - รวมเรื่องตลกที่เคยเอามาให้อ่านในกระทู้ นิยาย รวมเรื่องตลกที่เคยเอามาให้อ่านในกระทู้ : Dek-D.com - Writer

    รวมเรื่องตลกที่เคยเอามาให้อ่านในกระทู้

    วันนี้ ผมมีโอกาศได้นำเรื่องตลกที่เตยเอาลงบอร์ดมาแล้ว เพื่อให้แฟนๆเรื่องตลกที่อ่านไม่หมดให้ได้อ่านอย่างเต็มอิ่มครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,011

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.01K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 ธ.ค. 49 / 15:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ครั้งที่ 1 เป็นเรื่องของคนบ้าครับ
      คนบ้าคนหนึ่งในศรีธัญญา
        แกเอาเชือกผูกแปรงสีฟัน...แล้วเดินลาก...ไป....เดินผ่านทางที่ผมนั่ง....(ผมไปทำไมเหรอ)  ไปเยี่ยมคุณไง...(ฮา)...  บ้าแล้ว.... แค่เนี้ย  ทำเป็นทำจำไม่ได้..  (ฮา)  พอเดินมาถึงผม...หมอแก่ก็นั่งอยู่ด้วยก็ถาม  "นี่...จะลากแปรงสีฟันไปไหนเนี่ย"  คนบ้าบอกว่า....หมอนี่ท่าจะบ้า...คนขับรถบรรทุก...บอกลากแปรงสีฟัน...(ฮา)  สักพัก....น่ะแหล่ะแกก็ลากแปรงสีฟันผ่านออกมาอีก  หมอก็ถามอีก  "นี่จะขับรถบรรทุกไปไหนเนี่ย  ?  คนบ้านั่นหันหน้ามาบอก  "หมอนี่ถ้าจะบ้า...คนลากแปรงสีฟัน...บอกขับรถบรรทุก"...(ฮา)  ดูมันจะเอายังไงกับคนบ้าไม่รู้ว่าวันไหนมันจะขับรถบรรทุกกันแน่..(ฮา)

       


       ครั้งที่ 2 นี่ก็เป็นเรื่องของคนบ้าเหมือนกันคับ

      คนบ้ากับคนบ้าคุยกันจะรู้เรื่องนะ  สื่อกันรู้เรื่องคับ    วันนึงคนบ้าสองคนนั่งกันอยู่กลางสนามนะคุยกัน   อีกคนบอก 

      "ฉันอยากจะไปดวงอาทิตย์"  อีกคนบอก  " ไอ๊ บ้าเอ๊ย...แกจะไปยังไงร้อนตายชัก"   อีกคนบอก  โถ่! โง่  แกก็ไปกลางคืนซี่"...(ฮา)  พอตกกลางคืน     สองบ้าคนเก่านั่นแหละ  มันก็มาที่เก่า  นั่งคุยกัน  เอาไฟฉายมากระบอกหนึ่ง   อีกคนส่องไฟฉายขึ้นฟ้าแล้วบอก  "นี่น่ะ...ถ้าแกอยากไปดวงอาทิตย์นะ  แกก็ไต่ตามแสงไฟนี่ไป  แกก็จะถึงดวงอาทิตย์"  อีกคนบอก  "โอ้โฮ่... ไอ๊บ้าเอ๊ยฉันไม่โง่หรอก   ถ้าเกิดฉันกำลังไต่อยู่..แล้วแกดับไฟ้นมา   ฉันก็ร่วง   ตุ๊บ  !น่ะซี่"...(ฮา)
                                                                                                                                                                                                         หมอในโรงพยาบาลต้องประสาทแข็งจริง ๆ ไม่งั้นบ้านะ เพราะเหตุการณ์แต่ละวันมันสับสน..มีหมอคนหนึ่ง กำลังเดินตรวจคนไข้ แล้วปรากฏมีคนไข้คนหนึ่งเดินมาสะกิดหมอ " หมอ ๆ เมื่อเช้าเนี้ย ผมไปกินข้าวกับนายกทักษิณมา"   คนบ้าเตียงข้าง ๆ ได้ยิน ก็ลุกขึ้นโวยวายมา (โบกไม้โบกมือ) "หมอ !...อย่าไปเชื่อมัน มันไม่เคยไปกินกับผมเลย"...(ฮา) หึ ๆๆมันนึกว่ามันเป็นนายกทักษิณ

