คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #97 : Tuesday : ผู้บุกรุก
REALITY SEASON 7
ตอน : ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร
“WEEK 6”
“แต่ไม่น่านะ อาทิตย์ถ้าฉันได้เป็นหัวหน้าราชวงศ์ ฉันอาจจะได้ฆ่าเธอ หรือว่าคนที่เกลียดฉัน เหมือนที่ฉันทำกับอายะก็ได้ น่าสนุกดีออก ถ้าวีคนี้เป็นเธอล่ะเยี่ยมมาก หึหึ” เจ้านายพูดราวกับกระซิบ แต่มิ้วเองกลับไม่สนใจหรือไม่ได้โกรธอะไร เพราะคำพูดของเขาก็เหมือนกับอากาศที่ล่องลอยออกไป
“ฉันไม่ชอบคนอวดเก่งและปากมาก ถ้าพูดแล้วทำได้มันก็ได้ แต่ถ้าพูดแล้วทำไม่ได้ ก็หุบปากเถอะนะคะ ... รำคาญ!” เธอมองหน้าของเจ้านายก่อนที่เป่าหมากฝรั่งออกมาเล่นอย่างสบายใจไม่สนว่าเจ้านายจะรู้สึกยังไง
“คอยดูกันไปแล้วกันว่าฉันจะทำได้ไหม?” เขายังไม่เลิกรา
ไม่มีใครสนใจคำพูดของเจ้านาย ทุกคนคิดว่าเขาคิดส่วนเกินที่เข้ามาแทรกแซงชีวิตของพวกเขา เหตุการณ์ภายใน ผู้คนยังคงตั้งแง่กันอย่างดุเดือด แต่ภายนอกกำลังจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ในอีกไม่ช้านี้
พรึ่บ!!
กระแสไฟฟ้าที่จ่ายเข้ามาปราสาทแห่งปักษาธรเกิดดับลงเอาดื้อ ๆ เล่นเอาพวกเขาตกใจอยู่ไม่ใช่น้อย การปะทะฝีปากของทั้งคู่นั้นจบลงด้วยเหตุการณ์?เข้ามาคั่นพอดี
“What’s happen!” มาริสซ่าลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ปราสาทที่มืดสนิทเมื่อไม่มีแสงแดด
ถึงเม้ว่าจะเป็นเวลาในตอนเช้า หากแต่ว่าในปราสาทนี้กลับเงียบสงัดและวังเวงเหมือนกับว่าไม่มีคนอยู่ยังไงยังงั้น เฟอร์นิเจอร์และห้องทุกอย่างถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิดเมื่อไม่มีแสงสว่าง
“ไฟดับหรือยังไงนะ?” มิ้วเปรยเบา ๆ
“มันคงต้องเป็นอย่างอยู่แล้ว ... เห็นๆกันอยู่” เจ้านายไม่วายหันมามองหน้าของหญิงสาว ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในใบหน้าของหล่อน
อลิซเองไม่ได้พูดอะไร เธอเดินตรงไปยังประตูเพื่อเปิดรับแสงให้โผล่เข้ามาเพื่อเร่งความสว่างไสวในปราสาท ทันทีที่มาถึงจุดหมาย สองมือของเธอออกแรงดันประตูเบา ๆ เพื่อให้มันเปิดออก หากแต่ว่าประตูกลับติดอะไรบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถเปิดมันออกไปจากพันธนาการของมันได้เลย
“มีอะไรเหรอครับ?” วัชรเดินเข้ามา
“มีคนขัดประตูเอาไว้ ...” อลิซหันหน้ามามองทุกคนก่อนที่จะเดินไปทางหน้าต่างและเปิดมันออกจนสุดแรง เม็ดฝนสาดกระเด็นเข้ามาทางหน้าต่างตรงจุดที่วัชรชอบนั่งพอดิบพอดี ด้านนอกนั้นเธอไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ชัดเจนนักเพราะกระแสฝนนั้นตกลงมาแรงมากพอที่จะทำให้มองไม่เห็นวิสัยทัศน์ด้านนอก
“ฉันจะออกไปดูว่าข้างนอกมันมีอะไรกันแน่ ....” ดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มผิดสังเกตกับอะไรที่อยู่รอบ ๆ ตัว
“ฉันว่าหน้าที่นี้หน้าจะเป็นของหัวหน้าราชวงศ์เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยนะ ... ” มาริสซ่าเสนอความคิดก่อนที่หันมามองหน้าของเจ้านาย
อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้ชาย น่าจะแสดงตัวเป็นผู้นำมากกว่านี้!
“หรือไม่ก็ไปด้วยกัน!” มิ้วเสริม
“อย่าเลย ... เกะกะ!” อลิซพูดก่อนที่จะยิ้มมุมปากและกระโจนออกไปนอกปราสาทจากทางหน้าต่างบานนั้น
ซ่า!!
สายฝนโหมกระหน่ำอยู่ด้านนอกจนเนื้อตัวของหญิงสาวเปียกปอนไปด้วยคราบน้ำฝน เพราะความอยากรู้ทำให้เธอไม่ได้เอาอะไรมาเลยแม้แต่ร่มที่เอามาบังเนื้อตัวของเธอเอง สองเท้าย่ำไปตามทางเพื่อตรงมายังหน้าประตู สายตาทั้งสองจ้องมองสิ่งที่ทำให้ประตูไม่สามารถหลุดออกมาจากพันธนาการได้
มีร่มขัดกันอยู่!