       


      ครั้งที่ 3 เป็นเรื่องของคนบ้าตอนสุดท้ายครับ (ไตรภาคพอดี)
                      ยังมีเรื่องคนบ้าอีกเรื่อง...คนบ้าที่ปากคลองสาน  วันนึง  พอถึงเวลาหมอก็ไปตรวจ  ไปตรวจไข้   ก็ไปเจอคนบ้าคนหนึ่ง   หมอน่ะไปเจอคนบ้าคนหนึ่งมันกำลังนั่งเขียนหนังสืออยู่...หมอก็ถาม  "เขียนอะไร?"   "เขียนจดหมาย"   คน บ้าตอบ... "เขียนถึงใครล่ะ ?"   "เขียนถึงตัวผมเอง" ...(ฮา)  หมอถามอีก  "แล้วเขียนว่ายังไง"   คน บ้าตอบ   "เอ๊...ยังไม่ได้เขียนเสร็จเลย  แล้วยังไม่ได้เอาไปใส่ตู้ไปรษณีย์เลย      ไอ๊ไปรษณีย์มันก็ยังไม่ได้เอามาส่ง  ยังไม่ได้ฉีกอ่านเลย  จะรู้ได้ยังไงว่าเขียนว่ายังไง  ถามเป็นบ้าไปได้"...(ฮา)   เออ ...มันมีเหตุผลเหมือนกัน                          
                      คนบ้ารายที่สอง... คนนี้เขียนตัวหนังยึกยือ  เขียนใหญ่เลย  พอหมอเดินไปตรวจอีก  หมอเห็น  หมอหัวเราะก็หมอรู้นี่ว่าคนบ้า  มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น  หมอก็ถามเขียนอะไร ?   "เขียนจดหมาย"   "เขียนถึงใคร ?"  "เขียนถึงเพื่อน"   "เอ...นี่มันไม่เป็นตัวหนังสือนี่  แล้วเพื่อนเธอจะอ่านออกรึ ?"   "อ่ะ...ก็ต้องเขียนอย่างนี้ซิ   เพื่อนผมมันอ่านตัวหนังสือไม่ออกหรอก"....(ฮา)   เออ...ฟังมันซิ  มันก็มีเหตุผล    

       

        
      ครั้งที่ 4 เป็นเรื่องของความรีบร้อน อ่านดูดีๆนะครับ ไม่ต้องรีบอ่าน เดี๋ยวจะสับสนเหมือนเรื่องนี้
                     มีผู้ชาย ๓ คน  เขานั่งคุยกันอยู่หัวลำโพง  นั่งคุยกันเพลินไปหน่อยจนรถไฟออกไป  อีกคนหันไปเห็น "เฮ้ย...รถไฟออกแล้ว"  ทั้ง ๓ ก็พากันวิ่งไป  รถไฟก็วิ่งเร็วขึ้น...เร็วขึ้น  ชาย ๓ คนก็วิ่งไปเร็ว ๆ ขึ้นๆ หวังจะตามรถไฟให้ทัน เพื่อจะไม่ตกรถ ชาย ๒ คนวิ่งทันก่อน  ก็กระโดดขึ้นไปบนรถไฟ  อีกคนกระโดขึ้นรถไฟไม่ทัน  เห็นเพื่อน ๒ คนยืนอยู่บนรถไฟก็โบกมือเรียก  พอโบกเสร็จเลยยืนหัวเราะจนตัวงอ  จนผู้คนสงสัย  เดินมาถาม  "พี่ ๆ  ขำอะไรครับ  ขึ้นรถไฟไม่ทันแค่เนี้ยนะ"  ชายคนนั้นเลยบอกไป  "จะไม่ให้ผมขำได้ยังไง  ...ก็เพื่อนผม  ๒ คนนั่นมันมาส่งผม" ...(ฮา)  อ้าว ! แล้วมันจะวิ่งขึ้นไปทำไมว่ะน่ะ ? ...(ฮา)

       


      ครั้ง ที่ 5 ครับ เป็นเรื่องของความรีบร้อนเหมือนกัน แต่เป็นความรับร้อนในการใช้โทรศัพท์ ทุกๆคนก็เหมือนกันนะครับเวลาใช้โทรศัพท์คค่อยๆพูดค่อยๆจากันก็ได้ เดี๋ยวจะคุยกันไม่รู้เรื่อง.........  ไม่ต้องว่าคนอื่นจะแย่งพูดหรอกคัรบ (ฮา) ลองอ่านเรื่องนี้กัน


                 เรื่องความรีบร้อน  ต้องยกให้โรงพยาบาลรามา...วันนั้นผมโทรศัพท์ไป...ไปที่แผนกหู  คอ  จมูก  ปาก  พยาบาลที่รับสายฟังดูท่าทางจะรีบร้อนมาก...พอแกรับสายก็พูดเลย..  "ฮัลโล...แผนกหูคอจมากปูกค่า..."  ...(ฮา) ...ไม่รู้จะรีบร้อนไปไหนของเค้า

                                                                                                                                      
               เรื่อง การใช้โทรศัพท์เนี่ย...คนเราชอบใช้แบบขาดสติ...ไม่ค่อยคิดซะก่อน...อย่าง ที่โรงพยาบาลตำรวจเนี่ย...วันหนึ่งมีคนโดนรถชน...แล้วเสียชีวิต...ตำรวจค้น บัตรประชาชน...เจอ...ชื่อนายสันทัศน์  ผู้เสียชีวิต ชื่อนายสันทัศน์...แล้วก็มีเบอร์โทร...ก็ให้พลตำรวจโทรไปที่บ้าน...ให้มา รับศพนายสันทัศน์ด้วย...เค้าก็โทร.ไปเลย...ไม่ใช่จังหวัดเลยนะ...(ฮา)  โทร.  ไปบ้านนายสันทัศน์...แต่ทางโน้นเค้าไม่อยู่บ้าน...เค้าตั้งโทรศัพท์ไว้แบบอัตโนมัติ...แบบบันทึกข้อความ...พอโทรไป  โทรศัพท์ดัง กริ๊ง! ...ทางโน้น...ทางเครื่องอัตโนมัติทำงาน... "ฮัลโหล...ผมสันทัศน์ครับ...ขณะนี้ผมไม่อยู่บ้าน...ถ้าหากมีธุระอะไร  ให้ฝากข้อความไว้ หลังจากหมดสัญญาณนี้ ตุ๊ด ๆ ..." พอหมดสัญญาน นั่นเอาเลย  "ฮัลโหล...สันทัศน์เรอะ...ฮ่ะ!..คุณตายแล้วน่ะ...(ฮา)...ยังไงก็ให้มารับศพด้วย...ที่โรงบาล ฯ ตำรวจ...แค่นี้น่ะ..."  (ฮา) แหม! มันไม่คิดไม่ควรซะหน่อย..มันสักแต่จะใช้ก็ใช้...ไม่รู้จะรีบร้อนไปไหน 


      ครั้งที่ 6 เป็นเรื่องการโต้วาทีของพ่อและลูกในสมัยก่อนๆที่ยังใช้โทรเลข ขอเงินกัน
                มีพ่อลูกคู่หนึ่ง   โต้วาทีกันทางโทรเลข   มันน่าดู....พ่ออยู่ต่างจังหวัด  ส่งลูกมาเรียน  กทม.  เจ้าลูกชายดันใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนเงินหมดซะก่อน   เลยรีบตะแล้ปแก๊ปถึงพ่อ  " พ่อ...ข้อความเหมือนเดิมเพิ่ม-๑,๐๐๐"....( ฮา )  โอ้โฮ...สำนวนคม....เฉียบ  พ่อก็สวมวิญญาณนักโต้สวนกลับทันควัน   "  ไอ๊ตี๋ลูกรัก...ข้อความไม่ซัดตัด ๕๐๐..." ( ฮา )  อะห๊า...คม...บาดลึก  อย่างนี้เขาเรียกว่าทันกัน