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?” เธอพูดก่อนที่จะกระชากด้ามร่มออกไปจากประตูและเปิดมันออก สายตาของเพื่อน ๆ จ้องมองร่างของอลิซที่โชกชุ่มไปด้วยคราบของสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมาทำให้เนื้อตัวเปียกปอน ทุกคนรอคอยคำตอบที่อลิซออกไปค้นหา
เธอไม่ได้พูดอะไรนอกจากยกร่มขึ้นมาเหนือหัว ทุกคนได้แต่มองหน้ากันไปมา ไม่รู้ว่าใครนำร่มมาขัดกันกับประตูเพื่อจงใจแกล้งพวกเขากันแน่ มิ้วเริ่มคิดตามแบบฉบับของเธอ มีคนเอาร่มมาขัดกันไว้ ฝนตกกระหน่ำจนทำให้ไฟฟ้าในบ้านขัดข้อง การที่ไฟดับไปทั่วปราสาทแบบนี้ต้องไม่ใช่ฝีมือของธรรมชาติที่เป็นคนทำ
หากแต่ว่าอาจจะมีใครจงใจจะทำอะไรบ้างอย่างหรือไม่ก็เป็นภารกิจของอัครา ...
“ฉันชักจะเริ่มงง ... ใครเป็นใครทำเรื่องแบบนี้ .... ” มาริสซ่าพยายามหาคำตอบหากแต่ว่าเธอไม่สามารถคิดออกเลย ในตอนนั้นสายตาของเธอมองฝ่าสายฝนออกไปจนเห็นร่างร่างหนึ่งที่นอนแน่นิ่งอยู่ อลิซเองก็คงไม่ทันสังเกตเห็นเพราะฝนนั้นตกหนักมาก หากแต่ว่าร่างนั้นกลับดูไกลจนไม่รู้ว่าเป็นร่างของคนหรืออะไรกันแน่
“ตัวอะไรน่ะ!” เธอชี้ไม้ชี้มือออกไปข้างนอก อลิซหันไปตามทิศทางของนิ้วเรียวยาวนั้นจนกระทั่งไปสะดุดกับร่างที่อยู่ด้านหลังของเธอ
เธอทิ้งร่มก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปดู ทุกอย่างมันจะต้องเชื่อมโยงกันอย่างที่พวกเขาคิดเอาไว้แน่ ร่างบางนั้นวิ่งเข้าไปหาวัตถุประหลาดนั้น ด้วยความอยากรู้ของมาริสซ่า เธอคว้าร่มกางออกและวิ่งตามหญิงสาวไปติด ๆ เมื่อถึงวัตถุประหลาดนั้น เธอถึงกับป้องปากอย่างไม่ทันตั้งตัวทันทีที่เห็นสิ่งนั้น
“มันเกิดเรื่องนี้ได้ยังไงกัน!” หล่อนเริ่มจับต้นชนปลายไม่ถูก เธอหยิบแว่นขึ้นมาไว้แนบอก สายตาไม่ห่าง อลิซค่อย ๆ พยุงร่างของอัคราขึ้นมา เธอช่วยประคองอีกแรงจนมาถึงหน้าประตูโถง
“อัครา .. อัครา!” มิ้วพยายามตบหน้าของชายหนุ่มเบา ๆ เพื่อเรียกสติให้คืนมา ส่วนเจ้านายก็ฉีกแขนเสื้อออกมาเช็ดเลือดที่ไหลออกจากจมูกของเขา ดูจากเลือดแล้วมันยังไม่แข็งตัวดี
แสดงว่าเพิ่งจะโดนเล่นงานมาเมื่อกี้ ...!
ไม่นานนัก เปลือกตาของอัคราเริ่มเปิดขึ้นอย่างช้า ๆ นัยน์ตามองทั้งห้าคนที่อยู่ตรงหน้า วัขรค่อย ๆ ประคองช่วงบนของอัคราให้ลุกขึ้น ส่วนมาริสซ่าก็ส่งแว่นคืนไป เขารับมันมาก่อนที่จะสะบัดหัวและใส่แว่นเข้าไปอย่างช้า ๆ
“อัครา ....” วัชรเรียกให้เขาได้สติอย่างรวดเร็ว
“ผมมาอยู่ในปราสาทนี่ได้ยังไงกัน ก็เมื่อกี้ผมยังอยู่ข้างนอก ....” เขาเหมือนจะจำอะไรที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ไมได้เลยสักอย่าง คิ้วของเขาเริ่มขมวดเข้าหากันเพื่อพยายามคิดว่าเมื่อเวลาที่ผ่านมาไม่กี่นาทีนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง
“ค่อย ๆ นึก ... เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่นายกำลังมาที่นี่?” อลิซพยายามช่วยให้เขาพอจะนึกภาพอะไรออกได้บ้าง
เขาพยายามประมวลภาพที่เกิดขึ้นระหว่างที่เขากำลังจะเอาภารกิจมาให้กับห้าคนที่ยังเหลืออยู่ในปราสาทปักษาธร ตอนนั้นฝนยังคงตกมากเหมือนเช่นตอนนี้ เขากางร่มมาตามทาง ...จนกระทั่ง
จนกระทั่ง ...
“ผมนึกออกแล้ว!”
“เกิดอะไรขึ้นกับนาย .... ” เจ้านายพยายามคะยั้นคะยอหาคำตอบที่เขาและคนอื่น ๆ เองก็อยากรู้
“มีคนเข้ามาในปราสาท .... ทำร้ายผม! ผมจำได้แค่นั้น” นั่นคือประโยคที่ทำให้ทั้งหมดมองหน้ากัน มิ้วและวะชรพยายามประติดประต่อเรื่องราวเข้าด้วยกันอีกครั้ง
มีคนนอกบุกรุกเข้ามา!
ความคิดเห็น