      มีอีกครั้ง  ลูกสุดที่รักเงินหมดอีกก็ส่งโทรเลขไปหาพ่ออีกอีก " พ่อ...เงินไม่มีให้กินขี้หรือยังไง"....( ฮา )  โอ้โฮ...สำนวนคม  ( อีกแล้ว )  พ่อก็โต้ตอบสวนทันทีเหมือนกัน  " ลูก...เงินไม่มีกินขี้ไปก่อนแล้วกัน.......( ฮา ).....นี่.....คม...บาดลึกกว่าเดิม.....บาดไปถึงทวารทั้งเก้าเลย

       

       

      แถมหนึ่งเรื่องครับ แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องโต้วาที


                เมื่อตอนผมเป็นเด็ก  วันนั้นตำรวจจับพวกเล่นไพ่    บางคนวิ่งหนี  บางคนแกล้งทำเป็นคนป่วยนอนสั่น  ตำรวจเห็นคนนอนป่วยอยู่ จึงถามว่า   "ยาย   ยายเป็นอะไรน่ะ"  ยายแกเผลอตอบออกไป " เป็นเจ้ามือค่ะ .."  (อ้าว   ซวย!)...(ฮา)

       

      ครั้ง ที่ 7 ครับ รวมหลายเรื่องเลยที่ เดียว 

       

      1.เรื่อง ของแม่ๆลูกๆ

                                            

             แม่      :  นี่เปี๊ยก  ไปเปิดไฟที่ศาลพระภูมิหน่อยสิลูก  จะค่ำแล้ว

                         เปี๊ยก   :  โธ่แม่  ท่านมีอิทธิฤทธิ์มากมิใช่หรือ  ให้ท่านเปิดเอาเองสักวันเถอะ

                         แม่      :   X นี่  ล้อเล่นกับจงกับเจ้าหรือ  เดี๋ยวท่านก็มาหักคอเอาหรอก

                         เปี๊ยก   :  ไม่มีทางหรอกแม่  กะอีแค่สวิทต์ไฟยังกดไม่ลง  เรื่องอะไรจะมาหักคอผมได้

              แดง     :  แม่ฮะ...ทำไมผมของคุณแม่หงอก

                         แม่      :  ก็เพราะลูกไม่เชื่อฟังแม่นะสิ  ไม่เชื่อฟังครั้งหนึ่งก็หงอกไปเส้นหนึ่ง

      แดง     :  อ้อ ! ผมเข้าใจละ ที่ผมคุณยายหงอกทั้งหัวก็เพราะคุณแม่ไม่เชื่อฟังคุณยาย          นี่เอง  คุณแม่คงซนมากเลยซินะ...(ฮา)

             "แม่ครับ ทำไมรถมันวิ่งได้"

      "มันมีล้อนะลูก"

      "แล้วคนไม่มีล้อทำไมวิ่งได้ครับ"

      ก็..คนมีขานะลูก"

      "แล้วโต๊ะมีขาทำไม่วิ่งไม่ได้ล่ะครับแม่"

      ".............???............."...(ฮา)

       

      2.เรื่อง ของ ไกด์ 

        ฝรั่งเห็นยักษ์ที่วัดโพธิ์  เกิดความสงสัยเลยถามไกด์

                         ฝรั่ง     :  What  is  this ?

                         ไกด์     :  It  is  a  ยักษ์...(ฮา)

                         ฝรั่ง     :  What  is  a  ยักษ์  ?

                         ไกด์     :  ยักษ์  is  a  ทศกัณฑ์...(ฮา)

                         ฝรั่ง     :  What  is  a  ทศกัณฑ์

                         ไกด์     :  ทศกัณฑ์  is  a  ยักษ์ .. X เปรต...(ฮา)

       

      3.เรื่อง กวนๆของหนุ่ม สาว

       

      วันเสาร์ที่ผ่านมา ยืนรอรถเมล์อยู่ตรงแถวสนามหลวง ...มีนักเรียนชายคนหนึ่งไปยืนจ้องหน้าผู้หญิงนักเรียนด้วยกันตาแป๋ว  จ้องอยู่นานจนเธอรำคาญถามมาว่า

                         "นี่มายืนมองอะไร  จะเอาอะไรก็ว่ามา"

                ถ้าเป็นผมโดนถามอย่างนี้  จะตอบไปว่า "มองได้อะไรก็เอาอันนั้นแหละ"...(ฮา)   แต่ นักเรียนชายคนนั้นมันกลับตอบไปว่า  "ยืนมองคนสวยครับ"  เออ...พูดจาเข้าทีแฮะ  เธอเริ่มยิ้มระรื่นจนแก้มแดง  แล้วตัดเพ้อกลับไปว่า

      "ก็เห็นแล้วทำไมไม่ไปเสียทีล่ะ"

      พ่อเจ้าประคุณกลับตอบแบบย้อนศรหน้าตาเฉยว่า

      "ยังไปไม่ได้หรอกครับ...ยังหาความสวยไม่เจอเลย"...(ฮา)      

       

                   
      ครั้งที่ 8 ครั้งสุดท้ายแล้วคับที่เอาลง มีหลายเรื่องเหมือนกันคับ                                 
                    

      1.เรื่อง เพราะพ่อนะ แหละ!!!!!! 
            มีนักเรียนหญิงคนหนึ่ง  แกจบ ม.๑ แต่แกไม่จบ ม.๓ เพราะแกไม่จบ ม. ๒ จะขึ้น ม. ๓ อยู่แล้ว แต่โดนไล่ออก  เพราะแกเป็นโรคเนื้องอก  โรคนี้ตอนแรกๆ  จะไม่รู้ตัวไม่มีอาการ  แต่ช่วงระยะฟักตัว ๒ ๓ อาทิตย์ มันจะค่อยๆ ปรากฏอาการคือ ท้องจะอืดโตขึ้นจนถึง ๙ เดือน  หมอก็จะผ่าออกถ้าไม่ผ่าท้องจะแตก พ่อรู้พ่อก็โกรธเรียกมาถามว่า

                พ่อ :  เอ็งไปท้องกับใครมา

      พ่อทั้งด่า  ทั้งตบ  ตบซ้ายตบขวา  ตบขวาตบซ้าย  (คนโดนตบเจ็บไหม ?)... (เจ็บ!)  แสดงว่า......โดนบ่อย  (ฮา... ปรบมือ)

                ลูก  :  เป็นเพราะพ่อแหละ  บังคับหนูนักบังคับหนูหนา  ไม่ให้ไปกับผู้ชาย ๒ ต่อ ๒ หนูก็ไปกับมันทั้งกลุ่มน่ะซิ...(ฮา)                                                          

      2.เรื่องของความเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา และจิตใจ

                    ว่ามั้ยครับ  ตอนเป็นแฟนกันดูอะไรก็ดีไปหมด  จะสอนอะไรก็ต้องสอนตอนเป็นแฟนกัน  สังเกตดูได้  ถ้ายังไม่มีอะไรกัน  คือผู้ชายยังหวังสิ่งที่ยังไม่ได้อีกเยอะ...ว่ามั้ยครับ...(ฮา)  ยังหวังสอนอย่าคิดมาก...(ฮา)  เช่นสอนขับรถ  เนี่ยอารมณ์ดี

             แฟนผู้ชายสอนแฟนผู้หญิง                                                           
                "อ้าว...เหยียบครัชจ๊ะ...เหยียบครัช"  ...(ฮา)

                "อ้าว...เหยียบเร้ว...เหยียบหน่อย ๆ  เอ้อ...ค่อย ๆ ผ่อนนะจ๊ะ  เร่งนิดหนึ่งเดี๋ยวดับ ๆ  ...มองไปข้างหน้ามั่งเดี๋ยวดับ ๆ  ฃึกๆๆ(รถดับ)  ...อ้าว...ดับแล้วเห็นม๊า.. " (ฮา)

                โอ๊ย...น่ารักกันทุกคนนะ...(ฮา)  ผู้ชายตอนเป็นแฟนว่ามั้ย แถมยังเอาอีก ...

                "มาสตาร์ทใหม่คนเรามันผิดพลาดกันได้"  (ฮา)

                "มาพี่จับให้ " พูดจบ  มันจะข้ามมาฝั่งเราแล้วครับ...แป๊บเดียว...มันมายังไงวะเนี่ย มานั่งฝั่งเดียวกันได้ยังไง (ฮา)

      สอน ขับรถบรรยากาศแบบนี้ไม่เหลือแล้วครับพี่น้องงง จะเหลืออาร้าย..                   
             แต่ถ้ามีลูก ๓ แล้ว  คนจะสอนยังไงครับ..  มาดูกัน

              แฟนผู้ขายสอนเหมือนเดิม                                                                
               "ครัช"   (ทำเสียงแข็ง)  (ฮา..)

      "เหยียบซิเหยียบ (ทำเสียงตะคอก)  ค่อย ๆ ผ่อนเดี๋ยวดับ  ค่อย ๆ ผ่อน  มองไปข้างหน้า...เบา ๆ ...เดี๋ยวดับ  เอ้ย...เดี๋ยวดับ ๆ ๆ.." (ตะโกนสุดเสียง) (ฮา)  ขึงๆๆๆ......ตู๊มมม!!!!!!!!   ถีบกระเด็นออกไปนอกรถ  แค่ออกรถดับหน่อยเดียว...(ฮา) 

       

       

      แถมท้ายด้วยกลอน ตลกๆ นิดๆ ก็แล้วกัน

      กันมีเพื่อนเพื่อนกันไม่กันเพื่อน

      เพื่อนกันเพื่อนเพื่อนกันกันไม่ได้

      เพื่อนกันเพื่อนเพื่อนกันกันทำไม

      โธ่แล้วไย...เพื่อนกันมากันกัน... 

       

      คบคนพาลพาลพาไปหาผิด

      คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล

      คบหมอนวดปวดคลายหายกังวล

      คบผิดคนระวังเด้อน้อง...จะท้องโต

       

      พอหน้าท้องของแม่เริ่มป่องออก

      พ่อก็บอกอยากให้ลูกเป็นด็อกตอร์

      ย่าก็อยากให้หลานเป็นนายอำเภอ

      แต่ต้องเก้อหมอบอกแม่แค่ลงพุง

       

      เขาย่อมเปรียบเทียบความว่ายามรัก

      แม้น้ำผักต้มขมชมว่าหวาน

      ครั้นจืดจางห่างเหินไปเนิ่นนาน

      อกตั้ง ๆ ยังว่ายานไม่เหลียวแล

       

      เรารักเขาข้างเดียวเหมือนเกลียวเชือก

      เขารักเราเผื่อเลือกหารู้ไม่

      เขาไม่รักเราแล้วก็แล้วไป

      ไม่เป็นไรเอ๋ย...กระเทยมี !

       

      ยามบุญมากาไก่กลายเป็นหงส์ 

      ยามบุญหลงหงส์เป็นกาน่าฉงน

      ยามบุญมาหมูหมาก็ว่าคน

      ยามบุญหล่นคนเป็นหมาน่าอัศจรรย์

       

      จากหมาไปสามวันยังถิ่นอื่น

      ย้อนกลับคืนหมายังจำว่าเจ้าของ

      จากนารีวันเดียวไม่เหลียวมอง

      น้ำใจน้องเลวกว่าหมา  อีห่ากิน! ...

       

      ดูกระดานไหนจะสู้ดูครูสาว

      ดูดวงดาวไหนจะสู้ดูตาหวาน

      มองขาครูดีกว่ามองกระดาน

      มองนาน ๆ  กูจะบ้าเพราะขาครู

       

      เกิดเป็นหญิงปากดีราศีช่วย

      ปากสวย ๆ  พูดดี ๆ  ที่สร้างสรรค์

      ปากสวย ๆ  พูดไม่สวยซวยทุกวัน

      ไม่นานวันฟันเลือดกลบถูกตบเอย ฯ 

       

      จบแล้วคร้าบบ  จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ค่อยตลกอะนะครับ  ถ้าไม่ปล่อยใจให้สบายๆ ก็ลองอ่านแบบช้าๆ  แล้วอิน เข้าในเรื่องดูดิครับ มันก็คลายเครียดดีอะนะครับ  ว่าป๊ะ

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×